นักรีวิวร้านอาหาร

Fuji สาขาเซ็นทรัลพระราม 2 หนึ่งในร้านประจำเพราะอยู่ในห้างฯ ใกล้บ้าน
สาขานี้ถ้ามาช่วงเย็น หรือวันเสาร์อาทิตย์ ต้องทำใจไว้เลยว่าคิวยาว
ร้านปรับปรุงใหม่อยู่เรื่อยๆ ภานในร้านเลยดูค่อนข้างใหม่
แต่โต๊ะค่อนข้างจะแออัด โดยเฉพาะถ้าได้โต๊ะเล็ก แทบจะวางอาหารบนโต๊ะไม่พอเลยสเต๊กปลากระพง ไม่ได้สั่งเมนูนี้นาน รู้สึกชิ้นเล็กลงกว่าเดิม
ครั้งนี้ทอดมาได้สุกกำลังดี เนื้อไม่แห้งเกินไปแซลม่อนราดซอสไข่ปลา เนื้อปลาสด ราดซอสรสชาติดี เผ็ดนิดๆ
เมนูนี้ชอบมาก มาแล้วต้องสั่งข้าวผัดกระเทียมค่อนข้างมัน กลิ่นกระเทียมชัดดี ข้าวไม่แฉะเกินไปแซลม่อนชุปเกล็ดขนมปังทอดไส้มายองเนส
ทอดได้กรุปกรอบดี ปริมาณเยอะ กินไปกินมาก็เลี่ยนนะ
กินหมดทั้งเซ็ทอิ่มตื้อกันเลยทีเดียวเต้าหู้ปลาแซลม่อนและปลาไหล
เต้าหู้นุ่มๆ และปลาย่างหอมๆ ราดซอสออกหนืดๆ นิดนึง
ปลาหอมและอร่อยดี ทาโกะยากิ ปลาหมึกทาโกะหนึบๆ แป้งหอมดี โรยหน้าด้วยปลาแห้ง
รสชาติพอใช้ได้ ทาโกะร้อนมาก ตอนกินให้ระวังด้วย

การบริการของพนักงานพอใช้ค่ะ ถ้านั่งโต๊ะที่อยู่มุมด้านในจะเรียกพนักงานยากหน่อย
ที่ไม่ชอบเลยคือการจัดร้านที่แออัดและแคบมาก
เก้าอี้นั่งที่ด้านหลังเป็นฉากกั้น บางทีถ้าเจอเด็กที่นั่งโต๊ะด้านหลังเดินเล่นไป
เก้าอี้จะสะเทือนถึงที่นั่งเรา นั่งกินกันไม่เป็นสุขเลย

เกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ ร้านอาหารแนวฟิวชั่นฟู้ดบรรยากาศดีๆ ที่ชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ค่ะ
ร้านมีที่นั่งไม่มาก ถ้ามาช่วงค่ำหน่อยอาจต้องรอคิวค่ะ
เรามาทานวันจันทร์ คนเลยไม่ค่อยเยอะ แป๊บเดียวก็ได้โต๊ะแล้ว
สั่งอาหารไปหลายอย่าง อาหารที่นี่เร็วมากค่ะ
เรียกว่าตอนเลือกอาหารในเมนู ยังรอนานกว่าตอนรออาหารอีกมั๊ง

ระหว่างรออาหารเค้าจะยกขนมปังมาเสิร์ฟก่อน (ฟรีค่ะ)
ขนมปังอร่อย แต่อย่ากินเยอะ จะตัดกำลัง เดี๋ยวกินข้าวไม่ลงนะ

อาหารที่สั่งมาก็จะมีอาหารที่เป็น Signature Dish ของร้าน
อย่าง Complicate Noodle หรือ ก๋วยเตี๋ยวห่อหมูสับค่ะ
จะมีแผ่นแป้งสี่เหลี่ยม หมูสับ น้ำจิ้มรสเปรี้ยว และผักกาดแก้วมาให้ค่ะ
เวลาทานต้องห่อเป็นคำๆ เอง สนุกไปอีกแบบค่ะ

Sandwich in a Bowl หรือ สลัดแซนวิซทูน่า ในชามมีขนมปังกรอบชิ้นใหญ่
เห็ด ทูน่าสลัด และราดด้วยน้ำสลัดค่ะ กลิ่นหอม รสชาติดีค่ะ

แซลม่อนแช่พริก เค้าใช้แซลม่อนสดแล่บาง ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดค่ะ
อร่อย และไม่เผ็ดเกินไป แต่จานนี้ปริมาณค่อนข้างน้อยค่ะ

สปาเก็ตตี้ปลาสลิด เป็นสปาเก็ตตี้แบบไทยผัดแห้งกับปลาสลิดกรอบ
รสชาติดีและไม่เลี่ยนค่ะ

เกาเหลาต้มยำแห้ง เป็นเกาเหลาแบบไทยๆ เผ็ดนิดๆ
ชามนี้เราไม่ชอบตรงที่รสชาติซีอิ๊วหวานค่อนข้างชัดไปนิดนึงค่ะ

ของหวานสั่งมาแค่จานเดียว คือ Brownie with ice cream ค่ะ
เป็นบราวนี่อบกรอบร้อนๆ โปะด้วยไอศกรีมวนิลา และวิปครีมค่ะ
บราวนี่หวานไปนิด รสชาติดี แต่พอทานเยอะหน่อยรู้สึกเลี่ยนค่ะ

ร้านตกแต่งสวยงามน่านั่ง เก้าอี้นั่งสบาย พนักงานก็บริการดีค่ะ

ราคาอาหารมื๊อนี้ประมาณ 1,200 บาทค่ะ

ร้านอีสานเดิม อยู่ถนนพระราม 3 ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนวัดด่านค่ะ

ร้านนี้ขายอาหารอีสาน อาหารทะเล และปลาเผาค่ะ

เรามาทานที่นี่ครั้งแรกเลยค่ะ เพื่อนแนะนำมา

จอดรถในร้านได้ค่ะ มีลานจอดรถค่อนข้างกว้างค่ะ

ในร้านที่นั่งเยอะพอสมควรค่ะ เราเปิดเมนูดู อาหารมีให้เลือกหลากหลายมาก

แต่ในเมนูไม่มีราคาอาหารค่ะ จะสั่งอาหารบางอย่างก็ลังเล

เพราะไม่รู้ราคา และมาที่นี่ครั้งแรก

สุดท้ายเลยเลือกสั่งอาหารอีสานมา 4-5 อย่างค่ะ

กุ้งแช่น้ำปลา - กุ้งสดขนาดปานกลาง วางบนผักกระหล่ำซอย
มะระดิบ กระเทียม และราดน้ำจิ้มซีฟู้ดค่ะ ผักค่อนข้างจะแห้งไปนิด น้ำจิ้มค่อนข้างเผ็ดค่ะ

ต้มแซ่บเอ็น - เป็นเนื้อตุ๋นและเอ็น และเครื่องในอะไรต่อมิอะไรมากมาย ดูไม่ออกค่ะ
รสชาติดี ไม่เหม็นคาว แต่ไม่รู้จริงๆ ว่ากินส่วนไหนของวัวเข้าไปบ้าง

คอหมูย่าง - หอมอร่อยค่ะ แต่มันค่อนข้างจะเยอะนิดนึงนะคะ ขนาดเราเป็นคนชอบกินมันๆ
บางชิ้นไม่กล้ากินค่ะ มันเกือบทั้งชิ้นเลย

ลาบหมู - จานนี้เฉยๆ ค่ะ เหมือนเค้าทำไม่ค่อยเข้าเนื้อซักเท่าไหร่

ยำหอยนางรม - อร่อย รสชาติดี เครื่องยำก็หอมอร่อย จานนี้เยอะมากค่ะ

รสชาติอาหารรวมๆ ถือว่าดีค่ะ แต่ค่อนข้างเผ็ดไปนิดสำหรับคนทานเผ็ดไม่เก่งแบบเรา

การบริการของพนักงานก็ดีค่ะ ส่วนเรื่องความสวยงามหรือความสะอาดในร้านนั้นไม่ได้คาดหวังเยอะค่ะ
ดูจากหน้าตาและภาพรวมของร้านแล้วก็ถือว่าพอใช้ได้ค่ะ ส่วนราคาอาหารถือว่าไม่แพงค่ะ

หลังเลิกงานเรามาปาร์ตี้เนื้อย่างกันที่ King Kong สาขาประชาอุทิศค่ะ (เหม่งจ๋าย)
ตรงนี้จอดรถลำบากซักหน่อย ตอนกลางวันต้องจอดในซอยก่อนถึงร้าน
ถ้าหลัง 6 โมงเย็นไปแล้ว จอดริมถนนได้ค่ะ

King Kong เป็นบุฟเฟต์ Yakiniku ราคา 520 NET ค่ะ
(ขึ้นราคาอีกแล้วอ่ะ คราวก่อนมายัง 490 บาทอยู่เลย)
ตอนนี้เค้ามีเมนูใหม่มาเพิ่มด้วยค่ะ นั่นก็คือ ตับวัว โตเกียวซอสเซส (ก็ไส้กรอกน่ะแหละ)
ซี่โครงหมูหมักมิโสะ และ เนื้อแกะติดกระดูกค่ะ
ว่าแล้วก็สั่งของใหม่มาลองทันที

ไส้กรอกกับซี่โครงหมูนี่เฉยๆ ค่ะ
แต่เนื้อแกะนี่ต้องบอกเลยว่าฟินมาก คือเนื้อนุ่ม ไม่เหนียวและ
และที่สำคัญเลยคือกลิ่นไม่แรง ไม่เหม็นสาบค่ะ (คือมีกลิ่นจางๆ ให้รู้สึกว่าเป็นเนื้อแกะ)

ส่วนของอย่างอื่นที่มีอยู่เดิมในเมนู ก็ยังคงรักษามาตรฐานไว้เหมือนเดิมค่ะ
อย่างเนื้อสัน เนื้อลาย เนื้อติดมัน ก็นุ่มและไม่เหนียวค่ะ
ส่วนเบคอนนั้นรู้สึกมันเยอะไปนิดนึง
ปลาแซลม่อน หอยแมลงภู่ และกุ้ง อันนี้ไม่สดมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแย่นะ
พวกผักและเครื่องเคียงต่างๆ ก็โอเคค่ะ สรุปว่าให้ผ่านละกัน

ส่วนเครื่องดื่มรวมอยู่ในราคาบุฟเฟต์อยู่แล้วค่ะ มีทั้งน้ำอัดลม
ชาไทยเย็น ชาเขียวเย็น ชาเขียวร้อน ชามะนาว
เราสั่งชาเขียวเย็นกลิ่นข้าวคั่ว แต่รสชาติก็ชาเขียวจืดๆ ธรรมดาไม่มีกลิ่นเลยอ่ะค่ะ
ไม่เห็นมีกลิ่นข้าวเลย แอบผิดหวังนิดหน่อย

อิ่มอาหารคาวแล้ว ท้องยังมีที่เหลือใส่ของหวานอีกนิดหน่อย
สั่งมาเลยทั้งน้ำแข็งไสถั่วแดง และ เยลลี่สตอเบอรี่ค่ะ ท้องแตกกันไปเลยวันนี้

ความสะอาดของร้านโอเคมากๆ ค่ะ พนักงานก็บริการดี ถ้าคนเยอะอาจบริการไม่ค่อยทัน
แต่เราว่าพนักงานเค้ากระตือรือร้นดีอ่ะ เวลาเรียกก็รวดเร็วว่องไว บริการดี

ร้าน Mo Mo Paradise อยู่ชั้น 7 ห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ค่ะ
พอดีเพื่อนสนิทคนนึงบอกว่าอร่อย นางโปรดร้านนี้มากๆ
เราก็ลังเลๆ อยู่หลายครั้ง ไม่ได้ลองซะที
พอดีเห็นตอนนี้มีโปรโมชั่นบัตร JCB ลด 20% อยู่ค่ะ
เลยไปลองดูซะหน่อยว่าอร่อยสมคำร่ำลือไหม

ภายในร้านไม่กว้างมากค่ะ ที่นั่งเยอะพอสมควร
ถึงแม้เค้าจะจัดโต๊ะและกั้นไว้เป็นสัดส่วน
แต่ก็ถือว่าแคบและอึดอัดอยู่ดีค่ะ
ตรงจุดที่เรานั่งอยู่สุดกำแพงด้านใน
และมีทางเดินลึกเข้าไปเป็นแนวยาวอีก
เวลาพนักงานถือของเดินผ่านหลังไป แอบหวาดเสียวตลอด
เพราะทางเดินด้านหลังดูแคบมาก

เราไปกัน 2 คน แต่ได้โต๊ะสำหรับ 4 คนค่ะ
ของมาเสิร์ฟก็เต็มโต๊ะแล้ว
ยังแอบมองโต๊ะสำหรับ 2 คนอยู่ว่า เค้าวางจานอาหารพอได้ยังไง

ด้วยความที่ไม่เคยทานมาก่อน เปิดเมนูก็ยังงงๆ
พนักงานก็ให้คำแนะนำอยู่บ้าง แต่พูดค่อนข้างเร็ว เราก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่
สุดท้ายก็เลือกบุฟเฟต์ 399++ บาท ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม
ในชุด 399++ นี้ จะมีแค่เนื้อหมูดำคุโระบุตะ และ เนื้อวัวออสเตรเลียค่ะ
หากอยากได้ของที่หลายหลายขึ้นอีกหน่อยราคาต่อหัวก็จะสูงขึ้น

ราคาเครื่องดื่มจะแยกต่างหากค่ะ คนส่วนใหญ่จะสั่งเครื่องดื่มแบบรีฟิล
ก็คือได้แก้ว 1 ใบ แล้วไปกดเองนั่นแหละ แต่เราสั่งน้ำเปล่าค่ะ (25 บาท)

พอสั่งอาหารเสร็จก็ยังงงๆ กันอยู่ เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะยกอะไรมาเสิร์ฟบ้าง
เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างๆ เค้าเดินยกจานผักมาที่โต๊ะ เลยรู้ว่าผักต้องไปตักเอง

เคาท์เตอร์สำหรับตักผักอยู่ติดมุมกำแพงอีกด้านของร้านค่ะ
ดูสะอาดสะอ้านและมีให้ผักเลือกเยอะพอสมควร
เช่นสาหร่าย เห็นเข็มทองเห็ดเออรินจิ ต้นหอมญี่ปุ่น ข้าวโพด ผักกาดขาว เส้นบุก ฯลฯ
เราก็เลือกมาอย่างละนิดละหน่อย

เดินกลับมาที่โต๊ะ หม้อน้ำซุปก็มาตั้งแล้วค่ะ
เค้ามีน้ำซุปให้เลือก 3 แบบ คือ ชาบูชาบู สุกี้ยากี้ และคารามิโซะ
สำหรับราคา 399++ นั้น สามารถเลือกน้ำซุปได้อย่างเดียวค่ะ
เราเลือกซุปชาบูชาบู เป็นซุปใสค่ะ น้ำจิ้มมี 2 แบบ (สปอนซึ กับ งา) ค่ะ
น้ำซุปก็จืดๆ ค่ะ ส่วนน้ำจิ้่มอร่อยดี

เนื้อหมูเค้าสไลด์มาบางมากค่ะ ลวกแป๊บเดียวก็สุกแล้ว นุ่มและอร่อยดี
ส่วนใครชอบทานเนื้อวัวน่าจะถูกใจกับเนื้อวัวออสเตรเลียสีสด ลายสวย
สไลด์บางแต่ชิ้นใหญ่ นุ่มและไม่เหนียวค่ะ
สามารถสั่งได้เรื่อยๆ จนกว่าจะอิ่มเลยค่ะ

สรุปโดยรวมเลยนะคะ

สถานที่และบรรยากาศ : ร้านดูดี แต่จัดร้านแคบเกินไปค่ะ
การบริการ : พนักงานพูดจาดีและสุภาพดีค่ะ แต่เรื่องการอธิบายเมนูอาหารให้กับลูกค้ามือใหม่อย่างเรา ยังต้องปรับปรุงอีกนิดค่ะ (เอ๊ะ หรือเราเข้าใจยากกันนะ)
อาหาร : คุณภาพของอาหารดีค่ะ ของที่ใช้ก็ดูเป็นของดี หักคะแนนเรื่องความหลากหลายของอาหารค่ะ
ราคา : 399++ ฟังดูเป็นราคาที่จ่ายไหว (แต่ยังไม่รวม VAT + Service Charge นะคะ) หากเพิ่มความหลากหลายของอาหารอีกซักหน่อยจะคุ้งค่าคุ้มราคามากกว่านี้ค่ะ