นักรีวิวร้านอาหาร

ร้านบุฟเฟต์ยอดนิยมอีกร้านที่มักจะมาทานบ่อยในวันหยุดสุดสัปดาห์คือ Oishi Express สาขารัตนาธิเบศร์ โดยวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านจะเปิดเวลา 10.00น. ซึ่งก็เหมาะกับการเป็น Saturday หรือ Sunday Brunch ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

บรรยากาศภายในร้าน
ขอแนะนำว่า ถ้าจะมารับประทานบุฟเฟต์ที่นี่โดยไม่ต้องรอ ให้มาในเวลาร้านเปิด นั่นคือ ช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00- 11.00น. คนจะไม่แน่นนัก แต่หากพ้นเวลานี้ไปจะต้องยืนต่อคิวรอเป็นเวลานานเลยทีเดียว วันนี้มาทานในเวลา 10.30น. ซึ่งเป็นโต๊ะแรกๆของร้าน สำหรับโออิชิที่นี่มีข้อดีอย่างหนึ่งคือไม่มีกลิ่นอาหารเหม็นติดอยู่ภายในร้าน ทำให้นั่งรับประทานบุฟเฟต์ได้อย่างสบายอกสบายใจ แต่การจัดวางโต๊ะที่นี่ค่อนข้างคับแคบ และไม่เป็นส่วนตัวเท่าที่ควร (ที่เป็นส่วนตัวจะต้องจองมากันเป็นหมู่คณะ จะมีห้องพิเศษอยู่ด้านในค่ะ)

การบริการ
ด้วยความที่เป็นบุฟเฟต์ ที่นี่ไม่ได้เน้นบริการเท่าใดนัก จะมีแค่ตอนพนักงานพามานั่งที่โต๊ะ ตอนเสิร์ฟอาหารที่สั่งไว้ และตอนเก็บจาน ซึ่งก็มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดี แต่หากคนมากๆ บางครั้งพนักงานเก็บจานไม่ทัน จานก็จะวางล้นโต๊ะอยู่พอสมควร

รสชาติ
อาหารที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาหารปรุงแล้ว อาทิ เช่น ผักโขมอบชีส หัวปลาต้ม แกงกะหรี่ญี่ปุ่น หรือจะเป็นแนวอาหารญี่ปุ่นจ๋าอย่างโซนปลาดิบ ซึ่งมีหลายแบบให้เลือก หรือจะเป็นแนวหม้อไฟสำเร็จรูป ให้เราสามารถเลือกหมู ลูกชิ้นได้ตามต้องการ สำหรับอาหารตามสั่ง วิธีการสั่งจะต้องนำตัวหนีบเบอร์โต๊ะมาหนีบไว้ที่จานที่เราต้องการ ซึ่งโซนนี้มีค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผัดผัก เทปปันยากิ เทมปุระ ซึ่งแสดงตามรูปที่ถ่ายมา และช่วงนี้มีเมนูพิเศษ อาหารทะเลชุบเกล็ดขนมปังทอด ก็อร่อยไปอีกแบบ สำหรับอาหารที่นี่ถือว่าเชฟทำอาหารฝีมือคงที่ คือมาทานเมื่อไหร่ก็รักษาคุณภาพไว้ได้ดีเหมือนเดิม ส่วนขนมที่มีก็จำพวกเค้ก และ ขนมไทยใส่น้ำเชื่อม ซึ่งกะทิอาจจะทำสู้ร้านขนมไทยดังๆไม่ได้ แต่ก็รสชาติดีในระดับหนึ่งทีเดียว

จากการที่ได้มีโอกาสล่องใต้ ไปทำงานริมฝั่งอ่าวไทยอยู่สักระยะหนึ่ง อาหารทะเลสดๆ ก็เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้หลังจากทำงานเสร็จในแต่ละวัน เมื่อเรามาถึงสุราษฎร์ธานี ก็เลือกที่จะแวะมาทานอาหารทะเลสดๆ ตามคำแนะนำของเจ้าถิ่นคนสุราษฏร์ อย่างร้านกลางเล ซีฟู้ด กัน
บรรยากาศภายในร้าน

กลางเล ซีฟู้ดเป็นร้านหนึ่งที่ยื่นออกไปในทะเล ระหว่างทางเข้าร้านจะมีทางเดินที่ผ่านป่าโกงกางโดยเฉพาะ เป็นธรรมชาติมากๆ เราเดินทางมาถึงที่ร้านในเวลาเกือบ 4 โมง วันนี้คนในร้านยังไม่เยอะมากนัก ทำให้เราเลือกที่นั่งติดทะเลที่ไม่โดดแดดได้อย่างสบายๆ
การบริการ

พนักงานที่นี่บริการดีมาก พอมาถึงก็จะแจ้งเมนูแนะนำแก่พวกเรา ซึ่งงานนี้เราก็จัดหนักกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ครบชุด แต่เสียดายที่หอยแครงกับหอยแมลงภู่ยังไม่มีเนื่องจากน้ำท่วมในคราวที่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร เราสั่งหอยนางรมกันมาแก้ขัดไปก่อน
รสชาติ

อาหารที่นี่สดมากๆ เป็นหนึ่งในอีกร้านอาหารทะเลที่ขอการันตีว่าสดจริงอะไรจริง ไม่นับโปรเซสที่เข้าไปเลือกกันเป็นๆในครัว ที่ฟังดูอาจจะโหดร้ายไปหน่อย เมนูที่สั่งได้แก่ ไข่เจียวหอยนางรม ปลาหมึกนึ่งมะนาว ปลาหมึกลวก ปลากระพงทอดน้ำปลา ปลาสำลีทอด กุ้งเผา ปูเผา ซึ่งตัวใหญ่มากๆ เนื้อหอม หวาน บวกกับน้ำจิ้มรสชาติเยี่ยม ปิดท้ายด้วยหอยนางรมสดๆ ตัวใหญ่ยักษ์ อันนี้ก็เป็นอีกเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ที่ไม่ทำให้เราผิดหวังค่ะ
ราคา

400 บาท ต่อหัว

จริงๆก็ผ่านตลาดประชานิเวศน์บ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยแวะชิมกาแฟที่ร้านนี้สักครั้งเลย ครั้งนี้มีโอกาสได้แวะมาชิมกาแฟที่นี่... Boiler Coffee ค่ะ

บรรยากาศภายในร้าน
ร้านนี้ตั้งอยู่หน้า CP Freshmart ค่ะ ซึ่งมีร้านโจ๊กและร้านก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่ข้างๆ มีที่นั่งให้ด้วยถ้าจะนั่งทานสบายๆ ที่ร้านก็ทำได้ค่ะ

การบริการ
วันนี้ไม่มีคิวมากนัก เลยได้กาแฟและโกโก้เย็นในเวลาอันรวดเร็วค่ะ บริการก็ดี และราคาถูกมากอีกด้วยค่ะ แค่ 2 แก้ว 35 บาท เองค่ะ

รสชาติ
โกโก้เย็นอร่อยมากๆค่ะ ที่ร้านนี้ใช้ดรอสเต้โกโก้ชงด้วย และใช้นมข้นหวานอย่างดี หอม หวาน มัน ชื่นใจมากๆ ส่วนกาแฟที่นี่ก็อร่อยมากๆ เข้มข้น กลมกล่อม จนต้องสั่งกลับบ้านเพิ่มอีกแก้วค่ะ

ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งในโจ๊กร้านโปรดที่ราคาถูกแถมยังอร่อยถูกใจ แล้วเช้าวันนี้เราก็แวะมาทานโจ๊กแต้จิ๋ว กันอีกวันหนึ่งค่ะ

บรรยากาศภายในร้าน
ปกติเราจะซื้อกลับบ้านกัน แต่วันนี้เห็นคนที่ร้านไม่เยอะมาก เลยเข้ามานั่งทานที่ร้านซะเลย ที่ร้านมีโต๊ะประมาณ 3-4 โต๊ะ ร้านตั้งอยู่หน้า CP Freshmart พอดีค่ะ มีร้านก๋วยเตี๋ยวและร้านกาแฟเป็นทางเลือกให้เราอีกด้วย

การบริการ
เจ้าของร้านค่อนข้างบรรจงกับการทำโจ๊ก ทำให้การบริการค่อนข้างช้า ถ้าคนเยอะมากๆ เวลาสั่งกลับบ้านนี่แทบจะต้องขอบายทีเดียว แต่เจ้าของร้านใจดี เวลาขอเห็ดหอมเยอะๆนี่ได้มาเยอะจริงอะไรจริงค่ะ

รสชาติ
รสชาติไม่ต้องพูดถึง อร่อยยกนิ้วให้ค่ะ โจ๊กที่นี่ไม่ข้นจนเกินไป หมูก็นุ่มพอดีคำ แถมด้วยเครื่องเคียงอย่างเห็ดหอมและขิง ยิ่งถ้าใส่ไข่ด้วยแล้ว อร่อยถูกใจมากๆค่ะ

ร้านข้าวแกงบ้านสวน เป็นร้านที่ถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดสายอีสานทีไรก็จะต้องแวะทานข้าวหรือซื้อเค้กทุกครั้ง วันนี้ก็ได้มีโอกาสแวะมาทานข้าวที่นี่กันอีกรอบค่ะ

บรรยากาศภายในร้าน
มาถึงในช่วงเช้า คนยังไม่แน่นมาก ที่นี่บริหารจัดการดีมาก ทั้งที่จอดรถ การบริการต่างๆ แบ่งร้านต่างๆออกเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น โซนอาหารตามสั่ง กาแฟ ก๋วยเตี๋ยว ของหวานค่ะ แอบถ่ายรูปร้านเค้กมาด้วย แต่ว่าเราซื้อกันจริงๆที่อีกสาขาหนึ่งตอนขากลับค่ะ

การบริการ
ที่นี่ต้องซื้อคูปองก่อนทุกครั้งค่ะ แล้วก็เดินเลือกอาหารที่ต้องการแล้วก็สั่งได้เลยค่ะ คิวจะค่อนข้างแน่นตรงข้าวแกง แต่สักพักก็ได้สั่งอาหารทั้งหมดค่ะ ส่วนคิวที่อื่นๆไม่แน่นเท่าไหร่ ก็ยืนซื้อกาแฟและก๋วยเตี๋ยวได้อย่างสบายๆค่ะ

รสชาติ
วันนี้สั่งมาหลายอย่าง แต่ที่ได้ชิมก็มีไข่พะโล้ ที่น้ำพะโล้หวาน มัน กำลังดี ส่วนน่องไก่ทอดนี่แอบกรอบไปหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นอาหารเด็กที่มาทีไรก็สั่งทานได้ทุกครั้งค่ะ