นักรีวิวร้านอาหาร

จินนี่ได้คูปองเิงินสดร้านฟูจิจาก Openrice มา 600 บาท เลยตัดสินใจเดินเข้าไป
เติมกระเพาะให้เต็มที่ฟูจิเจ้าค่ะ สาขาที่เดอะมอลล์ท่าพระคนค่อนข้างเยอะในช่วงเย็นจินนี่ไปตอน 5 โมงหน่อยๆ คนไม่เยอะ ไม่ต้องรอคิวเจ้าค่ะ
วันนี้โชคคงไม่ค่อยดี เจอพนักงานพยายามฉีกยิ้มให้ เป็นยิ้มที่น่ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ
พนักงานเขามาเร็ว แต่น่ากลัว 55 พอมารับออเดอร์ปุ๊บก็สั่งเลยเจ้าค่ะของโปรดจินนี่ สลัดแซลมอนรมควันเจ้าค่าาาาา
แซลมอนดิบ แร่บาง มีกลิ่นรมควันอ่อนๆ รสเค็มจากแซลมอน กับรสเปรี้ยวของน้ำสลัด
เข้ากันได้ดีมากมาย ทานพร้อมสลัดผักต่างๆ หอมใหญ่ อร่อยเด็ดเจ้าค่ะอาม้าสั่งแซลมอนย่างซีอิ๊ว มาเป็นเซ็ต มีกิมจิ ของทอด ข้าว และซุปมิโสะมาให้
เนื้อปลาวันนี้แข๊งแข็ง หนังปลาก็ไม่กรอบ ออกแนวแข็งๆเจ้าค่ะ ทานแล้วเจ็บแผลร้อนใน -*-
ซุปมิโสะอร่อยดี อิอิแซลมอนพันราดซอสไข่ปลาจานนี้ มีรสเผ็ดปนอยู่ด้วยนะเจ้าคะ
คือมันหวาน เปรี้ยว และ เผ็ดเล็กๆ จินนี่และอาม้าสงสัยว่า เขาคงผสมพริกลงในมายองเนสด้วย
ที่ทำเป็นซอสราดอ่ะเจ้าค่ะ จานที่เอามาเสิร์ฟมาไวมาก เพราะทำแล้วแช่เย็นไว้ (เย็นทั้งจาน)ข้าวกระเทียมอย่างเช่นเคย ผัดไม่ทั่ว แต่วันนี้น่าเกลียดไปนิด มีไม่ทั่วถึงขนาด
เห็นข้าวขาวเป็นกระจุกเลยอยู่ด้านล่าง เดี๋ยวจินนี่จะงอนแล้วนะ อุตส่าห์รสชาติข้าวผัดดี ผัดให้ทั่วสิเจ้าคะชาเขียวฟูจิสูตรหวาน ชุ่มคอ ชื่นใจ

หมดค่าเสียหายไป 700 กว่าบาท จ่ายด้วยคูปอง (บัตรเบ่ง) 600 บาท ส่วนต่าง 100 กว่าบาทจ่ายเอง
พอเรียกเก็บเงิน พนักงานบอกว่า 400 กว่าบาทเราเลยใช้บัตรไปใบเดียว ยังนั่งสงสัยอยู่เลยว่าทำไมถูก
พอคิดมา ต้องจ่ายเพิ่มอีก 400 กว่าบาท แล้วพนักงานก็เห็นว่าเรามีคูปอง 2 ใบ แต่ไม่ยืนยันอีกครั้ง
ว่าจริงๆ 700 กว่าบาท ใช้คูปองไป 300 เหลือ 400 กว่าบาทนะครับ เฮ้ออ พูดแล้วก็เซ็ง...

มาทานครั้งนี้ ทำให้จินนี่และอาม้า ตัดสินใจแล้วว่า จะพยายามไม่มาทานฟูจิอีก นอกจากจะได้
คูปองส่วนลด หรือจำเป็นต้องไปเจ้าค่ะ เนื่องจากพนักงานบริการไม่ดี อาหารไม่สมราคาเหมือนเมื่อก่อน
เดี๋ยวนี้ร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ที่มีคุณภาพ ราคาไม่สูงเกินไป อยู่หลายร้าน จินนี่ขอนอกใจแล้วล่ะ

หากคนของทางฟูจิได้อ่าน รบกวนปรับปรุงด่วนนะเจ้าคะ

จินนี่ไปเที่ยวเซ็นทรัลเวิลด์มาแหละะะ
ตกลงกันว่าจะไปทานราเม็งที่บะคุดันยะกันดูเสียที เดินผ่านบ่อยแล้ว ต้องลองบรรยากาศร้านเงียบเหงา ตกแต่งสไตล์ร้านราเม็งญี่ปุ่นทั่วๆไป มีน่ารักตรง
บนโต๊ะมียกระดับที่วางพวกซอสอะไรด้วย น่ารักอ่ะ กิ๊บเก๋ยูเรก้าเจ้าค่ะจินนี่สั่งราเม็งออริจินัลเขามาลองชิม เป็นขนาดเล็ก (130 บาทเจ้าค่ะ)
หมี่เส้นสีเหลืองหน่อยๆ คล้ายหมี่ซั่วเวลาไหว้เจ้าเลยเจ้าค่ะ

แต่ทานแล้วรู้สึกหมี่มันดึ๋งๆอยู่ในปากอ่ะ ก็แปลกไปอีกแนวดีเจ้าค่ะ
รสชาติน้ำซุปเค็มมาก รสเค็มขนาดว่าทานคู่กับเส้นแล้วก็ยังเค็มมากอยู่ดี
มีให้หมูชาชูแผ่นบางๆมาหนึ่งแผ่น ทานแล้วก็โอเคนะ ไม่แข็ง
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอิมแพ็คแบบ อื้อหือออ หรอยจั่งฮู้ ไรแบบนั้นเจ้าค่ะจินนี่สั่งเกี๊ยวซ่ามาปะทะรสชาติกับของร้านในดวงใจ(ฮะจิบัง)
ชิ้นเกี๊ยวซ่าที่นี่ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย พอกัดเข้าไป รู้สึกถึงน้ำในเกี๊ยวอ่ะ
น้ำซุปในไส้เกี๊ยวมันพุ่งกระฉูดออกมาชุ่มฉ่ำในปาก ความร้อนและเค็มกำลังดี
กรี๊ดดดด จินนี่หลงรักเกี๊ยวของที่นี่แล้วเจ้าค่า อร่อยเริ่ด

น้ำชาที่นี่เป็นน้ำชาข้าวบาเล่ย์ มีกลิ่นหอมในจมูกนิดๆ
อาม้าดื่มแบบชาร้อน เลยได้กลิ่นหอมเยอะหน่อยตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่น ทานครบ 500 จ่ายด้วยบัตรซิตี้แบงค์
จะได้ทานพุดดิ้งแอลมอน 1 ถ้วย ซึ่ง...ไม่แถมมาให้จะดีกว่า
เพราะทานแล้วไม่เวิร์ค เห็นหน้าตามที่มาส่งแบบเละๆก็ไม่ดีแล้ว
ทานเข้าไปเนื้อพุดดิ้งก็แบบเละๆ ไม่เป็นเนื้ออย่างที่ควรเป็น
ดีแค่รสหวาน และเย็นเท่านั้น ไม่แนะนำเจ้าค่ะ

มาต่อความอร่อยกันในตอน 2 เลยเจ้าค่า จานแรกมาเริ่มกันที่ปลาหมึกแดดเดียว เอามาแดดเดียวพอ เพราะดึกแล้ว (ไม่เกี่ยว)
เป็นปลาหมึกที่ไม่เหนียวเลยเจ้าค่ะ สดจริงอะไรจริง กัดออกง่าย เคี้ยวง่าย
ไม่ทรมานผู้สูงอายุ เค้าเอามาเสิร์ฟพร้อมซอสพริก แต่จินนี่ว่าจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดอร่อยกว่าเจ้าค่ะเติมผักหน่อยด้วย ผัดยอดมะระไฟแดงจานนี้เลยเจ้าค่ะ ผักที่นี่เจ๋งนะ ไม่เหนียวเป็นกากๆ
รสเค็มเด่นขึ้นมาชัดเจน ทานกับข้าวกำลังพอดี ผัดมาพร้อมกระเทียมให้กลิ่นหอมๆถัดมาเป็นเนื้อปูผัดผงกะหรี่ สั่งเนื้อปูจะได้ไม่ต้องมาแทะปูเองไงเจ้าคะ
เนื้อปูก็มาเป็นชิ้นเนื้อปู ไม่ได้มาเป็นซากๆ ผสมไว้กับไข่ทำมึนๆ เนื้อนุ่มดี
แต่รสเครื่องแกงกะหรี่อ่อนไปหน่อยสำหรับจินนี่ มันมีกลิ่นเครื่องแกง แต่ยังไม่แรงพอเจ้าค่ะเห็นอาเจ้บอกมาว่ากุ้งที่นี่อร่อยเด็ด เพราะสดอย่างแรง จินนี่ต้องจัดกุ้งไปเสียหนึ่งเมนู
ตอนแรกจะสั่งกุ้งเผา แต่คุยไปคุยมา ไปจบที่กุ้งอบวุ้นซะงั้นอ่ะ (อดทานกุ้งเผาเลย)
กุ้งอบวุ้นเส้นรสชาติไม่เข้มข้นเท่าไหร่เจ้าค่ะ จินนี่เลยต้องราดน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มความแซ่บ
กุ้งตัวปานกลาง ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ไอ้สดน่ะสดอยู่หรอก แต่เนื้อสุกเกินไป ทำให้แข็งนิดๆ เจ้าค่ะข้าวผัดปูเขาก็ไม่เลวเลยเจ้าค่ะ ผัดได้ทั่วถึง คลุกเคล้าพอดิบพอดี
เพราะเป็นเมนูที่ไม่ต้องการความแซ่บ เลยปรุงออกมาได้กลมกล่อมพอเหมาะ
เนื้อปูก็เป็นชิ้นให้เห็น ไม่ใช่วิญญาณปูเจ้าค่ะ บีบมะนาว เสิร์ฟพร้อมต้นหอมและแตงกวาทานแกล้มพระเอกของมื้อนี้ยกให้ปลากระพงนึ่งมะนาวเจ้าค่ะ มาเป็นถาดร้อนจุดไฟด้านล่าง
ปลานุ่มอ่ะ ให้หัวใจร้านนี้ตรงที่ ความใส่ใจรายละเอียดในทุกด้าน เช่น เมนูปลานี่
ทางร้านหั่นตัวปลาไว้ให้เป็นแบบตักทานง่าย เป็นคำๆ คือสะกิดออกมานิดนึง
ปลาก็หลุดออกมาตามที่หั่นฝานไว้ก่อนนึ่งเจ้าค่ะ รสชาติพอดี แต่จินนี่ว่าเผ็ดได้อีกนิดนึง
อาม้าทานแล้วก็ว่าอร่อยดี แต่อยากให้แซ่บอีกนิด (บ้านนี้ทานรสจัดเจ้าค่ะ)ของหวานเป็นแคนตาลูปนมสด มีเนื้อมะพร้าวฝานเป็นเส้น
รสหวานมันจากน้ำกะทิ แคนตาลูปทำเป็นลูกกลมๆน่ารักดี ทานแล้วเย็นชื่นคอ

อาหารโดยรวมของร้านนี้ไม่จัด กลมกล่อมกำลังดี เหมาะสำหรับมากับครอบครัว เพื่อนฝูงเจ้าค่ะ
พาอากงอาม่ามานั่งชิลๆได้ เพราะบรรยากาศดี ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย อาหารสด และไม่เผ็ดวันที่จินนี่มา ไฟตกไป 4 รอบแหนะ (ฝนเพิ่งตกหยุดไปเจ้าค่ะ) แต่พนักงานน่ารัก
ยิ้มแย้มมาขอโทษเราด้วย ลูกค้าแต่ละโต๊ะ เปิดไฟมือถือส่องอาหารกันทั่วร้านเจ้าค่ะ (ฮา)
บรรยากาศแค่มองยังคงไม่ดีพอ ทางร้านเลยเปิดเพลงคลอไว้ด้วย พอมาเพลงเก่าๆสมัย
สุนทราภรณ์ อาม้าร้องตามใหญ่เลยเจ้าค่ะ แนวเพลงเขาล่ะ

รวมค่าเสียหายไป 1,050 บาท เทียบกับบรรยากาศ ปริมาณอาหารและความสด ถือว่าไม่แพง
จินนี่แนะนำให้ลองไปทานดูกันเลยให้ไวเจ้าค่ะ อิ่มความสุขกันทั่วหน้า
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10โมงเช้า ถึง 9 โมงครึ่ง (3 ทุ่มครึ่ง) นอกจากนี้ ทางร้านคิดว่าคงยัง
บริการไม่ถึงใจ เลยมีบริการฟรีไวไฟเสียด้วยยยย ไม่ใช่เล่นๆนะเจ้าคะ
ทางร้านรับบัตรเครดิต และก็มีจอดรถเยอะทีเดียว

จินนี่มาดินเนอร์ชิลๆ ริมทะเลกับอาเจ้และอาม้า ร้านลมทะเลแห่งนี้อยู่ไกลถึงสมุทรสาคร
ขับรถมาจากเซ็นทรัลพระราม 2 (จนถึงร้านระยะทางรวมๆประมาณ 40 กิโลเมตร เจ้าค่ะ)
ผ่านตลาดมหาชัยเมืองใหม่ไปก็แล้ว ผ่านสตาร์บัคส์ไดรฟทรูว์(ตึกแปลกๆสีขาวๆ)ก็แล้ว
พอผ่านแม็คป้ายใหญ่เบิ้มไปนิดนึง ก็จะเห็นป้ายบอกว่า อีก 400 ม. ถึงลมทะเลเจ้าค่ะ (กรี๊ดกร๊าด หิว)
**หากใครไปตอนดึกๆ ขับรถระวังนะเจ้าคะ เพราะพอเข้าซอยไปแล้ว ทางค่อนข้างมืดจินนี่ไปถึงตอนทุ่มนิดๆ บรรยากาศดีเวอร์เจ้าค่ะ ลมเย็นพัดเบาๆ ตกแต่งด้วยไฟเล็กๆ
จากทางที่จอดรถด้านหน้า มีป้ายร้านสวยงามทำเป็นทางเดินข้ามน้ำที่ติดไฟสองข้าง
สวยมว๊ากกกกก สองฟากมีกังหันลมกลางน้ำหมุนตามแรงลม เดินไปถึงครึ่งทางมีที่นั่งรับลม
และสำหรับให้คนออกมาสูบบุหรี่ ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่านั่งทานอาหารไป ไม่มีกลิ่นบุหรี่รบกวนเจ้าค่ะมีจัดโซนห้องแอร์ให้บริการด้วย แต่บริเวณห้องแอร์เล็ก เมื่อเทียบกับโซนเอ้าท์ดอร์
ซึ่งจินนี่คิดว่ามาถึงนี่แล้ว ลูกค้าน่าจะอยากชมบรรยากาศ รับลมเย็นๆ ธรรมชาติมากกว่าเจ้าค่ะ
ทางโซนเอ้าท์ดอร์นี่จะเป็นลักษณะคล้ายทานอาหารบนแพที่มีรั้วรอบเจ้าค่ะพอเข้ามาถึงบริเวณตัวร้าน พนักงานยิ้มแย้มเข้ามาถามว่าอยากนั่งพื้นหรือนั่งโต๊ะ
มีโต๊ะให้นั่ง 2 สไตล์ 2 อารมณ์เจ้าค่ะ จินนี่คิดว่าน่ารักดี เลยเลือกนั่งพื้นชมบรรยากาศชิลๆ
บริเวณนั่งพื้นเป็นทางต่างระดับให้ถอดรองเท้าก่อนเดินไปที่โต๊ะ ที่มีเบาะหนังให้นั่งไม่ปวดก้น
ข้างโต๊ะมีราวรั้วรอบๆ มองออกไปเห็นน้ำคลื่นเบาๆจากแรงรม จินนี่เสียภาพไปหลายช็อตจากมุมนี้เจ้าค่ะด้วยความที่การตกแต่งด้วยต้นไม้รอบบริเวณ และทุกๆจุด ทำให้ความใส่ใจแผ่ไปทั่วถึง
ไม่เว้นแม้แต่บริเวณหน้าห้องน้ำที่มีต้นไม้ใบเขียววางอยู่รอบด้าน พอเข้าไปด้านในก็สะอาดสะอ้าน บริเวณผนังมีรูปบรรยากาศตลาดร่มหุบ ทั้งก่อนและหลังร่มหุบ
ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของสมุทรสาครอีกแห่งหนึ่งทีเดียว เป็นการตกแต่งที่ใส่ใจรายละเอียด
(โซนหน้าห้องน้ำก็เป็นอีกจุดสูบบุหรี่เจ้าค่ะ มีกระถางดับบุหรี่ไว้บริการ)

ติดตามต่อใน ดูวิว กินลม ชมทะเล(ปลอมๆ ) ที่ร้านลมทะเล 2 เจ้าค่ะ

จินนี่ไปทำธุระแถวแพลตตินั่มมา เลยได้โอกาสไปทานบะหมี่แถวนั้น
ร้านนี้มันอยู่ในซอยตรงข้ามแพลตตินั่มเจ้าค่ะ เดินข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้าม
เดินต่อไปซอยแรก เข้าไป 30 เมตรก็ถึงเจ้าค่ะร้านนี้ใกล้แพลตตินั่มและไปรษณีย์ ทำให้มีต่างชาติมาอุดหนุนค่อนข้างเยอะ
ซึ่งแน่นอน ราคาก็อัพเกรดตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน เพราะบะหมี่ชามนึงก็อยู่ที่
50-60 บาทต่อชาม เข้าไปแล้วเจ้าค่ะ -*-จินนี่สั่งบะหมี่แห้งหมูแดงพิเศษมา 1 เจ้าค่ะ เนื่องจากเป็นพิเศษ ปริมาณเลย
พอดิบพอดี ไม่น้อยจนน่าเกลียด ทานพออิ่มเจ้าค่ะ

หมูแดงเขาอร่อยมว๊ากกกกกกกกกก นุ่ม และเข้มข้นน้ำหมูแดง หมักเข้าเนื้อเจ้าค่ะ
บะหมี่ก็นุ่ม และได้กลิ่นเส้นบะหมี่กำลังพอดี มีผักกรุบๆเล็กน้อย เวลาทานหมี่คู่กับเส้น
อร่อยขึ้นสวรรค์เลยเจ้าค่ะ ก่อนเ้ข้าร้านจินนี่คิดว่าจะรสชาติงั้นๆ เน้นขายต่างชาติ
แต่พอเข้าไปทานแล้วขอถอนความคิดคืนเจ้าค่ะ รสชาติไม่ใช่เล่นๆเลยทางร้านมีขายข้าวขาหมูด้วย ให้เลือกทานได้ พอดีจินนี่ไม่ค่อยชอบเลยขอผ่านเมนูนี้
ข้อเสียของที่นี่คือ พนักงานยุ่งมากๆๆๆ ทำให้สั่งอาหารไม่ได้ซักที
พอสั่งแล้ว ก็ลืมบ้าง เพราะคนเยอะมากมาย จินนี่สั่งน้ำเก๊กฮวยไป 3 รอบ
กว่าจะมีพนักงานเอามาให้จริงๆ (น้ำเก๊กฮวยราคา 25 บ.ต่อขวดเจ้าค่ะ)บริเวณร้านค่อนข้างแคบ ถ้าหากไปทานต้องแบ่งที่นั่งให้คนอื่นด้วยเจ้าค่ะ
และทางร้านไม่อนุญาตอย่่างเด็ดขาด ไม่ให้นำเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปทานในร้าน
เขียนอยู่รอบร้านทุก 1 เมตรเลยเจ้าค่ะ มีค่าปรับสำหรับคนที่ฝ่าฝืนด้วยนะเจ้าคะ

ลองไปทานดู แล้วจะรู้ว่าหมี่หมูแดงอร่อยๆมันเป็นยังไงเจ้าค่า