นักรีวิวร้านอาหาร

ส้มตำเนี่ยมันเป็นของชอบของทุกคนจริงๆนะครับ ผมเองก็ชอบมากครับ ร้านนี้เราเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว และภรรยาผมก็ซื้อดีลไว้ เราจึงกลับมาทานอีกครั้ง(เพื่อใช้ดีล)

ครั้งนี้เราเลือกนั่งที่เก้าอี้อีกด้านที่ไม่ใช่เก้าอี้หวายครับ ก็นั่งสบายพอได้

น้องๆก็มีจำนวนเท่าคราวที่แล้วคือ 2-3 คน บริการก็โอเคครับ

รายการที่เรามีดีลก็เรียงเข้ามาเลย

1. เกี๊ยวไส้ลาบ ครั้งนี้ไม่ได้ทอดมาใหม่ ก็เลยอร่อยน้อยลง
2. ยำวุ้นเส้น จานจุ๋มจิ๋ม รสชาติธรรมดาๆ ไม่แซ่บโดด
3. ตำไทย รสชาติดี
4. ตำแตงไข่ต้ม รายการนี้เราสั่งเพิ่มครับ ผมว่าดีครับ เค้าปอกเปลือกแตงจนมองเหมือนมะละกอเลยครับ แฟนผมนึกว่ามะละกอ เค้าก็ยืนยันว่าแตง เราก็เลยชิมดู ปรากฎว่าแตงจริงๆ
5. ตบท้ายด้วยแกงอ่อมไก่ ผักสลดมาก เหมือนต้มมาตั้งแต่เมื่อวาน ไม่ได้อารมณ์ความสดเลย

ของแกล้มก็ข้าวเหนียวกับขนมจีน กินยังไงๆก็เข้ากันครับ

โดยรวมผมว่าครั้งที่ 2 นี้ก็มีรสชาติใกล้เคียงกับคราวที่แล้ว ไม่อร่อยจับใจ แต่ก็ไม่น่าเกลียด กลางๆละครับ

สวัสดีครับ

รีวิวนี้เป็นรีวิวล่าสุด รีวิวทันทีหลังมื้ออาหารเลยนะครับเนี่ย 555

วันนี้เป็นวันที่ผมและภรรยาไปทานอาหารที่โรงแรมเชอราตันแกรนด์สุขุมวิทกันมาครับ แล้วเราก็เพิ่งจะออกมาสดๆร้อนๆเลยเชียวแหละ

ตามที่ผมเคยเล่าไปแล้วเรื่องความชอบส่วนตัวของภรรยาผมว่าถ้าเธอชอบทานอะไร เธอจะทานแต่อย่างนั้นจนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง

วันนี้ก็เป็นรายการอย่างแบบที่ว่าครับ อาหารไทย นั่นเอง

คราวนี้เธอรีเควสให้ผมพาไปทานที่ร้าน Basil เพราะเธอติดใจในบรรยากาศของโรงแรมนี้ และอยากจะให้ผมมีทางเลือกอื่น นอกจากสุดเลิฟเบญจรงค์ของดุสิตธานีดูบ้าง

แต่ว่าเราทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยทานอาหารที่ห้องนี้นะครับ เรามักจะทานที่ห้องบุฟเฟต์

คราวนี้นับเป็นโอกาสดี ได้เปิดหูเปิดตากับสิ่งใหม่ๆครับ

หน้าร้านเป็นที่ทำอาหารโชว์ด้วย เป็น station ทำยำและส้มตำ จัดไว้สวยมากเลยครับ ผ่านเข้าไปด้านใน ก็จะมีทั้งห้องส่วนตัว และส่วนที่เป็นห้องหลัก ในสุดจะเป็นประตูผ่านเข้าไปที่ห้องน้ำ

ในร้านจะมีตู้โชว์ wine จรดเพดานเลย สวยดีครับ

ที่นั่งเป็นแบบเก้าอี้ตัวใหญ่ นั่งสบาย และแบบโซฟา เราเลือกที่มีโซฟาผสมอยู่ด้วยครับ นั่งสบายดี แสงไฟจัดไว้ซอฟมากๆ ให้กินอาหารไปคุยไป ออกแนวโรแมนติก ไม่ได้แบบว่าตั้งหน้าตั้งตากิน แต่ว่าผลข้างเคียงคือ ถ่ายรูปได้ไม่ชัด ไม่ว่ากันนะครับ

พอเราไปถึง เจ้าหน้าที่ก็จะมาเสริฟ welcome drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบ และบนโต๊ะจะ set complimentary dish เป็นเมี่ยงคำอร่อยๆไว้ด้วยครับ อันนี้ขอเติมได้นะครับ

คราวนี้ คุณภรรยาสั่งอาหารแบบลุยเดี่ยว ไม่สนใจผม (แต่ที่เธอเลือกก็อร่อยๆทุกครั้งนะครับอย่าเข้าใจผิด)

เริ่มกันด้วย อาหารว่างก่อนครับ เนื่องจากเธออยากทานหลายอย่าง สิ่งที่ตอบสนองเราได้อย่างดีก็คือแบบ set 4 ชนิด ดังนั้น คุณภรรยาเลยเลือกแบบ B ครับ แบบนี้จะมี กระทงทอง 2 ไส้ๆละ 2 ชิ้น กุ้งโสร่ง (ทอดได้กรอบมาก ไม่อมน้ำมันเลย) ปูนิ่มทอดกระเทียมกรอบ (นี่ก็กรอบเช่นกัน) ยำเนื้อย่าง (ซึ่งเราขอเปลี่ยนเป็นหมูย่าง) ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างนะครับ โดยเฉพาะยำหมูย่าง อร่อยรสจัดเกินคาด

ต่อมาเป็น main ซึ่งให้ออกพร้อมกันหมด มี แกงกะหรี่ปลาหิมะ เสิร์ฟพร้อมอาจาด รสชาติกลางๆ แต่ผมว่าแกงกะหรี่แบบนี้ เน้นที่ความละมุน ไม่จัดจ้าน ผมว่าดีทีเดียว

จากนั้น เราคนไทย ให้ยังไงๆก็ต้องมาที่น้ำพริกกันบ้างครับ น้ำพริกลงเรือของที่นี่ไม่หวานเท่าดุสิตธานี แต่ก็ถือว่าหวานอยู่นะครับ แต่เมื่อทานกับเครื่องเคียงคือผักสดและไข่เค็มแล้ว กลมกล่อมมาก ที่นี่ใช้ผักกาดแก้วให้ทานแกล้มครับ ครั้งแรกของเราเลย แต่มันก็เข้ากันนะเนี่ย

สุดท้ายคือปูนิ่มผัดซอสโหระพา ผมว่ารสชาตินี้ทานได้ทั้งครอบครัว เพราะไม่เผ็ด เด็กก็ทานได้ครับ ต่างชาติก็ทานได้

อาหารที่นี่จานหลักจะเสิร์ฟพร้อมข้าว 3 สี หอมมะลิ ใบเตย ข้าวกล้องครับ ไม่ต้องสั่งและไม่เสียเงินเพิ่ม (เพราะคิดรวมไปแล้ว )

หมด 4 รายการนี้ ผมอิ่มมากๆ จุกเลยแหละครับ เหมือนไม่เยอะ แต่เยอะ

มิน่า อร่อยถูกปากแบบนี้ผมถึงได้เห็นชาวต่างชาติมาทานกันเพียบ ทั้งแบบในห้องเป็น 10 คน และนอกห้องอีกหลายโต๊ะเลย

พนักงานบริการดีมาก ให้คำแนะนำดี สุภาพ คอยสังเกตและเปลี่ยนจานช้อนส้อมใหม่ให้ ผมว่าโดยรวมแล้วที่นี่ทำได้ดีครับ เลือกที่จะเป็นตัวเอง ไม่ได้เลือกที่จะเป็น traditional แต่เป็น contemporary แทนด้วยการจัดห้องและการแต่งกายของพนักงานด้วย

ว่ามาถึงแล้วก็ขอเล่าถึงชุดพนักงานสักหน่อยครับ พนักงานที่นี่จะใส่ชุดแบบประยุกต์มีกลิ่นอายไทยๆผสมสมัยใหม่ เสื้อสีส้มอ่อน กางเกงดำ สวยดีไปอีกแบบ

ที่นี่ผมว่า มาทานในโอกาสพิเศษกับคนที่คุณรัก ไม่ผิดหวังแน่ครับ บรรยากาศให้ รสชาติอาหารให้ ลองมาทานกันนะครับ

เกือบลืม ทั้งหมดนี้ราคาประมาณ 2600 ครับ เหมาะสมกับสถานที่ บริการ บรรยากาศ และรสชาติครับ

สวัสดีครับ สดๆร้อนๆกับการรับประทานอาหารที่ S15 ที่นี่อยู่ใน S Group ซึ่งมีโรงแรมหนึ่งในกรุ๊ปชื่อ S31 ที่เป็นเครือ SLH ซึ่งผมชอบสไตล์ของโรงแรมเครือนี้เค้าพอสมควร อาหารอร่อยทุกทีที่ไปพักกับในเครือ

ผมก็เกิดความคาดหวังกับอาหารที่นี่เพราะคิดว่าต้องมีการถ่ายทอดความรู้กันในเครือ อาหารน่าจะอร่อย พอมีโอกาสมาทานจริงๆแล้วก็ผิดหวังดังเป๊าะเลยครับ

ตัวร้านเอง เพดานต่ำ ทำให้อึดอัด การตกแต่งร้านทำด้วยสีขาว ออกสไตล์โมเดอร์น ร้านมีขนาดเล็กครับ
พนักงานน้อยมาก ผมเจอที่หน้าร้าน 1 คน มีมารับสั่ง+เสิร์ฟอีก 1 คน การบริการก็ธรรมดาๆนะครับ

อาหารที่ผมทานวันนี้ เป็น set promotion ของ deal ที่หนึ่งครับ เริ่มกันเลยดีกว่า

1. ซุปเห็ดข้น ไม่อร่อยเลย
2. ผักสลัดรวม ผักไม่สดครับ
3. พอร์คชอป เป็นพอร์คชอปชิ้นใหญ่แต่แข็งมาก มีมัสตาร์ดมาให้ชูรส แต่ว่าชูยังไงๆมันไม่อร่อยอะครับ
4. จบท้ายด้วยชอคโกแลตมูส หวานไปอะครับ
5. ล้างปากด้วยกาแฟสด ที่เป็นกาแฟร้อน ก็พอได้นะครับแก้วนี้

ทุกเมนู ผมอาจจะกินหมด (เพราะหิวและไม่ชอบทิ้งของ) แต่ว่าผมอึ้งมาก มันไม่สามารถจะฝืนพูดว่าอร่อยได้เลย ไม่น่าเชื่อว่าอาหารในโรงแรมมันจะไม่อร่อยได้ขนาดนี้ โรงแรมต้องมีมาตรฐานในการทำอาหารให้อร่อยถูกปากผู้เข้าพักได้ถึงระดับนึง แต่นี่ ผมพูดเต็มปากเลยครับว่า "มันไม่ใช่"

ไม่รู้จะสรุปยังไง แต่ว่า เป็นร้านที่ผมจะไม่ไปซ้ำแน่ๆครับ

ผมกับภรรยาชอบกินหมูแดงฮ่องกงมาก

พอได้ข่าวว่ามีร้านจากฮ่องกงมาเปิดพร้อมรสแท้ๆ เราก็อดไม่ได้ที่จะขวนขวายมาลอง ร้านนี้ตั้งอยู่ที่เควิลเลจ ชั้น 2 ครับ

เราเห็นหน้าร้านก็อดคิดไม่ได้ว่าเหมือนไปทานที่ฮ่องกงเลยแฮะ มีพนักงานกำลังทำความสะอาดอยู่หน้าร้านอย่างขะมักเขม้น

เดินเข้าไปในร้านมีเป็น 2 ระดับ มีโซฟานั่งสบายด้วยครับ พนักงานก็เข้ามาบริการ ก็แบบทั่วไปละครับ

อาหารที่เราสั่งดูจากเมนูแล้ว เหมือนตอนเรากินที่ฮ่องกงเลย ทำให้อยากลองทานมาก

1. บะหมี่น้ำ หมูแดง (170) บะหมี่เส้นเล็ก น้ำซุปรสแบบฮ่องกง แยกหมูแดงมา อูวว์ อย่างนี้เหมือนเปี๊ยบ ชิมรสชาติแล้วก็เหมือน ผมละชอบหมูแดงเค้าจริงๆ
2. ข้าวหน้าหมูสวรรค์ (200) ข้าวนุ่มแน่น ไข่ดาวไม่สุก หมูรสหวานนุ่มหนา อร่อยจริงๆนะเนี่ย จานนี้
3. ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ตับ(170) ผมว่า แป้งหนาไป อร่อยสู้อายัทอบาโลนไม่ได้ แพ้กันหลายขุม

ผมว่ารสชาติอาหารอร่อยเหมือนอยู่ฮ่องกง บริการและสถานที่ก็โอเค ใจกลางเมืองขนาดนี้ก็สมราคาครับ ผมคนนึงละที่ถ้าอยากกินหมูแดงก็จะนึกถึงที่นี่เป็นที่แรก

ไว้ไปลองกันนะครับ

ร้านนี้ภรรยาผมไปทานกับเพื่อนที่ทำงานบ่อยๆครับ แต่ผมเพิ่งจะไปทานกับเธอครั้งแรก

ตัวร้านตกแต่งง่ายๆ ดูสะอาดสอ้าน แบบภัตตาคารจีน

พนักงานมาบริการจะพูดไทยสำเนียงจีน แล้วเค้าก็คุยกันเองเป็นภาษาจีน บางทีก็ไม่แน่ใจว่าเค้าฟังเราเข้าใจหรือเปล่า เช็คบิลมาก็เป็นภาษาจีนครับ อ่านไม่ออกอ่ะ นับรายการเอา555

อาหารจานแรกเป็นก๋วยเตี๋ยว เส้นที่ร้านทำเอง นุ่มดีครับ ต้องปรุงด้วยพริกเผานะครับ จะเข้มขึ้น
ผัดผักโต้วเหมี่ยวกับน้ำมัน ผักสดนะครับ แต่ผมว่าผัดเฉยๆกับน้ำมัน จืดไปสำหรับผม
เต้าหู้มาผ่อ เนื้อเต้าหู้นิ่ม รสจัดอร่อยดีครับ
เด็ดสุดมาปิดท้ายคือ เสี่ยวหลงเปาครับ แป้งบางอร่อย รองด้วยกะหล่ำปลี กัดมางี้น้ำซุปหวานอร่อยทะลักออกมาเต็มรส

ทุกๆจาน ผมว่าแสดงความเป็นอาหารจีนแบบไต้หวันชัดเจนนะครับ อร่อยแบบจีนๆ คนมาทานเยอะมากกกก

เนื่องจากร้านนี้ มีน้ำเต้าหู้อยู่ในชื่อร้าน เราก็เชื่อได้ว่า น้ำเต้าหู้อร่อยแน่ ผมสั่งแบบเย็นมาดื่ม อร่อยจริงๆครับ

โดยรวม อาหารราคาโอเค สถานที่ใจกลางเมืองใกล้ที่ทำงาน บริการเฉยๆ ถ้าเน้นความอร่อย มาก็ไม่ผิดหวังครับ