นักรีวิวร้านอาหาร

ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณอาคารด้านหลังของโครงการมะลิเพลส ตลาดแม่เหียะ .. เป็นห้องหัวมุมสุด (บริเวณด้านหลังริมปิง) เป็นร้านที่เปิดใหม่ไม่นานนัก และยังไม่เป็นที่รู้จัก ลูกค้าเลยไม่ค่อยเยอะ วันนี้ได้มากินโดยบังเอิญจริงๆ

บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างโล่งสบาย โต๊ะที่นั่งไม่หนาแน่นมากนัก ผมมาใช้บริการในช่วงกลางคืน สภาพความสว่างและการจัดแสงไฟค่อนข้างโอเค ดูอบอุ่น นวลตา แต่มีข้อติตรงโต๊ะและเก้าอี้ ซึ่งโต๊ะมีขนาดไม่พอดีนัก เหมือนเอาโต๊ะทำงานมาต่อกัน 2 ตัว สำหรับนั่ง 4 คน เก้าอี้รูปทรงไม่เหมาะกับการนั่งรับประทานอาหารเท่าที่ควร

มาดูเมนูอาหารกันบ้างดีกว่า ... ร้านนี้มีเมนูค่อนข้างครบเกือบทุกประเภท ทั้งอาหารกินเล่น ยำ สลัด สเต็ก สปาเก็ตตี้ และเครื่องดื่มต่างๆ ดูราคาโดยรวมถือว่าไม่แพงมากนัก แต่มาสะดุดตรงอาหารโปรโมชั่นนี้แหละ ที่ราคา 69 บาท รวมเครื่องดื่ม 1 แก้ว (ชาเย็น,ชามะนาวหรือกาแฟเย็น) วันนี้มากัน 4 คน เลยจัด 4 เซ็ตเลยครับ

เริ่มจากข้าวผัดโป๊ะแตก ที่ใส่เครื่องต้มยำมาเยอะพอสมควร เผ็ดกำลังดี หอมเครื่องที่ผัดคลุกเคล้ามากับข้าว ตอนแรกเข้าใจว่าอาหารโปรโมชั่นจะมาในจานหรือปริมาณที่ไม่เยอะ แต่นี่อัดมาเต็มครับ จานเดียวอิ่ม

จานต่อมาคือผัดซีอิ๊ว ที่รสชาติค่อนข้างดี เสียอย่างเดียวมันไปนิด แต่ใส่ผัก ใส่ไก่มาให้เยอะเหมือนกัน

จานที่สามคือ ผัดไทย อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเลยครับ เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี

จานที่สี่ คือ ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ+ปลาทู จานนี้ไม่ได้ชิมครับ แต่ดูแล้วให้เยอะเหมือนกัน ปลาทูให้มาทั้งตัว กับน้ำพริก 1 ถ้วย คนที่ได้ชิมเขาบอกว่าเด็ดมาก

อาหารทั้ง 4 จาน สั่งมาคู่กับเครื่องดื่มคือ ชามะนาว ที่ชงแบบชาไทยโบราณ รสชาติโอเคครับ แต่ขาดความเปรี้ยวของมะนาวไปหน่อย คล้ายๆ ชาดำเย็น แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าคุ้มราคา

การบริการค่อนข้างโอเค พนักงานเอาใจใส่ดีครับ แต่ขาดประสบการณ์และทักษะในลำดับของการบริการและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ คาดว่ายังใหม่

เขามีบริการโทร.สั่งจองอาหารล่วงหน้าด้วยครับ เผื่อลูกค้าไม่อยากรอนาน 053-111179

ร้านนี้เป็นร้านสุกี้ญี่ปุ่นชื่อดัง เพราะดูจากหลายๆ รีวิวแล้วน่าสนใจมากครับ เลยพาครอบครัวมาลองชิมสักหน่อย

วันที่ผมไปใช้บริการ ลูกค้าไม่ค่อยเยอะมากนัก ผมเลือกนั่งด้านนอกร้าน เพราะดูโล่งสบายกว่า ในร้านดูคับแคบและอึดอัด

วันนี้เลือกเป็นราคาบุฟเฟต์ 359.- ครับ และเด็กอีก 2 คน คนละ 200 บาท สั่งแบบไม่ต้องคิดมาก คือเอามาทุกอย่าง ทั้งชุดหมู ผัก ของกินเล่นและเครื่องดื่ม ยกเว้นเนื้อวัว ซึ่งทางร้านแจ้งว่าหมด

ทางร้านแนะนำว่าถ้าเพิ่มอีก 100 บาทจะได้อัพเกรดเป็นพรีเมี่ยม ซึ่งมีแซลมอน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาหมึก กุ้ง ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่

พอหม้อสุกี้พร้อม อาหารพร้อม พนักงานก็จะนำหัวหอมมาผัดกับเนย และเติมน้ำพร้อมปรุงรสให้เราเรียบร้อย จากนั้นก็เริ่มลงมือเลยครับ .. ซดน้ำซุปก่อนเลย "อร่อยมาก" น้ำซุปหอมกรุ่น รสชาติกลมกล่อม อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ

ส่วนน้ำจิ้มมีให้ 3 อย่าง คือ น้ำสลัดครีม น้ำจิ้มพริกตำ(คล้ายน้ำจิ้ม 3 รส) ตัวนี้อร่อยสุดละ และน้ำจิ้มซีอิ๊ว

นอกจากสุกี้ในหม้อแล้ว ก็ยังมีของกินเล่นอื่นๆ ที่ผมสั่งมาหลายอย่าง ทั้งทาโกะยากิ เกี๊ยวซ่า ปูอัด ยำสาหร่าย เบค่อนพันเห็ดเข็มทอง ไก่เทริยากิ ทุกอย่างคุณภาพและรสชาติโอเคเลยครับ

โดยรวมแล้วที่นี่ใช้วัตถุดิบที่คุณภาพดีครับ ทั้งเนื้อสัตว์ ทั้งผัก สดใหม่ใช้ได้เลย รสชาติความอร่อยก็ดี แต่ติอย่างเดียวเรื่องความหลากหลาย เมื่อเทียบกับราคา ซึ่งทั้งราคาปกติสามร้อยกว่าบาท หรือสี่ร้อยกว่าบาทในแบบพรีเมี่ยม เราสามารถไปทานที่อื่นซึ่งมีอาหารให้เลือกมากกว่านี้ได้เลย บางร้านหรือบางโรงแรมยังถูกกว่านี้ในปริมาณของที่ให้เลือกเท่าๆ กัน หรือมากกว่า

แต่ต้องชื่นชมเรื่องการบริการของพนักงานครับ ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี สั่งเพิ่มได้ตลอด เต็มใจบริการไม่มีหน้างอ พูดคุยเป็นกันเองมากๆ และแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ดี เพราะผมนำคูปองส่วนลดเงินสดไปใช้ แต่ทางร้านแจ้งว่าหมดอายุแล้วจึงใช้ไม่ได้ ..พนักงานเลยมอบส่วนลด 15% ให้แทน (เหมือนโปรโมชั่นวันวาเลนไทน์ซึ่งผ่านมาไม่กี่วัน) ต้องขอบคุณมากครับ

ไม่น่าเชื่อ ว่าเคยเห็นกาแฟแบรนด์ "Lanna Cafe" มานานมากแล้ว แต่ไม่รู้ประวัติความเป็นมาเป็นไปและแหล่งผลิตเลย จนกระทั่งมีโอกาสได้มารู้จักกับร้านนี้

ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีบรรยากาศน่านั่งเท่านั้น .. แต่ที่นี่คือเบื้องหลังความสำเร็จระดับอินเตอร์ ที่สร้างชื่อให้กับกาแฟไทยของเรา เพราะเป็นศูนย์ที่ทำการพัฒนากาแฟอราบิก้าไทยให้กับชาวเขาในหลายหมู่บ้านบนเขาสูงหลายๆ แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งสามารถส่งขายให้กับ Starbucks ในชื่อเมล็ดกาแฟ "ม่วนใจ๋" เป็นกาแฟไทยชนิดเดียวที่สามารถขายในร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกนี้ได้

นอกจากนั้น ยังผลิตเมล็ดกาแฟ Lanna Cafe ทั้ง 7 ชนิด 7 คาแรคเตอร์ส่งขายตามร้านกาแฟ และห้างสรรพสินค้าต่างๆ

มาที่นี่แล้วเมนูซิกเนเจอร์ที่อยากแนะนำให้ลอง แบบพลาดไม่ได้จริงๆ คือ "Coconut Cappuccino" กาแฟคาปูชิโน่รสนุ่ม หอมกลิ่นมะพร้าว หวานมัน แถมยังมีเนื้อมะพร้าวใส่มาให้ด้วย ใครๆ ก็หลงรักแก้วนี้ครับ ราคาเพียงแก้วละ 50 บาท(ร้อน) และ 60-65 บาท (เย็น/ปั่น)

ราคากาแฟของที่นี่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับคุณภาพและรสชาติ ซึ่งอีกหนึ่งแก้วที่ผมติดใจ เป็นกาแฟเย็นแบบง่ายๆ แต่หาร้านที่ชงอร่อยๆ ได้ไม่ง่ายนัก คือ อเมริกาโน่เย็น รสชาติกาแฟเข้ม มีความหอม แต่ไม่ขมเฝื่อน เวลาดื่มจะรู้สึกลื่นคอ หวานกำลังดี แก้วละ 55 บาท

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของร้านนี้คือ กาแฟคุณภาพที่คั่วสดใหม่ คั่วกันที่นี่เลย แถมยังควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนเป็นอย่างดี การบริการของพนักงานที่นี่ก็ค่อนข้างเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส และให้คำแนะนำกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี จะนั่งนานแค่ไหนก็ไม่ว่า มี wifi ฟรี เสียบปลั๊กชาร์ตไฟก็ไม่คิดเงิน เพราะเขาถือการบริการเป็นสิ่งสำคัญ และไม่ได้เน้นผลกำไรจากการขายมากนัก

เป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่มีประวัติที่น่าสนใจ และมีกาแฟคุณภาพไว้บริการลูกค้าในราคาไม่แพง ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับสำหรับร้านนี้

****พิกัดล่าสุดของที่นี่ คือ ถนนวงแหวนรอบนอก(รอบ 3)ระหว่างแม่โจ้-แม่ริม ซึ่งหากเราขับรถมาจากเส้นเชียงใหม่-แม่โจ้ จนถึงถนนวงแหวนรอบ 3 ให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 2 กม. จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยไปเล็กน้อย มีที่จอดรถหน้าร้านจอดได้มากกว่า 10 คัน ****

นับเป็นแนวคิดที่ดีของดาราเทวีเลยครับ ที่มาเปิดสาขาห้าง Maya แห่งนี้ เพราะอยู่ในเมือง ไปมาง่ายและใกล้กว่าที่จะไปที่ดาราเทวี หากไม่นับเรื่องบรรยากาศ หรือความหลากหลายของขนม

สาขานี้ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ปากทางเข้าห้างMaya บริเวณหน้าบันไดเลื่อนพอดี ตกแต่งแบบเรียบง่าย ดูคลาสสิคดี สามารถซื้อกลับบ้านหรือรับประทานที่ร้านได้ พนักงานก็อัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการดีมากครับ

วันนี้บังเอิญรับประทานอาหารกลางวันจนอิ่มมาก่อนหน้านี้แล้ว เลยอยากหาขนมหวานล้างปากเสียหน่อย และแน่นอน..ที่พลาดไม่ได้คือ มาการอง ซึ่งที่สาขานี้มีทุกรสชาติเหมือนกับที่ดาราเทวีทุกอย่างครับ แต่ผมมาช่วงบ่ายแล้ว เห็นบางรสชาติก็หมดไปแล้วเหมือนกัน ปกติผมชอบรสกุหลาบ เบอรี่ และเอิร์ลเกรย์ วันนี้ได้ลองอีก 3 รสชาติใหม่ ที่ยังไม่เคยได้ชิม คือ ข้าวเหนียวมะม่วง แอปเปิ้ลวาซาบิ และเลม่อน ซึ่งอร่อยทั้ง 3 อย่าง ในคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน

รสข้าวเหนียวมะม่วงหอม หวาน อร่อย อมเปรี้ยวนิดๆ .. ส่วนแอปเปิ้ลวาซาบิ มีรสเปรี้ยวของแอปเปิ้ล และกลิ่นฉุนของวาซาบิเป็นเอกลักษณ์ แปลกดีครับ

สุดท้ายที่ชอบเป็นการส่วนตัว และต้องสั่งมากินอีกเพราะติดใจ คือ เลมอน ซึ่งเวลาเคี้ยวไปแล้ว รสชาติเปรี้ยวและหวานรวมถึงกลิ่นเลม่อนจะหอมอวลฟุ้งกระจายอยู่ในปาก แทบจะไม่อยากกลืนเลยจริงๆ ชอบสุดๆ

นอกจากมาการองแล้ว ยังมีขนมเค้กน่ารับประทานอีกหลายๆ อย่าง วันนี้ได้ลองสั่ง Berry Treat มาลองชิมครับ ชิ้นละ 110 บาท รสชาติอร่อยมาก ชอบตรงที่เนื้อเค้กนุ่มเบา แต่ไม่ฟูจนกลวง รสชาติของเบอรี่ที่สลับชั้นกับช็อคโกแลตและส่วนผสมอื่นๆ มันเข้ากันลงตัวมากๆ ที่สำคัญด้วยความเปรี้ยวของตัวเค้ก ทำให้รู้สึกไม่เลี่ยน ชิ้นนี้พิฆาตเรียบภายใน 2 นาที

นอกจากขนมแล้วก็ยังมีเครื่องดื่มทั้งชากาแฟบริการด้วย รู้สึกจะราคาถูกกว่าที่โรงแรม ส่วนขนมราคาเท่ากันครับ มาการองก็ชิ้นละ 20 บาท(ปกติ) ส่วนรสชาติพิเศษก็ 35-45 บาท (ราคาไม่รวม vat) สรุปวันนี้ชำระไป 300 กว่าบาท มาการอง 10 ชิ้น กับเค้ก 1 ชิ้น น้ำเปล่าฟรี ^^

ผมรู้จักร้านนี้โดยบังเอิญครับ ..คาดว่าใครหลายคนอาจจะรู้จักและไม่รู้จัก
ด้วยความอยากกินอาหารทะเล เลยลองค้นหาใน google นี่แหละ ปรากฎว่ามีแต่ร้านดังๆ (ราคาแพงๆ) เต็มไปหมด
บังเอิญมาสะดุดกับรีวิวของร้านนี้ในเวปนึง และไม่คิดว่าจะมีร้านแบบนี้ อยู่ตรงนี้ ทำเลนี้

ร้านตั้งอยู่บริเวณ ถ.วังสิงห์คำ อธิบายตั้งต้นง่ายๆ ที่หน้า รพ.ลานนาแล้วกัน จากหน้า รพ. ให้มุ่งหน้าไปทางสะพานป่าตัน ตรงที่จะเลี้ยวซ้ายไปบ้านท่อ .. ให้เราเลี้ยวขวาลอดใต้สะพาน แล้วตรงเข้าสู่ถนนวังสิงห์คำ ขับตรงไปประมาณ 200 เมตร (ไม่เกิน) จะมีซอยเล็กๆ ข้างตึกแถวอยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามกับร้านทำป้ายไวนิล สามารถเลี้ยวรถเข้าไปจอดบริเวณนั้นได้ประมาณ 5-6 คัน (หรือว่าจอดริมถนนนั้นเลย) เดินเข้าซอยไปสัก 10 เมตร จะเห็นทาวน์เฮ้าส์กึ่งๆ ตึกแถว 2 ชั้น มีป้ายหน้าร้านเขียนว่า เลิศรส

ดูสภาพด้านหน้าอาจไม่แน่ใจ หรือคิดว่าร้านจะเจ๊ง .. ให้เดินทะลุเข้าไปด้านในเลยครับ บริเวณหลังร้านที่เป็นที่นั่งรับประทานอาหาร จะทำเป็นระเบียงติดแม่น้ำปิง ตอนเดินผ่านเข้าไปในร้านอาจจะแปลกๆ เล็กน้อย เพราะต้องเดินทะลุครัวเข้าไปเลย

บรรยากาศโดยรวม เหมือนร้านอาหารตามสั่งทั่วไป หรือร้านที่ติดชายทะเลแบบบ้านๆ เก้าอี้พลาสติก โต๊ะธรรมดา เรียกว่าถ้าจะเอาหน้าเอาตา หรือต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองคงใหม่เหมาะ ..ยกเว้นว่าไม่แคร์เรื่องสถานที่ แต่เน้นอร่อยและดี

อาหารทะเลที่นี่สดมากๆ ครับ เขาสั่งตรงมาเลย วันที่ผมไปกินนั้นโชคดีมากๆ ได้ก้ามปูทะเลใหญ่(เว่อร์)มาใหม่วันนั้นพอดี เลยได้แบบสดๆ ขนาดคัดพิเศษกันเลย เป็นเมนูก้ามปูนึ่ง สนนราคาจานละ 800 บาท ดูเหมือนแพงแต่โคตรคุ้ม สะใจ เป็นไฮไลท์ของวันนี้จริงๆ

เมนูต่อมาเป็นปลากะพงนึ่งมะนาว ปลาตัวโตมาก เนื้อนุ่มหนึบ ไม่คาวเลย กินแล้วรู้ว่าสดจริงๆ ราคา 450 บาท จานนี้ถือว่าไม่แพง

นอกจากนั้นก็ทยอยสั่ง ข้าวผัดปูจานใหญ่ ราคา 300 บาท รสชาติดี ปูชิ้นโตมาก

กุ้งชุบแป้งทอด / ต้มยำปลาน้ำใส / ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา น้ำเปล่าและน้ำอัดลม สำหรับผู้ใหญ่ 4 คน เด็ก 2 คน สรุป มื้อนี้จ่ายไป 2340 บาท เฉลี่ยคนละประมาณไม่ถึง 400 บาท กับอาหารทะเลคุณภาพขนาดนี้ ถือว่าคุ้มจริงๆ ครับ และรสชาติของอาหารทุกอย่าง อร่อยจริงๆ

ร้านนี้เปิด 2 ช่วงเวลานะครับ กลางวันเปิด 10.00-14.00 ตอนเย็นเปิด 17.00 - 21.00
เรื่องการบริการก็ถือว่าใช้ได้ ไม่เลวครับ ทำกันเองในครอบครัว อาหารก็ไม่ช้า