1
3
0
ระดับ2
17
16
ในซอยเล็กๆของย่านธุรกิจที่สับสนวุ่นวายใจลางเมืองกรุงเทพมหานคร ไม่ไกลไปจากแยกนราธิวาส ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนที่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแหล่งที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศไทย คือถนนสาทรและถนนนราธิวาส ใครจะสามารถจินตนาการได้ ว่าจะมีร้านอาหาร ที่ตกแต่งด้วยไสตล์ยุโรปตอนกลาง ในบรรยากาศของชนบทยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า รายล้อมไปด้วยนักธุรกิจและพนักงานบริษัททั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตัวอาคารเป็นตึกที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ให้ขับกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกออกมาได้อย่างเต็มที่ การใช้กระจกแทนผนัง และการปรับโครงเพดานให้สูง สร้างความรู้สึกโปร่ง พร้อมกับความใส่ใจในรายละเอียดของการประดับ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
ในซอยเล็กๆของย่านธุรกิจที่สับสนวุ่นวายใจลางเมืองกรุงเทพมหานคร ไม่ไกลไปจากแยกนราธิวาส ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนที่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแหล่งที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศไทย คือถนนสาทรและถนนนราธิวาส ใครจะสามารถจินตนาการได้ ว่าจะมีร้านอาหาร ที่ตกแต่งด้วยไสตล์ยุโรปตอนกลาง ในบรรยากาศของชนบทยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า รายล้อมไปด้วยนักธุรกิจและพนักงานบริษัททั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ตัวอาคารเป็นตึกที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ให้ขับกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกออกมาได้อย่างเต็มที่ การใช้กระจกแทนผนัง และการปรับโครงเพดานให้สูง สร้างความรู้สึกโปร่ง พร้อมกับความใส่ใจในรายละเอียดของการประดับตกแต่งอย่างมีรสนิยม และเพลงประกอบในไสตล์ classical jazz ทำให้ร้าน Colonial Bistro เป็นร้านอาหารที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่นออกมาจากอาคารและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบได้อย่างชัดเจน
41 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ภายในร้าน หลังบานประตูกระจก ที่เปิดเข้าไป เป็นเคาน์เตอร์ พร้อมกับเครื่องทำกาแฟ พร้อมมุมนั่งสบายๆ ที่มีคาแรกเตอร์แตกต่างกันออกไป แต่ก็เข้ากันได้อย่างประหลาด ชวนให้รู้สึกน่านั่งจิบชาหรือกาแฟ เพื่อหลบหนีจากความวุ่นวาย และคลายความเครียดจากการทำงานลงไปได้อย่างดี

บนชั้นสอง เป็นโซนที่จัดเอาไว้เพื่อบริการลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหาร ถูกตกแต่งไว้อย่างขาวสะอาด ด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นโทนสีขาวสไตล์วินเทจ พร้อมโซนเก้าอี้หวายริมหน้าต่าง และโซนโซฟาในช่วงกลางร้าน
47 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ความใส่ใจในรายละเอียดของร้าน ยังครอบคลุมไปถึงระดับของการบริการ ที่เน้นความสุภาพ เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายหรือกระทั่งการพูดจา

สำหรับอาหาร ร้าน Colonial Bistro ก็ได้เตรียมรายการเอาไว้เพื่อรองรับความหลากหลายทางด้านรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อิตาลี หรือแม้แต่อาหารสไตล์ฟิวชั่น ที่เป็นการผสมผสานวัตถุดิบปนแบบไทย นำมาปรุงด้วยวิธีการแบบตะวันตก เพื่อสร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ให้กับแมนูของร้านได้อย่างมีศิลปะ

เมนูที่เสิร์ฟมาในวันนี้ แบ่งเป็น main course คือ ลาวิโอลีครีมต้มยำ และเฟตตูชินีครีมเพสโต แซลมอน พิทาชิโอ พร้อมกับ side dish อันประกอบด้วยปลาหมึกชุบแป้งทอดเคลือบชีส

สำหรับเรื่องรสชาติ ทางร้านเน้นทำโดยเน้นรสชาติที่ละมุน ไม่เน้นไปทางเค็ม หวาน หรือเผ็ด แต่ค่อนข้างบกพร่องไปในทางรสสัมผัส และวิธีการปรุง โดยลาวิโอลีครีมต้มยำ มีการใช้ครีมค่อนข้างเยอะ ทำให้กลบกลิ่นและสัมผัสของเครื่องต้มยำ และการต้มลาวิโอลี ทำได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้บางชิ้นแข็ง ในขณะที่บางชิ้นก็นิ่มเกินไป
38 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับเฟตตูชินีครีมเพสโต แซลมอน พิทาชิโอ เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่นำเสนอออกมาได้อย่างเข้าท่า หากแต่ความเข้มข้นของเนื้อพิทาชิโอ ที่ปรุงเข้ากับเนื้อครีม โดยทานคู่กับเส้นเฟตตูชินี มีรสสัมผัสที่หนักไปทางแป้ง แ่ต่ก็ไม่ได้หนักจนเกินไป และความโดดเด่นด้วยรสชาติและกลิ่น ที่ทำให้จานนี้ กลายเป็นจานแนะนำประจำร้านได้
42 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
และสำหรับ side dish ปลาหมึกชุบแป้งทอดเคลือบชีส ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับครีมซอส เป็นจานที่ทำออกมาได้่ค่อนข้างดี เนื้อปลาหมึกไม่เหนียว และทอดออกมาไม่ชุ่มน้ำมัน ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยนเมื่อจิ้มครีมซอสที่เสิรฟมาพร้อมกัน
39 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ส่วนเรื่องราคาอาหาร มื้อนี้จบลงด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 600 บาท ซึ่งประกอบด้วยน้ำเปล่า อาหารจานหลักสองจาน เครื่องเคียงหนึ่งจาน และ service charge อีก 10% เรียกว่าเป็นมื้อที่ไม่แพงจนเกินไปสำหรับคุยธุรกิจ หรือแม้กระทั่งพาคนรักมาเปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหาร
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2012-04-05
ราคาต่อคน
฿300
เมนูแนะนำ
  • เฟตตูชินีครีมเพสโต แซลมอน พิทาชิโอ