นักรีวิวร้านอาหาร

โปรแกรมการเดินทางของเราต้องผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์
เล็งกันไว้ตั้งแต่ทีแรกแล้วว่า ต้องแวะร้านนี้ให้ได้
เคยมากินเมื่อหลายปีก่อน แล้วติดใจกับไก่ย่างหอมๆ กับส้มตำทอดอร่อยๆ

ร้านบัวตอง
อยู่ตรงสามแยกวิเชียรบุรี โซนนี้จะมีแต่ร้านขายไก่ย่างเต็มไปหมด
ต้องดูป้ายดีๆ เดี๋ยวจะเลี้ยวผิดร้านทีแรกเพื่อนๆ จะสั่งไก่ย่างแค่ครึ่งตัว
แต่ไหนๆ มาถึงถิ่นเค้าทั้งที สั่งไปเลยตัวนึงเต็มๆ เถอะ
เค้ามีให้เลือก 2 แบบ แบบย่างแห้งๆ กับย่างแฉะหน่อยๆ
ถ้าแบบแห้งกลัวจะแข็งและเหนียวเกินไป
พวกเราก็เลยสั่งแบบแฉะ เนื้อจะได้นุ่มๆ หน่อยมีน้ำจิ้มเป็นกระปุกๆ ตั้งไว้ให้เลยที่โต๊ะ
ไก่ย่างวิเชียรบุรีมีที่เด็ดอีกอย่างก็ตรงน้ำจิ้มอร่อยเข้มข้นแบบนี้นี่ล่ะ
เป็นน้ำจิ้มมะขามเปียกกับน้ำตาลและปรุงรสนี่ล่ะข้าวเหนียวที่นี่ก็ไม่เหมือนใคร
มีทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำในห่อเดียวกัน
ห่อมาในใบตองนึ่ง หอมกลิ่นใบตองด้วย
แต่รู้สึกจะเละไป แฉะเกินไปอ่ะนั่งรถมาเหนื่อยๆ ต้องกินอะไรร้อนๆ เรียกพลังซะหน่อย
แกงอ่อมผัก
อยากกินผักกับซดน้ำแกงร้อนๆ ไม่ผิดหวังเลย
แซ่บถึงใจอีกหนึ่งเมนูเด็ดของทางร้าน
ส้มตำทอดกรอบ
เคยกินส้มตำทอดครั้งแรกก็ที่ร้านนี้เมื่อเกือบสิบปีก่อน
มาวันนี้รสชาติยังคงอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เส้นมะละกอที่เค้าเอาไปทอดกรุบกรอบดี
ไม่นิ่มเละเหมือนร้านอื่นๆส้มตำหอยดองต่ออีกหนึ่งจาน
เผ็ดเรียกเหงื่อได้ดี อร่อยไม่ผิดหวังพนักงานที่นี่อินเทรนด์นะ
อุปกรณ์คิดเงินสุดไฮเทค
บริการรวดเร็วทันใจ ประทับใจมากๆ
ขนาดช่วงเทศกาลคนเยอะๆ อาหารก็ไม่ต้องรอนาน
บริหารจัดการได้ยอดเยี่ยมไปเลย

ก่อนไปสมุยหาข้อมูลร้านอาหารอร่อยๆ ไว้ตั้งหลายที่
แต่ด้วยความที่ไปคนเดียว เลยตะเวนชิมได้ไม่เยอะเท่าไหร่
"ครัวชาวบ้าน" เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีคนแนะนำ

ร้านนี้อยู่บนถนนรอบเกาะ ระหว่างหาดละไมและหัวถนน
เลยหินตาหินยายมาหน่อย ร้านอยู่ทางซ้ายมือ ใกล้ๆ กับวัดศิลางูเข้ามาในร้าน จะได้นั่งชมวิวทะเลใกล้ๆ ด้วย
ถ้าแดดไม่แรงอย่างนี้ ว่าจะเดินลงไปถ่ายรูปทะเลซะหน่อยเนื่องจากมาคนเดียว ก็เลยสั่งอาหารได้ไม่เยอะเท่าไหร่ เรียกว่า แค่สั่งมาชิมแล้วกัน
มาถึงถิ่นทั้งที ต้องไม่พลาดเมนูนี้ "หอยนางรม" ตัวใหญ่ๆ สดๆ
ตัวละ 45 บาท จัดมา 2 ตัว พร้อมเครื่องเคียง แต่ว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่ไม่ค่อยแซ่บเลยเพราะชื่อ "ยำครัวชาวบ้าน" ก็เลยลองสั่งมาชิม จานละ 120 บาท
คล้ายๆ ยำทะเลทั่วไป แต่เปลี่ยนจากปลาสด มาเป็นปลาทอดแทน
จานนี้ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ เป็นยำที่ไม่มีรสชาติเปรี้ยว เผ็ดเลย เมนูนี้ไม่เคยเห็นที่ไหน แต่เพื่อนแนะนำว่า ถ้ามาสมุยแล้วต้องสั่ง
"เคยจี่" 60 บาท
เค้าเอาเคยไปใส่ไว้ในกะลามะพร้าว แล้วเอาไปปิ้งไฟ หรือที่เรียกว่า จี่ไฟ นี่ล่ะ
เค็มได้ใจจริงๆ ต้องกินคู่กับผักแนม หรือจะคลุกข้าวกินเล่นก็ได้มีผักสดมาให้อีก 1 จานเล็กๆ
แต่มะเขือมีตำหนิไปนิดนึง กินครึ่งลูก ทิ้งครึ่งลูกถ้ามากันหลายๆ คนก็ดี จะได้ลองสั่งอาหารมาชิมได้หลายอย่างหน่อย
มาคนเดียว สั่ง 3 อย่าง แต่ก็กินไม่หมด
มื้อนี้จ่ายไป 300 บาท ถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับตังค์ในกระเป๋าแต่ละคนเนอะ

วันนี้มาต่อกันอีกที่กับร้านขนมจีนชื่อดังของเกาะสมุย
"ขนมจีนป้าไมตรี"
อยู่ตรงแยกหาดแม่น้ำ เลี้ยวฝั่งตรงข้ามกับทะเล เข้าซอยไปนิดเดียว
จะเห็นร้านตึกแถว 2 ห้องอยู่ซ้ายมือเครื่องเคียงสำหรับกินกับขนมจีนครบครัน
ทั้งผักสด ผักดอง และไข่ต้ม ด้วยความใจเสาะ และกลัวเสาะท้อง มื้อเช้าๆ แบบนี้ไม่กล้าสั่งขนมจีนแกงไตปลามากินเลย
ได้แต่สั่งแบบเบาๆ คือ "ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่" จานละ 35 บาท
รสชาติบอกไม่ถูก ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลแล้วกันนะเห็นโถขนมหวานวางอยู่แบบนี้เป็นไม่ได้เลย ขอสั่งมากินล้างปากซะหน่อยเถอะ"หวานๆ เย็นๆ" ถ้วยละ 20 บาท
แพงใช่เล่นนะเนี้ย

ร้านอาหาร "ช้างเผือก" อยู่เลยตลาดน้ำอัมพวา ผ่านหน้าอุทยาน ร.2 ไปประมาณ 2 กม.
ตรงข้ามกับวัดบางพรหม ร้านอยู่ทางขวามือ
ต้องสังเกตุให้ดีซะนิดนึง เพราะด้านหน้าจะไม่เหมือนร้านอาหาร แต่เหมือนบ้านพักอาศัยธรรมดามากกว่า
แต่ยังดีว่ามีป้ายชื่อร้านอาหารให้เห็นชัดเจนเมนูแนะนำตัวใหญ่ๆ มีแต่รายการที่น่าลองทั้งนั้นเลย
แต่ถ้ามากินที่ร้านนี้ ขอเตือนนิดนึงว่า อย่าสั่งอาหารหลายอย่าง เพราะอาหารเค้าจานใหญ่มากวันนี้ไปกัน 5 คน สั่งอาหารแค่ 4 อย่าง อย่างที่บอกว่า อาหารเค้าจานใหญ่ ไม่กล้าสั่งเยอะ กลัวกินไม่หมด
ว่าด้วยอาหารจานแรกดีกว่า "ปลาเต๋าเต้ยโจรสลัด"
ลักษณะของปลาเต๋าเต้ยคือปลาจาระเม็ดชนิดหนึ่ง แต่อยู่ในน้ำทะเลที่ลึกกว่า สังเกตุจากครีบที่เป็นสามเหลี่ยม
ระหว่างรออาหาร ป๊าก็เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีคนจีนอยู่คนหนึ่ง อยากกินปลาเต๋าเต้ยมาก
แต่ไม่มีเงิน ถึงขนาดต้องกลับไปเมืองจีนขายที่ดินเพื่อที่จะเอาเงินมาซื้อปลาเต๋าเต้ยกิน (จริงเหรอ???)ตอนแรกๆ ที่เค้ายกมาเสิร์ฟก็งงๆ กันว่า เราไม่ได้สั่งปลาเต๋าเต้ยทอดกระเทียมนะ
แต่ทำไมมาแค่ 2 ตัวโรยกระเทียมแบบนี้ล่ะ
อีกสักพักก็ได้ถึงบางอ้อ เพราะเค้ายกโจรสลัดมาเสิร์ฟถึงโต๊ะให้อีกจาน

หน้าตาโจรสลัดที่กินกับปลาเต๋าเต้ย
คล้ายๆ กับว่า เอากุ้ง ปู และปลาหมึกมาผัดกับน้ำราด 3 รสนี่ล่ะ แต่อร่อยดี เมนูที่ตั้งใจมากินคือ "กุ้งอบโค้ก" แต่วันนี้กุ้งอบโค้กเลยหมดแต่หัววัน
เปลี่ยนเป็น "กุ้งแม่น้ำสามรส" แทนก็ได้
มากัน 5 คน เค้าเลยจัดกุ้งแม่น้ำมาให้ 5 ตัวโตๆ จะได้ไม่ต้องแย่งกัน ตัวใหญ่จนล้นจานออกมาเลย
เอาไปคลุกๆ ในน้ำราด 3 รสอีกรอบให้มันเข้าเนื้อ กุ้งตัวเดียวกินข้าวเกือบหมดจานขาดเมนูน้ำๆ ก็เลยสั่งต้มยำมาอีกสั่งหม้อ มีให้เลือก 2 อย่าง คือ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ กับต้มยำรวมมิตร
ไหนๆ เราก็มีกุ้งแม่น้ำสามรสแล้ว เลยขอสั่งเป็น "ต้มยำรวมมิตร" ดีกว่า
อู๊ย... ซดน้ำร้อนๆ เผ็ดๆ ของต้มยำ สะใจดีจริงๆตบท้ายด้วย "ข้าวผัดกรรเชียงปู" อีกจาน
ข้าวเค้าเม็ดร่วนดีนะ พร้อมกรรเชียงปูอีกตรึม
แต่แปลกใจ ทำไมข้าวผัดร้านนี้ถึงเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสพริกแบบนี้หว่า
ลองเอามาคลุกข้าวดูซะหน่อย ได้รสชาติที่แปลกและแตกต่างไปอีกแบบจริงๆ ด้วยอิ่มเต็มๆ กับมื้ออร่อยมื้อนี้
แต่ต้องมีครั้งต่อไปอีกแน่นอน จะมากิน "กุ้งอบโค้ก" ให้ได้เลย
อยากรู้นักว่าเป็นยังไง และอร่อยขนาดไหน

สำหรับราคานั้น แพงเอาเรื่องเหมือนกัน
แต่คิดว่าเหมาะสมกับปริมาณ คุณภาพ และรสชาติของอาหารแล้วล่ะ
ปลาเต๋าเต้ยโจรสลัด น้ำหนัก 9 ขีด ราคา 720 บาท
กุ้งแม่น้ำสามรส น้ำหนัก 1.1 กก. ราคา 935 บาท
ข้าวผัดกรรเชียงปู และต้มยำรวมมิตร อย่างละ 300 บาท

เย็นนี้พวกเราวางแผนไว้ว่าจะมาจอดที่ "สถานีอารีย์" กัน
เห็นเค้าบอกว่า แถวนี้มีของอร่อยๆ เพียบ
ร้านแรก คือ "ปัง-หยา-อารีย์"
ลงจากรถไฟฟ้า เข้าซอยอารีย์ พหลโยธิน 7 ไปอีกประมาณ 150 เมตร จะเห็นรถเข็นติดไฟสว่างๆ สะดุดตาอยู่ถ้าใครจะไปอุดหนุน อย่าลืมดูเวลาดีๆ นะคะ
เค้าขายแค่จันทร์-เสาร์ 5 โมงเย็น - 5 ทุ่มเท่านั้น ส่วนวันอาทิตย์หยุดจ้าเมนูอาหารพร้อมราคา
บอกอย่างชัดเจนขนมปังนึ่งที่นี่ไม่แพงเลย ชุดละ 25-30 บาท และขนมปังปิ้ง แผ่นละ 8-12 บาท
ยังมีขนมปังเย็นอีก แต่คราวนี้ไม่ได้สั่ง ไม่ไหว กินมาทั้งวันแล้ว
โดยความเห็นส่วนตัว คิดว่า สังขยาชานมอร่อยกว่าใบเตยนะขนมปังปิ้งมาร้อนๆ กรอบๆ ราดมาได้ฉ่ำเยิ้มมากๆ
รสชาติกำลังดี ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป
รับรองว่าต้องถูกใจคนที่ชอบกินขนมปังปิ้งแน่ๆเครื่องดื่ม 3 สไตล์ แก้วละ 20 บาท
แดงมะนาวโซดา นมสดเย็น และโกโก้เย็น
ถ้าไม่ติดว่าต้องไปต่ออีกร้าน จะสั่งมาเพิ่มอีกนะเนี้ย อร่อยโดนใจ