6
0
0
เดิน 2-นาที จาก สถานี BTS สยาม ทางออก 4 อ่านต่อ
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
10:00 - 22:00
วิธีจ่ายเงิน
เงินสด
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.facebook.com/moonneonmoon
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
คัพเค้ก
รีวิว (6)
Moone ร้านขนมสไตล์ฝรั่งเศสร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ชั้น G โซน sweet avenue ในสยามพารากอน ขนาดของร้านค่อนข้างจำกัดมาก มีที่นั่งไว้บริการแค่ 2 ที่แบบบาร์เล็กๆ แต่คิดว่าถ้าเราไปนั่งคนเดียวก็คงเต็มพอดีภายในร้านมีแต่ขนมสวยๆ น่ากินๆ ชิ้นเล็กพอสมควรเมื่อเทียบกับราคา ราคาแรงจริงๆ เราซื้อกลับบ้าน ทางน้องพนักงานจะเอาเค้กใส่ในกล่องแบบชิ้นต่อกล่องกันเลยพร้อมเจลถุงน้ำแข็ง สำหรับขนมที่เราได้ลอง• La Paris (185.-) เป็นเค้กชิ้นขนาดไม่ใหญ่เลยถ้าเทียบกับราคา แต่คุณภาพกับรสชาติก็ต้องยอมให้ควักเงินออกมาซื้อ เนื้อเค้กจะเป็นเนื้อมูสแต่เนื้อนุ่ม แน่น เข้มข้นหวานมันด้วยไวท์ช็อกโกแลต หอมกลิ่นของฮาเซลนัท ด้านในเป็นแป้งเค้ก (นิดเดียว) เห็นชิ้นเล็กๆ แบบนี้กินคนเดียวทำเอาเลี่ยนได้ค่ะ ต้องกินสองคนแต่ค่อยๆ ละเลียดความอร่อยนะคะ• Waltz chocolate (175.-) ชิ้นนี้เป็นช็อกโกแลตล้วน ด้วยเนื้อที่เข้มข้นแต่ไม่ขม ยกเว้นผงที่โรยจะค่อนข้างขม ทำให้ตัดกับเนื้อเค้กด้านล่างที่ค่อนข้างหวานเลยออกมากำลังดี ไม่ขมไม่หวานมากเกินไป ใครที่รักช็อกโกแลต ชิ้นนี้ห้ามพลาดเลยเชียว (แม้ราคาจะค่อนข้างแรงสักหน่อย)ร้านขนมที่อยากบอกต่อ ถึงราคาจะแรงไปสักหน่อย แต่คุณภาพและรสชาติก็อร่อยสมราคาที่จ่ายไปค่ะ การบริการของที่นี่ดีทีเดียว แนะนำได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสค่ะ  อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
เค้กร้านนี้เคยเก็บไว้ในลิสนานแล้วค่ะว่าอยากจะมาลองทาน ด้วยหน้าตาที่น่าลอง แต่ยังไม่ได้มาสักทีเนื่องด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงค่ะ แต่สุดท้ายก็ทนความอยากทานของตัวเองไม่ไหว เลยต้องมาค่ะมาถึงร้าน พนักงานก็ยิ้มแย้ม มีแนะนำเราด้วยค่ะ ส่วนเราคิดๆและก็คิดนานมากๆค่ะ คือน่าทานทุกชิ้นเลย แต่งบมีจำกัด เลยต้องคิดนานหน่อยค่ะว่าจะซื้อชิ้นไหนดี และสุดท้ายก็ได้มา 3 ชิ้นค่ะพนักงานแจ้งว่าน้ำแข็งที่ใส่มาจะอยู่ได้ 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นเค้กอาจจะเปลี่ยนรูปได้ ซึ่งรูปที่ถ่าย เราไว้เกือบชั่วโมงค่ะ แต่ยังดีว่ามันยังคงสภาพอยู่ ส่วนการแพคใส่กล่อง ร้านนี้จัดว่าทำได้ดีเลยค่ะ เพราะพนักงานจะติดสก๊อตเทปให้ยึดกับกล่อง แยกเค้ก 1 ชิ้นต่อ 1 กล่อง และมีน้ำแข็งวางข้างกล่องทุกกล่องด้วยค่ะ ทำให้คนซุ่มซ่ามอย่างเราที่เดินไกลเป็นกิโล ยังสามารถถือได้คงสภาพเดิมค่ะ อิอิส่วนเค้กที่ทานมี 3 ชิ้นค่ะ- La paris 185 บาท เป็นรสที่นิยมที่สุด เราเลยต้องซื้อชิ้นนี้ (เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องค่ะ >.<) รสนี้มาเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงยาวสีทอง รสเหมือนไวท์ช้อคหวานๆหอมๆนมๆด้วย และมีรสกาแฟนิดๆ เป็นกาแฟอาราบิก้าค่ะ ซึ่งเราไม่ทานกาแฟ แต่ยังดีว่าความหอมของไวท์ช็อคมีมากกว่า เลยทำให้ชิ้นนี้ยังอร่อยสำหรับเรา ตรงกลางไส้จะเป็นเนื้อช็อคโกแลตหนุบๆผสมฮาเซลนัทกรุบๆหอมนิดๆอร่อยดีค่ะ ทานหมดชิ้นอาจหวานไป แต่ว่าต้องค่อยๆทานทีละนิดจะฟินค่ะ- Waltz Chocolate 175 บาท ช็อคโกแลตเข้มข้น ชอบๆค่ะ ไม่หวาน ออกขมนิดๆแต่ไม่ขมไปจนถึงขั้นทานไม่ไหว เหมือนทานช็อคโกแลตสดของญี่ปุ่นเลยค่ะ เนื้อเค้กออกนุ่มๆหนุบๆช็อคเข้มๆแต่ไม่ขมถึงขั้นดาร์คช็อคโกแลต ไม่หวานเลี่ยนจนแสบคอ โอเคเลยค่ะชิ้นนี้ ติดใจ ด้านในมีอัลมอนต์เคี้ยวกรุบๆมันๆดีด้วยค่ะ ชอบทุกคำที่เคี้ยวในปากแทบไม่อยากให้หมดชิ้นเลยค่ะ- French Kiss 195 บาท รสนม หอมนมมากค่ะ เนื้อนุ่มนิ่มพอควรเลย ตักไม่ดีหล่นแหมะได้ค่ะเพราะมันนุ่มซะ รสหวานนิดๆไม่มาก คนชอบทานนมน่าจะชอบรสนี้ค่ะ เราปลื้มสุดๆเลยเพราะเราชอบทานนม อร่อยจังร้านนี้บอกเลยค่ะว่าไม่ผิดหวังเลยสักชิ้นที่ได้ทาน เพราะรสชาติแต่ละชิ้นถือว่าชอบทุกชิ้นค่ะ แต่ว่าซื้อราคาปกติก็แอบสูงพอประมาณ นานๆทีแวะมาก็พอได้ค่ะ บ่อยๆไม่ไหว >.< แต่ใครยังไม่เคยลอง แนะนำอยากให้มาลองสักชิ้น เลือกรสที่คุณชอบ แล้วคุณจะฟินค่ะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
เคยได้อ่านรีวิวร้าน Moonne มาหลายต่อหลายครั้ง และทุกรีวิวก็กระตุ้นความอยากของเราให้พุ่งสูงปรี๊ดได้ตลอดเลยค่ะ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ชิมสักที จนกระทั่งเพื่อนสาวชวนไปลอง โดยน้องพนักงานแนะนำเค้กสองชนิดที่ขึ้นชื่อของทางร้านนั่นก็คือ Waltz chocolate และ La Paris ค่ะร้าน Moonne เป็นร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่เรียกว่าเป็นบูธซะมากกว่า ตั้งอยู่บนชั้น G สยามพารากอนใกล้กับร้าน Party Land บริเวณเคาน์เตอร์จะมีขนมหน้าตาสวยงามวางเรียงอย่างละลานตา ขนมที่นี่เน้นรูปร่างและสีสันคลาสสิคมากค่ะ เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียวเชียว และทางร้านมีที่นั่งเล็กๆ ให้ลูกค้านั่งบริเวณเคาน์เตอร์ด้วยนะคะแต่ก็มีเพียงแค่ 2 ที่ค่ะ+ Waltz chocolate (175 บาท)ส่วนตัวเราปลื้มปริ่มกับนางมากค่ะ ภายนอกนางดูเป็นเค้กช็อคโกแล็ตธรรมด๊าธรรมดา มีความน่ารักตรงที่มีมงกุฎรูปหัวใจฟรุ้งฟริ้ง และด้านข้างมีป้าย Moonne เท่านั้น แต่พอตัดเข้าไปแล้วจะเจอชั้นของเค้กซึ่งเท็กซ์เจอร์นางล้ำเลิศมากค่ะ ไม่ใช่เค้กนุ่มๆ ธรรมดา แต่รู้สึกได้ถึงความกรอบและนุ่มผสานกันอย่างลงตัว กินคู่กับช็อคโกแล็ตอันเข้มข้นแล้วสุดยอดมากกกก+ La Paris (185 บาท)นุ่ม ละเมียละไม อยากจะพูดอย่างนี้จริงๆ ค่ะ ทั้งหอมทั้งอร่อย ภายในมีเค้กซ่อนอยู่ แต่ชิ้นนี้แอบหวานไปนิดค่ะ กินไปหลายๆ คำก็รู้สึกเลี่ยนอยู่เหมือนกัน+ Dacquoise (175 บาท)ชิ้นนี้เป็น Dacquoise สองอันประกบกัน สอดไส้ด้วยราสพ์เบอร์รี่สดและซอสวานิลลา ตัว Dacquoise นุ่มเบาดีค่ะ ชิ้นนี้รสชาติไม่หวานเด่นเหมือนชิ้นอื่น แถมมีความเปรี้ยวหวานของราสพ์เบอร์รี่เข้ามาด้วย ทำให้ออกรสละมุนธรรมชาติๆ มากกว่าค่ะ แต่ก็ชอบน้อยที่สุดในสามชิ้นนี้นะคะโดยรวมแล้วสำหรับเราร้านนี้ทำขนมได้เท็กซ์เจอร์เจ๋งมากค่ะ แต่บางเมนูออกรสหวานเด่นไปนิดนึงทำให้ค่อนข้างเลี่ยน แต่ก็ช้อบชอบค่ะ แหะๆ  อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
มาชิมเค้กสไตล์ฝรั่งเศสอร่อยๆกันจ้า เมนู The Garden เป็นทาร์ตช็อคโกแลตสีทองทรงกลมมีรูตรงกลางเหมือนวงแหน  ตัวแป้งบางนุ่ม  เนื้อทาร์ตนุ่มละมุนกลมกล่อมด้วยช็อคโกแลตสีทองรสชาติคล้ายคาราเมลรสหวาน ด้านบนตกแต่งด้วยเยลลี่ พร้อมผลไม้สดที่เราชื่นชอบ La Paris ด้านล่างเป็นเนื้อเค้กช็อคโกแลต ด้านบนเป็นมูสช็อคโกแตสีทองโรยด้วยเกล็ดคาราเมล ชิ้นนี้ก็นุ่มละมุน มีกลิ่นหอม รสชาติคล้ายคาราเมลแบบอร่อยเข้มข้นมากค่ะ แต่รสชาติก็ค่อนข้างหวานแบบชุ่มฉ่ำใจไปเลยนะคะ แนะนำสำหรับคนชอบรสหวานค่ะ  เมอแรงค์แรสเบอร์รี่ เนื้อฟูเบา หอม มีรสหวาน แต่ไส้มีแรสเบอร์รี่ที่ผสมเข้าไปแล้ว มีรสเปรี้ยวสลับกัน สุดยอดมากค่ะ คิดได้ยังไง  Waltz Chocolate ตัวนี้ก็ห้ามพลาดสำหรับคนรักช็อคโกแลตค่ะ หน้าตาเก๋มาก ผิวด้านนอกทั้งหมดเป็นช็อคโกแตมูสเนื้อหนึบ ด้านในเป็นเลเยอร์เนื้อนุ่มที่มีทั้งแป้ง ครีมและช็อคโกแตเป็นชั้นๆค่ะ  และชิ้นสุดท้ายก็เป็นเมนูที่ชอบที่สุดในวันนี้ก็ว่าได้ค่ะ Dacquoise เป็นเลเยอร์ของแป้งและครีมที่แสนเบา หอม และหวานกลมกล่อม สอดไส้แรสเบอร์รี่สด แบบเต็มๆ ลูก ชิ้นนี้เป็นอะไรที่ไม่อะไรที่ไม่หนักใจเลยถ้าจะทานหมดคนเดียว เพราะรสชาติเปรี้ยวหวานตัดกันลงตัวกับความนุ่มละมุน โดยรสชาติเปรี้ยวโดดจากแรสเบอร์รี่สดนี่มันเด่นถูกใจจริงๆค่ะ   สรุป ใครชอบเค้กสไตล์ฝรั่งเศสแท้ก็ต้องไม่พลาดไปชิมกันนะคะ หนักใจเลยถ้าจะทานหมดคนเดียว เพราะรสชาติ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ร้านเค้กสไตล์ฝรั่งเศส Moonne สาขาสยามพารากอนนี้ แม้ตัวร้านจะเป็นแค่เคาน์เตอร์เล็กนิดเดียว มีที่นั่งให้แค่ 2 ที่ แต่ชื่อเสียงนั้นใหญ่เกินตัวค่ะ เคยออกรายการทีวี The Dish เมนูทองด้วย พิกัดของสาขานี้อยู่ที่สยามพารากอน ชั้น G ใกล้ๆ After You ร้านตกแต่งได้สวยงามทีเดียว แถมเค้กที่โชว์ในตู้ก็มีมากมายหลายชนิด แต่ละอันก็ตกแต่งได้สวยงามเรียบหรูดูดี น่าลิ้มลองสุดๆค่ะ..**-เมนูที่ลอง-**อันที่จริงนอกจากเค้กหลากหลายชนิดแล้ว ที่นี่ยังมีคัพเค้กและคุกกี้ขายด้วยล่ะค่ะ แต่เนื่องจากเค้กของที่นี่เค้ามาแรง เราก็เลยขอโหนกระแสสั่งแต่เค้กล้วนๆไปลองตามนี้เลย● La Paris (ราคา 185 บาท) – ตัวนี้ล่ะค่ะเมนูทอง..signature ของร้านนี้ที่ถ้าไม่ลองก็คงเหมือนมาไม่ถึงร้านเค้า พอชิมดูแล้วส่วนใหญ่จะได้สัมผัสแบบมูสที่หอมกลิ่นไวท์ช็อคโกแลต (แต่ทางร้านเค้าว่าเป็นช็อคโกแลตสีทองจ้ะ) มีเนื้อเค้กแทรกอยู่นิดเดียว ผสมกลิ่นกาแฟนิดๆและกลิ่นเฮเซลนัท มี butter crumble กรุบกรอบแทรกอยู่ด้วย ด้านบนตกแต่งด้วยลูกเฮเซลนัทชุบสีทองให้ดูหรูหรา อร่อยลิ้มฟินเว่อร์ให้ดาวล้านดวงสมกับที่เป็นเมนูทองค่ะ แต่ถ้าซัดคนเดียวทั้งชิ้นตอนท้ายๆจะแอบรู้สึกเลี่ยนนิดๆ เราว่าจะอร่อยที่สุดต้องทาน 2 คนกำลังดีนะ● Latte Tea Praline (ราคา 160 บาท) – ตัวนี้เป็น praline รส Earl Grey Tea ...ที่เลือกมาเพราะชาเอิร์ลเกรย์นี่เป็นหนึ่งในชาตัวโปรดของเรา แต่พอมาเป็นขนมแบบนี้แล้วรู้สึกรสมันชืดๆไปนิด ไม่โดดเด่นเหมือนอย่าง La Paris น่ะค่ะ● French Kiss (ราคา 195 บาท) – ชิ้นโตทีเดียวค่ะสำหรับเมนูนี้ ..ทำมาเป็นรูปร่างเหมือนเค้กแต่งงานทั้งก้อน มี 3 ชั้น ด้านบนแต่งด้วยดอกกุหลาบสีชมพูหวานแหวว พอทานแล้วรู้สึกถึงเนื้อครีมปนกับเนื้อเค้กนุ่มๆที่หอมนมชัดเจน รสชาติออกไปทางหวานๆ แม้จะไม่เลี่ยนมาก แต่ในแง่ความกลมกล่อมของรสชาติโดยรวมก็ยังแพ้ La Paris อยู่ดี● Pancake A La Mousse D’Erable (ราคา 170 บาท) – เมนูนี้สำหรับเราแล้วอร่อยปลื้มปริ่มพอฟัดพอเหวี่ยงกับ La Paris ชนิดตัดสินใจลำบากเลยทีเดียว ซึ่งส่วนนึงคงเพราะเราชอบกลิ่น maple syrup อยู่แล้วเป็นทุนเดิม ด้านในที่เค้าว่าเป็น pancake นั้น ไม่ใช่เนื้อแพนเค้กๆนิ่มๆแฉะๆนะคะ แต่ออกแนวกรุบกรอบหอมนมเนย มีแทรกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายอยู่ในเนื้อมูสเค้กที่หอมกรุ่นกลิ่น maple syrup ..ชอบสุดๆ ถ้าเทียบกับ La Paris แล้ว แม้รสชาติ “คำแรก” อาจ impact ไม่แรงเท่า แต่ตัวนี้เป็นตัวที่ทานได้สบายๆจนหมดได้คนเดียวแบบไม่ต้องแบ่งใครเลยล่ะค่ะ อร่อยฟินตั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้าย.. (รักน้อยๆแต่รักนานๆสินะ)● Waltz Chocolate (ราคา 175 บาท) – ตัวนี้เป็นมูสช็อคโกแลตที่แม้เนื้อจะเนียนเบา แต่รสชาตินั้นแสนจะหนักแน่นไปด้วยช็อคโกแลตเข้มข้น ตัวนี้ขอเตือนนิดนึงว่าเห็นในตู้ดูชิ้นขนาดเหมือนไม่ได้ใหญ่ไปกว่าร้านอื่นก็จริง แต่ด้วยความหวานมันเข้มข้นของรสชาตินี้ทำให้รู้สึกว่ามันเยอะ ทานคนเดียวไม่น่าจะไหวค่ะ (อย่างของเราแบ่งกัน 4 คน คนละซีกเดียวยังเกือบไม่หมดแน่ะ) ถ้าถามว่าอร่อยมั๊ย..คือมันก็อร่อยนั่นแหละ เพียงแต่ถ้าทานทีละเยอะๆจะหนักไปจนเอียนเท่านั้นเอง● Floral Fantasy Tea (ราคา 135 บาท)- เป็นชากุหลาบที่มีส่วนผสมของ black tea, rose buds, strawberry bits, currants และ nougat bits อาจเป็นเพราะผสมซะหลายอย่างก็เลยรู้สึกว่าทั้งกลิ่นชาและกลิ่นกุหลาบไม่ค่อยชัดเจน ใช้จิบแกล้มกับขนมพอให้ชูรสก็โอเคใช้ได้อยู่ แต่ถ้าพูดถึงความชอบในฐานะชาแล้วตัวนี้ยังไม่ใช่แนวเราซักเท่าไหร่ค่ะโดยรวมแล้วเค้กร้านนี้ฝีมือเยี่ยมสมคำร่ำลือ จะฟินไม่สุดอยู่ก็ในแง่ของสถานที่ที่คับแคบ ที่นั่งมีแค่ 2 ที่ทำให้โดยมากแล้วต้องซื้อเอากลับบ้าน ซึ่งเค้าจะใส่กล่องมีกาวยึดให้แถมแปะน้ำแข็งมาให้เรียบร้อย แต่ก็ยังต้องรีบเอากลับอยู่ดีเพราะเค้กที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเนื้อมูส อยู่นอกตู้เย็นได้อย่างเก่งไม่เกิน 2 ชั่วโมงค่ะ ส่วนเครื่องดื่มที่ไว้สั่งทานกับขนม (ในกรณีที่มีที่นั่งว่าง) นั้นอยากจะให้มีกาแฟร้อนด้วยนะ ..ใครชอบเค้กที่ทำแบบประณีตละเมียดละไมน่าจะถูกใจร้านนี้ค่ะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)