Thai | English
kaewjaik
ฉันชื่อkaewjaik อาศัยอยู่ในวงศ์สว่าง. I am a พนักงานชอบไปลั้นลาที่ปทุมวัน, วงศ์สว่าง, ลาดพร้าว. อาหารไทยทั่วไป, อาหารฟิวชั่น are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านอาหารทั่วไป, ร้านอาหารจานเดียวและสเต็ก, พิซซ่า พาสต้า, อาหารทะเล.
สมาชิก 160 รีวิวแรก
รีวิว464 รีวิว
編輯推介數目102 Editor's Choice
Recommended88 แนะนำ
ความนิยม8362 เข้าชม
Replies in Forum2 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ5257 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ0 วิดีโอ
My Recommended Reviews306 รีวิวแนะนำ
My Restaurant356 ร้านโปรด
Follow99 Following
粉絲481 Follower(s)
kaewjaik  Level 4
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่ ยิ้ม ยิ้ม ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  Editor's Choice  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
 
  เวอร์ชั่นเต็ม เวอร์ชั่นเต็ม   |   ดูแผนที่ ดูแผนที่
แสดงรีวิวที่ 1 ถึง 5 จาก 464 รีวิวใน ประเทศไทย
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านอาหารจานเดียว

“โอชาม” ร้านข้าวต้มแห้งย่านเอกมัยซอย 15 สูตรข้าวต้มแห้งของร้านนี้เป็นสูตรของอาม่าคุณปุ่นเจ้าของร้าน ซึ่งทำกินกันเองภายในครอบครัว สืบทอดสูตรจากรุ่นอาม่า สู่รุ่นคุณแม่ และรุ่นหลาน


จุดเด่นของร้าน คือ อารมณ์ให้เหมือนกินข้าวต้มแห้งอยู่ที่บ้าน ใช้วัตถุดิบชั้นดี สด ใหม่ ทางร้านทำเองทุกอย่าง เริ่มจากข้าวสวยที่ใช้ข้าวหอมมะลิ หมูบะเต็งที่ผ่านการเคี่ยวอย่างดี และน้ำซุปต้มกระดูกหมู


ร้านจะอยู่ริมถนนบนซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยเอกมัย อยู่ระหว่างซอยเอกมัย 15 และ 17 ถ้าขับรถมาสามารถจอดรถได้ที่ซอยเอกมัย 15 (จอดฟรี) แต่ซอยนี้จะค่อนข้างหนาแน่นและเป็นซอยตัน เพื่อความสบายใจ จอดที่จอดรถตรงเอกมัย เทอเรซ ซึ่งเป็นลานจอดที่เข้าถัดจากซอยเอกมัย 15 ไปหนึ่งซอย (ค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท)


สังเกตหน้าร้านจะตกแต่งเป็นสีเขียวสลับเหลืองดูสีสันสดใส สะดุดตาตาไม่เหมือนใครหาง่ายมากค่ะ ภายในร้านก็จะตกแต่งเป็นโทนเขียวเหลือง มีหน้าต่างให้เหมือนอยู่ย่านเมืองเก่า โต๊ะทำจากไม้ให้กลิ่นอายย้อนยุคนิด ๆ


เราเลือกสั่งข้าวแห้งหมูล้วน (75 บาท) ข้าวแห้งหมูล้วน จะเป็นข้าวหอมมะลิหุงร้อน ๆ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้านรสออกเค็ม ๆ หวาน ๆ ไม่จัดจนเกินไป ให้ความกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมหมูบะช่อเนื้อเนียนนุ่ม หมูสไลด์แบบบาง เนื้อนุ่มไม่เหนียวเลย กระดูกอ่อน และไฮไลท์หนีไม่พ้นหมูบะเต็งที่เคี่ยวจนรสชาติกลมกล่อม เนื้อเหนียวนุ่มกำลังดี โรยด้วยต้นหอม ผักชี พริกไทย และกระเทียมเจียวที่เจียวแบบสดใหม่ ให้ความหอมเตะจมูก เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปต้มกระดูกหมูหอมกลิ่นพริกไทย ตัวน้ำซุปจะรสไม่เค็มมาก พอลองชิมแบบแห้งแล้ว ก็อยากจะลองข้าวต้มแบบน้ำดูบ้าง น่าจะซดเพลิน ๆ ไปอีกแบบ ไว้มีโอกาสจะกลับมาลองค่ะ


สำหรับใครที่ชอบรสจัดทางร้านมีบริการน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวและน้ำจิ้มซีฟู้ดแต่เราไม่ได้ลองนะคะ เราว่ารสชาติแบบออริจินัลก็อร่อยลงตัวดีแล้วค่ะ ไม่ต้องปรุงรสเพิ่มเลย


นอกจากเมนูข้าวแห้งหมูล้วนแล้ว ก็ยังมีข้าวต้ม ทั้งแบบใส่เครื่องใน และเมนูทะเล นอกจากเมนูจานหลักก็ยังเมนูทานเล่นอย่าง เกี๊ยวหมูทอด เป๊าะเปี๊ยะไส้เผือก เต้าหู้ฟรายอีกด้วย


เครื่องดื่มเป็นบ๊วยมะนาวโซดา (55 บาท) หอมกลิ่นบ๊วยรสชาติออกเค็ม ๆ หวาน ๆ ดื่มแล้วชื่นใจดีค่ะ

เป็นร้านที่ใส่ใจในวัตถุดิบ และบริการทางเจ้าของร้านมาดูแลเอง พนักงานก็อบรมมาดี ดูแลลูกค้าได้ดีเลยค่ะ ไว้มีโอกาสจะกลับไปลองเมนูอื่น ๆ ดูบ้างนะคะ

 

 

 

 
น้ำจิ้ม

น้ำจิ้ม

 
น้ำซุป

น้ำซุป

 

 

 

 

 

 

 
 
เมนูแนะนำ:  ข้าวแห้งหมูล้วน
 
Table Wait Time: 5 minute(s)


วันที่ไปกิน: May 29, 2018 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿130(มื้อเที่ยง)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านอาหารทั่วไป

เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนทีไร หนึ่งในเมนูคลายร้อนที่ต้องกินก็คือ “ข้าวแช่” เป็นเมนูที่หากินได้ง่ายในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ 

ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท

ข้าวแช่บ้านวรรณโกวิท

 


อีกหนึ่งร้านต้นตำรับข้าวแช่ คือ “ข้าวแช่ ตำรับบ้านวรรณโกวิท” ข้อดีร้านนี้จะมีขายกันทั้งปีค่ะ ไม่ต้องรอช่วงฤดูร้อน แต่ในแต่ละวันจะมีจำนวนจำกัดค่ะเพราะทางร้านจะเน้นความพิถีพิถันในการปรุง แนะนำว่าควรโทรจองโต๊ะและสั่งอาหารล่วงหน้าค่ะ จะได้ไม่พลาดเมนูเด็ด 

บ้านวรรณโกวิท

บ้านวรรณโกวิท

 



“บ้านวรรณโกวิท” บ้านของหลวงสุนทรนุรักษ์ที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันสืบทอดถึงทายาท รุ่นที่ 4 แล้ว ตอนที่เราไปถึงร้าน เราได้เจอกับคุณยาย ฉวีวรรณ อารยะศาสตร์ ลูกสาวของหลวงสุนทรนุรักษ์ คุณแม่ชื้น วรรณโกวิท ลูกสาวคนโตของพระยาเสถียรฐาปนกิตย์ (ชม ชมธวัช) 

บรรยากาศย้อนยุคสไตล์โคโลเนียล

บรรยากาศย้อนยุคสไตล์โคโลเนียล

 


คุณยายฉวีวรรณ เดิมเธอเป็นอาจารย์โรงเรียนสวนกุหลาบ แต่ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว คุณยายเล่าว่า บ้านนี้มักจะมีลูกศิษย์ลูกหาแวะเวียนกันมาหา และชิมอาหารอร่อย ๆ แห่งบ้านวรรณโกวิท นอกจากนี้ยังถือว่ามาไหว้ครูไปในตัวด้วย 

หน้าต่างไม้แบบฉลุ

หน้าต่างไม้แบบฉลุ

 



ที่ร้านมีที่จอดได้ประมาณ 2-3 คัน แต่ค่อนข้างแคบค่ะ แล้วก็เข้าออกยาก เราจอดแถวศาลเจ้าพ่อเสือแล้วเดินมาประมาณ 400 เมตรก็พอไหวค่ะ ตัวบ้านจะเป็นบ้านไม้สไตล์โคโลเนียลแบบโบราณ โต๊ะไม้สีขาวลายฉลุ ผ้าคลุมโต๊ะลายลูกไม้ ตู้หนังสือไม้แบบโบราณ 

ตู้ไม้โบราษ

ตู้ไม้โบราษ

 

 


สำหรับข้าวแช่ที่ร้านจะขายเป็นชุดๆ ละ 250 บาท ในชุดจะมี ข้าว น้ำ น้ำแข็ง ให้มาเป็นเซ็ต ๆ สามารถเติมข้าว กับน้ำได้เรื่อย ๆ ส่วนตัวเครื่องเคียงจะมีกระปิทอด หมูฝอย ปลาหวาน ไชโป๊หวาน หรุ่มไข่พริกหยวกสอดไส้หมูสับ กระชายกับแตงกวาแกะสลัก วิธีทานข้าวแช่ที่ถูกวิธี คือจะต้องไม่นำเครื่องเคียงลงไปปนกับข้าวและน้ำ ให้ผสมกันเหมือนเวลาทานข้าวต้ม ให้ค่อย ๆ ตักเครื่องเคียงเข้าปาก แล้วตามด้วยข้าวตาม แล้วถึงค่อยซดน้ำให้คล่องคออีกที 

สูตรข้าวแช่นี้ได้มาจาก คุณแม่ชื้น วรรณโกวิท ซึ่งจะเน้นวัตถุดิบเลือกใช้จากเจ้าประจำอย่าง ปลาหวานใช้เนื้อปลากระเบนยี่สนแห้งจากปากน้ำปราณบุรี ไชโป๊หวานจากราชบุรี 


นอกจากวัตถุดิบแล้ว ขั้นตอนการปรุงก็แสนจะปราณีต ข้าวสารที่เลือกเป็นข้าวสารเก่าเพราะเม็ดจะร่วนสวย คัดเฉพาะเม็ดที่ไม่แตกหัก นี่งให้สุกผ่านไอน้ำ ตัวน้ำเป็นน้ำต้มสุกลมควันเทียนและลอยดอกกระดังงาไทยดอกเล็ก


เครื่องเคียงอีกหนึ่งอย่างที่เป็นตัววัดความอร่อยก็คือกะปิทอด โดยใช้เนื้อปลาช่อนหรือปลานิล โขลกกับพริกไทย กระชาย ตะไคร้ ปรุงด้วยกะปิ
ผัดให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อนปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วชุบไข่ทอดจนหอม หรุ่มไข่ที่ทำจากพริกหยวกสอดไส้หมูสับกับกุ้งนึ่งแล้วห่อด้วยแพไข่ หมูฝอยรสหวาน ผักสดยังต้องแกะสลักอย่างกระชายที่สลักเป็นรูปดอกปีป เรียกได้ว่าใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ 


 



นอกจากเมนูเด็ดอย่างช้าวแช่แล้ว ก็ยังมี โรตี แกงเขียวหวานหมู (130บาท) ถ้าเป็นเขียนหวานเนื้อ (160 บาท) ตัวแป้งโรตีจะเป็นแบบแป้งหนานุ่ม เสิร์ฟมาพร้อมกับแกงเขียวหวานแบบน้ำข้น ๆ เครื่องแกงเต็มที่ ส่วนรสชาติจะไม่เผ็ดจัด แต่เน้นออกไปทางหวานนำรสชาติสไตล์แบบโบราณ เนื้อหมูแบบนุ่ม ๆ แต่จะมีติดมันมา
ส่วนแกงเขียวหวานเนื้อนุ่มไม่แพ้กัน 

 

 



ข้าวมันส้มตำ (90 บาท) ข้าวหุงกะทิ เสิร์ฟพร้อมส้มตำรสหวาน และหมูฝอย 

 



ขนมจีนซาวน้ำ (90 บาท) ขนมจีนเสิรฟ์พรอมสัปปะรดศรีราชา ขิงซอย กุ้งแห้งป่น ลูกชิ้นปลากราย ราดด้วยน้ำกะทิ บีบมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวสักเล็กน้อย รสชาติกลมกล่อมดี 

 



ข้าวทอดแหนมสด (120 บาท) ข้าวทอดแหนมสด เสิร์ฟมะนาวมาให้บีบเองเพิ่มรสชาติ รสแบบกลมกล่อม ไม่ได้จัดจ้านมาก ตัวข้าวทอดจะไม่กรอบแบบร้านทั่ว ๆ ไปจะเป็นแบบนิ่ม ๆ 

 



พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน (40 บาท) ตัวน้ำจะรสชาติออกหวาน พุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่ม เสิร์ฟมาพร้อมมะพร้าวอ่อน 

 



เค้กมะตูม (60 บาท) เค้กจะเนื้อแน่น ๆ ร่วน ๆ หน่อย กลิ่นมะตูมยังไม่ถึงกับชัดมาก โรยด้วยมะตูมเชื่อมด้าบบน 

 

น้ำอัญชัญมะนาว (40 บาท) เปรี้ยวซ่าชื่นใจ น้ำมะขาม (40 บาท)  รสหวาน ๆ หอมกลิ่นมะขาม

 


ถ้าใครนิยมชมชอบอาหารไทยแบบโบราณ บรรยากาศย้อนยุค แวะมาบ้านวรรณโกวิทดูสักครั้งนะคะ 

 

 


 
 
เมนูแนะนำ:  ข้าวแช่, โรตี แกงเขียวหวานหมู, ขนมจีนแกงเขียวหวานเนื้อ, ข้าวมันส้มตำ, ขนมจีนซาวน้ำ, พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน, น้ำอัญชัญมะนาว, โรตีแกงเขียวหวาน
 
Table Wait Time: 10 minute(s)


วันที่ไปกิน: Mar 11, 2018 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿300(มื้อเที่ยง)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านอาหารทั่วไป | อาหารว่าง | ขนมหวาน ไอศครีม | ขนมไทย | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง

"ปาท่องโก๋" เมนูอาหารเช้าที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน ทั้งกินคู่กับน้ำเต้าหู้ กาแฟ หรือโจ๊ก แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่าปาท่องโก๋นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน หรือมีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า "อิ่วจาก้วย" อันที่จริงต้องเรียกว่า อิ่วจาก้วย แต่สมัยก่อนจะขายคู่กับขนมปาท่องโก๋ (แผ่นขาว ๆ รสหวาน) เวลาแม่ขายตะโกนขาย ทำให้คนเข้าใจผิด คิดว่าขนมที่เป็นแป้งทอด มี 2 คู่ติดกันว่าปาท่องโก๋ ตั้งแต่นั้นมา



เดิมทีปาท่องโก๋จะถูกขายในช่วงเช้า ๆ สาย ๆ ก็หมดแล้ว ขายตัวละแค่ไม่กี่บาท แต่เฮียฐิติกร โชคะสุต ทายาทรุ่นที่ 2 ได้เล็งเห็นว่าปาท่องโก๋ที่เดิมที่ขายอยู่ย่านสนามหลวงตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่กว่า 50 ปีมาแล้ว สาย ๆ ก็ขายไม่ได้ ไหนจะกระแสคนรักสุขภาพไม่กินปาท่องโก๋อมน้ำมัน จึงเกิดไอเดียภูมิปัญญาของคนโบราณที่เอาปาท่องโก๋ที่ทอดแล้วมาย่างเพื่อให้น้ำมันออกมา ตัวปาท่องโก๋จะมีความกรอบนอกนุ่มใน และยังเป็นการถนอมอาหารให้เก็บได้นานเป็นสัปดาห์อีกด้วย จากนั้นก็เพิ่มลูกเล่นทั้งแบบคาวหวาน เอาปาท่องโก๋ย่างมาราดหรือปรุงในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง ปาท่องโก๋หน้าไก่ ปาท่องโก๋ยำทะเล ปาท่องโก๋หน้าหมูแดง ปาท่องโก๋ไอศกรีม ปาท่องโก๋สังขยา เป็นต้น



ตัวร้านก็จะปรับปรุงให้ทันสมัยในรูปแบบคาเฟ่ ภายใต้ชื่อ "Patonggo Cafe Since 1968" กำแพงสีขาว ติดป้ายรูปอาหารรอบ ๆ ร้าน จะมีกรอบรูปที่สมเด็จพระเทพฯ ท่านเคยเสด็จเยาวราชเพื่อทอดปาท่องโก๋เพื่เป็นสิริมงคลกับทางร้านอีกด้วย


วิธีการเดินทางถ้าขับรถมาสามารถจอดรถได้ที่อาคารจอดรถ กทม. ตรงซอยไกรสีห์แถวบางลำภู จากนั้นเดินมาไม่ไกลร้านจะอยู่ตรงหัวมุมแถวบางลำภู ตรงข้ามกับวัดบวรนิเวศ


มาถึงร้านเฮียฐิติกร จะควบคุมการดูแลลูกค้าได้อย่างดี คอยทวนออเดอร์ และเช็คว่ามีออเดอร์ไหนตกหล่น ลูกค้ามีทั้งคนไทยและต่างชาติ หมุนเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย


เริ่มสั่งจากเมนูคาว ปาท่องโก๋ย่างพริกเผาหมูเส้นกรอบ (60 บาท) ปาท่องโก๋ย่างมากรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน ราดมาด้วยหมูหยองเส้นแบบกรอบ โรยด้วยพริกเผาและหอมแดงซอยเพิ่มรสชาติ


ปาท่องโก๋ยำทะเล (60 บาท) ปาท่องโก๋ย่างมากรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำยำรสจัดยำมาด้วยหมูสับ ปลาลวกสด กุ้ง และปลาหมึก พร้อมกระหล่ำปลีซอย เป็นเมนูคาวที่ก็ผสมกันได้ลงตัว


ปาท่องโก๋หน้าไก่ (60 บาท) ปาท่องโก๋ย่างมากรอบนอกนุ่มใน โรยด้วยน้ำราดไก่แบบเหนียว ๆ ก็แปลกไปอีกแบบดีค่ะ


ปาท่องโก๋ราดน้ำหมูแดง (60 บาท) ปาท่องโก๋ย่างมากรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยน้ำหมูแดงเหนียว ๆ เส้นหมูแดงและกุนเชียงหั่นฝอย เมนูนี้สมาชิกชมกันว่าใช้ได้ค่ะ


มาเริ่มที่ของหวานกันต่อ ไม่พลาดเมนูขึ้นชื่ออย่าง ปาท่องโก๋สังขยา (40 บาท) ปาท่องโก๋ย่างมากรอบนอกนุ่มใน ราดมาด้วยสังขยา ซึ่งเราชอบเมนูที่สุดค่ะ สังขยาจะไม่ข้นจนเกินไป ส่วนน้ำราดก็หวานกำลังดี ไม่หวานเกิน ยิ่งจิ้มคู่กับปาท่องโก๋ ผสมผสานกันได้ลงตัวจริง ๆ ค่ะ


ปาท่องโก๋ไอศกรีม (40 บาท) ไอศกรีมที่นี่จะเป็นแบบโฮมเมด ราดมาบนปาท่องโก๋ย่างมากรอบนอกนุ่มใน ตัวไอศกรีมเข้มข้นมีความเหนียวนุ่มกำลังดี รสชาไทย ก็เข้มข้น รสชอคโกแลตก็อร่อยไม่แพ้กัน หรือถ้าใครอยากจะชิมแค่ไอศกรีมก็มีแยกขายเป็นสกูป ๆ ละ 30 บาท


ชาเย็น (30 บาท) จะเป็นชาไทยสีส้มชงแบบโบราณ แต่เราว่ารสหวานไปหน่อยค่ะ ไม่ค่อยโดน


กาแฟเย็น (30 บาท) จะเป็นกาแฟชงแบบโบราณหวานหอมกำลังดีค่ะ เราชอบนี้มากกว่าเมนูชาเย็น


เราชอบนะคะ ถือเป็นการต่อยอดอาหารแบบเดิมให้มีมูลค่า นับว่าเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับอาหารและขนมไทย


ปิดท้ายเฮียฐิติกรใจดีค่ะ มี Complimentary เป็นปาท่องโก๋เมนูใหม่ที่เฮียยังไม่มีใส่ในเมนู และยังไม่ได้คิดชื่อเมนูด้วยค่ะ แต่จะเป็นปาท่องโก๋ย่างมากรอบนอกนุ่มใน โรยด้วยมะพร้าวขูด น้ำตาล และงา คล้าย ๆ ไส้ถังแตก ถามเฮียว่าใช้ชื่อปาท่องโก๋ถังแตกจะดีไหม เฮียว่าชื่อไม่เป็นมงคล เฮียใช้ชื่อว่า "ปาท่องโก๋ Black & White" เก๋ ๆ ชิค ๆ ดีค่ะ ใครแวะเวียนไปชิมลองถามเฮียถึงเมนูนี้ดูนะคะ รอบหน้าอาจจะเพิ่มลงในเมนูเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

 
ตู้ย่างปาท่องโก๋

ตู้ย่างปาท่องโก๋

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
เมนูแนะนำ:  ปาท่องโก๋สังขยา, ปาท่องโก๋ไอศกรีม, ปาท่องโก๋ยำทะเล, ปาท่องโก๋ราดน้ำหมูแดง, กาแฟเย็น, ปาท่องโก๋  Black  &  White
 
Table Wait Time: 5 minute(s)


วันที่ไปกิน: Sep 10, 2017 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿70(อาหารว่าง)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านเค้กและเบเกอรี่ | ร้านกาแฟ / ร้านชา | คาเฟ่ | อาหารว่าง | ลำลอง

"บ้านบางเขน" สถานที่เที่ยวแห่งใหม่ย่านบางเขน ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจของคุณกล้วย-สมพงศ์ พิศาลกิจวนิช ซึ่งเป็นนักสะสมของเก่าที่อยากจะเปิดร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ที่ให้มีคนมาเยอะ ๆ จึงเป็นที่มาของ"บ้านบางเขน" ศูนย์รวมของร้านอาหาร คาเฟ่ 24 ชั่วโมง พิพิธภัณฑ์ ห้องอ่านหนังสือ และจุดถ่ายรูปเก๋ ๆ หลายจุด

ทางเข้าบ้านบางเขน

ทางเข้าบ้านบางเขน

 


วิธีเดินทางมาบ้านบางเขนจะอยู่บนถนนพหลโยธิน วิ่งผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจอมหาวิทยาลัยศรีปทุม พอเห็นฝั่งตรงข้ามเป็นราบ 11 ก็ใกล้ถึงแล้ว พอเห็นสวนอาหารบางบัว เตรียมชะลอได้เลย จะเจอบ้านบางเขนถัดมา ภายในมีลานจอดรถ จอดได้ 70 กว่าคัน แนะนำว่าให้มาช่วง 9-10 โมงเช้า ลานจอดรถจะโล่ง แต่ถ้าไม่มีที่จอดแล้ว บริเวณสวนอาหารบางบัวมีให้จอดค่าบริการ 50 บาท

จุดจำหน่ายบัตร

จุดจำหน่ายบัตร

 


เดินเข้ามาในบ้านบางเขน จะเป็นบรรยากาศสไตล์วินเทจย้อนยุค ตัวอาคารทำด้วยไม้รูปทรงโบราณ โซนแรกที่เจอจะคล้ายเป็นฟู้ดคอร์ท จะมีอาหารแบบโบราณขายอยู่ สามารถเลือกซื้อแล้วมานั่งกินรวมกันตรงกลางได้ 
โซนฟู้ดคอร์ทย้อนยุค

โซนฟู้ดคอร์ทย้อนยุค

 

ขนมเบื้องญวนโบราณแป้งไข่ (40 บาท) ด้านนอกจะเป็แพไข่ทอดในกระทะมาแบบบางกรอบใส่ไส้ถั่วงอก กุ้งแห้ง เต้าหู้ มะพร้าวขูดฝอยสีส้ม ไชโป้ว ทอดมาแบบร้อน ๆ กินคู่กับน้ำจิ้มแตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้าสด อร่อยใช้ได้ค่ะ มาแบบร้อน ๆ แต่ไส้ให้มาไม่ค่อยจุใจเท่าไร 3.5 ดาวค่ะจานนี้

 

ทอดมันปลากราย (ชุดเล็ก 30 บาท ชุดใหญ่ 50 บาท) ทอดมันปลากรายทอดมาร้อน ๆ เหนียวนุ่มดีค่ะ พริกแกงรสกลาง ๆ ไม่เผ็ดจัดมาก โดยรวมใช้ได้ค่ะ ถ้ากินตอนทอดใหม่ร้อน ๆ 3.5 ดาวค่ะจานนี้

 


เกี๊ยวหมูเด้ง (ชุดเล็ก 30 บาท ชุดใหญ่ 50 บาท) เกี๊ยวทอดกรอบ สอดไส้หมูเด้งเนื้อเหนียวนุ่ม ไส้จัดเต็มดีค่ะ สมาชิกลงความเห็นว่าอร่อยเลยค่ะ 4 ดาวค่ะจานนี้

 


 


หมูสะเต๊ะชุดใหญ่ 20 ไม้ (90 บาท) หมูหมักเครื่องเทศ หอมกลิ่นผงกระหรี่ปิ้งมาร้อน ๆ กินคู่กับน้ำจิ้มแบบแกง และอาจาดแตงกวาหอมแดงพริกชี้ฟ้า สั่งขนมปังปิ้ง (แผ่นละ 5 บาท) ขนมปังหัวกระโหลกแบบโบราณ ย่างเตาถ่านหอม ๆ อร่อยเลย 3.5 ดาวค่ะจานนี้

 


ก๋วยเตี๋ยวหลอด (50 บาท) เส้นก๋วยเตี๋ยวแข็ง ๆ แห้ง ๆ ไปนิดค่ะ ให้เครื่องมาแบบจัดเต็มดีทั้งเต้าหู้ หมูสามชั้นพะโล้ โรยกระเทียมเจียว แต่เมนูนี้เราเฉย ๆ ค่ะ ไม่โดนมากให้ 3 ดาว

 


ข้าวหน้าไก่ย่าง (40 บาท) ข้าวมันหุงแบบเม็ดเรียงตัว เมล็ดข้าวพอง ๆ อวบ ๆ โปะหน้ามาด้วยไก่หมักสมุนไพรย่างหอมดีค่ะ กินคู่น้ำจิ้มแจ่วรสจัดดี แต่กินไก่ย่างเปล่า ๆ ก็ฟินอยู่ค่ะ มีน้ำซุปร้อน ๆ ซุปรสกลมกล่อมอร่อยดีค่ะ 4 ดาวค่ะจานนี้

 


เส้นเล็กต้มยำ (50 บาท) จานนี้สมาชิกว่าไม่โดนค่ะ รสต้มยำไม่จัด รสหน่อมแน้มไปหน่อย มีลูกชิ้นให้มา 4 ลูก รสกลาง ๆ 3 ดาวค่ะจานนี้

 


ปิดท้ายด้วยของหวานโบราณสูตรเด็ด ขนมถ้วยตะไลแบบโบราณ (5 ถ้วย 30 บาท) นึ่งมาร้อน ๆ เลยค่ะ ส่วนล่างขนมถ้วยหอมกลิ่นใบเตย เนื้อเด้งดึ๋งรสหวาน ๆ กำลังดี กินคู่กับกะทิรสเค็ม เข้มข้นส่วนบนเข้ากันดี เมนูสมาชิกลงความเห็นว่าเด็ดมาก ๆ ค่ะ 5 ดาวไปเลย

 


พอหมดจากช่วงฟู้ดคอร์ทจะเป็นส่วนพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีค่าเข้า 20 บาท แต่สามารถนำไปแลกน้ำดื่ม หรือเป็นส่วนลดอาหารภายในได้
ส่วนพิพิธภัณฑ์จะมีพิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวงซึ่งจะเป็นของสะสมเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งธนบัตร ถ้วยชาม รูปถ่ายพระราชกรณียกิจต่าง ๆ

พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

 



พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

 



พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

 



พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

พิพิธภัณฑ์บ้านพ่อหลวง

 

ถัดมาจะเป็นบ้านโค้ก ซึ่งเป็นของสะสมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ยี่ห้อโคคาโคลา ถัดมาจะมีบ้านต้นไม้ ร้านขายของชำ ร้านตัดผมแบบโบราณ ห้องเรียน ร้านขายยา ร้านโชห่วย เรียกว่าเลือกมุมถ่ายรูปกันไม่ถูกเลยค่ะ

บ้านโค้ก

บ้านโค้ก

 

บ้านโค้ก

บ้านโค้ก

 

บ้านโค้ก

บ้านโค้ก

 

บ้านโค้ก

บ้านโค้ก

 


ถัดมาจะเป็นโซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมงค่ะ ร้านขนาดใหญ่เลยค่ะ เป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำสบาย ๆ มีของสะสมโบราณตกแต่งทั่วร้าน ทั้งมอเตอร์ไซค์เวสป้า จักรยาน ตู้เติมน้ำมันแบบย้อนยุค ซึ่งคาเฟ่นี้สามารถใช้คูปองค่าเข้า 20 บาทมาเป็นส่วนลดได้ วิธีสั่งคือสั่งอาหาร ชำระเงินที่เคาน์เตอร์จะได้เครื่องติดตามตัวมา จะสั่นเมื่ออาหารพร้อมเสิร์ฟ เราสามารถเดินกลับไปรับอาหารได้เลย

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

 

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

 

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

 

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

 

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

โซนคาเฟ่เปิด 24 ชั่วโมง

 


Iced Cappuccino (95 บาท) เราว่าแก้วนี้ออกจะเข้มข้นกาแฟไปสักนิด เลยไม่ค่อยโดน กลับชอบรสชาติของ Iced Latte (95 บาท) มากกว่าค่ะ กาแฟรสนุ่มนวลกำลังดี หวานหอม ใช้ได้เลยค่ะ Apple Italian Soda (75 บาท) น้ำแอปเปิ้ลหอมหวานเปรี้ยวซ่า ไม่หวานจนเกินไป ดูดแล้วสดชื่นดีค่ะ

 


Thai Tea Bingsu (195 บาท) เกล็ดน้ำแข็งชาไทยกลิ่นหอมรสเข้มข้น หวานหอมกำลังดี ราดด้วยขนมปัง เฉาก๊วย โรยด้วยวิปครีม กินคู่กัน เฉาก๊วยหนึบ ๆ

 

 


ส่วนคาเฟ่จะมีทั้งเครื่องดื่ม อาหาร และของหวานจะราคาสูงนิดนึง แต่แลกกับของตกแต่งและบรรยากาศก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ

โซนถ่ายรูปมุมเก๋ ๆ ร้านขายยา ร้านขายของชำ
มุมร้านขายยา

มุมร้านขายยา

 

มุมร้านขายยา

มุมร้านขายยา

 

มุมร้านขายของชำ

มุมร้านขายของชำ

 



โซนสุดท้ายเป็นห้องอ่านหนังสือ สามารถมาทำกิจกรรม การบ้าน รายงาน อ่านหนังสือได้ แต่ห้ามส่งเสียงรบกวน และห้ามนำอาหารเครื่องดื่มนอกร้านเข้ามาทาน ถือว่าเป็นแหล่งพักผ่อนเอาใจเด็กยุคใหม่ และย้อนรำลึกวันวานให้กับรุ่นเก๋าได้ด้วย 
 
เมนูแนะนำ:  ขนมเบื้องญวนโบราณแป้งไข่, ทอดมันปลากราย, เกี๊ยวหมูเด้ง, หมูสะเต๊ะชุดใหญ่, ข้าวหน้าไก่ย่าง, ขนมถ้วย, Iced Cappuccino Apple Italian Soda Iced Latte, Thai Tea Bingsu
 
Table Wait Time: 5 minute(s)


วันที่ไปกิน: Jul 23, 2017 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿100(มื้อเช้า)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารอิตาเลียน | ร้านในโรงแรม รีสอร์ต | พิซซ่า พาสต้า | โอกาสพิเศษ

รีวิวนี้เป็น Workshop Openrice Party ครั้งที่ 48  Episode II ซึ่งจะเป็นรีวิวส่วนชิมอาหารนะคะ ส่วนรีวิวแรกเป็น Workshop Homemade Tuscan Style ซึ่งเราได้เขียนไปแล้วลองตามอ่านกันที่รีวิวก่อนหน้านี้ได้ค่ะ เราได้รับเชิญจากห้องอาหาร Attico โรงแรม Raddison Blu Plaza Bangkok  ซึ่งเป็นห้องอาหารอิตาเลียน สไตล์ Tuscany ซึ่งอยู่บนชั้น 28 ของ โรงแรม Raddison Blu Plaza Bangkok วิธีการเดินทางมาโรงแรมคือมาบีทีเอสลงสถานีอโศก หรือ MRT ลงสถานีสุขุมวิท แล้วเดินต่อมาทางซอยสุขุมวิท 27 ได้เลยค่ะ ถ้าใครขับรถมา โรงแรมจะอยู่เลยแยกอโศกมานิดนึงอยู่ริมถนนสุขุมวิท ซอย 27 
ด้านหน้าของโรงแรม Radisson Blu Plaza

ด้านหน้าของโรงแรม Radisson Blu Plaza

 
ห้องอาหารที่นี่ได้รับการันตีจากหอการค้าไทย-อิตาเลียนได้รับรางวัลร้านอาหารอิตาเลียนยอดเยี่ยม รางวัล Top Table 2015 และ 2016 จากนิตยสาร BK รางวัล Thailand Tatler Best Resturants จากนิตยสารThailand Tatler 2 ปีซ้อนอีกด้วย
หน้าห้องอาหาร Attico

หน้าห้องอาหาร Attico

 
ตกแต่งแบบสไตล์ Tuscan

ตกแต่งแบบสไตล์ Tuscan

 
ทางเดินเข้าห้องอาหารตกแต่งไปด้วยถังไม้โอ๊ค

ทางเดินเข้าห้องอาหารตกแต่งไปด้วยถังไม้โอ๊ค

 
ถังไม้โอ๊คริมกำแพง

ถังไม้โอ๊คริมกำแพง

 
รางวันการันตีความอร่อยจากหลายสถาบัน

รางวันการันตีความอร่อยจากหลายสถาบัน

 
ห้องอาหาร Attico นำโดยเชฟโรเบอร์โต้ ปาเรนเตล่า เชฟอิตาเลียนผู้มากประสบการณ์ และเชฟชาวไทย ห้องอาหารนี้ เป็นกระจกใสรอบห้องอาหาร สามารถมองเห็นวิวถนนสุขุมวิท และรถบีทีเอสได้สวยงาม ตอนกลางคืนก็คงจะมีวิวสวยไปอีกแบบ แต่พอดีเรามาช่วงกลางวันก็คิดว่าวิวสวยมากแล้ว ห้องอาหารจะมีแบ่งเป็นมุม ๆ ดูเป็นส่วนตัวดีค่ะ ใครอยากมาสังสรรค์แบบส่วนตัวก็สามารถเลือกจองที่นั่งแบบไพรเวทได้
บรรยากาศหรูหราตกแต่งไปด้วยขวดไวน์

บรรยากาศหรูหราตกแต่งไปด้วยขวดไวน์

 
ขนมปัง

ขนมปัง

 
มุมโต๊ะของสมาชิกกลุ่มเราวันนี้

มุมโต๊ะของสมาชิกกลุ่มเราวันนี้

 
ประดับไปด้วยพาสต้าแบบต่าง ๆ

ประดับไปด้วยพาสต้าแบบต่าง ๆ

 
น้ำมันมะกอกวัตถุดิบหลัก ๆ ของอาหารอิตาเลียน

น้ำมันมะกอกวัตถุดิบหลัก ๆ ของอาหารอิตาเลียน

 
บรรยากาศโรแมนติคมองเห็นสุขุมวิทสวยงาม

บรรยากาศโรแมนติคมองเห็นสุขุมวิทสวยงาม

 
มุมโคมไฟเก๋ ๆ

มุมโคมไฟเก๋ ๆ

 
เครื่องผลิตเส้นพาสต้า

เครื่องผลิตเส้นพาสต้า

 
ดอกไม้บนโต๊ะเพิ่มความสดชื่น

ดอกไม้บนโต๊ะเพิ่มความสดชื่น

 
มุม Antipasso Bar

มุม Antipasso Bar

 
สำหรับมื้อกลางวันที่นี่เปิดให้บริการวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 12.00-14.30 น. มี 2 เรทราคา

650++ จะได้เป็น 2 อย่าง คือ 1. Antipasso Buffet อันนี้เป็นบุฟเฟต์เลือกตักได้ตามใจชอบ 2. เลือกได้ระหว่าง main courses หรือ dessert เลือกได้ 1 อย่าง

775++ 2 อย่าง คือ 1. Antipasso Buffet อันนี้เป็นบุฟเฟต์เลือกตักได้ตามใจชอบ  2. main courses เลือกได้ 1 อย่าง 3. Dessert เลือกได้ 1 อย่าง
ป้ายโปรโมชั่นมื้อกลางวัน

ป้ายโปรโมชั่นมื้อกลางวัน

 
โซน Antipasso Buffet จะเป็นพวก Cold Cut อย่าง Confit Tuna Nicoise, Tuna and White Bean, Marinated Salmon,

Grilled Mixed Vegetable and Presto Dressing, Caprese Salad, Parma Ham on Melon,

Marinated baby Octopus, Italiand Pickies มีมุมขนมปัง ผักสลัดต่าง ๆ 
มีพิซซ่าอบกรอบร้อนๆ เราชอบแป้งเค้านะคะ กรอบนอกนุ่มในดี ย่างเตามาแบบหอม ๆ เลย ราดด้วยซอสมะเขือเทศ โรยด้วยเห็ดมีเบิ้ล 2 ค่ะ อีกมุมเป็นพวกแฮมและชีสต่าง ๆ อย่าง Homemade Ricotta Cheese, Salami, Grilled Mixed Vegetable, Anchovies

 

 

 

 

 

 

 

 

 
ส่วน MainCourse มีให้เลือกได้ 1 อย่างใน 8 อย่างค่ะ แต่ถ้าอยากชิมหลายอย่างก็แนะให้ชวนเพื่อนมาเป็นแกงค์ ก็จะได้ลองครบทุกอย่างเลยค่ะ

ก่อนอื่นมีเสิรฟ์ Complimentary Bread ก่อน 

 
เนื้อแกะนุ่มไม่คาวเลย

 
Pappardelle with Tuscan Sauce- เส้น Pappardelleอบด้วยซอสทัสคันเส้นอบมากรอบนอกนุ่มใน

รสชาติดีและหอมเลยหล่ะ

 
Special Homemade Pasta of The Day -เป็น สปาเก็ตตี้หอยแครงสด ผัดซอสไวน์ขาวและเครื่องเทศจากเมดิเตอเรเนียน 

 
Salmon Ravioli with Vodka Cream Sauce - เมนูนี้เป็นราวิโอลีใส้แซลมอนราดด้วยวอดก้าครีมซอส แป้งราวิโอลีเนื้อนุ่มดีค่ะ แต่พอดีเราไม่ค่อยชอบกินแซลมอนเท่าไร เลยไม่โปรดมากกับเมนูนี้ แต่คนที่ชอบก็ชื่นชมกันนะคะ

 
Pan Fried Fillet of Seabass in Polenta Crust with Mushroom Sauce - เสต็กปลากะพงขาวราดซอสเห็ด

 
Baked Paccheri Pasta with Pasticciata Sauce

Braised Italian Sausage in Red Wine with Roasted Potatoes - ไส้กรอกอิตาเลียนในซอสไวน์แดงกับมันอบ

 
Roasted Chicken Cacciatore Style with Capsicums Lemon and Rosemary เมนูอิ่มค่ะ เลยไม่ได้ลองชิมเลย

 
Australian Beef Tagliata Served with Wild Rocket and Cherry Tomatoes เนื้อนุ่มและ Juicy มาก ๆ ย่างมาแบบ medium-rare อันที่จริงเราชอบแบบ well doneค่ะ แต่คิดว่าฝีมือเชฟถ้าย่างจนสุกก็น่าจะยังไม่เหนียวได้ค่ะ มาคราวหน้าอาจต้องลองรีเควสดู

 
Pizza with Rocket and Cherry Tomatoes, Mozzarella Cheese, Tomato Sauce, and Wild Rocket เราชอบแป้งพิซซ่าที่นี่ค่ะ
เนื้อนุ่มกรอบนอกนุ่มใน อบมาจากเตาร้อน ๆ โรยหน้าด้วยผักรอกเกต มอสซาเรลลาชีสราด้วยซอสมะเขือเทศ ฉุ่มช่ำดีค่ะ เบิ้ล 2 อีกตามเคย

 
สำหรับของหวานนะคะ เลือกได้ระหว่าง Attico’s Selection of  Ice Creams “Lime & Mint 'Macedonia Fruit Salad w Limoncello Sherbet” เมนูนี้ชื่นใจมาก

ๆ ความเปรี้ยวของไลม์เป็นเมนูปิดท้ายที่ช่วยแก้เลี่ยนได้อย่างดี ยกนิ้วให้ค่ะ

 
Italian Parfait Semifreddo with Crunchy  Amaretti and Amarena Black Cherry “Atico’s Tiramisu” เมนูนี้ออกจะผิดหวังไปสักหน่อยค่ะ
พอมีแต่คนว่าเป็นเมนูเด็ดของที่นี่ แต่เราว่าผงกาแฟที่โรยบนทีรามิสุมันรสชาติขมมาก ๆ ค่ะ เลยกลบรสชาติส่วนอื่นของทีรามิสุหมดเลย รู้สึกว่าพลาดไปนิดนึงค่ะ ถ้าเลือกกินเราขอเป็นเมนูแรกจะดีกว่าค่ะ

 
โดยรวมที่นี่บรรยากาศดีและโรแมนติกมากค่ะ เหมาะสำหรับมากับคนรู้ใจ บริการที่นี่เรียกว่าประทับใจเลย พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่พูดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ รู้สึกถึงความอินเตอร์มาก ๆ โอกาสพิเศษลองแวะมาดื่มด่ำบรรยากาศและอาหารคุณภาพดีกันได้นะคะ
โซน Antipasso Buffet

โซน Antipasso Buffet

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
เมนูแนะนำ:  Pappardelle with Tuscan Sauce, Braised Italian Sausage in Red W, Australian Beef Tagliata Served, Pizza with Rocket and Cherry Tom, Lime & Mint 'Macedonia Fruit Sal
 
Table Wait Time: 15 minute(s)


วันที่ไปกิน: Sep 02, 2016 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿912(มื้อเที่ยง)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ