นักรีวิวร้านอาหาร

อาทิตย์ที่แล้วมีหน้าที่เป็นคนขับรถ พาคุณน้องสาวไปเรียนพิเศษที่อาคารสยามกิตติ์ค่ะ
ไปถึงก่อนเวลาเรียนพอสมควร เลยชวนกันไปหาอะไรทานค่ะ อยากทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำแซ่บๆ มื้อนี้ขอเข้า "Oldies Café" แล้วกันการเดินทาง มุ่งหน้าไปสยามโล้ดจ้า ตามสะดวกเลยว่าจะขับรถไป หรือ BTS ถ้าขับรถไปก้อทางด่วน ลงพระราม 4 ไปสยามโล้ด

บรรยากาศร้าน ร้านนี้ตั้งอยู่ีที่อาคารสยามกิตติ์ ชั้น G ค่ะ ตกแต่งร้านตามสไตล์แนวๆ Oldie เก๋ๆนิดนึง Retro หน่อยๆ โชคดีหน่อยวันนั้นไปไว เพราะปกติถ้าติดเที่ยงสาขานี้คนจะค่อนข้างเยอะค่ะ

สายๆแบบนี้ เพื่อสุขภาพขอเริ่มจาก "น้ำส้มปั่น" ก่อนละกันเมนูต่อไป "หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์" เมนูนี้จัดจ้านมากค่ะ เป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวโต ราดมาด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ! จานนี้หน้าตาดี และรสชาดเด็ดมากค่ะ ทานคู่กับกล่ำซอย กระเทียมสด และใบสะระแหน่ ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดีทีเดียวมาเมนูหลักของเราวันนี้ "ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำไร่ขิง" เมนูประจำเวลาคิดอะไรไม่ออกค่ะ ซดน้ำร้อนๆ รสชาดจัดจ้าน แค่นี้ก้อเริ่ดละค่ะ!!! พนักงานก้อบริการดีค่ะ อาหารรอไม่นาน ราคาถือว่าไม่แพงค่ะ ร้าน Oldies Café มีหลายสาขานะคะ ทั้ง Chamchuri Square, สีลม เพื่อนๆสะดวกสาขาไหน ลองแวะไปชิมกันได้ค่ะ

ใกล้เลิกงานแล้ว ไม่รู้จะไปไหนดี คุณเพื่อนเกิดอยากทานอาหารญี่ปุ่นขึ้นมาค่ะ
นาง Request อาหารญี่ปุ่น ราคาถูก อร่อย ใกล้ BTS แต่ไม่เอา Kobune...โจทย์ยากอีกละ - -*
นั่งคิดอยู่แปป ร้านนี้ก้อวิ้งเข้ามาในต่อมรับรสเลยค่ะ 555+ "Yamane" นั่นเอง ตรงตามโจทย์เป๊ะ!

การเดินทาง ร้านนี้ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 10 ค่ะ ลง BTS สยาม เดินเข้ามาทาง Digital Gateway ก้อได้ค่ะ เดินลงมาแล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เลี้ยวเข้าซอยไปนิดเดียวก้อถึงละค่ะ จุดสังเกตุตรงหัวมุมซอยจะมีร้าน Etude อยู่จ้า รับรองหาไม่ยาก

บรรยากาศร้าน ภายในร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น โดยปกติถ้าคนไม่เยอะจริงๆ เราจะเลือกนั่งชั้นล่าง เพราะข้างบนแอร์ไม่ค่อยเย็นมากเท่าไหร่ง่ะ ตกแต่งเรียบๆ ดูสะอาดสะอ้านดีค่ะ ที่นั่งจะเบียดกันนิดนึง เนื่องจากพื้นที่ในร้านไม่ค่อยกว้างมากนักค่ะ คนก้อเยอะด้วย

ขอเริ่มจากเครื่องดื่มเลยดีกว่า "ชาเขียวเย็น" แก้วนี้ราคา 25 บาทค่ะ Refill ได้ตลอดจ้าเมนูของทางร้านก้อจะมีให้เลือกเยอะม๊าก!!! ตอนไปทานครั้งแรกจำได้ว่านั่งดูเมนูอยู่นาน เลือกไม่ถูกเลยค่ะ เยอะจิงๆ เริ่มมื้อนี้ด้วยเมนูโปรดของเราก่อนแล้วกันเน๊อะ "SALMON HANA MAKI" ข้าวห่อปลาแซลมอนไข่กุ้ง จานนี้เป็นปลื้มมากค่ะ ราคา 95 บาทเท่านั้นมาดูเมนูหลักของเราบ้างดีกว่า "CHIRASHI SUSHI SET"ชุดข้าวหน้าปลาดิบรวม
ชุดนี้จะประกอบไปด้วยข้าวหน้าปลาดิบรวม ไข่ตุ๋น ยำผัก และซุปมิโซะค่ะ ในจานก้อจะมีปลาดิบประเภทต่างๆ อาทิ ปลาแซลมอน ปลากระพงแดง กุ้ง ไข่หวาน ปลาหมึก ปูอัด ขอบอกว่าถึงจะไม่ใช่ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับขึ้นห้าง แต่ความสดก้อใช้ได้นะคะ และที่เป็นปลื้มคือไข่ตุ๋นที่มาในเซ็ทค่ะ อร่อย เนียนลิ้นสุดๆ ต้องทานตอนร้อนๆนะคะ เริ่ด! set นี้แค่ 195 บาทจ้าจานนี้เป็นของคุณเพื่อนค่ะ ไหนนางบอกอยากกินอาหารญี่ปุ่น แต่เมนูที่นางสั่งมามันสิ้นคิดมาก! จาเปนลม "YAKI SOBA" ยากิโซบะ หน้าตาดีเชียวค่ะ แต่ไม่ได้ชิมอ้ะ นางบอกอร่อยยย จานนี้ 80 บาทมาถึงเมนูสุดท้าย อันนี้ค่อยยังชั่วหน่อย นางสั่งอันนี้มา "NIGIRI SUSHI SET" ชุดข้าวปั้นหน้าปลาดิบ
ในชุดนี้จะมีข้าวปั้นหน้าปลาดิบหน้าต่างๆ เช่น ปูอัด กุ้ง ปลาหมึก ไข่หวาน ปลาดิบต่างๆ ชุดนี้มีทั้งหมด 8 ชิ้นค่ะ ราคา 180 บาทสรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 3 คน หมดไป 625 บาทจ้า ถูกมว๊าก!!!
การบริการของพนักงานดีค่ะ ถึงแม้คนจะเยอะแต่ก้อรออาหารไม่นาน จะมีแอบเติมน้ำชาให้ช้าบ้างนิดนึง แต่ก้อม่ะเปนไรค่ะ เข้าใจว่าคนเยอะ บริการช้าบ้างอารัยบ้าง ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดี ราคาถูกอีกร้านที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆไปลองทานกันดูค่ะ

ไม่ค่อยได้รีวิวร้านอาหารจีนซักเืท่าไหร่ วันนี้เราเลยมีร้านอาหารจีนราคาแสนประหยัดใกล้แหล่งออฟฟิศมาแนะนำเพื่อนๆ OpenRice กันค่ะ ร้านนี้ชื่อว่า "ร้านน้ำเต้าหู้หย่งเหอ" อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากออฟฟิศเราซักเท่าไหร่ค่า

การเดินทาง ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ หรือสาทรจ้า เดินทางง่ายๆโดยการนั่ง BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี ออกทางออกที่ 3 ทางออกเดียวกับ Dean & Deluca แล้วเดินตรงมาอีกนิดนึงค่ะ อ้อ...หากเพื่อนๆคนไหนขับรถมา ขอบอกว่าไม่มีที่จอดนะคร๊า ต้องจอดริมถนนหน้าร้านจ้า

บรรยากาศร้าน จะเป็นตึกแถว 2 ห้อง ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีป้ายบอกหน้าร้านชัดเจน มีที่นั่งไว้คอยให้บริการถึง 3 ชั้นเลยทีเดียว ใครมาตอนชั่วโมงเร่งด่วน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่นั่งค่ะ

"ร้านน้ำเต้าหู้หย่งเหอ" เป็นร้านอาหารจีนสไตล์ไต้หวันแบบ Homemade ค่ะ มาดูเมนูที่เราสั่งดีกว่าว่ามีเมนูไหนน่าสนใจบ้าง
ขอเริ่มจากเมนูทานเล่นอย่าง "ยำแมงกระพรุน" 60 บาท และ "ยำสาหร่ายกระเทียม" 50 บาทค่ะ เป็น 2 เมนูที่เราไม่ค่อยจะพลาดเวลาไปร้านอาหารจีนค่ะ อร่อยกรุบๆดีเมนูต่อไปถ้าไม่สั่งถือว่าไม่ได้มาร้านนี้ค่ะ "เสี่ยวหลงเปา"
ทำไมถึงเรียกว่าเสี่ยวหลงเปา!!? 小 (เสี่ยว=เล็ก) 笼 (หลง=เข่ง) 包 (เปา=ขนมที่มีลักษณะเป็นแป้งห่อ)
จุดเด่นของเจ้าเสี่ยวหลงเปาอยู่ที่ ข้างในจะมีน้ำแกงร้อนๆอยู่ ซึ่งเกิดจากการที่แป้งถูกห่อไว้อย่างมิดชิด เวลานึ่งไอน้ำที่อยู่ภายในจึงกลั่นตัวเป็นน้ำแกง และถูกขังอยู่ข้างในเสิร์ฟมาลูกโตๆ ร้อนๆเลยค่ะ รอให้เย็นนิ๊ดนึงก้อดีนะคะ 555+ มีขิงและน้ำจิ้มทานคู่กันค่ะ พอกัดข้างในจะมีน้ำซุปด้วย รสชาดหมูและน้ำซุปข้างในกลมกล่อมมว๊าก! ถาดนี้ 8 ลูก 155 บาทเท่านั้นค่ะเมนูต่อไป "เต้าหู้เสฉวน" จานนี้สีสัน หน้าตา และรสชาดถือว่าโอเคเลยค่ะ ทานตอนร้อนๆ กับข้าวสวย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราปลื้ม.ม.ม ตอนแรกเสิร์ฟมาแอบตกใจ เพราะถ้วยใหญ่สุดๆ แอบคิดในใจว่ามาแค่ 3 คน จะยัดหมดมั้ยเนี่ย!!? สุดท้ายก้อเกลี้ยงค่ะ 555+ เมนูนี้ราคา 95 บาทค่ะจานสุดท้าย "ซุปเสฉวน" หน้าตา และรสชาดเราว่าเฉยๆนะคะ ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ ต้องรีบทานตอนร้อนๆ ไม่งั้นเย็นแล้วไม่อร่อยเลยอ้ะ ถ้วยนี้ 60 บาทค่ะเรามีวิธีการกินเจ้าเสี่ยวหลงเปาอย่างถูกต้องมาแนะนำเพื่อนๆค่ะ
ขอเตือนไว้ก่อนว่า...ถ้ากินอย่างไม่ระวังจะลวกปากนะจ๊ะ เพราะน้ำแกงที่อยู่ภายในจะร้อนมาก
1.คีบเสี่ยวหลงเปาด้วยตะเกียบออกจากเข่งแล้ววางลงบนช้อน
2.ค่อยๆกัดแป้งให้เป็นรูเล็กๆก่อน แล้วค่อยๆดูดน้ำซุปที่อยู่ข้างใน
3.รับประทานตัวเสี่ยวหลงเปาที่ไม่มีน้ำแกงแล้ว เพิ่มรสชาดความอร่อยด้วยขิง และน้ำจิ้มขอแอบรีวิวเครื่องดื่มอีกนิ๊ดกับ "TSINGTAO BEER" เป็นเบียร์สัญชาิติจีนแท้ๆค่ะ เราเคยไปเมืองจีนแล้วได้ลองทาน อร่อยค่ะ นุ่มมาก กลับมาหาที่เมืองไทยยากสุดๆ บังเอิญวันนั้นเหลือบไปเห็นโต๊ะข้างๆสั่ง เลยรีบจัดตามเลยค่ะ เค้าบอกว่าห้ามทานของหวานหลังดื่มแอลกอฮอล์ แต่เราก้อสามารถค่ะ เพราะเมนูนี้มาแล้วต้องได้ทาน
"เต้าฮวยฟรุ้ตสลัด" หอมหวานมาก แทบอยากจะสั่งซัก 2 ถ้วย โดยรวมแล้วเป็นร้านอาหารจีนราคาระหยัดที่ถือว่าโอเคในระดับนึงค่ะ การบริการของพนักงานก้ออาจมีติดขัดไปบ้าง รสชาดของอาหารโดยรวมก้อโอเค ส่วนราคาไม่ต้องพูดถึง เพราะถูก-มาก! หากเพื่อนๆคนไหนสนใจร้านอาหารจีนราคาประหยัด ลองแวะไปที่ร้านน้ำเต้าหู้หย่งเหอกันได้นะคะ

สวัสดีกับกิจกรรมใหม่ค่าเพื่อนๆชาว OpenRice กิจกรรมที่แล้วเพิ่งแจกไป มีกิจกรรมใหม่ให้เราได้ตาโตกันอีกแล้ว สุดยอดจิงๆค่ะคุนขา ของรางวัลครั้งนี้ก้อช่างยั่วยวนใจอิช้านเหลือเกินค่ะ ทั้งกิน ช้อป เที่ยว นวด ดูหนัง โอ้ยรีวิวเพลินกันอีกละค่างานนี้ วันพิเศษแบบนี้เราขอประเดิมด้วยรีวิว ร้านอาหาีรญี่ปุ่นระดับ Premium ร้านโปรดของเราเลยดีกว่าค่ะ กับร้าน Joushitsu Sushi

ก่อนอื่นขอเล่าความพิเศษของร้าน Joushitsu Sushi ก่อนแล้วกันนะคะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เลือกสรรวัตถุดิบสดใหม่ มีคุณภาพสุดๆ นำเข้าวัตถุดิบสั่งตรงมาจากหลากหลายประเทศ อาทิ เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, แคนนาดา, ฝรั่งเศส และนอร์เวย์ อาหารทุกจานได้ถูกปรุงจากเชฟเจ้าของร้านฝีมือฉกาจอย่าง ​เชฟวิชิต วงศ์สมศรี ที่มีประสบการณ์ทำอาหารญี่ปุ่นมากว่า 20 ปี และอดีตเคยเป็นเชฟในโรงแรมระดับห้าดาวมาก่อนอีกด้วยด้วย

การเดินทาง ร้านนี้ตั้งอยู่ที่เอกมัย ซอย 2 ค่ะ สามารถลง BTS สถานีเอกมัยได้เลย แล้วลงฝั่งที่มีบ้านไร่กาแฟค่ะ เดินเข้าซอยมาพอสมควร จะเจอเอกมัยซอย 2 เลี้ยวแล้วเข้ามาเกือบสุดค่ะ (แนะนำใช้บริการพี่วินมอไซจะดีกว่า) หรือถ้าเพื่อนๆสะดวกขับรถมา ก้อวิ่งเส้นสุขุมวิทเลยค่ะ เลี้ยวเข้าสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แล้วสังเกตซอย 2 ขวามือ เลี้ยวเข้ามาเกือบสุด ร้านจะตั้งอยู่ทางขวาจ้า หาไม่ยาก มีป้ายชัดเจนค่ะ

บรรยากาศร้าน ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ มีไม้ไผ่เก๋ๆประดับหน้าร้าน พนักงานต้อนรับที่นี่จะใส่ชุดกิโมโน และต้อนรับเป็นภาษาญี่ปุ่นจ้า! เข้าไปถึงก้อ いらっしゃいませ。เลย (อ่านว่าอิรัชชัยมาเซะ แปลว่ายินดีต้อนรับ) เค้าจะส่งเสียงต่อกันเป็นทอดๆ ประหนึ่งเลียนแบบเสียง echo เป็นธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นค่ะ ที่นั่งจะแบ่งออกเป็นหลายโซน มีทั้ง โต๊ะธรรมดา, ซูชิบาร์, ห้องเสื่อสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทั้งห้องวีไอพีอีก 3 ห้อง แนะนำว่าควรโทรไปจองก่อนล่วงหน้านะคะ เพราะคนค่อนข้างจะเยอะพอสมควร เราไปทานมาวันเสาร์ ไปถึงร้านก้อประมาณทุ่มกว่าละค่ะ ที่จอดรถแทบจะไม่มี T_T ดีนะที่โทรมาจองก่อน ไม่งั้นอด!

บนโต๊ะมีการจัดวางจาน ตะเกียบ และผ้ากันเปื้อนพับเป็นชุดกิโมโนแสนเก๋ด้วย
หลังจากที่เราได้สั่งเมนูไป ระหว่างรออาหาร ทางร้านก็มี Compliment ของทางร้าน เป็นสาหร่ายหลายชนิดรวมกัน ขิงดอง ทานกับน้ำจิ้มงาสไตล์ญี่ปุ่นสูตรพิเศษไว้คอยบริการ เติมได้เรื่อยๆค่ะ (อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้อ้ะ แหะๆ) ส่วนเครื่องดื่มวันนี้เราขอเป็นชาเขียวเย็น และร้อนอย่างละ 1 ค่ะขอเริ่มมื้อเบาๆด้วย "Shirauo Salad" ละกันค่ะ ตอนแรกใจจิงจะสั่ง Avocado Salad แต่มันหมดแล้วอ้ะ เลยได้เจ้าเมนูนี้มาแทน จานนี้เป็นเหล่าผักสลัดสดนานาชนิด โรยหน้ามาด้วยปลาเงินทอดกรอบใหม่ๆ และไข่กุ้ง ความเริ่ดของจานนี้อยู่ที่น้ำสลัดสูตรเฉพาะของร้านที่ไม่เหมือนใคร โดยการนำน้ำสลัด 2 อย่างมาผสมกัน คือ มายองเนส และซอสปลาไหล ที่ให้ความหอม อร่อยลงตัว เมนูนี้ราคา 450 บาทค่ะเมนูต่อมายังคงเป็นของทานเล่นอยู่ค่ะ กับ "Tempura Maki" เมนูนี้ต้องรีบทานค่ะ เดี๋ยวความกรอบของเทมปุระจะหายไปซะก่อนเมนูต่อมาเป็น "Aki Gai" หรือหอยแครงญี่ปุ่นจ้า ทานแบบ Sashimi เลย ขอบอกก่อนว่าหอยแครงที่นี่ตัวใหญ่และสดมว๊าก!!! เนื้อแดงๆ สด กรุบเลยอ้ะ ราคาอยู่ที่ตัวละ 600 บาทค่ะถึงคิวเปิดตัวพระเอกของเราแล้วค่ะ "Joushitsu Sushi" ในจานจะมี Sushi ทั้งหมดประมาณ 12 ชิ้น และ Maki Roll ค่ะ
จานนี้จะประกอบไปด้วย Otoro (ส่วนท้องปลาทูน่า), Engawa (ครีบปลาตาเดียว), Kampachi (ปลาคัมปาจิ), Hamachi (ปลาหางเหลือง), Shima Aji (ปลาหางแข็ง), ปลาไหล, ไข่หวาน และ Toro Maki สำหรับ Set นี้ 3,500 บาทค่ะ คงไม่ต้องบอกถึงความสด และคุณภาพของอาหารนะคะ เพราะร้านนี้เค้าค่อนข้างใส่ใจ ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบเป็นอย่างมาก รวมถึงความพิถีพิถันของวิธีการทำในแต่ละชิ้น แต่ละคำเลยค่ะพระเอกไปแล้ว มาต่อด้วยพระรองดีกว่า "Take Sashimi" ตอนแรกจะสั่ง Joushitsu Sashimi ละค่ะ จานนั้น 3,500 เหมือน Joushitsu Sushi เลย แต่กลัวกินไม่หมด เลยขอแบบกลางๆละกัน จานนี้จะประกอบไปด้วย Sashimi 5 ชนิด ชนิดละ 2 ชิ้น ทั้งหมดก้อ 10 ชิ้นจ้า เชฟจะเป็นคนจัดมาให้เราค่ะ ว่าจะมีอะไรบ้างแค่เห็นหน้าตา สีสัน ก้อกรี๊ดละค่ะ >///< วันนี้เราได้ทาน Hamachi (ปลาหางเหลือง), Salmon (แซลมอน), Hirame (ปลาตาเดียว), Toro (ปลาทูน่าญี่ปุ่น) และ Hokkigai (หอยปีกนก) จัดจานตกแต่งมาสวยงาม เก๋ไก๋สไตล์ญี่ปุ่นเลยค่ะ จานนี้ 1,500 บาทเรายังไม่หยุดแค่นั้นค่ะ มีคนอยากทาน Foie Gras อีก 2 คำ 600 บาท เสียดายแอบฉกถ่ายรูปมาให้ไม่ทันค่ะ -*-
พอเราเรียกเช็คบิลทางร้านจะมีผลไม้มาให้ทานด้วยค่ะ วันนี้เราได้ทานเมลอนญี่ปุ่น และแตงโมหัวใจ
สรุปค่าเสียหาย มื้อนี้ กินกันเบาๆ 2 คน รวมค่า Service Charge 10% และ Vat 7% ทั้งหมดก้อประมาณ 7,000 กว่าบาทค่ะ
เช็คบิลทีเดียวตัวเบาเลยอ้ะ 555+ นานๆทานทีก้อโอเคนะ เพราะของที่นี่เค้าเน้นความสด และคุณภาพของวัตถุดิบจริงๆค่ะ รับรองว่าจะได้รับการดูแล แนะนำ เอาใจใส่ทั้งจากคุณเชฟวิชิต และพนักงานเป็นอย่างดี เรียกว่าประทับใจตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้านเลยก้อว่าได้ ร้านนี้จึงเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสุดกรี๊ดของเราค่ะ ว่างๆลองแวะเข้าไปทานกันนะคะ รับรองอร่อยลื๊ม!!!~

รีวิวนี้จะพาเพื่อนๆไปลองทานเจ้าไก่ทอดชื่อดัง สัญชาติเกาหลีกันค่ะ ไอ่เราก้อได้ยินมานานละ ได้ิยินมาว่าอร่อยนักอร่อยหนา วันก่อนแว๊บไปทำธุระที่ CTW มา เลยได้โอกาสโฉบไปชิมซะเลย ร้านนี้ชื่อว่า BonChon Chicken ตั้งอยู่ที่ชั้น 6 เลยจ้า

การเดินทาง
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ CTW การเดินทางก้อค่อนข้างจะสะดวกค่ะ สามารถเดินทางได้โดย BTS เลือกลงได้ทั้ง 2 สถานีเลย คือ สยาม และชิดลม แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ แต่วันนี้เรามาลงที่สยาม ขอแวะช้อปก่อนซักนิดนะ อิอิ

บรรยากาศร้าน
พอเดินไปถึงหน้าร้านแอบตกใจ แม่จ้าว!!! ทำไมคนมันเยอะอย่างนี้เนี่ย ขนาดนี่เป็นวันพุธนะ ไหนๆก้อมาแล้ว ยอมรอซักหน่อยก้อได้ รออยู่ประมาณ 15 นาที ก้อได้โต๊ะละค่ะ การตกแต่งร้านจะออกมืดๆนิดนึง ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นนิดๆ ที่นั่งจะแบ่งเป็น 2 โซนก้อว่าได้ เป็นด้านหน้า และเข้ามาทางด้านหลัง (ตรงนี้จะค่อนข้างกว้างกว่าด้านหน้า และส่วนตัวกว่าค่ะ เม้ามอยได้สะบ๊ายยย)เมนูร้านก้อมีให้เลือกหลากหลายค่ะ วันนี้เรามาร้าน BonChon Chicken แน่นอน...เราก้อต้องสั่งไก่ค่ะ 555+
วิธีการสั่งก้อจะมีให้เลือก 4 Step ค่ะ มาดูเลยดีกว่า ว่าเค้าสั่งกันยังไงบ้าง
Step 1 จะเป็นการให้เลือกว่าเราต้องการส่วนไหน และกี่ชิ้นค่ะ วันนี้เรามากัน 3 คน ขอจัดเต็มเป็น "BonChon Combo Size L" แล้วกันนะคะ ก้อจะมี น่อง 4 ชิ้น ปีก 10 ชิ้นจ้า Set นี้ราคา 380 บาท

Step 2 จะเป็นการเลือกรสชาดค่ะ ว่าต้องการให้ไก่ออกมารสไหน มีให้เลือก 3 รส คือ Soy Garlic จะออกรสหวานนิดๆ และ Hot จะออกเผ็ด เค็มหน่อยๆ ตามธรรมดาของคนหลายใจ ไม่ชอบเลือก เราเลยสั่ง MIX มาค่ะ (สามารถสั่้งได้เฉพาะไซส์ M และ L นะคะ)

Step 3 เป็นการเลือกเครื่องเคียงค่ะ Size S และ M สามารถสั่งได้แค่อย่างเดียว แต่เราสั่ง Size L ไป เลยสามารถเลือกได้ 2 อย่างจ้า เราเลือกเป็นข้าวญี่ปุ่น และโคลสลอว์ค่ะ

Step 4 หากเพื่อนๆยังไม่จุใจกับบรรดาเครื่องเคียง ก้อสามารถเลือกสั่งเพิ่มเติมได้จาก Step นี้จ้า ราคา 35-40 บาทก่อนจัดหนักขอแอบสั่งเมนูเพื่อสุขภาพก่อนแล้วกันนะคะ "สลัดสาหร่ายไข่กุ้งรสเผ็ด" จานนี้โดนใจเรามากค่ะ จุดเด่นอยู่ที่น้ำสลัดที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน มีส่วนผสมของงาขาวด้วยค่ะ รสชาดออกเปรี้ยวๆ หวานนิดๆ สลัดจานนี้จะมีบรรดาผัดสลัด ผักกาดแก้ว แอ๊ปเปิ้ลสไลด์ มะเขือเทศ ยำสาหร่าย และไข่กุ้งค่ะ หน้าตาดีเหมือนรสชาดเลย จานนี้ 160 บาทจ้าแอบเห็นเกือบทุกโต๊ะสั่งซุปกิมจิมา ด้วยความที่คุณเพื่อนอยากลอง เลยสั่งบ้าง อิอิ ตอนแรกสั่งเป็นซีฟู้ดไป แต่แบบว่าหมด แง๊! เราเลยต้องสั่งแบบธรรมดาไป เมนูนี้มีชื่อเต็มๆว่า "ซุปซุนดูบูกิมจิ" เป็นซุปกิมจิที่รสชาดดีอีกแล้ว (บอกก่อนว่าปกติเราเป็นคนที่ไม่ทานกิมจิเลย แม่เพื่อนตัวดีบอกให้ลอง) สรุปว่าอร่อยจิงๆค่ะ 555+ รสชาดซุปเข้มข้น และก่อนเสิร์ฟเค้าจะตอกไข่ไก่สดๆลงไป สีสัน หน้าตาดูดีเชียวจ้า เมนูนี้ 180 จ้า อ่อ...ลืมบอกไปว่าเค้ามีให้เลือก 3 แบบนะคะ คือ แบบกิมจิธรรมดา(180 บาท), เกี๊ยว(200 บาท) และซีฟู้ด(220 บาท)มาถึงจานหลักแล้ว "BonChon Chicken" ของเราจ้า ขอแนะนำจานแรกก่อน จานนี้เป็นแบบ Hot นะคะ จะมีสัญลักษณ์เป็นธงสีแดงปักอยู่ รสชาดออกเผ็ด เค็มนิดๆ โดยส่วนตัวแล้วเราชอบรสนี้มากกว่า Soy Garlic นะคะ เพราะเป็นคนไม่ทานหวาน กัดไปคำแรกกรี๊ดค่ะ! เพราะร้อน!!! เอ๊ย!ไม่ใช่ 555+ เพราะมันเริ่ดมาก สมคำล่ำลือจิงๆ กรอบนอก นุ่มใน รสชาดลงตัวสุดๆ ด้านในไม่อมน้ำมันเลยค่้ะ มาถึงแบบ Soy Garlic บ้าง จานนี้จะไม่มีธงปักค่ะ รสชาดจะออกหวานนิดๆ ส่วนความกรอบก้อเหมือนกันเลยค่ะ กรอบนอกนุ่มใน อยากจะไปถามคุณเชฟเค้าจิงๆ ว่ามีวิธีการทอดยังไงให้อร่อย และไม่อมน้ำมันแบบนี้สรุปแล้วมื้อนี้ปลื้มค่ะ อาหารอร่อย การบริการของพนักงานที่นี่ก้อรวดเร็ว ยิ้มแย้มดีค่ะ คอยเดินมาเติมน้ำให้ตลอดเลย อ้อ...ลืมบอกไปว่าเครื่องดื่มเราสั่งเป็น "ชาบาร์เลย์ รีฟิล" มีให้เลือกทั้งเย็น และร้อนนะคะ หอม อร่อย แก้วละ 40 บาทเท่านั้น ค่าเสียหายมื้อนี้ 3 คน ทั้งหมด 840 บาท + vat 7% = 899 บาท ตกคนละ 300 บาทเท่านั้นจ้า หากเพื่อนๆคนไหนที่กำลังจดๆจ้องๆ ยังไม่กล้าลอง แนะนำเลยค่ะ ว่าอร่อยจิงๆ ฟันเฟิร์ม!