นักรีวิวร้านอาหาร

ครั้งนี้มาทานอาหารต้อนรับปีใหม่กันถึงอยุธยากันเลยค่ะ พอดีเดินทางไล่ทำบุญตั้งแต่สิงห์บุรีจนถึงอยุธยาค่ะ
เป้าหมายสุดท้ายก่อนกลับบ้านก็ต้องหาของอร่อย ๆ ลงท้องกันซะหน่อย ด้วยความไม่ใช่คนพื้นที่
และรู้จักร้านอาหารต่างจังหวัดน้อยมาก ก็เลยถามคนแถวนั้นเอาค่ะ ได้ความคร่าว ๆ ว่าจากวัดใหญ่ชัยมงคล
ให้เลี้ยวขวาไปยังวงเวียน (สัญลักษณ์วงเวียนจะเป็นเจดีย์ค่ะ) จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเลาะไปตามทางเรียบแม่น้ำเลย
ร้านอาหารเยอะมาก เราก็เดินทางไปตามนั้นเลยค่ะ สภาพบ้านเรือนหลังน้ำท่วมยังไม่กลับสู่สภาวะปกติเท่าไหร่นะคะ
ตามกำแพงยังเป็นคราบน้ำให้เห็นเ่ด่นชัดเลยค่ะ :'( (หวังว่าทุกอย่างจะฟื้นโดยเร็ว ) หลังจากขับมาเรื่อย ๆ
จนเกือบจะท้าย ๆ ซอย ก็มาเจอร้านนี้เข้าค่ะ "ไทรทองริเวอร์" ร้านอยู่ซ้ายมือ มีรถจอดเพียบ จอดได้ 2 ฝั่ง
ตามกำแพงบ้านคนแถวนั้นล่ะค่ะ แหะๆ แถมมีทัวร์ลงด้วย แสดงว่ารสชาติต้องใช้ได้ล่ะนะ
บรรยากาศของร้านจะติดริมแม่น้ำเลยค่ะ มีเรือใหญ่-เล็กผ่านโดยตลอด มองฝั่งข้ามแม่น้ำไปจะเป็น
วัดขุนพรหมค่ะ ที่นั่งก็จะมีให้เลือก 2 แบบนะคะ แบบรับลมด้านนอก กับห้องแอร์เงียบๆ ด้านใน
แต่ตอนที่ไปโต๊ะด้านนอกเต็มซะแล้วค่ะ ก็เลยต้องนั่งให้ห้องแอร์แทน (คอนเฟิร์มว่าแอร์เย็นเฉียบเลย )
มาเริ่มที่อาหารดีกว่า อ้อ! อาหารที่นี่ค่อนข้างช้านิดส์นึงนะคะ อาจเพราะลูกค้าเยอะก็ได้ค่ะ อดทนรอนิดส์นึง
เริ่มที่ของโปรดโยเกิร์ตก่อนละกันนะคะ 555+ กุ้งเผาค่ะ ที่นี่คิดราคาเป็นกิโลนะคะ สำหรับจานนี้กิโลละ 800 บาทค่ะ โลละประมาณ 10 ตัวได้ค่ะ
แต่จุดเด่นของจานนี้ไม่ได้เป็นที่ตัวกุ้ง 555+ ถึงแม้ว่าจะสดเข้าขั้นก็เถอะ จุดเด่นของกุ้งก็ต้องมันกุ้งสิคะ ซูมนิดส์ๆ อาจจะเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ขอบอกว่ามันเยิ้มมาก ไม่กลัวคอเรสเตอรอลกันแล้วตอนนี้ คริคริ ข้าวผัดปู เนื้อปูมาเป็นชิ้น ๆ นะคะ ไม่มีแต่วิญญาณปูหรือผัดไข่แน่นอน ไม่แฉะไม่เละไม่แข็งจนเกินไปค่ะ
ถือว่าจานนี้อร่อยใช้ได้ จานนี้ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ค่ะ ด้วยความที่ไม่ชอบกินผัดผงกะหรี่ก็เลยชิมมานิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้แตะต้องตัวปูนะคะ
รสชาติกลมกล่อมค่ะ ไม่เผ็ดมาก แต่ไข่เยอะไปหน่อย ผู้ใหญ่ก็เลยไม่ค่อยปลื้มกับจานนี้ ห่อหมกมะพร้าวอ่อนค่ะ จานนี้ไม่ได้ชิมมาเลยค่ะ 555+ แต่เสียงส่วนใหญ่บอกว่าจานนี้ดีกว่าผัดผงกะหรี่ค่ะ
ได้เนื้อเยอะ แต่มะพร้าวไม่อ่อนสมชื่อนะคะ นั่งขูดมะพร้าวกันไม่ค่อยออกค่ะ ฮาาา ปลากระพงทอดราดน้ำปลาค่ะ ไม่ได้ราดมาให้นะคะ ใครอยากราดเท่าไหร่ตักกันเอง ปลาตัวใหญ่ดีค่ะ
เนื้อเยอะพอสมควร แต่ให้ความรู้สึกแปลกๆว่าจะกรอบก็ไม่กรอบ จะเหนียวก็ไม่เหนียว บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ แหะๆ สุดท้ายไม่ท้ายสุด หมูมะนาวค่ะ จานนี้เปรี้ยวเผ็ดดีค่ะ แต่หมูเหนียวไปหน่อย เคี้ยวไม่เพลินเลย
ถ้าหมูนุ่มนิ่มกว่านี้อีกนิดจะดีมาก ๆ เลยล่ะ ทอดมันปลากรายอีกอย่างค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
เพราะถ่ายไม่ทันคนตัก ส่วนตัวชอบทอดมันปลากรายของที่นี่นะคะ เคี้ยวแล้วหนึบ ๆ ดีค่ะ ชิ้นหนาใหญ่
แต่คนอื่น ๆ บอกว่าเหนียวไป แป้งเยอะ ก็แล้วแต่คนชอบเนอะ 555+ จริง ๆ มีอาารเยอะกว่านี้นะคะ
แต่อยู่ไกลมือ ถ่ายไม่ทัน ตัก(กิน)ไม่ถึง TT^TT สรุปมื้อนี้ค่าเสียหายประมาณ 4000 กว่า ๆ ได้ค่ะ ไปกัน 12 คนนะคะ
อาจจะดูแพงไปซักหน่อยค่ะ แต่เทียบกับปริมาณแล้วก็คุ้มอยู่นะ

เดินเล่น ช้อปปิ้ง กินข้าวที่สยามมาก็หลายครั้งหลายครา แต่ก็ยังมีความรู้เรื่องร้านอาหารในสยามน้อยมากกก
อย่างครั้งนี้ก็เพราะอ่านรีวิวในเว็บ Openrice นี่ล่ะค่ะ ถึงได้รู้ว่าสยามก็ไม่ใช่จะมีแต่อาหารแพงๆเสมอไป อิอิ
แถมซ่อนตัวอยู่บนชั้น 2 ซะด้วย ถ้าไม่สันทัดจริงมีเดินเลยร้านได้ค่ะ (เพราะเจ้าตัวเลยมาแล้ว 555+ )

ครั้งนี้มากัน 3 คนค่ะ เดินจากดิจิตอล เกตเวย์เลี้้ยวมาทางขวา ไปทางซอย 2 ร้ายจะอยู่ซ้ายมือค่ะ
(แต่บอกข้างเคียงไม่ถูกเหมือนกันค่ะ) แบบว่าเดินเลยไปแล้ว เพื่อนเรียกกลับมา ก็เห็นป้าย พร้อมเมนู 1 เล่มแบบนี้ ก็เดินขึ้นชั้น 2 ไปเลยอ่า พอขึ้นชั้น 2 ไปแล้วจะพบกับความเงียบ! 555+ มีลูกค้าอยู่ 2-3 โต๊ะเองค่ะ
ตกแต่งร้านด้วยโทนเขียว-น้ำตาล ดูทึม ๆ นิดหน่อย แต่ก็ไม่อึดอัดค่ะ เราเลือกนั่งมุมร้านค่ะ แต่ไม่ได้ติดหน้าต่าง
แบบว่าจะได้เม้าท์กันสะดวก ๆ ด้านหน้าเมนูอาหาร พร้อมสาขาและเบอร์โทรศัพท์ โทรสอบถามเส้นทาง หรือจองก่อนก็ได้นะคะ ด้านในเมนูพร้อมรูปภาพน่ากินทุกอย่างเลยจริง ๆ ยิ่งเวลาหิว ๆ ด้วยอยากสั่งหมด 555 ราคาไม่แพงค่ะ
มีทั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป มาดูเมนูที่สั่งกันดีกว่า ยำผักบุ้งชุบแป้งทอดค่ะ จานเล็กกว่าอาหารไปซะอย่างงั้น เวลาคนน้ำยำให้เข้ากับผักก็เลยลำบากนิดหน่อยค่ะ
มันหกออกหมดง่ะ รสชาติเปรี้ยว ๆ ค่ะ แต่ไม่เผ็ดมากตามที่นึกกลัว ผักบุ้งก็ทอดมากรอบมาก
แต่นาน ๆ ไปจะนิ่มและรสชาติจะเค็มขึ้นค่ะ ถ้าเย็นแล้วจะไม่ค่อยอร่อยนะ ทอดมันกุ้งค่ะ ได้มา 4 ชิ้นแบน ๆ ใหญ่ ๆ แต่ไม่หนาค่ะ เนื้อกุ้งเต็ม ๆ ค่ะ ไม่ได้มีแต่แป้ง เคี้ยวหนึบหนับ อร่อยดีค่ะ
ไม่ผิดหวังกับของโปรดจานนี้ค่ะ สุดท้ายเป็นต้มยำกุ้งน้ำข้นค่ะ ได้กุ้งตัวเล็ก ๆ มา 7-8 ตัวได้
นอกนั้นจะเป็นเห็ดฟางเล็ก ๆ และเครื่องต้มยำเป็นส่วนใหญ่ื มี 2 แบบให้เลือกนะคะ แบบถ้วยในรูปนี้ 130 บาท
หรือจะเป็นหม้อไฟก็150-170 บาทได้ค่ะ รสชาติได้ข้นๆมันๆจากนมค่ะ แต่ไม่เผ็ดเท่าไหร่
รสชาติกลมกล่อมไม่เปรี้ยวเกิน ไม่เค็มเกินค่ะ การบริการของที่นี่ไม่หวือหวามากค่ะ ดูจะเป็นการให้ความส่วนตัวของลูกค้าซะมากกว่า
เพราะเสิร์ฟเส็ดก็จะปล่อยให้ลูกค้านั่งกินไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ จ่ายตังเมื่อไหร่ก็เรียกบอกค่ะ

ใครที่ชื่นชอบความสงบ ไม่วุ่นวายหรือคนพลุกพล่านนัก ร้านนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีร้านนึงเลยค่ะ

ขอขึ้นชื่อเรื่องด้วยสโลแกนของร้านอาหารครัวเม็ดทรายนะคะ เพราะร้านนี้สมตามสโลแกนที่ตั้งจริง ๆ ค่ะ
ร้านนี้ได้มีโอกาสมาพร้อมๆกับบริษัทค่ะ โยเกิร์ตก็เลยเอามารีวิวให้เพื่อน ๆ ชมกัน เผื่อเป็นตวเลือกอีกร้านนึงเวลาไปชะอำ
ร้านนี้อยู่ตรงข้ามวัดเนรัญชราราม ขับเลียบหาดไปเรื่อย ๆ ร้านอยู่ทางซ้ายมือ ป้ายใหญ่เด่นชัดค่ะ
หรือโทรถาม 032-430-196, 081-763-6070 ก็ได้นะคะ ที่จอดรถของร้านนี้จะกว้างมาก ๆ ร่มด้วยค่ะ
เพราะติดกับชายหาด ต้นสนเยอะมาก และเนื่องจากมากับบริษัท อาหารก็เลยพร้อมอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว 8 อย่างค่ะ
(รูปก็พอดี 8 รูป เลยไม่ได้เอาบรรยากาศลงนะคะ ) อย่างแรกเลย ปูตัวโตๆค่ะ สดมากก ที่ร้านกระเทาะเปลือกมาให้หน่อยนึงแล้วนะคะ ก็เลยแกะง่าย ๆ
แต่ส่วนตัวไม่นิยมปู เพราะไม่ชอบแกะ (ถึงกระเทาะเปลือกแล้วก็ตาม) ไปเมนูที่ 2 ดีกว่า 55 อันนี้ของโปรดเลยก็ว่าได้ค่ะ กุ้งเผา มีทั้งแบบไข่และไม่ไข่ เหอๆ หัวใหญ่ มันกุ้งเยอะ
(นี่แหละสุด ๆ แล้ว อร่อยมาก น่าจะปลื้มสำหรับคนชอบมันกุ้งค่ะ) ไม่เหม็นคาวเลยค่ะ
เนื้อกุ้งแน่น กินเพลิน แหะๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดเปรี้ยวเผ็ดกำลังดี ข้าวผัดปูค่ะ เนื้อปูเยอะมาก ไม่เป็นแค่ข้าวผัดไข่ แถมชิ้นใหญ่ ๆ ด้วยค่ะ ไม่เหมือนร้านอาหารบางที่
ใช้ลูกปูมาเลย 555 ข้าวผัดไม่แฉะน้ำมันนะคะ ร่วนๆหน่อย แต่ไม่แข็งค่ะ ชอบอ่ะ ปลาเก๋าสามรส หัวโต ตัวเล็ก แต่เนื้อปลายังเยอะพอสมควรค่ะ ทอดมากำลังดีกรอบนอกนุ่มในมั่ก ๆ
น้ำราดปลาก็สมชื่อ 3 รสจริง ๆ ค่ะ ต้มยำน้ำข้น รู้สึกถึงความข้นจริง ๆ ค่ะ มันนมสดที่ใส่ลงไปเหมือนกัน รสชาติเผ็ดหวาน ไม่ค่อยเปรี้ยวเท่าไหร่ค่ะ ผัดผัก (ไม่รู้ชื่อจริง ๆ ของจานนี้นะคะ) เหมือนผัดผักรวมมิตร รสชาติออกหวาน ๆ ค่ะ กินผักกรอบ ๆ ก็เพลินดีค่ะ ไม่ถึงกับปลื้มมาก กุ้งผัดพริกไทยดำ ได้กุ้งแบบเต็ม ๆ ค่ะ เด้งๆ หวานๆ เผ็ดฉุนพริกไทยนิดหน่อย
จานนี้กินบ้างเล็กน้อยค่ะ ส่วนใหญ่เอาเวลาไปแทะกุ้งง่ะ มาถึงเมนูสุดท้ายค่ะ ปลากะพงทอดราดน้ำปลา (ไปที่ไหนมักจะเห็นทุกทีกับเมนูนี้) ได้มาตัวใหญ่
แบนๆ เนื้อปลากรอบนอกนุ่มในค่ะ แทะมันส์เลย 555+ ชอบเมนูนี้กว่าปลาเก๋าสามรสค่ะ
(หรือเพราะส่วนตัวไม่ชอบน้ำราดก็เป็นได้ แหะๆ ) การบริการครั้งที่ไปนี่บริการตัวเองนะคะ
หากต้องการล้างมือ ทางร้านก็มีอ่างล้างมือพร้อมสบู่ไว้ให้ค่ะ แยกส่วนจากห้องน้ำน่ะค่ะ หลังจากกินเส็ด
ก็สามารถไปถ่ายรูปกับบรรยากาศรอบ ๆ ร้านได้ค่ะ แถมบริเวณชายหาดก็มีม้าเล็ก/ใหญ่ให้ขี่เล่นด้วยค่ะ
รับลมทะเลแบบสบาย ๆ แถมอาหารอร่อย ถือเป็นความสุขอย่างนึงนะคะ เป็นร้านที่น่าพาครอบครัวมาแวะกันจริง ๆ

หลังจากกิน MK GOLD เป็นที่เีรียบร้อย บอกกันว่าอิ่มมากๆๆ แต่ก็ยังหาของหวานกินกันต่อ เอ๊ะ!! ยังไง??
มาตกลงปลงใจด้วยความเห็นส่วนมากที่ Swensen's แต่!! ไม่อยากกินสาขาพารากอนแล้วค่ะ
ประสบการณ์มันฝังใจ 55+ ก็เลยยอมเดินมาที่สาขาสนามเซ็นเตอร์ชั้น 3 จะเรียกว่าคนไม่มีเลยก็ได้ค่ะ
เห็นนั่งอยู่แค่ 2-3 โต๊ะเอง (โต๊ะเราดังสุดจนคนอื่นหันมามอง 55+) พอดีเห็นโปรโมชั่นบาสเก็ตยังมีอยู่ก็
เลยจัดไป 1 ถ้วย (ช่วยกันกิน) ถ้วยละ 99 บาทค่ะ ได้ไอติม 2 ลูก สาขานี้ยังมีวิปครีม เชอรี่ อยู่ครบนะคะ เป็นปลื้มมอ่ะ ไอติมครั้งนี้สั่ง
มิดไนท์บราวนี่กับสตรเบอร์รี่โยเกิร์ตค่ะ (มันคนละขั้วเลยอ่ะ) เพิ่มวิปครีมต่างหากมาด้วย (^_^)/ เราไม่กินสตรอเบอรี่ก็ไปตักแต่ข้างช็อกโกแลตค่ะ ฮาาา ในถ้วยก็จะประกอบด้วยบราวนี่ชิ้น ๆ
กล้วยเคลือบช็อกโกแลต โดยด้วยโอรีโอบดหยาบ (เบาหวานขึ้นกันพอดี) แย่งกันกินจนถึงตัวตระกร้า
ไม่มีเหลือ นาน ๆ เจอเพื่อน ๆ กันดีสนุกสนานดีค่ะ 555+

ปล.ครั้งนี้ใช้บัตรลด Swensen's จาก OpenRice 50 บาท จาก 99 เหลือ 49 ต่อด้วยใช้บัตรสมาชิก
ลดอีก 10% เหลือ 48 บาท (ไปกัน 4คน) ตกคนละ 12 บาท (เหลือเชื่อจริง ๆ ค่ะ)

ช่วงนี้ได้เจอเพื่อน ๆ บ่อยค่ะ เพราะเริ่มทำงานแถบเดียวกันละ 555+ (มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ถือว่าดี)
และเพื่อนคนนึงในกลุ่มก็ว้อนจะเจอมาก ส่วนที่เหลือก็เลยให้คนนั้นแหละเลือกร้าน (ไม่รุ้ว่าให้คนถูกรึเปล่า)
เพราะบอกมาว่าอยากกิน MK Gold ง่ะ ในย่านสยามที่เป็นใจกลางทุกคนไปกันได้ ก็เลยตามเลย
เพราะอย่างน้อยก็ได้กินผัก ไม่อ้วน ๆ 55+ และแล้วก็ปล่อยให้คนที่เลือก (อีกนั่นแหละ) ไปจองโต๊ะก่อนเลย
วะฮาฮ่าาา ครั้งนี้ที่ไปเป็นตอนเย็น ๆ แล้วค่ะ หลังเลิกงานกัน คนก็จะพลุกพล่านเล็กน้อย (ไม่ว่าเอ็มเคที่ไหนก็มีรอคิวทั้งนั้น)
แต่ของเราพิเศษเพราะมีคนเป็นทัพหน้าก่อน พวกที่เหลือก็เดินเข้าไปได้เลย (แผนสูง ขี้เกียจรอคิว)
พนักงานที่นี่ไม่เยอะไม่น้อยค่ะ ได้ของเร็วพอสมควร ดีค่ะ ชอบ อิอิ พอนั่งโต๊ะเส็ดก็จะมีผ้าเย็นให้คนละผืน มาในถาดสีทอง (กำลังสงสัยว่าที่แพงก็เพราะตรงถาดกับหม้อสีทองรึเปล่า??) ครั้งนี้ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ถ่ายรูปมาน้อยมาก ๆ เลย เกรงใจเพื่อน 555+ เพื่อน ๆ เม้าท์กันไป มือก็ไม่่ว่างเอาของกินลงหม้อไป
(เราก็ถ่ายไม่ทัน มัวแต่เม้าท์ด้วย) อาหารที่สั่งครั้งนี้จะมีเป็ดย่าง รสชาติยังคงเส้นคงวา อร่อยเหมือนเดิมค่ะ เนื้อเป็ดนุ่ม โดยเฉพาะหนังเป็ดของโปรดนี่ล่ะนะ
กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ รสชาติน้ำเป็ดหวาน ๆ เอามาคลุกกับบะหมี่หยกยังอร่อย อิอิ จานนี้บะหมี่หยกของตัวเองค่ะ 2 ก้อนนะ ดูไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนค่ะ เส้นออกแข็งๆหน่อย รีบลวกล่ะมั้ง เหอๆ
ในหม้อที่ละเลงกันจนเละก้จะมีชุดผักสุขภาพชุดเล็ก ผักบุ้ง เห็ดเข็มทอง ลูกชิ้นเอ็มเค แซลมอนเอ็มเค
กินหมดรอบนึงก็สั่งผักเพิ่ม (เพื่อนบอกว่าเหมือนกันจับฉ่าย 555+) มื้อนี้โดนกันไปคนละ 300 บาท ค่ะ
เพื่อสุขภาพจริง ๆ