2
0
0
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม
ข้อมูลเพิ่มเติม
จากถนนลาดหญ้า ให้ตรงผ่านวงเวียนใหญ่มาจะเจอห้างโรบินสัน ลาดหญ้า อยู่ทางด้านซ้ายมือ แล้วให้ตรงมาจนสุดถนน ก่อนถึงแยกที่จะไปคลองสาน จะเห็นร้านสุกี้เอี่ยวไถ่ อยู่ทางด้านซ้ายมือ
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
11:00 - 22:00
วิธีจ่ายเงิน
วีซ่า เงินสด
จำนวนที่นั่ง
100
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ค่าเปิดขวด
ใบกำกับภาษี
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
ก๋วยเตี๋ยวหลอดปู สุกี้สูตรโบราณ หมูหันฮ่องเต้ หัวปลาหม้อไฟ
รีวิว (2)
ใครเคยกินร้านอาหารจีน เชื่อว่าถ้าเปิดเมนูจะได้เจอพระกระโดดกำแพง และเคยแปลกใจมั้ยว่าเมนูจานนี้ทำมาจากอะไร เรามีโอกาสกินอาหารจีนมาก็หลายครั้ง แต่ขอบอกว่าเมนูนี้พึ่งได้เคยกินครั้งแรก วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ครบรอบแซยิดน้าชาย เขาเลยจองห้องอาหารเอี่ยวไถ่ตั้งอยู่บนนถนนลาดหญ้า ถ้ามาทางคลองสานจะใกล้มาก เพราะจะอยู่ต้นถนนลาดหญ้าด้านขวาของถนน บรรยากาศในร้านจะมีโต๊ะจำนวนไม่มาก ถ้าเป็นเทศกาลควรโทรจองการบริการเป็นแบบกันเอง เจ้าของร้านจะมารับออเดอร์ด้วยตัวเขาเองเลยทำให้ได้บรรยากาศของการมากินแบบครอบครัวได้อย่างดี การตกแต่งร้านยังเป็นร้านอาหารแบบสมัยก่อนกำแพงปูด้วยกระเบื้องสีขาว มีรูปใส่กรอบไฟ ซึ่งเป็นลักษณะของการแต่งร้านแบบโบราณหากใครจะสั่งพระกระโดดกำแพงทางร้านจะไม่มีให้เลย ต้องโทรมาสั่งไว้ก่อน เนื่องจากเป็นเมนูพิถีพิถันต้องเคี่ยวสมุนไพรและยาจีนติดต่อกันหลายคืนเลยทีเดียว ทางร้านจะยกหม้อใบใหญ่ที่ตุ๋นสมุนไพรต่างๆออกมา และค่อยๆตักแต่น้ำซุปใส่ชามทีละชาม เสิร์ฟลงตรงหน้าทีละคน เราลองใช้ช้อนคนๆน้ำซุปที่ได้มีความข้นเหนียวในตัว มีกลิ่นหอมเหมือนโสม และเก๋ากี้ รสชาติหวานแอบขมปลายลิ้นควานไปควานมาเจอเนื้อกระเพาะปลา และ ชิ้นเล็กๆของปลิง ได้ความกรุบกรอบเสริมรสชาติทำให้ดียิ่งขึ้นซดเข้าไปคำแรกรู้สึกร้อนวูบลงไปจากลำคอถึงท้องเลยทีเดียว นี่ละน๊าของดีก็ต้องแพง งานนี้มีสปอนเซอร์จ่ายเห็นว่าหม้อนึงราคาหลายพัน เราเลยต้องเทน้ำซดน้ำซุปให้หมดไม่เหลือซักหยดเลยทีเดียว อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ระดับ4 2013-01-11
423 วิว
เท่าที่จำความได้ สมัยเด็กเวลาทานอาหารจีนก็ต้องไปเอี่ยวไถ่ ช่วงนั้นเป็นลูกค้าสาขาปิ่นเกล้า จะไปทานกับญาติๆบ่อยมาก พอโตขึ้นรู้ว่ามีสาขาสองใกล้บ้านแถวลาดหญ้า ทำให้ต้องกลับไปเป็นลูกค้าประจำอีกครั้งตอนโต ร้านสาขาสองนี้ เป็นห้องกระจกคล้ายร้านสาขาแรก แต่อาจจะแตกต่างตรงที่มีความครึกครื้นน้อยกว่า ถ้ามาทางโรบินสันลาดหญ้า ให้ตรงมาเรื่อยๆ ร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมืออยู่ติดถนนใหญ่ ป้ายหน้าร้านสีแดงเด่นเป็นสง่า หาเจอไม่ยาก ภายในร้านตกแต่งง่ายๆด้วยเมนูแนะนำติดที่ข้างกำแพง และในร้านมีเพียงโต๊ะกลมแบบหมุน หรือโต๊ะนั่งทานประเภท 4-6 คน ให้ลูกค้าเลือกนั่งลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มาสังสรรค์เป็นกลุ่ม ก็จะมาแบบทานข้าวกับครอบครัว ใครๆว่ามาที่นี่ต้องทานอาหารแนะนำของร้าน เช่น สุกี้โบราณ แต่มาคราวนี้ ขอเลือกจัดเมนูอลังการซักนิดนึง เพราะผู้ใหญ่มาทานกันเยอะ เลยจัดไป หมูฮันฮ่องเต้ ปูทะเลผัดพริกไทยดำ และพระกระโดดกำแพง แค่สามเมนูนี้ก็เฉียดไปหลายพันแล้ว ตามสไตล์ร้านอาหารจีน น้องพนักงานจะจัดแจงมาถามน้ำว่าต้องการดื่มน้ำอะไร เลยจัดไปเก๊กฮวยผสมชาแบบเย็น จะช่วยคลายความเลี่ยนของอาหารจีนได้เป็นอย่างดี ทางร้านมีบริการผักกาดดองเป็นเครื่องเคียงให้กับลูกค้าด้วย ผักกาดดองรสชาติไม่หวานจัด เน้นเปรี้ยวเค็มเผ็ด ทานเล่นไปพลางๆก่อนอาหารจานหลักจะมา อาหารเริ่มทยอยมาเรื่อยๆไม่ขาดสาย เพราะอาจจะเป็นว่าวันที่มาทานลูกค้ายังไม่เยอะมาก อาหารเลยได้เร็วมาถึงจานที่จะรีวิวจานแรกคือ หมูฮันฮ่องเต้ ขนาดลูกหมูน่าจะวัดได้ความยาวหนึ่งไม้บรรทัด หนังติดเนื้อถูกหั่นแล่มาเป็นชิ้น หนังบางกรอบกินได้ทุกส่วนทั้งตัว แม้แต่หาง(ถ้าใครกล้าทาน) หมูฮันที่นี่ต่างจากตรงร้านอื่น ที่สูตนหมักหนังหมูจะได้รสชาติถึงซีอิ๊วดำแล้วหอมพริกไทยนิดๆ อร่อยจนหยุดไม่อยู่แทบจะแย่งทานหัวหมูกันเลย พอหนังกรอบๆหมดแล้ว สามารถนำโครงหมูส่วนที่เหลือไปทำเมนูอื่นต่อได้ เช่นผัดพริกไทยดำเป็นต้นจานต่อมาปูผัดพริกไทยดำ ปูทะเลตัวใหญ่หนึ่งตัวกับผักสมุนไพรนานาชนิด ทั้งต้นหอม หอมใหญ่ พริกชี้ฟ้า และผักอื่นๆที่ฉ่าลงบนกระทะไฟแรง ได้กลิ่นความหอมของเครื่องสมุนไพรมาแต่ไกล ทางร้านได้ทุบกล้ามเพื่อให้ลูกค้าทานสะดวก แต่เพื่อเพิ่มบรรยากาศ งานนี้คงต้องใช้มือแกะ เรื่องความสดคงไม่ต้องพูดถึง เนื้อปูจากกล้ามดุ้นใหญ่ๆ เนื้อหวานมาก แกะเนื้อออกมาแล้วทานเคล้ากับผักที่ผัดพริกไทยดำคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แทบจะขึ้นสวรรค์กันเลยมาถึงอาหารไฮไลท์ของทางร้านค่ะ พระกระโดดกำแพง เคยได้ยินมานาน พึ่งได้เห็นตัวเป็นๆก็วันนี้ค่ะ ตอนแรกพนักงานร้าน จะตักให้แต่ซุปถ้วยเล็กๆก่อน เราจะไม่เห็นค่ะว่าซุปนั้นมาจากอะไร คำแรกที่ตักทาน รู้แต่ว่าได้กลิ่นหอมสมุนไพรจีน ไก่ดำ รสชาติหวานๆแอบขมตอนท้าย ทางร้านบอกว่าลูกค้าท่านใดที่จะทานเมนูนี้ต้องโทรบอกทางร้านล่วงหน้าเพราะต้องใช้ระยะเวลาตุ๋นข้ามคืนกันเลยค่ะ ไม่ใช่นึกปุ๊บปั๊บจะสั่งทานได้เลย และที่สำคัญตอนยกเสิร์ฟมาร้อนๆต้องทานทันทีค่ะ จะได้ไม่เสียคุณค่าอาหาร ซึ่งหม้อหนึ่งหลักหลายพันค่ะ เพราะตักออกมาได้หลายถ้วยด้วยความสงสัยเลยเดินไปดูที่หม้อตุ๋นใบใหญ่ค่ะ ว่าในนั้นมีอะไรบ้าง จากที่ส่องมาจะเห็นว่า มี เม็ดเก๋ากี้ เห็ดหอม กังป๋วย กระเพาะปลาสด ปลิงทะเล ไก่ดำ และสมุนไพรยาจีนอีกหลายชนิด ซึ่งมีทั้งไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยค่ะ ทั้งหมดนี้ตุ๋นรวมกันข้ามคืนจนออกมาเป็นน้ำซุปที่เข้มข้น ช่วยบำรุงร่างกายค่ะ หม้อนี้แพงตรงที่ต้องใช้ระยะเวลาตุ๋นนานและความใส่ใจของพ่อครัวด้วยค่ะ ต้องยืนเคี่ยวไปด้วยเป็นเวลากว่าหลายชั่วโมงหลังจากได้ดื่มซุปชุ่มคอแล้ว ทางร้านใจดีมีบริการผลไม้ฟรีให้ลูกค้าปิดท้ายของมื้อด้วยค่ะ เป็นส้มแกะเปลือกและผลเชอรี่เม็ดโต๊โต ส้มหวานถูกใจมากค่ะ และ ผลเชอรี่หวานมากแทบไม่เปรี้ยวเลย ถึงเวลาคิดค่าเสียหายแล้วค่ะ นอกจากมนูที่กล่าวมา ยังมีอาหารอีก 6-7 จาน ซึ่งถ่ายรูปไม่ทัน เด็กๆแย่งจิ้มแย่งทานกันไวมากค่าเสียหายจึงตกอยู่ที่ 9,530 บาท หลังหักส่วนลดแล้วค่ะ ราคานี้ก็แพงเอาเรื่องอยู่นะคะ แต่ถ้าอาหารมีคุณภาพทั้งสดและสะอาด คงต้องยอมจ่ายราคานี้ล่ะ แล้วพี่เจ้าของร้านก็ใจดีแถมเชอรี่จานโตให้ขนาดนั้น คงได้กลับไปเป็นลุกค้าประจำถาวรอีกแน่นอนค่า อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)