Thai | English
hinatasenjou
ฉันชื่อhinatasenjou อาศัยอยู่ในทวีวัฒนา. I am a พนักงานบริษัท, ทำงานอยู่ที่วัฒนา. ชอบไปลั้นลาที่ธนบุรี, ตลิ่งชัน, บางพลัด. อาหารไทย, อาหารเอเชีย, ครัวยุโรป are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านอาหารทั่วไป, ร้านตึกแถว, ร้านสวนอาหารและสุกี้ ชาบู , ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่, ซูชิ ซาซิมิ.
สมาชิก 0 รีวิวแรก
รีวิว2 รีวิว
編輯推介數目1 Editor's Choice
Recommended0 แนะนำ
ความนิยม73 เข้าชม
Replies in Forum0 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ8 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ0 วิดีโอ
My Recommended Reviews0 รีวิวแนะนำ
My Restaurant0 ร้านโปรด
Follow5 Following
粉絲17 Follower(s)
hinatasenjou  Level 1
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่ ยิ้ม ยิ้ม ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  Editor's Choice  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
 
  เวอร์ชั่นเต็ม เวอร์ชั่นเต็ม   |   ดูแผนที่ ดูแผนที่
แสดงรีวิวที่ 1 ถึง 2 จาก 2 รีวิวใน ประเทศไทย
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารอเมริกัน | สเต็ก | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม | จัดเลี้ยง ปาร์ตี้

หน้าซอยรางน้ำเวลาเย็นราวสิบแปดนาฬิกา เวลาของมื้อเย็นสำหรับใครหลายๆ ที่กำลังกุลีกุจอเดินหาร้านอาหารกันว่าจะทานร้านไหนจนร้านขึ้นชื่อแถบอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นอันขายดีกันเสียทั้งนั้นด้วยวัยรุ่นและครอบครัวที่มาทานมื้อเย็นกัน

 
เช่นเดียวกับผมที่นัดกับเพื่อนเอาไว้ว่าจะมากินสเต็กที่ร้านขึ้นชื่ออย่าง Eat Am Are ที่มีสามสาขาตั้งอยู่ใกล้ๆ กันทั้งต้นซอยรางน้ำ, ห้างเซ็นจูรี่ชั้นโรงหนังและห้าง Center One อีกหนึ่งแห่ง ซึ่งเรียกว่าไม่ไกลกันมากเท่าไหร่ ช้อปของเสร็จใกล้ร้านไหนก็ไปนั่งร้านนั้นได้เลย โดยวันนี้ได้มากินให้อิ่มท้องกันที่สาขาปากซอยรางน้ำโดยร้านตั้งอยู่แถบหัวมุมถนนสังเกตเห็นง่ายด้วยป้ายร้านสีเขียวและหมู่คนที่จับกลุ่มรอเข้าคิวกันทั้งวันตั้งแต่ร้านเปิด

 
บรรยากาศที่อบอุ่นด้วยการตกแต่งร้านแนวร่วมสมัย กำแพงเปลือยอิฐและพื้นปูนเปลือยผสมกับบันไดไม้ที่เคล้ากับเสียงเพลงต่างประเทศร่วมสมัยที่เปิดเคล้าเสริมอรรถรสระหว่างอร่อยกับสเต็กยิ่งทำให้ร้านนี้มีเสน่ห์ให้อยากละเลียดบรรยากาศรอเพื่อนที่รถติดอยู่ในวงเวียนอนุเสาวรีย์ได้อย่างไม่เบื่อหน่าย

 
โต๊ะที่ได้นั้นเรียกว่าผลัดเปลี่ยนกันไวมาก พนักงานร้านตื่นตัวตลอดเวลาจนตกใจว่าเอาแรงจากไหนมา ภายในหนึ่งนาทีหลังจากที่ลูกค้าท่านที่แล้วจากโต๊ะไป ทั้งเศษอาหารและจานสเต็กเก่าก็จะพากันอันตรธานหายไปจนหมดและสะอาดพร้อมรับแขกคนต่อไปได้ทันที

ซึ่งความกระตือรือร้นแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้ที่ทำงานสายบริการควรเอาเป็นตัวอย่างมาก ยิ่งการเอาใจใส่ที่มากจนเกือบเกินพอดีที่ตอนเช็คบิลอาหารว่ามีเมนูไหนขาดบ้างก็ต้องซูฮกกันเลยว่าพวกเขาเอาใจใส่คุณเท่าไหร่ ผมจำได้ว่าพนักงานวนมาเช็คเมนูขาดบนโต๊ะผมไปราว 3-4 รอบได้ ซึ่งส่วนตัวเป็นเรื่องที่น่ารักนะครับ แต่ลองแบบหามาร์กกิ้งอะไรสักอย่างมาตั้งบอกพนักงานคนอื่นกลายๆ เป็นที่รู้กันว่า "โต๊ะนี้เมนูครบแล้วนะอย่าเพิ่งรบกวนนอกจากเรียก ให้ลูกค้ากินเสร็จแล้วรอเก็บเงินได้เลย" ตั้งสักหน่อยก็ดี

 
ออเดิร์ฟเริ่มเรียกน้ำย่อยอย่างซุปข้าวโพดของทางร้านถ้ามองว่าเป็นคนที่ชอบซุปครีมข้นเพิ่มข้าวโพดยังพอว่า แต่ถ้าเป็นซุปข้าวโพดนั้นยังขาดความหวานของข้าวโพดที่ต้องลงไปเคี่ยวพร้อมซุปไปพอตัว เหมือนกับเอาข้าวโพดมาโรยบนซุปครีมข้นอย่างนั้นแหละ ลองเพิ่มหม้ออีกสักใบเพื่อเคี่ยวซุปข้าวโพดเป็นเรื่องเป็นราวเลยน่าจะดีกว่านี้นะ! รับรองว่าได้ใจคนชอบกินซุปข้าวโพดไปเต็มๆ แน่นอน

 
จานประจำอย่างสปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่าไม่มีพลาดแน่นอน ซึ่งจานที่มาเสิร์ฟนี้ต้องบอกว่าราคา 89 บาทแต่ใหญ่จนหนุ่มๆ ร่างสะโอดสะองหรือสาวร่างบางจะทานทีก็ไม่วายจะต้องแบ่งให้เพื่อนช่วยกินแน่ๆ เพราะจานใหญ่ไม่แพ้จานสเต็กและมีเส้น, เบค่อน, คาร์โบนาร่าซอสและขนมปังใส่มาจนเต็มจาน ปริมาณสำหรับคนตัวใหญ่แล้วต้องบอกว่ามันเยอะจนกินพื้นที่กระเพาะไปราวหนึ่งในสามเลย

รสชาติอาจจะเหมาะกับคนชอบคาร์โบนาร่าแบบไม่ใส่ชีสเพราะรสชาติจะนุ่มกินง่ายและเคี่ยวซอสคาร์โบนาร่ามาได้เข้าที่ ข้นกำลังดีแต่สำหรับคนบ้าชีสอย่างผมยังรู้สึกไม่ประทับใจเท่าร้านบ้านน้ำเคียงดินนัก แต่ความใจปล้ำต้องยกให้ Eat Am Are ที่ไม่หวงเบค่อนสักนิด ใส่มาเยอะจนจะพอกับเส้น! เรียกว่าตักไปกี่ทีต้องมีเบค่อนติดมาอย่างน้อยๆ ก็ 2 ชิ้น ทีเดียว

คนรักเบค่อนจะฟินกันก็คราวนี้แหละ

 
ขนมปังกระเทียมที่เคียงบนจานมานั้นต้องบอกว่าขนาด "Epic" ไม่แพ้สปาเก็ตตี้ด้วยความหนาราว 2 เซนติเมตร! ใช่ครับ 2 cm. พร้อมอบให้กลิ่นกระเทียมหอมและได้รสนุ่มลึกจนคนชอบกินกระเทียมจะตกหลุมรักเอาง่ายๆ แต่อาจจะกลิ่นแรงสำหรับคนไม่ชอบเครื่องเทศกลิ่นฉุนอย่างกระเทียมอยู่สักหน่อย

 
ไม่นานไม่เกิน 10 นาทีหลังจากสั่งอาหารเสร็จก็มีสเต็กมาเสิร์ฟบนโต๊ะ พอดิบพอดีกับที่สองเมนูบนลงไปรอในท้องของผมกับเพื่อนเป็นอันเรียบร้อย สเต็กหมูเทริยากิกับไก่สไปซี่ราคา 129 บาทของเพื่อนก็เสิร์ฟก่อนจานของผมจะตามมาภายในเวลาไม่นานนักซึ่งวันนี้เครื่องเคียงเราเลือกเป็นเฟรนช์ไฟรส์กัน (อันที่จริงของผมเลือกเป็นหัวหอมทอดแต่ไหงเหมือนกันก็ไม่รู้? แต่ไม่เป็นไรไม่คิดมาก มันฝรั่งทอดก็ดีไม่แพ้กัน)

ซึ่งเฟรนช์ไฟรส์นี้เราเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไม่ว่าจะเป็นหัวหอมทอด, สลัด หรือจะข้าวผัดก็ได้เหมือนกัน ส่วนขนมปังกระเทียมเป็นแมตช์บังคับ ดังนั้นถ้าจะเลือกข้าวผัดก็กรุณาคิดดีๆ ก่อนนะ

รสชาติของไก่สไปซี่ต้องบอกว่าการหมักเครื่องเทศเข้ากับไก่นั้นทำออกมาได้ดี รสชาติหวานลิ้นและไม่เผ็ดมากกินง่ายไม่แสบลิ้นเหมือนบางร้านที่ปรุงยึดตามชื่อว่า "สไปซี่" ย่างออกมาได้น่าประทับใจเอาเรื่องทั้งคงความนุ่มและน้ำในเนื้อไก่เอาไว้ได้ครบ สุกและเนื้อไก่ก็ไม่กระด้างอีกด้วย ต้องปรบมือให้ดังๆ สำหรับเชฟที่รับหน้าที่ย่างไก่จริงๆ

ส่วนของหมูเทริยากิหรือเรียกให้ถูกก็คือแฮมเบิร์กหมูนั้น ถ้าใครมาครั้งแรกแนะนำให้หาเมนูอะไรก็ได้เคียงกับสเต็กชิ้นนี้ให้ได้ เพราะนอกจากการผสมให้ลงตัวระหว่างแป้งและเนื้อหมูและเครื่องปรุงที่ลงตัวจนเวลาตัดเป็นก้อนไม่รุ่ยเละเหมือนบางร้านที่ใส่บางอย่างมากหรือน้อยเกินไป ถ้าให้พูดแล้วต้องบอกว่ารสชาติของแฮมเบิร์กหมูของ Eat Am Are นั้นถือว่าปรุงได้ลงตัวที่สุดจนไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลยก็ยังได้

 
ปิดท้ายด้วยสเต็กของผมเองที่สั่งเป็นไก่เทริยากิกับหมูบอสตันราคา 119 บาทมา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าฝ่ายวัตถุดิบของร้านเตรียมเนื้อหมูอย่างไรจึงทำให้เนื้อของหมูบอสตันออกมากลมเกือบจะพอดีกับค่ายพายในวิชาเลขกันเลย ซึ่งตัวเลขจะว่าอย่างไรก็ตามแต่รสชาติของหมูบอสตันที่ย่างมาสุกระดับ Medium-Weldone นั้นนอกจากจะฉ่ำน้ำในเนื้อหมูแล้วยังหนุบเหนียวเนื้อเอ็นดีทีเดียว แต่สำหรับสว. (สูงวัย) หลายๆ ท่านอาจจะงอแงกับความเหนียวที่อาจจะทำให้กรามหมดแรงได้ง่ายๆ เหมือนกัน

ส่วนของไก่เทริยากิเองก็เป็นไก่บดปั้นเป็นก้อนเหมือนกับหมูเทริยากิ (จนแอบคิดว่าคำว่าเทริยากิจะเป็นเมนูเนื้อนั้นๆ บดมาหรือเปล่า?) แต่รสชาตินั้นจะอ่อนกำลังดีเช่นเดียวกับเนื้อที่บดมาให้ละเอียดพอตัว ทำให้ไม่ประทุษร้ายฟันของสว. หลายๆ ท่านเช่นหมูบอสตันร่วมจานในวันนี้ ซึ่งถ้าใครอยากทานสเต็กทานง่ายก็มองหาคำว่าเทริยากิแล้วยึดเป็นหลักเอาไว้ก่อนแล้วท่านจะพบกับความสุขที่กินได้ง่ายๆ ทีเดียว

มันฝรั่งทอดในจานอันนี้ชิ้นจะใหญ่ไม่แพ้เบอร์เกอร์คิงเลย โดยเนื้อมันฝรั่งจะทอดมาแน่นและเนื้อภายในไม่หดตัวเข้าไปแต่เนื้อเริ่มแห้งไปบ้าง เหมือนจะบอกกันกลายๆ ว่ามันฝรั่งนี้ทอดเสร็จนานแล้วแต่น่าจะเก็บเอาไว้ในเครื่องคุมอุณหภูมิทำให้สดอยู่ตลอดเวลาแล้วนำมาเวฟฯ ก่อนเสิร์ฟใส่จานมาให้
ส่วนสลัดในจานต้องบอกว่าผักสดจนกรอบมาก กินแล้วกรอบหัวสั่นไปตามๆ กันในขณะที่น้ำสลัดเนื้อข้นสีเหลืองเหมือนมัสตาร์ตจะออกหวานนำขึ้นมา แนะนำว่าถ้าอยากกินสลัดให้หมดไม่ทิ้งค้างจานเหมือนที่ผมทำในวันนี้ก็อย่าเก็บสลัดเอาไว้กินเป็นอย่างสุดท้าย แต่กินควบกับสเต็กไปเลยจะดีที่สุด

สรุป: สเต็กเลิศ ขนมปังกระเทียมประเสริฐศรี ส่วนเครื่องเคียงปรับอีกสักนิดจะได้มณีไปเด้งด้วย

หนึ่งในร้านสเต็กที่ต้องจำเอาไว้ให้แม่นๆ ว่าไม่เป็นรองใครในยุทธภพสเต็กเมืองไทยวันนี้ ส่วนตัวรสชาติยังจะดีกว่าร้านแฟรนไชส์บางร้านและราคาที่ไม่แพงทำให้พนักงานกินเงินเดือนอยากเลี้ยงแฟนหรือนักเรียนนักศึกษาจะมาฉลองกันก็ไม่เกิดอาการกระเป๋าฉีกง่ายๆ แนะนำเลยว่าถ้าใครอยากกินสเต็กอร่อยๆ ก็ต้องมาที่นี่ให้รู้กันไป!

แต่ทำใจเรื่องจำนวนคนเข้าคิวรอกินที่ยิ่งนานจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปิดหน้าร้านเอาไว้สักนิดก็แล้วกันนะ...
 
เมนูแนะนำ:  กลุ่มเทริยากิสเต็ก,ขนมปังกระเทียม
 
วันที่ไปกิน: Sep 07, 2013 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿200(มื้อเย็น)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
   4 Vote(s)   View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านสวนอาหาร | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม | จัดเลี้ยง ปาร์ตี้

ไปทานมื้อนี้กับที่บ้านเนื่องจากวันเกิดท่านย่าครับ หนึ่งในร้านโปรดทีเดียวซึ่งที่ได้ทานไปมีหลายจานด้วยกัน (ขาดภาพประกอบนะครับรีวิวนี้ ขออภัย อิอิ)

เริ่มต้นด้วยซุปเห็ดที่เริ่มทานก่อนจะเข้าเมนคอร์ส รสนุ่มมันหอมและมีเห็ดแชมปิยองหั่นแว่นใส่เอาไว้ในซุปด้วย รสชาตินุ่มทานง่ายดีเหมาะกับการวอร์มกระเพาะก่อนทานจานเด็ดๆ ครับ แต่รสชาติจะอ่อนไปนิดนึง ถ้าใครอยากกินซุปรสเข้มขึ้นอีกนิดแนะนำซุปแซลมอนไปเลย!

จานถัดมาอย่างสลัดน้ำเคียงดินเป็นซีซาร์สลัดน้ำใสที่โรยเบค่อนทอดกรอบมาให้ ส่วนตัวผักกรอบอร่อย (ส่วนตัวชอบกินผักไม่แพ้เนื้อเลย) และสดทีเดียว น้ำสลัดใสเหมาะกับสาวๆ ที่ไม่อยากให้น้ำหนักเพิ่มและมีเบค่อนทอดกรอบบดโรยเอาไว้บนสลัด อร่อยทีเดียวแต่ช่วยเพิ่มเบค่อนให้อีกสักนิดจะได้ใจไปเลย ส่วนตัวผมว่าเพิ่มเบค่อนบดอีกสักนิดจะเพิ่มราคาอีกสัก 20 บาทก็คุ้มกันนะครับ ส่วนถ้าใครชอบปลามากกว่าสลับไปกินสลัดปลาแซลม่อนก็อร่อยไม่แพ้กันครับ

จานเด็ดประจำตัวอย่างสปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่าเองก็ไม่ควรพลาดทีเดียว ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ทำสปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่าได้อร่อยสุดๆ อีกร้านหนึ่งเลย ทั้งซอสที่ข้นและเบค่อนที่ใส่เข้ามาค่อนข้างสมดุลย์กัน ชอบที่ซอสคาร์โบนาร่าที่ข้นจนเริ่มเหนียวตรงนี้ให้คะแนนเต็มสิบ (ส่วนตัวรู้สึกว่าอร่อยกว่าสปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่าที่ได้กินในห้องอาหารในศูนย์สิริกิตต์อีก รายนั้นซอสค่อนข้างใสและชีสน้อยมากเลย...)

เมนูประจำใจคนร่างใหญ่อย่างขาหมูเยอรมันที่ทอดได้หนังกรอบจนคงความร้อนของเนื้อได้ดีก็ไม่ควรพลาดเหมือนกัน แนะนำให้ทานพร้อมๆ กับซอสและซาวน์เคร้าท์ (กะหล่ำปลีดอง) ที่เสิร์ฟมาคู่กันแล้วจะฟิน!

อันที่จริงทานมากกว่านี้แต่ส่วนตัวขอพูดถึงจานเด็ดๆ ก็แล้วกันนะครับ ส่วนค่าอร่อยทั้งหมดที่ได้ยินจากเจ้ามือเห็นว่าทั้งครอบครัวรวม 10 กว่าชีวิตทานไปรวมเงินแล้วราว 8,xxx ทีเดียว ดังนั้นถ้าใครอยากลิ้มลองรสความอร่อยแนะนำให้กำเงินไปเยอะๆ หน่อยจะดีที่สุดครับ

ส่วนตัวรสชาติเทียบกับมูลค่าที่จ่ายไปนั้นนับว่าคุ้มอยู่นะ!
 
เมนูแนะนำ:  สปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่า,ขาหมูเยอรมัน,สลัดน้ำเคียงดิน,สลัดปลาแซลม่อน,ปลากระพงกิเลน
 
วันที่ไปกิน: Aug 18, 2013 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿1000(มื้อเย็น)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 5  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
   2 Vote(s)   View Results
แนะนำ
0