นักรีวิวร้านอาหาร

งานท่องเที่ยว ครั้งที่ 2 ของปี เรายังไม่มีแผนจะไปเที่ยวไหน ไปเดินหา voucher บุฟเฟท์กินตามประสา กันดีกว่า เริ่มเดินไม่นานไปสะดุดตากับบูทของ swissotel park nai lert มื้อเย็น 615 บาท net พนง.บอกว่าเป็นบุฟเฟท์นานาชาติ คำถามของเราคือ มี seafood ให้ทานไม๊คะ
นางตอบแบบไม่ลังเล มีค่ะ มีมากมายดังฝูงปลาสลิด .. เอาฟระ ราคาน่าคบ ชื่อโรงแรมน่าสน ซื้อเลยแล้วกัน หลังจากนั้น 1 สัปดาห์เราไปใช้ voucher กันค่ะ เมื่อไปถึงโรงแรม .. บรรยากาศช่างเงียบเชียบจนแอบตกใจ ว่าใช่ที่นี่แน่?? ถึงห้องอาหารยังคงเงียบอยู่ ทั้งห้องอาหารว่างเปล่า อาจเป็นเพราะเรามาตั้งแต่ 18.00 น. ผู้คนเลยบางตา เดินสำรวจ 1 รอบ .. ไหนนะ seafood มากมายที่ พนง.บอกไว้ เดินไปเจอแค่ หอยนางรม กุ้งต้ม และ แซลมอนรมควัน .. ยังคงมองโลกในแง่ดี ว่าอาจจะเช้าเกินไปสำหรับมื้อเย็น เอาน่ะ.ลองชิมความสดของสิ่งที่มีซะก่อน รสชาติพอใช้ได้ แต่ไม่ได้โดดเด่นมาก เราส่งสายตาไปที่ซุ้มอาหารญี่ปุ่นหลายครั้ง จน พนง.เสริฟ เริ่มรู้สึกได้ เดินมากระซิบเบาๆว่า พ่อครัวยังไม่มาค่ะ เอิ่ม..ท่านจะเสด็จกี่โมงคะ ลูกค้ามาแล้วนะคะ กินวน อยู่ 3 อย่าง ประมาณ 45 นาที พ่อครัวญี่ปุ่นเสด็จลงมาแล้ว แต่..เดินหายเข้าไปในครัวอีกพักใหญ่ .. อีก 20 นาทีต่อมา เราจึงได้ทาน salmon sashimi 4 ชิ้น (-*-) เดินกันวนครบ 4 คนๆละ 2 รอบ ได้กิน salmon sashimi คนละประมาณ 8 ชิ้น ... อาร๊ายยยยยยยยย ครัวก๋วยเตี๋ยวกะส้มตำยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีพ่อครัว standby คือถ้าไม่พร้อมเปิดบริการ ก็บอกสิคะ จะได้ไปทานวันอื่นค่ะ

สรุปได้ว่า . .ผิดหวังอย่างแรง 615 บาทที่เราเสียไป ช่างไม่คุ้มเอาซะเลย
ไม่แนะนำให้ไปทานค่ะ ถ้าอยากทาน กรุณาเลือกโรงแรมอื่น

เมื่อเทศกาลกินเจใกล้เข้า ชมรมคนรักเนื้ออย่างเรา ต้องทิ้งท้ายกันซะหน่อย ร้านนี้เพื่อนแนะนำมา ชาบูราคาประหยัด 199 บาท กินได้ไม่อั้นภายใน 1.30 ชม. อย่าให้เสียน้ำใจ เลิกงานแล้วนั่ง BTS ไปทานกันเลย ร้านนี้อยู่ที่ Cocowalk ค่ะ ลง BTS สถานีราชเทวีทางออกที่ 4 เดินเข้าไปไม่ถึง 100 เมตร ก็ถึงที่หมายค่ะ วันศุกร์-อาทิตย์ ไม่รับจองโต๊ะนะคะ ต้อง walk in อย่างเดียวค่ะ
เมื่อไปถึงเราได้คิวที่ 2 ค่ะ ในร้านที่นั่งรับประทานกันอยู่ 95% เป็น นักศึกษาค่ะ รอคิวประมาณ 10 นาทีก็ได้ทานแล้วค่ะ
สามารถเลือกหม้อแบบ หม้อเดี่ยว หรือหม้อแบ่ง ได้นะคะ เรามา 4 คน เลือกหม้อแบ่งค่ะ แต่น้ำซุปสาหร่ายเหมือนกันทั้ง 2 ฝั่งนะคะ สำหรับน้ำจิ้ม มี 2 แบบค่ะ คือน้ำจิ้มสุกี้ และน้ำจิ้มพอนซึ มีพริก กระเทียม มะนาว ให้ปรุงรสตามใจชอบค่ะเราสั่งเมนูเนื้องมาทุกแบบค่ะ มีเนื้อติดมัน เนื้อสไลด์ เนื้อสัน , เนื้อหมู, เบคอน,ปลาหมึก, กุ้ง, ลูกชิ้นกุ้ง, เต้าหู้ไข่,เส้นอุด้ง,เส้นบุก,วุ้นเส้น และชุดผักรวม เมนูเหล่านี้อยู่ในเมนูบุฟเฟท์ทั้งหมด หมายถึง สั่งได้ไม่อั้นค่ะ ทางร้านจะให้ไข่ไก่มา 1 ฟอง สั่งเพิ่มฟองละ 10 บาทค่ะน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมค่ะ หลังทานกันไปสักพัก เราลงมติกันว่า เนื้อติดมัน และ เบคอน อร่อยฝุดๆ จนหยุดสั่งไม่ได้ค่ะ เมนูเนื้อทานร้านแล่มาบางๆ พอชาบูๆ ลงไปในหม้อพอสุก ทานแล้่วอร่อยมากค่ะ เราสั่ง 2 เมนูกันจนจำไม่ได้ว่าสั่งไปทั้งหมดกี่ถาด รู้ตัวอีกทีกระดุมเสื้อเริ่มตึง กระโปรงเริ่มปริ และเริ่มอิ่มค่ะ มื้อนี้เราจ่ายไปคน 220 บาท เนื่องจากเราสั่งยำสาหร่าย(ไม่รวมในบุฟเฟท์) เพิ่ม 2 ถ้วยค่ะ
ถ้าคุณชอบทานชาบู ร้านนี้เป็นอีกร้านที่อยากแนะนำนะคะ ทานง่าย อร่อย ประหยัด ค่ะ

ด้วยรักและเส้นอุด้ง
xoxo

หลังจากรองท้องเรียกน้ำย่อยกันแล้ว เรามาต่อดินเนอร์เบาๆกันที่ทะเลบางกอกค่ะ ไม่ได้มาร้านนี้หลายปี เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะทีเดียว ชายหาดดูเล็กลง และมีโต๊ะอาหารมากขึ้นค่ะ มื่อนี้เราซื้อ voucher จาก ensogo ในราคา 399 บาท ได้ทานอาหาร 4 อย่าง(ระบุอาหารมาให้) สำหรับ 3-4 ท่าน
เรามาเริ่มจานแรกกันที่น้ำพริกไข่ปู
สารภาพว่า ปกติเวลาไปทานอาหารนอกบ้าน เมนูน้ำพริกเป็นอะไรที่มองข้ามตลอด แต่มื้อนี้ เป็นอาหารจานเด่นของร้านก็ต้องลองชิมซะหน่อย และเราไม่ผิดหวังแต่อย่างใดค่ะ น้ำพริกเข้มข้นไปด้วยไข่ปู รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว หวาน เผ็ด กำลังดี ทานกับผักสด และข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเหาะไปเลยจานที่ 2 เป็นแกงส้มชะอมไข่ แกงส้มรสชาิติจัดจ้าน ชะอมไข่ทอดชิ้นโต พร้อมด้วยกุ้งตัวพอเหมาะ ซดร้อนๆ แซ่บนัวมากค่ะ หม้อนี้พวกเรายกให้เป็นหม้อเด่นเย็นนี้ จานที่ 3 คือ ส้มตำปลาทับทิมทอด จานใหญ่มากค่ะ..พูดเลย ปลาทับทิมตัวใหญ่ทอดเหลืองกรอบ เสริฟคู่มากับส้มตำไทย เสียดายส้มตำไทยรสจัดน้อยไปนิด ไม่งั้นคงอร่อยกว่านี้ค่ะจานสุดท้ายเป็น กะหล่ำปลีผ้ดน้ำปลา .. เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของทาบิเลยค่ะ แอบผิดหวังเล็กๆ เมื่ออาหารมาเสริฟ เพราะหั่นกะหล่ำมาเป็นชิ้นๆ ผัดแห้งเกินไป แถมยังใส่กุ้งแห้งมาอีก (- -') ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แย่มากค่ะ อาจเป็นเพราะเราเคยทานเมนูนี้ที่อร่อยมากมาจากที่อื่น เลยทำให้ผิดหวังนิดหน่อยค่ะมื้อนี้เราไปกัน 3 คนค่ะ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "อร่อยและคุ้ม" ถ้ามีดีลดีๆแบบนี้อีก แก๊งเราไม่พลาดแน่นอน
ขอให้อร่อยกับการทานอาหารที่มีประโยชน์นะคะ

ด้วยรักและแกงส้มชะอมไข่

มีโอกาสได้แวะไปชิมทาโกะยากิชื่อดัง หลังเป็นกรรมการ(จำเป็น)ตัดสินแบดมินตัน ญ คู่ขององค์กร เรื่องความหิวไม่ต้องพูดถึง ถึงแม้เราจะมีมื้อเย็น มื้อใหญ่รออยู่่ แต่เราไม่ควรปล่อยให้ความหิวรุมเร้า จึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปหาอะไรรองท้อง และมาลงเอยที่ร้านนี้ค่ะ กินดาโกะ
ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G เอสพลานาดรัชดา ใกล้ๆกับทางเข้า Top Supermarket ค่ะ
คนเยอะจริงอะไรจริง เราสั่ง Set Teriyaki 10+ 2 Matcha และเพิ่มน้ำเปล่า 1 ขวด ร้านนี้มีทาโกะยากิให้เลือกหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น รสดั้งเดิม, รสเทอริยากิ และ รสเทอริยากิหน้าไข่ เนื่องจากลูกค้าค่อนข้างเยอะ รับเครื่องดื่มและบัตรคิวมารอเรียกค่ะถ้าคุณชื่นชอบชาเขียวรสชาติเข้มข้นสูตรดั้งเดิมแบบไม่ปรุงแต่งใดๆ แนะนำให้สั่งได้เลยค่ะ แต่ชอบหวานนิดๆสไตล์คนไ่ทย ทางร้านมีบริการน้ำเชื่อมไว้ให้ด้วยนะคะ
รออยู่ประมาณ 20 นาที ทาโกะยากิ ก็พร้อมเสิร์ฟค่ะไม่เสียเวลาที่รอค่ะ ทาโกะลูกโต อัดแน่นไปด้วยหนวดปลาหมึกยักษ์กรุบกรอบ พร้่อมซอสเทอริยากิและมายองเนส ยังมีปลาแห้งมี่โรยหน้ามาแบบจัดเต็มที่จะทำให้คุณเจริญอาหารได้อย่างไม่รู้ตัว
ถ้าคุณชอบทานทาโกะยากิร้านนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ

ด้วยรักและหนวดปลาหมึก
XOXO

ทำกับข้าวเป็นไม๊?? เอาจริงๆทำได้แค่บางอย่างที่ชอบทานค่ะ อาหารต่างชาติไม่ต้องพูดถึง แอบเห็นที่ Terminal 21 มีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้ลูกค้าสามารถปรุงอาหารทานเองได้ ถือว่าเป็นโอกาสดีในการฝีกฝนฝีมือว่าแล้วหลังจากเดินงงๆอยู่ในงานไทยเที่ยวไทยประมาณ 2 ชม. เมื่อท้องเรียกร้อง เราก็ไปทานมื้อค่ำกันเถอะค่ะ

ร้านที่เราจะไปอยู่ชั้น 5 ของ Terminal 21 ร้านใหญ่คือ AI Japanese Village ค่ะ ในร้านนี้ยังมีร้านเล็กๆอีกหลายร้านให้เลือกทานตามใจชอบทั้งบุฟเฟท์,อะลาคาร์ท หรือ ชาบู แต่ที่หมายของเราคือ ร้าน Dohton Bori ไปถึงร้านมีลูกค้ารอคิวอยู่พอสมควรค่ะ แต่รอไม่นานเราก็ได้โต๊ะ โต๊ะที่นี่จะมีกะทะเทปปันอยู่กลางโต๊ะค่ะ มีเมนูให้เลือกทานหลายชนิดค่ะ แต่ 3 ประเภทที่เราสามารถทำด้วยตัวเอง จะมี โอโคโนมิยากิ,ยากิโซบะ และ เทปปันยากิค่ะวันนี้เราสั่งโอโคโนมิยากิกุ้งค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะงงแต่อย่างใด ทางร้านมีวิธีทำอาหารอยู่บนโต๊ะค่ะ ทำตามได้เลยรับรองอร่อยชัวร์เมื่อได้วัตถุดิบมาแล้ว ก็ลงมือทำกันเถิดจะเกิดผล ก คลุกส่วนผสมให้เข้ากันแล้ว เทลงกะทะ ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วพลิกด้าน ทิ้งไว้ 5 นาทิ กลับด้านอีกหนึ่งครั้ง ใส่เครื่องปรุง เป็นอันเสร็จขั้นตอนค่ะผ่านไป 10 นาที โอโคโนมิยากิกุ้งของ Tabi ก็เสร็จพร้อมเสริฟค่ะ รสชาติดีค่ะ ให้ความรุสึกคล้ายๆทานทาโกะยากิ แป้งนุ่มๆกับกุ้ง พร้อม ผักกรอบ ทานเข้ากันดีค่ะ ถ้าชอบทานพิซซ่าญี่ปุ่นห้ามพลาดร้านนี้ด้วยประการทั้งปวง
ด้วยรักและมายองเนส
xoxo