นักรีวิวร้านอาหาร

อยู่ ๆ ก็อยากจะทานขนมปังปิ้งขึ้นมาซะเฉย ๆ . . .
ทีแรกที่นึกได้เลยก็คือ ร้าน มนต์นมสด นี่ล่ะ
วันนี้ไม่ได้ออกไปทานเองที่ร้าน แต่ว่าฝากป๊ะป๋า ออกไปซื้อให้หน่อยยยย
อยากทานขนมปังปิ้งหน้าเนยถั่วมาก ๆ ๆ ( แต่ไปมืด ๆ แล้วมันชอบหมดทุกทีเลย )
นั่งรออยู่ แร้วป๊ะป๋าก็โทรมาบอกว่า เนยถั่วหมดแล้ว ง่า ไปช้าไปเหรอเนีย
แต่ไม่เป็นไร เรามีเมนูสำรองอยู่แล้วโอเค มนต์นมสด ของแท้ . . . แน่นอนเปิดถุงออกมาก็เจอ . . . ซับซ้อนจัง อิ อิและนี่ก็คือ ขนมปังทาเนย-ช็อคโกแลต ( ที่จริงก็มีหลายอย่างนะ แต่ว่ากว่าจะคว้ากล้องมาได้มันก็แทบไม่เหลือแล้ว T^T )
ขนมปังที่นี่เขาหั่นชิ้นมาหนากำลังดี ตรงขอบ ๆ จะกรอบหน่อย ๆ เนื้อด้านในก็จะนุ่ม ๆ แล้วก็ชุ่มไปด้วยเนย . . . หอมเลยล่ะ ทั้งกลิ่นขนมปัง และเนย
รสชาติโดยรวม หวานแบบถูกใจ เพราะว่าช็อคโกแลตถูกเบรคความหวานด้วยความเค็มของเนย ก็เลยให้ความรู้สึกที่กำลังพอดี ๆ ( แต่ถ้าเกิน 3 ชิ้นก็จะเริ่มเลี่ยนละ ต้องบอกให้ทาเนยน้อย ๆ )

นาน ๆ ทีจะไปทานที่ร้านสักครั้ง เพราะว่าคนเต็มตลอด หาที่นั่งยากมากกกกกกกกก ในร้านก็ไม่ค่อยกว้างมาก จัดโต๊ะเต็มพื้นที่เลย ก็เลยให้ความรู้สึกแออัด แถมเวลากินนั่งนาน ๆ ก็เกรงใจคนอื่นที่มายืนรอด้วย ถ้าจะนั่งชิลกินไป คุยไป ต้องซื้อออกมาทานข้างนอกจะเหมาะกว่า
พนักงานในร้านก็ หน้านิ่ง ๆ คิดว่าทำงานหนักก็คงจะเหนื่อย ๆ แต่ว่าบริการได้รวดเร็วดีจริง ๆ
แต่สภาพโต๊ะ . . . ค่อยข้างจะเละ เพราะว่าพอคนลุก ก้จะมีคนไปนั่งต่อเลย พนักงานก็ไม่ว่างจะมาทำความสะอาดโต๊ะเท่าไหร่
ก็เลย . . . ซื้อมาทานที่บ้าน สะดวกสุดละค่ะ

ร้านอาหารสีฟ้า ก็เป็นอีก 1 ร้านที่ค่อนข้างจะเก่าแก่ในสยามเหมือนกัน
ร้านนี้ส่วนมากถ้าสังเกตดี ๆ ลูกค้าส่วนมากจะวัย 30++ หรือเป็นคนรุ่นเก่า ๆ ทั้งนั้นหน้าร้าน แค่เห็นป้ายก็ให้ความรู้สึกถึงรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ แล้ว ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ก็มีเมนูอยู่ทางหน้าร้านให้เราได้ลองดูก่อนว่า จะเข้าไปดีไหมน๊าบรรยากาศในร้าน ก็จัดแบบธรรมดา ๆ ( อาจจะออกโบราณ ๆ ด้วยซ้ำไป ) สำหรับสาขานี้นะ ถึงจะปรับปรุงให้ตามสมัยขึ้นบ้างก็เถอะ ( ตามความรู้สึกส่วนตัว )
พนักงานก็เอาใจใส่ลูกค้าดี วันนี้ไม่ได้มานั่งทานที่ร้าน แต่ว่า ได้รับคำสั่งมาให้มาซื้อเป็ดที่นี่ . . . อาม่ารีเควสมาเลยว่าต้องร้านนี้เท่านั้น !
เป็นที่นี่ราคาตัวละ 700 บาท ไม่ว่าจะวันธรรมดา หรือ เทศกาล ก็ 700 บาท
แต่ถ้าจะสั่งเป็ดล่ะก็ ขอให้เผื่อเวลาเอาไว้เลย 20 นาที เพราะกรรมวิธีในการเลาะอาจจะต้องใช้ความปราณีตมาก ๆ ๆ ๆ มั๊ง ( ไม่รู้ แต่ว่าจำได้ว่านั่งรอนานมากกกกกก )
ผลลัพธ์ที่ได้ คือเป็ดเนื้อนุ่ม ๆ นี่เอง มาถึงตรงนี้ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องเป็นร้านนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ บ้านเมื่อถึงเวลาตรุษจีน ก็จะไปนัดพบปะกับญาติ ๆ ที่บางทีนาน ๆ ทีจะได้เจอกันที แล้วจะต้องมีผู้อาวุโสอยู่ในบ้านนั้นด้วย
อากง อาม่า หลาย ๆ คนก็เริ่มที่จะเคี้ยวอะไรไม่ค่อยได้แล้ว เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องทานอะไรที่นิ่ม ๆ และแน่นอนล่ะว่า ลูก หลายก็อยากจะให้ผู้อาวุโสได้ทานของที่อร่อย ๆ ด้วย ก็เลยเป็นที่มาว่า เมื่อไหร่ที่นึกถึงเป็ด ถึงจะต้องรอรนานก็ต้องรอแหละ
ควมนุ่มของเป็ดที่นี่ชนะเลิศเลย ทั้งเนื้อ และ หนัง เป็ดไม่มีกลิ่นสาปเป็ด น้ำจิ้มรสชาติก็จะออกเบา ๆ ( บอกไม่ถูกนะ แต่มันรู้สึกแบบเบา ๆ ) แล้วที่สำคัญเขาก็หั่นมาชิ้นสวยงาม พอดีคำ เอาออกมาจากกล่องก็ยังดูน่าทานแล้วก็เครื่องเคียง ที่ไม่ได้ลองชิม - -"

วันนี้แวะมาทำธระที่สยามอีกแล้ว . . . เดี๋ยวนี้มานี่ทีไรก็เลือกไม่ถูกซะทีว่าจะทานที่ไหนดี
แต่อยู่ ๆ พวกพี่ ๆ ก็เลือกร้านให้เรียบร้อย ก็คือที่นี่แหละ Inter

บรรยากาศในร้าน ก็จัดแบบธรรมดา ถึงธรรมดามาก เป็นโต๊ะ ๆ ไปไม่ได้ตกแต่งอะไรเป็นพิเศษ จะมีครัวเปิด ( เป็นกระจกใส ) อยู่ด้านข้าง นั่งไปดูไปก็ได้
พนักงานที่นี่มีพอเพียง และดูแลได้ทั่วถึงมาก ๆ เลย รวดเร็ว และ สุภาพ
ที่นี่จะมี 2 ชั้น . . . ( บันไดขึ้นชั้น 2 จะชันหน่อยนึง )

วันนี้ก็สั่งเมนูที่คุ้นเคย แต่ก่อนมานี่ทีไรก็ต้องเมนูนี้เท่านั้นข้าวผัดอาม่า . . . ที่จริงก็คือ ข้าวผัดซีอิ้วดี ๆ นี่เอง ถ้านึกไม่ออกก็ให้นึกถึงผัดซีอิ้ว แต่เปลี่ยนจากเส้นเป็นข้าว
กลิ่นก็หอมซีอิ้ว รสชาติถ้าจะให้เทียบกับพวกเส้น ๆ รู้สึกว่าถ้าเป็นข้าวจะอร่อยกว่ามาก ๆ ในจานก็จะมีผักคะน้าหั่น เนื้อหมู กุนเชียง ข้าวรสเค็ม ๆ ผักก็จะกรอบ ๆ มีกุนเชียงช่วยให้มีรสหวานเพิ่มขึ้น แล้วก็เนื้อหมูนุ่ม ๆ อร่อยสุด ๆ ๆ ๆ♥ เมนูนี้รักมากกกกก
ยิ่งถ้าเป็นหน้าเจ เมนูนี้ก็ปรับเปลี่ยนเป็นใส่เห็ดหอมมาแทนหมู อร่อยไม่แพ้กัน

ถ้าจะเทียบเรื่องราคา สำหรับร้านต่าง ๆ ในสยามแล้ว ร้านนี้ถือว่าราคาค่อยข้างที่จะธรรมดามาก อาหารส่วนมากอร่อย และ ไม่แพง ( ถ้าเทียบกับราคาสยาม ) ประมาณว่ามีเงิน 100 บาทก็สามารถทานได้อิ่มไป 1 มื้อเลย

วันนี้ไปเดินเล่นที่ Central World หลังจากที่ไม่ได้ไปมานานเลย . . . แล้วก็หิวจัดซะด้วย
ไปเจอบุฟเฟ่ต์ชาบู ส่งตรงมาจากไต้หวันโน่น น่าลองเหมือนกันนะ อิ อิ
เอาหล่ะ เอาเป็นว่า มื้อเย็นก็ทานที่ร้าน Evaime นี้ก็แล้วกัน ตอนที่ไปถึง ยังไม่เย็นมาก ก็เลยมีลูกค้าไม่เยอะ เลยเลือกโต๊ะได้ตามสบาย ในร้านก็โล่ง ๆ สบาย ๆ งั้นมุมนี้ละกัน มีการ์ตูนประกอบด้วย น่ารักดี บุฟเฟ่ต์ที่นี่ ถ้าจำไม่ผิด ก็จะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ แบบรวม sea food กับไม่รวม
พนักงานก็บริการได้รวดเร็ว ทั่วถึงดี ที่สะดุดตาน่าจะเป็นเจ้านี่ คือ เนื้อกับหมูสับทรงเครื่องนอกจากพวกเครื่องต่าง ๆ สำหรับชาบูแล้ว ก็ยังมีซูชิไว้ให้ทานด้วย แต่พอลองทานแล้ว ไม่ค่อยเวิร์ค
ใครจะสั่ง เนื้อวัวและเนื้อหมูสไลด์ ต้องสั่งกับพนักงานต่างหากนะ เพราะไม่มีอยู่ในไลน์บุฟเฟ่ต์นะ

มาว่ากันถึงน้ำจิ้มกันบ้าง ซึ่่งนี่เอง ที่ทำให้ Evaime แตกต่างจากชาบูที่อื่น ถ้ามาเห็นถึงกับตะลึง มันจะอะไรเยอะแยะขนาดนี้เนี่ย เยอะมากกกกเงยหน้าขึ้นไป ค่อยโล่งอกหน่อยนึง เค้ามีวิธีการผสมซอสให้ด้วย แต่ขั้นตอนเยอะใช้ได้เลย น้ำซุป มีให้เลือก 3 อย่าง คือ น้ำซุปใสต้นตำรับ น้ำซุปดำสไตล์ไต้หวัน และน้ำซุปจิ้มจุ่มสไตล์อีสาน
ในรูป คือ น้ำซุปใสต้นตำรับ
จัดการใส่ผักต่าง ๆ ลงไป ตามด้วยหมูสับทรงเครื่อง . . .
รสชาติน้ำซุปใสต้นตำรับ ก็ซุปไก่ดี ๆ นี่เอง แต่ก็ชอบมากนะนี่คือหมูสไลด์ ถือว่าสไลด์ได้บางดี แต่พอทานแล้ว ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรอ่ะ ธรรมดา ๆ อาจจะเพราะว่า ทานกับซอสรสชาติแปลก ๆ เลยไม่เข้ากันไงไม่รู้ ( ผสมซอสมาได้แปลกเอง ) - -เนื้อสไลด์ ไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่ได้แย่
นอกจากนี้ยังลองสั่งกุ้งทอดเทมปุระ
อืมม . . . นี่มันกุ้งมินินี่นา ตัวเล็กมาก คำเดียวก็ทานหมดแล้ว ไม่รู้เพราะกุ้งตัวเล็กหรือเปล่า แป้งเลยเหมือนกับ กุ้งชุบแป้งทอดธรรมดา มากกว่า กุ้งเทมปุระอ่ะนะ ส่วนรสชาติก็ งั้น ๆ ถ้าไม่ซีเรียส ก็ทานเพลินๆ

โซนเครื่องดื่ม มีหลายอย่างมากมาย น้ำเปล่าก็มีบริการ เป็นขวด ๆ ให้ ดูสะอาดดี

มีเวลาทานประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ทานไม่หมดโดนปรับ !

Kagonoya ตั้งอยู่ที่ Market Place ซอยทองหล่อขึ้นมาชั้นสอง ก็เจอเลยร้านเลย . . . จัดแต่งหน้าร้านสวยดีบรรยากาศในร้าน เป็นร้านที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่น่านั่งดี อาจจะเพราะเพดานสูง เลยทำให้บรรยากาศโดยรวมโปร่งๆ แล้วทุกอย่างก็ใหม่เอี่ยม แถมเบาะนั่งก็นุ่มด้วย โอเคเลย
พนักงานที่นี่ ยิ้มแย้ม แจ่มใส การบริการถือว่า อยู่ในระดับดีเลยล่ะรายละเอียดของเนื้อ คาโกะโนยะ เป็นแบบนี้เอง
เมนูมี 2 แบบ . . . จะเป็นแบบ Buffet กับ Ala carte อันนี้แบบ Buffet นะ
เมนูของที่นี่แค่เห็นรูปอย่างเดียวก็น้ำลายไหลแล้ว . . . หมู ก็ใช้เป็นหมู S-pure ด้วยล่ะ
มาดูเมนู Buffet มี 3 แบบ คือ หมูอย่างเดียว 389++ / หมู เนื้อ 449++ / หมู เนื้อคาโกะโนยะ 999++
วันนี้ก็เลยสั่ง 449 แล้วก็ Kagonoya Beef มาต่างหากซุปมาแล้วว . . . คอมบุ กับ ซุปไก่
คอมบุ หรือ น้ำซุปสาหร่าย เราว่าทานกับเนื้อแล้ว เข้ากั๊นเข้ากัน ส่วนซุปไก่ รสชาติและกลิ่น แอบเหมือนคนอร์ไงไม่รู้อ่ะ แต่ก็อร่อยดีถาดแรกมาแล้ว . . . เนื้อ คาโกะโนย๊าาาาาา
มันแทรกเป็นลายหินอ่อนเลย กินแล้วนุ่มมากก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แตกต่างจากเนื้อปกติอย่างชัดเจน
( ชุดผักที่มาพร้อมชุด Buffet ก็จะมีเกี้ยวซ่ากับ หมู/ไก่บดปรุงรสด้วย อร่อยอีกเช่นกันนอกจากนี้ ก็จะมีเส้นอุด้ง กับโซบะมาให้ทานด้วย )หมู S-Pure ปกติไม่เคยกินเนื้อร้านไหน แล้วกินหมูได้ เพราะรสเนื้อจะเข้มกว่าหมู พอกินเนื้อเยอะ ๆ แล้วกินหมู จะกลิ่นแปลกมาก ๆ แต่ว่า หมูที่นี่ นุ่มอร่อย ไม่มีอาการที่ว่าเลย แถมแกล้มกับเนื้อได้ดีมาก ๆ ด้วยหมู มันช่างนุ่มละมุนลิ้น อร่อยมากก . . . คุณภาพเค้าดีจริง ๆ ที่อื่นที่เคยไปกิน เทียบไม่ติดเลย อยากไปกินอีกแล้ว เดี๋ยวนี้เลย ^^"

เวลาในการทาน buffet อยู่ที่ชั่วโมงครึ่งนะจ้ะ แต่เวลาแค่นี้ ก็ทานกันจน อิ่มพุงปลิ้นได้เลย