1
0
0
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม
ข้อมูลเพิ่มเติม
@Bliss Comtemporary Cuisine
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
11:30 - 14:30
18:00 - 23:00
วิธีจ่ายเงิน
วีซ่า มาสเตอร์ อเมริกันเอ๊กเพรส เงินสด
จำนวนที่นั่ง
30
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
รับบัตรเครดิต
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ห้อง VIP
ค่าเปิดขวด
สำรองโต๊ะ
ใบกำกับภาษี
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
Linguini River Prawn Mille Feuille Rack of Lamb Salmon Salad Seafood Soup
รีวิว (1)
อยู่ ๆ นึกอยากโทรหาเพื่อน เม้าท์นั่นนี่กันอย่างเมามัน แล้วเพื่อนก็บอกว่าอยากชวนไปกินอาหารอิตาเลียน เพราะเคยไปกินแล้วอร่อยมาก โดยเฉพาะของหวาน เราก็ใจง่าย ตอบตกลงทันทีบอกว่าจะแต่งตัวออกจากบ้านเลย นัดกันที่โลตัสอ่อนนุช ไปถึงประมาณห้าโมงครึ่ง รถเยอะพอประมาณ ร้านชื่อ Bliss Contemporary Cuisine ตึก El Patio สุขุมวิท 31 แต่ว่าเข้าได้หลายทางนะคะ ทั้งจากเพชรบุรี, สุขุมวิท 31, 39 และ 23ตอนไปค่อนข้างสับสนเพราะงง ๆ กับเส้นทาง วนกันอยู่สองสามรอบกว่าจะเจอร้าน ตอนแรกจะถอดใจแล้ว แต่พอได้กินแล้วคิดว่าเสียดายแย่ถ้าไม่ได้มา เพราะอาหารอร่อยจริง ๆ ค่ะ โดยเฉพาะของหวาน พลาดไม่ได้อย่างยิ่ง พอนั่งโต๊ะก็มีขนมปังมาเสริ์ฟ ขนมปังอุ่น ๆ กับ เนยมีสองแบบ มีเนยสด แล้วก็ โหระพา ในถ้วยนั้นเป็นซัลซ่า รสดีมากค่ะ ขนมปังก็หอมนุ่ม อร่อย โดยเฉพาะโฮลวีท มีออเดิร์ฟให้ด้วยเป็นเหมือนอะไรซักอย่างทอดอาหารที่สั่งไป มีดังนี้- Nicoise Salad มีผัก, ไข่ต้ม, พริกหยวกย่าง, มะกอก, ทูน่า น้ำสลัดบัลซามิก- Lobster Bisque Soup- Penne Salmon เป็น pink sauce ออกครีม ๆ- คาโบนาลาแล้วคุณเพื่อนก็สั่งของหวานเลย เราก็เอ๊ะมันจะรีบสั่งทำไม แต่เพื่อนบอกว่าไม่อยากพลาด เดี๋ยวมาติดตามกันว่าของหวานเป็นอะไร จานแรก สลัด nicoise รสชาติดีมากค่ะ ไม่เปรี้ยวเกินไป กลมกล่อม ซุปลอบส์เตอร์ ขมนิด ๆ แต่หอม กำลังดีไม่เลี่ยน ซุปเค้าจะมีซุปเห็ดทรัฟเฟิล, ซีฟู้ด, ฟักทอง และ ลอบส์เตอร์เกลี้ยงอาหารจะมาเสริ์ฟทีละจาน หมดแล้วก็เคลียร์แล้วค่อยวางจานใหม่ ถัดมาเป็น Penne Salmon อร่อยอีกแล้ว รสชาติอาหารร้านนี้จะพอดี ๆ ค่ะ ไม่เค็ม แต่เข้มข้นนะ ซาลมอนไม่คาว อันนี้จานเด็ก คาโบนาร่า เส้นหนึบกำลังดี ความอร่อยไม่ต้องพูดถึง จากนั้นก็คิวของหวาน ช้านิดนึง เพราะมีโต๊ะใหญ่ ที่มากันหลายคน อาหารก็เลยออกช้าไปหน่อย ตอนของหวานมาเราก็เห็นเชฟเดินออกมาแล้วก็ถือแก้วไวน์ที่มีเหล้าสีขาว ๆ อยู่ก้นถ้วย เราก็นึกว่าเชฟคงดื่มไวน์อยู่แล้วเดินคุยกับแขกมั๊ง แล้วก็เห็นหมุนแก้วไปมา ยืนคุยกับเพื่อนเรา ไม่ได้ไปโต๊ะอื่น แต่เราไม่ได้คุยเพราะพอดีโทรศัพท์เข้า แม่โทรมา จากนั้นเราก็เห็นเชฟจุดไฟที่แก้วแล้วราดลงบนขนม เราก็เลยบอกแม่ว่า "มี๊ ๆ ๆ แค่นี้ก่อนะ เดี๋ยวค่อยคุย!" แล้วก็รีบถ่ายรูปโดยพลัน พอไฟดับ ก็ราดด้วยซอส เราก็ได้แต่มองด้วยความตะลึง ว่านี่คืออะไรขนมอะไร ห๊าๆๆด้านบนขนมเป็นชอกโกแลต ด้านล่างเป็นไวท์ชอก เมื่อเปิดชอกโกแลตออก มีไอสคีรมวนิลาอยู่ด้านใน รอบ ๆ จานอุดมไปด้วยซอสสีแดง เป็นซอสเบอร์รี่ และ มีบรรดาเบอร์รี่ อยู่เยอะแยะเลยมารู้ทีหลังว่าชื่อขนมคือ W.B.C. signature dessert, chef surprise เชฟต้องมาจุดไฟ และ ราดซอสให้ทุกจานลองชิมแล้วแทบจะกรี๊ด มองตากัน ตาเราทั้งสองคนหยีกันสุด ๆ ด้วยความอร่อย กินไปก็พูดอยู่คำเดียวเลยค่ะว่าอร่อย โอ๊ย อร่อย จะบรรยายยังไงดีเนี่ย โอ๊ย อร่อย อยู่แค่นี้แหละค่ะ เพราะว่ารสชาติมันเข้ากันหมด ไอสครีมไม่หวานเกินไป หอมมัน ซอสก็ไม่เปรี้ยวจัด เบอร์รี่สด ๆ เหล้าที่ราดลงไป ก็ไม่ฉุนจนขึ้นจมูก มันกลมกลืนกันเหลือเกิน กินแล้วต้องทำท่ายกสองมือขึ้น เลียนแบบ อ.เฉลิมชัย แล้วร้องว่า "มันเยี่ยมจริง ๆ"กินไปกินมาไอติมจะหมด แต่ซอสยังเหลือ เลยขอไอติมเพิ่มอีกลูก กินเกลี้ยงตามเคย ถ้ายังไม่เก็บขนมปังไป อาจเอามาปาดซอสจนเกลี้ยงได้ แล้วเชฟก็เดินมาคุยอีกครั้ง เราก็บอกว่าอาหารอร่อยม๊าก แล้วก็เลยขอเชฟถ่ายรูปด้วยเลย ที่เห็นบนกำแพงนั้นเป็นสารใบประกาศ ที่เชฟได้มา ยังมีด้านซ้ายและขวาอีกนะคะ แต่ดันลืมถามชื่อเชฟมา ในพันทิปว่าชื่อเชฟเปี๊ยกมื้อนี้ประทับใจค่ะ แต่สองคนหมดไป 1,800 กว่าบาท ต้องเลียแผลกันอีกนาน อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)