Thai | English
albatross11
ฉันชื่อalbatross11 . อาหารญี่ปุ่น, อาหารเกาหลี are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านในฟู้ดคอร์ทและอาหารทะเล, สุกี้ ชาบู , ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่.
สมาชิก 71 รีวิวแรก
รีวิว191 รีวิว
編輯推介數目47 Editor's Choice
Recommended27 แนะนำ
ความนิยม9088 เข้าชม
Replies in Forum2 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ1434 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ0 วิดีโอ
My Recommended Reviews13 รีวิวแนะนำ
My Restaurant79 ร้านโปรด
Follow4 Following
粉絲1909 Follower(s)
albatross11  Level 4
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่ ยิ้ม ยิ้ม ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  Editor's Choice  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
 
  เวอร์ชั่นเต็ม เวอร์ชั่นเต็ม   |   ดูแผนที่ ดูแผนที่
แสดงรีวิวที่ 36 ถึง 40 จาก 191 รีวิวใน ประเทศไทย
เล็กดีรสโต ยิ้ม Oct 05, 2011   
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารญี่ปุ่น | ร้านผับแอนด์เรสเทอรองต์ | ซูชิ ซาซิมิ



หกโมงเย็นวันอาทิตย์ที่ 25 กย 54 (ก่อนที่น้ำจะท่วมเชียงใหม่ 4 วัน) ฉันเริ่มออกเดินจากที่พัก เลี้ยวขวาเข้าถนนช้างคลาน เดินผ่านไนท์บาซ่าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนท่าแพ เดินตรงไปเรื่อยๆ ผ่านถนนคนเดิน (ถนนราชดำเนิน) อันยาวเหยียด (shocked เพิ่งเคยมาเดินเป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากที่ฟังคนอื่นร่ำลือมานาน ยาววววจริงๆ) จุดหมายอยู่ที่วัดพระสิงห์ ไม่ได้ไปวัดค่ะ แต่จะเดินเล่นให้สุดถนนคนเดิน ให้ท้องเริ่มหิวโหยเรียกหาอาหาร จะได้ขึ้นรถจากที่นี่เพื่อตามล่าหาของอร่อยกินกันต่อไป

วันนี้ร้านอาหารเป้าหมายของเราอยู่ที่ นิมมานเหมินท์ซอย 11 เราจะนั่งรถแดงไปกันค่ะ ส่งถึงหน้าร้านเลยคนละ 20 บาท ชักติดใจรถแดงเชียงใหม่ซะแล้วสิ ถูก แล้วก็แทบจะไม่ต้องรอ มีรถแดงผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา และที่สำคัญไม่ต้องจำไม่ต้องศึกษาสายรถเมล์ว่า สายนี้ไปไหนๆ ใช้ปากบอกอย่างเดียวเลยค่ะ สบายยยย แพงกว่ารถเมล์เล็กน้อย ดีกว่าเช่ารถขับให้ GPS พาอ้อมหลงวกวน สะดวกเท่าเทียมกับนั่งแท๊กซี่ในกรุงเทพ แต่ถูกตังค์กว่าเยอะ

ร้านตั้งอยู่กลางซอย 11 ค่ะ สังเกตุป้ายไปสีเหลืองหน้าร้าน ถ้าขับรถมาก็จอดรถที่ริมถนนในซอยได้ เพิ่งรู้ว่าร้านอาหารแถวนี้เยอะแยะมากมาย เด็ก มช มาทำให้เศรษฐกิจที่นี่คึกคักจริงๆ ทุกซอยมีแต่ร้านอาหารสวยๆ น่านั่งทั้งนั้น ฉันว่าอยู่เชียงใหม่สองเดือนยังกินร้านอาหารแถวนี้ได้ไม่ซ้ำร้านเลย

Hatena เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ ขนาดห้องแถวห้องเดียว บรรยากาศอบอุ่นในแสงสลัว (ถ่ายรูปอาหารยากมาก) ตกแต่งง่ายๆ สบายๆ มีโต๊ะในร้าน และด้านนอกประมาณ 8 โต๊ะ เข้าไปนั่งในร้านถึงรู้ว่าร้านนี้มีสาขาที่ย่าน ชินไซบาชิ โอซาก้า ดูดีขึ้นมาอีกหนึ่งสเต๊ปท์ มั่นใจได้ว่าต้องได้รสชาติอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ แน่วันนี้

 

 
ลายโต๊ะ

เมนูมีแผ่นเดียวหน้าหลัง ชอบร้านที่มีรายการอาหารไม่เยอะค่ะ มีเยอะก็เลือกนาน มีน้อยก็เสียเวลาเลือกน้อยลง

 
สลัดปลาดิบรวม 150 บาท ร้านมืดมากค่ะ ต้องใช้แฟลชช่วยบางรูป

มาในชามอ่างใหญ่ จุใจ ผักเยอะเนื้อปลาดิบเยอะ คุ้มเกินราคาค่ะ อีกทั้งยังอร่อยมาก กินเพลินๆไปถึงด้านล่าง โอ้ย น้ำหูน้ำตาไหล วาซาบิตกลงไปนอนก้นอยู่ที่ด้านล่างกินไปกุมขมับกันไป ในที่สุดก็ต่างฝ่ายต่างยกมือยอมแพ้ ต้องทิ้งให้เนื้อผักที่อยู่ก้นจานเหลือไว้อย่างนั้น ซ่าจิ๊ดขึ้นสมองเลยค่ะ ใครไม่ชอบวาซาบิ ถ้าสั่งจานนี้ต้องบอกพนักงานไปเลยนะคะว่า วาซาบิเล็กน้อยอย่าเยอะๆ

ซุปกิมจิ อันนี้เป็นเมนูใหม่แปะกระดาษติดเพดานร้านไว้ก็เลยสั่งมาลองดู 100 บาท มาชามอ่างใหญ่เช่นกันค่ะ จานนี้สำหรับฉันรสชาติไม่ผ่าน เพราะชินและคาดหวังกับรสชาติของซุปกิมจิแบบเกาหลี แต่รสชาติของที่นี่มาแบบหวานเค็มค่ะ ไม่ใช่แนวเลยจริงๆ (อันนี้รูปไม่สวย ไม่เหมาะจะเอามาลงค่ะ ขออภัยค่ะ)

 
สเต็กเนื้อ Japanese style 280 บาท อร่อยๆๆๆๆสั่ง medium ได้ medium ถูกใจมากมายค่ะจานนี้ เนื้อนุ่ม เคี้ยวง่าย ความฉ่ำหวานของเนื้อยังคงอยู่ครบ

 
เนื้อบันลือโลก 220 บาท เนื้อเหมือนไปผ่านกรรมวิธีทำจนกลิ่นเครื่องเทศหอมๆ แทรกซึมอยู่ในเนื้อ ไม่ใช่สเต็ก ไม่ใช่เนื้อตุ๋น ต้องไปลองชิมกันดู แต่คอนเฟิร์มว่าอร่อยแน่นอน ให้เนื้อก้อนใหญ่มากกกกกด้วย ไม่อิ่มจุกกันวันนี้ก็ให้รู้กันไป

 
เราสั่งสลัดกันอีกจาน คราวนี้ลองสลัดฮาเทน่ามั่ง 95 บาท ผักกับน้ำสลัด โรยปลาโอแห้งมาให้แบบจุใจ อร่อยมากค่ะจานนี้ แนะนำ เสริฟมาในอ่างยักษ์ ตอนแรกคิดว่าจะกินกันไม่หมด ที่ไหนได้ แป๊บเดียวเหลือแต่จานเปล่าๆ

 
ข้าวหน้าเนื้อชามละ 95 บาท จานกำลังพอดี รสชาตินี่ โยชิโนยะสู้ไม่ได้ค่ะ แต่ข้าวหน้าเนื้อก็คือข้าวหน้าเนื้อ กินมากไม่ได้ค่ะ จะเกิดอาการเลี่ยนขึ้นมาแบบกระทันหัน

 
ส่วนจานนี้สั่งมากินเล่นค่ะ มันบดทอด 70 บาท อร่อยดี แต่ฉันว่าอมน้ำมันไปหน่อย ตามแบบของทอดทั่วไป

เดินออกจากร้านฮาเทน่า วันนี้งานเลี้ยงยังไม่เลิกราค่ะ เรายังต้องไปต่ออีก ขอเชิญติดตามที่รีวิวต่อไปนะคะ smile
 
เมนูแนะนำ:  สลัดปลาดิบรวม,สลัดฮาเทน่า,สเต็กญี่ปุ่น,เนื้อบันลือโลก
 
วันที่ไปกิน: Sep 25, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿250

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 3  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
   1 Vote(s)   View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านเค้กและเบเกอรี่ | ร้านกาแฟ / ร้านชา | คาเฟ่ | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง



หลังอาหารมื้อเที่ยงจากร้านอาหารเวียดนาม วีทีแหนมเนือง ฉันเดินลัดเลาะเรียบริมปิงไปเที่ยววัดเกตุ วันนี้ไม่มีแดดมาต้องผิวเลยสักนิด เมฆสีเทาอุ้มฝนกระจายเกลื่อนอยู่เต็มฟ้า กลายเป็นฉากสีเทาสวยแปลกตาให้กับภาพถ่ายของฉัน "อีกไม่นานฝนคงตก" ฉันทำนายออกมาดังๆ กับเพื่อนร่วมทาง

ฉันเดินทอดน่องสะพายกล้องอย่างสบายอารมณ์ เดินตามป้ายบอกทางสู่วัดเกตุ จากวัดเกตุ ข้ามสะพานเดินโต๋เต๋ไปชมวิถีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่กาดหลวง เดินเหม่อมองผู้คน ชิมอาหาร ถ่ายรูป สำรวจทุกอย่างสิ่งในตลาดจนพอใจ ฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาตอนที่ฉันเดินย้อนกลับมาที่สะพานเดิม รถแดงจอดรอตะโกนเรียกหาผู้โดยสารเป้าหมายคงเป็นคนที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวอย่างฉัน

แต่ฉันไม่มีลังเลยังคงมุ่งมั่นตั้งใจกับการเดินอย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายฝนและเสียงตะโกนเชิญชวนของคนขับรถ หันมาหยิบร่มที่ถือติดมืออกมากางออก เดินลงสะพานเลี้ยวขวา เลียบริมปิงเดินกลับไปยังทิศทางเดิม

ฝนลงเม็ดหนาหนักขึ้นทุกที ตาฉันเหลือบไปเห็นป้ายสีชมพูอยู่ตรงหน้า เขียนว่า เวียง จูม ออน Tea house ฉันไม่รู้หรอกว่าคำว่า เวียง หรือ จูม หรือ ออน แปลว่าอะไรหรือมาจากไหน รู้จักแต่คำว่า Tea house 'ร้านน้ำชานี่นา เข้าไปหลบฝนก่อนดีกว่า' ใจคิดขาขยับตาม เดินเข้าไปถึงหน้าร้านที่อยู่ใต้ตึกสีชมพู หุบร่มผลักประตูเข้าไปด้านใน


อ่า ท่าทางจะเข้าผิดร้านซะแล้วสิ ฉันจะมานั่งหลบฝนดื่มชา ไหงกลายเป็นร้านขายใบชาไปซะงั้น ร้านขายใบชาที่งามขนาดเจ้า เคาท์เตอร์ ดิสเพลย์ กล่องใส่ใบชา ชั้นวาง ดูสวยงามน่าชื่นชมไปหมด ฉันเดินอย่างหลงใหลงงงวยลึกหลงเข้าไปด้านใน

นี่ฉันอยู่ที่ไหน โมร็อกโก หรือเชียงใหม่ โอเอซิสหรือริมน้ำปิง shocked ร้านชาที่อยู่เบื้องหน้าสวยงามเหลือเกิน น่านั่งไปหมดไปซะมุม ผู้คนที่นี่นั่งคุยกันพลางดื่มชาไปพลางคล้ายจะไม่สนใจผู้ใดนอกจากผู้ร่วมโต๊ะ แต่ละโต๊ะคุยกันจุ๋งจิ๋งๆ ใบหน้ายิ้มแย้ม ราวกับการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มันช่างน่าอภิรมย์เสียนี่กระไร

หลังคาบริเวณ Tea house ทำมาจากผ้าผืนใหญ่ให้ความรู้สึกของกระโจมชาวเบดูอินในทะเลทราย เดินไกลเลยเพดานผ้าออกไปเป็นระเบียงที่นั่งริมแม่น้ำปิง ฉันเดินไปนั่งโต๊ะใกล้ตัวด้านข้าง สักพักมีพนักงานหญิงผู้หนึ่งเดินมาบอกด้วยกริยานอบน้อมว่า

"น้องต้องขอโทษด้วยนะเจ้า โต๊ะนี้มีคนจองแล้ว น้องลืมเอาป้ายมาติดเจ้า"

ยินดีขยับขยายย้ายโต๊ะตามคำขอร้องของ "น้อง" เป็นที่สุดค่ะ ภาษาเหนือนี่ทำให้ผู้หญิงคงเสน่ห์ของผู้หญิงไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม อยากมีคนมาอู้ น้องอย่างงั้น น้องอย่างนี้ให้ฟังทั้งวันทุกวันจัง tongue

โต๊ะที่ฉันย้ายมานั่งเป็นโต๊ะที่หันหน้าไปหาทุกคนในร้าน ราวกับฉันอยู่บนเวทีแล้วนั่งหันหน้าไปทางท่านผู้ชมยังไงยังงั้นเลย คงหาทำเลดีแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วล่ะ ถูกใจๆ ดีใจที่มีคนจองโต๊ะเมื่อครู่นี้

น้องพนักงานเอาเมนูมาวางให้สามเล่ม เขียว ชมพู น้ำตาล แบ่งเป็นเมนูชา เครื่องดื่ม และของว่าง แม้แต่เมนูยังประณีตงดงามเอาใจใส่ขนาดนี้ ร้านแบบนี้ทำให้ฉันเต็มใจจะเสียสตางค์ให้เหลือเกิน


ฉันเลือกได้ ชานมเย็น แต่ชื่อเป็นกาแฟ Irish coffee แต่ขอเป็นแบบปั่น "น้อง" บอกว่าถ้าปั่นรสชาติมันจะจืดจางลงนะเจ้า ฉันตอบตกลงเพราะชอบกินของจืดๆ อยู่แล้ว และ High tea for one ส่วนชาร้อนเลือก ชาแดงออแกนนิก พอจ่ายเงินเอาใบเสร็จมาดูปรากฏว่าเสียค่าอยากปั่นไป 30 + mad

ชาเสริฟมาพร้อมกับถ้วยชาพอดีกับจำนวนคน พร้อมกับที่กรองชาเพื่อไม่ให้ชาแช่อยู่กับน้ำร้อนในกาจนรสเข้มเกินกว่าที่เราชอบ จิบชาไปอึกแรกฉันได้กลิ่นป่าของแอฟริกาลอยมาปะปนมากับกลิ่นชา ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากับกลิ่น บิ๊ก 5 ฮ่า ไม่เว่อร์ นะคะ ไม่เว่อร์ ชามีรสชาติหอมเป็นขั้นๆ จริงๆ อยากให้ทุกคนไปชิมจะได้รู้ว่าฉันพูดไม่เกินจริงเลย แล้วคุณอาจจะอุทานออกมาว่าreal exotic tea ก็เป็นได้ smile
ชั้นที่ 1/2/3 และ อัลมอนท์สไลด์จิ้มครีม

ชั้นที่ 1/2/3 และ อัลมอนท์สไลด์จิ้มครีม

 

High tea ชั้นแรก เป็นเค้กหน้าตาดีค่ะ รสชาติไม่หวานแสบคอ ฉันแนะนำชิ้นนี้ ครีมรสเปรี้ยวสีม่วงจะมาจากเบอร์รี่ชนิดไหน ฉันไม่แน่ใจ แต่เปรี้ยวได้ใจกินพร้อมกับเนื้อเค้กที่หวานนิดๆ แปลกและอร่อยมาก อีกสองชิ้นเป็นพายถั่วพายผลไม้ รสชาติธรรมดาทั่วไปค่ะ

อีกชิ้นก็นี่เลย ครีมที่นี่อร่อยมาก แม้แต่คนไม่ชอบครีมก็ต้องว่าอร่อย เบา นุ่ม มัน หยิบอัลมอนด์สไลด์มาแตะครีมเข้าปาก จิบชาตาม มีความสุขจัง ผู้คนที่มาที่นี่มีทุกวัย มีทั้งเหมือนเพื่อนร่วมงานเอางานมานั่งคุยต่อจากโต๊ะประชุม นักท่องเที่ยวที่เหนื่อยล้า ขาอ่อนแรง กลุ่มสาวๆ ที่นัดเพื่อนแต่งตัวสวยมาจิบน้ำชายามบ่าย คู่รักสวีทหวานแหววมานั่งทำตาเยิ้มเขินอายกันก็หลายคู่ และกลุ่มของฉันพลัดหลงเข้ามาหลบฝน ที่นี่ทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าอยู่ขึ้นมากเลยสำหรับฉัน

ชั้นที่ 2 แซนวิชสี่ชิ้น มีไส้คัสตาร์ด ไส้แฮม ไส้แตงกวาดอง

ชั้นล่างสุด เป็นผลไม้มีแอ๊ปเปิ้ล แคนตาลูบ เสริฟมากับซอสสตรอเบอรี่ เข้ากั๊น เข้ากัน หรอยจังหู้

ต่อไปคงต้องตั้งหน้าตั้งตารอยามบ่ายที่แสนพิเศษเช่นนี้อีก ไม่ว่าที่นี่หรือที่ไหน

อ้อ ที่นี่มีที่จอดรถข้างร้าน หน้าร้าน แล้วก็จอดริมถนนได้ค่ะ หาที่จอดไม่ยาก
ป้ายหน้าร้าน โคมไฟ และเมนู

ป้ายหน้าร้าน โคมไฟ และเมนู

 

 
High tea for one 280 +Irish coffee ปั่น 120+

High tea for one 280 +Irish coffee ปั่น 120+

 

 

 

 
ฟ้าสีเทาที่วัดเกตุ

ฟ้าสีเทาที่วัดเกตุ

 
 
เมนูแนะนำ:  High tea,สารพัดชา
 
วันที่ไปกิน: Sep 25, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿200

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
   2 Vote(s)   View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารเวียดนาม | ร้านอาหารทั่วไป | อาหารเพื่อสุขภาพ ชีวจิต | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม



น้องจองตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นของแอร์เอเชีย 0 บาทให้ฉันได้ไปกลับเชียงใหม่ในราคา 214 บาท smile ตั้งแต่เดือน พย ปีที่แล้ว เพิ่งจะถึงวันได้บินก็วันนี้นี่เอง เป็นการรอคอยที่ยาวววววนานซะเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อ สายการบิน low cost สอนให้ฉันเป็นคนใหม่ที่สามารถวางแผนการเดินทางได้ข้ามปีกันเลยทีเดียว

ข้อดีอย่างหนึ่งของการจองตั๋วเครื่องบินก่อนก็คือการรู้วันเดินทางแน่นอน จะจอง รร หรือจองทัวร์อะไรที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าก็ทำได้อย่างมั่นใจ ส่วนข้อเสียนะเหรอ ฮ่า เราอาจจะทะเลาะหรือเลิกคบกับคนที่เราตั้งใจจองตั๋วมาด้วยกัน หรือไม่ก็คนที่เราตั้งใจมาด้วยอาจจะไม่ว่างหรือมีงานเข้ากระทันหัน เมื่อวันที่ได้บิน (ถูก) มาถึง ฮี่ๆๆๆ ฉันไม่บอกหรอกว่าทริปของฉันเป็นแบบไหน tongue

ไปเชียงใหม่คราวนี้ฉันวางแผนจะไปเดินๆๆ แล้วก็เดินไปให้ทั่วเมืองเชียงใหม่ ฉันจะเที่ยวแบบสโลว์เชื่องช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ อิอิ ไม่งงนะคะ พูดให้ดูดีเข้าตามสมัยไปงั้นแหละค่ะ พูดง่ายๆ แบบตรงไปตรงมาแปลว่าว่าจะเสียค่ารถให้น้อยที่สุดนั่นเอง ตั้งใจไว้ว่าถ้าเดินเหนื่อยนักก็พักขาหาของอร่อยข้างทางกินกันไปเรื่อยๆ ดูจากแผนที่ของที่ตั้งโรงแรมที่ฉันพักแล้วด้วยทำเลได้เปรียบใจกลางเมือง ฉันมั่นใจว่าฉันคงเที่ยวด้วยสองขาอันแข็งแรงของฉันได้อย่างแน่นอน ฮึฮึ หุหุ สู้สู้

มาถึงเมืองเหนือได้เกือบชั่วโมง ขึ้นแท๊กซี่จากสนามบินมาที่พักก็แล้ว เช็คอินก็แล้ว ฉันยังไม่ได้ยินคนอู้คำเมืองสักคำ จนกระทั่งฉันมาเห็นผักกาดแก้วเสริฟแทนผักสลัดบนโต๊ะอาหารที่ วีทีแหนมเนืองนี่เองถึงได้เชื่อว่าได้มาถึงดินแดนทางเหนือของไทยแล้วจริงๆ
ผักกาดแก้ว Great!

ผักกาดแก้ว Great!

 

เกือบบ่ายแล้ว ผู้คนในร้านยังเยอะแยะมากมาย เมืองนี้ชาวต่างชาติเยอะจริงๆ แทบจะเป็นไทยโต๊ะฝรั่งโต๊ะกันเลยทีเดียว

ถ้าถามว่ามาเชียงใหม่แล้วทำไมเลือกมากินอาหารเวียดนาม จริงๆ แล้วฉันยังไม่เคยกินอาหารเหนือจริงจังสักมื้อเลยในชีวิตนี้ แต่ก็ไม่รู้สึกอยากชิม แปลกดี แล้วน้องคนเชียงใหม่ก็แนะนำให้มากินร้านนี้ซึ่งฉันเป็นคนชอบกินผัก กินอาหารเวียดนามอยู่แล้วมีหรือที่จะปฎิเสธ เพราะถ้ามีโอกาสได้ไปอุบล อุดร หนองคาย มุกดาหาร ร้านอาหารเวียดนามจะเป็น choice แรกเสมอ แล้วร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พักซะด้วยสิ

ฉันวางเป้เดินทางใบเล็กที่ติดตัวมาไว้ที่ที่พักแล้วเริ่มออกเดินจากถนนเจริญประเทศ เลี้ยวขวาเดินข้ามสะพานเหล็ก (ข้ามแม่ปิง) แล้วก็เลี้ยวซ้าย เดินเลียบริมปิงไปไม่ถึง 100 เมตร จะเห็นวีทีแหนมเนืองอยู่ขวามือ

หน้าร้าน จาน และ น้ำใบบัวบก 35 บาท

หน้าร้าน จาน และ น้ำใบบัวบก 35 บาท

 


น้องแนะนำไม่ผิดจริงๆ อร่อยมากมายไปซะทุกสิ่ง
ขนมจีนทรงเครื่อง 40 บาท

ขนมจีนทรงเครื่อง 40 บาท

 

กวาดตาดูเมนูปิ๊งที่ขนมจีน เป็นอย่างแรก หน้าตาสวยสดงดงาม ราคาถูกเหลือเชื่อ หมูยอแตงกวาไข่ที่ซอยเป็นเส้นตกแต่งหั่นได้ประณีตเส้นเท่ากันหมดทุกเส้นขนาดนั้นเลยทีเดียว ฉันเชื่อเรื่องหน้าตาของอาหารและความประณีตเอาใจใส่ของคนทำอาหาร ว่าจะทำให้อาหารจานนั้นอร่อยขึ้นได้อีกเท่าตัว จานนี้จัดเรียงมาได้สวยงาม เป็นได้ทั้งอาหารตาอาหารปาก ด้านล่างวางรองไว้ด้วยหัวปลีหั่นฝอย คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน อ้า อึ่ม อ้ำ รสหวานนำ ตามด้วยความมันและเผ็ดของเครื่องปรุงที่ใส่มา อืม อร่อยจัง อร่อยจริงๆ อร่อยอะไรอย่างนี้
ก๋วยจั๊บญวณ 40 บาท

ก๋วยจั๊บญวณ 40 บาท

 

ก๋วยจั๊บญวนชามนี้ ไม่เหมือนก๋วยจั๊บญวนที่ฉันคุ้นเคยมาตลอดชีวิต ไม่มีความเหนียวของแป้ง ที่จะทำให้น้ำก๋วยจั๊บข้นๆ เหนียวๆ ไม่ใช่เส้นก๋วยจั๊บญวนแบบดั้งเดิมแน่นอน เป็นเส้นคล้ายเกี๊ยมอี๋แบบยาว ใส่เครื่องปรุงมาได้อลังการดี เห็ดหอม แครอท กระดูกหมู น้ำซุปกะเส้นที่ตักมาในชามได้สัดส่วนที่พอดีมาก รสชาติแปลกลิ้น อร่อยดีค่ะ แต่ยังไงจานนี้ก็ไม่ใช่ก๋วยจั๊บญวนในความเห็นของฉัน เป็นก๋วยจั๊บดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับปากคนไทย เพราะฉะนั้นจานนี้ให้แค่ผ่านค่ะ

 

กะยอสด ปอเปี๊ยะสดนั่นเอง แต่ร้านนี้เรียกว่ากะยอสด เสริฟมาแบบใหม่สด รสชาติดีค่ะ หมดจานไปเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ตัว

 

ขนมถ้วยจานนี้กรุบกรอบหอมมันไปด้วยกากหมูเจียว อร่อยมากมาย ถ้าไม่กลัวอ้วนคงต้องสั่งเพิ่มอีกจาน เมนูนี้แนะนำสำหรับคนไม่กลัวอ้วนค่ะ

 

 

ส่วนจานนี้แหนมเนืองนางเอกของร้าน ฉันไม่ค่อยปลื้มเท่าไร เพราะเป็นคนขี้เกียจห่อเวลานั่งกินในร้าน แล้วเวลากินก็ต้องอ้าปากกว้างงงง คนสวยไม่ชอบๆๆๆ 5555 ไม่เกี่ยวๆ ฉันว่าแหนมเนืองที่นี่อร่อยที่ถั่วป่น กับผักกาดแก้ว ยังไงมาร้านนี้ก็ยังแนะนำจานนี้ค่ะ ก็แหม ขนาดเจ้าของร้านเค้ามั่นใจในความอร่อยจนเอาไปตั้งเป็นชื่อร้าน ไม่สั่งมาชิมได้ไง ชิมิ ชิมิ

พนักงานน้องหนูในร้านมีมากมายค่ะ เรียกหามาทันใจ ให้คะแนนบริการเต็มค่ะ

ขอเชิญทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาอ่านรีวิวนี้ไปทัวร์ร้านอาหารเชียงใหม่ต่อในรีวิวถัดไปเลยนะคะ จะมาเรื่อยๆ เหมือนขบวนพาเหรดค่ะ smile
 
เมนูแนะนำ:  ขนมจีนทรงเครื่อง,แหนมเนือง,กระยอสด
 
วันที่ไปกิน: Sep 25, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿150

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
   1 Vote(s)   View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารญี่ปุ่น | ร้านในโรงแรม รีสอร์ต | ซูชิ ซาซิมิ | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | โอกาสพิเศษ

วันนี้ไปทำธุระแถวราชเทวีค่ะ จำได้ว่ามีร้านซูชิที่ชาวเนทร่ำลือกันอยู่แถวนี้ร้านหนึ่งก็เลยนัดเพื่อนมากินกัน หลังจากทำธุระเสร็จแล้ว

ร้านตั้งอยู่ที่ซอยพญานาคข้างโรงแรมเอเชียเลยค่ะ ถ้ามารถไฟฟ้าก็เดินลงบันไดมาก็ถึงปากซอยเลย เหลือบมองป้ายซอยนิดหนึ่งก่อนเดินเข้าไปก็ได้ค่ะ เพื่อความไม่ผิดพลาด เดินเข้าไปไม่ไกล น่าจะเกือบๆ 100 เมตร ร้านอยู่ขวามือ มองเห็นป้ายนี้ก็ใช่แล้วค่ะ เดินเข้าไปได้เลย

 
แต่ถ้าใครขับรถมา ก็ขับเข้ามาจอดได้เลยค่ะ มีที่จอดรถมากมายกว้างขวางไว้บริการ วันที่ไปมีรถสปอร์ตสีแดง สีส้มของนิสิตจุฬาจอดอยู่สะดุดตามาก ท่าทางร้านนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่นิสิตจุฬา

 
ไปถึงร้านราว 16.30 น. คนเต็มร้านเลยค่ะ หอมตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นเนื้อย่าง จนคิดว่าเข้าร้านผิด จะมากินซูชิ ทำไมกลายเป็นร้านเนื้อย่างไปได้ เหลียวมองรอบตัวก็ไม่เห็นโต๊ะไหนมีเตาย่างเนื้อนี่นา จนมาดูเมนูถึงได้เข้าใจ คงเป็นกลิ่นเนื้อย่างที่วางบนข้าวทำเป็นซูชินั่นเอง

กว่าจะได้สั่งอาหาร พนักงานลีลาและเรียกยากมาก อาจจะเป็นเพราะร้านทำเป็นกระจกซ้อนกันสองชั้น ต้องเดินวนไปวนมา กว่าจะมาถึงโต๊ะเราที่กระจกชั้นนอก

 
สั่งชาเขียวร้อนไปคนละแก้ว ชาไม่หอม รสชาติเบ เบ ค่ะ free refill แต่แก้วชาแอบเก๋ตรงที่มีรอยบุ๋มแทนหูแก้ว ให้เราจับได้ถนัดมือ แต่น้ำชาที่ร้อนชมัดๆๆ ทำให้เราต้องรอให้อุณหภูมิแก้วลดลงซะก่อนถึงจะสามารถเอามือจับแก้วมาดื่มได้

สั่งไปสองเซทค่ะ กะแค่พอหายหิวแล้วไปหาที่นั่งกินขนมคุยกันต่อ

 
เซทนี้ถ้าใครชอบ รสชาติมันๆ ของอโวคาโด ห้ามพลาด ต้องสั่งๆ อร่อย ทุกอย่างเข้ากันไปหมด
จานนี้รวมอยู่ใน Masa set B

จานนี้รวมอยู่ใน Masa set B

 

 
ซูชิปั้นข้าวมาเยอะไป ฉันชอบคำเล็กกว่านี้ เนื้อทุกชนิดสดมาก ราคาเหมาะสม อ้อ มีซุปใสรสชาติดีแถมมาให้ด้วยนะคะ เติมได้ตลอดจ้า

 
 
เมนูแนะนำ:  Rainbow Roll, Masa set
 
วันที่ไปกิน: Sep 28, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿350

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 3  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารจีน | อาหารทะเล | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม | โอกาสพิเศษ

วันอาทิตย์ว่าง ๆ นอนดูโทรทัศน์สะดุดตาที่หนุ่มเกาหลีหน้าตาเอ็นดู มาแนะนำอาหารหน้าตาน่าทานทั้งนั้น หนุ่มคนนั้นเจื้อยแจ้วพรรณนาถึงอาหารตรงหน้า ไม่ไหวล่ะ ไม่ได้หิวนะ แล้วก็ไม่ได้บ้าผู้ชาย แต่น้องเค้าหน้าตาดีจริงๆ ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวไปตามชิมตามคำแนะนำซักหน่อย

 

ฉันไปตามเสียงหนุ่มเกาหลีคนนั้น ผ่านร้านเจ้ง้อ ไม่นะ วันนี้ฉันไม่ง้อเจ้ง้อล่ะ ไม่ฝากท้องกับเจ้นะวันนี้ ผ่านไปไม่นานสำหรับความรู้สึกเจอแล้วสามย่านซีฟู๊ด

 

พระเจ้า เอิ๊ก อ๊าก ฟืดฟาด ฟั๊บๆ จ๊วบบบบ tongue ฉันเจอหนุ่มเกาหลีคนนั้นตัวเป็น ๆ เลยมายืนดูความเรียบร้อยของร้านพนักงาน โอ้วเป็นเจ้าของร้านซะด้วยสิ ไม่ได้หล่ออย่างเดียวนะฮ๊า smile อะแฮ่มๆ ฉันไปนั่งโต๊ะ แล้วก็หันมายิ้มให้น้อง lol ถามคำแรกว่าน้องออกโทรทัศน์พี่เห็นนะ มานี่เลย มานี่เลย มายืนใกล้ๆ มาแนะนำอาหารให้พี่เหมือนพี่เป็นนักข่าวจะได้ไม๊เค่อะ mad

หนุ่มเกาหลีน้อยก็ไม่ได้ทำท่ากลัวหรือหนีฉันแต่อย่างใดนะคะ เค้าเริ่มแนะนำ ฉันก็สั่งตามแบบต้องมนต์สะกด ตาเยิ้ม มองแต่ปากน้องขยับ tongue จานนี้นะครับ ปูผัดผงกะหรี่ ปูร้านเราสดที่สุด ค่ะ สดที่สุด สั่งๆ (1000บาท)

 
เป็ดปักกิ่งนะครับอยากให้ลอง ค่ะ ค่ะ ลองค่ะลอง (750 บาท) เนื้อเป็ดเราก็เอามาทอดกระเทียมนะครับ สำหรับฉันไม่ชอบกลิ่นกระเทียมไรนัก แต่ ปากก็ค่ะ ค่ะ ไปอีก หอมกระเทียม

 

 
ยังไม่มีปลาเลย อยากแนะนำจานนี้นะครับ ฉันก็ ค่ะ ค่ะ ทำไม รู้นะว่าช่วงนี้ฉันขาด โอเมก้า 3 (700 บาท)

 
ข้าวผัดลอง 2อย่างเลยแล้วกัน ข้าวผัดปู (150บาท) ข้าวผัดกุ้ง (150บาท)

 
ของหวานขาดได้ไง ของเราขึ้นชื่อเลยครับ เรารับจัดเลี้ยง แขกชอบมาก โอวหนี่แปะก๊วย (คนไทยก็ชอบค่ะ 150 บาท) อ๋อ น้ำเก๊กฮวย หอมชื่นใจ เอามาเลยค่ะ อยากสดชื่น

 

อาหารทยอยออกมา หน้าตาน่าทานมาก สด สะอาด ไม่ผิดหวัง หนุ่มเกาหลี ก็มาดูแลตลอด สืบทราบว่ามี4สาขา คือที่เชียงใหม่ ขอนแก่น ไซง่อน และที่ที่ฉันทานอยู่ตรงนี้ น้องจะบินไปดูแลกิจการด้วยตัวเองตลอด นี่คือ หน้าตาอาหารค่ะ อร่อยทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรติ พนักงานประจำที่โต๊ะ โต๊ะล่ะ1 คน ยืนห่าง ๆ เวลา เราทำหน้าเหมือนต้องการอะไร พนักงานจะเข้ามาแบบไม่ให้รู้ตัวเหมือนเดาใจออก

พี่น้องที่ไปด้วยกัน แซวกันว่า นี้ถ้าเขาแนะนำ โต๊ะล่ะ 16000 แล้วเผลอไปสั่งเหมือนต้องมนต์แบบนี้ ตอนจ่ายเงิน ก็ตัวใครตัวเผือกนะ ฮ่า

ค่าใช้จ่ายวันนี้3100 ค่ะ เฉลี่ย คนล่ะ1000 ค่ะ
 
เมนูแนะนำ:  ปูผัดผงกระหรี่,เป็ดปักกิ่ง
 
วันที่ไปกิน: Sep 11, 2011 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿1000

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 5  |  
Environment
 4  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ