Thai | English
saoguide
ฉันชื่อsaoguide อาศัยอยู่ในดินแดง. I am a Traveller&Travelerชอบไปลั้นลาที่ดินแดง, ถนนพญาไท, รามอินทรา. อาหารไทยทั่วไป, อาหารใต้, อาหารอิตาเลียน are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านกาแฟ / ร้านชาและขนมหวาน ไอศครีม, ปิ้งย่าง บาร์บีคิว, อาหารทะเล.
สมาชิก 368 รีวิวแรก
รีวิว944 รีวิว
編輯推介數目286 Editor's Choice
Recommended85 แนะนำ
ความนิยม12550 เข้าชม
Replies in Forum6 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ16104 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ6 วิดีโอ
My Recommended Reviews0 รีวิวแนะนำ
My Restaurant507 ร้านโปรด
Follow606 Following
粉絲7485 Follower(s)
saoguide  Level 4
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่ ยิ้ม ยิ้ม ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  Editor's Choice  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
 
  เวอร์ชั่นเต็ม เวอร์ชั่นเต็ม   |   ดูแผนที่ ดูแผนที่
แสดงรีวิวที่ 41 ถึง 45 จาก 944 รีวิวใน ประเทศไทย
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านกาแฟ / ร้านชา | ลำลอง

วันนี้จะพาไปร้านชาที่โคตะระถูกจริตเรามาก ไปแล้วนี่อยากไปอีกค่ะ (ช่วงนี้โชคดี ได้ไปกินแต่ร้านที่ตัวเองชอบอ้ะ ต้องทำบุญด้วยอาหารอร่อยๆ ต่อไป...เดี๋ยวค่ะป้าเดี๋ยว) กับร้าน TE Time and Space ทองหล่อนั่นเองหละค่ะ


สำหรับพิกัด ร้านจะอยู่ในซอยทองหล่อ25 นะคะ ตรงข้ามกับคอนโดมีเนียม Art@Thonglor เลย ไม่มีที่จอดรถค่ะ (จอดหน้าร้านได้ 1 คัน) เพราะฉะนั้นแนะนำให้ไปรถสาธารณะหรือแท็กซี่น่าจะดีกว่า ส่วนวันนั้นเราเอารถไป ขับเลยร้านไปเจอสามแยก เลี้ยวขวา แล้วก็ต้องหาข้างทางจอดเอาค่ะ

 


ลักษณะร้านเป็นอาคารพาณิชย์คูหาเดียวค่ะ ร้านจะเป็นทั้งชั้นล่างและชั้นสองนะคะ (นี่ไปตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดกันเลยทีเดียว 5555) ร้านเปิด 10.00-19.00 น. และปิดวันจันทร์กับอังคารค่ะ

 

 

เราขึ้นไปที่ชั้นบนกันดีกว่าค่ะ ชั้นสองนี่จะทำที่นั่งเป็นสองเสต็ปด้วยกันนะคะ นั่นคือด้านหน้าเคาน์เตอร์ กับที่ยกพื้นขึ้นไปหน่อยจะเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ค่ะ

 


สำหรับร้านนี้ก็จะมีชื่อเสียงในเรื่องชาหละนะคะ ซึ่งก็มีร้านสาขาที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่ด้วย แต่สาขานี้จะมีพื้นที่เป็นกิจจะลักษณะมีความเป็นร้านมากกว่าค่ะ และนอกจากนั้นร้านนี้ก็มีคอร์สสอนเบลนด์ชาด้วย (ใช่ค่ะ ชาทุกตัวของร้านนี้เจ้าของ - คุณปลาเบลนด์เองหละ) ซึ่งก็จะเป็นการสอนไปชิมไปค่ะ ถ้าใครสนใจก็ลองติดต่อไปที่ร้านได้นะคะ เบอร์ 0817007176 ค่ะ แว่วๆ ว่าเร็วๆ นี้จะมีคอร์สดื่มชาแพร์ริ่งกับช็อกโกแลตด้วยยยย อิชั้นนี่หูผึ่งเลย เพราะมันคือของรักของข้าาา (เดี๋ยวค่ะป้าเดี๋ยว) มันเป็นของโปรดทั้งสองอย่างอิชั้นเลยยยยย น่าสนใจฝุดๆ ฮ่ะ

 

 

 

ชาตัวแรกที่ได้ลองชิมกันค่ะ

Silent Lullaby

เบลนด์มาจาก chamomile ขิง เก็กฮวย ชะเอมเทศ และดอกเบญจมาศค่ะ

 


ใครไม่หลับมาทางนี้ ชานี้ช่วยคุณได้ สารภาพว่ากินไปสักพักนี่เคลิ้มมาก (เอ๊ะ หรืออิชั้นจะโดนของ?) ถึงกับหาวหวอดๆ ทั้งที่ก็ไม่ได้อดนอนค่ะ (ตอนแรกไม่เท่าไหร่ พอกินตัวที่สองไปด้วยนี่แหละค่ะ หาวออกมาเลย ง่วงงุนอย่างแรง) อเมซซิ่งมาก รสและกลิ่นที่เด่นจะเป็นคาโมไมล์กับขิงค่ะ ออกแนวอบอุ่นๆ หน่อย เหมาะกับคนขี้หนาวอย่างข้าพเจ้ามาก กินแล้วให้ความรู้สึกอุ่นอ่อนโยน อยากนอนในอ้อมกอดใครสักคน (ใครก็ได้ลากป้ากลับมาที) ใครอยากได้ชาที่ให้อารมณ์ประมาณนี้ ลองตัวนี้ได้เลยนะคะ



ตัวที่สองค่ะ สตาร์สตารี่ไนท์

เป็นส่วนผสมระหว่างไส้กาเกา (ผลโกโก้) เปลือกโกโก้ แบล็คมินท์และชาดำอัสสัมค่ะ

 


ตัวนี้แหละค่ะ พอโดนสำทับไปกับตัวแรก ง่วงกันเลยทีเดียว หาวออกมาเลย อยากขอที่นอน หมอน มุ้งมากมาย ตัวนี้เป็นตัวใหม่นะคะ (เอาเป็นว่าร้านนี้เค้ามีชาใหม่ๆ มาเรื่อยๆ เลยแล้วกันค่ะ 555) ก็เลยยังไม่มีส่วนผสมบอกในใบโบรชัวร์ 555555



มีชาแล้วก็ต้องมีขนมสิคะ ของมันคู่กันค่ะคุ้ณ ซึ่งขนมนี่ทางร้านไม่ได้ทำเองค่ะ แต่เอาของที่อร่อยมาขาย (คิดถูกมากค่ะ เพราะฉะนั้นร้านนี้จึงมีแต่ของอร่อยๆ 555) อย่างสโคนนี่มีแบบสโคนเนยกับสโคนแครนเบอร์รี่ และสโคนเชดดาร์กับเบคอนค่ะ วันนี้เราได้ลองแค่สองตัวแรกนะคะ

เนื้อสโคนแบบที่เราชอบเลย คือไม่แห้งร่วนเกินไป มีความแน่นฉ่ำนิดๆ หอมเนยมาก เทกซเจอร์ดี รสชาติก็ดีค่ะ แยมจะมีสองตัวคือฟิกซ์กับน้ำผึ้ง และแอปเปิ้ลกับวานิลา ซึ่งเป็นอีกอย่างที่ทางร้านเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่นกัน (เจ้าของร้านเป็นคนขี้เบื่อปะเนี่ย 5555 แต่ดีนะคะ ทำให้ไปซ้ำก็มีเมนูใหม่ๆ มาให้ลองหละ นี่ถ้าอยู่ใกล้บ้านคงไปมันทุกอาทิตย์ฮ่ะ) แยมอร่อยทั้งสองตัวเลยค่ะ ชอบมาก ตัวเนยก็ใช้เนยดีค่ะ หอม ชุ่มฉ่ำเนยมาก อร่อยยยยยยย

 

ต่อไปเป็นอีกหนึ่งขนมคู่ชาค่ะกับ Financier (เพื่อนบอกว่าออกเสียงว่าฟินองเซียร์นะฮะ) เป็นขนมสไตล์ฝรั่งเศสชิ้นเล็กๆ คล้ายๆ อัลมอนด์เค้กผสมเค้กบัตเตอร์ เป็นขนมเก่าแก่ของฝรั่งเศส ส่วนประกอบหลักนั้นมีแต่ไข่ขาว ไม่มีไข่แดงค่ะ เย้ๆ

รูปลักษณ์ของมันโดยดั้งเดิมจะทำในพิมพ์รูปทองแท่ง มีต้นกำเนิดจากร้านเบเกอรี่ในย่านเศรษฐกิจของปารีสที่เรียกว่า La Bourse du Commerce หรือตลาดซื้อขายหุ้นของปารีส ซึ่งชื่อของขนมชนิดนี้ก็ไปพ้องความหมายกับนักการเงินนั่นเองค่ะ ซึ่งอาจจะเล่นกับความเชื่อของนักธุรกิจชาวปารีสกันมากน้อยระดับหนึ่งน่ะนะคะ แล้วก็เจ้าขนมนี้จะทำจาก Almond Meal คือทำจากอัลมอนด์บดละเอียดนั่นเองค่ะ ไม่มีแป้งนะฮ้าบบบ

วันนั้นที่เราได้กินมีสามรส ตามรสของชาที่มีขายที่ร้านเลยนะคะ นั่นก็คือ ทรอปิคัลวันเดอร์แลนด์ (ใกล้) คิสฟอร์มอะโรส (กลาง) และมิดไนท์เอิร์ลเกรย์ (ไกลสุด)

แต่ละชิ้นนี่หอมชามากค่ะ ละมุน ไม่หวานจัด มีความหอมเนยแบบเนยที่น่าจะมีการเคี่ยวหรือคั่วไฟนิดๆ หละค่ะ กินกับชาแล้วคือดีย์

 


และตัวนี้เป็นตัวที่เราชอบสุดเลยค่ะ คิสฟอร์มอะโรสสสสสสสส

เบลนด์ด้วยชาดำอัสสัม กุหลาบฝรั่งเศส และเปปเปอร์มินท์นะคะ

คือ มันมีความเป็นผู้ญิ้ง ผู้หญิง หอม และมีความมุ้งมิ้งสูงมาก บอกไม่ถูกค่ะ ต้องไปลอง ใครชอบรสและกลิ่นที่มีความเป็นผู้หญิงมากๆ นี่เชียร์เลยค่ะ เราขนาดไม่ค่อยมีความเป็นผู้หญิง (คือไม่อ่อนหวาน แต่งี่เง่าเนี่ย ใช่เลย 55555) เรายังชอบค่ะ ดีย์อ้ะ

 

นอกจากนั้นก็ยังมีอาหารสำหรับใครที่หิว อยากกินอะไรหนักๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นข้าวไก่กระเทียม ข้าวแกงกะหรี่ซี่โครงหมูแบบไทย (มีอาจาดด้วย) และสปาเก็ตตี้ค่ะ รสออกแนวโฮมเมดมากๆ 

 

 

เราชอบสุดคือข้าวแกงกะหรี่ซี่โครงหมูค่ะ ยิ่งกินกับอาจาดด้วยนี่เข้ากั๊นเข้ากันค่ะ ดีงาม

 


ส่วนถ้าใครชอบชาเย็น ทางร้านก็มีให้เช่นกันค่ะ อย่างทรอปิคัลวันเดอร์แลนด์นี่เป็นชาแบบเดียวกับตัวร้อน แต่เพิ่มน้ำมะพร้าวลงไป แล้วแต่ละเดือนก็จะมีเมนูพิเศษๆ อย่างเดือนนี้จะเป็นพิงค์ดราก้อนนะคะ ซึ่ง...จริตเรา เราชอบชาร้อนของที่นี่มากกว่านะ แต่คนไทยส่วนใหญ่คงชอบดื่มเย็นมากกว่ากระมัง แหะๆ

 


ที่เราชอบอย่างหนึ่งของที่ร้านนี้นะคะ คือ เขาเข้าใจขั้นตอนของการชงชาอ้ะ คือ มีอุ่นแก้วชา มีดูอุณหภูมิชา เวลาในการต้องทิ้งไว้ให้ชาฟิวส์กับน้ำ (และน้ำที่นี่ไม่มีกลิ่นคลอรีนเหมือนหลายร้าน) แล้วเวลาจะริน ก็จะรินออกจากกาชง (ที่มีใบชา) ลงกาเล็กก่อนแล้วถึงจะเอากาเล็กนั้นรินใส่แก้วอีกที คือแบบ....ดีมาก นานๆ จะเจอร้านชาถูกจริตตัวเอง ยอมรับเลยค่ะว่าปลื้มมาก

 


อีกหนึ่งขนมที่มาร้านนี้ห้ามพลาดค่ะ อร่อยมากกกกกกกกก ไม่เกรงใจนี่อยากจะกินมันคนเดียวทั้งชิ้นค่ะ ชีสเค้ก คือดีย์ ชีสดีมาก หอมชานิดๆ อร่อยยยยยย อยากแอบถามมากว่าสั่งร้านไหนอ้ะะะะะะ 

 

ส่วนตัวนี้เป็นไอเท็มลับ 555555555 เป็นไอเท็มล่าสุด เป็นแรงบันดาลใจจากทริปฮอกไกโดของคุณปลานะคะ ฮอกไกโดบลูม

มีโรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ เปปเปอร์มินท์ บลูแอนด์พิงค์คอร์นฟลาวเวอร์ คาเลนดูล่า เลมอนบาล์มค่ะ

ตัวนี้รสและกลิ่นไม่เด่นค่ะ แต่หน้าตาสีสันมุ้งมิ้งมาก 555 

 


ก่อนจะไปสรุป ปิดท้ายด้วยสวนลับของทางร้านนะคะ สามารถแจ้งทางร้านเพื่อไปนั่งจิบชาตรงนี้ได้ค่ะ รับรองว่าส่วนตัวแน่ๆ อิอิ

 


สรุปสำหรับที่นี่นะคะ


เป็นร้านที่ถูกจริตสายชาอย่างเรามากกกกกก ความเอาใจใส่ รสชาติของชา ความสร้างสรรค์ การคัดเลือกขนมที่มีแต่ของอร่อยๆ อัธยาศัยของคุณปลาที่เฟรนด์ลี่สุดๆ เป็นอีกที่ที่อยากไปซ้ำค่ะ เสียดายนิดเดียวตรงหาที่จอดรถยากไปหน่อย ถ้ามีที่จอดรถอีกอย่างนี่จะเพอร์เฟ็คสำหรับเรามากเลยค่ะ


ถ้าใครชอบชา อยากให้ไปลองนะคะ จะไปดื่มชิมเฉยๆ หรือจะเข้าคอร์สเบลนด์ หรือจะรอคอร์สแพร์ริ่งกับช็อกโกแลตก็ได้ค่ะ คิดว่า Tea Lover น่าจะประทับใจเหมือนเรานะคะ

 
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 4  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านอาหารทั่วไป | ปิ้งย่าง บาร์บีคิว | อาหารทะเล | บุฟเฟ่ต์ | บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม

วันนี้จะพาไปกินบุฟเฟต์กันอีกแล้ววววว (อะไรคือปณิธานลดน้ำหนัก - ถามตัวเองเป็นรอบที่ร้อย 555555) ซึ่งเป็นร้านที่สร้างมาจากร้านเก่าแก่ร้านหนึ่ง นั่นก็คือร้านผักสดหมูอร่อย ผู้บุกเบิกหมูกระทะเจ้าแรกๆ นั่นเองค่ะ แต่ ณ ปัจจุบันใช้ชื่อร้านนี้แทนกับ Grills House นะคะ เจ้าของยังคงเป็นคนเดิม (และครอบครัวเดิม) แต่ปรับเปลี่ยนอาหารและลุคไปในอีกลุคหนึ่งค่ะ



สำหรับพิกัดร้าน ร้านอยู่ถนนประดิษฐ์มนูธรรมนะคะ (หรือเลียบด่วนรามอินทรานั่นเอง) ตำแหน่งจะบอกว่าอยู่ซอยจำเนียรเสริม แต่ถ้าเอาที่เป็นพิกัดที่น่าจะรู้จักกันก็คือ อยู่ซอยเดียวกับโกลเด้นเพลสอะค่ะ สามารถใช้ google map ได้นะคะ พิกัดตรงเป๊ะเลย

 


ที่หน้าร้านมีที่จอดรถพอสมควรเลยค่ะ เราไปช่วงวันหยุดยาว เลยจอดได้สบายๆ เลย แฮร่...

 

ก่อนจะเข้าไปดูบรรยากาศร้าน ก็ขอแนะนำพ่อค้าแซ่บประจำร้านกันสักหน่อยค่ะ 555 (ป้าไม่ค่อยออกนอกหน้าเลยนะป้านะ) กับสองหนุ่มลูกชายที่ทำหน้าที่ดูแลร้านกันคนละส่วนนั่นก็คือ คุณหมิง (หรือมิ้ง) คนพี่ที่ดูแลเรื่องการตลาด และคุณมอส คนน้องที่จบ Food Science มศว. ที่ดูแลเรื่องการควบคุมคุณภาพและรสชาติของอาหารให้ตรงกับสูตรของคุณแม่ที่เป็นคนก่อตั้งร้านนะคะ

 

 


ที่ต้องเอาน้องสองคนนี้มาให้ดูก่อน ไม่ใช่เพราะหน้าตา (ถึงแม้ป้าจะหื่นแค่ไหนก็ตาม 5555555) แต่พอได้พูดคุยกับทั้งสองคนและคุณแม่แล้ว...เคยรู้สึกไหมคะว่า คนบางคนทำบางเรื่องเพื่อเงิน เพื่อชื่อเสียงหรือเพื่ออะไรก็ตาม แต่กับบางคนแล้วเขาทำบางสิ่งด้วยความรัก ทำมันอย่างมี passion และร้านนี้คือสิ่งนั้นค่ะมันเป็นการทำเพื่ออยากให้คนที่มากินได้กินของดี ได้กินของอร่อย มันคือความสุขที่ได้ทำหลายๆ สิ่งให้กับคนกินน่ะ ซึ่งเราไม่เจอร้านแบบนี้มานานมากแล้ว พอได้เจอแล้วก็เลยรู้สึกดีมากๆ จริงๆ ค่ะ


ซึ่งการดูแลคุณภาพ บุฟเฟต์หลายๆ ที่ก็ไม่แคร์กับตรงนี้ด้วยซ้ำ (แม้กระทั่งรร.ระดับห้าดาวบางรร. เหอๆ) แต่ที่นี่ไม่ใช่ค่ะ หลายๆ อย่างนี่เห็นเลยว่าละเอียดอ่อนมาก การปรุง สูตรการทำอาหารหลายๆ อย่างมันคือความพิถีพิถันแบบโฮมเมด และเราเองคิดว่านี่คือจุดแข็งของร้าน ไม่ได้ขายที่ความถูก ไม่ได้ขายที่ความเป็นบุฟเฟต์ที่กินได้เยอะ แต่ไม่สนใจคุณภาพวัตถุดิบหรือรสชาติเหมือนหลายๆ ที่ และเป็นที่ที่เราอยากสนับสนุนค่ะ (เขียนเหมือนได้ตังค์เลย 5555 ทั้งที่งานนี้เพื่อนชวนไปกินแล้วไม่ได้บังคับหรือขอว่าต้องทำรีวิวเลยนะ แต่อยากทำอ้ะ คิดดู๊ 5555555)


เอาหละค่ะ ต่อไปก็จะเริ่มเข้าสู่การรีวิวแล้วนะคะ ร้านนี้เปิด 12.00-22.00 น.ค่ะ สำหรับช่องทางการติดต่อร้านก็ตามนี้เลยนะฮับบบ

https://www.facebook.com/GrillsHouse/
02-934-4904 / 081-753-6918
Line@ : @grillshouse


ที่ร้านนี้จะเป็นห้องแอร์ทั้งหมดค่ะ โดยแยกออกเป็นส่วนรับลูกค้าทั่วไปและติดกันจะเป็นอีกส่วนสำหรับการรับกรุ๊ปทัวร์ค่ะ

 


ราคาบุฟเฟต์ที่นี่จะเป็น 589+ [Yakiniku & Seafood Buffet] นะคะ โดย + แค่ภาษี ไม่มีบวกเซอร์วิสชาร์จค่ะ แต่ก็มี Special Menu บวกเพิ่มอีก 89+ บาทด้วยนะคะ โดยมีเวลาในการกิน 2 ชม.เต็มค่ะ ถ้าจะกินเกินเวลาเสียเพิ่มอีกท่านละ 100 บาทและได้เวลาเพิ่มอีก 30 นาที

 


แต่ถ้าใครกินแล้วติดใจ แนะนำให้สมัครสมาชิกค่ะ จะมีการสะสมแต้มทุกๆ 100 บาทได้ 1 แต้ม 40 บาทจะสามารถแลกเบียร์ได้ 1 ขวด มาสี่ท่านจ่ายสามท่านในเดือนเกิด วันเกิดรับเค้กแซลมอนฟรี โดยการสมัครสมาชิกที่นี่ ฟรีค่ะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนะคะ


สำหรับจุดเด่นแรกที่จะพูดถึงเลยนะคะ ก็คือ "ซอส" ทั้งสามแบบที่ใช้ในการหมักและราดเนื้อสัตว์ต่างๆ ของร้านนี้ค่ะ ซึ่งมีด้วยกันสามสูตร สามสัญชาติเลยค่ะ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี แต่รสชาติได้ทำการสร้างสรรค์ให้เหมาะกับลิ้นและจริตคนไทยนะฮับบบบบ

ซอสยากินิคุ - รสจะออกหวานแต่มีความหอมและรสของผลไม้มาเบาๆ เป็นซอสที่มีการผสมผสานจากหลากหลายวัตถุดิบนะคะ ทั้งผลไม้ ผักย่าง และบางตัวที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นด้วยค่ะ

ซอสหมาล่า - มีเครื่องเทศสิบกว่าชนิดด้วยกัน ลดความชาลง แต่กลิ่นและรสของความเป็นหมาล่ายังชัดเจนมาก สายหมาล่าฟินแน่นวล ตัวนี้ทางร้านแนะนำว่าเหมาะกับพวกซีฟู้ดและบรรดาเนื้อที่มีมันทั้งหลายนะคะ

ซอสโคชูจัง - เกิดขึ้นเนื่องจากตอนคุณหมิงไปเรียนเมืองจีนแล้วไม่ค่อยชอบกินอาหารจีน ก็จะไปตายรังอยู่กับอาหารเกาหลีค่ะ 555 แต่มีการปรับนำมาใส่เครื่องเทศสดและทำให้หนืดน้อยลง เผ็ดจัดจ้านพอควร 

 

ซึ่งสามซอสนี่ ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของที่นี่ จะขอแปรงมาทาซอสด้วยนะคะ 

 


สำหรับการสั่งอาหารของที่นี่ จะแบ่งออกเป็นสองส่วนค่ะ คือ สั่งตามราคาบุฟเฟต์ปกติ กับอีกแผ่นหนึ่งจะสำหรับเมนูพิเศษที่จ่ายเพิ่ม 89+ นะคะ

 


จุดเด่นต่อมา ก็คือน้ำจิ้มของที่นี่ค่ะ ทางร้านจะเสิร์ฟมาเป็นเซ็ตให้แบบนี้เลย แน่นอนว่าเป็นน้ำจิ้มโฮมเมดอีกเช่นกันนะคะ เราเปิดดมดูนี่แบบ...ซับซ้อนมาก แยกไม่ออกเลยว่าผสมอะไรบ้าง และรสชาติก็ดีมากด้วยค่ะ ถ้าไม่ใช่สายเผ็ดบ้าบออย่างเรานี่ไม่ต้องเติมพริกหรืออย่างอื่นเพิ่มเลย (และพูดจริงๆ นะคะ เป็นการกินบุฟเฟต์ปิ้งย่างที่เราใช้น้ำจิ้มน้อยเมิ่กกกกก เพราะโดยตัวซอสของเขามันทำให้เนื้อสัตว์ต่างๆ มีรสชาติอร่อยอยู่แล้วโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเพิ่ม เราใช้จิ้มกับบางอย่างที่ไม่ได้ราดซอสค่ะ เลยเป็นการกินบุฟเฟต์ปิ้งย่างครั้งแรกที่ไม่เติมน้ำจิ้มเลยแล้วกัน 555)

 


นอกจากนั้นก็มีน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยนะคะ ซึ่งรสชาติก็เด็ดไม่แพ้กันเลย 

 

ให้ดูหน้าตาคร่าวๆ ของสิ่งที่สั่งกันมาวันนั้นแล้วกันค่ะ เดี๋ยวจะบอกอีกทีว่าอันไหนบ้างที่เราแนะนำหรือเป็นเมนูเด็ดๆ ของร้านที่ห้ามพลาดนะคะ

 


อันดับแรกเลยค่ะ เรายังไม่เคยไปกินร้านไหนที่มีไข่หมึกนะ ตอนที่เช็คอินแล้วอัพเฟส เพื่อนคนหนึ่งถึงกับบอกว่าเป็นร้านในลิสต์ที่จะไปกินเลย เพราะไข่ปลาหมึกนี่แหละค่ะ ซึ่งแบบบบบบบ...ไข่เน้นๆ เต็มๆ มาก แล้วไข่ปลาหมึกที่นี่จะมีสองแบบนะคะคือแบบนิ่มกับแบบแข็ง โดยทางร้านจะนำมาเสิร์ฟให้แบบปนกัน แต่ถ้าใครไม่ชอบแบบใดแบบหนึ่งก็แจ้งทางร้านเอาเฉพาะแบบที่ชอบก็ได้ค่ะ แล้วจะไม่เอาซอสหรือจะเอาซอสใดซอสหนึ่งมาราดก็ได้นะคะ โดยส่วนตัวสำหรับเมนูนี้เราชอบแบบไม่เอาซอสแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดมากกว่าค่ะ แฮร่..

 


ต่อไปค่ะคือ หมูหมักน้ำผึ้ง เป็นหมูที่แทบไม่มีมันเลย แต่นุ่มมาก (น่าจะเกิดจากการหมักและการทุบนะ) น้ำผึ้งหอมเข้าเนื้อมากค่ะ ถ้าใครกินไม่เผ็ด ย่างเสร็จกินได้เลยค่ะ (เราว่าเด็กๆ ต้องชอบแหงๆ) เป็นหนึ่งเมนูดั้งเดิมเก่าแก่คู่ร้านมาเลยนะคะ แต่อย่างเราชอบแซ่บหน่อยก็จะเป็นอีกเมนูหนึ่งที่จิ้มกับน้ำจิ้มแหละ

 


อีกหนึ่งเมนูนะคะ นั่นก็คือหอยเชลล์หละะะะ ลองสั่งมาทั้งสามซอสเลย ซึ่งสองหนุ่มชอบตัวหมาล่ามาก แต่เรากลับชอบตัวยากินิคุค่ะ หวานๆ เสริมรสหอยเชลล์ได้ดีอ้ะ แต่อันนี้เราว่าแล้วแต่คนชอบอะเนาะคะ หรือจะสั่งมาสามซอสแบบพวกเราก็ได้ ถ้ากินหมด 555

 


อีกหนึ่งเมนูที่สาวสองคนชอบกันทั้งคู่ นั่นก็คือข้าวโพดอบเนยค่ะ มันดีย์ย์ย์ จะห่อมาในฟอยล์แบบนี้นะคะ เราก็เอาลงเตา พลิกแค่ครั้งเดียว ให้พอมีกลิ่นหอม เวลาจะแกะ ให้ดึงฟอยล์ตัวกลมๆ ออก ที่เหลือจะกลายเป็นถ้วยใส่พอดี หอมหวานอร่อยมากกกกกก รสชาติแบบผู้ญิ้ง ผู้หญิงสุดๆ ค่ะ อยากเบิ้ลมาก แต่ต้องเผื่อท้องสำหรับเมนูอื่นง่ะ

 


ส่วนอีกอันที่เพื่อนกรี๊ดกันมาก แต่เราไม่ได้กินนะคะ ก็คือ หมึกค่ะ ตัวใหญ่เวอร์วังอลังการมากกกกกกก มาเต็มจานแล้วพอเอาลงตะแกรงก็เกือบเต็มตะแกรงกันเลยค่ะ จัดใหญ่จัดเต็มมากมาย

 


ส่วนถ้าใครสายกุ้ง ก็มีกุ้งให้เช่นกันค่ะ อันนี้มีคนแกะให้เลยได้กิน (ขอบคุณหนุ่ยหนุ่ยมา ณ ที่นี้) กุ้งที่นี่สดนะคะ เนื้อแน่นหวานเลยแหละ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดนี่ฟินมาก

 


อีกหนึ่งเมนูสำหรับคนที่ติดใจในของอร่อยแต่ก็อยากรักสุขภาพด้วยนะคะ ภูมิใจนำเสนอเบคอนของร้านนี้มาก หลายคนเห็นรูปแล้วอาจจะงง เบคอนไรทำไมสีนี้อ้ะ มาค่ะ ป้าจะเล่าให้ฟัง

เบคอนที่นี่เป็นเบคอนโฮมเมดค่ะ ซึ่งจะไม่ใส่สารไนเตรตไนไตรท์ที่พอโดนความร้อนจะกลายเป็นไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งนะคะ สีจึงไม่แดงเหมือนที่อื่น และของร้านนี้จะมีการคุมความมันของเบคอน รวมทั้งรมควันด้วยกาบมะพร้าวด้วยค่ะ เพราะงั้นถ้ายังอยากกินเบคอน แต่ห่วงสุขภาพ จัดไปเลยค่ะสำหรับที่นี่ ปลอดสารก่อมะเร็งนะฮับบบบบบ

 


ยัง ยังไม่หมดแค่นั้น สำหรับใครที่เป็นสายผัก (อย่างข้าพเจ้า) ท่านจะฟินไปกับเมนูสลัดทั้งสองเมนูนี้ นั่นก็คือ ซีซาร์สลัด (อยู่ในเมนูราคาเพิ่ม) และสลัดเต้าหู้ (อยู่ในเมนูราคาปกติ)

 


ตัวซีซาร์สลัด มันนัวอร่อยด้วยเบคอน (ที่โฮมเมดอีกเช่นกัน) และขนมปังที่ทางร้านคั่วเองค่ะ มันได้เทกซเจอร์ที่กรอบนุ่มแตกต่างจากร้านอื่นเลยแหละ อร่อยมากกกกกก ถูกจริตเรามากค่ะ


สลัดเต้าหู้ น้ำสลัดทำเองอีกเช่นกันค่ะ (ไม่เหนื่อยเหรอพ่อคุณ) เขาใช้งาคั่วบดจนกระทั่งเป็นน้ำสลัดที่หอมอร่อยมันนัวมาก บอกไม่ถูก ต้องไปกินเองค่ะ แต่บอกเลยว่าเรานี่ฟินกับเมนูสลัดทั้งสองเมนูของที่นี่มากๆ เลยค่ะ


ส่วนบรรดาสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นเมนูที่อยู่ในราคาพิเศษ 89+ (คือจ่ายเท่านี้แล้วกินได้ทุกเมนูนะคะ อย่าคิดว่าเป็นเมนูละ 89+ บาท เหมือนเราหละ 5555) แต่สารภาพว่า ข้าพเจ้าไม่สามารถชิมได้สักเมนูหนึ่งค่ะ เพราะอิ่มมาก อิ่มที่สุด อิ่มจนอยากร้องขอเจ้าของร้านว่า พอเถอะค่ะ จะตายอยู่แล้ววว (ป้าแก่แล้ว ระบบย่อยไม่ค่อยดี ฮืออออ)

 

 

แซลมอนซาซิมิที่นี่จะเสิร์ฟมาบนน้ำแข็งบดทั้งหมดเพื่อรักษาความสดและคุณภาพรสชาติของแซลมอนไว้นะคะ

 


ส่วนน้ำดื่มนั้น ก็รวมในบุฟเฟต์แล้วเช่นกันค่ะ ซึ่งมีทั้งน้ำอัดลม หรือพวกน้ำเก็กฮวย น้ำผึ้งมะนาว น้ำเปล่า น้ำโซดา ฯลฯ นะคะ

 


สำหรับของหวาน ก็จะเป็นไอศกรีมสองรสค่ะ คือ ช็อกโกแลตและคุ้กกี้แอนด์ครีม (อร่อยทั้งสองรสเลย ป้าฟาดมันทั้งสองรส...เอิ่ม...ไหนป้าบอกว่าป้าอิ่มแล้ว? อ้าว ก็ผู้หญิงนี่กระเพาะของคาวกะหวานแยกกันไม่รู้เหรอลูกกกกก) หรือถ้าใครชอบแบบไทยๆ หน่อยก็เฉาก๊วยค่ะ ที่นี่หมักเฉาก๊วยเองนะคะ เทกซเจอร์จะไม่ใช่แบบวุ้นๆ เยลลี่แบบทั่วๆ ไปที่ไม่หมัก แต่ก็ไม่ได้หนึบเหนียวแบบชากังราวค่ะ เป็นกึ่งๆ ระหว่างสองแบบคือ หนึบ แต่ไม่ได้หนึบมากนะคะ หรือถ้าใครชอบผลไม้ก็มีแตงโมค่ะ แต่เราไม่ได้ชิมง่ะ แหะๆ



สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ


เป็นอีกร้านที่เราประทับใจมาก ในความตั้งใจที่จะทำอาหารอร่อยและดีให้ลูกค้าที่มากินค่ะ โดยราคากับสิ่งที่ได้ สำหรับเรา เราถือว่าคุ้มค่านะคะ นี่ก็คิดอยู่ว่าถ้าครอบครัวมากรุงเทพฯ จะพาไปกินแหละ (น้องชายกับน้องสะใภ้ที่กินเก่งมากน่าจะปลื้มปริ่ม) ส่วนแม่เองนี่จะให้มาแยกแยะสูตรค่ะ 555 นางเป็นคนที่ชิมปุ๊บจะบอกว่าแต่ละอย่างผสมอะไรบ้าง จะเอานางมาทดสอบ (เป็นลูกที่เลวมาก 555555) ทั้งตัวน้ำจิ้มและซอส อิอิ


เป็นอีกร้านที่เชียร์ค่ะ เชียร์ไม่เชียร์ เขาไม่ได้ขอให้ทำรีวิวยังมาทำละกัน 555


ขอบคุณน้องหนุ่ย ยัมมี่โอมุที่ชวนไปกินด้วยนะครับบบบบ

 
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 4  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารอเมริกัน | ร้านเค้กและเบเกอรี่ | ลำลอง

วันนี้จะพาไปกินอีกหนึ่งร้านดังจากอเมริกาที่เปิดตัวไปสองสาขาแล้ว และเพิ่งแกรนด์โอเพินนิ่งไปกับสาขาใหม่ล่าสุดที่เมกาบางนา ซึ่งจะอยู่ย่าน Food Walk นะคะ กับร้าน IHOP MEGA BANGNA นั่นเองงงงงงง สำหรับท่านใดที่นำรถส่วนตัวไป ที่นี่ก็สามารถจอดรถได้ฟรี 8 ชม. โดยไม่ต้องประทับตราใดๆ นะคะ ดีงามมาก



ตัวร้านจะอยู่ที่ฟู้ดวอล์คอย่างที่ได้บอกไปแล้วนะคะ พิกัดก็จะเป็นตรงหัวมุมติดกับลานฝั่งทางด้านอิเกียเลยค่ะ

 

 


ที่นั่งของร้านจะมีทั้งด้านในที่เป็นห้องแอร์และด้านนอกนะคะ การตกแต่งสาขานี้จะออกไปทางแบบแคลิฟอร์เนีย ที่ให้ความรู้สึกของแสงอาทิตย์และชายหาดด้วยค่ะ และสำหรับใครที่อยากกินอาหารเช้า สาขานี้ก็เหมาะมาก เพราะเปิดตั้งแต่ 7.00-22.00 น.กันเลยทีเดียว

 

 


ซึ่งวันนั้นคุณตุ๊ก - ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ ก็มาดูแลความเรียบร้อยด้วยตนเองเลยนะคะ เลยขออนุญาตถ่ายรูปมาค่ะ

 

สำหรับบริษัทนี้จะมีบริษัทในเครือที่มีร้านต่างๆ ได้แก่ คริสปี้ ครีม, ซินนาบอน, บูลโกกิ บราเธอร์ส, พาย เฟสซื และแจมบาร์ จูซนะคะ  ซึ่งการเปิดไอฮ็อปสาขานี้ก็เป็นปีเดียวกับการฉลองครบรอบ 60 ปีองการเปิดสาขาแรก (ที่ลอสแอนเจลิส) ของไอฮ็อปที่อเมริกาด้วยค่ะ แต่สาขานี้ถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยแหละ


สื่ออื่นๆ ของร้านนะคะ

ww.ihop.co.th
www.facebook.com/iHopTH


มาดูเมนูกันค่าาา ค่อนข้างแตกต่างจากสาขาที่ดูไบที่เราเคยไปกินนะคะ แว่วๆ ว่าเร็วๆ นี้ จะเพิ่มเมนูอาหารไทยให้กับสาขานี้ด้วยน้าาา น่าติดตามเชียวว่าจะมีเมนูอะไรไทยๆ มาน้ออออ

 

 

 

 


มาดูกันว่าวันนั้นได้ชิมแอนด์กินอะไรกันไปบ้างนะคะ

เมนูแรกค่ะ Appitizer Sampler 240 บาท

 

 

เมนูนี้ประกอบไปด้วยมอนสเตอร์มอสซาสติ๊ก ออเนี่ยนริงส์ และไก่ทอดกรอบ มาพร้อมซอสฮันนี่มัสตาร์ด และซอสมารินารา


ตัวไก่ทอดนี่มาเป็นสแต็คตามภาพเลยนะคะ เมนูนี้ทอดมาได้กรอบดีค่ะ ตัวซอสเราชอบตัวฮันนี่มัสตาร์ดมากกว่านะคะ ส่งรสได้ดีกว่า เรา่วาจิ้มกับซอสกินจะอร่อยกว่ากินเปล่าๆ ด้วยหละ แต่เพื่อนเราชอบออเนี่ยนริงส์หละ อันนี้ก็ถ้าใครอยากกินอะไรเล่นๆ รองท้องแล้วชอบของทอด ก็สั่งมาได้นะฮับ


สำหรับเครื่องดื่ม สั่งตัว IHOP Splashers มาครบทั้ง 7 ตัวเลยค่ะ ราคาเท่ากันหมดนะคะ อยู่ที่แก้วละ 85 บาท

ประกอบไปด้วย
- สแปลชเบอร์รี่
- ทรอปิคอลไอส์แลนด์ทวิสต์
- บลูสแปลชเชอร์
- กรีนแอปเปิ้ล สแปลชเชอร์
- ราสเบอร์รี่ สแปลชเชอร์
- พิงค์เกรพฟรุต สแปลชเชอร์
- ทับทิม สแปลชเชอร์

ของเราดื่มทรอปิคอลไอส์แลนด์ทวิสต์ค่ะ ซึ่งเราชอบนะคะ หวานอมเปรี้ยวนิดๆ โซดาบาลานซ์กับหัวเชื้อดี ไม่เยอะหรือน้อยเกินไป ส่วนของน้องที่ไปด้วยดื่มทับทิม ก็บอกว่าอร่อยเช่นกันค่ะ 

 

Big Steak Omelet 220 บาท

เมนูนี้เป็นออมเล็ตสเต็กเนื้อ ผสมเชดดาชีส แฮชบราวน์ พริกหยวก หัวหอมและมะเขือเทศ เสิร์ฟพร้อมซัลซ่าซอสนะคะ

ตัวนี้หอมชีสดีค่ะ รสออกแนวนัวๆ หน่อย เราชอบกินเปล่าๆ มากกว่ากับซัลซ่าซอสนะคะ สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อวัว ก็มีเมนูเนื้อสัตว์อื่นๆ หรือออมเล็ตผักล้วนให้สั่งด้วยค่ะ

 


Sirloin Steak Tips Dinner 270 บาท

เสต็กเนื้อเซอร์ลอยด์ กับหัวหอมและเห็ดย่าง เสิร์ฟคู่มันบด ข้าวโพดอบเนย และขนมปังกระเทียม

เนื้อมีการหมักบางอย่างมาค่ะ มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว เนื้อนิ่มดีนะคะ ไม่สุกเกินไปมาก ในเครื่องเคียง ชอบข้าวโพดอบเนยมากค่ะ หอมหวานอร่อยแหละ ใช้ข้าวโพดดีนะคะ

 

Fish Florentine 250 บาท

ตัวนี้เป็นเมนูปลานะคะ น่าจะเป็นปลาดอลลี่ค่ะ รสออกอ่อนๆ หน่อย อันนี้ไม่ถูกจริตสายแซ่บอย่างเราค่ะ แต่ใครที่ชอบกินปลาก็เป็นทางเลือกให้อีกเมนูหนึ่งนะคะ

 


Egg Cheese Ham Stack 240 บาท

 

 

ตัวนี้เป็นอีกตัวที่อร่อยเลยค่ะ เหมาะมากกกกกกสำหรับการกินเป็นมื้อเช้า ชีสก็หอม อร่อย เป็นแซนด์วิชแฮม ชีส และไข่ค่ะ ไข่ทำมาแบบตานีนิดๆ ชอบจานนี้กันหลายคนเลยค่ะ เชียร์ๆ ค่ะ


Chirspy Chicken Salad 240 บาท

สลัดไก่กรอบค่ะ ใครสายผักนี่แนะนำเลย สั่งมาแล้วแบบว่า...แก้เลี่ยนดีมาก (แบบจานอื่นมีแต่โปรตีนกับคาร์บอ้ะ) น้ำสลัดอร่อย เรากินแต่ผักกับน้ำสลัดได้เลยค่ะ ตัวไก่กรอบนี่เมินเลยแหละ (เห็นว่าซีซาร์สลัดก็อร่อยนะ แต่ไม่ได้ลองอ้ะ)

 


Spinach and Mushroom Omelet 175 บาท


อีกหนึ่งเมนูอร่อยที่เราชอบค่ะ ชีสกับผักโขมทำมาได้พอดีมาก รสชาติกำลังดี ชีสหอม กลมกล่อม อร่อยค่ะ

 


Chicken Fajita Omelet 220 บาท

ตัวนี้เราไม่ได้ชิมนะคะ สั่งมาให้น้องที่ไม่กินเนื้อวัวกินกันค่ะ ให้ดูหน้าตาเฉยๆ แล้วกันเนาะ แฮร่...

 


Chicken Cordon Bleu 255 บาท


เป็นเมนูอกไก่ทอดกรอบ ผักโขม แฮม สวิสชีส ไวท์เชดดาชีสซอส เสิร์ฟกับมันฝรั่งทอด หัวหอมสับ พริกไทยและขนมปังกระเทียมค่ะ

เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ชมกันทั้งโต๊ะ อร่อยจริงๆ ค่ะ รสกลมกล่อมพอดีมาก ต้องกินทั้งตัวอกไก่ทอด ผักโขม แฮมและชีสนะคะ รสจะพอดีมาก มีความเค็มนิดๆ ตัดรสบาลานซ์กันพอดีค่ะ

 

 


หมดคาวแล้วววว มาหวานกันบ้างค่าาาาา


Berry and Cream Waffle 195 บาท

เนื้อเทกซเจอร์ไม่ค่อยต้องจริตเราง่ะนะ เราชอบเนื้อแน่นกว่านี้อีกหน่อย แหะๆ

 

 


Chocolate Chocolate Chip Pancake 185 บาท / with ice cream 1 scoop 205 บาท

ตัวนี้เป็นแพนเค้กรสช็อกโกแลตที่ใส่ช็อกโกแลตชิปส์มาด้วยค่ะ ราคามีสองแบบคือแบบเอาไอศกรีมกับไม่เอานะคะ วันนั้นได้ลองแบบไม่มีไอศกรีมค่ะ

สำหรับแพนเค้กทั้งหมดนี่สามารถสั่งแบบ Made to add ได้นะคะ คือเพิ่มจำนวนชิ้นของแพนเค้ก เพิ่มหน้าต่างๆ (ทั้งคาวหวาน) ตกอย่าง/ชิ้นละ 50 บาทค่ะ

ตัวเนื้อ เทกซเจอร์ไม่เหมือนที่เคยกินแฮะ งงๆ อยู่ แต่ชอบตัวช็อกโกแลตชิปส์อ้ะ ถ้าเทกซเจอร์เหมือนที่เคยกินจะเลิศมากค่ะ

 


Funny Face 170 บาท ตัวนี้จะสั่งเป็นแพนเค้กบัตเตอร์มิลค์แบบนี้หรือเป็นหรือแพนเค้กช็อกโกแลตชิพส์ก็ได้นะคะ เป็นอีกจานที่ไม่สามารถกินได้ เพราะอิ่มมาถึงคอหอยแล้วค่ะ 

 


นิวยอร์คชีสเค้ก 195 บาท เพิ่มไอศกรีม 1 สกู๊ป 215 บาท

ตัวนี้ทำมาในรูปแบบของแพนเค้กเลย เนื้อชีสจะผสมมาในตัวเนื้อเช่นกัน อย่าไปคิดว่าเป็นแพนเค้กที่ไม่สุกเลยเชียว (เขินกันมาทั้งโต๊ะมาแล้ว 555555) มันเป็นชีสสสสสสสค่าคุณ อร่อยดีอยู่นะคะ สำหรับสายชีสน่าจะชอบนา

 


เครปกล้วยหอมและนูเทลล่า 195 บาทค่ะ

ตัวแป้งเครปจะบางๆ หน่อยนะคะ นิ่มดี นูเทลล่าและกล้วยหอมก็เข้ากันดีแบบที่เราชอบหละค่ะ 5555

 


สำหรับเครื่องดื่ม สามารถสั่งอย่างอื่นได้นอกจากสแปลชนะคะ ไม่ว่าจะชาร้อน latte หรือสมูทตี้ก็มีให้เช่นกันค่ะ

 

 

แล้วก็ IHOP ที่นี่ยังคงคอนเซปต์เหมือนไอฮ็อปสาขาอื่นๆ คือ มีกาแฟแบบรีฟิลล์นะคะ หนึ่งคนสั่งได้เลย 1 กา 150 บาท รีฟิลล์ได้เรื่อยๆ ค่ะ จะสั่งคนเดียวจากทั้งโต๊ะก็ได้ (แต่ห้ามแชร์ให้คนอื่นกินนะคะ 555) เหมาะสำหรับคอฟฟี่แอดดิคที่แท้ทรู


สรุปสำหรับที่นี่นะคะ


สำหรับการกินวันนั้นมีหลายเมนูที่ถูกจริตนะคะ (ที่จะแนะนำไว้ด้านล่าง) สำหรับใครที่เป็นสาวกไอฮ็อปอยู่แล้วก็คงดีใจกับการขยายสาขาหละค่ะ แถมที่นี่ยังค่อนข้างมีพื้นที่ใหญ่กว่าสาขาอื่นๆ ด้วย ที่จอดรถก็สะดวกเลย เป็นอีกที่ที่เหมาะสำหรับการหาอะไรกินได้ทั้งวัน เพราะเปิดตั้งแต่เช้ายันดึกค่ะ
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | อาหารฟิวชั่น | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม | จัดเลี้ยง ปาร์ตี้ | โอกาสพิเศษ

มีพรีเซนต์งานแถวนั้นตอนเย็น เลยมานั่งทำงานรอก่อนค่ะ เพราะมาจากอีกที่ จะได้ไม่ต้องวกกลับไปออฟฟิศ น้องที่ออฟฟิศเลยแนะนำร้านนี้ค่ะ


ร้านอาหารนี้มีที่จอดรถนะคะ ไม่เยอะมากแต่ก็โอเคอยู่ค่ะ


ร้านแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนร้านอาหารกับส่วนพวกขนม แต่เราเลือกนั่งส่วนร้านอาหาร (ซึ่งสั่งขนมมากินได้ค่ะ) 


 

 

 



บรรยากาศร้านสวยงามมาก โปร่งโล่ง ชอบค่ะ

 

 



เมนูหลากหลายนะคะ ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง เครปเค้กอันแสนโด่งดังของร้าน และเครื่องดื่มต่างๆ ค่ะ เอาเมนู "บางส่วน" มาให้ดูนะคะ เพราะเยอะมาก เอาลงหมดไม่ไหวค่ะ แหะๆ


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 



สั่งยำก้านคะน้ามา รสค่อนข้างกลางๆ นะคะ ไม่ได้จัดจ้านมากค่ะ ให้กุ้งมาเยอะพอควรสำหรับการกินคนเดียว แต่ถ้าสั่งมาจอยกันก็น่าจะได้คนละตัวหละค่ะ


 



ข้าวน้ำพริกปลาทู โอเคค่ะ ชอบเครื่องที่แนมมาด้วย น้ำพริกที่คลุกมา คลุกมาน้อยไปหน่อยค่ะ แล้วก็ซุปที่ให้มา น่าจะใช้น้ำประปาทำค่ะ เพราะมีกลิ่นหละ เราซดคำเดียวแล้วเลิกเลย

 

 





ตัวน้ำที่สั่งมานี่อร่อยมากค่ะ เปรี้ยวๆ หวานๆ ชื่นใจมากเลย ชอบค่ะ 

 



ค่าเสียหายหมดไปเท่านี้นะคะ

 





โดยรวมก็ถือว่ายังไม่มีอะไรโดนนอกจากน้ำค่ะ ไม่แน่ใจว่าสั่งเมนูผิดหรือเปล่า เดี๋ยวถ้ามีโอกาสจะไปลองเมนูอื่นเพิ่มนะคะ
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | อาหารนานาชาติ | ร้านในโรงแรม รีสอร์ต | อาหารทะเล | บุฟเฟ่ต์ | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | โอกาสพิเศษ

วันนี้จะพาไปกินซันเดย์บรั้นช์กันอีกแล้วนะคะ โดยครั้งนี้เป็นการไปกินที่ห้องอาหาร The Dining Room โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณนั่นเองค่าา โดยการไปครั้งนี้เป็นการเชิญไปของพีอาร์ - คุณหมูนะคะ ซึ่งเมลมาหาเราหลังมาอ่านรีวิวห้องอาหารเอราวัณทีรูม (ที่ข้าพเจ้าก็ทั้งชมทั้งติไปหลายอย่าง) แล้วก็เลยชวนไปลองห้องอาหารนี้บ้างค่ะ


ห้องอาหาร The Dining Room เป็นห้องอาหารที่เรียกว่าเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเลยค่ะ ซึ่งจะมีบริการทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็น และมีราคารวมทั้งธีม/อาหารที่แตกต่างกันไปด้วยค่ะ แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีห้องอาหารอื่นๆ ด้วยนะคะ (อย่างซันเดย์บรั้นช์นี่ที่นี่ก็มีสามห้องอาหารแล้วค่ะ เลือกตามที่ชอบได้เลย) และมีสองห้องอาหารของโรงแรมที่ได้ "Michelin Plates" ของ The Michelin Guide Bangkok 2018* นั่นก็คือห้องอาหาร Tables Grillและ Erawan Tea Room (เราเคยรีวิวห้องอาหารห้องหลังนี้ไปแล้ว คลิกที่ชื่อเพื่ออ่านรีวิวได้เลยค่ะ)


สำหรับห้องอาหารเดอะไดนิ่งรูมเองก็ได้รับรางวัลดังต่อไปนี้ค่ะ

Wongnai Users’ Choice 2018

Monocle’s Travel Top 50 Award for the ‘Top Breakfast after a 10+ Hour Flight’


ท่านใดต้องการข้อมูลอื่นๆ สามารถไปที่ website โรงแรมด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
https://bangkok.grand.hyatt.com/en/hotel/home.html


ส่วนราคาอาหารในมื้อต่างๆ และวันต่างๆ ของห้องอาหารเดอะไดนิ่งรูมก็ตามนี้เลยนะคะ

บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน วันจันทร์ – วันศุกร์  เวลา  12.00 น. – 14.30 น.
ผู้ใหญ่ ราคา  1,300 ++ บาท
เด็ก (อายุ 6-12 ปี) ราคา 650 ++ บาท 

บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน วันเสาร์  เวลา  12.00 น. – 15.00 น.
ผู้ใหญ่ ราคา  1,590 ++ บาท
เด็ก (อายุ 6-12 ปี) ราคา 795 ++ บาท 

บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ วันจันทร์-วันพฤหัส เวลา  18.00 น. – 22.00 น. 
ผู้ใหญ่ ราคา 1,590 ++ บาท
เด็ก (อายุ 6-12 ปี) ราคา 795++ บาท 



บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ วันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา  18.00 น. – 22.00 น. 
ผู้ใหญ่ ราคา 2,100 ++ บาท
เด็ก (อายุ 6-12 ปี) ราคา 1,050 ++ บาท
รวมเครื่องดื่มน้ำผลไม้  

บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน วันอาทิตย์  เวลา  12.00 น. – 15.00 น.
ผู้ใหญ่ ราคา  2,200 ++ บาท
เด็ก (อายุ 6-12 ปี) ราคา 1,100 ++ บาท
รวมเครื่องดื่มน้ำผลไม้  


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายรับจองห้องอาหาร โทร 02 254 6250 หรือ
 อีเมล์ restaurants.bangh@hyatt.com 




ส่วนโปรโมชั่นสำหรับบัตรเครดิตก็ตามนี้เลยนะฮับ

จ่ายผ่านบัตร SCB Private Banking ส่วนลด 50% สำหรับมารับประทาน 2 ท่าน

จ่ายผ่านบัตร JCB Shopping& Dining Passport และ American Express Platinum  ส่วนลด15% ต่อท่าน

Citibank Ultima มอบส่วนลด 15% ต่อ 1 ท่าน และ 50% เมื่อมา 2 ท่าน


สำหรับพิกัดของโรงแรมก็อยู่แยกราชประสงค์นะคะ ติดกับศาลพระพรหมเอราวัณเลยค่ะ ถ้าใครนำรถไปจอด ก็สามารถจอดได้ที่อาคารจอดรถของโรงแรมเลย (จะเป็นชั้นใต้ดินของรร.ค่ะ) นำการ์ดไปสแกนที่ห้องอาหารแห่งนี้ จอดได้ฟรี 4 ชั่วโมงค่ะ

 


The Dining Room จะอยู่ชั้นเดียวกับล็อบบี้ของโรงแรมเลยค่ะ หันหน้าเข้าอาคารแล้วเดินไปทางซ้ายมือสุดจะเป็นที่ตั้งของห้องอาหารแห่งนี้นะคะ

เราไปถึงเที่ยงนี่ คนเยอะแล้วอ้ะ เต็มแทบทุกที่นั่งทั้งที่มันกลางเดือนแล้ว

 


ส่วนของไลน์อาหารจะอยู่โซนด้านในสุดซึ่งจะยกพื้นสูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่งค่ะ

 


มาดูกันค่ะว่าซันเดย์บรั้นช์ของที่นี่มีอะไรกันบ้างนะคะ

เริ่มด้วยเพสตรี้และโคลด์คัทค่ะ มีเครื่องสไลด์แฮมด้วยนะเออ

 

 

 


โซนต่อไปค่ะเป็นชีสและสลัด เลิศที่มีบรีด้วยค่ะ (แต่...ข้าพเจ้าลืมกิน ฮือออ เจอบุฟเฟต์ที่มีอาหารเยอะๆ ทีไร ลืมของที่อยากกินไปบางอย่างทุกที มานึกออกตอนทำรีวิวนี่แหละ แง)

 

มุมญี่ปุ่นค่ะ ก็ครบทั้งซูชิ โรลและซาชิมินะคะ แถมมีด้ง (ข้าวหน้าปลาดิบ) กับโซบะด้วยนะเออ

 


ติดๆ กันมีแกงเขียวหวาน กระเพาะปลา และผัดซีอิ๊วด้วยค่าา กระเพาะปลาที่นี่คือดี กระเพาะปลา (แท้ๆ ที่ไม่ใช่หนังหมู 555) มาเต็มมากกกกก

 

 


ต่อไปเป็นซุ้มพวก carving บ้างนะคะ เด็ดตรงมีการแล่แซลมอนอบเกลือให้เห็นกันจะๆ นี่แหละ คือดีย์ฮ่ะ แต่พวกไก่ เนื้อตามมาตรฐานก็มีนะคะ แล้วนอกจากนั้นแน่นอนว่าฟัวร์กราส์ต้องมา ซี่โครงแกะต้องมีนะฮับบบบ


ถ้าใครชอบปลาก็มีเมนูปลาทอดกระเทียมด้วยค่ะ

 


พวกหมูอบและอื่นๆ ก็มีนะคะ ตรงนี้จะมีหลายเมนูเลยแหละ 

 

 

 


มีปอเปี๊ยะหมูกับเผือกด้วยนะคะ เป็นอีกอย่างที่เล็งไว้แล้ว...ค่ะ...ลืมกิน 55T5T55 (ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่)

และเนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงเทศกาลอาหารจีนแคะ (ฮากกา) ด้วยค่ะ เลยมีหลายเมนูที่เป็นเมนูจีนแคะนะคะ อย่างเต้าหู้ขาวทอดหน้าหมูบดนี่ก็ได้รับความนิยมมว้ากกกก รอบแรกเหลือสองชิ้นเลยยังไม่ถ่าย รอเติม พอเติมกำลังจะถ่าย ก็มีคนตักไปอีก (อันนี้ได้ชิม เดี๋ยวเล่าให้ฟังว่าเป็นไงบ้างค่ะ)

นอกจากนั้นก็มีซุปไก่ดำตุ๋นยาจีน ไก่นึ่งเกลือ จีนแคะ เนื้อน่องลายผัดต้นกระเทียม ยำแมงกระพรุน ขาหมูยัดไส้ หูหมูแก้วด้วยนะคะ


เป็ดปักกิ่งก็มาาาาาาาา

 


มีข้าวผัดพร้อมไข่ดาวให้ด้วยนะเอ้า


กุ่ยช่ายก็มี (ดูจากแป้งแล้วน่าจะอร่อยค่ะ บางงงงง แต่ก็ค่ะ...ลืมค่ะ ป้าคะ ป้าเป็นอัลไซเมอร์มั้ย ถามใจดู) ติ่มซำก็มานะฮับ

 


ต่อไปไปดูอีกไลน์กันบ้างค่ะ จะอยู่ตรงกลางนะคะ เป็นไลน์พวกสลัดและยำต่างๆ ค่ะ


มีทั้งสลัดยำแซลมอน สลัดถั่ว สลัดหมู สลัดเนื้อ สลัดไก่ สลัดทะเล สลัดมันฝรั่ง สลัดบีทรูท น้ำพริกกุ้งสดพร้อมผัก ยำหมูย่าง น้ำตกหมู ข้าวตังหน้าตั้ง พล่าหอยเชลล์ ยำผลไม้และปอเปี๊ยะสด เรียกว่าอยากกินยำด้วยวัตถุดิบอะไร มีครบหมดหละค่ะ 555

 

 

 



ต่อไปเป็นอีกหนึ่งไลน์ไฮไลท์ค่า กับมุมซีฟู้ดนั่นเองงงงง

 

ไลน์นี้จะมีทั้งหอยแมลงภู่ กุ้งขาว แซลมอนรมควัน กุ้งแชบ๊วย หอยนางรม ก้ามปูอลาสก้าค่ะ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่ดีอยู่นะคะ ใช้พริกแดงแหละ

 


ต่อไปปปปปปปปปป เป็นไลน์สุดโปรดของเรา (น้ำเสียงลั้ลลาออกหน้าออกตาเมิ่กกกกก)

ของหวานนนนนนนนนน


แค่เห็นโซนแรกก็ยิ้มแล้วค่าาา ถูกใจเรามาก 555 ข้าวเหนียวมูนหน้าต่างๆ ที่นอกจากมะม่วงสุดฮิตแล้วก็ยังมีทั้งหน้ากระฉีก หน้ากุ้ง หน้าปลาด้วยนะคะ ดีงามมาก แถมข้าวเหนียวก็มีทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวกล้องหละ

 

 


ขนมไทยอื่นๆ ค่ะ มีทั้งบัวลอย สาคูเปียก สเน่ห์จันทน์ ลูกชุบ กล้วยเชื่อม พวกขนมตะวันตกก็มีทั้งชีสเค้ก ทาร์ต และผลไม้ต่างๆ นะคะ 

แล้วก็มีช็อกโกแลตฟองดูว์ พร้อมไอศกรีมหลากรสชาติด้วย (ไอศกรีมนี่ไม่ได้ลืมค่ะ แต่อิ่มก่อน เลยมิสามารถ แหะๆ)

 

 


ส่วนน้ำผลไม้ที่รวมในบุฟเฟต์แล้ว (ชากาแฟก็รวมแล้วค่ะ แต่สั่งกับพนักงานนะคะ) ก็จะอยู่ตรงบริเวณใกล้ๆ ที่นั่งนะคะ วันนั้นมีน้ำแครอท ส้มและแตงโมฮับ

 


มาดูกันค่ะว่าวันนั้นชิมและกินอะไรกันไปบ้างงงงงง

 

ซีฟู้ด กุ้งสดเนื้อแน่นดีค่ะ ก้ามปูมีเค็มบ้างบางอันนะคะ เต้าหู้ขาวทอดหน้าหมูบดนี่รสชาติดีค่ะ มีความเผ็ดหอมของพริกไทย มีรสมีชาติดีนะคะ (แต่ควรกินเป็นอย่างแรกก่อนกินอย่างอื่นนะ) แกะ เนื้อนิ่มดีมากค่ะ ทำมาไม่สุกเกินไป กลิ่นแกะก็ไม่แรงด้วย แซลมอนอบเกลือก็ดีเช่นกันค่ะ ไม่แห้งเกินไป เรากินแบบไม่จิ้มซอสอะไรเลยด้วยนะคะ ส่วนฟัวร์กราส์ เราว่าทำเกรียมไปนิดและชิ้นบางไปหน่อยค่ะ เราชอบแบบหนากว่านี้ง่ะนะ ซาชิมิดีนะคะ สด กระเพาะปลารสชาติดีค่ะ น้ำซุปอร่อย กระเพาะปลาให้มาเยอะแบบจัดเต็มดีค่ะ ตัวเป็ดปักกิ่ง อันนี้พนักงานทำมาให้ เลยใส่ซอสเยอะไปหน่อยค่ะ ซอสรสเข้มอยู่แล้ว ใส่มาพอประมาณก็พอง่ะนะ


ส่วนของหวาน เราได้ลองคือ ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ หน้ากระฉีกคือดีมาก ละมุน ไม่หวานเกินไป มะม่วงก็ดีค่ะ หวาน (มีหลายคนตักเฉพาะมะม่วงไปกินกันฮ่ะ) ตัวหน้ากุ้งก็หอมเครื่องมากๆ แต่ไม่แน่ใจว่าที่เค็มไปนิดนี่มาจากข้าวเหนียว กะทิหรืออะไรนะคะ แต่โดยรวมถือว่าดีค่ะ กล้วยเชื่อม นิ่ม ทั่วไปค่ะ ไม่มีอะไรเด่น ลูกชุบดีเช่นกันค่ะ เนื้อเนียน 

 


ส่วนเครื่องดื่มปิดท้าย เราเลือกเป็นชาเอิร์ลเกรย์เช่นเคยค่ะ 


ที่นี่จะให้มาเป็นกาสีเงินดูดีเลยแหละค่ะ พร้อมผ้าพันที่จับไม่ให้ร้อน เสิร์ฟมาหลังจากชาฟิวส์แล้วเรียบร้อยกำลังกิน (อันนี้ขอชม บางรร.ก็เสิร์ฟทั้งที่ชายังไม่พอดี ทำให้ดื่มเลยไม่ได้ ต้องมานั่งรออีก) 


แต่ถ้าใครไม่ดื่มเอิร์ลเกรย์ก็มีชาอื่นๆ พวกคาร์โมมายล์ กรีนที ฯลฯ ให้เลือกนะคะ

 


สรุปสำหรับที่นี่นะคะ


ถือว่าเป็นซันเดย์บรั้นช์ที่ครบเครื่องค่ะ อะไรที่ควรมีอย่างฟัวร์กราส์ หอยนางรม ปูอลาสก้า เป็ดปักกิ่งก็มี มุมอาหารญี่ปุ่นก็ถือว่าอยู่ในระดับดีค่ะ ของหวานเราถูกใจตัวข้าวเหนียวมูนหน้าต่างๆ มากๆ มีให้เลือกหลากหลายและรสชาติดี เสียดายว่าอิ่มก่อน เลยไม่ได้ลองไอศกรีมหรือขนมเค้กต่างๆ ค่ะ ถ้าใครมีบัตรเครดิตแล้วใช้โปร เราก็ว่าเป็นอีกที่ที่คุ้มค่าคุ้มราคานะคะ
 
คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0