3
1
0
ระดับ4
Long Table – ร้านอาหารที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้วภายใต้การบริหารของทีมงานเดิมจาก Bed Supperclub นี้มีจุดเด่นที่โต๊ะยาวขนาด 25 เมตรที่ตั้งอยู่กลางร้านซึ่งได้ชื่อว่าเป็น The longest existing restaurant dining table ตัวแรกของโลก นำมาซึ่งแนวคิดการสรรค์สร้างประสบการณ์ร่วมรับประทานอาหารกับคนหมู่มาก  แถมยังเพิ่มความเก๋ด้วยชื่อร้านที่ยาวที่สุดในโลกซะอีก คือ “โต๊ะยาวแห่งกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์.....(ร้องเป็นเพลงของอัสนี-วสันต์ต่อไปจนจบได้เลย)”  ...แต่นอกจากกิมมิคสุดคูลเหล่านี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทางร้านโดดเด่นขึ้นมาก็คือวิวงามๆของกรุงเทพฯยามราตรี เครื่องดื่มหลากหลายจากบาร์ขนาดใหญ่ของร้าน รวมไปถึงอาหาร
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
Long Table – ร้านอาหารที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้วภายใต้การบริหารของทีมงานเดิมจาก Bed Supperclub นี้มีจุดเด่นที่โต๊ะยาวขนาด 25 เมตรที่ตั้งอยู่กลางร้านซึ่งได้ชื่อว่าเป็น The longest existing restaurant dining table ตัวแรกของโลก นำมาซึ่งแนวคิดการสรรค์สร้างประสบการณ์ร่วมรับประทานอาหารกับคนหมู่มาก  แถมยังเพิ่มความเก๋ด้วยชื่อร้านที่ยาวที่สุดในโลกซะอีก คือ “โต๊ะยาวแห่งกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์.....(ร้องเป็นเพลงของอัสนี-วสันต์ต่อไปจนจบได้เลย)”  ...แต่นอกจากกิมมิคสุดคูลเหล่านี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทางร้านโดดเด่นขึ้นมาก็คือวิวงามๆของกรุงเทพฯยามราตรี เครื่องดื่มหลากหลายจากบาร์ขนาดใหญ่ของร้าน รวมไปถึงอาหารที่แม้จะเน้นรสชาติอ่อนๆกลมกล่อมเพื่อเอาใจลูกค้าต่างชาติบ้าง แต่ก็ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี และใส่ความพิถีพิถันละเมียดละไมลงไปในแต่ละจาน ทำให้ได้รับรางวัล Thailand Tatler Best Restaurants ติดต่อกันมาหลายปีจนถึงปัจจุบัน  ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้รับเชิญจากทางร้าน ร่วมกับบริษัท Jagota  เราจึงตกลงอย่างไม่รีรอค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณยุ้ง PR Manager ของทางร้าน และคุณสินีรัตน์เจ้าหน้าที่จากทาง Jagota ที่ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีนะคะ
12 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
****-ทำเลที่ตั้ง / บรรยากาศ-****

ร้านตั้งอยู่บนชั้นที่ 25 ของตึก Column Tower  ถ้ามาจากทางรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก หรือ MRT สถานีสุขุมวิทให้เดินมาทางฝั่งตึก Exchange Tower เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 16 มาประมาณ 200 เมตรก็จะเจอทางเข้าทางขวามือค่ะ

สำหรับบรรยากาศนั้น  บริเวณร้านจัดว่ากว้างใหญ่ไพศาล มีให้เลือกหลายโซนค่ะ ทั้งที่นั่งแบบเบาะนุ่มๆมีหมอนวางเรียงรายที่ต้องปีนเข้าไปนั่ง (เหมาะกับคนชอบนั่งกินนอนกิน) ที่นั่งบนโต๊ะยาวที่เป็นจุดเด่นของร้าน และที่นั่งด้านนอกสำหรับคนอยากชมวิว จุดที่เห็นวิวได้กว้างๆแบบไม่มีอะไรบังที่สุดจะเป็นบริเวณด้านหน้าสระน้ำ  เวลาจองสามารถระบุได้เลยว่าอยากได้ที่นั่งโซนไหนนะคะ  ความที่ตำแหน่งของร้านยังไม่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตัวอาคาร จะว่าเป็น rooftop ซะเลยก็คงไม่ได้ วิวที่เห็นจากทางร้านจึงไม่ใช่วิวในระดับสูงเสียดฟ้าที่มองไปเห็นทุกอย่างเล็กเป็นมด  แต่เป็นวิวที่สามารถมองเห็นตึกรามในบริเวณนั้นได้ในระดับสายตา เห็นผืนน้ำกว้างใหญ่และพื้นที่ร่มรื่นเขียวชอุ่มของสวนเบญจกิติได้ถนัดตา  ซึ่งก็สวยงามไปอีกแบบค่ะ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้านี่โรแมนติกสุดๆ
33 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
36 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
20 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
13 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
9 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
5 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
****-Opening Hours-****

ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 17.00 – 02.00 น. 
Dinner เริ่มเสิร์ฟตั้งแต่ 18.00-23.00 น. ส่วนของทานเล่นจาก Snack menu จะสั่งได้ถึง 01.30 น.ค่ะ

Dress Code : Smart Casual

Reservation : 02-302 2557- 9

****-เมนูที่ได้ลอง-****

อาหารของร้าน Long Table นี้ทางร้านให้นิยามว่าเป็น Modern Thai Cuisine – คือเน้นเมนูที่เป็นอาหารไทยแท้ๆ แต่มีการนำเสนอที่พิถีพิถันสวยงามเช่นเดียวกับอาหารแบบตะวันตก และมีการปรับรสชาติให้กลมกล่อม ไม่จัดจ้านมาก เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติสามารถทานได้อย่างเพลิดเพลินด้วย จะสั่งแบบ a la carte หรือสั่งเป็นอาหารเซ็ทราคาพิเศษที่ทางร้านจัดไว้ (serving size ของแต่ละจานเท่ากับการสั่งเดี่ยวๆ) ก็ได้ จะเอามาแชร์กันทานแบบไทยๆหรือสั่งเป็นคอร์สอย่างฝรั่งก็ได้อีกเช่นกัน สำหรับเราได้ลองไปตามนี้ค่ะ (ราคาที่เอามาลงนี้ยังไม่ได้รวม VAT และ  Service Charge  นะคะ)

[Drinks]

กับร้านแนวกิน-ดื่ม-นั่งชิลล์ชมวิวแบบนี้ เมนูเครื่องดื่มก็ย่อมต้องครบครันหลากหลายเต็มอัตราศึก จะเหล้าจะไวน์ก็มีให้เลือกแทบทุกชนิด รวมไปถึง Cocktails และ Mocktails ซึ่งหลายๆตัวก็เป็น Signature Menu ของทางร้านที่มีการนำผลไม้ไทยๆอย่างแก้วมังกร เงาะ ส้มโอ ทับทิม...ฯลฯ มาเป็นส่วนผสมด้วย เราลองไปเป็นแก้วนี้เลย

● Dots (ราคา 220 บาท) – Mocktail ตัวเด่นของร้านที่มีส่วนผสมหลักๆคือแก้วมังกร  Apple Juice และ Cranberry Juice  ผสมกลิ่นน้ำเชื่อมกลิ่นวานิลลามาจางๆ โรยด้วยใบสะระแหน่หอมๆ ได้ออกมาเป็นรสชาติแบบหวานเย็นๆสดชื่น  มีความกรุบนิดๆของเมล็ดแก้วมังกรเวลาดื่ม  ถูกใจเลยล่ะค่ะ
Dots
฿220
7 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
[Appetizer]

● เมี่ยงกุ้ง (ราคา 490 บาท)–เป็นเมนูทานเล่นที่เอาอาหารไทยแท้ๆอย่างเมี่ยงคำมายกระดับเพิ่มความพิถีพิถันในรายละเอียดและวัตถุดิบที่ใช้  เริ่มต้นจากใบชะพลูที่นำไปชุบแป้งทอดจนกรอบกริ๊บ ทำให้ทานง่ายไม่เหนียวแต่ก็ยังได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ ทาด้วยน้ำเมี่ยงคำรสแหลมอมหวานอมเปรี้ยวเข้มข้น มีกุ้งลายเสือชุบแป้งทอดตัวโตเนื้อแน่นเต็มๆคำวางอยู่ด้านบน ท็อปด้วยฝอยตะไคร้ทอดกรอบๆ ...บอกได้คำเดียวว่าฟินนน....
เมี่ยงกุ้ง
฿490
10 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
[Main Course]

สำหรับจานหลักทั้ง 2 เมนูที่เลือกมาลองในครั้งนี้เป็นเมนูใหม่ที่ทางร้านเพิ่งเพิ่มเข้ามาค่ะ ตามนี้เลย...

● แองเจิลแฮร์พาสต้ากับซอสน้ำพริกปูเสิร์ฟพร้อมกับหอยเชลล์ย่าง (ราคา 550 บาท) – จานนี้บอกเลยว่าอร่อยระเบิดระเบ้อ  ปลื้มปริ่มถูกใจแบบต้องตบโต๊ะรัวๆ  เส้นแองเจิลแฮร์ลวกมาได้ที่กำลังเป๊ะ คลุกเคล้ากับซอสที่รสชาติละม้ายคล้ายปูผัดน้ำพริกเผา+ผงกะหรี่ รสเข้มข้นถูกใจถูกลิ้นคนไทยอย่างเราดีมากๆ  มีเนื้อปูเคล้าอยู่ในซอสเป็นชิ้นเป็นอัน  ที่อยากจะกรี๊ดดังๆคือหอยเชลล์นำเข้าจากอเมริกาไซส์อลังการใหญ่ตู้มมม... ที่วางมาด้านบน  เนื้อนุ่ม – สด – หวานได้ใจสุดๆ แถมยังโปรยไข่กุ้งมาให้แบบพูนๆเน้นๆ เพิ่มความกรุบกรับเคี้ยวมันส์  ชิมแล้วต้องขอยกให้เป็นจานท็อปของมื้อนี้เลยค่ะ 
แองเจิลแฮร์พาสต้ากับซอสน้ำพริกปูเสิร์ฟพร้อมกับหอยเชลล์ย่าง
฿550
17 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
แองเจิลแฮร์พาสต้ากับซอสน้ำพริกปูเสิร์ฟพร้อมกับหอยเชลล์ย่าง
฿550
7 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
● ปลาแซลมอนย่างคลุกเคล้ากับถั่วพิสตาชิโอและโหระพาราดด้วยซอสหญ้าฝรั่น (ราคา 790 บาท) – พระเอกของจานนี้แน่นอนว่าคือเจ้า Norwegian Salmon ชิ้นใหญ่หนาตึ้บ  มองแรกๆเฉพาะผิวนอกเหมือนจะย่างมาแห้งไป แต่ความที่ชิ้นปลาหนามาก พอผ่าดูข้างในจึงยังนุ่มชุ่มอยู่ สุกทั่วถึงกำลังดีค่ะ จุดที่โดดเด่นคือส่วนของหนังปลาที่นำมาคลุกเคลือบด้วยถั่วพิสตาชิโอ ได้ความกรอบกริ๊บที่เหนือขึ้นไปอีกระดับ ตัดกันฉับกับความนุ่มของเนื้อปลา ในแง่สัมผัสคือดีงามสุดๆ  สิ่งที่ทำให้จานนี้แพ้จานที่แล้วไปนิดนึงก็เลยเป็นเรื่องของรสชาติที่ปรุงมาอ่อนไปนิดสำหรับลิ้นคนไทยอย่างเรา แต่อาจจะกลมกล่อมพอดีสำหรับลูกค้าต่างชาติน่ะนะ
ปลาแซลมอนย่างคลุกเคล้ากับถั่วพิสตาชิโอและโหระพาราดด้วยซอสหญ้าฝรั่น
฿790
47 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
[Dessert]

● ข้าวเหนียวมะม่วง (ราคา 250 บาท) – เมนูธรรมดาๆที่เราคุ้นเคยกัน แต่ presentation นี่ทำออกมาได้สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ  ข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนเล็กๆทานง่าย เนื้อนุ่ม ราดหัวกะทิชุ่มๆมาแบบกำลังดี เสิร์ฟกับเนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้และเนื้อกีวี่ที่ตักมาเป็น scoop เล็กๆกลมป๊อก  ได้รสหวานของมะม่วงผสมกับรสเปรี้ยวจากกีวี่ที่ทานกับข้าวเหนียวแล้วเข้ากั๊น-เข้ากัน เป็นไอเดียการผสมผสานรสชาติที่เข้าท่าทีเดียว
ข้าวเหนียวมะม่วง
฿250
20 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ข้าวเหนียวมะม่วง
฿250
25 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
****-Promotions-****

ทางร้านมี Happy Hour ตั้งแต่ 17.00-19.00 ทุกวัน สามารถสั่งเครื่องดื่ม (เฉพาะเมนูที่กำหนด) ได้ 1 แถม 1 ค่ะ

...และสำหรับวันลอยกระทงที่กำลังจะมาถึงนี้ ทางร้านจะมีการแจกกระทงอันเล็กๆให้ลูกค้าได้ลอยกระทงกันในสระน้ำด้วย ใครอยากจะฉลองวันลอยกระทงกันแบบเก๋ๆชิลล์ๆ จิบเครื่องดื่ม ทานอาหาร ชมวิว หรือแค่อยากให้รางวัลตัวเองดูซักมื้อก็แวะมาจัดได้ค่ะ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2016-11-07
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ราคาต่อคน
฿1000 (มื้อเย็น)
เมนูแนะนำ
Dots
฿ 220
เมี่ยงกุ้ง
฿ 490
แองเจิลแฮร์พาสต้ากับซอสน้ำพริกปูเสิร์ฟพร้อมกับหอยเชลล์ย่าง
฿ 550
แองเจิลแฮร์พาสต้ากับซอสน้ำพริกปูเสิร์ฟพร้อมกับหอยเชลล์ย่าง
฿ 550
ปลาแซลมอนย่างคลุกเคล้ากับถั่วพิสตาชิโอและโหระพาราดด้วยซอสหญ้าฝรั่น
฿ 790
  • แองเจิลแฮร์พาสต้ากับซอสน้ำพริกปู