Thai | English
aiwa
ฉันชื่อaiwa อาศัยอยู่ในอ.บางบัวทอง. I am a Customer Support, ทำงานอยู่ที่ปทุมวัน. ชอบไปลั้นลาที่ปทุมวัน, ตลิ่งชัน. อาหารไทยทั่วไป, อาหารญี่ปุ่น, อาหารนานาชาติ are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านฟาสต์ฟู้ด / จานด่วนและสุกี้ ชาบู , อาหารทะเล, ขนมหวาน ไอศครีม.
สมาชิก 21 รีวิวแรก
รีวิว45 รีวิว
編輯推介數目14 Editor's Choice
Recommended3 แนะนำ
ความนิยม4927 เข้าชม
Replies in Forum0 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ228 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ0 วิดีโอ
My Recommended Reviews0 รีวิวแนะนำ
My Restaurant1 ร้านโปรด
Follow0 Following
粉絲163 Follower(s)
aiwa  Level 3
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่ ยิ้ม ยิ้ม ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  Editor's Choice  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
 
  เวอร์ชั่นเต็ม เวอร์ชั่นเต็ม   |   ดูแผนที่ ดูแผนที่
แสดงรีวิวที่ 1 ถึง 5 จาก 45 รีวิวใน ประเทศไทย
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารจีน | ร้านในโรงแรม รีสอร์ต | ติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา | ลำลอง

ห้องอาหารเรดโรส (RED ROSE) ตั้งอยู่ในโรงแรมเซียงไฮ้ แมนชั่น บนถนนเยาวราชค่ะ ที่นี่เป็นห้องอาหารจีนโมเดิร์น กับการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความหรูหรา งดงาม ตกแต่งสีสด สลับกับสีดำ และสีขาว ทำให้ร้านดูบรรยากาศหรูหรา ไม่ได้ดูเป็นจีนจ๋า แบบที่คิดไว้แต่แรกค่ะ พูดกันง่ายๆคือ ดูไฮโซมากๆ
ที่ RED ROSE นี้ ต้องบอกเลยค่ะว่า แอบตกใจนิดนึง ที่ร้านดูหรูหรา และคลาสสิคมาก ไม่คิดว่าจะเป็นร้านอาหารจีนดนตรีสดที่เล่นก็เน้นไปที่เพลงสากล แขกส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติค่ะ มีคนไทยด้วยเหมือนกัน บนโต๊ะที่เห็นจะเซตจานเอาไว้เหมือนอาหารฝรั่งเลยนะ แถมมีแก้วไวน์อีกต่างหาก ซึ่งทาง RED ROSE ก็แนะนำว่าทางร้านจะเสริฟอาหารจีน แต่ก็สามารถเลือกได้ว่า จะให้เสริฟคู่กับ ชา หรือ อยากให้แนะนำเป็นไวน์ตัวไหนที่จะเหมาะกับอาหารจานนั้นๆ พอได้ฟังก็มึนๆงงๆนะ แต่ก็รู้สึกว่า เชฟที่นี่ดูจะมีความคิดสร้างสรรค์ไม่เบาเลยค่ะ

 
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากกลิ่นกุหลาบหอมจางๆ ตามชื่อร้านแล้ว ที่นี่พนักงานจะต้อนรับด้วยผ้าเย็นหอมกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ พร้อม Welcome drink ที่เป็น Chinese whiskey เรียกน้ำย่อย ซึ่งมาเป็นไหแบบนี้เลยค่ะ แต่ให้เราทาน จอกนึง เพราะแอลกอฮอลล์แรงมาก วาไม่ได้ชิมนะ เพราะปกติวาไม่ทานแอลกอฮอล์เท่าไหร่ แล้วอันนี้กลิ่นแรงมากๆ แต่คนที่ชิมบอกว่า ค่อนข้างแรงเลยทีเดียว คนที่ทานเหล้าแรงๆ ก็อาจจะทานได้โอเค ให้จิบนิดๆ เป็นการเรียกน้ำย่อยได้ดีจริงๆ
มาถึงอาหารของที่นี่บ้าง คือเค้าจะมีให้สั่งเป็น เซตเมนูค่ะ ซึ่งมีแบบสำหรับ 1 คน หรือสำหรับ 2 คนแล้วแต่เค้าจะมีบอกว่าในเซตนั้นๆ มีอะไรบ้าง เราสนใจตัวไหนยังไง ก็เลือกเลย ซึ่งในเมนูไม่ได้มีรูปภาพแต่อย่างใดค่ะ วาก็เลือกเป็น Red Rose Dinner Set 3 ( 5courses for 1 person ) เป็นเซตสำหรับ 1 คนค่ะ เมนูน่าสนใจ วาอยากลองพระกระโดดกำแพง แล้วก็เนื้อวากู ก็เลยเลือกอันนี้ค่ะ

 
Appetizer : สลัดกุ้งทอดผลไม้
Crispy Prawn Salad with Wasabi Mayonnaise and Fresh Fruits
ผลไม้สดหลากชนิด และเนื้อกุ้ง คลุกเคล้ากับน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของวาซาบิและมายองเนส จานนี้สดชื่นมาก ทางเชฟแนะนำว่าให้ทานคู่กับไวน์ขาวตัวนึง หรือ ชา อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งก็อร่อยไปอีกแบบ เพราะไวน์ค่อนข้างมีรสออกหวานเปรี้ยวๆ สดชื่น แต่วาก็แค่จิบๆ และทานคู่กับชา ก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ เป็นการเริ่มเซตเมนูได้สดชื่นดี

 
Soup : พระกระโดดกำแพง
Soup with Sea Cucumber, Baby Abalone, Dried Scallops, Ginseng and Chinese Herbs
อันนี้ต้องบอกเลยว่า เพิ่งเคยลองเป็นครั้งแรกค่ะ เค้าเสริฟมาในหม้อเล็กๆ แต่ข้างในอัดแน่นไปด้วย วัตถุดิบชั้นยอดหลายอย่าง ที่แน่ๆคือปลิงทะเล อร่อยมากๆ ที่ชัดๆอีกอย่างก็คือไก่ดำค่ะ แล้วก็รวบรวม เครื่องยาจีนมากมาย ซุปกลมกล่อมมากๆค่ะ ไม่จืด ไม่เข้มเกินไป ทานเป็นซุปได้อย่างดี วาซดหมดเลยล่ะ เนื่องจากไม่เคยทานที่อื่นก็ไม่รู้ว่าอันนี้อร่อยไหมยังไง แต่ถือว่ารสชาดดี ถูกปากค่ะ

 
Main Course : เนื้อริบอายเจี๋ยนซอสงา
Pan-seared thin slices of Rib Eye with Chef’s special sesame sauce
จานนี้วาให้เป็นไฮไลท์ของเซตนี้เลยนะ เพราะหน้าตาดูธรรมดา เหมือนสเต็กเนื้อ แต่รสชาดถูกใจมากจริงๆค่ะ เป็นริบอายเนื้อนุ่ม ราดซอสที่มีรสเข้มข้น ได้กลิ่นของซอสงา หรือที่มีรสคล้ายๆน้ำสลัดญี่ปุ่นนิดๆ อร่อยลงตัวมาก แล้วผักเคียงด้านข้างคือ " กิมจิ " ซึ่งทานรวมๆกันแล้ว อร่อยมาก ไม่คิดว่ามันจะลงตัวได้ขนาดนี้ ต้องบอกว่าเชฟเก่งมากจริงๆค่ะ จริงๆชิ้นใหญนะคะ อิ่มเลยล่ะ แต่ถ่ายรูปมาในมุมที่ดูชิ้นไม่ใหญ่ พอดีที่ร้านค่อนข้างมืดค่ะ ถ่ายรูปยากหน่อย อาหารจานนี้เชฟแนะนำให้ทานกับไวน์แดงค่ะ ซึ่งมันจะเข้ากันกับการทานเนื้อ แต่ก็มีการเสริฟชาให้ลองทานคู่ด้วย ก็รู้สึกว่า ชามันทานคู่กับอะไรก็ได้นะ วาเองไม่ทานแอลกอฮอล์ด้วย เลยรู้สึกว่าทานกับชาอร่อยทุกอย่างเลย

 
Rice : ข้าวเหนียวเนื้อปู
Sticky Rice steamed in Chinese herbs topped with crabmeat
อีกหนึ่งเมนูที่เค้าบอกว่าหาทานยาก เค้าเล่าว่า เชฟนำข้าวเหนียวที่ผ่านการแช่ไม่เกิน 3 ชั่วโมง มานึ่งจนสุกได้ที่ เพื่อให้ข้าวเรียงตัวเป็นเม็ดสวย จากนั้นนำไปคลุกกับซอสที่มีส่วนผสมของกุ้งแห้ง เต้าเจี้ยว เนื้อหมู และเคี่ยวต่อในเวลาที่พอดีเพื่อไม่ให้ข้าวแข็งเกินไป นำไปแช่ตู้เย็นและจะนำออกมานึ่ง พร้อมโรยหน้าด้วยเนื้อปูสด จานนี้รสชาดเหมือน บ๊ะจ่างค่ะ แต่ข้าวนุ่มมากๆ นุ่มแบบไม่คิดว่ามันคือข้าวเหนียว และไม่ได้ร่วนแบบข้าวสวย คือนุ่มจนตักเข้าปากเรื่อยๆ เพลินๆ เผลอแปปเดียวหมด ไม่รู้ตัวเลยค่ะ จานนี้เค้าเสริฟมาพร้อมกับเนื้อริบอาย ซึ่งสามารถทานคู่กันก็ได้ หรือทานแบบเดี่ยวๆก็ได้ค่ะ วาว่ารสกำลังดีไม่เค็มไป ไม่จืดเกิน

 
Dessert : แปะก๊วยร้อนมะพร้าวอ่อน
Warm Gingko Nut served in syrup with Young Coconut Meat
และสุดท้ายค่ะ แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน อร่อยมากๆ เพราะเสริฟมาแบบร้อน เลยทำให้นุ่มขึ้น รสก็ไม่หวานเกินไป ปิดท้ายมื้ออาหาร มื้อนี้แบบอุ่นๆ อิ่มสบายท้องเลยค่ะ ซึ่งตอนนี้เค้าก็นำเสนอเครื่องดื่ม ที่เหมาะกับจานนั้นนี้มากมาย
อ้อ..เครื่องดื่มต่างๆที่พิมพ์ หรือโพสถึง จะไม่ได้รวมราคาในเซตอาหารนะคะ ต้องจ่ายแยกต่างหาก ซึ่งก็สามารถสอบถาม และปรึกษาได้เลยว่า เราสั่งเมนูนี้ๆ แล้วควรจะทานคู่กับอะไรได้บ้ง เค้าแนะนำดีค่ะ บริการดีมาก
... มาถึงขั้นตอนการกำหนดราคาอาหารมื้อนี้ค่ะ
ครั้งแรกในประเทศไทยที่เราเป็นคนกำหนดราคาอาหารเอง
สรุปมื้อนี้ วาให้ราคาอาหารเซตนี้ที่ : 990 บาทค่ะ

 
จริงๆอยากจะให้ราคาสูงกว่านี้ด้วยนะ แต่ก็รู้สึกว่าถ้าจะต้องจ่ายค่าอาหาร ก็คงไม่อยากจ่ายแพง 555 แต่เหตุผลที่ให้ราคานี้ ก็เพราะว่า วาว่าคุณภาพของเค้าเลิศมากเลยนะคะ วัตถุดิบคุณภาพดี กุ้งเด้งดึ๋งๆ ซอสราดต่างๆ การตกแต่ง รสชาด บรรยากาศ มันลงตัวมาก จนรู้สึกว่าประทับใจ คือถ้าดูแค่รูปอาหาร หรือชื่อเมนู มันก็อาจจะไม่ได้รู้สึกแบบที่วาไปสัมผัสมา อันนั้นก็แล้วแต่เทสใครเทสมันนะคะ อยากให้เยอะๆ แต่ก็คำนวนแล้ว วาว่าวาอยากจ่ายที่ราคานี้ ประมาณนี้ค่ะ (ราคานี้เป็นราคาเน็ตแล้ว ไม่รวมเครื่องดื่มนะคะ) รู้สึกสนุกและตื่นเต้นดีค่ะที่ได้มาทานอาหารที่ RED ROSE ในวันนี้ เพราะนอกจากจะเป็นเมนูอาหารจีนที่ไม่จำเจร้านบรรยากาศดี ยังได้เลือกราคาเองด้วย วาแอบถามว่า คนส่วนใหญ่ให้ราคากันประมาณไหน เค้าก็บอกว่า ราคาประมาณวานี่แหล่ะ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ชาวต่างชาติให้ราคาแบบสูงกว่านี้มากๆ เพราะเค้าอาจจะประทับใจในบริการ หรืออะไรไปด้วย คือแล้วแต่ความพอใจจริงๆ อาหารในเมนูมีให้เลือกหลายเซตค่ะ น่าทานทั้งนั้น
Supplementary Information:
ร้านอยู่ที่โรงแรมเซี้ยงไฮ้ แมนชั่น ถนนเยาวราชเลยค่ะ
 
เมนูแนะนำ:  เป็ดย่าง,พระกระโดดกำแพง
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


วันที่ไปกิน: Nov 19, 2014 

โอกาสพิเศษ:  Anniversary 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿500(มื้อเย็น)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารอีสาน | อาหารไทยทั่วไป | ส้มตำ | ลำลอง

" แสนแซ่บ " ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่า ต้องเป็นอาหารไทยรสจัดจ้านแน่ๆ
เค้ามีเมนูติดดาวแนะนำมากมาย บอกอยู่บนซองใส่ช้อน ส้อม บนจานของเราเลย
แต่เราไม่สั่งเลยซักอย่าง 5555

 

 
กวาดสายตาคร่าวๆเลยรู้สึก ราคาอาหารแอบโหดหน่อยๆนะ บางอย่างก็ดูแพงไปจริงๆ
บางอย่างก็ดู เอ่อ อืม ก็โอเคล่ะนะ สรุปแล้วก็ตัดสินใจ สั่งอาหารมาได้ทั้งหมด 4 อย่าง
ด้วยความหิวโซ

อย่างแรกยกมาเสริฟ ต้มแซ่บเนื้อตุ๋นเพิ่มเอ็น มาเป็นกระทะเล็กๆ ตั้งเตาไฟมาเลย
รสชาติจัดจ้านประมาณนึง แต่ด้วยความที่เป็นเนื้อตุ๋น เลยไม่ได้แซ่บเว่อร์เหมือนตริงไก่ซุปเปอร์
แต่ก็ถือว่า โอเคใช้ได้ เนื้อเยอะพอประมาณค่ะ ในรูปนี่ตอนแรกลืมเพิ่มเอ็นมาให้ทีหลัง

 
จานต่อมาเป็น ยำเห็ดรวม จานนี้ถือว่าได้เยอะนะ เพราะจานใหญ่เลยล่ะ รสชาติผ่าน
อาจจะเป็นเพราะ ส่วนตัวชอบเห็ดอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่า ชอบจานนี้เนพิเศษ รสเด็ด จัดจ้าน
ตามสไตล์ยำทั่วๆไปค่ะ

จานต่อไปคือ ผัดผักบุ้งกรอบ ตอนแรกนึกว่าจะเป็น ผักบุ้งทอดกรอบเอามาผัดอีกที (ยากไปไหม)
แต่พอมาเสริฟจริงๆคือ ผัดผักบุ้งนั่นล่ะค่ะ แต่มันเป็นเส้นๆกรอบๆ แปลกดี รสชาติกลางๆไม่เค็ม
จานใหญ่อีกเช่นเดียวกัน

 
จานสุดท้ายเป็น เป็ดย่างข้าวคั่ว ซึ่งรู้สึกว่าจานนี้แพงไปหน่อย แถมมาแบบนิ่มๆ ไม่กรอบเท่าไหร่
เหมือนเป็ดย่างคลุกข้าวคั่วประมาณนั้นเลย แต่น้องที่เคยกินบอกว่า จริงๆมันจะกรอบกว่านี้นะ
แต่ไม่เคยกินแบบอื่นเลย มึนๆงงๆกับจานนี้ แต่จริงๆรสชาติก็โอเคนะคะ จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว
พอไปได้แหล่ะ แต่รู้สึกแพงไป เพราะมาน้อย และนิ่มๆ (ในรูปหน้าตาเหมือนหมูแหะ)

ร้านนี้เค้าจะมีน้ำจิ้มใส่ไว้แบบนี้นะคะ ทั้งน้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มไก่
เค้าจะเอาถ้วยน้ำจิ้มเปล่าๆ มาวางไว้ให้ ตักได้เองตามชอบเลย

 
ร้านนี้จะเสริฟข้าวเหนียวมาในห่อๆแบบนี้ น่ารักดีค่ะ ประมาณกระติ๊บ แต่แบนๆ

 
เครื่องดื่มร้านนี้ มีให้เลือกเยอะพอสมควร แก้วนี้ เป็น แดงมะนาวโซดา แก้วละ 60 บาท
ก็ถือว่าโอเค เพราะแก้วใหญ่พอสมควรเลย น้ำเปล่า ขวดละ 20 บาทเป็นน้ำสิงห์ขวดเล็กๆ
น้ำแข็งแก้วละ 5 บาท โหดได้อีก T[]T

หลังจากอิ่มจนพุงจะแตกกันแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นอาหารรสจัดจ้าน เลยสั่งของหวานมาล้างปาก
สั่งมาสองอย่างคือ พลอยสั่ง เฉาก๊วยโบราณ กับ วาสั่ง ปังเย็นแดง อีก 2 คนไม่สั่ง
พอยกมาเสริฟ ก็เป็นที่ฮือฮามากๆ เพราะ ปังเย็นแดง ที่ตอนแรกนึกว่าจะมาแบบ
น้ำแข็งไส ใส่ขนมปัง ใส่เฮลบลูบอยแดงๆ ราดนมข้น แต่กลับมาอลังการงานสร้างเยี่ยงนี้

 
นึกไม่ออกเลยว่าเค้าไปทำยังไง ปั่นมายังไง ถึงมีนมข้นราดอยู่ด้วยสวยงาม ทำได้ไงก็ไม่รู้
ด้านล่างเป็นขนมปังก้อนๆ นัวๆกันอยู่ รู้แต่ว่าน่ากินมากๆ 49 บาทไม่แพงเลย ชอบจัง
จากที่ไม่มีใครสนใจของหวาน ต้องขอช้อนเพิ่ม จกกินกันเป็นที่สนุกสนาน

 
ค่าเสียหายทั้งหมด หารแล้วตกคนละ 260 บาทถ้วน ก็ถือว่าราคาโอเคล่ะ
รับได้ เพราะอาหารอร่อยบรรยากาศดี แต่ถ้ามากิน คนสองคน อาจจะกินได้ไม่หลายอย่าง
เพราะแต่ละจานใหญ่พอสมควร

อ้อ..อีกอย่าง ใน 4square บอกว่า ไม่อร่อย อาหารได้ช้า บริการไม่ดี แต่ที่ไปกิน ไม่มีเลยนะ
ตรงข้ามกับ comment ใน 4square เลย เค้าอาจจะปรับปรุงแล้วก็ได้มั๊ง ถือว่าเป็นอีกร้าน
ที่อยากกลับไปกินซ้ำ เพราะเราจะกลับไปกิน ปังเย็นแดง
 
วันที่ไปกิน: May 15, 2012 

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 3  |  
Clean
 4  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
   1 Vote(s)   View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านเค้กและเบเกอรี่ | ร้านกาแฟ / ร้านชา | ขนมหวาน ไอศครีม | ลำลอง

ได้นัดกันกับพี่ๆที่ออฟฟิส ไปลองชีสเค้กร้านใหม่ที่ CentralWorld มาค่ะ
อยู่ที่ชั้น 7 โซนเอเทรียม กลางลาน หน้าร้าน kuu ตอนนี้มีร้านมาเปิดใหม่เยอะไปหมด
ตอนแรกรู้แค่ว่าเบเกอรี่เปิดใหม่จากฮอกไกโด พอไปถึงร้านก็เห็นว่า มันคือร้านที่ขายแต่
" ชีสเค้ก " นานาชนิด มีนั่นนี่โน่น ก็มีแต่ชีสเค้กเต็มไปหมดเลย เห็นมีแบบ ชอคโกแลตเค้ก
อยู่อย่างนึง แต่เห็นเค้าดดเด่นในด้านนี้ ก็เลยสั่งชีสเค้ก คนละชิ้น มาชิมกัน

รูปอาจจะไม่ค่อยชัด เพราะลืมเอามือถือและกล้องไป เลยใช้ iPad ถ่ายรูปมาแบบง่อยๆนะคะ

 
รูปบรรยากาศร้านค่ะ มีที่นั่งประมาณนึง มีเค้กให้เลือก 2 ตู้ แต่ก็คือแบบเดียวกันนะคะ
มีพวกเครื่องดื่มที่เน้นนมด้วย หลายอย่าง ราคาเฉลี่ยประมาณแก้วละ 100 บาท
โลโกร้านเค้าน่ารักนะ เป็นรูปพี่วัวใส่แว่น เท่ห์มากๆ

 
เราไปกัน 6 คนก็สั่งกันคนละชิ้น พนักงานบอกว่าให้จ่ายรวมกัน เพราะตอนนี้มีโปรโมชั่น
คือทานครบ 500 บาท/บิล จะได้รับถุงผ้าโลโก้ร้าน มีให้เลือก 3 แบบ แต่มันหาร 6 ไม่ลงตัว
เลยต้องเอามาจับฉลากแบ่งกันแทน 555

 
เลือกมา 6 ชิ้นแตกต่างกัน เพราะจะได้ชิมหลายๆรส ราคาแต่ละชิ้นจะไม่เท่ากัน
ที่เลือกมา ถูกสุด 95 บาท แพงสุด 120 บาท น่าจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ ส่วนใหญ่ก็คือ ชีส
ที่เลือกมาทั้งหมดมีดังนี้ค่ะ

 
Classic Cheese Cake 95 บาท // Choco Mooooo Cheese Cake 105 บาท

 
Stawberry Cheese Cake 100 บาท // Berry & White Choco Cheese Cake 120 บาท

 
Choco Banana Cheese Cake 100 บาท // Deep Chocola Cheese Cake 115 บาท

จากที่ชิมแล้ว วาชอบ Classic ชีสเค้กนะ เพราะมันก็เป็นรสชีสกลางๆดีอ่ะ
ของวาจริงๆแล้วเป็น Choco Mooooo ชีสเค้กลายพี่วัว หน้าตาน่ารัก แต่แอบเปรี้ยว
และเลี่ยนประมาณนึง แต่เนื้อตรงที่เป็นชอคโก อร่อยดี หวานหน่อยๆ

ที่ชอบอีกอันคือ Choco Banana ชีสเค้ก เพราะได้กลิ่นกล้วย และออกหวานหน่อยๆ
เหมือนกินบานอฟฟี่เลย คือชีสเค้กมันค่อนข้างเปรี้ยว ถ้ากินอันที่มีตัดหวานบ้าง
จะค่อนข้างโอเค ไม่เลี่ยนเกินไป ทั้งหมดนี้หวานสุดเห็นจะเป็น Choco Banana นี่ล่ะค่ะ
หวานอันดับ 2 คือ Deep Chocola มันมีเหมือนผสมชอคโกแลต ตัดความเปรี้ยว
นอกนั้นจะไม่ค่อยหวานเท่าไหร่

ชีสเค้กร้านนี้ ชิ้นค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ในราคาเดียวกัน
แต่ตอนกิน กับค่อยๆละเลียดกินกันไม่หมดซักที เพราะมัน ชีส ชีส ชีส
กินกัน 6 คน 6 ชิ้น เลี่ยนกันสนุกเลยเจ้าค่า

 
ถ้าถามว่าอร่อยไหม คำตอบคือ อร่อยนะ แต่ชิ้นเล็ก และราคาพอๆกับเค้กร้านอื่นๆ
เลยคิดว่า นานๆกินที เปลี่ยนบรรยากาศก็โอเค แต่คงไม่ใช่แบบ ไปกินบ่อยๆ
อาทิตย์ละครั้งอะไรแบบนี้ คงไม่แน่นอน

แต่เห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เดินไปเมียงมองและสอบถามเยอะเหมือนกัน
อาจจะเป็นเค้กร้านดังบ้านเค้าเลยล่ะมั๊ง
 
เมนูแนะนำ:  Cheese,Cake
 
วันที่ไปกิน: Apr 10, 2012 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿100(อาหารว่าง)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารนานาชาติ | ร้านในโรงแรม รีสอร์ต | บุฟเฟ่ต์

มีโอกาสได้ไปชิมอาหาร ที่ห้องอาหาร crave (เครฟ) ที่โรงแรม Aloft Bangkok สุขุมวิท 11 มาค่ะ
เดินทางด้วย BTS ไปลงที่สถานี นานา เดินเข้าซอย สุขุมวิท 11 ไปนิดเดียว โรงแรมอยู่ซ้ายมือ
crave เป็นห้องอาหารเดียว ที่มีอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ อยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรม

ลิฟท์เปิดออกมาก็จะเห็นว่ามีไวน์ วางอยู่เรียงราย สวยงามมาก พร้อมกับมีห้องอาหารอยู่ด้านซ้ายมือ
เนื่องจากเห็นไวน์ก่อนเลยแอบเดินดู เพราะจัดเรียงไว้สวยงาม และมีราคาบอกชัดเจน
เท่าที่สแกนดู ราคาโอเคเลย มีตั้งแต่ขวดละ 400 กว่าบาท จนไปถึงราคาหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว
ลาเบลของขวดไวน์มีแต่สวยๆทั้งนั้นเลย

 
เนื่องจาก วาเอ่ยปากถามว่า แล้วถ้าแบบ มาใหม่ๆไม่รู้จะเลือกไวน์แบบไหนยังไง
จะมีวิธีเลือกยังไงบ้าง เค้าก็ยื่น iPad ให้วามาอันนึงค่ะ แล้วเปิด App ให้ดูเลย แล้วบอกว่า
เค้าจะมีหมวดหมู่ไวน์ ให้เรากดดู เลือกได้ก่อนเลย เหมาะสำหรับคนที่ ไม่รู้จะเลือกอันไหน
เพราะสามารถเลือกดูได้จาก ชนิดของไวน์ ราคา ปี ค.ศ. ตามแต่เราจะพอใจได้เลย
ซึ่งมันค่อนข้างสะดวก และไฮเทค สมกับ Concept ของโรงแรมเสียจริง
แถมบอกมาอีกว่า ไวน์ที่นี่ราคาถูกมาก ซื้อราคาขวดเดียว เหมือนได้ราคาส่งเลยทีเดียว

วาไม่ค่อยสันทัดเรื่องไวน์เท่าไหร่ เลยสั่งอาหารทานกันดีกว่า อาหารแนะนำของที่นี่มีหลายอย่าง
เราได้รับข้อมูลมาว่า ห้องอาหาร crave แห่งนี้เสริฟอาหาร ตลอดทั้งวัน ซึ่งวาเข้าไปทานเป็นมื้อเย็น
จะเป็นอาหารจานเดียวที่เค้าเรียกว่า สไตล์ Twist ซึ่งเราอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเท่าไหร่
อาจจะได้ยินเป็นสไตล์ Fusion หรือะไรมากกว่า ซึ่งเท่าสอบถาม วาก็พอจะเข้าใจง่ายๆ คือ

Fusion คือ การนำอาหารอย่างหนึ่ง มาผสมผสาน กับอีกอย่างหนึ่ง เพื่อให้เกิดเมนูใหม่
Twist คือ การนำอาหาร อย่างนึง มามิกซ์ แอนด์ แมท กับอีกอย่างนึง ไม่ทำให้เกิดสิ่งใหม่
เราจะยังได้รับรู้ความเป็นอาหารอย่างแรก กับ อย่างที่สอง อย่างเต็มเปี่ยม แต่จะแปลกตรงที่
ความลงตัวในการผสมผสาน แล้วออกมาเป็นอาหารเมนูนั้นๆ แบบคาดไม่ถึง

 
เดี๋ยวจะมึนซะก่อน เลยมาเริ่มทานอาหารกันดีกว่า เริ่มกันที่ขนมปังที่จะได้ฟรีทุกโต๊ะ
วาชอบขนมปังมาก ไม่ว่าที่ไหนก็อร่อยหมดล่ะนะ แต่ที่นี่เสริฟมาอลังการน่าตื่นเต้นนิดนึง
ตรงที่จะมีเป็นเกลือร้อน ใส่ลงมาในโถขนมปังด้วย เราก็จะได้ขนมปังกรอบๆอุ่นๆ เค็มๆ
ชอบมากๆเลยค่ะ แต่ต้องรีบทานหน่อย เย็นปุ๊บ ขนมปังจะแข็งซะงั้น

และตามมาด้วย Starter สุดฮิต และน่าทานมากๆ นั่นก็คือ 20 Minute Cured Salmon คำถามแรก
ของคนขี้สงสัยอย่างวาคือ อะไรคือ 20 นาที เราต้องรอ 20 นาทีหรอคะ จานนี้ 555555 แต่คำตอบที่ได้คือ
20 นาที คือระยะเวลา ในการหมักแซลมอลกับเครื่องเทศ ที่ใส่มาในสลัดนั่นเองค่ะ

จานนี้ก็ดูเหมือนสลัดธรรมดาจานนึง แต่ที่เด็ดมากของสลัดจานนี้ก็คือ เค้าเสริฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ด
รสจัดจ้านค่ะ ใส่มาเป็นหลอดแก้วปักมาข้างๆจาน เทรวมกันแล้ว จานนี้รสชาติถูกปากสุดๆ เลิฟๆ

 
ข้างบนที่ดูกรอบๆนั่นเป็น ชีสผสมกับข้าวคั่วหรืออะไรซักอย่างนะคะราดน้ำจิ้มซีฟู๊ด ทานกับผัก
มีแซลมอลรสกลมกล่อม หลงรักจานนี้แบบขูดเกลี้ยงจานเลยอ่ะ 555555
จานต่อไปนะคะ เป็นสิ่งที่หน้าตาอาจจะแปลกๆซักหน่อย ใครมาก็เห็นสั่งทานกัน
นั่นก็คือ Seared Sea Scallop หอยเชลส์ทอดเสิร์ฟกับแกงกรอบ

 
ที่ดูกรอบๆข้างบนเป็นแกงกรอบ+เกล็ดขนมปัง ราดลงไปบนหอยเชลล์ตัวใหญ่ๆ
เคยเห็นรีวิวคนอื่นไม่มีมะม่วงสุก แต่จานนี้มีมะม่วงสุกเพิ่มมาด้วยค่ะ รสก็ออกหวานๆ
เพิ่มมาด้วย แปลกดีค่ะ

จานต่อไปเป็น KUROBUTA Black Pork เป็น หมูดำอบเปลือกไม้ เสริฟมากับผัดพริกหวานและพาสต้า
ข้างบนหมูเห็นว่าคือ แยมควินซ์ คืออะไรไม่รู้ค่ะ แต่ออกหวานนิดๆ ทำให้รสชาติลงตัวดีนะ
หมูชิ้นใหญ่ เหนียวนุ่มมากๆค่ะ

 
และเมนครอสอีกจาน ชื่อยาวมากแบบต้องจดเลย คือ Chargrilled Australian Angus Beef
“Hormone free” เนื้อแองกัสริบอายย่าง นำเข้าจากออสเตรเลีย ที่ปราศจากฮอร์โมน
เสริฟคู่กับ ผัดผักตามฤดูกาลและผัดมันฝรั่งรมควัน คือเค้าจะมีให้เลือกเครื่องเคียงสเต็กด้วยค่ะ
เสริฟพร้อมซอสให้เลือก คือ ซอสครีมเห็ดทรัฟเฟิล, ซอสพริกไทยดำสไตล์เอเชีย
ซอสอร่อยคนละแบบนะ แต่วาชอบซอสพริกไทยดำ รสชาติเข้มข้น ไม่ทำให้รู้สึกจืดเกินไป
สำหรับคนไทย จนต้องขอซอสมะเขือเทศเพิ่มเหมือนที่เคยๆทานมา

 
และสุดท้าย ของหวานที่มาพร้อมความแปลกของเนื้อแป้งกรอบๆ ที่เสริฟคู่กับไอศครีมวนิลาโฮมเมด
ที่อร่อยมากกก ชื่อเมนูว่า Poached Pear เป็นลูกแพร์เชื่อมไวน์ค่ะ แต่ที่ชอบคือแป้งข้างๆ ที่บางกรอบมาก
จานนี้เป็นของหวาน ที่ไม่หวานเกินไปจนเลี่ยนค่ะ ปิดท้ายมื้ออาหารได้มีความสุขมากมาย

 
อิ่มแล้วก็เดินชมห้องอาหารเล็กน้อย แต่คนข้างข้างเยอะทีเดียวค่ะ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูป
เกรงใจแขกท่านอื่น เห็นมีเป็นโซน Outdoor รับลมด้านนอก ซึ่งมีนักร้อง และเล่นดนตรีสดอยู่
เป็นอะคูสติกฟังเพลินๆ จิบไวน์ ที่เลือกจิ้มได้เลยจาก iPad ไฮโซม๊ากกกก 555555

 
อาหารกลางวันเปิดบริการ 12.00-15.00 อาหารเย็นเปิดให้บริการ 18.00-23.00 น. นะคะ
อาหารจานค่อนข้างใหญ่ อิ่มๆเลยค่ะ ราคาอาหารก็ถือว่าประมาณนึง จานละ 200 บาทขึ้นไป
แต่เทียบกับคุณภาพและปริมาณแล้ว ก็ถือว่าคุ้มทีเดียวค่ะ
 
เมนูแนะนำ:  20 Minute Cured Salmon,KUROBUTA Black Pork,Chargrilled Australian Angus Beef
 
วันที่ไปกิน: Mar 23, 2012 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿300(มื้อเย็น)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
   1 Vote(s)   View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | อาหารทะเล | ครอบครัว ลำลอง | โอกาสพิเศษ

มีโอกาสได้ไปเที่ยวแถวๆหาดจอมเทียน แถวนี้มีร้านอาหารชื่อดังเยอะมากค่ะ
แต่คนก็เยอะมากเช่นเดียวกัน เราก็บึ่งมอเตอร์ไซต์ไปเรื่อยๆ จนเจอ .. แฟมมิลี่มาร์ท

 
ซื้อน้ำกินกันไป แล้วก็เหลือบไปเห็น ร้านข้างๆแฟมมิลี่มาร์ทนี่ล่ะค่ะ มีโต๊ะริมทะเล ที่น่านั่งมากๆ
แต่ในร้านคนไม่มีเลยค่ะ หรืออาจจะยังร้อนอยู่หน่อยๆ ตอนนั้น พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว
แต่ก็ยังเป็นแดดๆอยู่นะคะ ก็ตัดสินใจ กินร้านนี้เลย ตอนแรก ตอนสั่งอาหาร นั่งในร้านก่อน
พอแดดเริ่มหายไปก็บอกเค้าว่า จะไปนั่งข้างนอกต่อ โชคดี แดดหมดพอดี ก็เลยได้ไปนั่งข้างนอก ชิวๆ

 
อาหารที่สั่งมาวันนี้เป็นทีเด็ดของร้านเลยค่ะ ปลามหาเศรษฐี (จำชื่อไม่ได้)
แต่คือ จำได้ว่า มันคือ ชื่อเดียวกับชื่อร้านเลยอ่า ตัวใหญ่มวากกกกกกกกกกกกกกกกก
แล้วอร่อยด้วยค่ะ กินสองคนไม่หมด เง้อๆๆ เป็นปลาทอด ที่ราดมาด้วยน้ำยำรสเด็ดสุดๆ
ที่โรยมาดูเยอะๆ นั่นคือ ปลาตัวเล็กๆ หมึกกรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์นะคะ
อร่อยจริงๆ ยกนิ้วให้เลยค่ะ จานนี้ ไม่ผิดหวัง

 
จานต่อไปคือ สลัดทอดมันกุ้ง ค่ะ จัดจานสวยงาม เลิศเลอเพอเฟคมากมายค่ะ ^^
สับปะรดนั่น กินได้นะคะ หวานเจี๊ยบ อร่อยมากมาย อ้อ ทอดมันก็โอเคนะคะ กรอบๆใช้ได้เลย

 
จานต่อมา เป็น ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ค่ะ ที่นี่เค้าจะผัดเฉพาะไข่แดงเท่านั้นนะคะ
จานนี้ก็ธรรมดาๆ แต่เป็นของโปรดเลยจ้า

 
จานต่อไปเป็น ผัดผักบุ้งค่ะ แต่จานนนี้พิเศษตรงที่ เค้าใส่กะปิ ลงไปด้วย
จริงๆ มันไม่เหม็นกะปิเลยนะคะ แต่ได้กลิ่นหอมๆมากกว่า คงไม่ได้ใส่เยอะ
แต่สั่งเพราะความแปลก อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง ก็โอนะคะ รู้สึกได้รสที่แตกต่าง
ตรงที่มันเค็มๆหอมๆนั่นเอง

 
คือปลาตัวเดียวก็ควรจะอิ่มได้แล้วนะคะ สั่งมาเหมือนสามล้อถูกหวยป่ะ?
คือไม่คิดว่า ปลาจะตัวใหญ่ขนาดนี้ไง ถ่ายรูปหมู่ของอาหารมื้อนี้กันดีกว่า >.<~

 
นั่งกินเพลินๆไป ฟังเสียงคลื่น ชมพระอาทิตย์ตก บรรยากาศ โรแมนติกมากมายค่ะ
และแล้ว พระอาทิตย์ ก็ลับขอบฟ้าไป บ๊าย บายคุณพระอาทิตย์ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ lol

 
พอฟ้ามืด คนเต็มร้านเลยค่ะ ลูกค้าเค้ามาช่วงดึกๆจริงๆ แต่เราขอบ๊าย บายไปก่อน
อาหารอร่อยมาก เป็นมื้อเย็นที่มีความสุขอีกมื้อนึง ที่สำคัญอิ่มมากค๊า ราคาจำไม่ได้ น่าจะราวๆ 800 บาทจ้า
ถ้าจำไม่ผิด ปลาก็ราวๆ 350 บาทแล้วค่ะ แต่ที่เห็นทั้งหมด กินไม่หมดอ่า เจอปลาเข้าไปนิ่งเลย
 
เมนูแนะนำ:  ปลามหาเศรษฐี,สลัดทอดมันกุ้ง,ผัดผักบุ้ง
 
ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿300(มื้อเย็น)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0