4
0
0
เดิน 6-นาที จาก สถานี BTS เพลินจิต ทางออก 4
อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
ธุรกิจ
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยง ปาร์ตี้
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
06:00 - 23:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
เมนูแนะนำ
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาลองบุฟเฟต์ Sunday Brunch ของห้อง Marriott Café ที่ชั้น G ของโรงแรม JW Marriott ค่ะ ทราบมาว่าที่นี่ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในสามห้องอาหารบุฟเฟต์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ โดยผู้อ่านนิตยสาร แบงค็อก ไดน์นิ่ง แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมาซะด้วย เราเลยตั้งใจมาจัดหนักจัดเต็มมื้อใหญ่กันเลยทีเดียวล่ะ**-ทำเลที่ตั้ง/การเดินทาง-**● รถยนต์ – สำหรับคนที่ขับรถมาจากถนนสุขุมวิททางด้านซอยนานา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 2 ค่ะ โรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือ มีอาคารที่จอดรถอยู่เลยตัวโรงแรมไปนิดเดียว● รถไฟฟ้า BTS – โรงแรมจะอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตกับนานา โดยจะใกล้ทางเพลินจิตมากกว่านิดนึง เดินจากสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตมาประมาณไม่ถึง 10 นาทีก็จะเห็นโรงแรมอยู่ทางขวามือค่ะ**-ข้อมูลพื้นฐาน-**สำหรับ Sunday Brunch นี้จะจัดในช่วงเวลา 11.30-15.00 น. ของทุกวันอาทิตย์ ราคาท่านละ 2,343 บาทถ้วนโทร. สำรองที่นั่งได้ที่ 02-656-7700 ค่ะ**-ไลน์อาหาร-**เพียงก้าวเข้าประตูมาก็เห็นโต๊ะวางชีสหลากหลายชนิด เล่นเอาคนชอบชีสอย่างเราตาลุกวาวทีเดียวค่ะ เท่าที่เห็นมีตามนี้..● Hard : มี Emmental, Parmesan ชีสตระกูลนี้สำหรับเราคือทานได้ แต่ยังไม่ถึงกับชอบมาก โอเคอยู่ค่ะ● Semi-hard : มี Gouda ซึ่งมาเป็นแบบ slice + brineมาแล้ว กลิ่นรสยังไม่ค่อยเข้มและยังไม่รู้สึกถึงผลึกกรุบนิดๆในเนื้อชีส เลยไม่ค่อยถูกใจเราที่ชอบ Aged Gouda มากกว่าน่ะค่ะ/ Mimolette ชีสสีส้มตัวนี้เป็นตระกูลเดียวกับ Edam ปกติถ้าบ่มได้อายุเต็มที่น่าจะจัดอยู่ในพวก Hard แต่ขนาดที่เอามาวางนี่เราว่าก็กำลังอร่อยแล้วนะ● Soft : มี Brie ของโปรดของเราด้วย อร่อยสุดๆค่ะ / Blue Cheeseทานได้ แต่ไม่ปลื้มเท่าไหร่ /Secret Du Couventตัวนี้ก็ช้อบชอบค่ะ (ณ.จุดนี้คือเม้นต์ด้วยรสนิยมความชอบส่วนตัวล้วนๆ..555+)● Cream Cheese – ครีมชีสสดๆผสมมากับผลไม้แห้ง อร่อยปลื้มปริ่มมากๆนอกจากชีสแล้วเครื่องเคียงก็ยังจัดไว้ให้ครบครันอลังการสุดๆ ทั้งเม็ดมะม่วงหิมพานต์ almond เมล็ดฟักทอง apricot แห้ง อินทผาลัม ลูกเกด แคร็กเกอร์ ส่วนขนมปังต่างๆนั้นก็วางไว้ให้ใกล้ๆกันค่ะดูเป็นมุมเล็กๆที่เหมือนจะมีไม่เยอะ แต่กลับมีบรรดา seafood ต่างๆหลากหลายครบครัน และเติมไวมากค่ะ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่ออกเค็มไปนิดสำหรับเรา แต่เค้ามีมะนาวฝานวางไว้ให้หยิบด้วย แก้รสกันได้ไม่ยาก ในไลน์มีหอยนางรมสดๆตัวเขื่องๆ / กุ้งเล็กตัวอวบๆแกะเปลือกให้เรียบร้อย / กุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นๆหวานๆ / กั้งหิน / หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ / ปูม้า / ขาปูยักษ์ โดยรวมแล้วสดอร่อยใช้ได้คุณภาพดีทีเดียวค่ะ เราปลื้มกุ้งแม่น้ำมากเป็นพิเศษ จัดไปซะหลายตัวเลยล่ะไฮไลท์ของที่นี่ที่มาแล้วยังไงๆก็ต้องจัดให้เต็มคราบ! แน่นอนว่าเมนูไฮโซแบบ Foiegras นี่ไม่มีการทำทิ้งไว้ให้เย็นชืด แต่ให้ไปสั่งทำสดๆได้เลยค่ะ สั่งเสร็จมานั่งรอสวยๆที่โต๊ะเดี๋ยวเค้าก็เอามาเสิร์ฟให้ร้อนๆ แอบแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเชฟเค้าจำได้ไงว่าใครสั่งบ้างและนั่งโต๊ะไหน เพราะไม่ต้องมีเบอร์มีคิวอะไรทั้งนั้นแต่ก็มาเสิร์ฟได้ถูกเป๊ะ Foiegras ที่นี่ทำมาแบบกรอบนอกนุ่มในอย่างที่ชอบค่ะ แม้ว่าชิมดูแล้วจะยังไม่ใช่เกรดท็อป และชิ้นค่อนข้างบาง แต่กับบุฟเฟต์ที่กินได้ไม่อั้นนี่คุณภาพ Foiegras ประมาณนี้ต้องถือว่าดีงามน่าคบมากๆเลยล่ะมุมสลัดที่มี dressings ให้เลือกมากถึง 6 ชนิด แนะนำให้ลอง Blue Cheese Dressing ดูค่ะ เพราะมันหาทานที่อื่นยาก ส่วนคนที่ชอบ Caesar Salad ก็มีบริการมิกซ์ให้เรียบร้อย ผักสลัดอาจจะยังไม่หลากหลายนักแต่ที่มีอยู่ก็สดกรอบใช้ได้ค่ะแซลมอนรมควันของที่นี่จัดว่าเด็ดค่ะ มาพร้อมหอมใหญ่ เลมอน ซอสครีมชีสครบครัน ส่วนทูน่ารมควันโรยพริกไทยดำก็อร่อยมากๆ● Roasted Lamb – ขาแกะย่างทั้งขาตั้งไว้ให้ไปแล่กันได้ตามใจชอบ! อลังการดาวล้านดวงสุดๆค่ะ เท่านั้นไม่พอยังมีเครื่องเคียงให้เพียบทั้งน้ำเกรวี่, Sour Cream, Dijon Mustard, เบคอนป่น..ฯลฯ ไม่ขาดตกบกพร่อง เมนูนี้เนื้อแกะจะยังมีกลิ่นหลงเหลืออยู่บ้าง สำหรับคนที่ไม่คุ้นกับกลิ่นเนื้อแกะอาจจะยังไม่ปลื้มนะคะ● Salmon – ลืมแซลมอนย่างที่แล่ชิ้นบางๆมาเสิร์ฟตามร้านอาหารทั่วไปได้เลย เพราะบุฟเฟต์ที่นี่เค้าเอาปลาแซลมอนทั้งตัวมานอนให้เลือกหั่นไปใส่จาน เมนูนี้เราพลาดไปนิดที่มัวแต่ถ่ายรูปเพลิน พอจะไปตักทานจริงๆส่วนพุงปลาที่เราชอบมันหมดไปแล้ว เหลือแต่เนื้อส่วนใกล้หางซึ่งค่อนข้างแห้งและไขมันน้อย เลยยังไม่โดนใจเท่าไหร่ สรุปคือที่จริงเค้าก็ย่างมาดี แต่ความอร่อยจะอยู่ที่ได้เลือกแล่เนื้อปลาส่วนที่ชอบทานได้ตามใจน่ะค่ะ ฉะนั้นควรรีบไปตักให้ไว..555+● Glazed Honey Ham – วางไว้ทั้งชิ้นใหญ่ๆให้ไปแล่อีกเช่นกัน เมนูนี้เราไม่ได้ชิมเอง แต่คนชิมเค้าบอกว่านุ่มอร่อยใช้ได้จ้ะมุมพาสต้านี้ทำกันสดๆจานต่อจานตามสั่งค่ะ ของเราเลือกเป็นเส้น Fettucine หมึกดำ ผัดกับหอยเชลล์, เบคอน และพริกแห้งค่ะ รสชาติอ่อนไปนิด แต่ปรุงซะหน่อยก็โอเคพอใช้ได้อยู่ค่ะมีใส่หม้ออุ่นไว้ให้เลือกตักชิมหลายอย่างทีเดียวค่ะ แต่ขอเล่าเท่าที่ได้ลองนะคะ● Roasted Duck with Beetroot Chutney – ชื่อก็บอกว่ามีบีทรูท ฉะนั้นเป็ดย่างจานนี้เลยมีซอสสีแดงที่รสค่อนข้างหวานค่ะ เนื้อเป็ดนุ่มดี แต่หวานไปสำหรับเรานะ● Poached Salmon with Lemon Cream Sauce – เมนูนี้อร่อยระเบิดระเบ้อ ชอบมากๆค่ะ เนื้อแซลมอนที่ซึมซับครีมซอสจนนุ่มละมุนลิ้น มีรสเปรี้ยวและความหอมของเลมอนช่วยให้ทานได้เรื่อยๆโดยไม่เลี่ยน ปลื้มปริ่มโดนใจสุดๆ● Lamb Osso Buco – สตูว์เนื้อแกะสไตล์อิตาเลียนที่ตุ๋นมาจนนุ่มเปื่อยละลายในปาก อร่อยดีงามสุดๆค่ะ เล่นเอาคนตักกันรัวๆจนเกลี้ยงเหลือแต่กระดูกเลย เมนูนี้แม้แต่คนที่ไม่ชินกับกลิ่นเนื้อแกะก็ฟินได้ เพราะไม่มีกลิ่นสาบแกะเลยแม้แต่นิดเดียว ทำออกมาได้เลิศจริงๆ● Grilled Lamb Chop with Rosemary Sauce – แกะย่างชิ้นหนา หอมกลิ่น Rosemary Sauce ชัดเจน รสชาติดีและไม่มีกลิ่นสาบแกะ แต่แน่นอนว่าความนุ่มยังแพ้จานที่แล้วอยู่นิดนึง จัดว่าพอใช้ได้ค่ะ● Bacons / Ham / มันฝรั่งผัด – เมนูสไตล์มื้อเช้าที่มีติดไว้ซะหน่อยให้สมกับเป็น Brunch (= Breakfast + Lunch) เบคอนทอดมาได้กรอบถูกใจ มันฝรั่งก็เอาไว้ทานแกล้มกับเมนูจานหลักอื่นๆได้ดีค่ะ● Sashimi – จัดว่าดีงามสามตะกร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งแซลมอนที่สด เนื้อแน่นทานเพลิน ฟินเลย..นอกจากนี้ยังมีปลาหมึก ทูน่า และปูอัดด้วย แต่เราว่าแซลมอนนี่ล่ะแจ่มสุดแล้ว● Sushi – แม้ในไลน์จะมีพวก Maki และ Sushi roll ให้ตามแบบบุฟเฟต์มาตรฐานทั่วไป แต่งานนี้เราขอสะบัดบ๊อบเมินใส่โดยสิ้นเชิง เพราะมีของที่เด็ดกว่าอย่าง Temakiคือเจ้าซูชิที่เป็นสาหร่ายกรวยๆ ที่เราสามารถสั่งได้ว่าจะให้ใส่อะไรบ้าง เค้าจะทำให้สดๆเดี๋ยวนั้น ซึ่งเป็นอะไรที่เลิศมากๆ เพราะ Temaki นี่ถ้าทำทิ้งไว้สาหร่ายจะหายกรอบ พาลจะเหนียวเคี้ยวยาก พอทำให้สดๆนี่นอกจากจะครีเอทไส้ได้เองแล้วยังได้กินตอนทำใหม่ๆ ยังไงก็ฟิน! ...ว่าแล้วเราก็จัดไปเลย Unagi + Ikura + Avocado ....อร่อยเคลิ้มมมม...● Tempura – มีเท็มปุระปูอัดกับกุ้ง ..ที่จริงก็ทำออกมาได้ดีไม่อมน้ำมัน แต่ความที่ทอดแล้ววางทิ้งไว้ ไม่ได้ทานตอนร้อนๆ ความอร่อยเลยดร็อปลงไปนิดนะเป็นมุมเล็กๆที่มีทั้งติ่มซำ / เป็ดย่าง / หมูหัน โดยรวมแล้วรสชาติปานกลางพอใช้ได้ไม่ถึงกับโดดเด่น เราชอบเป็ดย่างที่สุดค่ะเท่าที่เห็นมีขนมจีน และกับข้าวเช่นปลาผัดเปรี้ยวหวาน ลาบ ยำต่างๆ ซึ่งดูแล้วเมนูน่าจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆในแต่ละครั้ง มุมนี้สำหรับเราดูแล้วไม่เร้าใจเท่าไหร่ เลยขอผ่านไปก่อนค่ะไลน์นี้ดูแล้วอลังการดาวล้านดวงมาก มีทั้งเครปที่สั่งทำกันได้สดๆ Chocolate Fondue, เค้กสารพัดแบบ, chocolate lava และขนมไทยหลากชนิด เราลองเป็น..● ข้าวเหนียวมะม่วง ชอบที่ข้าวเหนียวเค้านุ่มนวล รสชาติกลมกล่อมหอมกะทิกำลังดี๊ดี ส่วนมะม่วงนั้นคงแล้วแต่ฤดูกาล อย่างวันที่ไปนั้นเราว่ามันชืดไปนิด ไม่ค่อยหวานน่ะค่ะ● Rice Pudding – ตัวนี้มีซอสวานิลลาให้ราดด้วย รสชาติใช้ได้แต่ไม่ถึงกับติดใจมากค่ะ● Chocolate Fondue – อันที่จริงตัวช็อคโกแลตเค้าหอมเข้มข้นอร่อยดี แต่ของที่เอามาเสียบไม้ให้จิ้มยังไม่โดนใจนัก คือมีมาร์ชเมลโลว์ เค้กชิ้นเล็กๆและเวเฟอร์ ..นี่ถ้ามีผลไม้สด เช่นสตรอเบอร์รี่ลูกโตๆฉ่ำๆด้วยนี่น่าจะแจ่มเลยนะ (แอบเสียดายเบาๆ)ส่วนเค้กต่างๆนั้นมีให้เลือกเยอะมาก หน้าตาดูดีน่าอร่อยไปซะหมด เสียดายว่าอิ่มแทบปริกันซะแล้ว เลยอดลองล่ะค่ะสำหรับเครื่องดื่มชา-กาแฟร้อนนั้นให้สั่งจากพนักงานที่เดินตามโต๊ะค่ะ เราสั่งกันไปเป็น Hot Americano กับ Hot Cappuccino กาแฟที่นี่หอมและกลมกล่อมดีทีเดียว เป็นการปิดท้ายอาหารมื้อใหญ่นี้ลงได้อย่างสมบูรณ์ค่ะสุดท้ายนี้ต้องขอบคุณทาง OpenRice ที่จัดกิจกรรมให้ได้ไปฟินกับบุฟเฟต์มื้อใหญ่ครั้งนี้ ได้ลองแล้วก็รู้สึกว่าแม้ราคาจะสูงอยู่บ้าง แต่ก็เป็นบุฟเฟต์ที่มีคุณภาพระดับบนๆสมกับราคาเลยทีเดียว ถ้าใครชอบ Foie Gras – เนื้อแกะ – แซลมอน – ซาชิมิ ขอบอกว่าที่นี่มีให้ครบสมควรมาจัดหนักดูซักมื้อจริงๆค่ะ
อ่านต่อ
ห้องอาหารนี้ถ้าเทียบราคากับคุณภาพแล้ว ถือว่าคุ้มแสนคุ้ม เพราะซาชิมิของเขาใช้ของสดจริงๆ ทั้งแซลมอน ปลากะพง ปลาทูน่า กุ้ง หรือพวกทอดๆ อย่างเทมปุระกุ้งก็ชุบแป้งแค่บางๆ แล้วทอดจนกรอบ ไม่ต้องกลัวว่าจะหากุ้งในเทมปุระไม่เจอ หรือเมนูซูชิก็ครีเอทให้มีรสชาติที่หลากหลายเอาใจคนกินทุกแนว มีทั้ง Crunchy Roll ซูชิโรลไส้กุ้งเทมปุระที่เป็น Signature ของร้าน และ Spicy Salmon Roll ที่ใช้ความเผ็ดมาดับความเลี่ยนเอียนได้ชะงัดชนะใจเลยหละ
อ่านต่อ
วันนี้จะพาทุกคนไปทานบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ห้องอาหาร Marriott Café Restaurant จ้า ของโรงแรม JW Marriott Hotel Bangkok ราคาต่อหัวเฉลี่ยเกิน 1500 บาทจ้า ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่มี ถือว่าราคาสูงมากๆ แต่ด้วยความหลากหลายของอาหาร คุณภาพ การบริการ และบรรยากาศ เราว่าก็โอเคนะ นานๆที อิอิ ที่นี่ไลน์อาหารมีครบ ทั้งสปาเก็ตตี้ อาหารญี่ปุ่น สลัด อาหารไทย อาหารจีน อาหารอินเดียก็มี อาหารแต่ละอย่าง ดูดี และน่าทานมากๆ อย่างอันนี้เป็นแซลมอน ก็เอามาให้เห็นเป็นตัวๆเลย ดูอลังการมากๆ ปลาสด ไม่คาว อร่อยมากจ้าที่เราประทับใจกับมื้อนี้ คงหนีไม่พ้นของหวาน มีไม่มาก แต่อร่อยสุดๆไปเลย อิอิ และยังมีฟองดูด้วย ชอ็คโกแลตเข้มข้น อร่อยยยเป็นอีกมื้อที่เราประบทับใจ และอยากให้ชาว Openrice ได้ไปลองนะจ๊ะ
อ่านต่อ
Romantic Dinner @ Marriot Cafe'This restaurant locates in Marriot Hotel, Sukumwit Road.The atmosphere around the hotel is decorated for Christmas and New Year Celebration.There are various light and Christmas Tree.There are many people here, almost of them come here for business and family dinner.Most of clients are foreigners.This time I visit here, it's an international dinner buffet.Which include all food selections and coffee / tea for drinks.There are Japanese Food, Seafood, Western menu, Salad, Thai food, and Dessert.Japanese food composes of various type of raw meat, for example, Tuna, Salmon, Eel,Crab Stick, Seaweed and Octopus, which serve as Sushi and Sashimi.In the Western Style corner, you will see many fish menu; fried, oyster, grilled, etc.There are also stir fried vegetable with butter, various bread, and cheese.The make to order spaghetti is one of the signature here. There are many sauces such as Cabonara, and Tomato Sauce.In the middle of this restaurant, there are a big shelf with full of seafood.The high light is Giant Crab Leg, shrimp, and oyster which serve on ice.There are several types of sauces.Moreover, there are Thai food corner for foreigners. Such as Musman, Pla Koong.Its taste is not too hot to try !The last but not less is dessert. I really like its home-made ice-cream; coconut, chocolate, vanilla, strawberry, and mocha flavor. The chocolate fountain around withfresh fruit and muskmelon.There are Thai desserts and western menu; various cake like Tong-Yod, Look-Choob, Tiramitsu, Chocolate Cake, Apple Crumble, Chocolate Mooses, Mixed Berry Shot, etc.You also can enjoy free water, coffee and tea here. It included in the set.The over all taste is really good with high quality ingredients.The price is rather high, but if you have member card, it's much cheaper.The service is nice, the staff are very kindly and helpful.The location is easy to access while the atmosphere is cool.
อ่านต่อ
สวัสดีชาว Open Rice ทุกท่านค่ะ หลังจากครั้งที่แล้วพาไปชิมบุฟเฟ่ที่ห้อง Cuisine unplugged กันมาแล้ว วันนี้จะพามาชมอินเตอร์บุฟเฟ่ที่แห่งที่ถือว่าเป็นอันดับต้นๆในโรงแรงประเทศไทยเลย ทั้งรสชาติ บรรยากาศ บริการรวมถึงความหลากหลายเอาไป 10 เต็มเลยค่ะกับห้อง Marriott Cafe โรงแรม JW Marriott ^_^สำหรับบุฟเฟ่ในวันนี้จะพาไปทานมื้อเย็นวันเสาร์ค่ะ ราคาก็สมกับความอร่อย คนละ 1884 netราคานี้รวมเครื่องดื่มแล้ว (น้ำผลไม้และน้ำเปล่า) ไลน์อาหารหลากหลายมากค่ะ รวมถึงมี station ฟัวกราส์ที่เชฟทำให้แบบร้อนๆจานต่อจานกันเลยทีเดียว การจัดไลน์ก็จัดได้หลากหลายและสวยงามตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวทั่วไป มีทั้งโซน Roast Beef, Lamp,Cold cut ต่างๆ อาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารไทย อาหารอินเดียก็มีค่ะ ส่วน stationที่มีเชฟยืนทำให้ร้อนๆก็มี ฟัวกราส์ และ สปาเกตตี้ ที่สามารถสรรสร้างเมนูได้เอง และที่พิเศษสุดๆก็คือ ที่นี่จะมีปู อลาสก้า on ice ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่เลย เนื้อหวานและสดมากๆค่ะ สำหรับคนชอบขนม ถึงที่นี่ไลน์จะไม่ใหญ่นัก แต่ขนมก็หลากหลายพอควร เค้กต่างๆรสชาติเข้มถึงใจ รวมถึงมีไลน์ข้าวเหนียวมะม่วงที่ชาวต่างชาติจะชอบมากๆด้วยค่ะ นอกจากนั้น ไอศกรีมหรือเครปสด ก็มีให้เลือกเช่นกันค่ะส่วนบรรยากาศ และการบริการ ถือว่าเยี่ยมค่ะ พนักงานที่นี่น่ารัก บริการ และยิ่มแย้มแจ่มใสทุคน ไม่แปลกเลยที่ลูกค้าจะหนาแน่นมาก ใครที่สนใจไปทานก็อย่าลืมโทรจองโต๊ะล่วงหน้านะคะ ^__^
อ่านต่อ