นักรีวิวร้านอาหาร

ร้านซานตาเฟ่สเต๊ก มาเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลพลาซ่าแกรนด์พระราม 9 แล้วค่ะ
แถมโปรโมชั่นเปิดร้านของเค้าก็แรงใช่ย่อย เราเห็นป้ายโปรโมชั่นฉลองเปิดร้านลด 50%
เลยเดินไปดูรายละเอียดที่ร้านเลย เมนูที่ลด 50% จะมี 2 เมนูค่ะ คือ
พอร์คช้อปซอสพริกไทยดำ (129 เหลือ 65 บาท) และ
สปาเก็ตตี้เบคอนและเห็ด (82 เหลือ 41 บาท)

คนเยอะพอสมควรเลยค่ะ มีพนักงานมารับคิวที่หน้าร้านและรับออเดอร์ก่อนด้วย
เรารอคิวเป็นคิวที่ 3 รอประมาณ 15 นาทีก็ได้โต๊ะ
ร้านตกแต่งด้วยโทนสีดำและอิฐ ภายในร้านไม่กว้างมากค่ะ
การจัดวางโต๊ะค่อนข้างชิดกันไปนิด

อาหารรอไม่นานค่ะ ประมาณ 15 นาที
เราก็ได้ทานพอร์คช้อปซอสพริกไทยดำจานใหญ่คนละจาน
เค้าทำได้สุกกำลังดี และไม่เหนียวค่ะ รสชาติของซอสค่อนข้างอ่อน
ผักสลัดในจานไม่ค่อยสดเท่าไหร่ค่ะ
เฟรนซ์ฟรายทอดมาดีมีซอสสีส้มๆ เหมือนซอสชีสราดมาด้วยนิดหน่อย
ส่วนสปาเก็ตตี้เบเคอนและเห็ด เค้าใส่เบคอนสดชิ้นเล็กๆ มาเยอะพอสมควรค่ะ
แต่เห็ดค่อนข้างน้อย ครีมซอสใสไปหน่อยแต่ก็ทำให้ทานได้เรื่อยๆ ไม่เลี่ยนค่ะ

เครื่องดื่มเราสั่งน้ำเปล่าค่ะ น้ำเปล่าที่นี่ขายเป็นขวด (26 บาท) ส่วนน้ำแข็งฟรี
อยากให้ระวังเรื่องความสะอาดของน้ำแข็งที่นี่นะคะ
เพราะหลังเทน้ำเราเห็นตะกอนขาวๆ ลอยอยู่เต็มแก้ว
แต่ดูน้ำที่ยังเหลืออยู่ในขวดแล้ว ยังใสสะอาดดี
คาดว่าน้ำแข็งสกปรกค่ะ เราไม่กล้าดื่มน้ำจากแก้วน้ำแข็งเลยเลย ดื่มแค่น้ำที่ยังเหลืออยู่ในขวด

ทานเสร็จเดินไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ด้านหน้าร้าน
อาหารทั้งหมด ราคาแค่ 197 บาทเท่านั้นเอง
โปรโมชั่นดีๆ แบบนี้อยากให้มีบ่อยๆ จัง

CoCo Ichibanya ข้าวแกงกระหรี่สัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ที่มาเปิดสาขาในประเทศไทย

เมนูหลักๆ ของที่นี่ก็คือ ข้าวแกงกระหรี่ นี่แหละค่ะ เราสามารถเลือกแกงกระหรี่ในแบบของเราเองได้ค่ะ

1. ข้าว - ปริมาณข้าวมาตรฐานคือ 250g สำหรับสาวๆ ที่ทานน้อย อาจจะสั่งให้ลดปริมาณข้าวลงได้ ปริมาณข้าวจะเหลือ 150g ราคาก็จะลดลงไป 20 บาทค่ะ หรือใครทานเก่ง สั่งเพิ่มข้าวก็ได้ค่ะ มีตั้งแต่ 350g / 450g / 550g ค่ะ เยอะไปไหมเนี่ย แน่นอนว่าราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณนะคะ

2. ปริมาณของแกงกระหรี่ - เลือกได้ว่าจะเอาปริมาณ 100g หรือ 200g ค่ะ เผื่อบางท่านจะไม่ทราบ น้ำแกงกระหรี่ของที่นี่มีส่วนผสมของเนื้อวัวนะคะ

3. ระดับของความเผ็ด - ยิ่งตัวเลขมากก็ยิ่งเผ็ด สำหรับเรา แค่เผ็ดระดับ 1 ก็พอแล้วล่ะ ใครสั่งเผ็ดระดับ 4 หรือ 5 นี่น่านับถือจริงๆ นะคะ

4. ท๊อปปิ้ง - นอกจากหน้าของแกงกระหรี่ที่เราเลือกแล้ว เราสามารถเพิ่มท๊อปปิ้งได้อีกค่ะ ราคาก็ขึ้นอยู่กับชนิดของท๊อปปิ้งนั้นๆ เท่าที่เห็นมีท๊อปปิ้งให้เลือกประมาณ 20-25 อย่างเลยนะคะ ตัวอย่างเช่น กิมจิ ไส้กรอก ผักโขม เบคอน ไก่กรอบ ข้าวโพด แต่ของโปรดของเราคือ ชีส ค่ะ

เท่านี้ก็จะได้แกงกระหรี่รสชาติถูกปากเราแล้วค่ะ เมนูโปรดที่อยากแนะนำให้ลองก็คือ ข้าวหน้าแกงกระหรี่หมูทอดเพิ่มชีส (190 บาท) หมูทอดหอมกรอบกำลังดีทานกับแกงกระหรี่ร้อนๆ และชีสยืดๆ สุดยอดมากค่ะ หรือใครที่ชอบทานไก่ ลองข้าวแกงกระหรี่ไก่กรอบ (150 บาท) เค้าทอดไก่ได้กรุบกรอบดีมากเลยค่ะ

ส่วนเมนูเสริมอื่นๆ ก็จะมีสลัดต่างๆ (เรื่องรสชาติของสลัดนี่เราเฉยๆ ค่ะ ความสดของผักก็แค่ปานกลาง) ข้าวแกงกระหรี่หน้าไข่ซึ่งก็มีให้เลือกหลายหน้าอยู่เหมือนกัน แต่ไม่สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ค่ะ เมนูสปาเก็ตตี้ก็มีนะคะ แต่เราเคยลองทานแล้วไม่ปลื้ม ค่อนข้างจะจืดค่ะ

บรรยากาศของร้านก็จะตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ ดูคล้ายๆ กันทุกสาขาค่ะ สำหรับสาขาที่เซ็นทรัลพระราม 9 นี้ร้านค่อนข้างเล็ก และจัดโต๊ะค่อนข้างใกล้กันมากค่ะ เรียกว่าถ้าคนข้างๆ คุยกันดังหน่อยนี่แทบจะเหมือนนั่งทานอยู่โต๊ะเดียวกันเลย แต่ถ้าได้โต๊ะหน้าร้านที่เป็นโต๊ะกลมนั่งได้ 4 คนก็จะดีหน่อยค่ะ เพราะการจัดวางโต๊ะโซนหน้าร้านจะโล่งกว่าด้านใน ส่วนการบริการของพนักงานนั้นก็อยู่ในมาตรฐานปกติค่ะ เท่าที่สังเกต พนักงานค่อนข้างน้อย และให้บริการลูกค้าไม่ค่อยทันค่ะ

นานๆ ทีจะได้ทานร้าน Fuji กับเค้าซักที เนื่องจากขี้เกียจรอคิวค่ะ

แต่วันนี้เห็นคนน้อย เลยแวะซะเลย

เราชอบอาหารที่นี่เพราะเค้าเป็นอาหารญี่ปุ่นที่ปรับเปลี่ยนรสชาติให้ถูกปากคนไทยค่ะ

แถมบางเมนู ยังดัดแปลงเป็นสไตล์ไทยๆ อีกต่างหาก

เมนูที่เราสั่งประจำก็จะมีดังนี้ค่ะ

1. ปลาดิบรวม หรือ ซาชิมิ ในรูปคือปลาดิบชุดพิเศษ ราคา 480 บาท ความสดของปลาสำหรับที่นี่ต้องถือว่าแค่ปานกลางเท่านั้นค่ะ บางอย่างก็ไม่สดเลย เรียกว่าแช่แข็งแล้วเอาออกมาหั่นเสิร์ฟ เนื้อปลายังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย แต่ก็ตอบสนองความอยากทานปลาดิบได้ประมาณนึงนะคะ

2. ท้องปลาแซลม่อนเสียบไม้ย่างเกลือ ราคา 140 บาท สำหรับคนที่ชอบทานแซลม่อนติดมัน นี่แหละค่ะตอบโจทย์ เค้าเอาเนื้อส่วนท้องติดมันมาย่างเกรียมนิดๆ หอมและมันดีค่ะ

3. คาเมมเบิร์ดชีสคลุกเกล็ดขนมปังทอด 130 บาท อันนี้สั่งมาทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าคืออะไร เห็นว่าเป็นเมนูใหม่ คือเมื่อก่อนชอบทานกุ้งบดชุบขนมปังทอดของฟูจิมากๆ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว เลยสั่งอันนี้มาแทน เพราะคิดว่าจะคล้ายกัน แต่ปรากฎว่า สู้แบบเดิมไม่ได้อะค่ะ อันนี้ใส้ในจะแห้งกว่า กินแล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงรสอะไรโดดเด่น รู้อย่างเดียวคือหิวน้ำมาก

4. ปลาแซลม่อนราดซอสไข่ปลา 185 บาท เชื่อว่าเมนูนี้เป็นที่โปรดปรานของหลายๆ คนค่ะ (รวมทั้งเราด้วย) ปลาแซลม่อนสดพันหน่อไม่ฝรั่ง ราดด้วยซอสไข่ปลารสเผ็ดนิดๆ เข้ากันได้ดีมากๆ ค่ะ

5. ยำปลาทูน่า 150 บาท เมนูญี่ปุ่นที่มีขายเฉพาะในไทย (ละมั๊ง) เพราะมันเป็นยำปลาทูน่าที่ใส่เครื่องแบบยำไทยเลยค่ะ เผ็ดปานกลางแต่ก็อร่อยและได้รสชาติไปอีกแบบนะ หรือใครที่ชอบทานแซลม่อนมากกว่า ลองสั่งยำปลาแซลม่อนก็ได้นะคะ คล้ายๆ กัน ราคาแพงกว่านิดหน่อย

6. เห็ดเออรินจิผัดน้ำมันหอย รสกลมกล่อมและหอมดีค่ะ ทานกับข้าวจะดีมาก ทานเปล่าๆ จะเลี่ยนเกินไป

7. เครื่องดื่มต่างๆ ถ้าทานอาหรชุดก็จะมีเครื่องดื่มแก้วเล็กๆ มาในชุดด้วย แต่ถ้าไม่ทานแบบชุดก็ต้องสั่งเครื่องดื่มแยกต่างหาก ที่นี่เราสั่งชาเขียวตลอด (ขายเป็นขวดนะคะ) นึกถึงสมัยก่อนที่เป็นชาเขียวรีฟิลจริงๆ เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว สั่งเป็นขวดแทน ส่วนใหญ่จะสั่งขวดใาเขียวค่ะ รสหวานนิดๆ หอมอร่อยดี

Capri ร้านบรรยากาศดีริมน้ำที่ Asiatique the riverfront

เคยได้ยินมาว่าร้านนี้ที่สาขา K village พิซซ่าอร่อย

ครั้งนี้มีโอกาสเลยได้มาลองที่สาขานี้แล้วกัน เพราะบรรยากาศดีเลยค่ะ

ร้านมีโซน Indoor และโซน Outdoor ที่อยู่ริมน้ำค่ะ ร้านแต่งด้วยโทนสีขาว-น้ำเงิน สบายตาดีค่ะ

เรามาทานคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่คนเยอะอยู่แล้ว ต้องรอคิวโต๊ะด้วย

เลยไม่สามารถที่จะเลือกรอว่าจะนั่งโซนไหน เรียกว่าโต๊ะไหนว่างก็เอาโต๊ะนั่นแหละ

เลยได้โต๊ะโซนในร้านใกล้ทางเดินเข้าออกของพนักงาน ทำเลโต๊ะไม่ดีเลยค่ะ

มืดๆ และอึดอัดยังไงชอบกล แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ เพราะไปกันหลายคน มัวแต่นั่งคุยกัน

ไม่ได้สนใจบรรยากาศซักเท่าไหร่ สั่งอาหารมาหลายอย่างเลยค่ะ

อาหารก็ไม่ช้านะคะ แต่กว่าจะเรียกพนักงานได้นี่สิ ลำบากมากๆ คือเรียกอยู่นานมาก

แถวพนักงานก็ดูเหวี่ยงๆ ยังไงชอบกลค่ะ ไม่รู้เค้ายุ่งมากหรืออย่างไร พูดดีนะคะ แต่หน้าตึงๆ

รอซักพักอาหารก็มาค่ะ เราสั่งอาหารไปหลายอย่าง การตกแต่งและจัดวางของอาหารแต่ละจานดูดีค่ะ

สลัดพาร์ม่าแฮมและผักร็อคเก็ต พาร์ม่ารสออกเค็มทานกับผัดสดเข้ากันดี จานนี้รสชาติดี ผักสดใช้ได้

พิซซ่า จานนี้เฉยๆ ค่ะ ชีสก็หอมดี แป้งแข็งแต่ไม่กรอบ ไม่ได้อร่อยมากอย่างที่คาดหวัง รสชาติธรรมดามากๆ

ผักโขมอบชีส ไม่อร่อยค่ะ ชีสน้อยและค่อนข้างจืด แห้งๆ แข็งๆ ไม่รู้เป็นเพราะทำไว้นานกว่าจะยกมาเสิร์ฟหรือเปล่า

Mixed Fries & Onion Rings ทอดได้กรุบกรอบใช้ได้ค่ะ ถ้าซับน้ำมันออกซะหน่อยก่อนใส่จานมาจะดีกว่านี้มาก

สติ๊กพาร์ม่าแฮม จานนี้ไม่ได้สั่งค่ะ พนักงานรับออเดอร์จดไปผิด

แต่ทำมาแล้วก็เลยรับๆ ไว้ ไม่อยากจะโวยวายให้เสียบรรยากาศ ส่วนรสชาติก็ธรรมดาค่ะ แห้งๆ เค็มๆ ทานแล้วหิวน้ำ

Grilled Tuna with Rocket Salad จานนี้ทำออกมาได้ดี นุ่มและหอม ซอสที่ราดก็เข้ากันดี

Panna Cotta ของหวานที่หน้าตาน่ารักมากๆ จัดมาในถ้วยชอต 4 ถ้วย แต่งหน้าด้วยเยลลี่ดอกไม้สีฟ้าและแดง เนื้อเนียนนุ่ม ไม่เลี่ยนเลย กินได้อร่อยจนหมดถ้วย

ราคาอาหารต่อคน ประมาณ 600 บาท อาหารอร่อยเป็นบางอย่าง หากตั้งใจมานั่งกินลมชมบรรยากาศโดยไม่คาดหวังกับการบริการมากนัก ร้านนี้ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่พอใช้ได้ค่ะ

Chou Nan Cafe ร้านข้าวหน้าเนื้อน่ารักตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน เซ็นทรัลพลาซ่าพระราม 9

เป็นร้านเปิดโล่งอยู่โซนกลางทางเดิน จำนวนโต๊ะประมาณ 20 โต๊ะค่ะ

โต๊ะค่อนข้างเล็ก และะการจัดวางโต๊ะภายในร้านค่อนข้างแน่นไปนิด เนื่องจากขนาดของร้านไม่ใหญ่

การบริการค่อนข้างรวดเร็วพอสมควร

เมนูเด่นของร้านที่ต้องลองคงไม่พ้น ข้าวหน้าเนื้อไข่อองเซ็น

เลือกขนาดของชามข้าวได้ตามปริมาณที่เราต้องการ คือ ไซส์ S M และ L ค่ะ

ราคาข้าวหน้าเนื้อ เริ่มต้นที่ 69 บาท เพิ่มไข่อองเซ็นอีก 20 บาทค่ะ

หลายคนอาจสงสัยว่าไข่อองเซ็นคืออะไร? ถ้าเรียกให้เข้าใจง่ายก็คือไข่ลวกค่ะ

ซึ่งการลวกต้มในอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม เราจะได้ไข่อองเซ็นที่ไข่ขาวยังไม่สุกแข็ง (เป็นวุ้นๆ)

และไข่แดงเยิ้มๆ ทานคู่กับข้าวหน้าเนื้อจะเข้ากันมากๆ ค่ะ

ข้าวหน้าเนื้อที่นี่ทำได้หอมอร่อย ข้าวนุ่ม เนื้อแผ่นบางรสหวานและไม่เหนียวค่ะ

ส่วนเครื่องเคียงทานเล่นอย่างเต้าหู้อะเกะดาชิก็น่าทานไม่แพ้กันค่ะ (75บาท)

เค้าใช้เต้าหู้ขาวทอดด้านนอกจนกรอบ แต่ด้านในยังนุ่มอยู่ ราดด้วยน้ำซอสรสอ่อน

เป็นเมนูที่อร่อยและดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก