นักรีวิวร้านอาหาร

     จะพาไปลองอีกร้านพิซซ่าจากเกาหลี  ที่มีดีกรีระดับ Champion

ในการแข่งขัน World Pizza Games ถึง 3 ปีซ้อนด้วยกัน กับ ร้าน " Mr.Pizza "

ซึ่งด้านหน้าร้าน  ก็จะทำเป็นห้องกระจก และ โชว์การควงแป้งพิซซ่าให้ชมกันจะ ๆ ไปเลย

ซึ่งกรรมวิธีในการนวดแป้งด้วยมือ และ การแผ่แผ่นแป้งด้วยการโยน

ก็เป็นอีกหนึ่งในเคล็บลับความอร่อยของทาง  Mr.Pizza



   เริ่มที่เครื่องดื่มกันก่อนฮะ กับ น้ำส้มฮัลลาบงโซดา รสหวานอมเปรี้ยว ซ่า ๆ ชื่นใจ

อีกแก้วนึง เป็น น้ำว่านหางจรเข้โซดา หอม ๆ ราคา แก้วละ 99 บาทเริ่มกันที่ พิซซ่า ก่อนเลย เลือกเป็นเมนูที่ขายดีอันดับ 1 ในเกาหลี

เป็น Potato Gold แบบ ไซส์ R ซึ่งก็คิดถูกที่เลือกไซส์นี้ครับ

เพราะขนาดไซส์ธรรมดานี่ก็นับว่าใหญ่มาก ๆ แล้วฮะPotato Gold จะเป็น เบค่อน และ มีมันฝรั่งเป็น ชิ้น ๆ มาด้วย

ตัวขอบนี่ก็เด็ดมากครับ ไส้ครีมโปเตโต้ รสออกหวานคล้ายมันเผา

ตัวแป้งพิซซ่าก็มีความกรอบนอก นุ่มใน อร่อยมากฮะ

ถาดนึงนี่ทานได้ 3-4 ตย สบาย ๆ ต่อด้วย ข้าวผัดกิมจิใส่เบคอน โปะมาด้วยไข่ดาวเยิ้ม ๆ

ตัวข้าวเค้าผัดมาได้ดีครับ ไม่แฉะ แถมรสของกิมจิก็ทานง่าย กลมกล่อมMs.Chicken เป็นไก่ทอดซอสหวาน ๆ เผ็ด ๆ สไตล์เกาหลีครับ

มีดิปมาให้ด้วย แต่ทานเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้วครับ

เพราะซอสรสออกหวาน เผ็ด เข้มข้น อยู่แล้ว สลัดไก่เคจุน เป็น ไก่กรอบซอสเคจุน ทานกับผักสลัด

ซึ่งมีน้ำสลัดแบบฮันนี่มัสตาร์ด อีกหนึ่งเมนูยอดนิยมในเกาหลีครับ สปาเก็ตตี้ซีฟู๊ดและกิมจิอบชีส

เมนูนี้ผสมผสานกันได้ลงตัวดีฮะ ระหว่างซอสมะเขือเทศเข้มข้น และ กิมจิรสเผ็ด

แถมมีชีสหอม ๆ มาช่วยเพิ่มความนัวเข้าไปอีก ปิดท้ายด้วยของหวาน เป็น บิงซู โอรีโอ้

ด้านบนไอศครีมวนิลา รองด้วยนมเกล็ดหิมะ นุ่ม ๆ หวาน เย็น ชื่นใจ ก็เป็นอีกร้านที่น่าสนใจครับ

ระหว่างเมนูตะวันตกแบบพิซซ่า รวมเข้ากับสไตล์เอเซียอย่างเกาหลี

ที่ทำออกมาได้ดี และ น่าจะถูกปากคนไทยอย่างเรา ๆ ด้วย

     จะพาไปลองอาหารไทย รสดี ที่ทำกันแบบถึงเครื่อง

ที่ห้องอาหาร " Charm Thai " (ชามไทย) 

ภายในโรงแรม Holiday Inn Bangkok  ใกล้ ๆ กับแยกราชประสงค์

เดินทางได้สะดวก ด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีชิดลม ลงมาก็ถึงเลยครับ

ภายในห้องอาหารชามไทย ตกแต่งไปด้วย ถ้วย ชาม เยอะมากฮะ ชมกันเพลิน 

แถมด้วย บรรยากาศ สบาย ๆ พร้อมครัวเปิด ให้ได้ชมกันทุกกระบวนการเข้ามาปุ๊ป จะได้ Complementary Drink เป็น ยาดองสมุนไพร

มีทั้งหมด 4 ตำรับด้วยกัน ทั้ง ม้ากระทืบโลง , กำลังช้างสาร , พญาเสือโคร่ง และ โด่ไม่รู้ล้มเริ่มเรียกน้ำย่อยกันด้วย ข้าวตังกับเป็ด ปรุงรสมากำลังดี

เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ครบรสเริ่มเมนูแรก เป็น เมี่ยงคำ ราคา 210.-

ตัวน้ำราดเข้มข้นดีทีเดียวครับ รสกลมกล่อม ทานเล่นเพลิน ๆต่อด้วยเมนู อาหารว่างชามไทย สำหรับ 2 ท่าน ราคา 495.-

มี เปาะเปี๊ยะ , หอยจ๊อ , หมี่กรอบ , ม้าฮ่อ และ ทอดมันกุ้ง

ทุกอย่าง ทำสดใหม่ ทอดมาเหลืองกรอบ

โดยเฉพาะทอดมันกุ้งนี่ เนื้อเด้ง กุ้งแน่น อร่อยมากกก ต่อกันด้วย ปูนิ่มผัดไข่เค็ม ราคา 475.-

เชฟเอาปูนิ่มไปเคล้าแป้งบาง ๆ ก่อนทอดมาเหลือง กรอบพอดี

ผัดกับไข่เค็มที่ตีเป็นซอสเข้มข้น เคลือบไปทั่วทั้งชิ้น ทานเพลินมากฮะ จานนี้แนะนำเลยต่อด้วย แกงเผ็ดเป็ดกรอบ เมนู Signature Dish ของห้องชามไทย ราคา 480.-

ใช้เป็ดย่างหนังกรอบ ๆ เนื้อนุ่ม ตัวแกงเผ็ดหอมเครื่อง

น้ำแกงรสเค็มนำหวาน และ เผ็ดไม่มากนัก ทานพร้อมข้าวสวยนี่ เข้ากันดีเลยครับทะเลผัดฉ่า ราคา 650.- ใช้ปลาเก๋าตัวโต ที่แล่เอาแต่เนื้อไปเคล้าแป้งทอด

ก่อนนำมาผัดฉ่า รวมกับ ปลาหมึก , กุ้ง และ หอยเชลล์ ต้มยำโป๊ะแตก มาในหม้อดิน เครื่องแน่นมากฮะ ราคา 450.-

เหมือนต้มยำน้ำใส แต่ใส่ใบกะเพราไปด้วย ได้ทั้งกลิ่นหอม ๆ

รสชาติ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ซดคล่องคอ ขาดไม่ได้สำหรับอาหารไทย คือ ข้าว

โดยที่ชามไทยนี่ เค้าเสิร์ฟเป็นข้าวหอมมะลิ 3 สี ให้ฟรีเลยครับปิดท้ายกันด้วยของหวาน อีกหนึ่งเมนูไทยโบราณที่หาทานได้ยาก

เป็น ข้าวคยาคู ทำจากข้าวเจ้าที่กำลังมีนม นำไปผสมกับใบเตย

แล้วกวนด้วยไฟอ่อนจนงวด เนื้อข้น เหนียว เวลาทานราดด้วยหัวกะทิอีกที

รสหวานอ่อน ๆ ละมุนลิ้นดีฮะ ถ้วยนี้ราคา 125.-   ก็เป็นอีกห้องอาหารไทย อร่อย ๆ ใจกลางเมืองย่านราชประสงค์

ใครสนใจก็มาลองกันได้ที่ โรงแรม Holiday Inn Bangkok เลยคร้าบบ

      วันนี้มีของอร่อยมาฝากกันเหมือนเดิมคร้าบบ

ไปกันที่ร้าน  Honey   ซึ่งตั้งอยู่ที่ Seenspace ซ.ทองหล่อ 13

ที่กำลังฮอตฮิต ให้บริการด้วยเมนูแบบ All Day Dining

ซึ่งมีทั้งเมนูอาหาร และ ขนม อร่อย ๆ รวมถึงเครื่องดื่มหลากหลาย

ร้าน Honey เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.30 - 22.00 น.

มาถึง Seenspace แล้ว ก็ขึ้นมา ชั้น 2 ได้เลยครับขนมมีให้เลือกหลากหลาย ทุกเมนูทางร้านทำเองหมด อบกันสดใหม่

 จัดเตรียมเสิร์ฟกันตรงนี้ ดูสะอาดดีมากเลยครับมุมเครื่องดื่ม  ทั้ง ชา , กาแฟ , สมูธตี้ ต่าง ๆ

มีกาแฟ Cold Brew ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านวางโชว์ไว้ด้วย ด้านนอก มีมุมเทอเรซแบบโอเพ่นแอร์ ให้เลือกนั่งได้ เริ่มกันที่เครื่องดื่มกันก่อน เลือกเป็น Iced Americano

มีไซรัปมาให้เติมหวานกันตามชอบ

กาแฟหอมดีครับ ไม่ติดเปรี้ยวเช้าวันหยุด สบาย ๆ เราเลือกเป็น Burrito Bowl

เป็น ข้าว 5 ชนิดนำมาผัด ท็อปด้วย Pulled Pork คล้ายหมู BBQ ที่ฉีกเป็นเส้น ๆ

เสิร์ฟมาบนแผ่นแป้ง BurritoPulled Pork รสชาติเข้มข้น

ได้ความสดชื่นจาก tomato salsa และ ผักสลัด

ตัวข้าวไม่นุ่มจนเกินไป ทานรวมกันแล้วอร่อยดีครับจัดอาหารกันเบา ๆ  เพราะเราเผื่อท้องไว้ให้ของหวานกันด้วย
เลือกเป็น Honey Bun Mixed Berried

เดนิช ผิวกรอบ ๆ แต่ด้านใน เนื้อนุ่ม เหนียว

เสิร์ฟกับไอศครีม Mixed Berried ที่รองด้วย เบอร์รี่ครัมเบิล

มีสตรอเบอร์รี่ และ ราสเบอร์รี่ สด วางมารอบ ๆ อร่อย สุด ๆ ครับเมนูนี้

ทั้งไอศครีม เปรี้ยว ๆ ชื่นใจ ตัดกันดีกับ Honey Bun ที่ออกหวานหน่อย

ตัวแป้งให้รสสัมผัสทั้งความ กรอบ นุ่ม เหนียว ในคำเดียว ใครสนใจก็มาลองกันดูคร้าบบ

ราคาก็ค่อนข้างสูงหน่อย ตามทำเล แต่ ขนม และ อาหาร อร่อยดี

ร้าน " ครัวครูหลาน "  ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปท่าเรือข้ามเกาะช้างพอดี

นั่งปุ๊ป เค้ายกขนมมาให้ก่อนเลยฮะ

เป็นมันแกงบวด หวาน มัน อร่อยมากครับ และ ที่สำคัญ ฟรี !!! ลองสั่งบะหมี่ต้มยำทะเลมากิน หน้าตาดีเลยฮะ ตอนแรกที่แวะก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นทางผ่าน และ ได้เวลาใกล้เที่ยงพอดี

ปรากฎว่า อร่อยใช้ได้เลยฮะ ต้มยำรสกลมกล่อม หมึก กุ้ง ก็สดดีมาก นอกจากก๋วยเตี๋ยว ยังมีข้าวขาหมู อาหารตามสั่งด้วย

ราคาก็ทั่วไป 4-50 บาท ชามนี้เป็น โฟทะเลครับ

ใครผ่านมาทางนี้ ก็แวะฝากท้องได้สบาย ๆ

จะพาไปลอง Buffet มื้อเย็น พร้อมล่องเรือชมวิวเพลิน ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา

กับเรือ The Vertical Cruise กัน

ซึ่งเรือ นี้ จะอยู่ที่ Yodpiman Riverwalk

ถ้าใครนำรถมา สามารถนำมาจอดที่นี่ได้เลยครับ

โดยให้วนมาทางใต้สะพานพุทธฯ ที่จะไปปากคลองตลาด จะเห็นทางเข้าอยู่ชัดเจน

และ ที่จอดเค้าเป็นลิฟต์แบบอัตโนมัติ ไฮเทคมาก ๆ เลยฮะ

สำหรับการล่องเรือทานอาหารรอบ Dinner นี้ สนนราคา ท่านละ 1600 บาทถ้วน

ซึ่งรวมเบ็ดเสร็จหมดแล้วครับ (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)

เรือจะออกจากท่า ตอน 19.30 น. และกลับมาถึงในเวลา 21.30 น.เรือลำใหญ่มากฮะ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ขนาดความจุได้ถึง 400 ที่นั่ง

และ จะจัดให้นั่งด้านบนทั้งหมด เพื่อจะได้ชมวิวสวย ๆ ได้สะดวก

ยกเว้นในกรณีฝนตก ก็จะย้ายลงมาชั้นล่าง

ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบน จะมีสเตชั่นของพาสต้า , ส้มตำ และ ก๋วยเตี๋ยว อยู่ชั้น 2 ด้วยครับข้างกัน ก็จะเป็น สเต๊ก มีให้เลือกทั้ง เนื้อ , หมู , ไก่ขึ้นชั้นบน มาชมไลน์อาหารกันเลยครับซีฟู๊ดมีกุ้งอยู่ในมุมเดียวกับซูชิ

เนื่องจากมีกรุ๊ปทัวร์ด้วย เลยมีพนักงานคอยตักกุ้งให้ครับนอกจากอาหารในไลน์ ก็ลองลงไปเอาส้มตำจากชั้น 2 มากินด้วย

เป็นส้มตำไทย เครื่องแน่นดี ไม่เผ็ดมาก ไปเอาสเต๊กเนื้อมาลองชิมครับ นุ่มใช้ได้ เกรวี่เข้มข้นดีชมวิวสวย ๆ ตลอด 2 ชม.เต็ม บรรยากาศสุดยอดครับ และแล้วเรือก็มาเทียบท่ายอดพิมาน ในเวลา 21.30 น. พอดี โดยรวม ถือว่าคุ้มดีฮะ อาหารก็ใช้ได้ ทั้งของคาว ของหวาน

และ ราคา 1,600 นี้ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกแล้ว