หลังจากลงมืออ่านหนังสือขอคลาสเครียดด้วยการกินดีกว่าครับ วันนี้เกิดอยากกินอาหารจีนขึ้นมาดื้อๆ ก็เลยลองไปส่องใน Uber Eats แล้วก็เลื่อนมาเจอหมีซั่วครับ เท่านั้นแหละกดสั่งแบบไม่ต้องคิดเลยครับ แอบเห็นว่าราคาค่อนข้างแรง ก็เลยมีการแอบมาอ่านรีวิวนิดนึง.. หลังจากที่กดสั่งไปแล้ว 5555
เห็นว่าร้านนี้มีชื่อเสียงอยู่ไม่เบาก็เลยหายห่วงไปได้นิดนึง ระหว่างรอก็นั่งอ่านหนังสือกันต่อไป พอรอไปประมาณครึ่งชั่วโมงอาหารก็มาสั่งครับ พี่ขนขับนี่หอบมาซะเต็มเลย ผมก็ลงไปรับแล้วก็แกะของดูตามปกติ โอ้ว..รู้แล้วทำไมกล่องละร้อย พี่ครับวันนี้ผคงไม่ต้องหาอะไรกินอีกแล้วแหละครับ
ข้าวผัดปู (฿100.-)
เปิดมากล่องแรกก็ช็อคไปเลยปริมาณข้าวผัดที่ให้มาคือแบบ ตัวข้าวเยอะจนชนกับฝาพลาสติกของกล่องเลย แถมมีมะนาวกับตะไคร้..... วันหลังเอามาชิ้นเล็กๆก็ได้ครับ แยกถุงใส่มาให้ด้วย แต่อะไรรู้ไหมครับ พี่แกไม่ได้ให้ช้อนมาจ้า 55555 ลำบากพวกผมวิ่งไปสหกรณ์อีก
ผัดหมี่ซั่ว (฿100.-)
ต่อกันด้วยถ้วยที่สองเปิดมาก็เจอกับเส้นหมี่ซั่วที่นอนอยู่เต็มกล่อง ลองชิมเข้าไปแล้วเส้นก็เหนียวนุ่มดี รสชาติอร่อยลงตัวเลย สำหรับผมส่วนตัวไม่ได้ปรุงอะไรเพิ่มครับ แต่คนที่ทานรสจัดอาจจะต้องปรุงเพิ่มก็ได้
กระเพาะปลา (฿100.-)
เป็นอะไรที่ผมคิดหนักมากว่าจะทานยังไง พี่แกใส่ถุงมาให้แต่ไม่มีถ้วยครับ!! แก้ไม่ยากครับพยามกินข้าวผัดเข้าไปให้หมด แล้วก็ไปเอาถ้วยข้าวผัดมาใส่แทน รสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ ถือว่าค่อนข้างเข้มข้นเลยทีเดียว
ร้านนี้อาหารค่อนข้างอร่อย และ ปรืมาณก็คุ้มกับราคานะครับ แต่เสียเรื่องที่ว่าอุปกรณ์ที่ให้มานั้นไม่ครบ ทำให้บางอย่างพวกผมต้องออกไปหาเอง อย่างพวกช้อนพวกถ้วย ถ้าทำให้มาแบบพร้อมทานได้เลยก็จะดีมาก เพราะลูกค้าบางคนก็ไม่ได้สั่งกลับไปทานที่ห้อง ที่มีเครื่องครัวพร้อมใช้นะครับ ฝากตรงนี้ไว้นิดนึง

เข้าสู่ช่วงสอบกลางภาคอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งผมก็เลยออกไปไหนไกลไม่ได้ ขอบคุณ Uber Eats ที่ออกโปรส่งฟรีมาได้จังหวะพอดี เริ่มต้นร้านแรกกับข้าวต้มแปลงนาม เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่เปิดให้บริการตอนเกือบเที่ยงคืน
โดยผมก็สั่งไปสองรายการผ่านแอพ ทางแอพแจ้งว่ารอประมาณ 20 นาที ซึ่งก็สะดวกดีครับพอสั่งเสร็จก็ไปนั่งทำงานต่อ รอจนพี่คนขับเอามาให้ถึงห้องแล้วค่อยลงไปรับ ประหยัดเวลาผมไปได้มากเลย สองอย่างที่สั่งมาก็คือ


หมูกรอบ (฿90.-)
สั่งไปสองกล่องเลยครับกลัวไม่อิ่ม เห็นแบบนี้ทุกคนอาจจะคิดว่ามีปาร์ตี้แต่เปล่านะครับผมแค่หิว มาสองกล่องไม่เหมือนกันเลย กล่องนึงมันเยอะและนุ่มกรอบดี อีกกล่องไม่มีมันและค่อนข้างแข็งกระด้าง แต่โดยรวมก็โอเคครับ
ข้าวสวย (฿10.-)
ตัวข้าวก็หอมนุ่มดีครับมาส่งนี่ยังร้อนๆอยู่เลย จัดไปเบาๆตามรูปเลยครับอิ่มแน่นอนคืนนี้ แต่ถ้าเอาไปแช่แล้วเอามาเวฟเมื่อไหร่นี่จะแข็งแห้งเลย
การบริการของทางร้านรับออเดร์และทำให้ไวมาก ใช้เวลาไม่นานเลยหลังจากสั่งไป คนขับก็ไปรับมาส่งแบบไม่มีปัญหาใดๆ มีช้อนส้อมพลาสติดแถมมาให้เรียบร้อย รับของปุ๊บก็ตัดบัตรกันไป ถูกใจคนที่เป็น Cashless Society แบบผมจริงๆ

ร้านนี้ตอนแรกรุ่นพี่ลากมาทานครับ เลยเดินมาแบบงงๆ แล้วก็สั่งไปแบบงงๆ สำหรับพิกัดอันนี้ไม่งงนะครับ อยู่ในซอยสุกร 1 เข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร จะอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามกับร้านข้าวหมูแดงสีมรกต หาไม่ยากเท่าไหร่ครับ
บรรยกาศในร้านก็ตกแต่งแนว Industrial Loft ซึ่งต้องบอกก่อนว่าผมชอบแนวนี้มาก เลยอาจจะถูกใจเป็นพิเศษ โต๊ะในร้านก็มีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ครับ น่าจะประมาณ 7 โต๊ะได้ เพราะแค่ส่วนครัวก็เล่นกินพื้นที่ไปเกือบ 25% ของร้านแล้ว ในร้านก็สะอาดดีครับ ใช้แสงไฟสีส้มนวลๆให้ความรู้สึกอบอุ่น อากาศก็ถ่ายเทดีไม่ร้อนอบอ้าวมากนัก
จะเรียกได้ว่าไม่รู้จะสั่งอะไรก็ว่าได้ครับ 5555 เพราะทุกเมนูที่ผมอ่านจะมีคำว่า "ต้มยำ" ไม่ก็ "ป่า" ซึ่งผมเป็นคนทานเผ็ดไม่ได้ครับ โอย.. เหมือนโดนรุ่นพี่แกล้งอ่ะ แต่เอาก็เอามาถึงแล้วต้องชิม เลยจัดมาตามข้างล่างนี้ครับ
เกี๊ยวลวกต้มยำ (฿40.-)
สารภาพตามตรงครับว่าไม่ได้ลองเมนูนี้ แค่เห็นหน้าตาตอนเค้ามาเสิร์ฟผมก็ไม่กล้าแล้ว พริกเยอะซะขนาดนั้น ทานเข้าไปผมว่าคงมีเข้าห้องน้ำชัวร์
เกี๊ยวทอดต้มยำแห้งเพิ่มไข่ (฿50.-)
อันนี้ก็หนักใจไม่แพ้เมนูข้างบนเลย ที่ให้มาก็จะมีเกี๊ยวทอดกับพวกเครื่องใน ในชามนี้เกี๊ยวอร่อยสุดแล้วครับ 555555 ส่วนไข่ต้มที่ให้มาจะเป็นยางมะตูม ใครที่ชอบแบบนี้น่าจะถูกใจครับ
ก๋วยเตี๋ยวป่าต้มยำ (฿40.-)
อันนี้สีดูเป็นมิตรที่สุดแล้วครับ เท่าที่มองจากตาเปล่าไม่มีพริก แต่พอชิมเข้าไปนี่อื้อหือรู้เรื่อง เพื่อนบอกว่าอร่อยแซ่บเด็ด ส่วนผมบอกคำเดียวครับเผ็ด!! แต่จะว่าไปรสชาติเค้าก็ใช้ได้นะ
เกี๊ยวอวบลวก (฿40.-)
ส่วนตัวผมชอบอันนี้สุดละครับ ตัวแผ่นเกี๊ยวเหนียวนุ่มในระดับนึง ส่วนไส้ก็ยัดมาให้แน่นดีครับ เรียกได้ว่าชอบกว่าก๋วยเตี๋ยวอีกอ่ะ

เกี๊ยวอวบทอด (฿40.-)
เหมือนกันเด๊ะกับเมนูก่อนหน้า แต่เพียงแค่ว่าเพิ่มความอ้วนมากกว่า เพราะว่านำไปทอด แต่ก็ออกมาอร่อยดีนะครับ กรอบนอกนุ่มในใช้ได้เลย อันนี้ผมก็ชอบเหมือนกัน

การบริการของพนักงานที่นี่ผมค่อนข้างขัดใจ คือพนักงานเยอะม๊ากก แบบว่าน่าจะมี 1 คนต่อ 1 โต๊ะเลยแหละ ตอนเรียกมารับออเดอร์นี่ไม่เท่าไหร่ครับ มีเดินมาช้าบ้างก็ไม่ว่ากัน แต่ผมสั่ง Bill Please ไปสามรอบไม่มีคนมาเก็บเงิน คืออะไรกินฟรีหรือยังไง จนสุดท้ายต้องยกพวกไปคิดเงินตรงครัว ปิดทางเข้าออกร้านเค้าหมด

ผลพลอยได้จากการตามรีวิวร้าน Users Choices มาต่อกันที่ร้านไอศครีมโฮมเมด ซึ่งต้องขอสารภาพก่อนเลยว่าผมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ถ้าใครจะตามมาร้านนี้ก็อยู่ในซอยสุกร 1 โดยเจ้าซอยมาประมาณร้อยเมตรร้านจะอยู่ซ้ายมือ btw ไม่แนะนำให้ขับรถมาเองครับเพราะไม่มีที่จอด
บรรยกาศในร้านก็ตกแต่งด้วยโทนสีเหลือง ดูแล้วก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นสดใสดีครับ ในร้านก็มีที่นั่งประมาณ 6 โต๊ะ ซึ่งรองรับได้เกือบๆ 30 คนเลยครับถ้าลูกค้าแน่นๆ แต่เก้าอี้บางตัวถูกยึกน็อตไว้กับพื้นเลย จะขยับไปนั่งคุยกันเพื่อนก็ไม่ได้ 5555 ต้องนั่งแยกโต๊ะกันเอา ในร้านมีแอร์พวกผมก็นั่งเย็นสบายกันไป
ไอศครีมของที่นี่ผมว่าราคาไม่แรงเลยครับ Scoop ละ 30 บาทเอง แถมถ้าซื้อครบ 10 ลูกก็แถมให้อีก 1 ลูก เรียกว่าโปรโมชั่นคล้ายๆพวกร้านไอศครีม ตามห้างใหญ่ๆเลยนะเนี่ย มี Waffle กับพวก Jelly มาให้เลือกใสา่เพิ่มด้วย ราคาก็ประมาณ 10-20 บาทเอง สามารถดูได้จากรูปเลยครับ โดยวันนี้ผมขออนุญาติรีวิวแค่ของผมนะครับ อันของเพื่อนที่ไปแย่งถ่ายมาไม่ขอรีวิว เพราะผมไม่ได้ชิมเองครับ


- Ice-cream 2 scoops (฿60.-)
ผมเองนั้นสั่งรส Blue Hawaii กับ Lynchee-Strawberry ไปครับ ซึ่งตอนมาเสิร์ฟสีก็ตัดกันดีจริงๆ ถ้วยก็น่าจักดีติดกันมาเป็น twin เลย ชิมเข้าไปก็รู้สึกหวานๆดีครับ แต่ว่าตัว Blue Hawaii จะหวานกว่า แล้วก็ก็รู้ว่ามันไม่ใช่ Ice-cream แบบที่ผมคิดครับ มันคือ Gelato คราวนี้แหละถูกใจผมหนักเลย เพราะผมชอบความเป็นเกล็ดๆของน้ำแข็งมาก
การบริการพี่เค้าก็ดูในดีนะครับ ผมไปวุ่นวายเดินถ่ายรูปทั่วร้านเค้าก็ไม่ว่า ถ้านึกไม่ออกก็เหมือนทัวร์จีนลงอ่ะครับ ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาสุภาพบริการดี ของที่สั่งก็ได้มาครบถ้วนถูกต้อง และ รอไม่นานด้วยครับ โดยรวมก็เป็นร้านไอศครีมที่ใช้ได้เลยครับ

ก่อนจะสอบกลางภาคขอหาของอร่อยทานซักหน่อย ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อร้านนี้ก็คิดภาพข้าวหมูแดงแล้ว Shift Color ไปทางสีเขียว 55555 ภาพในหัวนี่แบบ.... ไม่โอเค~
พิกัดของร้านนี้ก็จะตั้งอยู่ในซอยสุกร 1 เป็นปากทางเข้าเยาวราช แถวๆตรงข้ามสถานีรถไฟกรุงเทพนั่นแหละครับ สำหรับวันนี้ผมก็เรียก Grab พร้อมปักหมุดที่ร้าน เดินทางสะดวกสบายมาก ร้านอยู่เยื้องๆไปฝั่งทางออกถนนข้าวหลาม โดยจะอยู่ขวามือเลยตรงหัวมุมถนน
บรรยกาศในร้านก็ตามภาพเลยครับ ตอนลงรถทีแรกก็แอบคิดในใจถูกร้านแน่นะพี่ #ฮา ในร้านก็ค่อนข้างสกปรกเลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่าเศษขยะเต็มพื้นเลย นอกจากนั้นยังมีคราบดำๆเต็มพื้น ส่วนตัวร้านก็ดูขลังมากครับตามสไตล์ Thailand Street Food อากาศก็ร้อนประมาณนึงแต่ก็พอทนได้ครับ ครัวเป็นแบบโคตร open ครับ ยืนสับยืนหั่นกันตรงนั้นเลย กระบวนการทุกอย่างลูกค้าก็นั่งมองเพลินๆกันไป
ราคาข้าวหมูวันที่ผมไปเหลือแต่แบบธรรมดา 50 บาทขนาดใหญ่หมด เลยสั่งมาลองทั้งสองอย่างเลย
 ไม่ว่าจะเป็นหมูแดง หรือ หมูกรอบ เนื่องจากไปกันหลายคนเลยได้ชิมหมด

- ข้าวหมูแดงธรรมดา (฿50.-)
ถ้าผมจะเรียกว่าเป็น Users Reccomend ก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก หลังจากลองชิมเข้าไปก็โอเคเลยครับ ตัวข้าวเองนั้นหอมนุ่ม ส่วนเนื้อเป็ดก็นิ่มและนุ่มทีเดียว ที่สำคัญปริมาณก็ไม่ใช่น้อยๆเลย เอ้าไปจานต่อไป
- ข้าวหมูกรอบธรรมดา (฿50.-) 
อันนี้แย่งเพื่อนทานครับ ตัวหมูกรอบเองผมอยากจะบอกว่ากรอบม๊ากก เรียกได้ว่าถูกใจผมเลยทีเดียว แถมมีน้ำราดมาให้ด้วย เปลี่ยนรสชาติไปอีกแบบ เอาเป็นว่าสาวกหมูกรอบแบบผมก็ถูกใจกันไป
การบริการร้านนี้ก็เป็นเหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไป รับออเดอร์แล้วก็ทำอย่างรวดเร็ว พี่ก็บริการดีครับเป็นกันเองดี แอบมีแซวพวกผมบ้างนิดหน่อย 5555 พ่อค้าอารมณ์ดีลูกค้าก็สะบายใจครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีอีกร้านนึง