นักรีวิวร้านอาหาร

วันก่อนนายลักกี้ได้รับคำเชิญจากทางทีมงาน Openrice ให้ไปร่วมกิจกรรมก๊วนชวนกินกับ Openrice ที่ห้องอาหาร Chikalicious Dessert Bar บนห้าง CENTRAL EMBASSY ครับ
ในวันนี้ก็ได้มีผู้มาร่วมกิจกรรมกันเยอะเลย หลักๆก็เป็นการกินและ Workshop เล็กๆน้อยๆ เพลินๆทั้งงานเลยทีเดียวห้องอาหาร Chikalicious Dessert Bar นั้นเป็นห้องอาหารที่เน้นขายเครื่องดื่มและของหวานเป็นหลัก โดยของหวานนั้นจะเน้นขายเป็นคอร์สๆละ 400 บาทด้วยกัน
โดยจะได้มา 3 เมนูด้วยกัน เป็นจานเบาๆเริ่มแรก ของหวานจานหลัก และของหวานเบาๆปิดท้ายครับบรรยากาศที่ร้าน Chikalicious Dessert Bar กว้างและสะอาดมาก มีที่นั่งอยู่ทั้งแบบโซฟาและแบบบาร์อาหาร เสน่ห์ของห้องอาหารนี้ผมว่าอยู่ตรงบาร์ครับ
เพราะเวลาเราสั่งอาหารไปแล้ว ก็นั่งมองเชฟทำของหวานได้เพลินๆ มองขั้นตอนกระบวนการทำต่างๆได้ เห็นแล้วหิวเลย ^^
เมนูที่นายลักกี้ได้สั่งมากินวันนี้มีตามนี้เลย
เริ่มต้นด้วยเมนูเครื่องดื่ม Jasmine Gold เป็นชาร้อนกลิ่นมะลิอ่อนๆ มีกลิ่มหอมมะลิเบาๆ กินแล้วมีรสขมนิดๆ กินร้อนๆแล้วไหลลื่นคล่องคอ ใช้กินดับเลี่ยนจากการกินของหวานได้เลยมาต่อกันด้วยเมนูคอร์สของหวานกัน
จานแรกเป็นเมนูเบาๆ เป็นเมนูไอศครีมครับ (จำชื่อเมนูนี้ไม่ได้นะ 555+) เป็นลักษณะแบบไอศครีมมะพร้าวใส่มาในถ้วยเล็กๆ และโรยผงเหลืองๆด้านบน
ตัวไอศรีมมีรสหวานมะพร้าวแบบอ่อนๆ กินแล้วหวานนุ่มลิ้นกำลังดี ตัวผงเหลืองๆที่โรยอยู่ด้านบนมีความกรอบและหวานในตัว กินคู่กับไอศครีมแล้วหวานอร่อยขึ้นเยอะเลยจานหลัก เป็นจานหลักของหวานที่มีเมนูให้เลือกหลายเมนูเลย ราวๆ 6 เมนูด้วยกัน โดยจะมีเมนูหลัก Signature ของร้านอยู่ 2 เมนู และอีก 4 เมนูเป็นเมนูตามฤดูกาลครับ
โดยเมนูที่ผมสั่งในวันนี้เป็นเมนู Banana tartare on crispy kataifi with adult chocolate pudding and white coffee ice cream
หรือหากเรียกเป็นไทยๆก็เรียกได้ว่า ทาทาร์กล้วยหอม เสิร์ฟบนแป้งคาไทฟี่อบกรอบพร้อมด้วยชอคโกแลตพุดดิ้งและไอศครีมรสกาแฟสีขาว
ได้มาจานใหญ่เลย ดูรูปร่างแล้วเหมือนเข็มนาฬิกาชี้ตอน 6 โมงเย็น 555+ ด้านหนึ่งเป็นชอคโกแลตพุดดิ้งและอีกด้านหนึ่งไอศครีมรสกาแฟสีขาวและตรงกลางก็จะเป็นทาทาร์กล้วยหอมครับ
ตัวชอคโกแลตพุดดิ้งนั้นมีรสหวานชอคนุ่มๆ กินแล้วหวานปากดี และตัวไอศครีมรสกาแฟสีขาวมีรสชาติขมหวานอร่อยแบบกาแฟเข้มๆที่ไม่เหมือนใคร เมื่อเอามากินคู่กันแล้ว ให้รสหวานเข้มนุ่มลิ้นไปอีกแบบดี
ตรงทาทาร์กล้วยหอมตรงกลาง ตัวเนื้อแป้งทาทาร์มีลักษณะเป็นฝอยๆ มีความกรอบหวานในตัว กินกับกล้วยหวานๆได้สัมผัสแบบกรอบๆนุ่มๆ กินกับตัวชอคโกแลตพุดดิ้งและไอศครีมรสกาแฟสีขาวได้เพลินๆเลยและของหวานปิดท้ายในคอร์สก็จะเป็นตัว คุกกี้ พุดดิ้ง คาราเมล จานนี้เป็นจานที่ทางง่าย รสชาติหวานนุ่มลิ้นครับ ไว้กินเล่นๆปิดท้ายได้ดีและเมนู Workshop ของวันนี้เป็นเมนูโดนัทครัวซองต์ หรือเรียกสั้นๆว่าโดซองต์ ครับ
ก็ได้เอาตัวโดซองต์นั้นมาโรยไอซ์ซิ่งและเอามาเผาไฟร้อนๆ ได้มาแบบสุกๆแป้งจะออกกลิ่นไหม้หอมๆอย่างน่ากิน
ได้เลือกกินแบบไส้ครีม เมื่อหั่นขนมปังออกมาจะเจอไส้ครีมหวานๆด้านใน กินพร้อมกับตัวแป้งโดซองต์ รสจะกรอบหวานนอกนุ่มหวานละมุนใน อร่อยมากๆ
เป็นเมนูของหวานที่ผมกินแล้วชอบที่สุดในวันนี้เลยทีเดียว 555+ ^^

รูปแบบของร้าน
ร้าน The Season เป็นร้านขายบุฟเฟ่เนื้อโคขุน โดยขายในราคาหัวละ 179 บาท สามารถกินได้ทุกอย่าง ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู กุ้ง ปลาหมึก ของทานเล่น และอื่นๆอีกมากมาย
ร้านจะเป็นร้านที่กว้างและสะอาด นั่งกันได้ไม่เบียด ร้านคึกคัก เพราะคนเยอะมาก สามารถเดินไปหยิบอะไรกินเองได้เลยตามใจชอบ

เมนูที่สั่งในวันนี้ : บุฟเฟ่เนื้อย่างโคขุน

ราคา : คนละ 179 บาท ไม่รวมเครื่องดื่ม

รสชาติของกินที่สั่ง : เนื้อโคขุนของที่นี่อร่อยมากๆ เพราะเนื้อโคขุนของที่นี่มีความสดใหม่และแล่มาบางๆ ทำให้เนื้อนุ่มทานง่าย และที่ชอบมาที่สุดจะเป็นตัวเสือร้องไห้ที่มีลายมันติดอย่างสวยงาม กินแล้วได้รสหวานมันอร่อยสุขปากมากๆ
ตัวเนื้อสันก็เป็นเนื้อชิ้นกลมๆ ปิ้งสุกง่าย รสหวานกินกับน้ำจิ้มก็อร่อยดี ตัวเบค่อยก็เป็นชิ้นใหญ่ๆ ตัวเนื้อตัดกับมันสวยๆ ปิ้งกินได้รสหวานมันอร่อยลิ้นเลย ^^

หายไปนานเลยยย ตอนนี้ Lucky กลับมาแล้วนะคร้าบบบบบบ ^^

กลับมาคราวนี้ Lucky ก็ได้เตรียมรีวิวร้านอาหารต่างๆให้เพื่อนๆได้ชมด้วยนะครับ เผื่อเพื่อนๆจะสนใจไปกินร้านที่ผมไปกินมา ถ้าไปกินมาแล้วเป็นยังไง ก็จะเข้ามาบอกในนี้ก็ได้นะครับ ไม่ว่ากัน 555+

ร้านที่ผมจะเข้ามาแนะนำในวันนี้คือ ร้านอาหารไทยสไตร์ฟิวชั่น บูล ศสิดล ( Blue Celadon ) ครับ ที่ตั้งร้านอยู่ในซอยเอกมัย เข้าไปในซอยซักเล็กน้อยก็จะเห็น Big-C เอกมัย ร้านตั้งอยู่ซอยข้างๆ Big-C เอกมัยเลยครับ ( ร้านหาไม่ยากๆ )

ร้านบูล ศสิดล ( Blue Celadon ) บรรยากาศดีครับ มีความเป็นส่วนตัวสูง ตกแต่งร้านแบบไทยๆ แต่มีกลิ่นไอของความเป็นญี่ปุ่นอยู่ด้วย มีโต๊ะรองรับไม่เยอะ นั่งสบาย พนักงานบริการดี และมีทั้งเมนูอาหารไทยและญี่ปุ่นครับ

มาเข้าสู่เรื่องอาหารกันดีกว่าครับ วันนี้ผมจะขอนำเสนอแค่เมนูอาหารไทยเด็ดๆที่ไม่ควรพลาดนะครับ อย่างแรกคือ

ปลากระพงทอดราดน้ำปลาครับ ทอดออกมาได้อร่อยมากกก กรอบนอกนุ่มใน มีรสชาติในตัวปลา และสามารถกินได้ทุกส่วนในตัวปลาเลย

ยำผักบุ้งกรอบ อร่อยอีกแล้ววว ผักบุ้งทอดกรอบๆ กินกับน้ำยำที่คลุกคล้าระหว่างเครื่องเทศและน้ำต่างๆออกมาได้อย่างลงตัว

จบท้ายด้วยแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายครับ (ชอบเป็นการส่วนตัว งิงิ) ^^

โดยรวมแล้วถือว่า อร่อยเลยครับ ในส่วนของค่าเสียหายนั้น ถือว่าสูงกว่าร้านอาหารทั่วๆไปเล็กน้อย ( เพราะมี Vat 7% กับ Charge 10% ด้วยมั้ง) ToT

มาดูรูปกันครับ ( รูปไม่ชัดอย่าว่ากันนะ ) ^^รูปหน้าร้านครับที่นั่งในร้าน ประมาณนี้ปลากระพงทอดราดน้ำปลาครับ อร่อยมาก ^^ยำผักบุ้งกรอบ อร่อยอีกเช่นกัน >.<วิวตอนกลางคืน สวยได้อีก งิงิ ^^

นายลักกี้ได้แวะไปเดินเล่นที่ห้างเอสพลานาดรัชดา แล้วได้ไปเจอร้าน สถานี เตี๋ยวเรือ เปิดขายอยู่ เป็นร้านใหม่ที่นายลักกี้ยังไม่เคยกินเลยจัดซะเลย
โดยร้านนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อยู่ติดกับร้าน Marugame Seimen เลยครับ ร้านจะเป็นร้านขนาดใหญ่ กว้างนั่งสบาย
และพนักงานที่ร้านเยอะมาก บริการเร็วสุดๆ
เมนูที่ร้านก็จะเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือ จะขายอยู่ที่ชามละ 18 บาทถ้วน
นายลักกี้ได้ลองสั่งมากินเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเส้นเล็ก ครับ
รสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้านี้ รสจะออกหวานเข้มๆหน่อย กินได้แบบไม่ต้องปรุงเพิ่มก็อร่อยดี สั่งเกี๊ยวกรอบมากินเพิ่มก็อร่อยเข้ากัน
ตัวลูกชิ้นมีความเด้งอร่อยดี และตัวเนื้อวัวจะเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่เหนียวกินง่าย แต่ปริมาณส่วนตัวคิดว่าน้อยไปหน่อยต่อชามครับ

นายลักกี้ได้ลองไปชิมร้านบุฟเฟ่ต์หม้อไฟเกาหลีร้านใหม่ที่ร้าน Jimdak เลยเอามารีวิวให้ชมซะเลย
โดยร้านนี้จะตั้งอยู่ที่โครงการใหม่ที่มีชื่อว่า Aqua ครับ โดยจะอยู่ระหว่างฝั่งสะพานควายไปอารีย์ครับ
ร้านจะเป็นร้าน 2 ชั้น บรรยากาศร้านกว้างและสะอาด เป็นแบบเป็นกันเองมาก พนักงานบริการดี และเสิร์ฟของกินเร็วมากๆ
เมนูของกินที่ร้านนอกจากจะมีบุฟเฟ่ต์หม้อไฟเกาหลี (Tokpokki) แล้วก็ยังมี จิมดั๊ก (ไก่กับวุ้นเส้นเกาหลี) ให้เลือกกินด้วย
ราคาก็แล้วแต่ขนาดที่สั่งครับ ในส่วนบุฟเฟ่ต์ก็จะอยู่ที่คนละ 359 บาทเท่านั้น
วันนี้นายลักกี้ได้กินเป็นบุฟเฟ่ต์หม้อไฟเกาหลี (Tokpokki) ครับ
รสชาติหม้อไฟเกาหลีร้านนี้ขอบอกว่าเป็นรสหวานกลมกล่อมครับ เป็นรสที่กินแล้วเพลินๆ ไม่เลี่ยน แต่จะขาดรสจัดแบบเผ็ดๆไปซักหน่อย
บรรดาของสดต่างๆขอบอกว่าโอเคเลยครับ ทั้งเนื้อหมูสไลด์ หมูสามชั้นนี่แล่มาบางๆ กินแล้วนุ่มหวานมันละมุนลิ้น กินแล้วฟินเลยทีเดียว
พวกผักและเห็ดต่างๆก็สดใหม่ เอาไปต้มกินแล้วก็กินได้เพลินๆนะ
แต่ที่เด็ดที่สุดของร้านนี้ ที่นายลักกี้กินแล้วยกให้เป็นอันดับต้นๆสำหรับร้านเกาหลีที่เคยไปกินมาเลยคือเมนู "กิมจิ" ครับ
กิมจิเจ้านี้ขอบอกเลยว่าสุดๆจริงๆ อร่อยแบบสุดๆเลย หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ รสเปรี๊ยวหวานเข้มอร่อย กินแล้วสดชื่นมาก สั่งเบิ้ลไปเยอะเลย ชอบๆ