4
4
0
ระดับ4
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปหม่ำที่ห้องอาหารในโรงแรมกันอีกแล้วนะคะ โดยทางฝ่ายการตลาดของโรงแรมนี้ได้ชวนมาเช่นเดิมค่ะ เนื่องด้วยทุกวันศุกร์จะมีบุฟเฟท์ซีฟู้ดที่ห้องอาหาร Party House One ซึ่งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของโรงแรมสยามแอทสยามดีไซน์โฮเต็ลแอนด์สปาค่ะ โดยราคาจะอยู่ที่หัวละ 1400 บาทเน็ต ไม่รวมเครื่องดื่มนะคะสำหรับตัวซีฟู้ดบุฟเฟท์ของที่นี่ดูแลโดยหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวฝรั่งเศส เชฟจิลล์ ไพเทเว่นค่ะ โดยจะเริ่มเปิดไลน์บุฟเฟท์ตั้งแต่ 18.30-22.30 นะคะ แล้วก็มีถึงแค่สิ้นเดือนกันยายนนี้นะคะสำหรับการเดินทางไปที่ห้องอาหารนี้ เราขับรถไปโดยใช้ google map ซึ่งก็พาข้าพเจ้าไปผิดทางอีกแล้ว (คือเล่นเป๊ะบ้าง มั่วบ้างนี่ จะไม่ใช้เลยก็ไม่ใช่ แต่พอใช้แล้วบางทีก็เซ็งแบบเ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปหม่ำที่ห้องอาหารในโรงแรมกันอีกแล้วนะคะ โดยทางฝ่ายการตลาดของโรงแรมนี้ได้ชวนมาเช่นเดิมค่ะ เนื่องด้วยทุกวันศุกร์จะมีบุฟเฟท์ซีฟู้ดที่ห้องอาหาร Party House One ซึ่งอยู่ที่ชั้นหนึ่งของโรงแรมสยามแอทสยามดีไซน์โฮเต็ลแอนด์สปาค่ะ โดยราคาจะอยู่ที่หัวละ 1400 บาทเน็ต ไม่รวมเครื่องดื่มนะคะ
สำหรับตัวซีฟู้ดบุฟเฟท์ของที่นี่ดูแลโดยหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ชาวฝรั่งเศส เชฟจิลล์ ไพเทเว่นค่ะ โดยจะเริ่มเปิดไลน์บุฟเฟท์ตั้งแต่ 18.30-22.30 นะคะ แล้วก็มีถึงแค่สิ้นเดือนกันยายนนี้นะคะ
สำหรับการเดินทางไปที่ห้องอาหารนี้ เราขับรถไปโดยใช้ google map ซึ่งก็พาข้าพเจ้าไปผิดทางอีกแล้ว (คือเล่นเป๊ะบ้าง มั่วบ้างนี่ จะไม่ใช้เลยก็ไม่ใช่ แต่พอใช้แล้วบางทีก็เซ็งแบบเนี้ย ) ขึ้นทางด่วนไปซะสามรอบ แล้วไปลงที่พระรามสี่ จากนั้นก็ไปตามที่บอกหละค่ะ ขึ้นสะพานยาวๆ ไปลงแถวสามย่านก่อนวิ่งบรรทัดทอง ไปวนกลับรถในโลตัสเพื่อมาเลี้ยวเข้าถนนพระรามหนึ่งให้ได้ โรงแรมนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆ กับสนามกีฬาศุภชลาศัยน่ะค่ะ
เราเอารถไปจอดเรียบร้อยก็ลงลิฟท์ไปชั้น ๑ ค่ะ แล้วก็เดินไปทางล็อบบี้ ก็จะเจอห้องอาหารนี้ซึ่งจะอยู่ฝั่งด้านถนนพระราม ๑ เลยนะคะ
เราก็เดินตรงต่อไปค่ะ เจอแล้ว PH1 หรือ party house one นั่นเองค่า
22 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
พอเดินเข้าไปปุ๊บ โซนแรกที่เจอ น่าจะเป็นโซนบาร์น่ะนะคะ ต้องเลี้ยวขวาเดินเข้าไปถึงจะเป็นโซนของการรับประทานอาหาร
27 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
โซนที่นั่งสำหรับรับประทานอาหารค่ะ จากรูปแรกนี่ด้านในสุดเป็นโซนสำหรับวงดนตรีนะคะ จะเริ่มเล่นตอนสองทุ่มค่ะ
16 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จะเห็นว่ามีที่นั่งที่ชั้นสองด้วยนะคะ แต่วันนั้นที่ไปคนไม่ค่อยเยอะมากนักค่ะ (กลางเดือนน่ะนะ ฮา) ก็เลยไม่มีคนนั่งข้างบนกัน
ตรงบริเวณที่นั่งจะมีจอฉายภาพยนตร์ด้วยค่ะ ที่พัทยาก็มีโปรแกรมฉายหนัง สงสัยเจ้าของจะชอบภาพยนตร์นะคะนี่
set up บนโต๊ะค่ะ (ไปถ่ายโต๊ะคนอื่น เพราะของตัวเอง คลี่ผ้าเรียบร้อยแล้ว แหะๆ) และบนโต๊ะก็จะมีช้อนส้อมสำรองใส่ตะกร้าทรงสูงไว้ให้ด้วยนะคะ สะดวกดีค่ะ
26 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ได้เวลาอันพอสมควรแล้ว ไปสำรวจไลน์บุฟเฟท์กันดีกว่านะคะ
โซนแรกจะเป็นสเตชั่นของพาสต้าและ Mongolian ค่ะ ตัวแรกนี่คงไม่ต้องอธิบายกันแล้วเนาะ ส่วนตัวหลังนี่ที่เราไปถามพนักงาน ก็ออกแนวผัดผักน่ะค่ะ คือจะมีผักให้เลือกแล้วให้พนักงานปรุงให้ เราก็งงว่าทำไมถึงเรียกแบบนี้ พนักงานบอกว่าเป็นชื่อของมัน เราก็..อืมม์..ตามนั้นหละค่ะ แหะๆ
30 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้เราไม่ได้ชิมค่ะ น้องบุ๊งเป็นคนชิม แล้วเธอก็เจ้าแม่การทำอาหาร เจ้าตัวบอกว่า ไม่ผ่านทั้งสองอันค่ะ เง่อ...
ถัดจากตัวสเตชั่น ก็จะเป็นญี่ปุ่นแล้วค่ะ ทั้งซูชิและซาชิมิ มาเต็ม จัดเต็มมาก
18 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้จะเป็นหนึ่งที่ได้รับการแนะนำนะคะกับ Oyster ค่ะ ซึ่งจะมีทั้งแบบ Shooter (ตัวนี้นำเข้าจากญ๊่ปุ่น) ซึ่งอยู่ในแก้วช็อตตามภาพ กับแบบ spicy อยู่ในฝาแบบนี้เลยค่ะ
16 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
9 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
แล้วก็จะเป็น Fresh Fine de Claire Oyster ที่กินกับเครื่องเคียงด้วยนะคะ ตามภาพเลย ตัวนี้เป็นตัวที่นำเข้าด้วยค่ะ เป็นหอยนางรมขึ้นชื่อของฝรั่งเศสนะคะ
26 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ซึ่งไปหาข้อมูลมาจาก ลิงก์นี้ เค้าบอกว่า ฤดูกาลที่หอยนางรมอร่อยที่สุดนั้นคือ ช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนธันวาคม ด้วยถือว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทะเลปลอดจากความสกปรก ที่มาจากน้ำจากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเล fine de claire หอยนางรมอันเลื่องชื่อของฝรั่งเศส เนื้อในใสหุ้มส่วนที่มีสีขาวข้นตรงกลาง ซึ่งมีรสหวานมัน เมื่อเปิดฝาออกจะมีกลิ่นหอมเรื่อๆ ถือเป็นหอยชั้นนำที่สุด ด้วยค่ะ
นอกจากนั้นก็มีข้อมูลจากลิงก์นี้ บอกเพิ่มเติมด้วยค่ะว่า หากเอ่ยถึง "หอยนางรม" คนไทยเรามักจะคุ้นเคยกับหอยนางรมที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารจากชายทะเล ภาคใต้ซะเป็นส่วนมาก
ในประเทศอื่นๆ ก็มีหอยนางรมเช่นเดียวกันครับและมีความแตกต่างกันกับหอยนางรมบ้านเราทั้ง ขนาดและสายพันธ์
หอยนางรมแต่ละแห่งก็จะมีขนาดและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักๆ ดังนี้ครับ
: ความแตกต่างของระดับความเค็มของน้ำทะเล
: อุณหภูมิของน้ำทะเล
: คุณภาพและความสอาดของน้ำทะเล
ซึ่งแต่ละความแตกต่างของน้ำทะเล ก็นำมาซึ่งคุณภาพของอาหารที่หอยนางรมบริโภคเข้าไปเพื่อ ดำรงชีวิต
ระดับความเค็ม ... อุณหภูมิ ของ น้ำ ... คุณภาพและความสอาดของน้ำทะเล
ทั้งสามอย่างนี่แหละครับ ที่ทำให้เราได้สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง ของรสชาติ หอยนางรม อย่างชัดเจน
เพราะหอยนางรม (OYSTER) อาศัยอยู่ตามโขดหินในทะเลน้ำตื้น บริโภคอาหารประเภท แพลงตอน ในระดับผิวมรายหรือหินใต้น้ำ
หอยนางรมดำรงชีวิตอยู่ได้โดยการดูดน้ำรอบๆ ตัวเข้าไปทางด้านนึงและปล่อยทิ้งออกอีกด้านนึง ... โดยบริโภคอาหารจำพวกแพลงตอนพืช .. แพลงตอนสัตว์ ที่ล่องลอยอยู่ในน้ำ เป็นอาหารหลัก และยังดูดอ๊อกซิเจนเข้าไปพร้อมกันกับน้ำ
นักทานหอยนางรมจะไม่นิยมทานหอยนางรมกันในฤดูผสมพันธ์ของหอย ... เนื่องจากหอยนางรมเป็นสัตว์ ที่มีเพศผู้และเพศเมียที่แยกกัน .... ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ หอยตัวเมียจะปล่อยไข่และหอยตัวผู้จะปล่อยน้ำเชื้อออกมาผสมในน้ำ ทำให้รสชาติ, ความสมบูรณ์และคุณค่าของอาหารในหอยนางรมนั้นลดด้อยลงไป
Fines de Claire (ฟินเดอร์แคลร์) .......... หอยนางรมยอดนิยมที่มีขายตามโรงแรมและร้านอาหารฝรั่งทั่งไป เป็นหอยขนาดกำลังดีจากชายฝั่งนอร์มังดี ของประเทศฝรั่งเศส ... ด้วยชายฝั่งนี้หันหน้ารับน้ำทะเลจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือโดยตรง ... น้ำทะเลทางด้านนี้เย็นและอุดมไปด้วยแพลงตอน ... ทำให้หอยพันธืนี้มีรสหวานนิดๆในตัวกลายเป็นหอยยอดนิยมในฝรั่งเศสและเกือบทั่วโลก .... ทานกับน้ำจิ้ม หอมแดงซอยใน น้ำส้มสายชูหมัก ตามด้วยไวน์ขาวซักแก้ว รับรอง อร่อยสดชื่นเลยครับ
แต่เราลองแค่สองตัวน่ะค่ะ (Shooter กับ Spicy) ไม่ได้ลองตัว Fine De Claire เพราะมีภารกิจต้องชิมอย่างอื่นอีกง่ะ แหะๆ (เสียดายเหมือนกัน)
ต่อไปจะเป็นอีกไลน์นะคะ ซึ่งจะเป็นส่วนของไลน์หลักค่ะ แต่ระหว่างไลน์หลักกับโซนที่พาดูช่วงแรกก็จะมีไลน์เล็กๆ อยู่หน่อยหนึ่งนะคะ ไปดูกันค่ะว่าเป็นไลน์อะไร แท้นแถ่..
13 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
เป็นไลน์ของคาร์เวียร์กับสาหร่ายวากาเมะนั่นเอง
25 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
แต่เราไม่ได้แตะเลยค่ะ (คือ ขอบอกว่าไปรอบนี้อิจฉาน้องบุ๊งมาก น้องกินได้เยอะมาก (แต่ตัวเล็กติ๊ดหนึ่ง) ถ้ากินได้เยอะขนาดน้องแล้วตัวเท่าน้อง จะลองให้ครบเลยค่ะ) แต่ไงก็เอามาให้ดูหน้าตาแล้วกันนะคะ จะได้ตัดสินใจถูกว่าจะไปหม่ำหรือเปล่าเนาะ
โซนของไลน์หลักนะคะ ทั้งตัวซีฟู้ดอื่นๆ และของหวานอยู่โซนนี้ทั้งหมดค่ะ
12 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
มาไล่กันตรงไลน์ตรงกลางก่อนเลยค่ะ ตรงนี้จะเป็นส่วนของวัตถุดิบที่ยังไม่ได้ทำการปรุงใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ เริ่มด้วยมุมนี้จะเป็นโซนของกุ้งค่ะ ที่อยู่ในถังไม้จะเป็นกุ้งลายเสือ ถัดไปที่อยู่บนน้ำแข็งจะเป็นกุ้งแม่น้ำค่ะ
14 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
13 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
19 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
24 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ต่อไปเป็นหอยเชลล์ค่ะ ต่อด้วยปลา Barracuda และ Spanish Mackerel ค่ะ
25 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
10 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ไปหาข้อมูลมาเพิ่มว่า เจ้าบาราคู้ด้าคือปลานักล่าตัวยาวๆ เพรียวลมที่สามารถว่ายน้ำไล่เหยื่อไปด้วยความเร็วถึง 40 กม.ต่อชม.ก่อนที่จะกัดและฉีกร่างเหยื่อออกเป็นชิ้นๆด้วยฟันแหลมคมด้วยหละค่ะ
ถังไม้ที่อีกมุมเป็นที่อยู่ของเจ้าปลาหมึกและปลากระพงแดง (Red Snapper) ค่ะ
24 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ถัดไปเป็นปลากระพงขาวกับปูอลาสก้าค่ะ
17 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ต่อด้วย Sea Clam และ Sea Escargot
13 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
Blue Swimming Crab หรือปูม้าค่ะ
19 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับน้ำจิ้มและซอส ทางห้องอาหารเตรียมให้ทั้งแบบไทยและตะวันตกนะคะ
ต่อไปไปดูที่ไลน์อาหารหลักกันบ้างค่ะ มีซุปให้เลือกสองตัว มีกราแตงผัก แกะ เป็ด ต่างๆ นานา ตามภาพเลยนะคะ
9 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
24 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ต่อไปเป็นไลน์ซีฟู้ดค่ะ ซึ่งไลน์นี้จะแตกต่างจากไลน์กลางตรงที่ทำสุกเรียบร้อยแล้วนะคะ
10 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
18 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัววัตถุดิบก็คล้ายๆ ที่ไลน์กลางหละค่ะ
zone นี้จะเป็นพวกอาหารแนวยำ หมูย่างและอื่นๆ ค่ะ
17 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ต่อไปเป็นชีสและผลไม้ทั้งสดและอบแห้งค่ะ มีน้ำผึ้งด้วย อ้อ ชีสนี่มี Gouda Cheese Blue Cheese และ Brie Cheese ซึ่งตัวเราเองได้ลองบรีหละค่ะ (อันจะกล่าวถึงรสชาติต่อไป) แล้วก็เลยไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมด้วยนะคะ
ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/Kidscitv.th/posts/480649305282835
Brie Cheese (อ่านว่า บรีชีส) ชีสชนิดนี้เป็นชีสที่ทำจากนมวัว ลักษณะเป็นชีสที่มีผิวราสีขาวบางๆเคลือบ การอัดชีสเป็นแบบนุ่มและรสสัมผัสคล้ายครีม มีแหล่งผลิตมาจากประเทศฝรั่งเศส ไขมันของบรีชีสอยู่ที่เฉลี่ยราวๆ 45 เปอร์เซนต์ ที่ฝรั่งเศสบรีชีสก้อนใหญ่เรียกว่า Grand (กรอง) และขนาดเล็ก เรียกว่า เปอตี (Petit) ใช้ทานกับแครกเกอร์, ขนมปัง หรือทานกับครัวซองก็อร่อยมากเช่นเดียวกัน คำว่า บรี (Brie) เป็นชื่อแคว้นๆหนึ่งของฝรั่งเศส
ในแคว้น Brie ว่ากันว่ามีชีสอยู่อย่างหนึ่งที่่ร่ำลือกันในความเป็นเลิศนั่นคือ Brie de Meaux ซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่แสนนุ่มนวลประดุจการได้ลิ้มรสไวน์ชั้นเลิศ กลิ่นของ Brie de Meaux เป็นการผสมผสานที่ซับซ้อนระหว่างคุณลักษณะในกลิ่นหอมของอากาศผสมกับดอกไม้ในแคว้น Brie ในฝรั่งเศส ซึ่งถ้ามีโอกาสอันดีเมื่อไหร่ คุณจะหาชีสนี้ทานคู่ไปกับการได้ลิ้มไวน์จากแคว้นบอร์กโดซ์ หรือเบอร์กันดี ก็จะช่วยส่งเสริมความยอดเยี่ยมของชีสชนิดนี้ให้เจิดจรัสและงดงามมากยิ่งขึ้นกับราชาแห่งบรีชีสชิ้นนี้
ถัดไปจะเป็นไลน์สลัดค่ะ (จะเห็นว่าที่รูปแรกมี bowl ให้คลุกสลัดด้วยนะคะ ชอบอ้ะ แต่ทำมั้ย? ไม่ได้ทำค่ะ )
ถัดไปจากสลัดจะเป็นบรรดาขนมปังต่างๆ แล้วค่ะ อันนี้ไม่ได้แตะเลยค่ะ แหะๆ
ต่อไปเป็นไลน์ขนมหวานกันบ้างค่ะ มีทั้งแบบตะวันตกและแบบไทยนะคะ
19 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
บรรดาเค้กและคัสตาร์ดค่ะ หน้าตาน่าหม่ำเนาะ
22 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ผลไม้ก็มีให้นะคะ แต่ไม่ได้เยอะมากค่ะ
11 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำรวจเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปนั่งที่โต๊ะค่ะ โซนด้านหลังบาร์ก็น่านั่งดีค่ะ ออกแนวโซฟาหน่อยๆ น่าจะนุ่มดี แต่แสงน้อยกว่าที่เรานั่ง จะถ่ายรูปยากหน่อย แฮ่..
ภาพล่างถ่ายเพดานมาให้ดูนะคะ มีแอบอาร์ทอีกนะ คอนเซปต์ชัดจริงๆ Siam at Siam เนี่ย
เนื่องจากราคาบุฟเฟท์ดังกล่าวไม่ได้รวมค่าเครื่องดื่มนะคะ ต้องสั่งเครื่องดื่มต่างหากค่ะ จะมีเมนูมาให้เลือกตามภาพนะคะ
23 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
8 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
มีแบบไม่มีแอลกอฮอล์ด้วยค่ะ ซึ่งเราก็เลือกมาหละนะคะ
สั่งเครื่องดื่มไปแล้วก็นั่งรอค่ะ แอบเก็บภาพมุมที่จะมีวงดนตรีมาเล่นไปก่อน
14 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับกรณีที่เราเลือกวัตถุดิบที่ยังไม่ได้ทำอะไรมา ก็ใส่ตัวกระบอกไม้ไผ่รองใบตองมาแล้วก็หนีบด้วยเบอร์ที่เค้าจะให้ที่โต๊ะน่ะนะคะ เค้าก็จะเอาไปปิ้ง-ย่างให้หละค่ะ ตามภาพเลย (แต่ถ้าจะเอาเยอะๆ ก็ใส่จานไปเลยก็ได้นะคะ)
16 วิว
3 ไลค์
0 คอมเมนต์
ของเรานะคะ กุ้งลายเสือสด เนื้อแน่นเด้งดีค่ะ หอยเชลล์เค็มไปหน่อยค่ะ หอยอีกตัวก็ทั่วไปค่ะ ไม่โดดเด่นอะไร
ส่วนจานนี้เป็นของน้องบุ๊งค่ะ กุ้งแม่น้ำล้วนๆ รูปบนนี่ตอนพนักงานเอามาให้ รูปล่างน้องบุ๊งจัดเรียงใหม่ให้เราถ่ายรูปมาทำรีวิว (น่ารักปะหละ อิอิ) ปรากฏว่า น้องบุ๊งบอกว่ากุ้งมีไม่สดด้วยค่ะ คือ มันมีทั้งสดและไม่สดง่ะ (แต่ของเราที่เป็นกุ้งลายเสือ สดทั้งสองตัวนะคะ)
23 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
เครื่องดื่มที่สั่งมาวันนั้นค่ะ ทั้งของเรา เพื่อนเราและน้องบุ๊ง
ของเพื่อนเป็นสยามแอทสมูทตี้ค่ะ ของเราเป็น Lychee MI (เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ทั้งคู่) ซึ่งเป็น Signature ของที่นี่ ส่วนของน้องบุ๊งสั่ง Tomyam Tini ค่ะ แล้วก็มีไวน์ (Sparkling wine) ที่คุณภูมิ ฝ่ายการตลาดสั่งมาให้ลองชิมค่ะ
14 วิว
3 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับเราและเพื่อน มีความเห็นตรงกันว่าที่พัทยาทำได้ดีกว่าค่ะ แต่ของเราก็ไม่ได้ขี้เหร่นะคะ ออกแนวเปรี้ยวๆ หอมลิ้นจี่ สดชื่นดีค่ะ ส่วนของน้องบุ๊ง เจ้าตัวบอกว่าไม่โอค่ะ เลยดื่มไปนิดเดียวเอง แต่ตัวสปาร์คลิงไวน์โอค่ะ
ตัวนี้เป็นแกะของเพื่อนค่ะ เจ้าตัวตักมาเพราะยังติดใจแกะมัสมั่นที่พัทยาอยู่ แต่พอมากินก็คนละแบบนะคะ ไม่ว้าวเท่าแกะมัสมั่นที่พัทยา แต่แกะนุ่มดีค่ะ เข้มข้นใช้ได้
สองรูปนี้ อันบนของน้องบุ๊ง ส่วนอันล่างของเพื่อนเราค่ะ น้องบุ๊งบอกว่าตัวซอสตัวนี้ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ค่ะ เห็นตอนหลังไปตักน้ำจิ้มแบบไทยๆ มาแทนน่ะนะคะ
ต่อมาค่ะ กับ Spicy Oyster Tartar รสชาติจัดใช้ได้เลยค่ะ ไม่เผ็ดจี๊ด แต่เผ็ดโออยู่ ตัวนี้อร่อยค่ะ ชอบๆ
10 วิว
3 ไลค์
0 คอมเมนต์
นอกจากตัวสไปซี่แล้วก็มี Oyster Shooter ที่อยู่ในแก้วช็อตด้วยค่ะ
13 วิว
3 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวชูตเต้อร์ ถ้ากินแบบเอาไม้จิ้มขึ้นมา ตัวเครื่องมันจะขึ้นมาน้อยไปค่ะ ทำให้การกินมันรสชาติเบาบางไป แต่ถ้ายกแก้วดื่มแบบกินพร้อมกันทั้งหมด จะทำให้รสชาติดีขึ้นนะคะ
แต่ถ้าเทียบกับตัวสไปซี่แล้ว เราชอบตัวสไปซี่มากกว่าหละค่ะ
ปลาและหอยเชลล์ของน้องบุ๊งค่ะ ตัวหอยเชลล์น้องบุ๊งบ่นเหมือนกันเลยค่ะว่าเค็มปี๋มาเลย
ตัวล่างก็ของน้องบุ๊งอีกเช่นกัน (สุดยอดอ้ะน้องชั้น หม่ำได้ไงแต่ตัวแค่นี้ฟระะ ได้พรมาชัดๆ)
หลังจากที่เห็นบุ๊งบ่นว่ากุ้งแม่น้ำมีไม่สด เราเลยไปเอามาลองบ้างค่ะ ซึ่งผลก็ปรากฏแบบรูปล่างค่ะ ไม่สดจริงด้วย เนื้อล่อนออกมาจากเปลือกเชียวหละค่ะ เง่อ...
หมูย่างของเราค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเนื้อหมูส่วนไหนนะคะ ค่อนข้างแห้งไปหน่อยค่ะ ส่วนน้ำจิ้มใช้ได้ค่ะ
แล้วเราก็ไปเอาบรีกับผลไม้มากิน อาหย่อยยหละ บรีนุ่มนวลเชียว ชอบหละ (พอกลับไปดูอีกที เป็นชีสชนิดเดียวที่หมดไปจากไลน์หละค่ะ)
ต่อไปเป็นของหวานของเราต่อนะคะ ตัวเค้กเราว่าอร่อยทุกตัวเลยนะคะ ส่วนตัวมูสโอเคค่ะ
16 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
8 วิว
4 ไลค์
0 คอมเมนต์
กุ้งแม่น้ำของน้องบุ๊งค่ะ (เอ่อ..รวมกันกี่โลแล้วเนี่ย ฮา) รอบนี้เจ้าตัวบอกว่าโอค่ะ สดทุกตัว เพราะงั้นเลยคิดว่า กุ้งคงมีปนๆ กันค่ะ ทั้งสดและไม่สด ใครไปกินก็เลือกหน่อยแล้วกันนะคะ (แต่ที่จริงทางโรงแรมควรคัดเฉพาะที่สดๆ ทั้งหมดมานะคะ แหะๆ)
ส่วนตัวซุป น้องบุ๊งบอกเฉยๆ ค่ะ ไม่เด่น
ขนมไทยของเราค่ะ ตัวลูกชุบโอค่ะ ไม่มีรสขมเหมือนบางที่ แต่ที่อร่อยคือบ้าบิ่นค่ะ ใช้ได้เลย ชอบที่เค้าทำแบบเล็กๆ แบบนี้ด้วย จะได้กินหลายอย่างหน่อย บางที่ทำมาอย่างละใหญ่ๆ หมดแล้วมันก็กินได้น้อยอย่างง่ะนะคะ แหะๆ
15 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ของหวานอาจดูไม่มากนักเมื่อเทียบกับราคานะคะ แต่เราว่าที่มีอยู่ก็โอค่ะ อร่อยหลายตัวด้วยนะคะ
ตอนน้องบุ๊งไปที่ไลน์อีกรอบ มาแจ้งว่า กุ้งแม่น้ำหมดแล้วนะพี่ เค้าเอากุ้งลายเสือมาวางแทนกุ้งแม่น้ำแล้ว ก็เลยเดินไปดู จริงด้วยแฮะ แหะๆ เค้าคงไม่คาดคิดว่าแขกไม่กี่คนจะกินกุ้งแม่น้ำกันขนาดนี้น่ะนะคะ โต๊ะเรานี่เฉพาะกุ้งแม่น้ำกินไปร่วมๆ ยี่สิบตัวได้อะค่ะ (รวมกันสามคน)
28 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ปิดท้ายของเราด้วยผลไม้และมูสที่เอามาฝากเพื่อนค่ะ
18 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
เมลอนหวานค่ะ แต่ยังไม่ว้าว ส่วนแก้วมังกร ทั่วไปค่ะ หวานมาตรฐาน
จากนั้นวงดนตรีก็เริ่มเล่นค่ะ วงชื่อ Allsome band นะคะ ซึ่งวงดนตรีจะเริ่มเล่นตอนประมาณสองทุ่มค่ะ มีนักร้องนำชาย คีย์บอร์ด กลอง และแซกโซโฟนค่ะ แต่มือแซกฯ นี่ร้องเพลงด้วยนะคะ จะเห็นว่าสักพักก็มีนักร้องหญิงมาเพิ่มค่ะ คุ้นหน้าคุ้นตากันหรือเปล่าน้ออออ ใครทันน้อง "พดด้วง" มั่งค่ะ มาเจอน้องเค้าอีกทีก็ที่นี่แหละค่ะ ตอนแรกจำไม่ได้ด้วย จนในวงเค้าแซวถึงได้อ๋อค่ะ
เล่นดีค่ะ ได้ทั้งเพลงไทยและสากล ฟังเพลินทีเดียว ถ้าไม่ติดว่าวันรุ่งขึ้นทำงาน คงจะนั่งยาวกว่านั้นหละค่ะ แฮ่...
22 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
15 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
สรุปสำหรับที่นี่นะคะ สำหรับใครที่เน้นเรื่องซีฟู้ด เท่าที่เราเช็คจากกุเกิ้ล (ซึ่งไม่ยักกะขึ้นของที่นี่ เพราะฉะนั้นไม่แน่ใจว่าข้อมูลครบถ้วนไหมนะคะ) ซีฟู้ดบุฟเฟท์ในโรงแรมก็จะมีที่นี่กับที่โนโวเทลเพลินจิต ซึ่งที่นั่นราคาจะอยู่ที่ 1365 เน็ต (จาก ลิงก์นี้ ซึ่งเท่าที่อ่านก็มี ปูม้า กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ยักษ์ และที่ห้องอาหารมิสทราล โรงแรมโซฟิเทล สีลม ราคาที่ 699 บาทเน็ต ซึ่งมีช้อยส์ซีฟู้ดเป็นหนึ่งซุ้มของบุฟเฟท์นานาชาติ มีวัตถุดิบตามที่ในรีวิวลิงก์นี้บอกคือ กุ้ง ปู ปลาหมึก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และกุ้งหิน ซึ่งถ้าเทียบทั้งสองกับที่นี่ ที่นี่จะมีช้อยส์ของของทะเลที่เยอะกว่า (ในราคาที่ต่างกันกับที่โนโวเทล 35 บาท แต่จะต่างจากที่โซฟิเทล 701 บาท) แล้วก็มีจุดขายอย่างพวกปูอลาสก้า หอยนางรมนำเข้าจากฝรั่งเศส ฯลฯ ซึ่งคิดว่าถ้าใครเน้นซีฟู้ดที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างโอเคสำหรับในกรุงเทพฯ นะคะ
ส่วนที่ต้องปรับปรุงก็ได้แก่ การบริการของพนักงาน ที่ขนาดแขกมีไม่มาก แต่กว่าจะเรียกได้แต่ละครั้งแทบจะต้องลุกขึ้นเต้นบัลเลต์ให้เห็นน่ะค่ะ ซึ่ง..ที่จริงโรงแรมระดับนี้เองก็ไม่ควรอะนะคะ ควรเอาใจใส่กว่านี้นิดหนึ่ง (แต่ก็ให้ทิปไปร้อยหนึ่งนะ แหะๆ) แล้วก็เรื่องความสดของวัตถุดิบ (กุ้งแม่น้ำ) ที่ควรคัดมาแบบให้สดทุกตัว เพราะถ้าน้องบุ๊งไม่ตัดสินใจตักรอบที่สาม (ซึ่งได้กุ้งสดทั้งหมด) หรืออย่างเราที่กินกุ้งแม่น้ำแค่สองตัว (และไม่โอทั้งสองตัว) พวกเราก็คงลงความเห็นว่า ของไม่สดน่ะค่ะ ซึ่งจะทำให้เสียชื่อเปล่าๆ ง่ะนะคะ
สำหรับบรรยากาศและวงดนตรี โอเคเลยค่ะ โดยรวมบรรยากาศเหมาะแก่การมานั่งฟังเพลงดี แล้วแถมการที่ไม่จำกัดเวลาในการกินด้วย ทำให้สามารถนั่งชิลล์ๆ ฟังเพลงได้ยาวๆ กันหละค่ะ เพราะดนตรีก็เล่นโอ หลากหลาย ไพเราะดีด้วยค่ะ

 
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ราคาต่อคน
฿1400 (มื้อเย็น)
เมนูแนะนำ
  • Spicy Oyster Tartar