นักรีวิวร้านอาหาร

ต่อด้วยภาค2 ของร้านอาหารเรือนแก้ว
ภาค2 จะเป็นเมนูและรสชาติอาหารเพียวๆแล้วครับ แต่ก็ขออภัยนะครับที่ถ่ายมาน้อย เพราะไม่งั้นจะกินไม่ทันคนอื่น หน้าตาขอเมนู ยังใช้รูปเล่มแบบเก่าคิดว่าน่าจะเก็บได้ทันก่อนที่น้ำจะท่วม ด้านในจะบอกหมดทุกอย่าง รายการอาหารและราคา และในบางหน้าก็จะมีรูปภาพประกอบให้เราได้ตัดสินใจกัน มีการติดดาวเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจแถมมาด้วยเมนูแรกที่ส่งมาถึงโต๊ะคือ ข้าวผัดกุ้ง-ปลาหมึก รสชาติดี ข้าวละเอียดร่วน หอมกลิ่นควันนิดๆ กุ้ง-ปลาหมึกอีกหน่อย กุ้งตัวใหญ่ ปลาหมึกชิ้นโต กินทีเต็มปากเต็มคำมาก รสชาติออกหวานเค็มมัน บีบมะนาวใส่ลงไปด้วยอีกหน่อยก็อร่อยติดเปรี้ยว ตามฟอร์มของข้าวผัดครับ จานนี้ให้ 10/10 เหมือนเดิมเลยขาหมูทอดกรอบ จาานนี้อร่อยมาก เมื่อก่อนจะมีแกนกระดูกมาด้วยมาแบบทั้งขา จานใหญ่มากกก แต่เดี๋ยวนี้สะดวกขึ้นหั่นมาให้เรียบร้อย น้ำจิ้มมี 3 ชนิด น้ำจิ้มหวานแบบน้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มเปรี้ยวเผ็ดแบบซีฟูด และซีอิ้วหวานแบบจีน และมีผักดองมาให้ด้วยอีกหนึ่งถ้วยเล็กๆ
ขาหมูหนังกรอบ เนื้อแน่น มีติดมันนิดหน่อย เวลาเคี้ยวจะได้กลิ่นน้ำมันหมูด้วยนิดนึงทำให้หอมกรุ่นในปากได้อีกสักพัก ถ้าเราเติมน้ำจิ้มไปด้วยเริ่มต้นที่ซีฟูด ซีอิ้วหวาน และน้ำจิ้มไก่ ค่อยๆทานทีละครั้งตามลำดับ จะได้รสชาติที่แปลกไปครับ มันจะค่อยๆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายเราก็รวมน้ำจิ้มทั้ง 3 ไว้ในคำเดียว โอว!!! รสชาติสุดยอดดดดดดดดดดด จานนี้ให้เต็มไปเลยครับ 10/10 เพราะชอบเมนูนี้เป็นเมนูใหม่ที่เพิ่งเริ่มสั่งในปีหลังมานี้ ตอนแรกก็ไม่ค่อยอยากทานเท่าไหร่ เพราะมันก็แค่ปลาดูกฟูแล้วก็เอามาทำเป็นกระเพา ไม่น่าจะมมีอะไรมาก แต่ในที่สุดก็ต้องลอง พอลองแล้วก็ติดใจสั่งมันทุกรอบที่มา ตัวปลาดูกฟูกรอบมาก จนอาจจะคิดว่ามันแข็ง แต่ก็ไม่แข็งเพราะมันกรอบนุ่มมาก เมื่อนำมาผัดรวมกับสูตรกระเพาก็เลยได้รสชาติเค็มเผ็ดออกมาด้วย และกระเพากรอบก็ทำให้จานนี้เลี่ยนมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นแนะนำให้ทานกับข้าวเปล่า หรือข้าวผัดจะดีกว่าครับ 8/10 แค่นี้แล้วกันนะ เพราะเลี่ยนไปนีสสสสสสนึงยำ 3 กรอบ ของที่เรือนแก้วถือว่าพอใช้ได้นะครับ เพราะใช้กระเพาะปลาแทนหนังหมู ปลาหมึกทอดกรอบ แล้วก็เม็ดมะม่วงเป็นกรอบที่ 3 รสชาติน้ำยำแซบดีครับ เปรี้ยวหวานได้รสชาติ ออกเผ็ดนิดหน่อยพอให้เจริญอาหารได้มากขึ้น ถือว่ารสชาติดีในระดับหนึ่ง แต่มาเสียงตรงปลาหมึกทอดกรอบเนี่ย มีกลิ่นแปลกๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เอาไปแค่ 5/10 พอแล้วกันนะขนมครกเรือนแก้ว จานนี้เป็นของว่าง ของทานเล่น หรือจะเป็นขนมหวานก็ได้ เป็นรายการอาหารแนะนำของร้านนี้เหมือนกัน มีให้เลือก 4 รสชาติ ผัก ข้าวโพด เผือก ฝักทอง รสชาติจะไม่โดดเท่าไหร่เพราะมีน้ำกระทิที่ทำเป็นขนมครกคอยบังคับรสชาติหลักอยู่ ให้ 10/10 ไปเลยจานสุดท้ายของวันคือปลา 3 รส ไม่แน่ใจว่าเป็นปลาอะไร รสชาติก็ 3รสอย่างว่าครับ เปรี้ยว หวาน เค็ม แต่ติดตรงที่สีมันดูดำๆไปหน่อย แต่รสชาติก็อร่อยนะครับ ตัวปลาทอดจนกรอบตั้งแต่หัวยันหาง ทานได้ทั้งตัว ตรงครีบปลาก็สามารถทานได้กรอบๆอร่อยดีครับ แต่ก็ติดตรงที่เลี่ยนเหมือนเดิมครับ จานนี้ควรทานกับข้าวเปล่าหรือข้าวผัดจะดีกว่า จานนี้ให้ไป 9/10 แล้วกันนะ

สวนอาหารพื้นที่กว้างขวาง แต่บางวันก็เต็มจนไม่รู้จะเต็มยังไง ขอเล่าเล็กๆน้อยๆก่อนนะครับ
เรือนแก้วเป็นร้านอาหารที่ครอบครัวไปหลายรอบมาก ในช่วง 5-6 ปีหลังนี้ ไปจนไม่อยากไปแระ แต่เวลาคิดอะไรไม่ออกก็ไปที่นี่ทุกที
เมื่อก่อนที่นี่เป็นร้านอาหารที่ดีมาก บริการดี พนักงนาเยอะ แล้วก็บริการทั่วถึงมาก แทบจะไม่ต้องยกมือเรียกพนักงานเลย แค่เงยหน้าแล้วก็มองก็เจอพนักงานแล้ว แต่ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งมโหฬาลที่มีนายกบริหารได้ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ร้านนี้แทบเจ๊งเลยครับ เพราะต้องปิดไปนานหลายเดือน พนักงานก็ต้องกินต้องใช้สุดท้ายเลยต้องแยกย้ายกันไป จน 2 เดือนกว่านั่นหละถึงจะมาเปิดได้อีกที พอคราวนี้มาเปิดพนักงานก็ไม่พออะสิ พนักงานเลยเหนือยกันระนาวทำให้บริการแย่ลง ต้องคอยกวักมือเรียก บางครั้งไปถึงโต๊ะนั่งมีแต่ก็ยังไม่ได้เก็บ สงสารก็สงสาร แต่ก็หิวอะ
...เอาหละ พอแระ มาลุยเรื่องของเรากันดีฝว่าาาาา
ขอพูดแบบรวมๆนะครับ เพราะว่าไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากมายนัก
บรรยากาศในร้าน (ตั้งแต่ 1-6) ก็จะจัดแบบสวนอาหาร มีชายคา มีการประดับด้วยต้นไม้ มีขอบรั้วกั้น มีสระน้ำไว้สำหรับทำให้เป็ดมาว่ายน้ำเล่นด้วย ที่จอดรถก็กว้างขวางพอที่จะรองรับรถยนได้ประมาน 50 คัน แต่ถ้าจอดรถกันไม่พอจริงๆ ริมถนนด้านหน้าร้านก็ยังสามารถจอดได้นะครับ แต่ไม่รับประกันว่ารถจะยับมั้ย อิอิในส่วนของสถานที่ทานอาหาร (ตั้งแต่ 7-11) ก็มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน มีการกั้นรั้วให้มีลักษณะส่วนตัว แต่ก็ยังเปิดโล่งเพื่อรับลมธรรมชาติได้ และบางส่วนก็จัดแบบ Outdoor เพื่อให้ได้บรรยากาศธรรมาชาติแบบเต็มที่ การตกแต่ใช้ต้นไม้ขนาดเล็ก ไม้พุ่มเตี้ยตกแต่งให้ดูมีสีสันมากข้น เพราะโดยรวมร้านจะทาสีรั้วไม้ด้วยสีขาวเป็นหลัก และเน้นที่บรรยากาศธรรมชาติ และดูร่มรื่น แต่หลังๆมานี้บรรยากาศของร้านออกจะดูอึดอัดไปหน่อย เพราะรู้สึกว่าจะเติมโต๊ะเก้าอี้เข้ามาเยอะมากทีเดียวเพื่อรองรับลูกค้า ในร้านยังมีสิ่งมีชีวิตหลงเหลือให้เราได้สัมผัสกัน ทั้งเป็ดและปลา แต่ก็ขอแนะนำว่าอย่าโยนพวกที่มีน้ำมันเยอะๆลงไปนะ น้ำจะเน่าเอาได้ ภาค 1 นี้ก็ไม่มีอะไรมากเพราะเป็นเรื่องของบรรยากาศโดยรวมในแต่ละส่วนของร้านนะครับ

ตรงแถวถนนกาญจนามีร้านอาหารใหญ่ๆอยู่หลายเจ้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอร่อยกันเยอะแยะ แต่ไม่อร่อยก็อาจจะมีแค่บางเมนู แต่สำหรับวันธรรมดาที่หาของกินย๊ากกกกยากบางเวลา ยิ่งช่วงเย็นที่พ่อค้าแม่ค้ากำลังตั้งร้านยิ่งไปรบกวนอะไรมากไม่ได้ แต่ก็บังเอิญไปเจอหมูย่างเจ้านี้พอดี กลิ่นหอม มีหมู่ย่างวางเป็นแผงมาแต่ไกล แต่พอเข้าไปจวนจะถึงก็มีมอร์เตอร์ไซมาตัดหน้าไปหมดเลย เซ็งเป็ดร้านหมูย่างนมสดเจ้านี้ไม่มีชื่อร้าน แต่มีป้ายหน้าร้านไว้เฉยๆว่าหมูย่างนมสด ใครสนใจก็ลองหาดูนะครับ น่าจะมีเฟรนชายอยู่หลายเจ้าเชียว แล้วกลิ่นก็หอมเตะจมูกมาแต่ไกลสภาพของถาดวางหมูที่โล่งไปแล้ว เพราะขี้เกียดวิ่ง เลยโดนมอร์เตอร์ไซตัดหน้าไป เลยถามป้าเขาว่าเมื่อกี้เขาซื้อไปกี่ไม้ เพราะเห็นแต่ไกลว่าน่าจะเยอะอยู่ ป้าแกเลยบอกมาว่า 12 ไม้ เขามาซื้อแบบนี้ประจำ ข้าวเหนียวอีก 4 ถุง สภาพของหมูหมักที่ยังไม่ได้ถูกย่าง มันเยอะมาก ได้ข่าวว่ ป้าแกวางปุ๊บก็มีคนเล็งเดินมาซื้อทันทีถ้าใครลดความอ้วนเดินผ่านให้ไวเลยนะครับ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน เพราะกลิ่นหอมมากกกกกกกกกกก สีสันก็น่ากินมากกกกก เห็นแล้วน้ำลายสอเลยสภาพของหมูย่างที่นำมาวางพักไว้ แต่ผมก็เหมาๆไปเลย 3 ไม้รวด ไม่เหนียว กินเพียวๆ ว้าวววววว บ่องตงว่าอร่อยมากกกกกก เค็มๆ หวานๆ รสชาติหมูติดมัน น้ำมันจากมันหมูบางๆทำให้เนื้อหมูที่เกือบแข็งนุ่มขึ้น รสชาติเค็มหวาน ช่วยให้หมูย่างกินได้อย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว เรื่องรสชาติให้ไปเลย 8 คะแนน ขอหัก 2 คะแนน เพราะเดินไปซื้อไม่ทันเลยต้องรอ 555ไอน้องชายตัวดี ให้มันชิมแค่คำเดียว แม่มมมมมมล่อซะทั้งไม้ โกรธมาก ฟ้องแม่ดีกว่าอีกไม้นึงที่เพิ่งเอาออกมาจากถุงกลิ่นหมอไปทั่วรถ จนแม่ด่าเลย อิอิ แต่ไม่แคร์ ก็มันอร่อยอะ

ตามเส้นถนนกาญจนายังมีร้านอร่อยๆมากมายอีกหลายร้าน ทั้งที่เป็นแบบร้านอาหารสุดหรู ร้านอาหารในตึกแถว หรือแม้กระทั่งเพิงหมาแหงนข้างทางก็มมีให้ได้พบเห็น ขึ้นอยู่กับเวลาในขณะนั้น แต่ถ้าดึกๆหน่อย หิวๆ ก็ต้องร้านนี้เลย กฤษฎา ปกติผมก็ไม่รู้ว่าชื่อร้านว่าอะไรหรอกครับ แต่พอต้องมากรอกข้อมูลก็เลยต้องมีการสังเกตุหน่อยว่าชื่อร้านชื่ออะไร เพราะปกติจะเรียกแค่ เตี๋ยวหมูหน้าปากซอยตู้กระจกสำหรับใส่เครื่องปรุงต่างๆในก๋วยเตี๋ยว แม่ค้าก็จะจัดเรียงมาแบบลวกๆ แต่ที่เห็นเนี่ย คือจะหมดแล้ว เลยหลอมแหลมๆไปเยอะเลยหน้าตาแม่ค้าสุดสวย ที่พอถ่ายรูปก็จะบอกว่า เดี๋ยวต้องคิดตังค์ค่าถ่ายรูปซะแล้ว ไม่งั้นต้องเอาไปลงเน็ตให้ด้วยนะ เฮฮาเป็นที่สุดตอนกำลังยุ่งๆ ก็เลยแอบถ่ายมา ลีลาพริ้วไหวมาก กระซวกกระชอนที ตักหมู หยิบเครื่อง บลาๆๆๆ ฉวัดเฉวียนมก ตรงส่วนนี้เป็นหน้าร้านสำหรับขายก๋วยจั๊บ อร่อยไม่แพ้กัน มีเครื่องนู่นนี่เยอะแยะ จะใส่อะไรไม่ใส่อะไรบอกได้ส่วนด้านหลังของตู้ก๋วยจั๊บ มีหม้อสำหรับข้าวสวยสำหรับคนที่สั่งอาหารประเภทเกาเหลาจะได้ทานกับข้าวสวยอร่อยๆบรรยากาศของร้านกฤษฎา ที่เปิดทางเข้าให้เหล่าลูกค้าได้เดินเข้าไปทานด้านใน และสามารถสั่งอาหารได้ง่ายๆสำหรับกลุ่ม Take homeมาแล้วก๋วยจั๊บอร่อยๆ ซื้อมาแล้วมานั่งทานที่บ้านก็อรอ่ยมิใช่น้อย รสชาติของก๋วยจั๊บ ก็จะเป็นประเภทเค็มหวาน หอมกลิ่นเครื่องยาจีนนิดๆ ไม่ฉุนนเกินไป ส่วนเส้นก๋วยจั๊บก็นุ่มไม่แข็งหรือไม่นิ่มจนเกินไป ตอนเทออกมจะมีน้ำจากเส้นก๋วยจั๊บค้นๆมาด้วย ตอนแรกยังงงๆว่ามันพอผสมกับน้ำซุปแล้วมันจะอร่อยมั้ย ปรากฎว่าอร่อยครับ มันทำให้น้ำซุปข้นขึ้นเล็กน้อย ตัดรสเค็มโดดออกไปได้เยอะเลย แล้วพวกเครื่องต่างๆ ก็รู้สึกว่าไม่เหม็น เพราะบางเจ้าใส้เขาจะมีกลิ่นเหม็นนิดๆ แต่เจ้านี้เหมือนเขาจะล้างจนสะอาด อาจจะแช่น้ำเกลือเล็กน้อยเพื่อขัดสิ่งสกปรกจากใส้ทิ้ง เพราะได้รสชติเค็มนิดๆด้วย ชามนี้ให้ 10/10 เลยครับชามนี้เป็นของทางฝั่งก๋วยเตี๋ยวครับ เป็นเส้นเล็กน้ำ รสชาติอร่อยไม่แพ้กัน เส้นลวกมาได้กำลังดี แต่ด้วยความที่เป็น Take home เส้นเลยติดกันเป็นก้อน คิดว่าเขาคงไม่ได้คลุกน้ำมัน เพราะชามนี้เป็นของท่านแม่ ซึ่งไม่ทานน้ำมันครับ ส่วนน้ำซุปใส รสชาติเน้นเค็มมัน รสชาติน้ำต้มกระดูกเข้มข้นมาก พอใส่น้ำลงในชามเส้นก็จะเริ่มแตกออกจากกัน สวนเครื่องต่างๆก็ไม่ถึงกับเป็นของคุณภาพ แต่ก็ยังอร่อยพอที่จะสู้กับของในห้างได้เหมือนกัน ชามนี้ให้ 10/10
ใครที่อยากทานก๋วยจั๊บ และก๋วยเตี๋ยวยามดึกก็ขอแนะนำนะครับ อยู่แถวถนนกาญจนา ก่อนเข้าซอยจรัญ 13

ในตลาดเซฟอี ยังมีร้านแผงลอยข้างทางอีกเยอะครับ มีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป บางทีก็มาขาย บางทีหายไป 2 เดือนค่อยโผล่มา แต่สำหรับร้านนี้ ชื่อร้านที่เห็นชัดเจนคือ รวยดี โรตี+ชาชัก ชื่อร้านเท่มาก ครั้งแรกที่เห็นก็มองผ่านไป เพราะเห็นว่าเป็นร้านโรตีธรรมดา แต่พอเดินกลับมาอีกรอบ กลิ่นหอมดีแฮะ เลยต้องแวะซะหน่อย แต่พอได้แวะแล้วก็ ฮืมมมมมมมมมม คนขายหน้าตาแซบมาก หล่อมาเชียว ได้ข่าวว่าเก้งกวางตกเย็นต้องมาแอ๊วพ่อหนุ่มคนนี้ประจำ ป้ายเมนูและป้ายชื่อร้านรวบยอดมาให้เห็น โรตี มะตะบะ และรายนามของชาชัก แต่ว่าผมไม่เห็นส่วนที่เขาจะทำชาชักนะพอสั่งปุ๊บก็ลงมือทันที หยิบแป้งโรตีมาจากหม้อข้างๆตัว แล้วก็เอามาตี ตุบๆๆ แปะๆๆๆ อยู่ตรงที่ว่างหน้าพ่อค้า คล่องแคล่วมาก เนียนๆไปโรตีกรอบที่เตตียมไว้พร้อมสำหรับเตรียมให้ลูกค้า เพราะโรตีกรอบน่าจะต้องใช้เวลาในการทอดโรตีพอสมควรเลยต้องมีการทอดเตรียมเอาไว้ก่อนเครื่องสำหรับมะตะบะ หรือพวกเครื่องต่างๆสำหรับทำโรตีหน้าอื่น ลองขอพ่อค้าชิมดู ก็รสชาติดีนะคับ เค็มๆมันๆ ได้กลิ่นเครื่องแกงขมิ่นโชยๆตลอดเวลา ส่วนที่เหลืออีก 2 อันเป็นพวกผักซอยต่างๆ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากอีกหนึ่งลีลาในการทำโรตี คล่องแคล่วมาก ตักน้ำมันจวกๆๆๆ เครื่องปรุงต่างๆของพ่อค้า เรียงอย่างเป็นระเบียบ หยับจับง่าย พรึบพับๆตลอดเวลาลีลาการพลิกโรตี ก็ดูดีไม่น้อย บอกพ่อค้าได้นะครับว่าต้องการแบบกรอบหรือแบบนิ่ม เขาก็จะสามารถทำให้คุณได้เม็ดมะม่วงหิมมะพาน อันนี้ใครชอบโรตีใส่เครื่องแบบที่เดี๋ยวนี้นิยมพ่อค้าเขาก็สามารถจัดการให้เราได้ เท่าที่ดูก็สะอาดดีครับ ไม่มีมด ไม่มีแมลงอยู่ภายในกระปุกนี้เป็นลูกเกด ก็น่าจะเอามาใส่กับโลตีต่างๆเช่นกันพอทอดเสร็จก็เอามาหั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ แบบนิ่มก็หั่นยากหน่อยเพราะจะออกเหนียวหนึบๆนิดนึง แต่พ่อค้าก็ตั้งใจหั่นให้ขาดฉั๊วๆทุกชิ้นครับพอหั่นเสร็จก็เอามาใส่กล่องกระดาษ เพื่อให้สามารถถือทาน หรือจัดใส่ถุงหูหิ้วได้ง่ายๆ พอจัดเข้าถาดกระดาษเสร็จก็จะใส่เครื่องต่างๆตามไป อย่างที่เห็นอันนี้เป็นแบบนมเพียว เพราะผมไม่ชอบแบบใส่น้ำตาลเท่าไหร่ พ่อค้าเขาก็จะเอานมในขวดแบบที่บรรจุเรียบร้อยในขวดบีบมาราดๆๆๆๆๆ และก็บีบให้แบบเต็มที่เหมือนอาบังที่ขายตามรถเข็นไม่แพ้กันหน้าตาของโรตีที่นำมาจัดใส่ถาดกระดาษ และราดนมจนฉ่ำทั่วทุกอัน
แต่หน้าตาของจานนี้ออกจะนิ่งๆ ไม่ค่อยมีอะไร เพราะด้วยท๊อปปิ้งที่ผมเลือกก็จะดูธรรดมาจืดๆเป็นทุนเดิมครับ แล้วถาดที่ใช้สำหรับใส่อาหารก็เป็นสีขาวเพียวๆ เพื่อความสะอาดและดูปลอดภัยดีครับ อาจจะเป็นเพราะอาหารที่ทำเป็นแบบร้อน ดังนั้นการใช้โฟม หรือถาดกระดาษสีๆอาจจะมีสารพิษตกค้างได้ เพราะงั้นเรื่องหน้าตาของอาหารคงต้องให้ผ่านไปแบบเฉยๆ แต่สำหรับเรื่องรสชาติของโรตีถาดนี้ รถชาติของส่วนที่เป็นโรตีเพียวๆออกเค็มนิดๆ เป็นรสชาติแป้งหวานๆเค็มๆ ไม่นิ่มมากแต่ก็ไม่ถึงกับกรอบ ถือว่าเลือกความกรอบความนิ่มได้ตรงกับวัตถุดิบ การที่ราดนมข้นลงไป ทำให้รสชาติหวานของนมเด่นขึ้นมาชัดเจน แต่ก็จะตัดกับรสชาติของแป้งโรตีที่มีรสหวานและเค็มอ่อนๆ ได้กลิ่นคาวของไข่เล็กน้อยมาก แต่จะออกเลี่ยนนิดๆถ้าหากทานเข้าไปมากเกินไป ดังนั้นขอแนะนำว่าควรทานกัน2คนเพื่อให้ได้ความอร่อยที่พอดีกับลิ้น จานนี้ให้ 7/10