2
1
0
ระดับ4
ราเมนร้าน Nantsuttei นี้เราสะดุดตามาตั้งแต่มาเปิดที่สยามพารากอนใหม่ๆ กับคำโปรยที่ว่าเป็นร้านราเมนต้นตำรับมาจากญี่ปุ่น โดยเป็นแชมป์ Ramen Champion จาก Walker Magazine’s Ramen Hall of Fame ถึง 5 สมัย ร้านนี้มีสาขาในต่างประเทศอยู่ที่ Parco Marina Bay ในสิงคโปร์ แล้วก็ที่สยามพารากอนเมืองไทยเรานี่เอง เห็นว่าเร็วๆนี้จะไปเปิดอีกสาขาที่ Emquartier ด้วย ใครอยู่โซนนั้นก็คงสะดวกขึ้นค่ะ**-บรรยากาศ/ที่ตั้ง-**ร้านอยู่ที่ชั้น G ของห้างสยามพารากอน ถ้ามาจาก Food court ก็ให้เดินออกมาทางด้านธนาคารไทยพาณิชย์แล้วเดินตรงไป ร้านจะอยู่ด้านขวามือ ตรงข้ามกับ Burger King ค่ะ ตัวร้านมีขนาดไม่ใหญ่มากเช่นเดียวกับร้านอื่นๆในชั้น
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
ราเมนร้าน Nantsuttei นี้เราสะดุดตามาตั้งแต่มาเปิดที่สยามพารากอนใหม่ๆ กับคำโปรยที่ว่าเป็นร้านราเมนต้นตำรับมาจากญี่ปุ่น โดยเป็นแชมป์ Ramen Champion จาก Walker Magazine’s Ramen Hall of Fame ถึง 5 สมัย ร้านนี้มีสาขาในต่างประเทศอยู่ที่ Parco Marina Bay ในสิงคโปร์ แล้วก็ที่สยามพารากอนเมืองไทยเรานี่เอง เห็นว่าเร็วๆนี้จะไปเปิดอีกสาขาที่ Emquartier ด้วย ใครอยู่โซนนั้นก็คงสะดวกขึ้นค่ะ
**-บรรยากาศ/ที่ตั้ง-**
ร้านอยู่ที่ชั้น G ของห้างสยามพารากอน ถ้ามาจาก Food court ก็ให้เดินออกมาทางด้านธนาคารไทยพาณิชย์แล้วเดินตรงไป ร้านจะอยู่ด้านขวามือ ตรงข้ามกับ Burger King ค่ะ ตัวร้านมีขนาดไม่ใหญ่มากเช่นเดียวกับร้านอื่นๆในชั้น G แต่ที่นั่งมีให้เยอะพอสมควรค่ะ ผนังด้านนึงเพ้นท์รูปเจ้าของร้าน คือคุณ Ichiro Furuya เอาไว้ด้วย เท่ไม่หยอกเลยล่ะ
5 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
9 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
**-อาหาร-**
แน่นอนว่าเน้นที่ราเมนเป็นหลัก โดยมีความโดดเด่นอยู่ที่น้ำมันมายุที่ใส่ลงในซุปราเมน แบ่งเป็น black mayu ซึ่งเป็นน้ำมันที่ได้จากกระเทียม (roasted garlic oil) สูตรพิเศษของทางร้านที่มีขั้นตอนการทำถึง 7 ขั้นตอน และ red mayu ซึ่งได้มีการเติมเครื่องเทศต่างๆเช่น ขิง น้ำมันพริกไทเสฉวน (หรือที่เรียกว่าชวงเจีย) ลงไปในน้ำมันกระเทียมเพื่อเพิ่มกลิ่นรสเผ็ดร้อน แต่ไม่ได้ว่าเผ็ดมากจริงจังน้า ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวที่ทำให้ร้านเค้าโด่งดังขึ้นมาก็คือเจ้า black mayu นั่นเองค่ะ ว่าแล้วเราก็ลองไปตามนี้เลย..
● Kuro Nantsu (small 150 บาท, regular 190 บาท : 5/5 คะแนน) – ตัวนี้นี่เองที่เป็นราเมน original ที่ทำให้ร้านนี้โด่งดังขึ้นมา เราชอบที่มีให้เลือกสั่ง 2 ไซส์ แล้วแต่จะเลือกสั่งตามขนาดกระเพาะน่ะค่ะ น้ำซุปของตัวนี้จะเป็นน้ำซุปกระดูกหมู เคี่ยวมาแบบได้ความเข้มข้นกลมกล่อมกำลังดี รสไม่เค็มมากและไม่เลี่ยน บวกกับกลิ่นน้ำมัน black mayu แล้ว หอมอร่อยถูกใจมากมายค่ะ ในชามจะมีถั่วงอกกับสาหร่ายใส่มาให้ด้วย เข้ากันได้ดีกับน้ำซุปและหมูชาชูของเค้า ถ้าใครจะสั่งไข่เพิ่มก็จะมีแยกมาให้ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าแค่นี้ก็อร่อยลงตัวกำลังดีแล้วล่ะค่ะ ถ้าใครอยากเปลี่ยนจากต้นหอมไทยเป็นต้นหอมญี่ปุ่นก็สั่งเป็น Kuro Nantsu Negi (245 บาท) ได้นะ
16 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
3 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
● Kara-Miso ramen (210 บาท : 4/5 คะแนน) – ตัวนี้มีแค่ขนาดเดียว น้ำซุปเป็นแบบซุป miso โดยใช้ red miso ผสมกับ tonkotsu โรยหน้าด้วย black mayu ไม่มีสาหร่ายให้ แต่จะสั่งเพิ่มก็ได้ค่ะ น้ำซุปตัวนี้ไม่เข้มข้นเท่าตัวที่แล้ว แต่ก็เป็นราเมนซุป miso ที่หอมอร่อยที่สุดที่เคยทานเลยล่ะ เหมาะกับคนที่เลี่ยนง่ายๆค่ะ ส่วนตัวแล้วยังชอบตัวแรกมากกว่านิดหน่อยนะ
3 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
●Aka-Nantsu (small 150 บาท, regular 190 บาท : 4.5/5 คะแนน) – ตัวนี้เป็นน้ำซุปกระดูกหมู โรยหน้าด้วย red mayu หอมกลิ่นขิงอ่อนๆพอให้ซู่ซ่า ตัวนี้มีลูกชิ้นปลาแผ่นเล็กแปะหน้ามาให้ด้วย ส่วนผักในชามเป็นหน่อไม้ ไม่มีถั่วงอกกับสาหร่ายนะคะ น้ำซุปอร่อยกลมกล่อมใกล้เคียงตัวแรกมาก เอาไว้สั่งสลับเวลาเบื่อรสของ black mayu ได้ค่ะ
19 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
8 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
●เกี๊ยวซ่า (85 บาท : 4/5 คะแนน) – ชอบที่ทอดมาพอดีคำ ไส้หมูเต็มแน่น ไม่กรอบจนแข็งมากแต่เป็นแบบกรอบนอกนุ่มในกำลังดี ถ้าไม่ได้ไปเทียบกับร้านที่เป็นเฉพาะทางด้านเกี๊ยวซ่าก็ถือว่าเป็นเกี๊ยวซ่าที่อร่อยใช้ได้เลยล่ะค่ะ
5 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
อันที่จริงเคยได้ยินบางคนบ่นว่า Nantsuttei สาขาที่ไทยนี้ใส่น้ำมันมายุให้น้อยทำให้หอมอร่อยสู้สาขาที่สิงคโปร์ไม่ได้ ส่วนใน blog ของคนสิงคโปร์ก็มีคนบ่นว่าของที่โน่นใส่น้ำมันมายุเยอะไปทำให้เลี่ยน ที่จริงก็แน่นอนอยู่แล้วว่าน้ำมันกระเทียมนั้นใส่ยิ่งเยอะยิ่งหอม แต่ความที่เป็นน้ำมันก็จะทำให้เลี่ยนมากตามไปด้วย (ได้อย่างเสียอย่างนะ) สุดท้ายแล้วสัดส่วนที่พอดีก็คงขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนล่ะค่ะ
**-เทคนิครับประทาน (ให้อร่อย)-**
อันที่จริงของมันอร่อยทานยังไงก็อร่อยอยู่แล้ว แต่เผอิญไปเจอเทคนิคทานราเมนสไตล์ Nantsuttei ในเว็บเข้า เลยขอเอามาแชร์เผื่อใครจะนึกสนุกลองทำตามดูน่ะค่ะ แต่ไม่ต้องซีเรียสน้า
1. เริ่มแรกให้กระตุ้นความอยากจากสูดกลิ่นหอมของน้ำซุปที่โชยออกมาจากชาม กับการที่ได้เห็นภาพราเมนร้อนๆน่ารับประทานก่อนค่ะ (เล่นกันระดับจิตวิทยาเลยทีเดียว)
2. จากนั้นให้ลองทานเส้นก่อน โดยคีบเส้นให้ผ่านชั้นของน้ำมันมายุที่ลอยอยู่บนผิวหน้าของน้ำซุป เค้าว่ากลิ่นหอมๆของน้ำมันมายุที่ไปเคลือบบนเส้นจะกระตุ้นให้อยากทานมากขึ้นค่ะ
3. กดชิ้นหมูชาชูลงในน้ำซุป รอไว้ทานทีหลัง เพราะยิ่งชิ้นหมูดูดซับน้ำซุปนานๆก็ยิ่งนิ่มอร่อยยิ่งขึ้นค่ะ ทริคอันนี้คงมาจากการที่หมูชาชูของที่นี่ไม่ได้ติดมันเยอะ ฉะนั้นแม้จะเคี่ยวมาแบบนุ่มมากกก...แต่ก็จะไม่ถึงขนาดละลายในปาก การรอให้หมูชาชูดูดซับน้ำซุปนานอีกนิดก็เป็นการช่วยให้หมูนุ่มยิ่งขึ้นแล้วก็มีรสชาติของน้ำซุปแทรกซึมอยู่มากขึ้นน่ะค่ะ
4. พอทานไปซักพัก น้ำมันมายุเริ่มผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกับน้ำซุป จะเป็นช่วงที่ซดน้ำซุปได้อร่อยที่สุดค่ะ
**-การบริการ-**
เท่าที่เจอมาที่นี่บริการดีค่ะ รวดเร็ว ไม่มีโอ้เอ้ ถึงคิวจะยาวก็มีพนักงานดูแลคอยดูที่ว่างให้ เอาเข้าจริงก็ไม่เคยต้องรอนานมาก พอชาเขียวพร่องก็คอยมาเติม ดูสนอกสนใจลูกค้า พูดจาสุภาพเรียบร้อยกันดีโอเคเลยค่ะ
**-ความคุ้มค่า/ราคา-**
ต้องขอเตือนว่าราคาที่เอามาลงนี้ยังไม่รวม vat กับ service charge นะคะ ฉะนั้นเวลาบิลมานี่จะดูราคาแรงเอาเรื่อง แต่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าถ้าเทียบกับรสชาติแล้วก็พอรับได้แบบมาทานเป็นครั้งคราวน่ะค่ะ (บ่อยมากก็ไม่ไหวแม้ว่าจะอร่อย)
สรุปตามนี้ค่ะ:
บรรยากาศ : 3/5
รสชาติ : 5/5
บริการ : 5/5
ราคา : 3/5
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2015-03-07
เวลารอ
5 นาที (รับประทานที่ร้าน)
ราคาต่อคน
฿300 (มื้อเที่ยง)
เมนูแนะนำ
  • Kuro Nantsu