มีโอกาสได้ไปสัตหีบ

ขากลับแวะทานอาหารกลางวันร้านดัง ไปตอนกลางวันคนเลยไม่เยอะ เลือกที่นั่งได้ตามสบายเลย เลือกนั่งตรงชายหาดเลย วิวนี้คือมองไปทางข้างหลัง
ถ้าใครอยากโรแมนติกแนะนำจองโต๊ะโซฟานี้นะคะอาหารทุกอย่างไม่ได้สั่งเอง เลยไม่ทราบราคา เพราะไปถึงก็นั่งทานเลย 
คนสั่งเลือกแนวจืดๆ ไม่เน้นแซ่บ เพราะมีเด็กไปด้วย

รายการที่ได้ทานก็มี หอยจ๊อ อันนี้ไม่ชอบทานค่ะ เลยไม่ได้กิน เพื่อนบอกก็อร่อยดีกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา นึกว่าจะมีไว้เพราะตามกระแส แต่ที่ไหนได้ อร่อยมาก หอมน้ำปลา รสชาติเค็มๆ หวานๆ อร่อยดีค่ะยำรวมมิตรทะเล เปรี้ยวหวานกลมกล่อมดีค่ะหน่อไม้ฝรั่งผัดกุ้ง ก็รสชาติอร่อยดีจานสุดท้าย หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส หอยตัวใหญ่ชีสยืดๆ หอมๆ อร่อยสุดๆ เลยรสชาติอาหารโดยรวมออกแนวรสกลางๆ แต่ค่อนไปทางอร่อย กลมกล่อม น่าจะเพราะว่ามีลูกค้าต่างชาติเยอะ

เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ ปีนี้ครอบครัวเราแวะมาพักผ่อนที่พัทยา เพื่อนสาวคนสนิทชาวพัทยาเลยแนะนำบุฟเฟต์ BBQ Seafood ของ "Mercure Hotel Pattaya" ซึ่งมีโปรโมชั่นมื้อเย็นอยู่ที่หัวละ 599 บาท เราไม่รอช้าโทรสำรองที่นั่งล่วงหน้า อันที่จริงทางโรงแรมแจ้งว่าสามารถวอล์คอินเข้ามาได้ แต่เพื่อความชัวร์สมาชิกเรากลุ่มใหญ่สิบกว่าคนเลยจองไว้ก่อนจะดีกว่า ทางโรงแรมจึงโทรกลับมาแจ้งว่า เนื่องในวาระพิเศษวันพ่อ คุณพ่อกินฟรีเพียงแค่โชว์บัตรประชาชน แถมลดราคาให้ 15% เหลือเพียง 5 ร้อยต้น ๆ อ่อ ลืมบอกไปราคานี้เนทแล้วนะคะ แต่ยังไม่รวมเครื่องดื่ม เมื่อไปถึงโรงแรม โรงแรมแจ้งว่าจัดที่นั่งที่ดีที่สุดให้เป็นริมสระน้ำ แต่สมาชิกเราเดินกันมาไกลค่ะ เหงื่อออก (แฮะ ๆๆ รถตู้หลงค่ะ และรถติดมาก เลยต้องเดินลงค่ะ) เลยขอย้ายมาโซนห้องแอร์ เย็นสบายค่ะ แต่บรรยากาศ แบบห้องอาหารปกติค่ะ จากนั้นพนักงานแจ้งว่าถ้าจ่าย 550 บาท จะรวม Buffet Softdrink เข้าไปด้วยค่ะ พวกเราจึงเลือกโปรราคานี้แทน


บุฟเฟต์มีโซน BBQ Seafood มีทั้งกุ้ง กั้ง หอย มีพนักงานคอยย่างให้ค่ะ โดยรวมสมาชิกว่ากั้งพอใช้ได้ค่ะ แต่เราเจอกุ้งไม่ค่อยสดค่ะ สมาชิกบางคนว่าหอยก็ยังไม่สดมาก น้ำจิ้มซีฟู๊ดปานกลางค่ะยังไม่โดนใจเราเท่าไร แต่น่าเสียดายไม่มีปลาหมึกของโปรดเรา ก่อนกลับพนักงานสอบถามฟีดแบคค่ะ เราเลยรีเควทไป น่าเสียดายนะคะ เหมือนเป็นเมนูชูโรงแต่ยังไม่เด็ดเท่าไร

นอกจากนี้ยังมีโซน Seafood on Ice โซนสลัดบาร์ ชีส แฮม ขนมปัง ยำไส้กรอก ยำต่าง ๆ โซนอาหารไทยอย่างข้าวผัด แกงเขียวหวาน 

โซนอาหารฝรั่ง อย่างมันฝรั่งอบ ข้าวโพดต้มซอสครีม เสต็กหมูราดย้ำเกรวี่เมนูนี้อร่อยค่ะเราชอบมาก ไส้กรอกอิตาเลียนคุณภาพดี อร่อยจนต้องเบิ้ล

มุมอาหารญี่ปุ่นพวกซูชิหน้าต่าง ๆ โซนผัด หมี่พวกเส้น เนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ ซึ่งเลือกหยิบได้ตามใจชอบและส่งให้พนักงานผัด ผัดออกมาเป็นหมี่ผัดขี้เมาพริกไทยดำรสแซ่บผัดได้หอมอาร่อยค่ะ

ปิดไทยด้วยโซนของหวานทั้งขนมน้ำดอกไม้ เราว่าหอมดีนะคะ แต่เนื้อออกแข็งเหมือนตากลมไว้นาน ฟักทองกะทิถั่วแดง เค้กส้ม เค้กชอคโกแลต คัสตารด์เค้ก อร่อยค่ะ มูสชอคโกแลต ส่วนไฮไลท์ของหวานคือเครปใส่กล้วย เลือกรสไอศกรีมได้ตามใจชอบ สมาชิกลงความเห็นว่าอร่อยค่ะ ต้องเบิ้ลกันเกือบทุกคน

โดยรวมอาหารอร่อยเป็นบางอย่างค่ะ บางอย่างปานกลาง และอาหารทะเลที่มีไม่สดบ้าง แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ แต่โรงแรมนี้บริการดีมาก ๆ ค่ะ เลยถือว่าถัว ๆ กันไป

ระหว่างทางแวะเที่ยวแถว Mimosa พัทยา ปรากฎว่าฝนตกซะก่อน แผนเราเลยต้องเปลี่ยนนิดหน่อย มากินกลางวันรอเวลา  "Somtum Villa" อยู่ไม่ไกลกัน อยู่บนนถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกจากกรุงเทพ ก่อนถึง Mimosa อยู่ระหว่างนาจอมเทียน 1 กับ 3 บรรยากาศร้านตกแต่งแบบตึกสไตล์ยุโรปแบบปูนเปลือยและสีอิฐ เสาตึกแบบโรมัน ประดับตกแต่งด้วยกระจาด ชะลอม ดูเก๋ดี มีรูปปั้นคิวปิดตั้งอยู่หน้าตึก ร้านตกแต่งด้วยต้นไม้ต่าง ๆ และต้นกระบองเพชร มีบันไดสำหรับขึ้นชั้น 2 ได้ ประกอบกับวันที่ไปฝนตกปรอย ๆ อากาศเริ่มเย็นเข้ากับบรรยากาศ ร้านเป็นแบบ Open Air เปิดพัดลมแต่อากาศไม่ร้อนเข้ามาในร้านแอบงงเมนูเล็กน้อยเมนูส่วนใหญ่เป็นแนวพวกส้มตำ อาหารอีสาน แต่ร้านตกแต่งสไตล์ยุโรปดู Contrast แต่ก็สามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัวคอหมูย่างจิ้มแจ่ว (155 บาท) ในเมนูแนะนำว่ามันไม่เยอะ หมักด้วยน้ำหมักพิเศษ...ต้องลอง เราเลยลองสั่งไม่ผิดหวังค่ะ เนื้อหมูนุ่มไม่มีมันเลย ย่างมาได้หอม จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ดของร้านรสชาติลงตัวมากค่ะข้าวเหนียวที่นี่มีให้เลือก 2 สีแบบขาวและดำ ลองสั่งข้าวเหนียวดำ (กระติ๊บ 25 บาท) มาลอง ข้าวแหนียวทางร้านหุงได้เหนียวและหอมนุ่มดีค่ะ สังเกตว่าบนโต๊ะมีกระติ๊บยักษ์ไว้ใส่ช้อนส้อม ถ่ายคู่กันมาดูเก๋แปลกตาดีส้มตำไทย (95 บาท) มะลอกอกรอบตำมากับมะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ใส่ฝั่วลิสงคั่ว ปรุงรสแบบกำลังดีไม่จัดเกินไป อออหวานนำนิดหน่อย สำหรับคนชอบแบบรสแซ่บอาจต้องพากย์ตอนสั่งนิดนึง แต่โดยรวมเราว่าก็กินได้แล้วค่ะน้ำตกคอหมูย่าง (155 บาท) หมูย่างเนื้อนุ่ม ยำมาได้รสแซ่บถึงใจ เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวานครบรส เพิ่มความหอมด้วยข้าวคั่วปลากระพงทอดน้ำปลา (380 บาท) เมนูนี้เราไม่ได้บองนะคะ แต่ปลาดูตัวโตและทอดมาได้กรอบดีค่ะปีกไก่ทอด (135 บาท) ปีกไก่ 6 ปีกทอดมาได้เหลืองกรอบ กรอบนอกนุ่มใน รสเค็มนิด ๆ อร่อยไม่แพ้กันลาบหมูทอด (125 บาท) หมูสับคลุกกับเครื่องปรุงรสจัด ปั้นและทอดในน้ำมันแบบกรอบนอกนุ่มใน เราขอบเลยนะคะเมนูนี้ แต่สมาชิกบางคนว่ารสเค็มหน่อย แล้วแต่ความเห็นแต่ละคนเลยหล่ะต้มแซ่บกระดูกอ่อน (150 บาท) น้ำซุปเข้มข้นรสจัดถึงใจไอศกรีมกะทิ (40 บาท) ไม่ใช่แบบที่คุ้นเคย แต่โดยรวมก็อร่อยดีค่ะ ใส่เครื่องเยอะดี ทั้งข้าวโพด ลูกชิด แปะก้วย เกาลัด ทางร้านมีโปรพิเศษแจกฟรีสำหรับพ่อด้วยค่ะราคาในเมนูไม่รวม Service Charge 10% นะคะ ทางร้านแนะนำให้สมัครสมาชิก 200 บาทได้รับส่วนลด 10% ค่ะ เราเห็นว่าได้ลดมากกว่า 200 บาท ยังไงก็คุ้มเลยสมัครไว้เลยค่ะ เป็นอีกร้านที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว และ Contrast มาก ๆ จกส้มตำท่ามกลางบรรยากาศยุโรป ราคาก็ไม่ได้แรงถ้าเทียบกับการตกแต่งของร้าน เป็นร้านที่อยากแนะนำอีกสักร้านค่ะ

ลุงไสวซีฟู้ด – ร้านอาหารทะเลที่อยู่สุดหาดจอมเทียนนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่มานานกว่า 30 ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้กันดีว่าอาหารทะเลที่นี่นั้นสดดีและไม่แพงมาก เท่าที่เล็งๆดูอาหารทะเลจานประมาณชามเปลของที่นี่ราคาอยู่ในช่วง 150-350 บาท ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบค่ะ เทียบกับปริมาณแล้วถือว่าโอเคเลย เหมาะแก่การมาจัดอาหารทะเลซะให้เต็มคราบดูซักมื้อนะ

**-บรรยากาศ-**

ร้านอยู่สุดหาด แค่มาถึงหน้าร้านก็เห็นวิวทะเลแจ่มๆสุดลูกหูลูกตา ที่จอดรถนั้นมีให้หน้าร้านกว้างขวางพอสมควร ตัวร้านแม้จะดูเหมือนเป็นเพิงไม่สวยงามนัก แต่ก็ใหญ่โตเข้าขั้นมโหฬาร สมกับที่เป็นร้านที่รับทัวร์อยู่บ่อยๆ ถ้าใครโชคดีได้นั่งที่นั่งริมหาดที่มีอยู่ไม่กี่โต๊ะก็ฟินกันไปล่ะค่ะ**-เมนูที่ได้ลอง-**

● กรรเชียงปูนึ่ง (ราคา 350 บาท) – กรรเชียงปูสดหวานเนื้อแน่น จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดนี่เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ เมนูนี้ยังไงก็อร่อยว้าวไม่มีพลาดค่ะ● หอยหลอดผัดฉ่า – รสชาติจัดจ้านใช้ได้ อร่อยสอบผ่านค่ะ● แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว – ชามนี้ค่อนข้างผิดหวัง ไข่ปลาไม่มากเท่าไหร่ แต่มีเนื้อปลาให้มาจนพูน ซึ่งเป็นเนื้อปลาที่สุกจนแห้งไปน่ะค่ะ ในแง่รสชาติแกงส้มยังไม่ค่อยกลมกล่อม คือรสจัดแบบกระด้างไปนิด ไม่ค่อยปลื้มค่ะ● กั้งกระดานทอดกระเทียม – กั้งกระดานตัวเขื่อง ปรุงมาง่ายๆโดยทอดกระเทียมมาหอมๆ ทานเพลินดีใช้ได้เลยล่ะ● กุ้งย่างซอสมะขาม – กุ้งย่างตัวโตเนื้อแน่นดี ราดซอสมะขามกับหอมเจียวกรอบๆ อร่อยใช้ได้อยู่นะ● ไข่เจียวหอยนางรม – อันนี้รสชาติจัดว่าธรรมดาๆ ใส่หอยนางรมมาพอสมน้ำสมเนื้อไม่มากไม่น้อย สั่งมาทานเบรครสปรี๊ดๆของแกงส้ม ช่วยได้ระดับนึงค่ะโดยรวมแล้วพอจับจุดได้ว่าร้านนี้มีดีที่ของทะเลสด ราคามิตรภาพ แต่ในแง่ฝีไม้ลายมือในการปรุงอาหารนั้นยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่ ฉะนั้นถ้าจะมาทานที่นี่ให้อร่อยฟินสบายกระเป๋า ให้เน้นทานอาหารทะเลที่ปรุงแบบเรียบง่าย อร่อยด้วยความสดของวัตถุดิบเองตามธรรมชาติ อย่างเมนูนึ่งจิ้มน้ำส้ม หรือทอดกระเทียมนี่โอเคเลยค่ะ (พูดง่ายๆคืออย่าสั่งของที่ทำยากหรือต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ในการปรุงมากนักนั่นล่ะ) สำหรับคนชอบอาหารทะเลแบบปูนึ่ง-กุ้งย่างทั้งหลายนั้นร้านนี้เหมาะแก่การมาจัดซะให้เต็มคราบ ถ้ามาเที่ยวพัทยาก็แวะมาลองดูนะคะ

The Glass House – ร้านอาหารย่านพัทยาใต้ร้านนี้มีชื่อเสียงดีงามทั้งในแง่บรรยากาศร้านที่ตกแต่งสวยงามอลังการ ทำเลที่อยู่ท่ามกลางป่าสนริมหาดดูน่านั่งชิลล์ เมนูอาหารที่หลากหลายทั้งไทย-ฝรั่ง-เบเกอรี่-เครื่องดื่ม ...เลยกลายเป็นร้านสุดฮ็อตที่ต้องจองล่วงหน้ากันเป็นอาทิตย์ๆทีเดียวเชียว ซึ่งทางร้านจะเปิดรับจองแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นค่ะ ฉะนั้นคนที่ไปโดยไม่ได้จองก็ใช่ว่าจะอดกินของอร่อย แค่อาจจะอดเลือกที่นั่งมุมแจ่มๆ กับต้องรอคิวอยู่ด้านหน้าตรง reception นานหน่อยเท่านั้น (นอกซะจากว่าจะไปเร็วจริงๆ) อย่างวันที่เราไปนั้นเป็นช่วงราว 2 ทุ่มของวันสุดสัปดาห์ ก็รอแค่ 9 คิวเท่านั้นเอ๊งงง...(เลขสวยนะ...555+) พอได้โต๊ะแล้วก็จัดการสั่งอาหารกันเลย..

**-เมนูที่สั่ง-**

● ลาบแซลมอน (ราคา 250 บาท) – แซลมอนดิบชิ้นหนา เนื้อนุ่มๆ เอามาปรุงเป็นลาบรสจัดจ้านพอใช้ได้ จัดเป็นจานที่เหมาะจะทานเล่นเพลินๆเรียกน้ำย่อยดีค่ะ● รวมทะเลผัดมันกุ้ง (ราคา 290 บาท) – เมนูนี้นี่คือสุดยอดดดดด...ยกให้เป็นจานที่อร่อยเด็ดถูกใจที่สุดในมื้อนี้เลยล่ะค่ะ ทั้งปลาหมึก กุ้ง หอย ผัดกับมันกุ้งมารสชาติกำลังดี๊ดี ที่สำคัญคือทั้งหอมมันกุ้ง ทั้งหอมกลิ่นเบิร์น (ต้องผัดมาแบบไฟท่วมแน่ๆ) บอกเลยว่าฟินนน...สุดๆค่ะ● ต้มยำปลากะพงน้ำใส (ราคา 290 บาท) – เป็นต้มยำที่ปรุงมารสดี เปรี้ยวนำ เผ็ดพอใช้ กำลังชุ่มคอ เนื้อปลาสดดี ถือว่าสอบผ่านค่ะ● กะหล่ำผัดน้ำปลา (ราคา 110 บาท) – เมนูที่ฟังดูธรรมด๊า-ธรรมดาที่สั่งมาเพราะอยากให้มีผักบนโต๊ะบ้าง แต่ก็ผัดมาได้อร่อยเกินคาด รสชาติกำลังดีเลยล่ะค่ะ● ข้าวผัดปู (ราคา S 150 / M 210 / L 450) – สั่งมาแค่ไซส์ M เพราะมื้อนี้ทุกคนประสานเสียงกันบอกว่าไม่หิวๆ อยากกินแค่เบาๆพอไม่ให้ท้องร้องยามดึก แต่ปรากฏว่าผัดมาได้ดีงามเกินคาด..อร่อยจนหมดเกลี้ยงในพริบตา ก็เลยต้องมีภาคต่อ..● ข้าวผัดกุ้ง (ราคา S 150 / M 210 / L 450) – สืบเนื่องจากติดใจข้าวผัดปู ก็เลยลองสั่งข้าวผัดกุ้งดูบ้าง คราวนี้สั่งไซส์เล็ก ได้กุ้งตัวอวบๆมา 2-3 ตัว ส่วนรสชาตินั้นก็ผัด+ปรุงมาได้ไม่แพ้ข้าวผัดปูนั่นล่ะค่ะ● Gelato Ice Cream-Rum Raisin (ราคา 95 บาท) – เป็นไอศครีมรัมเรซิ่นที่หอมกลิ่นรัมชัดเจนดี แต่ลูกเกดน้อยไปหน่อย จัดว่าโอเคแต่ยังไม่ถึงกับเด็ดจ้ะ● กล้วยไข่เชื่อมใส่น้ำแข็ง (ราคา 80 บาท) – เมนูนี้รู้สึกว่ายังเชื่อมไม่ค่อยเข้าเนื้อ รสชาติเลยธรรมดาไปหน่อยนะ**-บรรยากาศ-**

...ร้านใหญ่มาก (ถึงขนาดต้องมีตู้โทรศัพท์ไว้ให้พนักงานโทรสั่งอาหาร) และคนก็เยอะมากจริงๆ ความที่ไปตอนค่ำแล้ว ก็เลยมองไม่เห็นวิวใดๆ เห็นแต่ว่าร้านตกแต่งสวยงามน่ารัก มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านในอาคารที่ตกแต่งไว้สวยมาก ..ความที่เราได้นั่งส่วน open air เวลาลมสงบยุงก็เลยเยอะไปนิด แต่พอลมทะเลโบกมาก็ดีขึ้นเป็นพักๆค่ะ โดยรวมแล้วบอกตรงๆว่าทั้งๆที่แต่งร้านได้สวยงามขนาดนี้ แต่เรากลับยังไม่ค่อยติดใจเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งคงเพราะพอลูกค้าเยอะมากๆบรรยากาศมันก็ดูโฉ่งฉ่างและไม่เป็นส่วนตัว ครั้นจะชื่นชมวิวทะเลมันก็มืดแล้วมองไม่เห็นอีก นี่ถ้ามีโอกาสได้ไปในช่วงโพล้เพล้นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินน่าจะประทับใจกว่านี้น่ะค่ะแม้ว่าการมาลองครั้งนี้จะยังไม่เต็มร้อยกับบรรยากาศเหมือนอย่างที่หวังไว้ แต่เรื่องรสชาติอาหารนี่ถือว่าเค้ามีดีจริงๆเลยล่ะค่ะ เพราะมื้อนี้ทั้งๆที่ทุกคนไปกันแบบอิ่มมาจากที่อื่นแล้ว แต่ก็ยังทานกันได้แบบเอร็ดอร่อยซัดเกลี้ยงไม่มีเหลือ แถมสั่งอาหารไปเยอะกว่าที่คิดไว้ซะอีกด้วยแน่ะ ...พอลิ้นมันอร่อยแล้วกระเพาะก็ดูเหมือนจะขยายขึ้นได้แบบนี้นี่เอง...

La Baguette หรือร้านขนมปังฝรั่งเศสสาขาถนนพระตำหนักนี้เป็นสาขาที่ 2 ของต่อจากสาขาดั้งเดิมที่โรงแรมวู้ดแลนด์ย่านพัทยาเหนือ ความที่ร้านนี้โด่งดังมานานจนแทบจะกลายเป็น landmark ของพัทยาไปแล้ว - แม้ว่าปัจจุบันจะมาเปิดสาขาในกรุงเทพฯอยู่ที่ EmQuartier เป็นสาขาที่ 3 ให้ไปชิมกันได้สะดวกๆ – แต่เมื่อไปเที่ยวพัทยาก็ยังนึกอยากแวะซะหน่อยให้สมกับที่มาถึงถิ่นค่ะ

**-บรรยากาศ-**

ตัวร้านลักษณะเป็นบ้านสีขาว แค่ก้าวเข้าไปก็ตะลึงกับหลากหลายเค้กหน้าตาสวยงามน่าลิ้มลองที่วางเรียงอยู่เต็มตู้จนเลือกแทบไม่ถูก อยากชิมอยากลองไปซะทุกอย่าง ..เป็นสวรรค์ของคนรักเค้กโดยแท้ ถัดจากตู้เค้กก็เป็นตู้ไอศครีม gelato สารพัดรส ...ทั้งๆที่รู้มาก่อนว่าที่นี่มีเมนูเบเกอรี่พวกขนมปังต่างๆ รวมไปถึงของหวานที่เป็นแบบสั่งจากเมนูด้วย แต่เจอเข้าไปแค่เค้ก 2 ตู้กับไอศครีม 1 ตู้นี้ก็ชี้สั่งกันจนแทบไม่ได้ลองอย่างอื่นแล้วล่ะค่ะ มื้อนี้เลยกลายเป็นมื้อของหวานล้วนๆไปโดยปริยาย นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่ขายผลิตภัณฑ์อาหารของทางร้านให้เลือกซื้อกลับบ้านด้วยนะคะ เห็นมีฝรั่งเจ้าถิ่นมาเลือกซื้อกันเยอะเชียวถัดจากห้องแรกไปจะผ่านบริเวณที่เป็นทางเดิน มีโต๊ะ-เก้าอี้ขนาดนั่งได้ 2 คนตั้งอยู่ข้างผนังซึ่งทำเป็นกระจกให้เห็นวิวด้านนอก ทางเดินนี้เองจะนำไปสู่ห้องด้านในที่สาวกสไตล์วินเทจทั้งหลายต้องกรี๊ด ทั้งเก้าอี้โซฟาตัวใหญ่นุ่มสบายสีหวาน ไปจนถึงวอลล์เปเปอร์ลายดอกไม้ ..ถึงวันที่ไปจะไม่ได้นั่งห้องนี้เพราะเข้ามาตอนคนเต็มพอดี แต่พอคนว่างลงเราก็ขอเดินแวะเข้าไปแชะไว้ซะหน่อยค่ะ สวยดีนะ**-เมนูที่สั่ง-**

[Cakes]

● Strawberry Cheesecake (ราคา 140 บาท) – รสหวานของสปันจ์เค้กนุ่มๆกับมูสชีสสีชมพูตัดกับรสเปรี้ยวของสตรอเบอร์รี่สดด้านบน ปนกับความกรุบกรอบของถั่วที่โรยมา..จัดว่าเป็นเค้กที่อร่อยถูกใจชิ้นนึงทีเดียวค่ะ● Arabica Coffee Cake (ราคา 120 บาท) – ตัวนี้คือชอบเลยล่ะค่ะ เนื้อเค้กด้านล่างเป็นแบบกรอบนิดๆสลับกับชั้นมูสเนียนๆ กลิ่นกาแฟอาจไม่เด่นชัดเท่าไหร่แต่รสชาติกลับกลมกล่อมเข้ากันดี พอรวมเข้ากับความหอมกรอบของ hazelnut ที่ท็อปมาด้านบนแล้ว..ฟินเลย...● Caramel Passion (ราคา 115 บาท) – ชิ้นนี้ประกอบไปด้วยมูสรสคาราเมล สปันจ์เค้กและเยลลี่เรียงกันเป็นชั้นอยู่ ด้านบนราดซอสเสาวรสทั้งเปรี้ยวทั้งหอมสดชื่นดีค่ะ จะมีไม่ปลื้มอยู่นิดก็ตรงชั้นเยลลี่เปรี้ยวๆหวานๆที่ส่วนตัวแล้วเราว่า texture มันไม่ค่อยเข้ากับชั้นอื่นๆเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วก็จัดว่าอร่อยดีใช้ได้อยู่นะ[Gelato]

● Gelato Sundae “Coffee&Caramel” (ราคา 220 บาท) – Caramel Gelato, Coffee Gelato, Raisins, Frosties, M&M, Picco Stick, Ferrero Rocher, Cocoa Powder and topped whipped cream ขออนุญาตลอกจากเมนูมาเลยจะได้ไม่ต้องบรรยายเยอะว่าเจ้าไอศครีมซันเดถ้วยใหญ่แถมพรีเซ้นต์มาแบบอลังการนี้ใส่อะไรมาบ้าง เมนูนี้คนสั่งมาบ่นว่าหวานจนเลี่ยนไปหน่อย (ที่จริงดูส่วนผสมก็น่าจะเดาได้อยู่ล่ะค่ะ) เหมาะกับคนรักช็อกโกแลตและชอบรสหวานจ้ะ● Caramel Gelato (ราคา 90 บาท) – สั่งมาเป็นไอศครีมโดดๆไม่ต้องเติมแต่งอะไร เนื้อไอศครีมที่นี่แปลกกว่าร้านอื่นตรงที่มันจะมีความหนืดนิดๆเหมือนจะยืดเป็นเส้นๆบางๆได้เวลาตักเข้าปาก รสไอศครีมออกหวานไปนิดแต่ก็เข้ากันดีกับกลิ่นหอมของคาราเมล อร่อยดีค่ะ● Hazelnut Gelato (ราคา 90 บาท) – เนื้อไอศครีมแบบเดียวกันแต่เปลี่ยนเป็นกลิ่นรสของ hazelnut บ้าง หอมชัดเจนดีทีเดียวนะ ชอบอีกล่ะ[Drinks]

● Hot Honey Coffee (ราคา 105 บาท) – กาแฟแก้วนี้นอกจากจะโรยน้ำผึ้งเป็น latte art มาด้านบนแล้ว ยังมีน้ำผึ้งใส่เหยือกใบจิ๋วเสิร์ฟเคียงมาไว้สำหรับเติมตามใจชอบด้วย น้ำผึ้งที่นี่หอมถูกใจสุดๆค่ะ แค่ยกถ้วยกาแฟขึ้นจะดื่มก็ได้กลิ่นลอยกรุ่นมาก่อนเลย ปลื้มมากก..บอกเลย● Hot Freshly Brewed Coffee (ราคา 100 บาท) – กาแฟดำร้อนๆธรรมดาๆ แต่ก็ใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพดี หอมชุ่มคอ ทานคู่กับขนมหวานๆช่วยแก้เลี่ยนได้ดีเลยค่ะโดยรวมแล้วจัดว่าเป็นร้านที่บรรยากาศดี๊ดี ขนมจัดว่าอร่อยเป็นส่วนใหญ่ ยังไม่เลิศที่สุดแต่ก็โดนใจ ส่วนราคาก็แอบแรงอยู่ซักหน่อยเหมือนกัน ซึ่งราคาที่ลงนี้ยังไม่ได้รวม VAT ค่ะ (แต่ที่นี่ไม่มี service charge นะ) ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึง 30 เม.ย. 59 ถ้าจ่ายด้วยบัตรไทยพาณิชย์จะได้ส่วนลด 10% ด้วย ...ช่วยได้นิดนึงจ้ะ ถ้าอยากมานั่งชิลล์ในร้านน่ารักๆ ทานขนมที่มีให้เลือกเยอะจนลายตา จิบกาแฟยามบ่ายเพลินๆ ร้านนี้ล่ะเหมาะเลย

...เมื่อมีโอกาสมาเที่ยวพัทยา ก็เลยต้องแวะลองรสมือร้านอาหารทะเลเจ้าดังอย่างร้านมุมอร่อยสาขานาเกลือนี้ดูค่ะ ร้านนี้นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดที่รสชาติดี ราคาสมเหตุสมผลแล้ว บรรยากาศในร้านก็ยังดี๊ดี ..คืออยู่ติดทะเลมองเห็นวิวน้ำกับฟ้าสุดลูกหูลูกตา ใกล้ทางเข้าทำเป็นสระน้ำสไตล์เหมือนรีสอร์ท ร้านมีขนาดใหญ่ ดูแล้วน่าจะรองรับลูกค้าได้ 70-100 โต๊ะ โดยแบ่งเป็นโซนห้องแอร์สำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย กับโซน outdoor สำหรับคนที่อยากรับลมทะเล ซึ่งดูจะเป็นที่นิยมมากกว่า ถ้าใครมาช่วงค่ำๆเห็นว่าจะมีวงดนตรีแสดงด้วยนะคะ ก็ฟินกันไป....สำหรับพิกัดของร้านนี้นั้นตั้งอยู่สุดถนนนาเกลือเลยค่ะ โดยมีที่จอดรถทั้งด้านหน้าก่อนถึงตัวร้าน และด้านในเลยตัวร้านเข้าไปหน่อยนึง กว้างใหญ่สมกับขนาดของร้านเค้านั่นแหละ ลูกค้าในร้านนั้นมีทั้งนักท่องเที่ยวที่มากันเองและกรุ๊ปทัวร์ ของเราที่ไปกันช่วงเที่ยงนั้นดูแล้วบรรยากาศจอแจไม่น้อย แต่จำนวนโต๊ะที่นั่งของทางร้านนั้นก็เรียกได้ว่าเหลือเฟือ ถ้าไม่ได้ถึงขนาดเจาะจงว่าจะเอาโต๊ะริมทะเลมุมที่วิวแจ่มที่สุดอะไรแบบนั้นก็ไม่มีการต้องเสียเวลายืนรอโต๊ะว่างนะคะ

**-อาหารที่ได้ลอง-**

● ยำสองไข่ (ราคา 220 บาท) – เมนูนี้ดูแล้วถูกใจคนที่ชอบทานทั้งไข่ปลาเรียวเซียวและไข่ปูอย่างเราเป็นที่ซู้ดดด...เรียกว่าเห็นปุ๊บรีบจิ้มสั่งเลยล่ะค่ะ อาหารที่นี่ serving size ค่อนข้างใหญ่ กับราคานี้นี่ได้มาจานเขื่องทีเดียวนะ ในแง่รสชาตินั้นจะค่อนข้างอ่อนสำหรับมาตรฐานอาหารยำๆ แต่ก็ไม่ได้อ่อนจนเซ็งหมดอร่อย ยิ่งได้ไข่ปลา+ไข่ปูสดกิ๊กเข้าไปนี่ยิ่งฟิน มานึกๆดูแล้วที่เค้าทำรสอ่อนหน่อยนี่อาจเพราะไม่อยากให้รสเครื่องปรุงจัดจ้านมากลบรสชาติของวัตถุดิบดีๆของเค้าก็ได้นะ..ชอบค่ะจานนี้● ออส่วนกระทะร้อน (ราคา 220 บาท) – จานนี้ก็ผัดมาอร่อย หอยนางรมสด เต่ง ไม่มีคาวเลย ปรุงรสมากำลังดี แถมยังไม่เลี่ยน ไม่อมน้ำมัน เป็นอีกจานที่ได้ใจไปเต็มๆค่ะ● ปลากระพงอบเกลือ (ราคา 420 บาท) – ปลากระพงตัวเขื่องเนื้อดีมากๆ ทั้งนุ่มทั้งแน่นทานกำลังอร่อย เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบ คือแบบเปรี้ยว-เผ็ดแบบน้ำจิ้มซีฟู้ด กับแบบที่ออกหวานเค็มหน่อยๆใส่ถั่วกับพริกป่นด้วย ซึ่งพอลองแล้วเราชอบแบบแรกมากกว่านะ จานนี้ก็อร่อยสุดๆ ทานกันหมดจดเกลี้ยงเกลาไม่มีเหลือค่ะ● แกงป่ากุ้งสับ (เล็ก 180 บาท / ใหญ่ 250 บาท) – ที่จริงแล้วก็นึกๆอยู่ว่ากับร้านอาหารแนวนี้นั้น แกงป่าเป็นอะไรที่ไม่น่าเวิร์ค แต่พอดีมีคนในกลุ่มทักว่าแกงป่าใส่กุ้งนั้นหาทานยาก เลยอยากจะสั่งมาลองกันน่ะค่ะ ...ผลปรากฏว่าแป้กตามคาด เป็นเมนูเดียวในมื้อนี้ที่รู้สึกเฟล เพราะรสเครื่องแกงนั้นไม่ได้เผ็ดแบบอร่อยกลมกล่อม แต่เป็นแบบเผ็ดทื่อๆมารสเดียว แถมเผ็ดมากเกินกว่าแกงป่าทั่วไปเสียด้วย นอกจากนี้ยังต้มมาแบบยังไม่ซึมซาบเข้าน้ำเข้าเนื้อกับผักในแกง ส่วนกุ้งพอเป็นแบบสับมาก็เลยให้มาน้อยไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เจอรสเผ็ดของแกงเข้าไปก็แทบไม่รู้รสกุ้งแล้ว ..นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่ามาร้านอาหารทะเล ก็ควรสั่งอาหารทะเลสิจ๊ะ...นะ...โดยรวมแล้วมื้อนี้จัดว่าอาหารอร่อย (เป็นส่วนใหญ่) วิวสวยแจ่ม การบริการจัดว่าธรรมดาไม่มีอะไรให้ติดใจ มีข้อเสียอยู่อย่างคือบรรยากาศพลุกพล่านไปนิดไม่ค่อยเป็นส่วนตัว แต่กับร้านใหญ่ที่ลูกค้าเยอะขนาดนี้ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ (ร้านอร่อยแถมติดทะเล ใครๆก็อยากมาทานนี่เนอะ) เป็นร้านนึงที่ถ้ามาพัทยาแล้วควรแวะจัดซักมื้อค่ะ

ร้านนั่งสบายใต้ร่มไม้ใหญ่ "Namon Nomwan" หน้ามน หนมหวาน แหล่งนั่งชิว ชิมของหวาน ชมธรรมชาติ ร้านสวย ๆ ในย่านบางแสน จังหวัดชลบุรี ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยบูรพา
การเดินทาง : มาจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ แวะร้านนี้ขากลับ เข้าซอยสันติเกษมซอย 3 ตรงเข้ามาสุดซอยจะเจอถนนมาบมะยม ขับมาอีกประมาณ 400 เมตร ร้านอยู่ตรงข้ามก๋วยเตี๋ยวหน้ามน มีลานจอดรถอยู่หน้าร้านจอดได้ 10 - 20 คันบรรยากาศ : บรรยากาศแบบสวนนั่งสบายที่นั่งที่สนามหญ้า ในโซน In-door กระจกรอบและปูนเปลือย หรือชั้น 2 ต้นไม้ล้อมรอบ********************วิธีใช้หน้ามน หนมหวาน***********************
1. รีบหาโต๊ะ แล้วรีบนั่ง
2. ดูเมนู ปรึกษากันแล้วติ๊กเมนูในกระดาษที่มีให้ เขียนเบอร์โต๊ะที่มุมกระดาษด้วยนะ
3. ถือออเดอร์มาที่เคาท์เตอร์ จุดสั่งอาหาร
4. เค้ก ของหวานในตู้เลือกสั่งได้เลย
5. ยื่นใบสั่งที่แคชเชียร์ จ่ายเงิน
6. รอหรือไปนั่งรอรับเครื่องดื่มและขนมหวานที่โต๊ะได้เลย**ทางร้านมีน้ำดื่มฟรีบริการแต่ต้องกดเองใส่แก้ว**"ปังเย็นช็อคโกแลตโอรีโอ้" (ราคา 75 บาท) น้ำแข็งไส ขนมปัง โรยด้วยผลไมโล มีท็อปปิ้งโอรีโอ้ จานนี้น้ำแข็งละลายเร็วไปหน่อยรสชาติจืด"Banana Honey Toast" (ราคา 120 บาท) โทสต์ ทานคู่กับกล้วย ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ไอศกรีมช็อคโกแลตรสชาติเข้มข้น ขนมปังชุ่มเนย"Chocolate Lava" (ราคา 120 บาท) ช็อคโกแลตลาวากับไอศกรีมวนิลา ท็อปด้วยสตอบเบอร์รี่ลูกโตครึ่งลูก ตัวลาวาแป้งนุ่มลาวาไม่ไหลเยิ้มเลยน่าเสียดาย เนื้อลาวาเข้มช็อคโกแลตออกแนว Chewy มากกว่า แต่ อร่อยดี

เสร็จจากทริปเชียงใหม่ก็มาต่อกันที่ทริป 3 วันที่ระยองนะครับ ชีพจรลงเท้าจริงๆเลยครับ จำไม่ได้ถึงเหตุผลที่ไปเที่ยวระยองครั้งนี้ครับ เอาเป็นว่า “เกิดอยากจะไปเที่ยว” ก็แล้วกันนะคราบ อิอิอิ ประเดิมกันร้านแรกที่พัทยาครับ ทำไมไประยองแล้วมาแวะที่พัทยา .... ก็เพราะคุณชายจะมาเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจากที่อยู่ตรงนาเกลือครับ ไหนๆก็จะแวะเติมน้ำมันตอนเกือบๆเที่ยงแล้วก็แวะกินข้าวซะเรยครับเพราะอีกตั้งชั่วโมงนึงจึงจะถึงระยองขืนรอให้ถึงระยองก่อนคงหิวแสบท้องแน่ๆ ดีไม่ดีจะตีกันตายซะก่อนจะถึงระยอง คริคริ

หาดแสนสำราญ นาเกลือ ชลบุรี

ร้านอาหาร หาดแสนสำราญ นาเกลือ ชลบุรี ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท – พัทยา 6/1 บนถนนสุขุมวิทขาเข้ากรุงเทพฯ ซอย สุขุมวิท – พัทยา 6/1 อยู่ติดกับศูยน์โตโยต้าพัทยาทิอยู่บนถนนสุขุมวิท เป็นซอยเดียวกับโรงแรม Bella Villa Cabana ครับ

ถ้ามาจากกรุงเทพฯก็วิ่งมาตามถนนสุขุมวิทเรื่อยๆจนเข้าเขตนาเกลือ ขับตรงมาเรื่อยๆผ่าน outlet ของ Flynow ทางขวามือแล้วยูเทิร์น แล้วเตรียมชิดซ้ายไว้ พอเห็นศูนย์โตโยต้าก็เตรียมเลี้ยวซ้ายที่ซอยตรงสุดรั้วศูนย์โตโยต้าได้เลยครับ ขับตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายแยกแรกไปทางเดียวกับโรงแรม Bella Villa Cabana ร้านหาดแสนสำราญ จะอยู่ก่อนถึงโรงแรม Bella Villa Cabana ครับ หน้าร้านมีที่จอดรถได้เป็นสิบๆคันทีเดียวครับ

ตัวร้านหาดแสนสำราญ เป็นร้านอาหารแบบ stand alone ครับ พื้นที่ของร้านกว้างขวางมากๆ นอกจากอาหารเปิดโล่งขนาดใหญ่ทือยู่ด้านหน้าสุดที่บรรจุโต๊ะนั่งเป็นสิบๆโต๊ะ แต่ละโต๊ะมีที่นั่งไม่ต่ำกว่า 6 – 8 ที่ แล้วยังมีโต๊ะที่อยู่ด้านนอกริมชายหาดอีกนับสิบๆโต๊ะ นับว่าร้านหาดแสนสำราญ เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่มากๆร้านหนึ่งทีเดียวเมนูของร้านหาดแสนสำราญ เป็นเมนูแบบร้านอาหารทะเลทั่วๆไปครับ คือแยกประเภทของวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหาร แยกประเภทของวิธีประกอบอาหาร ดูง่ายทีเดียวครับอาหารเมนูแรกที่สั่งมาคือ ปลาอินทรีย์แดดเดียว ราคา 100 บาท


ตอนที่เค้ายกจานมาเสิร์ฟถึงกับตกใจทีเดียวครับ งง มากๆ ในใจนึกว่า “นี่มันปลาอะไรกันหว่า” หน้าตาเหมือนเศษปลาทอดเลยครับ อาจจะเป็นเพราะปลาอินทรีย์ที่ใช้ชิ้นเล็กเกินไปก็ได้นะครับ พอเอามาถอดก้างออกหมดก็เลยเหลือชิ้นเล็กมากๆ ครับ ตักกัดเข้าไปคำหนึ่ง ...... เนื้อปลาเหนียวมากๆครับ ไม่ใช่ทอดเอาไว้นานแล้วนะครับ ทอดมาใหม่ๆนี่แหละครับ แต่มันเหนียวมากๆครับ เมนูนี้ไม่ผ่านอย่างแรงครับจานที่สองเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน ปลาดุกทะเลผัดฉ่า ราคา 120 บาท


จานนี้รสเผ็ดได้ถูกใจมากๆ เครื่องสมุนไพรก็เยอะครับ ใส่มาแบบถึงใจจริงๆทั้งน้ำพริกแกง กระชาย มะเขือ โหระพา พริกชี้ฟ้า แล้วผัดมาแบบน้ำขลุกขลิกด้วยถูกใจมากๆครับ เอาน้ำผัดไปคลุกข้าวได้สะใจไปเลย เนื้อปลาดุกทะเลชิ้นเล็กไปนิดแต่ว่าเนื้อแน่นมากๆ ไม่เละแสดงว่าปลาดุกทะเลสดมากๆเลยครับ เมนูจานนี้ไม่เสียชื่อที่เป็นอาหารแนะนำของร้านนี้นะครับเมนูถัดมาเป็นเมนูแก้เผ็ด ไข่เจียวปู ราคา 100 บาท


จานนี้ไม่รู้จะบอกว่ายังไงดีครับ เล่ให้ฟังก่อนดีกว่าว่าหน้าตาของเมนูนี้เป็นยังไงนะครับ เมนูไข่เจียวปูก็เป็นไข่เจียวแล้วใส่ “กรรเชียงปู” มาตรงกลาง 1 ชิ้น เท่านั้นครับ ...................... ได้รับเมนูนี้มาถึงกับอึ้งๆ เลยครับ แสดงให้เห็นถึงความ “ชุ่ย” “ไม่เอาใจใส่” ของพ่อครัว แม่ครัว ที่ทำเมนูนี้มาให้มากๆ เจ้าของบล็อกไม่รู้ว่าเมนู “ไข่เจียวปู” จะออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้ ถ้าเจ้าของบล็อกสั่ง “ไข่เจียวกุ้ง” เจ้าของบล็อกจะได้ ไข่เจียวทีมีกุ้งตัวเดียวอยู่ตรงกลางหรือเปล่าก็ไม่รู้ ...... อันนี้ขอประณาม “พ่อครัว แม่ครัว” ในความ “ชุ่ย” “ไม่เอาใจใส่” และขอประณามเจ้าของร้านที่ไม่ได้มาตรวจความเรียบร้อยของอาหารแต่ละเมนูเลยครับเมนูสุดท้ายเป็นเมนูแนะนำของทางร้านเช่นกันครับ ปลากะพงต้มมะนาว ราคา 380 บาท


เมนูนี้รสชาติและกลิ่นๆคล้ายๆต้มโคล้งกับต้มยำน้ำใสนะครับ มีส่วนประกอบของ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดงทุบ รสชาติก็ออกเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ คล้ายๆต้มยำกับต้มโคล้งแต่ว่าจะเน้นออกไปทางรสเปรี้ยวครับ เนื้อปลาที่ใส่มาในต้มมะนาวก็แน่นนะครับ ชิ้นก็ค่อนข้างใหญ่ จำนวนก็เยอะซะด้วย เมนูนี้ถูกใจตรงรสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ นี่แหละครับ ซดกันสนุกไปเลยครับร้านหาดแสนสำราญ เป็นร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียงโด่งดังของนาเกลือ ไม่น่าจะมา “ฆ่าตัวตาย” ด้วยการเสิร์ฟไข่เจียวใส่กรรเชียงปูเลยนะครับ ...... “ชุ่ย” สุดๆครับ

Chubby Lawyer’s Café’ ………………………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน

ร้าน "บ้านต้นเค้ก"

ถ้าคุณกำลังมองหาร้านเค้กรสชาติอร่อย บรรยากาศสบายๆ ร้าน"บ้านต้นเค้ก" เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยากแนะนำครับ เค้กของทางร้านมีให้เลือกหลายรสชาติ รวมถึงเครื่องดื่มอีกหลากหลาย แต่ที่ชอบที่สุด (เป็นการส่วนตัว) คือเค้กเผือก (Taro Cake) จุดเด่นคือเนื้อเค้กจะมีความนุ่ม หอมกลิ่นเผือกอ่อนๆ รสชาติไม่หวานเกินไป ส่วนราคาแตกต่างกันไปตามชนิดของเค้ก วันนี้มาไม่ทันเค้กเผือกจึงได้ลิ้มลองบลูเบอรี่เค้ก และฮอลิคเค้กของทางร้านแทนบรรยากาศโดยรวมของทางร้านเป็นแบบสบายๆ โดยมีที่นั่งแบบ Indoor และ Outdoor แล้วแต่ความชอบของลูกค้า แต่หากมาช่วงหน้าร้อนแนะนำ Indoor จะ Chill กว่าครับบ้านต้นเค้กตั้งอยู่ ถนนเลี่ยงตลาดหนองมน ต.แสนสุข อ.แสนสุข จ.ชลบุรี การเดินทางหากมาจากถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปยังศรีราชา เมื่อถึงตลาดหนองมนให้สังเกตุซ้ายมือ เมื่อถึงธนาคารกสิกรไทยจะมีซอยให้เลี้ยวซ้าย แล้วตรงไปจะเจอสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง จากสี่แยกประมาณ 50 เมตรร้านจะอยู่ขวามือให้วิ่งไปประมาณ 200 เมตร แล้ว U-Turn จะถึงร้าน "บ้านต้นเค้ก"

อีกหนึ่งช่องทางคือการนำทางด้วย Google Map ซึ่งสามารถพาท่านไปถึงหน้าร้านได้อย่างถูกต้องหากท่านใดชื่นชอบร้านเค้กบรรยากาศสบายๆ เค้กรสชาติอร่อย แนะนำ "บ้านต้นเค้ก" ครับ

มาเที่ยวทะเลที่เกาะล้านทั้งที ก็จะต้องหาร้านอร่อยๆ ขึ้นชื่อบนเกาะกินถูกต้องใช่มั้ยคะ แน่นอนว่าวันนี้เรามีร้านไอศครีมขึ้นชื่อแสนอร่อยมาแนะนำ ร้านนี้ชื่อว่า Love On Sea ตั้งอยู่บริเวณท่าหน้าบ้านบนเกาะล้าน หาไม่ยากเลยร้านตกแต่งสวยงามตั้งอยู่เยื้องๆ กับเซเว่น (ร้านเซเว่น บนเกาะล้านจะมีอยู่ที่เดียวเท่านั้น หาไม่ยากเลย คนจะเยอะมาก เข้าออกตลอดเวลา) ร้าน Love On Sea นี้จะเปิดตั้งแต่ 10.00 น. และไม่ได้เปิดทุกวัน ถ้าจะไปลองเช็คดูดีๆ ด้วยจ้าร้านนี้เหมาะสำหรับคู่รักที่จะมากินไอศครีมอร่อยๆ ด้วยกัน หรือจะมากับกลุ่มเพื่อนก็ได้เหมือนกันจ้า โดยภายในจะร้านตกแต่งด้วยโทนขาว - ฟ้า เข้ากับบรรยากาศทะเลที่เกาะล้าน ถึงแม้จะดึกแล้วก็มีคนเข้ามาแวะเวียนทั้งนั่งกินที่ร้าน และซื้อกลับไปกินที่ห้องพักได้ด้วยทางร้านจะมีไอศครีมให้เลือกหลายเมนูด้วย แต่ละเมนูก็ตกแต่งได้น่ากิน จนบางครั้งเลือกไม่ถูกเลยว่าจะกินเมนูไหนดีร้านไอศครีม Love On Sea มีเมนูหลากหลายแบบให้เลือก
นอกจากไอศครีมแล้ว ยังมีขนมปังปิ้งหอมๆ ให้เราจะลิ้มลองกันด้วยเมนูขนมปังปิ้ง
ครั้งนี้เลือกกินเกล็ดหิมะชาเย็น หอม อร่อยมาก และมีทอปปิ้งกรอบๆ โรยด้านข้างอีกด้วยเกล็ดหิมะชาไทย
และอีกถ้วย คือ โยเกิร์ต ฟรุตตี้ อร่อยมากๆ เหมือนกัน ชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ เพราะมีรสชาติมที่เข้ากันระหว่าง โยเกิร์ต และผลไม้ รวมถึงเยลลี่ด้วย กินแล้วรู้สกสดชื่นมากเลย สำหรับราคาถือว่าไม่แพง ถ้วยละ 69 บาท ราคาเหมือนกันกินไอศครีมร้านดังทั่วไปเลยจ้าสำหรับใครที่ได้ลองมากินไอศครีมร้านนี้รับรองติดใจแน่นอน จะต้องแวะไปกินทุกครั้งที่ไปเที่ยวเกาะล้าน ใครๆ ก็รู้ว่าที่เกาะล้านแดดแรงแค่ไหนถ้าได้ไอศครีมเย็นๆ ไปสักถ้วยนะ สดชื่นขึ้นทันทีเลย
สำหรับทะเลที่เกาะล้านนั้นสวยไม่แพ้ทะเลทางภาคใต้เลย น้ำใสมาก อยากให้นักท่องเที่ยวทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาดกัน เพื่อให้ความสวยงามนี้อยู่กับพวกเราไปอีกนานๆ

วันนี้จะพาไปชิมร้านอาหารอิสานอีกร้านหนึ่งที่เป็นร้านในตำนานของเมืองพัทยาครับ ร้านนี้ก็เช่นเดียวกับร้านส้มตำป้าณีครับที่เป็นที่รู้จักของคนพื้นที่มากกว่าจะเป็นร้านโด่งดังทาง social media ครับ แต่ร้านนี้รสชาติจะจัดจ้าน และจะมีเมนูที่หลากหลายมากกว่าร้านส้มตำป้าณีครับผม

ส้มตำปูม้าเจ๊มาลี ข้างโชว์รูมนิสสัน บางละมุง

วิธีการมาร้านส้มตำปูม้าเจ๊มาลีก็มาไม่ยากเลยครับ ใช้เส้นทางไหนก็ได้เพื่อจะเดินทางมาบางละมุง แล้วใช้ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าพัทยา ขับเลยจิตตภาวันวิทยาลัย และโรงแรมชลจันทร์ทางขวามือ ขับเรื่อยๆมาจนถึงบ้านสุขาวดีทางขวามือก็ชิดซ้ายเอาไว้เล็งซอยสุขุมวิท – พัทยา 19 ไว้ครับ พอเลยซอยสุขุมวิท – พัทยา 19 ให้เล็งโชว์รูมนิสสันเอาไว้ครับ พอสุดโชว์รูมนิสสันจะเป็นทางเข้าโรงเรียนจุฬเทพ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าที่จอดรถของร้านส้มตำปูม้าเจ๊มาลีได้เลยครับตัวร้านส้มตำปูม้าเจ๊มาลีเป็นอาคารกึ่งถาวรมุงจากขนาดใหญ่มากครับ ตัวชายคาจะลงมาต่ำพอสมควรและตัวร้านจะสร้างอยู่ในหมู่ต้นไม้ร่มรื่นนะครับแสงก็เลยน้อยไปนิดครับ ภายในร้านมีโต๊ะนั่งขนาดใหญ่ – เล็ก อยู่เกินกว่า 20 โต๊ะครับ สามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 50 คนแน่ๆเมนูของร้านส้มตำปูม้าเจ๊มาลีจะเน้นทั้งอาหารอิสานและอาหารทะเลหลากหลายเมนูครับ โดยแบ่งเมนูออกเป็นหมวดๆ ตามวิธีการในการประกอบอาหารเช่น ตำ ยำ อบ แกง ต้มยำ ทอดเมนูแรกที่สั่งมา แหนมซี่โครงหมูทอด ราคา 100 บาท


ผมว่าจานนี้แพงไปนิดครับ แหนมซี่โครงหมูจานละ 100 บาทให้มาแค่ 4-5 ชิ้นเท่านั้นครับ แต่รสชาติดีมากทีเดียวครับ เปรี้ยวนำมาเรยครับ แล้วก็ทอดมาแบบไม่อมน้ำมันอีกด้วยนะครับ แนมกับเครื่องเคียง ถั่วลิสงคั่ว ขิง พริกขี้หนู เด็ดไปเลยครับเมนูที่สอง ตำไทย ราคา 50 บาท


ส้มตำไทยจานนี่ราคาเดียวกันกับส้มตำป้าณีครับ ปริมาณก็ครือครือกันครับ แต่รสชาติของส้มตำป้าณีจะสะอาดๆกว่า ส้มตำไทยของร้านส้มตำปูม้าเจ๊มาลีจะออกเขรอะๆนิดนึงครับ เลือกไม่ถูกครับว่าจะเลือกร้านไหนเพราะชอบทั้งสองแบบครับ อิอิเมนูที่สาม ส้มตำทะเล ราคา 80 บาท


เมนูนี่ถือว่าไม่แพงจนเกินไปนักครับ เพราะเครื่องทะเลที่ใส่มาในส้มตำทะเลครกนี้มีทั้งกุ้งสดๆตัวเขื่องๆ เนื้อหวานๆ กรอบๆ หนึบๆ หมึกลวกเนื้อหนาชวนเคี้ยว และปูม้าตัวขนาดพอดีคำ เนื้อหวานมากๆ รสชาติของส้มตำจะออกเปรี้ยว เผ็ด มีรสเค็มและรสหวานเท่าๆกันครับ รสชาติคล้ายๆน้ำจิ้มซีฟู๊ดที่ออกรสหวานนิดๆครับเมนูที่สี่เป็นเมนูแนะนำของทางร้านครับ ยำปูม้า ราคา 80 บาท


เมนูนี้ต้องถือว่าราคาถูกมากๆครับ เพราะทั้งจานมีแต่ปูม้าแช่น้ำปลาราดน้ำยำมาเต็มจานทีเดียว งานนี้แทะปู ดูดก้ามปูกันเพลินทีเดียวครับ รสชาติก็เด็ดสะระตี่มากๆ สมกับที่เป็นเมนูแนะนำของร้านเลยครับ น้ำยำเผ็ดมาเป็นอันดับแรกคงเป็นเพราะเพื่อดับคาวปูม้า แต่น้ำยำไม่ได้เผ็ดอย่างเดียวนะครับ มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน ครบถ้วนครับ ถามว่าแซ่บไหน .... ตอบว่าแซ่บมากกกกกกก (เสียงต่ำ) ..... แต่หยุดกินไม่ได้คราบบบบบ เมนูนี้ชนะเลิศจริงๆครับเมนูที่ห้า น้ำตกหมู ราคา 70 บาท


เมนูไม่ค่อยถูกปากครับ เพราะเนื้อหมูย่างแข็งเกินไป แล้วอย่างที่บอกเจ้าของบล็อกชอบน้ำตกหมูแบบที่มีน้ำเจิ่งๆจะได้เอาข้าวเหนียวมาจ้ำๆ น้ำตกหมูของร้านส้มตำปูม้าเจ๊มาลีใส่ข้าวคั่วเยอะมากเมนูนี้ก็เลยแห้งไปครับ ส่วนรสชาติของน้ำตกหมูจะออกเปรี้ยวเผ็ดจนเกินไปครับ เมนูนี้ก็เลยไม่ค่อยถูกปากซักเท่าไหร่เมนูสุดท้าย ต้มยำซี่โครงหมู ราคา 100 บาท


เมนูสุดท้ายนี่เด็ดสะระตี่มากครับ น้ำต้มยำมีทั้งรสเปรี้ยว เผ็ด แซ่บถูกใจเลยทีเดียวครับ หอมเครื่องสมุนไพรที่ใส่มาในต้มยำมากๆ ซี่โครงหมูก็เปื่อยดีมาก แทบไม่ต้องออกแรงแทะเลยครับ แต่ใส่เข้าปากเนื้อหมูก็แทบจะหลุดออกมาจากกระดูกอยู่แล้วครับร้านส้มตำปูม้าเจ๊มาลีเป็นร้านอาหารเก่าแก่ของเมืองพัทยาที่เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ที่มีรสชาติเข้าขั้นติดอันดับเลยครับ ใครอยากทานอาหารอิสานรสแซ่บก็เชิญมาแวะที่ร้านนี้ได้เลยคราบ