ไปเที่ยวกับบริษัทที่กาญจนบุรี ขากลับกรุงเทพมีคนแนะนำให้พวกเรามาทานที่ร้านอาหารริมแม่น้ำแควที่ชื่อว่า แพคุณอี๊ด
ด้านหน้าร้านดูเหมือนเป็นร้านอาหารทั่วไป แต่ด้านในเป็นแพอยู่ริมแม่น้ำครับ เนื่องจากคณะผมไปกันสิบกว่าชีวิต พนักงานก็จัดการต่อโต๊ะกันเป็นการใหญ่
บรรยากาศภายในร้านก็ธรรมดาๆ ไม่โด่ดเด่นอะไร ได้บรรยากาศแบบริมแม่น้ำมาช่วย ทำให้มองออกไปแล้วสบายตา
มนูปลาที่นี่น่าจะสดจริง เพราะมีกระชังเลี้ยงปลา อยู่ภายในร้านเลย
เสริฟเครื่องดื่มกันก่อนเลย ปกติผมเป็นคนไม่ดื่ม แต่เห็นแก้วเบียร์แบบนี้แล้ว เลยต้องขอออกนอกลู่นอกทางซักวัน เพราะชอบดื่มเบียร์เย็นๆ แบบถึงรสแท้ของเบียร์ ร้านส่วนใหญ่จะเสริฟเบียร์กับน้ำแข็งก้อนซึ่งทำให้รสชาติของเบียร์อ่อนลง เบียร์ที่นี่ราคาขวดละ 65 บาท
เนื่องจากพวกเราเป็นลูกค้าเพียงกลุ่มเดียวของตอนนั้น จานแรกจึงถูกเสริฟอย่างรวดเร็ว ทอดมันปลากราย สนนราคาอยู่ที่จานละ 80 บาท
เนื้อทอดมันเหนียวหนุบหนับ รสชาติอร่อยกลมกล่ม สำหรับจานนี้ผมให้คะแนนความอร่อย 4/5 เลยครับ
Good
จานต่อมาคะน้าผัดน้ำมันหอยปลาเค็ม แต่เนื่องด้วยปลาเค็มหมด จึงมาแต่คะน้าเฉยๆ รสชาติก็เลยเฉยๆ ตามไปด้วยเลย น้ำผัดไม่เข้าเนื้อผัก รสชาติก็ยังไม่ถูกปากผมเท่าไรนัก จานนี้ไม่ผ่านครับ ผมให้คะแนนแค่เพียง 2/5 คะแนน ราคาจานนี้อยู่ที่ 60 บาท
Bad!
กุ้งผัดผงกะหรี่จานนี้หนักหวานไปนิด กุ้งตัวเล็กไปหน่อย แต่รสชาติก็อร่อยพอทานได้ครับ ผมให้คะแนน 3/5 คะแนน สำหรับจานนี้ จานนี้ราคา 100 บาท
Bad!
ปลากระพงทอดน้ำปลา ทอดแบบเต็มตัว เลยทำให้ความกรุบกรอบน้อยลงไป
แต่สำหรับจานนี้ถ็ถือว่ากรอบนอกนุ่มใน น้ำซุปก็รสชาติอร่อยใช้ได้ จานนี้ผมให้คะแนน 4/5 ครับ ส่วนตัวผมชอบการทอดแบบผ่าครึ่งตัวแล้วแบออกมากกว่า จานนี้ราคาอยู่ที่ 280 บาท
Good
จานต่อมายำรวมมิตรทะเล รสชาติแปลกเอามากๆ และได้กลิ่นเหม็นๆ ด้วย
ค้นพบสาเหตุความเหม็นของจานนี้ ปูในยำทะเลจานนี้ไม่สดอย่างแรง เข้าขั้นเน่าเลยก็ว่าได้ จานนี้เลยเป็นจานที่ไม่ได้คะแนนจากผมเลย 0/5 คะแนน สั่งมาทั้งหมด 3 จานเหม็นเหมือนกันหมดทั้งสามจานและเหลือทั้งสามจาน จานนี้ราคาจานละ 80 บาท
Bad!
ต้มยำปลาคัง หม้อนี้มาแบบร้อนๆ หม้อละ 150 บาท ตักแบ่งใส่ถ้วยโลหะใบเล็กน่ารัก พึ่งเคยเห็นร้านอาหารที่ใช้ถ้วยแบ่งเป็นแบบนี้ ดูดีไปอีกแบบ ชิมน้ำซุปครั้งแรกรับรู้ถึงความแปลกของรสชาติซึ่งคล้ายกับกรดเปรี้ยว รสชาิติไม่อร่อยอย่างรุนแรง
Bad!
ถ่างตามองในน้ำซุปอย่างละเอียด ปรากฏว่าเจอโปรตีนชนิดพิเศษที่ทางร้านใส่มาให้ฟรีซึ่งเป็นสาเหตุของรสชาติกรดเปรี้ยวเมื่อครู่นี้ และมีเหมือนกันทั้งสามหม้อที่สั่งมา กลับมาดูที่จาน ปรากฏว่าเจอโปรตีนชนิดพิเศษอยู่เกลื่อนจานข้าวเลย
Bad!
หันไปดูที่ยำรวมมิตรทะเลก็เจอ กุ้งผัดผงกะหรี่ก็ด้วย โอ้แม่เจ้า มื้อนี้ผมกินเข้าไปแล้วกี่ชีวิตเนี่ย
ผมก็บอกเด็กเสริฟอย่างสุภาพว่า "น้องครับในอาหารมีมดเต็มไปหมดเลยครับ" พร้อมทั้งยื่นถ้วยต้มยำปลาคังของผมให้เขาไป
เธอก็เอาถ้วยผมเข้าไปในครัวแล้วก็เดินออกมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมทานของที่พอทานได้จนเกือบหมด แล้วถามน้องคนเดิมอีกครั้งว่า "น้องครับ เรื่องมดในอาหารว่าอย่างไรครับ"
พนังงาน:"บอกพ่อครัวแล้วค่ะ แต่คุณก็ทานเกือบหมดแล้วนะ"
ผม:"น้องลองเอาที่อยู่ในถ้วยเล็กๆ ของทุกคนเทกลับใส่หม้อซิครับ จะได้ต้มยำปลาคังเกือบครบเลย"
จากนั้นเธอก็หายไปเข้าครัวพร้อมกับเอาต้มยำปลาคังหม้อใหม่มาให้พวกเรา 1 หม้อ
ผม:"พวกเราทานกันพออยู่ท้องแล้ว และไม่มีกระจิตกระใจจะทานอะไรอีกแล้วครับ"
จากนั้นตอนคิดเงิน ทางร้านก็คิดพวกเราเต็มราคา ทั้งๆ ที่มีมดอยู่เกือบทุกจานและปูก็เน่า
ผม:"น้องครับ ไปเรียกผู้จัดการมาคุยหน่อยได้ไหมครับ"
ซักพักก็มีน้องอีกคนซึ่งน่าจะเป็นคนเก็บเงินมาคุยกับพวกเรา ผมก็เล่าเหตุการณ์ซึ่งเขาน่าจะรู้อยู่แล้วให้ฟังอีกรอบ เธอบอกว่าเธอไม่ใช่ผู้จัดการและเจ๊จะราคาให้เราได้แค่ 5% เท่านั้น
ผม:"งั้นเรียกเจ๊มาคุยได้ไหมครับ"
เธอเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วก็กลับมาบอกว่า"เจ๊บอกให้คุณเดินไปคุยกับแกเองค่ะ"
ได้ยินประโยคนี้แล้วอึ้งเลย เขาไม่มาหาเรา เราเดินไปหาเองก็ได้แค่นี้ แต่ต้องรอแกกดเครื่องคิดเลขและทำอะไรต่อมิอะไรอยู่อีกครู่หนึ่งกว่าจะได้คุย ราวกับว่าลูกน้องจะเข้าไปคุยกับเจ้านายไม่มีผิด
ผม:"เจ๊ครับ อาหารของเจ๊มีมดเต็มไปหมดเลยครับ"
เจ๊:"ลดให้ได้ 5% เพราะคุณก็ทานจนเกือบหมดแล้ว"
ผม:"เจ๊อย่าดูที่หม้อซิครับ ลองไปดูที่ถ้วยของแต่ละคน เหลือเต็มไปหมด"
จากนั้นเจ๊ก็ตัดบทแล้วยืนยันที่ 5% เหมือนเดิม
ผม:"แล้วปูมันก็เน่าด้วยนะครับ"
เจ๊:"ถึงมันไม่สดแต่เราก็ไม่ได้ซื้อตามตลาดทั่วไป เราสั่งมาโดยตรงจากเจ้าประจำ"
ผมคิดในใจว่าถ้างั้นวันหลังเจ๊ไปซื้อที่ตลาดจะดีกว่า
ผม:"งั้นผมขออนุญาติเจ๊เขียนรีวิวร้านเจ๊ในอินเตอร์เน็ตนะครับ"
เจ๊:"โทรหาเฮีย เฮียก็บอกลดได้แค่ 5% เท่านั้น"
สรุปผมก็ได้ค่าปลอบใจมา 141 บาท จากราคาอาหารทั้งหมด 2824 บาท
มดในอาหารไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และมันก็ไม่อันตรายอะไร แต่มันก็สื่อถึงความไม่สะอาดในการปรุงอาหาร แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลยเมื่อเทียบกับการดูแลลูกค้าที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกแย่ได้มากขนาดนี้ จากพฤติกรรมต่างๆ ของทางร้าน และอาจจะเสียลูกค้า (โดยเฉพาะคนที่ผ่านมาอ่าน Blog ผม) ไปอีกหลายคน เสียรายได้มากมายในอนาคต เพราะหวังเพียงแค่เงินไม่กี่บาทในระยะสั้นๆ ถึงแม้ว่าคุณจะทำป้ายหน้าร้านสื่อถึงความเอาใจใส่ลูกค้าแค่ไหนก็ตาม เพราะข้อมูลข่าวสารทุกวันนี้รวดเร็วและกว้างไกลกว่าแต่ก่อนมากนัก
ถ้าผมเป็นเจ้าของร้านอย่างน้อยๆ ก็จะไม่คิดเงินจานที่มีปัญหาและออกมาขอโทษอย่างจริงใจ หรือถ้าต้องการรักษาลูกค้ามากกว่านั้นก็อาจจะให้ลูกค้าทานฟรีในมื้อนั้นไปเลย เพราะผมกำลังให้ความจริงใจกับลูกค้า สิ่งที่ผมจะได้กลับมาคือความไว้เนื้อเชื่อใจนั่นเอง
วันที่ไปกิน: Sep 18, 2011
คะแนนด้านอื่นๆ:Taste
2 |
Environment
3 |
Service
1 |
Clean
1 |
Price
3แนะนำ
0