นักรีวิวร้านอาหาร

วันก่อนไปเดินเล่นที่เมอคิวรี่วิลล์ช่วงกลางวันมาค่ะ

ไม่รู้จะกินอะไร สุดท้ายก็เดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง Sushi-Oo

ส่วนตัวเคยลองร้านนี้แค่หนเดียวที่สาขา The Street รัชดา

ซึ่งก็ไม่ประทับใจในรสชาติเท่าไหร่ แต่คิดเอาเองว่าคงเพราะเป็นสาขาใหม่ เชฟอาจยังมือไม่นิ่ง

วันนี้เลยลองมาซ้ำ ที่สาขาออริจินอลกันไปเลย

จะได้รู้แน่ๆ ว่าตกลงร้านนี้รสชาติเป็นไง อร่อยหรือไม่อร่อย

ว่าแล้วก็จัดการสั่งชุดซูชิเซ็ทอาหารกลางวันมาค่ะ

ในชุดจะมี ซูชิ 5 คำ และ กัปปะโรล 3 คำ เสิร์ฟพร้อมซุปและสลัด

ข้อดีของที่นี่คือหั่นเนื้อปลาให้ใหญ่ดี

แต่เราไม่ชอบรสชาติข้าวที่นี่เท่าไหร่ เราว่ามันจืดไป กินกับปลาดิบแล้วมันจะเลี่ยน ไม่ส่งเสริมรสกัน

ในชุดนี้ ซูชิที่เราประทับใจในรสชาติกลับเป็นกัปปะโรล

เพราะเค้าใส่งาขาวมาด้วย ช่วยเพิ่มความหอมได้ดีมาก

ส่วนน้ำสลัดที่เป็นไซด์ดิชก็รสแรงไปหน่อย เปรี้ยวโดด กินแล้วไม่สดชื่นเท่าที่ควร

สรุปสำหรับ Sushi-Oo เราไม่ให้ผ่านอะค่ะ

ความสดของปลาพอไปวัดไปวา ดีตรงเชฟหั่นปลาให้ชิ้นใหญ่

แต่ก็มีบางชิ้นที่ติดเอ็น หรือส่วนที่เคี้ยวยากมาด้วย เลยไม่ปลื้ม

ดีตรงราคาถูก แต่ถ้าให้เลือกได้ก็อาจจะไม่เลือกกินที่นี่อีก

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว OpenRice วันนี้ขอกลับมารีวิวที่ห้องอาหาร The Square โรงแรมโนโวเทล เพลินจิตกันอีกครั้ง
เพราะเดือนสิงหาคมนี้ ทางห้องอาหารจัดธีมอาหารน่าสนใจ ภายใต้ชื่อ Around the Continent: Taste of Asia & Middle East 
มีอาหารจากโซนเอเชียและตะวันออกกลางมาให้ลองชิมกันหลายอย่าง กับบุฟเฟ่ต์ดินเดอร์ในราคา 960++ บาท
แถมมีโปรมา 2 จ่าย 1 กับบัตรเครดิตหลายอัน หารแล้วราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 560 บาทเท่านั้นเองค่ะ
เราเลยไปโดนมาอีกครั้ง ไปดูกันดีกว่าราคานี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง

ห้องอาหาร The Square อยู่ที่ชั้น 8 รร. โนโวเทล เพลินจิต
ตัวโรงแรมอยู่ติดสถานี BTS เพลินจิตเลยค่ะ เดินทางสะดวก
สำหรับช่วงเวลาให้บริการบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นอยู่ระหว่างเวลา หกโมงเย็น - สี่ทุ่มเดินเข้ามาในไลน์อาหารก็เจอกับสฟิงซ์และอูฐน้อยยืนต้อนรับสร้างบรรยากาศกันอยู่ น่ารักดีค่ะมุมอาหารที่น่าสนใจมีทั้งอาหารญี่ปุ่น มุมชีส มุมสลัด มุมอาหารทะเล และอาหารตะวันออกกลาง
โดยส่วนตัวเราชอบอาหารอินเดียของที่นี่ เพราะรู้สึกว่ารสชาติดี กลมกล่อม กินง่าย ไม่เครื่องเทศจ๋า
อาหารตะวันออกกลางก็ทำนองเดียวกันค่ะ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมแบบที่คนไทยกินได้ง่ายๆแม้จะเป็นธีมอาหารเอเชียและตะวันออกกลาง แต่ใครที่รักอาหารทะเลและอาหารฝรั่ง ที่นี่ก็ยังมี Seafood on ice พาสต้า พิซซ่าอร่อยๆ ให้เลือกทานกันได้เหมือนเดิมค่ะ มีพิเศษตรงเมนูพาสต้าที่สามารถเลือกซอสเป็นซอสแกงเขียวหวานแบบไทยได้ ถือเป็นเมนูฟิวชั่นที่เก๋ไก๋ดี แต่รสชาติออกจะเอาใจฝรั่งมากหน่อยนะคะเดินชมไลน์กันมานานแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่าวันนี้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเรากินอะไรเข้าไปบ้าง อิอิ 

เริ่มต้นด้วยเมนูเบาๆ ซุป สลัด และชีส
วันที่ไปมีชีสให้เลือกทาน 4 ชนิด รสชาติผ่านทั้ง 4 ชนิดค่ะ ยิ่งกินกับมะกอกดองและผลไม้แห้งยิ่งฟิน
ส่วนซุปเราชอบซุปข้าวโพดนะ กลมกล่อมดี
สำหรับสลัด ผักก็หลากหลายตามมาตรฐานค่ะตามมาด้วยปลาดิบและซูชิค่ะ ปลาสดดี มุมนี้ตักไปหลายรอบเลย แฮ่...สำหรับซีฟู้ดบอกเลยว่าสดและน้ำจิ้มแซ่บมากกกกกกจานต่อมาเป็นอาหารอินเดียและตะวันออกกลางค่ะ อย่างที่บอกคือรสชาติถูกปากคนไทย อร่อยดี โดยเฉพาะแกงแกะค่ะ เราชอบเป็นพิเศษที่เก๋ที่สุดในไลน์และเป็นเซอร์ไพรส์สำหรับเราน่าจะเป็นอันนี้เลยค่ะ เฝอเวียดนามค่ะ รสชาติใช้ได้ไม่จัดจ้านนัก แต่มีซอสและเครื่องเคียงให้ปรุงเองได้ค่ะ เราชอบตรงที่มันไม่จำเจ ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวเหมือนทั่วๆ ไปกินอิ่มแล้ว มาดูขนมกันบ้างดีกว่า
สำหรับไลน์ขนมของที่นี่ มีทั้งเค้ก มูส ขนมไทย ไอศกรีมโฮมเมด ผลไม้ให้ได้เลือกล้างปากกันชิลล์ๆ
ส่วนตัวคิดว่าเชฟขนมที่นี่ทำขนมประเภทมูสได้ดีมากค่ะ เนื้อนุ่มเนียน รสกลมกล่อม โดยเฉพาะเมนูมูสนมสด และช็อคโกแล็ตทรีโอ ที่เป็นมูสรสช็อคโกแล็ตที่รสชาติเข้มข้นมาก และที่โดนใจสุดๆ ก็คือไอศกรีมโฮมเมดของที่นี่ ทำเป็นรสชาติผลไม้ไทย อย่างเสาวรสและลิ้นจี่ค่ะ อร่อยดีงามทั้ง 2 รส พร้อมท้อปปิ้งอย่างอัลมอนด์สไลซ์ตักได้ไม่อั้น ฟินฝุดๆสรุปสำหรับบุฟเฟ่ต์ธีม Around the Continent ของที่นี่นะคะ
ถือว่าแปลกใหม่ มีอาหารหลากหลายที่เราไม่ค่อยเจอในไลน์บุฟเฟ่ต์ที่อื่นๆ
ซึ่งอาหารอินเดียและตะวันออกกลางก็ทำออกมาได้ดี รสชาติเข้าถึงได้ไม่ยาก
อาหารเอเชียก็อร่อยตามมาตรฐาน ส่วนซีฟู้ดหรืออาหารฝรั่งอื่นๆ ก็ยังมีให้กินเหมือนเดิม ไม่ได้หายไป
การบริการก็เอาใจใส่ เก็บจานบ่อยดีมากค่ะ
วันที่ไปเป็นวันอังคาร ลูกค้าไม่พลุกพล่านนัก ทำให้บรรยากาศร้านสบายๆ ดี
อาหารที่กินไปคิดเทียบกับราคาแล้ว ก็ถือว่าคุ้มราคาเพราะรวมน้ำและซอฟท์ดริ้งแล้ว
ถือเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาไม่แรงอีกตัวเลือกนึงค่ะ
แต่ธีมอาหารเอเชียและตะวันออกกลางที่รีวิวนี้จะหมดสิ้นเดือนสิงหานี้แล้ว
เดือนหน้าจะเป็นธีม New World เป็นอาหารอเมริกัน ออสเตรเลีย และบาร์บีคิวต่างๆ
ยังไงลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางโรงแรมได้เลยนะคะ 

วันนี้มีลาภปากค่ะ

พอดีเจ้านายซื้อขนมไหว้พระจันทร์มาฝากจากห้องอาหารจีน Summer Palace โรงแรมอินเตอร์คอนติเนทอล กรุงเทพ  ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่นี่มีขนมไหว้พระจันทร์ด้วย แบบว่า..ถ้าพูดถึงขนมไหว้พระจันทร์ก็จะนึกถึงโรงแรมอื่นๆ ที่เคยอ่านกระทู้รีวิวบ่อยๆ มากกว่า  เพราะไม่เคยอ่านรีวิวขนมไหว้พระจันทร์ของที่นี่ ดังนั้น ไหนๆ วันนี้ก็ได้ขนมมากินฟรีแล้ว เราเลยขอทำรีวิวสักหน่อยค่ะ

ขนมไหว้พระจันทร์ของทาง Summer Palace บรรจุมาในกล่องกระดาษพิมพ์ลายภาพวาดสไตล์จีนสวยงาม ดูเรียบหรู แต่ก็ดูเอื้อมถึงง่าย (ไม่แน่ใจว่ามีกล่องที่หรูหราไฮโซกว่านี้มั้ยนะคะ)เปิดกล่องออกมาก็จะเจอกับกล่องเล็กหลากสีสันที่ใส่ขนมไหว้พระจันทร์เอาไว้ แบบนี้ที่ได้มามี 3 สีนะคะ แต่ละสีจะเป็นคนละรสชาติกัน
สีฟ้า - ไส้ทุเรียนไข่เค็ม
สีเขียว - ไส้ใบเตยงาดำ
สีชมพู - ไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม

เปิดกล่องเล็กออกมาจะเจอกับห่อขนมไหว้พระจันทร์ บนห่อจะติดสติ๊กเกอร์บอกรสชาติไส้เอาไว้ชัดเจนค่ะราคาขนมไหว้พระจันทร์ที่นี่จะอยู่ที่ชิ้นละ 150 บาท (แม้จะไม่ได้ซื้อมาเองแต่ก็แอบไปหาข้อมูลมาค่ะ แหะๆ)
แต่ถ้าสั่งเป็นกล่องจะได้ลดราคาลงมาเล็กน้อย อย่างกล่องนี้ 8 ชิ้น ราคา 988 บาทค่ะ

สำหรับรสชาติของขนมไหว้พระจันทร์ที่นี่ถือว่าทำได้ดีทีเดียว
แป้งด้านนอกบาง ไส้แน่นเต็มคำ รสชาติโดยรวมไม่หวานจัด

ไส้ที่ชอบที่สุดคือ คัสตาร์ดไข่เค็ม โดดเด่นด้วยรสไข่เค็ม เนื้อคัสตาร์ดสีส้มเข้มมากกว่าเจ้าอื่นๆ ที่เคยเห็นและเคยกิน เนื้อคัสตาร์ดแน่นหนึบ ชอบตรงที่รสไม่หวานมาก เค็มๆ มันๆ เหมือนจะเน้นรสไข่เค็มมากกว่ารสคัสตาร์ด แต่กินมากๆ จะรู้สึกเลี่ยนได้ง่ายกว่าทั่วไปรองลงมาเป็น ใบเตยงาดำ อันนี้ชอบที่ความเป็นไทยจ๋าของรสชาติไส้ คือปกติจะเห็นร้านอื่นทำแต่ชาเขียวถั่วแดงให้ดูญี่ปุ่นๆ อินเตอร์ๆ แต่ที่นี่เลือกทำรสใบเตยกับงาดำ ซึ่งก็เข้ากันได้ดี แต่รสใบเตยออกจะเหมือนกาละแมรสใบเตยไปนิด (ด้วยเนื้อสัมผัสที่หนึบมากเลยทำให้คิดถึงกาละแม) แต่รสชาติงาดำด้านในอร่อยดีงามมาก (คล้ายไส้ในของบัวลอยงาดำ) ใครต้องการความแปลกใหม่ แนะนำไส้นี้ค่ะสุดท้าย ทุเรียนไข่เค็ม ด้วยความที่ไม่ค่อยชอบกินทุเรียนกวนเป็นทุนเดิม ก็เลยทำให้ไม่ถูกปากรสนี้เท่าไหร่ แต่จริงๆ รสชาติโดยรวมก็ทำได้ดีนะคะ ไม่หวานเลี่ยน และกลิ่นไม่ได้เหม็นมาก มีไข่เค็มมาตัดเลี่ยนเบาๆถือว่าเป็นตัวเลือกสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ดีอีกร้านหนึ่งนะคะสำหรับ Summer Palace
ราคาไม่แพงเกินไป หีบห่อสวยงาม ชิ้นใหญ่คุ้มราคา รสชาติปานกลางถึงดี และมีรสชาติที่แตกต่างจากร้านอื่นด้วย
ยังไงลองซื้อมาชิมกันได้ค่ะ อาจจะไม่ถึงกับว้าว แต่ก็ไม่น่าจะผิดหวังกัน

วันก่อนเดินพารากอนเพลินๆ เกิดหิวน้ำ จำได้ว่าเห็น OpenRice ทำกิจกรรมที่ร้านคอฟฟี่เวิร์ลสาขาใหม่ ดูไฮโซกว่าเดิม ก็เลยชวนคุณแฟนมานั่งชิลล์ๆ กินกาแฟกันที่นี่ค่ะ 

ร้าน Coffee World Gold เป็นสาขาใหม่ของคอฟฟี่เวิร์ลที่พรีเมี่ยมขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญมีเมนูของหวานและอาหารว่างเกร๋ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย ร้านตั้งอยู่ชั้น G ชั้นเดียวกับ Food Court อยู่ด้านหลังซูเปอร์มาร์เก็ตเลยค่ะ บรรยากาศจะออกแนวลอฟท์ดิบๆ ดูมีสไตล์กว่าคอฟฟี่เวิร์ลปกติ แถมยังนั่งได้เรื่อยๆ ไม่ไล่ลูกค้า (เห็นบางโต๊ะเหมือนมาติวหนังสือกัน) ลูกค้าพลุกพล่านประมาณนึงค่ะ คาดว่าถ้าช่วงพีคๆ คนอาจเต็มได้

โม้มานาน มาดูเมนูที่เราได้ชิมวันนั้นดีกว่าค่ะ เมนูแรก เป็นเครื่องดื่มของเราเอง คาเฟ่ มอคค่า (115 บาท) เป็นมอคค่าร้อนรสกลมกล่อม เราชอบมาก เพราะเป็นคนกินกาแฟไม่เก่งเท่าไหร่ อันนี้สัดส่วนกาแฟกับช็อคโกแล็ตลงตัวพอดี เสิร์ฟมาพร้อมกับวาฟเฟิลกรอบ 2 ชิ้น กินเพลินๆ

ถัดมาเป็นเครื่องดื่มของแฟน คาราเมล เฮเซลนัท เฟรปเป้ (165 บาท) เป็นกาแฟคาราเมลปั่นใส่น้ำเชื่อมเฮเซลนัท เสิร์ฟมาในโหลแก้วน่ารักๆ กาแฟหอมมากๆ วิปปิ้งครีมก็อร่อย แฟนปลื้มสุดๆ

เมนูถัดมาขอรองท้องหนักๆ ด้วย แฮม แอนด์ ชีส แพนเค้ก (195 บาท) สั่งมาเพราะแฟนชอบกินแพนเค้กค่ะ แพนเค้กชิ้นโต 2 ชิ้น สอดไส้มาด้วยเบค่อน แฮม และชีส พร้อมผักสลัดอีกเล็กน้อย จานนี้รสชาติธรรมดา เนื้อแพนเค้กออกจะกระด้างไปหน่อย แต่ได้มายองเนสและเนยกระเทียมเสิร์ฟคู่กันมาช่วยไว้ คือส่วนตัวเราชอบเนยกระเทียมของที่นี่มาก รสชาติถูกจริต เสียดายแพนเค้กยังไม่ฉ่ำพอ 

จานสุดท้าย เป็นเมนูที่ดูจืดชืดไร้รสชาติ แต่อร่อยเกินคาดสุดๆ ค่ะ มัชรูม ครีม เครป (195 บาท)  เครปสอดไส้เห็ด เสิร์ฟพร้อมซอสครีมขาว พอราดซอสแล้วกินรวมกัน รสชาติคล้ายสปาเก็ตตี้ครีมเห็ดสุดๆ ดิฉันปลื้มปริ่มมาก เข้มข้นโดนใจ เลิฟจานนี้มาก

สรุปมื้อนี้หมดไป 670 บาท แอบแพง 
แต่ก็ถือว่าเปิดประสบการณ์กินอะไรใหม่ๆ 
ชอบเครปกับกาแฟ แต่คงมากินได้ไม่บ่อยนัก แหะๆ 
การบริการก็เฉยๆ ค่ะ แต่ถ้าสั่งอาหารเป็นจานๆ อาจต้องรออาหารสักพักนะคะ

วันนี้มีร้านอร่อยริมทางแถวบ้านมาแนะนำอีกแล้วค่ะ ชื่อร้าน เมี่ยงปลาหมุน เหม่งจ๋าย
ร้านนี้เป็นร้านบ้านๆ อยู่ริมถนน ตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ เหม่งจ๋าย
เค้าจะตั้งร้านช่วงเย็นๆ ประมาณ 5-6 โมงเย็น แล้วก็ขายไปจนดึก ประมาณ 4-5 ทุ่มค่ะ
สภาพร้านก็จะมีเตาย่างปลาด้วยการหมุนๆๆๆ ส่วนโต๊ะจะเป็นโต๊ะเก้าอี้พลาสติกธรรมดานี่ละค่ะหน้าตาเตาเผาปลา ปลาเรียงตัวกันอย่างสวยงาม น่ากินม๊ายยยยยยยย

มาร้านปลาเผา ก็คงจะสั่งเมนูอื่นใดไม่ได้นอกจากปลาเผาค่ะ
เจ้าของร้านเดินมารับออร์เดอร์เอง บอกว่าปลาเผามี 2 ไซส์ คือ ขนาดตัวละ 250 บาท กับ 280 บาท
เราก็เลยจัดตัวใหญ่มาเลยค่ะ 280 บาทปลาเผาที่นี่ใช้ปลาทับทิม สดฉ่ำ เผามาได้พอดีมากค่ะ ไม่แห้งเกินไป
แต่ที่เลิฟสุดๆ คือไม่มีกลิ่นคาว กลิ่นดิน แบบที่ปลาแม่น้ำส่วนใหญ่จะมีกัน แสดงว่าปลาสดมาก

สำหรับชุดเมี่ยงปลาเผา จะเสิร์ฟมาพร้อมกับตะกร้าผัก มีผักกาดหอม ผักกาดขาว ผักชีลาว และโหระพา
พร้อมกับเส้นหมี่ลวก และน้ำจิ้ม 2 แบบค่ะน้ำจิ้มสีเขียวเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติแซ่บเว่อร์ เปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อมค่ะ
ส่วนอีกแบบเป็นน้ำจิ้มหวานๆ ใส่ถั่วลิสงคั่ว อันนี้เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
สำหรับน้ำจิ้มนั้น ถ้าหมดก็สามารถเรียกน้องพนักงานมาเติมได้เรื่อยๆ นะคะเวลาจัดเป็นคำ กินแบบเมี่ยงครบสูตร รสชาติดีมาก นัวฝุดๆ

นอกจากเมี่ยงแล้ว ทางร้านก็มีอาหารอีสานทั่วไปด้วยนะคะ
วันนี้เราสั่งส้มตำปูปลาร้ามาค่ะ (60 บาท)แต่ส้มตำจานนี้รสชาติไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ กินแล้วไม่ฟิน

อีกเมนูที่คุณแฟนสั่งมากินคือ หอยแมลงภู่อบ (90 บาท)อบมาในหม้อแบบกุ้งอบวุ้นเส้น โปะโหระพามาเพียบบบบ
คุ้ยๆ ใบโหระพาออก เราก็จะได้พบกับน้องหอยแมลงภู่ตัวน้อย แบบนี้หอยตัวเล็กไปหน่อยค่ะ แต่ก็สดดี เอาไว้กินให้หายอยากได้
กลิ่นโหระพาที่อบมาก็ช่วยให้หอมขึ้น

สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ แม้จะเป็นร้านข้างถนน แต่การบริการก็ดีในระดับนึงเลยค่ะ
เจ้าของร้านแข็งขัน รับออร์เดอร์เอง อัธยาศัยดี
พนักงานก็บริการโอเค มาเติมน้ำจิ้มให้โดยไม่ต้องเรียกเลย
ส่วนรสชาตินี้ ตัวเมี่ยงเอาอร่อยมาก เราประทับใจและคิดว่าคุ้มราคา แต่เมนูอื่นๆ ยังไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ค่ะ
การเดินทางอาจลำบากสักหน่อยถ้าไม่มีรถ ส่วนคนที่มีรถก็สามาราถจอดรถได้ริมถนนค่ะ