Thai | English
saoguide
ฉันชื่อsaoguide อาศัยอยู่ในดินแดง. I am a Traveller&Travelerชอบไปลั้นลาที่ดินแดง, ถนนพญาไท, รามอินทรา. อาหารไทยทั่วไป, อาหารใต้, อาหารอิตาเลียน are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านกาแฟ / ร้านชาและขนมหวาน ไอศครีม, ปิ้งย่าง บาร์บีคิว, อาหารทะเล.
สมาชิก 368 รีวิวแรก
รีวิว944 รีวิว
編輯推介數目286 Editor's Choice
Recommended85 แนะนำ
ความนิยม12549 เข้าชม
Replies in Forum6 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ16104 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ6 วิดีโอ
My Recommended Reviews0 รีวิวแนะนำ
My Restaurant507 ร้านโปรด
Follow606 Following
粉絲7485 Follower(s)
saoguide  Level 4
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่ ยิ้ม ยิ้ม ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  Editor's Choice  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
 
  เวอร์ชั่นเต็ม เวอร์ชั่นเต็ม   |   ดูแผนที่ ดูแผนที่
แสดงรีวิวที่ 1 ถึง 5 จาก 944 รีวิวใน ประเทศไทย
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารญี่ปุ่น | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง

สวัสดีค่าาา



รีวิวปิดท้ายก่อนปีใหม่ กับบุฟเฟต์ร้านโปรดอีกร้านนะคะ 


Tora Yakiniku x Cafe โดยร้านนี้เพิ่งเปิดสาขาใหม่ล่าสุด (ที่ไม่ไกลจากบ้านเรา เย้ๆ) นั่นก็คือสาขา CDC เลียบด่วนรามอินทรานั่นเองค่ะ (อยู่เยื้องๆ กับเซ็นทรัลอีสต์วิลล์นะคะ) ซึ่งหากใครไป แนะนำให้จอดรถแถวๆ แม็กซ์แวลู จะเดินไปที่ร้านได้ไม่ไกลค่ะ

 

สำหรับรีวิวสองสาขาก่อนหน้านี้ สามารถคลิกอ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ

 
หน้าร้านของสาขา CDC นะคะ มีที่นั่งพอควรทีเดียวค่ะ ร้านออกแนวหน้ากว้างนะคะ

 



วันนี้เรามากินเมนูราคา Elite คือ 1799++ นะคะ


ซึ่งตอนนี้ทางร้านก็จะใช้ระบบใหม่คือไม่ได้ใช้เมนูเล่ม แต่จะมีสลิปซึ่งจะมีคิวอาร์โค้ดแบบนี้มาให้สแกน (แอนดรอยด์ใช้ไลน์ ไอโอเอสใช้กล้องได้เลยค่ะ) แล้วก็จะขึ้นเมนูให้เราเลือกสั่งได้เลยค่ะ สะดวกดีอยู่นะคะ โดยแต่ละรอบสามารถสั่งได้ 15 เมนูต่อรอบ และใช้เวลาในการสั่งได้ 1.45 ชม. (แต่กินได้ 2 ชม.) ค่ะ

 

 


 
ซึ่งพอเปิดสาขาใหม่ ทางร้านก็เพิ่มเมนูใหม่มาด้วยนะคะ ซึ่งเมนูใหม่ก็มีดังนี้ค่ะ

 
Jyou Karubi

เนื้อวัวพรีเมียม นอกจาก A4 Wagyu และ F1 Wagyu ที่มีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ก็จะมี Jyou Karubi และ Zabuton  ค่ะ

หน้าตาของโจ คารูบิค่ะ ดีงามมากนะคะ มันแทรกกำลังดี กลิ่นเนื้อหอมชัดมาก อร่อยมากค่ะ

 





เนื้อซี่โครงออสเตรเลียค่ะ จะมีความแน่นของเนื้อมากกว่าทางสายญี่ปุ่น ใครชอบแนวเนื้อซี่โครงน่าจะชอบส่วนนี้นะคะ

 


 

Iberico pork

 


 เนื้อหมูพรีเมียมมีเพิ่ม หมูดำ อิเบอริโก้ จากสเปนนะคะ 


หมูสายพันธ์ุไอบีเรียสีดำ ที่เลี้ยงในแถบคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberia) ซึ่งเป็นคาบสมุทรในประเทศสเปน และโปรตุเกสเท่านั้นค่ะ 
 

หมูสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อหมูที่มีรสชาติยอดเยี่ยมที่สุด โดยต้องใช้เวลายาวนานกว่า 2 ปีในการเลี้ยงดูด้วยวิถีธรรมชาติ ปล่อยให้เจ้าหมูเดินเล่นทอดน่องในทุ่งกว้างเชิงภูเขาอย่างเสรี และกินอาหารเฉพาะลูกโอ๊ก (Acorn) ที่ตกลงมาจากต้นสดๆ เท่านั้นค่ะ


ซึ่งลูกโอ๊กนี่เอง คือตัวช่วยหลักที่ทำให้เนื้อหมูไอเบอริโกมีรสหวานนุ่ม และมีกลิ่นหอม โดยปกติเห็นกันจะมาแนวแฮม แต่ที่นี่ก็มาทำเป็นหนึ่งเมนูให้ลูกค้าได้ย่างกันด้วยนะคะ ใครที่ไม่กินเนื้อ บอกเลยว่าเนื้อหมูตัวนี้ทดแทนได้สบายค่ะ อร่อยเช่นกันนะคะ




Kochibuta

หมูโคจิบูตะ หมักซอสมี 2 แบบคือ ซอสทรัฟเฟิล และ ซอส Doenjang เป็นคอหมูทั้ง 2 แบบนะคะ ซึ่งสองแบบนี้ให้ฟีลที่ต่างกันค่ะ ถ้าใครชอบความหอมของทรัฟเฟิลก็จะชอบซอสทรัฟเฟิล ส่วนใครชอบออกแนวเอเชียหน่อยๆ Doenjang เป็นคำตอบค่ะ ส่วนเราชอบทั้งสองตัวอ้ะ 555

 



แต่สำหรับคนชอบกินรสจัดหน่อยอย่างเรา ชอบตัวนี้ยิ่งกว่าค่ะ

 
Mala Kurobuta
 

หมูคุโรบูตะหมักซอสหม่าล่า รสชาติเข้มข้นมาก ไม่ได้เผ็ดมากนะคะ แต่กลิ่นและรสของหมาล่าคือชัดเลย ใครที่กินหมูและชอบรสจัดหน่อยเราแนะนำเมนูนี้ค่ะ

 


 

Kushiyaki


ประเภทเสียบไม้ย่าง  มีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่
 

 



เมนูนี้เอามาให้ดูได้แต่หน้าตาค่ะ เพราะสารภาพ ณ ตรงนี้เลยว่า ไม่ได้ชิม 5555 เนื่องจากไปกินเมนูอื่นซะก่อน จนอิ่มเกินกว่าจะได้ชิมค่ะ



Wagyu yukke

 

 


เมนูนี้คือ เนื้อวากิวยุกเกะ จะเป็นเมนูที่กินแบบดิบนะคะ ทำจากเนื้อวากิวคัดอย่างดี หั่นเต๋าชิ้นเล็ก เคล้าซอสมาเรียบร้อย ด้านบนท็อปด้วย ไข่แดง organic เวลากินคือคลุกทุกอย่างเข้าด้วยกัน มีงาขาวคั่ว ต้นหอม และใบงานะคะ


ขอบอกว่า มันดีมากกกกกก อย่างหวาน ไม่คาวเลย ดีงาม อร่อยสุดๆ ค่ะ

ปกติเราไม่ใช่คนที่จะกินอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆ นะคะ การที่เมนูนี้จะทำมาไม่คาวและหวานขนาดนี้ คุณภาพเนื้อต้องดีและสดมากๆ จริงๆ ค่ะ อร่อยเลย เชียร์ๆ นะคะ





ส่วนใครสายซีฟู้ด ทางร้านก็ยังคงมีให้เลือกหลากหลายเช่นเคยค่ะ แต่...นะ เราสายเนื้อ เราไม่ได้แตะซีฟู้ดเลยเช่นกันค่ะ 555

แต่เพื่อนร่วมโต๊ะจัดซีฟู้ดไปเต็มตะแกรงก่อนตามภาพค่ะ 

 

 



ตัวซูชิจะมีเมนูใหม่สองตัวนี้นะคะ

Akamizuke & Karamisu Akami

ซูชิอากามิหรือทูน่า แบบ zuke คือทาด้วยซอสสูตรพิเศษ แบบ karasumi คือด้านบนท็อปด้วยไข่ปลาคาราสุมิขูด

 





แต่ที่เราชอบที่สุดจะเป็นตัวนี้ค่ะ กินทีหนึ่งนี่สายรุ้งพุ่งออกปากเลย ดีงามมมม ความฟินระดับสิบค่ะเมนูนี้ กับโฟร์คิง

 


ส่วนใครไม่เน้นข้าว อยากกินซาชิมิ แนะนำเมนูนี้เลยค่ะ จุกๆ
 

Tora Grand Sashimi Set

เซ็ทซาชิมิแบบอลังการ  ในเซ็ทมี ซาชิมิแซลมอน ท้องปลาแซลมอน โฮตาเตะ กุ้งหวาน และ Salmon Tartare

 


 


Tora sukiyaki set

สุกี้ยากี้น้ำดำสไตล์ญี่ปุ่น มีทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมูนะคะ เราไม่ได้ชิม แต่เพื่อนอีกคนบอกว่าอร่อยมาก น้ำซุปดีงามค่ะ ใครอยากทาน/ซดอะไรร้อนๆ ลองได้นะคะ

 




ส่วนเมนูนี้ได้ชิมค่ะ ใครสายแซลมอนดองซีอิ๊วคือห้ามพลาดเลย

แซลมอนดองซีอิ๊วเกาหลี

แซลมอนสดหวาน ซีอิ๊วเกาหลีเค็มเจือหวานอ่อนๆ กำลังดี พริกและกระเทียมที่แนมมาตัดเผ็ดกำลังดี อร่อยมว้ากกกก ดีงามสุดๆ ค่ะ

 





อีก 2 เมนูใหม่ (แต่เราไม่ได้ชิมเช่นกัล ไม่ไหวล้าววว แค่กินเนื้อตัวใหม่กับเมนูใหม่บางตัวก็อิ่มแล้วค่ะ) คือ สองเมนูนี้นะคะ

 Mentaiko gyoza เกี๊ยวซ่าซอสเมนไทโกะ คนที่ได้กินบอกว่านัวมากค่ะ

 




ไข่หวานย่างซอสโอโคโนมิยากิ

ถ้าเราไม่ต้องกันท้องไว้กินเนื้อกะของหวาน ไม่พลาดแน่นอนค่ะ เราชอบไข่หวาน เอาไว้วันหลังจะชิมดูนะคะ วันนี้เอาหน้าตามาให้ดูอย่างเดียวก่อนค่ะ

แต่เราว่านี่คือเสน่ห์อีกอย่างของร้านนี้นะคะ คือ มีเมนูใหม่ๆ ที่มีความครีเอทมาเพิ่มให้ได้ลองกันตลอดๆ อ้ะ

 




อีกหนึ่งเมนูที่เล็งว่าจะลอง แต่ดันอิ่มก่อนค่ะ กับข้าวโพดหวาน+เนย อันนี้ถ้าวัตถุดิบดีอยู่แล้ว ยังไงก็อร่อยแน่นวล

 




มาดูเมนูของหวานบ้างนะคะว่าเค้ามีอะไรใหม่ๆ กันบ้าง



เซ็ทโมจิญี่ปุ่นย่าง

 

 

มาพร้อมเตาฮิดะ ซอสมัทฉะคุโรมิสุ ถั่วแดงบด และผง kinako


โมจิแบบดิบมาพร้อมเตาย่างให้ได้ย่างเอง กินกับซอสและเครื่องเคียง หวานอ่อนๆ มัทฉะเข้มข้นดีค่ะ

 


 


Double cheese scone

สโคนด้านในมี cheddar cheese โรยด้วย mozzarella cheese เสิร์ฟพร้อมครีมสดและ blueberry compote ตัวนี้ไม่ได้ชิมค่ะ แต่เพื่อนสายชีสชอบนะคะ

 


 


Vanilla Peach Roll


โรลวนิลาท็อปด้วยครีมสดและลูกพีช โรลนุ่มอร่อยดีค่ะ มีความนวลของครีมสดและเปรี้ยวอมหวานของพีชมาตัดรส แต่กินคนเดียวไม่ไหวนะคะ ถ้าอยากกินหลายๆ เมนู ควรชวนเพื่อนไปหลายๆ คนค่ะ เพราะถ้ากินคนเดียวคือจะอิ่ม กินเมนูอื่นเพิ่มไม่ได้แย้ว

 





 

TORA Honey Toast

 

 


โทระฮันนี่โทสต์ เป็นเมนูโทสต์ที่ปรับเปลี่ยนค่ะ  ด้านบนกล้วยมีน้ำตาลคาราเมลแบบคริสตัล กรอบนิด ๆ ส่วนตัวโทสต์มี creme brulee ไว้ด้านใน สำหรับใครสายโทสต์ ควรลองนะคะ อร่อยแหละ
 







เครื่องดื่มใหม่มีดังนี้นะคะ
 

Blue lemonade

Peach please

Yuzu oolong tea 

ในสามตัวนี้เราชอบยูสุอู่หลงสุดนะคะ ตามประสาคนที่ชอบทั้งชาและอู่หลงอะนะ แหะๆ

 


 


Cold brew coffee

เมนูนี้พนักงานจะมีการพ่นสเปรย์ herbal essence กลิ่นหอม citrus อ่อน ๆ ด้านบนให้ด้วยนะคะ ได้ความสดชื่นดีค่ะ

 

 




 
ถ้าใครชอบอาหารแนวนี้สไตล์นี้ก็อยากให้ไปลองกันนะคะ 

สำหรับร้านนี้ ยังไงก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งร้านโปรดที่ไปกินกี่ครั้งก็ประทับใจนะคะ นี่เร็วๆ นี้จะชวนน้องๆ กะเพื่อนที่ทำงานไปเลี้ยงอยู่ค่ะ

 

 
 
ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿2200

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ | ลำลอง

นาทีนี้ใครเป็นสาวกคอปเปอร์บุฟเฟต์ ที่ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวเรือ น่าจะได้ทราบข่าวคราวของการเปิดร้านใหม่ในเครือ "เตี๋ยวคอปเปอร์" ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเหาะ ซึ่งอยู่ที่เดอะเซ้นส์ปิ่นเกล้า แต่ร้านนี้จะอยู่ที่ชั้น G นะคะ คนละชั้นกับร้านคอปเปอร์บุฟเฟต์ค่ะ ถ้าเข้าไปในเดอะเซ้นส์ เดินตรงไปด้านใน ร้านเตี๋ยวคอปเปอร์จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ (ถ้าใครทันตอนที่ที่นี่ยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตเจ้าหนึ่งอยู่ นั่นคือจุดเดียวกันค่ะ) ใครนำรถมา สามารถจอดได้ที่อาคารจอดรถแล้วนำบัตรจอดรถให้ทางร้านสแตมป์ได้ค่ะ

ร้านปิดวันจันทร์นะคะ เปิดอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.30-20.30 น.ค่ะ ไม่มีการจองล่วงหน้า walk in เท่านั้นค่ะ ซึ่งอย่างเราไปตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดร้านจนถึงราวบ่ายสองกว่า ทั้งคิวหน้าร้านและที่นั่งในร้านคือไม่มีว่างเลยนะคะ ดังนั้นต้องยอมรับเรื่องการรอที่นั่งนานนิดหนึ่งค่ะ

 


ที่นั่งในร้านจะมีราวๆ 70 ที่นะคะ ซึ่งที่นี่จะมีให้เลือกทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อและหมูค่ะ โดยเนื้อก็จะมีทั้งวากิวริบอายญี่ปุ่นเอห้า เนื้อวัวออสฯ (มีทั้งสันคอออสวากิว สันคอออสแองกัส สันคอออสดรายเอจนะคะ) หรือก๋วยเตี๋ยวหมูก็จะใช้หมูสันนอก กับสันคอหมูของเอสเพียวค่ะ โดยราคาเริ่มต้นก๋วยเตี๋ยวหมูจะอยู่ที่ 139++ บาท และก๋วยเตี๋ยวเนื้อเริ่มต้นที่ 199++ บาทค่ะ

 

 

 


​​​​​​​การสั่งจะมีกระดาษมาให้เราติ๊กแบบนี้เลย หรือจะสั่งกับพนักงานให้พนักงานติ๊กให้ก็ได้นะคะ 

 

เส้นจะมีให้เลือกคือ เส้นหมี่ขาว เส้นเล็ก เส้นบะหมี่ไข่ และวุ้นเส้นญี่ปุ่น (จะต้องบวกราคาเพิ่ม 19 บาท) ค่ะ ในส่วนของเส้น ถ้าเป็นตัวเตี๋ยวน้ำ เราเชียร์เส้นหมี่กับบะหมี่ไข่นะคะ เส้นหมี่ขาวจะอุ้มน้ำซุปได้ดี แต่ตัวเส้นบะหมี่ไข่จะให้ความรู้สึกของรสชาติเส้นและมีเทกซ์เจอร์ให้เคี้ยวมากกว่า ส่วนวุ้นเส้นญี่ปุ่น เราชอบเทกซเจอร์เวลาเป็นแห้งมากกว่าน้ำ เพราะจะมีความเด้งมากกว่าเวลาอยู่ในน้ำมากกว่าค่ะ

ส่วนระดับความเผ็ดจะมีสองระดับคือระดับ 1 กับ 2 เราสั่งระดับ 2 นะคะ ซึ่งก็ไม่ได้เผ็ดเวอร์มากเกินไปค่ะ ถ้าชอบกินเผ็ดกว่านี้ทางร้านมีเครื่องปรุงให้ต่างหาก ซึ่งพริกของที่นี่จะเป็นแบบคั่วสีเข้มๆ ทำให้กลิ่นและรสจะจัดกว่าพริกป่นทั่วไปด้วยค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 


สำหรับขนาด ชามมาค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ ถ้าไม่ใช่คนกินจุจริงๆ เราว่ากินชามเดียวอิ่มนะคะ อย่างวันนั้นเราก็ชิมชามละหน่อย ที่เหลือต้องให้เพื่อนช่วยกินค่ะ ไม่งั้นชามเดียวจอดแน่ๆ อ้ะ

สำหรับเมนูที่เรากินแล้วประทับใจ (แต่บอกก่อนว่าชิมไม่ครบทุกเมนูนะคะ เพราะไม่สามารถจริงๆ) แล้วอยากเชียร์มีดังนี้ค่ะ

ของคาว

1. ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเนื้อวากิวริบอายญี่ปุ่นเอห้า 699++
สำหรับสายเนื้อ เป็นเมนูที่อยากให้สั่งค่ะ ถ้ากรณีสั่งแบบแห้ง ทางร้านจะลวกเนื้อมาเลยค่ะ แต่ถ้าสั่งแบบน้ำทางร้านจะแยกน้ำซุปร้อนๆ ใส่กามาต่างหาก และจะมาราดให้ตอนเสิร์ฟเราค่ะ เพื่อให้เนื้อไม่สุกจนแข็งเกินไป เนื้อนุ่มมากกกกกกกกก สมชื่อวากิวเอห้าค่ะ นุ่มนวล หอมกรุ่นเนื้อ น้ำซุปมีความกลมกล่อม หอมเครื่องแบบที่น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือควรเป็นค่ะ

 

 

2. ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกเนื้อสันคอออสเตรเลียนวากิวพร้อม 4 ทหารเสือ 369++ (ถ้าเป็นเนื้อสันคอออสเตรเลียนแองกัส หรือ เนื้อสันสะโพกจะราคาย่อมเยากว่านะคะ)
สี่ทหารเสือที่เพิ่มมาได้แก่ ลูกชิ้นเนื้อ เอ็นเนื้อตุ๋น แก้มวัวตุ๋น และลิ้นวัวตุ๋น ตัวตุ๋นทั้งหมดทำได้ดีเลยค่ะ นุ่ม เปื่อยกำลังดีแต่ไม่เละ ให้เทกซเจอร์ที่ดีเวลากินมากๆ แต่ถ้าเอาเราชอบสุดคือแก้มวัวตุ๋นค่ะ ให้ความรู้สึกนุ่มแต่แน่นกำลังดี เคี้ยวกำลังสนุกค่ะ อร่อยมากๆ



3. ก๋วยเตี๋ยวแห้งเนื้อสันคอออสเตรเลียดรายเอจ 399++
ที่แนะนำเมนูนี้ ก็เพราะกรณีถ้าอยากกินเนื้อดรายเอจ จะต้องสั่งเป็นเมนูแห้งเท่านั้นค่ะ ถึงจะสั่งได้ เมนูน้ำจะไม่สามารถสั่งดรายเอจได้นะคะ ตัวนี้ถ้าเป็นสี่ทหารเสือจะเป็นราคา 469++ ค่ะ ตัวเนื้อดรายเอจมันจะเป็นความนุ่มแบบที่ต่างจากเนื้อทั่วไปแล้วก็กลิ่นกับรสจะเข้มข้นกว่าเนื้อที่ไม่ดรายเอจนะคะ ถ้าใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงแนะนำให้ลองสั่งกินดูค่ะ

 

ตัวก๋วยเตี๋ยวแห้งจะมีความหวานและกลิ่นเฉพาะตัวของซีอิ๊วเพิ่มด้วยนะคะ ซึ่งถูกจริตเรามาก เพราะก๋วยเตี๋ยวแห้งบางร้านจะทำออกมาไม่มีรสและกลิ่นแบบนี้ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าเป็นเสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวแห้งนะคะ ตัวแห้งเราได้ลองกินทั้งวุ้นเส้นญ๊่ปุ่นและบะหมี่ไข่ ซึ่งเราชอบบะหมี่ไข่มากกว่านะคะ แต่สำหรับวุ้นเส้นญี่ปุ่น อย่างที่บอกว่าสั่งแห้งจะได้สัมผัสของเทกซเจอร์ที่ดีกว่าแบบน้ำเช่นกันค่ะ

4. เตี๋ยวเรือน้ำตกหมูตุ๋นเอสเพียว 5 ทหารเสือ 249++
ห้าทหารเสือประกอบด้วย ลูกชิ้นหมู แก้มหมูตุ๋น ขั้วตับหมู ตับหมู และเอ็นแก้วหมูค่ะ จากใจสายเนื้อ สำหรับคนไม่กินเนื้อวัว หมูก็ดีงามมากกกกกกกก นุ่ม อร่อย แก้มหมูตุ่นนุ่มหอม ขั้วตับหมูก็ดีงามมาก สำหรับใครที่ไม่กินเนื้อก็ยังคงดีงามมากเช่นกันค่ะ

 

5.ลวกจิ้ม ลิ้นวัวตุ๋น 149++ แก้มวัวตุ๋น 169++
อย่างที่บอกว่างานตุ๋นที่นี่ดีนะคะ ถ้าจะสั่งแนวลวกจิ้ม ก็แนะนำให้ลองสองตัวนี้ค่ะ (หรือถ้าใครอยากลองริบอายเอห้า เนื้อออส ก็มีเช่นกันนะคะ) ตัวนี้จะมีน้ำจิ้มของเขาโดยเฉพาะเลยค่ะ ซึ่งรสชาติเฉพาะตัวมาก ช่วยส่งรสได้ดีเลยค่ะ

 

6. หนุ่มออสอาบแดด 299++
เป็นเนื้อออสเตรเลียนวากิวแดดเดียวนั่นเองค่ะ เนื้อนุ่มมากกกกกกก แต่ก็มีความเด้งเคี้ยวสนุก เต็มปากเต็มคำมากค่ะ อร่อยๆ

 

7. เต๋าทองคำ 49++
ตัวนี้คือกากหมูที่อยู่คู่ก๋วยเตี๋ยวเรือนั่นเองค่ะ แต่ที่นี่ทำออกมาได้ดีมาก คือ ไม่แห้งแข็ง มีความกรอบนอกนิดๆ ข้างในนุ่มด้วยไขมัน บอกไม่ถูก มันอร่อยมากกกกกกกก คือ ตอนกินต้องไม่คิดถึงแคลฯ อะค่ะ ซัดไปนัวๆ รัวๆ โอ๊ยยย อร่อยยยย

 

8. คอหมูคั่วพริกเกลือ 179++
เป็นอีกเมนูนี่เชียร์มากๆ ค่ะ รสชาติดีมากๆ อร่อยสุดๆ ค่ะ เมนูนี้ทำออกมาดีทั้งรสชาติและกลิ่นค่ะ อร่อยมากๆ

 

9. ยำเนื้อสันคอออสเตรเลียนแองกัสย่างภูเขาไฟ 299++
เนื้อสันคอนุ่มๆ ย่างแล้วเอามายำ รสชาติดีค่ะ เทกซเจอร์เนื้อก็นุ่มนวลมาก ใครที่ชอบอะไรที่รสจัดขึ้นมาหน่อยก็เป็นอีกเมนูที่ควรสั่งเช่นกันนะคะ

 

 

10. ไข่มังกร 149++
มันคือลูกชิ้นกุ้ง ที่จะมีดิปปิ้งคล้ายอาจาดมาด้วยนะคะ แต่เรากินแบบเปล่าๆ ไม่กินกับเครื่องจิ้มเลยก็ว่าอร่อยแล้วค่ะ เนื้อกุ้งเยอะมาก เด้งดึ๋งเคี้ยวสนุกมากๆ ค่ะ

 

เมนูอื่นๆ - ชุดซุปเห็ดทรัฟเฟิลครัวซองท์ฝรั่งเศส 199++
ปริมาณจะเยอะกว่าในบุฟเฟต์นะคะ ตัวนี้คงไม่ต้องพูดมากนะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูดังมากของคอปเปอร์ที่หากอยากกินเมนูนี้แต่ไม่ได้ขนาดอยากไปกินบุฟเฟต์ที่ร้านข้างบน ก็สั่งได้เช่นกันค่ะ



ของหวาน

1. มุกหอมอันดามัน 189++
มันคือบิงซูขนมโค ที่เดียวในโลกค่ะ สำหรับเมนูบิงซูทุกเมนู แนะนำให้สั่งตั้งแต่ยังกินของคาวไม่จบดีนะคะ เพราะใช้เวลาทำนานพอควรเหมือนกัน (จนกว่าทางร้านจะเพิ่มเครื่องทำบิงซูหละค่ะ 555) ตัวเนื้อบิงซูของที่นี่ สำหรับการกินบิงซูร้านดังหลายๆ ร้านมาแล้ว เราชอบของที่นี่ที่สุดค่ะ เนื้อบิงซูละเอียดแต่แน่น รสชาติมาเต็มมาก ไม่เบาๆ เหมือนกินแต่น้ำแข็งเหมือนที่อื่น บิงซูหอมกะทิ หวานกำลังดี กินกับขนมโคก็ดีงามมากค่ะ แล้วก็รู้สึกว่ารสจะเข้มข้นกลมกล่อม กลิ่นชัดกว่าขนมโคในไลน์บุฟเฟต์ด้านบนด้วยนะคะ เราชอบกว่าตัวขนมโคในไลน์คอปเปอร์บุฟเฟต์อีกอ้ะ

 

2. บิงซูลอดช่อง 169++
เนื้อบิงซูทั้งเทกซเจอร์และรสชาติ เข้มข้น ชัดเจนเหมือนเมนูแรกค่ะ ของที่นี่ใช้ลอดช่องของวัดเจษนะคะ เพราะงั้นวางใจได้ เค้าจะแยกตัวน้ำกะทิน้ำตาลออกมาให้ราดตามความชอบ แต่เราว่าราดหมดก็อร่อยพอดีนะคะ ไม่ได้หวานเกินไปค่ะ เป็นอีกหนึ่งบิงซูที่ชอบมากเช่นกันค่ะ

 

3. ขนมถ้วยทรัฟเฟิล ถ้วยละ 39++
ขนมถ้วยทรัฟเฟิลที่เดียวในโลกอีกเช่นกันค่ะ ราคาถ้วยละ 39++ บาท ล่าสุดเหมือนจะมีกำหนดว่า 1 คนสั่งได้ไม่เกิน 4 ถ้วยนะคะ (เพราะตอนเปิดวันแรกๆ มีหมดก่อนจะปิดร้าน เลยอาจจะต้องจำกัดเพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสทานกันมากรายขึ้นค่ะ) หน้าขนมถ้วยมีหยอดน้ำมันทรัฟเฟิลและปิดทอง+เงินด้วยค่ะ ตัวนี้กลิ่นทรัฟเฟิลมาบางๆ กำลังดีนะคะ ก็ถือเป็นจุดขายอีกอย่างที่น่าลองค่ะ

 

ส่วนบิงซูอีกสองตัวคือ บิงซูชานมไต้หวัน+เฉาก๊วย 169++ กับ บิงซูจ้ำบ๊ะ 169++ (ใช้ขนมปังบริยอชนะคะ) ตัวนี้เพื่อนอีกกลุ่มชอบบิงซูชานมไต้หวัน+เฉาก๊วยกันนะคะ ส่วนบิงซูจ้ำบ๊ะ หนุ่มอีกคนชอบ สำหรับเรา เราชอบสองตัวแรกมากกว่าค่ะ แต่อยากให้ทำจ้ำบ๊ะแบบเป็นปาท่องโก๋ย่างมั่งจัง (มีแต่แม่หละค่ะที่ทำให้กิน ที่อื่นหากินไม่ได้เยย) ตัวเนื้อบิงซูไม่ได้หวานมากค่ะ ความหวานจะไปอยู่ที่น้ำหวานที่อยู่ที่ขนมปังบริยอชมากกว่านะคะ

 

 

ของหวานอีกตัวที่ไม่ได้ชิม คือ ไอศกรีมมะพร้าวออร์แกนิค 129++ ตัวนี้ใช้มะพร้าวจากบ้านแพ้ว สมุทรสาคร เป็นไอศกรีมมะพร้าวอ่อนค่ะ เอาไว้ถ้าได้ไปอีกจะลองไปชิมดูนะคะ

ปิดท้ายกันด้วยเครื่องดื่มค่ำ วันนั้นชิมสองตัวนะคะคือ น้ำเก็กฮวย 89++ และบ๊วยสไปรท์ 89++ ตัวบ๊วยสไปรท์ บ๊วยจะมาเป็นบอลและแยกสไปรท์มาให้เทผสมต่างหากค่ะ ส่วนอีกเมนูที่ทำเป็นบอลเหมือนกันคือ น้ำกระเจี๊ยบแต่จะใส่มาในน้ำเลยนะคะ นอกจากนั้นก็จะมีโอเลี้ยง (ที่สายโอเลี้ยงบอกว่าดีย์มาก) กับชาไทย (วันนั้นไม่ได้ชิมค่ะ) น้ำเก็กฮวยเข้มข้น หวานไม่มาก หอม กลิ่นชัด อารมณ์เหมือนได้กินน้ำเก็กฮวยตามร้านขายยาอะค่ะ ถ้าใครคิดถึงน้ำเก็กฮวยประมาณนั้นก็เชียร์เลยนะคะ ส่วนบ๊วยสไปรท์ก็จะเปรี้ยวๆ หวานๆ สดชื่นดีค่ะ โดยส่วนตัวที่ได้ชิมก็ชอบทั้งสองตัวเลยนะคะ

 


สรุปแล้วเป็นร้านใหม่ในเครือคอปเปอร์ที่เราว่าดีงามมากค่ะ เหมาะสำหรับใครที่อาจจะกินไม่ได้เยอะเพียงพอที่จะอยากไปกินบุฟเฟต์ และอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อยๆ ซุปเห็ดทรัฟเฟิล รวมทั้งเมนูต่างๆ ตามที่รีวิวมา ร้านนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีมากๆ นะคะ อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/reviews/d8542d51e6ee4d2092b331ed8b38968f?ref=ct
 
เมนูแนะนำ:  ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อริบอายวากิวญี่ปุ่นเอห้า, บิงซูขนมโค, คอหมูคั่วพริกเกลือ, บิงซูลอดช่อง, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อดรายเอจแห้ง, หนุ่มออสอาบแดด
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿300

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านฟาสต์ฟู้ด / จานด่วน | ลำลอง

ด้วยความที่ลดและคุมน้ำหนักด้วยการ IF และโลว์คาร์บมาซักระยะ ทำให้การกินเฟรนช์ฟรายด์เป็นเรื่องไกลตัวมากค่ะ พอได้รู้ว่ามีร้านคนไทยที่คิดค้นการเอาเนื้อปลามาทำเป็นฟิชฟรายด์ก็หูผึ่งทันที อย่างนี้ต้องลองแล้วววว

พิกัดของร้านนี้อยู่เซ็นทรัลพระราม 9 นะคะ ชั้นบีหน้าท็อปส์เลย ถ้าลงบันไดเลื่อนไป ร้านจะอยู่ฝั่งขวาค่ะ ที่นั่งจะมีโต๊ะแค่ 1 ชุดนะคะ ส่วนใหญ่ก็จะซื้อเพื่อเทคอะเวย์กันมากกว่าหละค่ะ ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาแรกและสาขาเดียว ณ ขณะนี้นะคะ แต่ทางร้านเห็นว่าจะมีแพลนไปเปิดสาขาอื่นด้วยนะคะ

ตอนนี้โปรฯ ของทางร้านคือ แอดไลน์ร้านรับน้ำมะนาวโซดาฟรีค่ะ

ฟิชฟรายด์ที่นี่ทำจากปลาทรายและแป้งนะคะ (เพื่อความกรอบ) การใช้ปลาทรายมีข้อดีคือ มันจะไม่คาวเลยค่ะ

โดยราคาจะมีด้วยกันสามไซส์นะคะ คือ M 55 บาท / L 79 บาท และ XL 99 บาทค่ะ โดยไซส์เอ็กซ์แอลจะเป็นไซส์ที่เลือกสองรสชาติได้ นอกนั้นจะเลือกได้รสชาติเดียวค่ะ นอกนั้นจะซื้อเป็นเซ็ตที่รวมเครื่องดื่มด้วยก็มีเช่นกันค่ะ โดยถ้าเลือกเป็นเซ็ตจะมีพร้อมน้ำมะนาวโซดา ราคาจะเพิ่มจากฟิชฟรายด์เปล่าๆ 25 บาทต่อเซ็ตค่ะ (จากที่ขายแยกน้ำมะนาวโซดา 45 บาท ยูสุฯ 65 บาทค่ะ) แต่ถ้าเลือกเป็นยูสุโซดาจะเพิ่มอีก 20 บาท ซึ่งถ้าถามเรา เราชอบยูสุกว่านะคะ อร่อย หอมดีค่ะ

สำหรับรสชาติ จะมีรสชีส กระเทียมและหอมใหญ่ หมาล่า และผงพริกศรีราชาค่ะ

โดยส่วนตัวเราจะชอบรสชีส (นัวชีสดีค่ะ) และพริกหมาล่า (รสเข้มข้น เผ็ดๆ ไม่เลี่ยน) นะคะ เป็นสองรสที่กินแล้วถูกจริตค่ะ

สำหรับการกิน แนะนำให้กินตั้งแต่ร้อนๆ นะคะ (ที่นี่ใช้เครื่องทอดราคา เอิ่ม...เบาๆ ค่ะ 4 แสน) เพราะจะยังได้ความกรอบและรสขาติที่ดีแบบที่ควรเป็น แต่ถ้ากินไม่หมด/กินไม่ทัน จนมันนิ่มซะก่อนแล้ว อย่าทิ้งเชียวค่ะ ทำแบบเราเลย คือ เราอ้ะกินไม่หมด ห่อกลับบ้านแล้วก็เอาไว้ข้างนอกนี่หละค่ะ (แต่ม้วนปิดถุงไว้นะคะ ไม่ได้เปิดให้อากาศเข้า) พอเช้าอีกวัน เอาเข้าหม้ออบลมร้อน ตอนออกมาเหมือนจะยังไม่กรอบ พอทิ้งไว้สักพัก คราวนี้อะค่ะ กรอบกร้วมมากกกกกกก สุดๆ ค่ะ อร่อย 555

สรุปแล้ว เหมาะสำหรับใครที่อยากกินฟรายด์แต่กลัวอ้วนนะคะ (ปริมาณคาร์บน้อยกว่าเฟรนช์ฟรายด์ล้วนๆ แน่นอนค่ะ) แล้วต่อให้กินไม่หมด ก็สามารถใส่หม้อทอดได้ ไม่เสียรสชาติเลยค่ะ ใครอยากลองก็ไปกันได้นะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 4  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารนานาชาติ | ร้านในคอมมูนิตี้มอลล์ | สเต็ก | อาหารทะเล | บุฟเฟ่ต์ | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | โอกาสพิเศษ

วันนี้มารีวิวร้านบุฟเฟต์ราคาต่ำกว่าพันที่ชอบที่สุดเช่นเคยนะคะ (แต่ราคาล่าสุดเกินพันไปนิดหนึ่งละล่ะ) กับ 36 เมนูใหม่ ซึ่งมีเฉพาะ 6 เดือนนี้ (ถึงแค่ 31 กรกฎาคมค่ะ) กับการฉลอง 6 ปีของร้านคอปเปอร์ บุฟเฟต์ ณ เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้านั่นเองค่ะ

ณ ปัจจุบัน คอปเปอร์มีการปรับราคาขึ้นนะคะ โดยเพิ่ม ++ มานั่นเองหละค่ะ

ราคาบุฟเฟ่ต์ ผู้ใหญ่ คนละ 999 บาท++ (1,176 บาท) โดยสามารถนั่งทานได้ 2 ชั่วโมงค่ะ

สำหรับการจอง สามารถจองผ่านเว็บฮับแห่งหนึ่งได้นะคะ (ซึ่งจะมีโปรฯ ที่พิเศษๆ เช่น กินล็อบสเตอร์ไม่อั้น หรืออื่นๆ) หรือจะจองผ่านไลน์ของทางร้านก็ได้เช่นกันค่ะ


ซึ่ง 36 เมนูพิเศษ ก็จะแบ่งเป็นหมวดดังนี้นะคะ

อาหารญี่ปุ่น
1. ซาชิมิฮอกไกโดโฮตะเตะ (Hokkaido Hotate Sashimi) **
2. ซาชิมิปลาฮามาจิ (Hamachi Sashimi) *
3. ซาชิมิทูน่าครีบเหลือง (Yellowfin Tuna Sashimi) *
4. มินิ ชิราชิ (Mini Chirashi) *
5. ซูชิฮามาจิ ซอสไดนาไมท์ (Dynamite Hamachi Sushi) **
6. ซูชิฮามาจิ ไข่ปลาแซลมอน ซอสยูซุ (Hamachi Ikura Yuzu Sushi) **
7. ซูชิปลาไหลญี่ปุ่น (Unagi Sushi) *
8. ซูชิฟัวกราส์ (Foie Gras Sushi)
9. ซูชิปลาสุงิพอนซึยูซุ (Yuzu Ponzu Sugi Sushi) *
10. ซูชิทูน่าซึเกะ (Yellowfin Tuna Tsuke Sushi)
11. ซูชิทูน่าเนงินูตะ (Yellowfin Tuna Negi Nuta Sushi)
12. ซูชิกุ้งชีสเบิร์นไฟ (Aburi Cheese Akaebi Sushi)
13. ซูชิคานิมิโสะ (Kani Miso Sushi)
14. ซูชิซาบะรมควัน (Smoked Saba Sushi)

Pasta พาสต้า/สปาเก็ตตี้
15. เฟตตูชินี่หอยเชลล์ซอสครีมทรัฟเฟิล (Hokkaido Scallop Truffle Fettuccine) **
16. สปาเก็ตตี้อาราเบียตต้ากุ้ง (Shrimp Arrabbiata) **
17. สปาเก็ตตี้พริก กระเทียม เมนไทโกะ (Mentaiko Aglio Olio Spaghetti) *
18. สปาเก็ตตี้เพสโต้อัลมอนด์ (Almond Pesto Spaghetti) *
19. เฟตตูชินี่ซอสครีมเมนไทโกะ (Creamy Mentaiko Fettuccine) **
20. เพนเน่แอนโชวี่ (Anchovy Penne) **
21. สปาเก็ตตี้โบโลเนสเนื้อวากิว (Australian Wagyu Spaghetti Bolognese)

Grill อาหารย่าง
22. สเต๊กเนื้อวากิวซอสชีสทรัฟเฟิล (Australian Wagyu Steak with Truffle Cheese Sauce)
23. สเต๊กปลากะพง ซอสต้มยำ (Seared Sea bass with Tom Yum Sauce) *
24. สเต๊กปลากะพง ซอสเลมอนดิล (Seared Sea bass with Lemon Dill Cream Sauce)
25. ปลาซาจินึ่ง ซอสซัลซ่ามะม่วงยูซุ (Steamed Sachi with Yuzu Mango Salsa) *
26. หอยเชลล์อบเนยกระเทียม (Garlic Butter Scallop)

อาหารไทย แนวรสแซ่บ จัดจ้าน
27. ยำเนื้อวากิวออสเตรเลีย (Spicy Australian Wagyu Beef Salad) **
28. ตำเส้นจันท์ปลาร้าปูนิ่มทอด (Thai Rice Noodle Salad with Pickled Fish Sauce and Soft-shell Crab) **
29. ตำข้าวโพดไข่เค็ม (Thai Spicy Corn Salad with Salted Egg)
30. ผัดไทยปูนิ่ม (Pad Thai with Soft-shell Crab) *
31. ข้าวกะเพรากุ้ง + ไข่ออนเซน (Spicy Holy Basil Shrimp with Jasmine Rice and Onsen Egg)
32. ต้มยำทะเล (Seafood Tom Yum)

Salad สูตรพิเศษ
33. สลัดอกเป็ดซอสส้มทารากอน (Smoked Duck Breast Salad with Orange Tarragon Sauce) *
34. สลัดปูนิ่มซอสวาซาบิมาโย (Soft-shell Crab Salad with Wasabi Mayo)

ขนมหวาน
35. ครัวซองต์ไอศกรีมทรัฟเฟิล (Croissant with Truffle Ice Cream) *
36. ซาลาเปามัจฉะลาวา (Uji Matcha Lava Bu)

จากเมนูข้างบนจะเห็นว่าเรามีใส่สองดอกจัน (คือ ชอบมาก ถูกปาก ถูกจริตตัวเอง) ซึ่งจะเห็นว่า พาสต้านี่เราใส่ไว้แทบทุกเมนูค่ะ 555 เพราะพาสต้าคือดีจริงๆ อ่า ชอบมาก แต่ก็อย่างที่รู้ว่าการกินบุฟเฟต์ เมนูพาสต้าเป็นเมนูตัดกำลังได้ง่าย แต่มันอร่อยอะค่ะ เพราะงั้นแนะนำให้ไปกับเพื่อนหลายๆ คน สั่งแล้วแบ่งจอยกันดีกว่าค่ะ เพราะอยากให้กินทุกอันที่เรากาไว้สองดอกจันจริงๆ ค่ะ

ส่วนที่เป็นดอกจันเดียวคือ อร่อยค่ะ แต่ไม่ได้ชอบเท่าสองดอกจัน แต่ก็เป็นเมนูที่อยากให้ลองเช่นกันค่ะ

แต่ต้องบอกก่อนว่า วันนั้นเราไม่ได้ชิมครบทุกเมนูนะคะ (ใครชิมครบ ข้าน้อยขอกราบเบญจางคประดิษฐ์ มิสามารถจริงๆ ค่ะ แง) เพราะงั้นอาจจะมีหลายเมนูที่อร่อยเช่นกัน แต่เราไม่ได้กาดอกจันไว้ให้ค่ะ ยังไงถ้าไปก็ลองเคลียร์พุงชิมให้ครบละกันนะคะ (ขนาดวันนั้นคือกินแต่เมนูใหม่ กะเมนุเดิมคือแค่เครื่องดื่มกับหอยนางรมนะคะ แต่กินครบ 36 เมนูไม่ไหวจริงๆ ค่ะ)

ขอบรรยายเฉพาะเมนูที่เราได้กินแล้วชอบนะคะ

ซาชิมิฮอกไกโดโฮตะเตะ (Hokkaido Hotate Sashimi) โฮตะเตะสดมากกกก อร่อย หวาน เล่นเอาฟินมากเลยค่ะ ใครที่ชอบกินโฮตะเตะอยู่แล้วไม่อยากให้พลาดนะคะ ดีงามจริงๆ ค่ะ

ซาชิมิปลาฮามาจิ (Hamachi Sashimi) กับซาชิมิทูน่าครีบเหลือง (Yellowfin Tuna Sashimi) สด หวานเช่นกันค่ะ แต่ด้วยความที่เราปังไปกับโฮตะเตะแล้ว เลยแค่ชิมอย่างละชิ้นค่ะ แหะๆ

มินิ ชิราชิ (Mini Chirashi) มาด้วยขนาดเล็กๆ สำหรับ 1 คนกิน ซึ่งดีมากค่ะ จะได้มีพื้นที่สำหรับเมนูอื่น 555 เหมาะสำหรับใครที่อยากกินข้าวและปลาดิบที่หลากหลายค่ะ

ซูชิฮามาจิ ซอสไดนาไมท์ (Dynamite Hamachi Sushi) ซูชิคำนี้จะมีซอสที่อยู่ด้านบนซึ่งเป็นสูตรพิเศษของเชฟค่ะ มีหลายรสชาติในคำเดียว มีความเผ็ดนิดๆ ทำให้เราชอบมากเลย

ซูชิฮามาจิ ไข่ปลาแซลมอน ซอสยูซุ (Hamachi Ikura Yuzu Sushi) ตัวนี้มีความสดหวานของฮามาจิ เค็มนิดๆ ของไข่ปลาแซลมอน และหอมกลิ่นยูสุค่ะ เราว่าเป็นการผสมรสและกลิ่นที่พอดีหละ อร่อย

ซูชิปลาไหลญี่ปุ่น (Unagi Sushi) ตัวนี้มีความชอบปลาไหลเป็นส่วนตัว แหะๆ เลยติดไว้ให้ 1 ดอกจันค่ะ ปลาไหลหอม นิ่ม อร่อยค่ะ ถ้าให้เนื้อปลาชิ้นใหญ่กว่านี้จะยิ่งปลื้มมาก (แต่ได้ข่าวว่าแค่นี้ป้าก็กินไม่ครบ 36 เมนุไม่ใช่เรอะ)

ซูชิปลาสุงิพอนซึยูซุ (Yuzu Ponzu Sugi Sushi) ปลาสุงิสดดีค่ะ มีความเปรี้ยวจากพอนสึมานิดหนึ่งและหอมจากยูซุค่ะ เป็นคำที่สดชื่นดีนะคะ

เฟตตูชินี่หอยเชลล์ซอสครีมทรัฟเฟิล (Hokkaido Scallop Truffle Fettuccine) คือเป็นคนชอบเส้นเฟตตูชินี่อยู่แล้วด้วยค่ะ พอเจอกับซอสครีมทรัฟเฟิล เส้นเฟตตูชินี่นี่จะอุ้มซอสไว้ดีมาก ทำให้รสชาติและกลิ่นในแต่ละคำคือเต็มปากเต็มคำมากๆ ค่ะ ความเป็นหอยเชลล์ก็ทำให้ไม่กลบรสและความหอมของครีมทรัฟเฟิลด้วย อร่อยถูกจริตเราค่ะ

สปาเก็ตตี้อาราเบียตต้ากุ้ง (Shrimp Arrabbiata) สปาเก็ตตี้ผัดซอสมะเขือเทศ มีรสเผ็ดเล็กน้อยค่ะ ตอนแรกจากหน้าตาไม่ถูกจริตค่ะ แต่เพื่อนเชียร์มาก พอชิมก็เออ อร่อยอ่าาา ความเผ็ดทำให้ไม่เลี่ยน และกุ้งก็สดมาก อร่อยค่ะ

สปาเก็ตตี้พริก กระเทียม เมนไทโกะ (Mentaiko Aglio Olio Spaghetti) สปาเก็ตตี้ผัดกับน้ำมันมะกอก พริก กระเทียม แบบแห้งๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ปลาคอด ทำให้มีความมันนัวเพิ่มขึ้นค่ะ ปกติเราชอบสปากเก็ตตี้พริกกระเทียมเบคอนอยู่แล้ว พอมีเมนไทโกะด้วย เลยทำให้ได้รสชาติที่แตกต่างไปค่ะ อร่อย

สปาเก็ตตี้เพสโต้อัลมอนด์ (Almond Pesto Spaghetti) สปาเก็ตตี้ซอสเพสโต้ถั่วอัลมอนด์ใส่ใบโหระพา ออกรสหอมมัน แต่ไม่เลี่ยนค่ะ ครีมมี่นิดๆ อันนี้เพื่อนเราชอบมาก เราก็ว่าอร่อยดีนะคะ ถ้าใครอยากกินอะไรครีมมี่แต่ไม่เลี่ยน เมนูนี้ได้เลยค่ะ

เฟตตูชินี่ซอสครีมเมนไทโกะ (Creamy Mentaiko Fettuccine) เฟตตูชินี่คลุกเคล้าซอสครีม เข้มข้น หอมมัน กินกับไข่ปลาคอดสไตล์ญี่ปุ่น ตัวนี้คลุกเคล้าก่อนกินนะคะ ซอสครีมก็นัวแล้วเจอไข่ปลาคอดเข้าไปอีกเลยยิ่งครีมมี่มาก อร่อยมากค่ะ (ความเฟตตูชินี่ด้วยอะนะ อย่างที่บอกว่าเราชอบเฟตตูฯ ค่ะ) เราว่าเค้าเลือกได้ดีที่เอาเส้นเฟตตูฯ มาทำอะไรกับซอสที่มันครีมมี่ๆ อะค่ะ มันทำให้ได้รสชาติเต็มปากเต็มคำดี

เพนเน่แอนโชวี่ (Anchovy Penne) เพนเน่คือเส้นพาสต้าแบบท่อกลวง เมนูนี้ผัดพริกแห้ง กระเทียม แล้วก็ใส่แอนโชวีหรือปลาเค็มแบบฝรั่งอะนะคะ รสจัดจ้านดีค่ะ เราชอบกินปลาเค็มอยู่แล้ว เจอตัวนี้เข้าไปนี่ ได้อารมณ์ใกล้ๆ ยำปลาเค็มของโปรดค่ะ อร่อยอีกแล้ว 555

สเต๊กปลากะพง ซอสต้มยำ (Seared Sea bass with Tom Yum Sauce) ปลากะพงสดแน่นค่ะ กินกับซอสต้มยำทำให้มีรสชาติที่คุ้นเคยมาด้วยค่ะ เลยเป็นอีกเมนูที่ชอบ

ปลาซาจินึ่ง ซอสซัลซ่ามะม่วงยูซุ (Steamed Sachi with Yuzu Mango Salsa) ซอสซัลซ่ามะม่วงยูซุ ต้องบอกก่อนว่าซอสจะมีกลิ่นเครื่องเทศแมกซิกันด้วยนะคะ ถ้าใครไม่ชอบขอให้เลี่ยงค่ะ แต่เราชอบ มันแปลกดีค่ะ

ยำเนื้อวากิวออสเตรเลีย (Spicy Australian Wagyu Beef Salad) ตัวนี้คือเชียร์สุดๆ ค่ะ ชอบมากกกก เนื้อดี หอม ย่างกำลังดี ไม่สุกเกินไป (มีระดับความสุกเดียวค่ะ ซึ่งเป็นระดับความสุกที่เราชอบอยู่แล้ว แต่คนที่ชอบกินแบบสุกมากๆ อาจจะไม่กล้ากิน แต่อยากให้ลองมากๆ ค่ะ) น้ำยำรสจัดจ้าน คือ ดีมากกกก ถ้าไม่ติดว่าจะพยายามชิมเมนูอื่นด้วย มีเบิ้ลหลายรอบแน่ค่ะ ดีงามจริงๆ ใครชอบกินเนื้อ ชอบกินรสจัด ต้องโดนนะคะ

ตำเส้นจันท์ปลาร้าปูนิ่มทอด (Thai Rice Noodle Salad with Pickled Fish Sauce and Soft-shell Crab) คือดีมากกกกค่ะ ไม่ได้สั่งรสจัดพิเศษ แต่ตำมาให้จัดจ้านมาก เผ็ดกำลังดี เส้นจันท์อุ้มรสชาติของน้ำส้มตำได้มากขึ้น ทำให้ช่วยบาลานซ์กับความทอดของปูนิ่มได้กำลังดีค่ะ

ผัดไทยปูนิ่ม (Pad Thai with Soft-shell Crab) ผัดไทยที่นี่อร่อยอยู่แล้วค่ะ พิเศษคือ มีปูนิ่มด้วยนี่แหละ เลยให้หนึ่งดอกจันไว้ค่ะ เป็นอีกเมนูที่ควรกินค่ะ

สลัดอกเป็ดซอสส้มทารากอน (Smoked Duck Breast Salad with Orange Tarragon Sauce) อกเป็ดและซอสส้มอร่อยค่ะ เลยทำให้เมนูนี้อร่อยไปด้วยนะคะ

ส่วนของหวานทั้งสองเมนู ตัวลาวามัจฉะยังไม่ถูกใจเราเท่าตัวลาวาไข่เค็มค่ะ ส่วนครัวซองต์ไอศกรีมทรัฟเฟิล (Croissant with Truffle Ice Cream) ตัวไอศกรีมคือรสชาติเดียวกับซุปทรัฟเฟิลเลยค่ะ แต่พอมาทำเป็นไอติม ก็ทำให้หวานมันขึ้นไปอีกนะคะ แปลกเก๋ดีอยู่ค่ะ


โดยรวมสำหรับ 36 เมนูนี้ เราชอบหลายเมนูมากค่ะ กะว่าถ้าได้ไปอีก จะไปชิมเมนูที่ยังไม่ได้ชิมค่ะ เผื่อมีเมนูถูกใจเพิ่มอีก 555 ถ้าใครอยากลองก็จองให้ได้ภายใน 31 ก.ค.นี้นะคะ จะได้ลองกินกันค่ะ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
เมนูแนะนำ:  ซาชิมิฮอกไกโดโฮตะเตะ, ซูชิฮามาจิ ซอสไดนาไมท์, ซูชิฮามาจิ ไข่ปลาแซลมอน ซอสยูซุ, เฟตตูชินี่หอยเชลล์ซอสครีมทรัฟเฟิล
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿1177

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านในคอมมูนิตี้มอลล์ | ปิ้งย่าง บาร์บีคิว | บุฟเฟ่ต์ | บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง | ลำลอง

สวัสดีค่าาา



สำหรับวันนี้จะพาไปกินบุฟเฟต์อีกร้านที่ชอบมาก และเวลามีเพื่อนสายปิ้งย่างที่กินเนื้อวัวได้ให้แนะนำ ก็จะแนะนำให้ไปร้านนี้ตลอดค่ะ นั่นก็คือร้าน Tora Yakiniku นั่นเอง ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีสองสาขาด้วยกันนะคะ คือ สาขาลาซาลอเวนิว และสาขากัลปพฤกษ์ค่ะ แต่วันนี้จะพาไปกินที่สาขากัลปพฤกษ์นะคะ


สำหรับพิกัดร้าน เราใช้ google map เหมือนเดิมค่ะ พิกัดตรงอยู่นะคะ โดยจะมีที่จอดรถของคอมมูนิตี้ที่นี่ตรงหน้าร้านเลยค่ะ วันนั้นไปวันธรรมดา ที่จอดรถหาง่ายเลยค่ะ หรือใครต้องการถามทาง โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 090 986 2996




ลักษณะของร้านสาขานี้จะเป็นอาคารพาณิชย์สองห้องนะคะ ตามภาพเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าเราไปช่วงกลางวันวันธรรมดา คนเลยโล่งๆ นะคะ

 

 

 


ที่ร้านจะมีน้ำจิ้มให้สามแบบนะคะ สำหรับเราที่เน้นกินเนื้อ ไม่สนใจซีฟู้ด ก็จะกินน้ำจิ้มขวดซ้ายอย่างเดียว พร้อมกับขอพริกและกระเทียมมาด้วยค่ะ (ติดรสจัดจริงๆ ค่ะ แหะๆ)

 


โดยที่มากินรอบนี้ ก็เนื่องด้วยทางร้านจัดราคาใหม่เป็นระดับ Elite ค่ะ (ซึ่งตอนก่อนหน้านี้เราว่าตัวท็อปสุดของเขาคือ Grand ก็ดีงามมากแล้วนะคะ แต่พอไปกินอีลิทนี่ยิ่งแบบบบบบ...คือดือออออ) เพื่อฉลองการครบรอบ 6 ปีของร้านนั่นเองค่ะ เพราะงั้นเผื่อสายเนื้อ+บุฟเฟต์คนไหนต้องการหาร้านฉลองปีใหม่ ก็แนะนำให้ลองไปโดนที่ร้านนี้กันนะคะ


กล่าวคือ ปัจจุบัน ราคาบุฟเฟต์ของร้านนี้ จะมีด้วยกันสี่ราคาคือ

599++ / 999++ / 1299++ / 1799++ (อีลิทตัวใหม่)

โดยจะสามารถรับประทานอาหารได้ 2 ชม. และสั่งอาหารได้ 1.45 ชั่วโมงค่ะ

 


ทั้งนี้สำหรับราคาอีลิทจะมีเมนูมาเพิ่มได้แก่  เนื้อวากิว A4 และ F1, เนื้อออสเตรเลีย marbling score 8/9, หมูดำ Kagoshima (ใครไม่กินเนื้อ แต่กินหมูได้ก็ดีงามมากค่ะ) ซูชิ 4 King ฟัวกราส์ Lobster miso โทระไคเซกิเซ็ต และ ของหวานอีก 5 เมนูซึ่งมี Cold Brew Bubble ที่มีกิมมิคให้ถ่ายวีดิโอลงไอจี/เฟซกันได้ด้วยค่ะ แฮร่...


แน่นอนว่าสายเนื้ออย่างเรา ขอเริ่มต้นด้วยเนื้อวัวก่อนเลยนะคะ อีลิทจะมีเนื้อญี่ปุ่นเพิ่มมา 2 และออสเตรเลียอีก 2 ค่ะ

1.4 Japanese Wagyu Beef เนื้อวากิวญี่ปุ่น A4

เนื้อส่วน Chuck Rib (เนื้อส่วนซี่โครง) ระดับ A4 จากญี่ปุ่น เป็นส่วนที่มีไขมันแทรกลายหินอ่อน ได้รับรางวัลเหรียญทองในการประกวด วัววากิวระดับชาติ ครั้งที่ 11 ปี 2017 ประเทศญี่ปุ่น เนื้อส่วนนี้จะมีไขมันเยอะที่สุดในบรรดาเนื้อ 4 แบบที่เพิ่มขึ้นมาค่ะ ซึ่งเราชอบมาก ละลายมาก นุ่มฟินปากสุดๆ เลยค่ะ

 

2. F1 Japanese Wagyu Super Karubi เนื้อวากิวญี่ปุ่น F1 ซุปเปอร์คารุบิ

เนื้อ F1 เป็นลายหินอ่อนเช่นกัน แต่มีปริมาณไขมันแทรกกำลังดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป  F1 Wagyu คือเนื้อวากิวขนดำ ผสมกับ วากิวสายพันธุ์ท้องถิ่น ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น กลิ่นเนื้อหอมชัดเจน นุ่มกำลังดี แต่ยังมีความเป็นเนื้อมากกว่าตัวแรกนะคะ อร่อยอีกเช่นกัน เนื้อสองตัวของญี่ปุ่นที่เพิ่มมานี่เราชอบมากทั้งสองตัวเลยนะคะ ดีงามมากๆ อ้ะ คือ ตอนกินตัวแกรนด์ก็ว่าดีงามแล้ว เจอตัวเนื้อของอีลิทเข้าไปนี่ ลืมแกรนด์ไปเลยค่ะ แหะๆ

 


3. Australian Wagyu Marbling Score 8/9

เนื้อวากิวออสเตรเลีย เกรด 8/9 มีมันแทรกในเนื้อค่อนข้างเยอะ ตัวกลิ่น รส และเทกซเจอร์จะแตกต่างจากญี่ปุ่นนะคะ แต่ก็อร่อยมากเช่นกัน ใครที่ไม่ได้ติดเฉพาะเนื้อญี่ปุ่น แต่ชอบกินเนื้อที่มีเทกซเจอร์เคี้ยวได้เด้งสู้ฟันมากกว่า กลิ่นจะเป็นอีกแบบ แต่ไม่เหนียวนะคะ ก็ลองกินตัวนี้ได้ค่ะ เราชอบเช่นกัน 555




4. Wagyu Jyou Zabuton เนื้อวากิวออสเตรเลียโจซาบูตง

เป็นเนื้อส่วนสันคอ ที่จะตัดแต่งเอาเฉพาะช่วงแกนกลางมาใช้ เป็นเนื้อที่ไม่ได้มีไขมันแทรกเยอะเหมือนกับสามตัวก่อนหน้า แต่ลายก็ยังงดงามอยู่นะคะ มีเทกซเจอร์ให้เคี้ยวมันฟันที่สุดในบรรดาเนื้อสี่ตัวที่เพิ่มมาของอีลิทค่ะ เนื้อนุ่ม ได้รสชาติเนื้อเต็มๆ ใครเลี่ยนมันในเนื้อ แนะนำให้กินตัวนี้แทรกๆ ไปนะคะ


ส่วนตัวแกรนด์ก็จะมีเนื้อสี่ตัวนี้ (ซึ่งสำหรับเราก็เทพและฟินแล้วนะคะ) นั่นก็คือ Wagyu Misuji, Wagyu Jyou Karubi, Wagyu Jyou Rosu, และ US Choice Short Plate ค่ะ ดูลาย ดูล้ายยยยย มันดืออออแล้วจริงๆ (แต่อีลิทก็ดือออออยิ่งไปใหญ่ค่ะ 555)

 


ต่อไปมาดูสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อกันบ้างว่า เมื่อจ่ายเพิ่มสำหรับอีลิทแต่ไม่กินเนื้อ มีเมนูอะไรเพิ่มให้นะคะ มาดูกันนนนน

1. Kagoshima Pork หมูดำคาโกจิม่า

เนื้อส่วน Bostan Butt หรือไหล่ด้านบน เป็นหมูดำที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในญี่ปุ่น หาทานได้ยากในไทย หมูจะถูกเลี้ยงด้วยมันหวานของเมืองคาโกชิม่า  เนื้อหมูที่ได้มีไขมันแทรกอยู่ เวลาย่างแล้วจึงนุ่ม หอมค่ะ

 


2. Tora Kojibuta Set เนื้อหมูโคจิบูตะหมักซอส

เนื้อหมูโคจิบูตะ หมักซอส 3 สไตล์ ได้แก่ ซอสหม่าล่า มีรสเผ็ดนิด ๆ หอมกลิ่นพริกยูนนาน, ซอสไซเคียวฟัวกราส์ ครีมมี, และซอสเห็ดทรัฟเฟิล กลิ่นหอมโดดเด่น ตัวนี้ให้รสชาติที่แตกต่างกันไปแต่ละอย่างเลยนะคะ

วันนั้นเราไม่ได้แตะเนื้อหมูเลย แต่พี่อีกคนที่กินเนื้อไม่ได้นี่ฟินสุดๆ ค่ะ ่ปลาบปลื้ม ชมแล้วชมอีก 555


ต่อไปมาดูที่เมนูอื่นๆ ของอีลิทที่ได้เพิ่มมาอีกกันต่อนะคะ เริ่มด้วยไซด์ดิชนะคะกับ Tora Kaiseki Set ชุดอาหารญี่ปุ่นไคเซกิ

Kaiseki ไคเซกิ คือการเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม โดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล เพื่อให้ได้สัมผัสอาหารที่รสชาติดีที่สุดของวัตถุดิบตามฤดูกาล  สำหรับช่วงนี้ ร้านโทระ ยากินิคุ เสิร์ฟเซ็ทอาหาร 4 อย่าง ดังนี้ 

    หนังปลาแซลมอนทอด ทอดมากรอบๆ แนะนำให้รีบกินทันทีที่เสิร์ฟนะคะ เพราะถ้าทิ้งไว้ซักพัก ความกรอบจะหายไปค่ะ
    สาหร่ายโมโซกุ ยูซุ  สาหร่ายลื่นเด้ง หอมยูซุ กินแล้วสดชื่นและแก้เลี่ยนได้ดีมากค่ะ
    เต้าหู้เย็น ซอสขิง ได้รสชาติและกลิ่นที่ช่วยแก้เลี่ยนจากจานเนื้ออีกเช่นกันค่ะ
    หนวดหมึกทาโกะต้มซีอิ๊ว หมึกไม่เหนียว เด้งกำลังดี เจือเค็มนิดๆ แก้เลี่ยนได้ดีอีกเช่นกันค่ะ

 


ต่อไปมาที่หมวดซูชิ ซาชิมิกันบ้างนะคะ

 

 


4 King Gunkan

กุนกัง ปกติหมายถึง ข้าวห่อสาหร่ายพร้อม toppings ต่าง ๆ แต่สำหรับ Four-King Gunkan ของที่ร้านนี้คือ ข้าวซูชิพันด้วย เอ็นกาวะ ด้านบนท็อปด้วย ปลาไหลย่างซีอิ๊ว, ฟัวกราส์, และลัมฟิชคาเวียร์ ใส่ซอสไซเคียวสูตรพิเศษ ตกแต่งด้วยทองคำเปลว

ตัวนี้คือดีมากกกกกก คอมบิเนชั่นดีค่อดค่ะ รสเข้ากันพอดี อร่อยมาก หอม รสชาติของแต่ละตัวมาเต็มๆ แต่ไม่ตีกัน อร่อยมากค่ะ



Volcano Gunkan

โรลที่พันรอบข้าวซูชิด้วยเอ็นกาวะ ราดด้วยซอสเมนไตโกะ ด้านบนท็อปด้วยแซลมอนซาชิมิหั่นเต๋า และ โฮตาเตะหั่นเต๋า เทกซเจอร์ตัวนี้จะนุ่มๆ และรสโดยรวมจะมีความละมุนไปอีกแบบนะคะ จะคนละแบบกับตัวโฟร์คิง ตัวโฟร์คิงจะออกแนวมาเต็มแบบเพลงร็อค ต่อยเข้าเป้า แต่ตัวนี้จะมาแบบเพลงแจ๊สค่ะ ละมุน เบาๆ กลมกล่อมๆ แฮร่...



Engawa Hotate Spicy Yuzu

โรลเอ็นกาวะคล้าย Volcano Gunkan ท็อปปิ้งด้วยหอยเชลล์ hotate ไข่ปลาแซลมอนและยูซุ ราดด้วยซอสสไปซีมาโย ตัวนี้จะได้ความสดชื่นจากยูสุและเจือเผ็ดนิดๆ จากซอสสไปซี่นะคะ ตัวนี้ก็อร่อยค่ะ เราชอบเช่นกัน ตัวซูชิของอีลิทคือดีทุกตัวเลยค่ะ



Edomae Hotate Yaki

โฮตาเตะย่างด้วยซอส ponzu ผสม ยูซุ โรยด้วยงา 5 สี เสิร์ฟบนสาหร่ายค่ะ ตัวนี้ต้องรีบกินก่อนสาหร่ายจะไม่กรอบเช่นกันนะคะ เพราะถ้าทิ้งโดนลมนาน สาหร่ายจะเหนียวอะเนอะ

 

ต่อไปจะเป็นหมวดซูชิที่เราไม่ได้กินนะคะ เพราะไม่ไหวแล้ววว เยอะเกิ๊น ขนาดกินเฉพาะของอีลิทนะคะ แต่ชิมไม่ครบจริงๆ ค่ะ


Hotate Saikyo Foie Gras Karasumi โฮตาเตะ ไซเคียวฟัวกราส์ คาราสุมิ

โฮตาเตะย่างด้วยซอสไซเคียวฟัวกราส์ ท็อปด้วยคาราสุมิ หรือ ไข่ปลากระบอกตากแห้ง เป็นของหายากที่มักจะเสิร์ฟในร้านสไตล์ omakase 

 


Aka Ebi Karasumi

ซูชิอากะเอบิ คาราสุมิ ไข่ปลากระบอกตากแห้ง


Aka Ebi Truffle & Caviar

ซูชิอากะเอบิ ซอสทรัฟเฟิลและลัมฟิชคาเวียร์

 



ต่อไปเป็นเมนูที่มีสำหรับอีลิทเช่นเดียวกันนะคะ กับเมนูนี้ค่ะ

Lobster Miso Hotate & Caviar

มันกุ้งล็อบสเตอร์ย่าง โฮตาเตะ ท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์ คือ มันกุ้งอร่อย ได้ความสดเด้งของโฮตาเตะ มีรสเจือเค็มมันจากไข่ปลาคาเวียร์ อร่อยดีค่ะ


Lobster Miso Akaebi

มันกุ้งล็อบสเตอร์ย่าง กุ้งอากะเอบิ ถ้าเทียบสองตัว เราชอบตัวแรกมากกว่านะคะ อาจจะเพราะเป็นคนไม่ชอบกินกุ้งดิบ แหะๆ

 



ต่อไปเป็นหมวดของของหวานนะคะ มีเมนูของแกรนด์ที่ตอนเรากินล่าสุดยังไม่มี แล้วมีมาเพิ่มค่ะ ขอเริ่มที่เมนูของหวานอันใหม่ของแกรนด์ก่อนละกันนะคะ

โมจิหยดน้ำ ทำจากน้ำ น้ำตาลและผงวุ้น ของร้านนี้ไม่ได้นิ่มเหลวเกินไปเหมือนบางร้าน แต่ก็ไม่ได้แข็งแบบวุ้นปกติทั่วไปนะคะ มีเทกซเจอร์กำลังดี อร่อยค่ะ ตัวน้ำเชื่อมคุโรมิสึร้านนี้ก็หวานหอมกำลังดีค่ะ ผงคินาโกะก็ไม่เฝื่อนเหมือนบางร้านเช่นกันค่ะ ตัวนี้กินเพลินมาก

 


อีกตัวที่อยากให้สั่งกัน สำหรับใครที่อยากกินของหวาน แต่ไม่ได้ต้องการของหวานที่มีรสหวาน 555 ตัวนี้สำหรับคนที่กินพรีเมี่ยมก็สั่งได้แล้วค่ะ


Ume Golden Jelly

เจลลีบ๊วย จะเป็นรสชาติเค็ม เปรี้ยว เจือหวานนิดหน่อย หอม สดชื่น แก้เลี่ยนดีมากกกกกกค่ะ

 


โอเค ต่อไปมาต่อกันที่เมนูของหวานสำหรับอีลิทบ้าง ซึ่งเมนูต่อไปนี้ เลือกได้แค่ท่านละ 1 เท่านั้นนะคะ ได้แก่

1. Cold Brew Bubble

กาแฟสกัดเย็น Medium Roast เสิร์ฟแบบเย็น พร้อมด้วย gimmick ที่พนักงานจะมาทำ smoke bubble ให้ที่โต๊ะด้วย flavor blaster เทคนิคการเป่าบับเบิ้ล บนกาแฟ ด้านในมีควันกลิ่น citrus ถ่ายรูปเสร็จ เอาจมูกแตะเบา ๆ ควันก็จะกระจายออกมาค่ะ (กรุณาทำหน้าละมุนตลอดเวฯ นะคะ จะทำให้รูปออกมาเข้ากับควันที่ออกมาจากบับเบิ้ลค่ะ) ตัวกาแฟจะมีความเจือหวานหน่อยๆ

 

 


2. Homemade Croffle

ครอฟเฟิล คือ ครัวซองต์ที่นำมาอบในเครื่องวาฟเฟิล  เสิร์ฟพร้อมวิปครีมสด และน้ำผึ้งค่ะ ตัวนี้ไม่ได้ลองนะคะ แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันคือชอบมากๆ

 


3. Traditional Japanese Dessert Set เป็นอีกตัวที่ไม่ได้ชิมนะคะ แต่เอาหน้าตากับรายละเอียดมาให้ดูค่ะ อันนี้ให้เพื่อนอีกโต๊ะกินไปค่ะ

เซ็ตขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ประกอบด้วยเมนูขนม 4 ชนิด

    Sakura Jelly เจลลีซากุระ รสหวานน้อยที่สุด
    Warabi Mochi โมจิหนึบ ๆ หวานขึ้นอีกนิดนึง
    Kokuto Tofu Pudding พุดดิ้งเต้าหู้ ซอสโคคุโตะ กลิ่นเต้าหู้หอม น้ำเชื่อมก็มีความเป็นญี่ปุ่น
    Yuzu Shiratama ด้านในเป็นถั่วบด เคลือบด้วยโมจิหนึบ ๆ หอมกลิ่นยูซุ หวานขึ้นอีกหน่อย

 



4. มัชชะเซเรโมนีเซ็ต เป็นอีกตัวของอีลิทที่ได้กินค่ะ ตัวชาเขียวในถ้วยจะใส่ผงมาก่อนแล้วก็มีน้ำร้อนแยกกระติกมาให้ค่ะ สามารถให้พนักงานมาคน/ชงให้หรือว่าเราจะชงเองก็ได้ค่ะ

ตัวนี้ตัวชาเขียวเข้มข้นมากกกกกก ราวกับกินที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ เข้ม ขมเลย แต่พอกินกับขนมที่มาด้วยกันก็จะพอดีมากๆ ค่ะ ใครชอบชาเขียวสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ควรโดนนะคะ

 


5. ซิกเนเจอร์มัชชะเทอร์รีน ตัวนี้ไม่ได้กินค่ะ เพื่อนอีกโต๊ะกินนะคะ ให้ดูหน้าตาละกันเนาะ

 



สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ

เชียร์อย่างยิ่งสำหรับสายเนื้อและชอบกินปิ้งย่าง เนื้อคือดือออออมากมาย ถ้ามีงบก็เชียร์ให้กินอีลิทค่ะ ถ้ามีงบน้อยลงมาอีกนิด ตัวแกรนด์ก็ดีงามมาก (ตามที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้นะคะ) แถมที่เราชอบมากคือ ทั้งตัวเครื่องดื่มและขนมคือดือออออ (หลายร้านที่ของคาวดี แต่ของหวานดร็อป แต่ร้านนี้คือดีทั้งคาวหวาน) เหมาะที่จะไปกินเป็นมื้อฉลองโอกาสพิเศษที่อยากได้อาหารอร่อยๆ กินได้เยอะๆ แบบจุกๆ นะคะ

 

 

 

 
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0