นักรีวิวร้านอาหาร

ที่ตั้ง รีวิวนี้เป็นมื้อค่ำของวันที่มาเที่ยวหาดใหญ่วันแรกค่ะ พวกเรามาทานที่ ร้านพี่เล็ก 59 กันค่ะ มีสมาชิกที่มาทานมี 4 คน คือ งา แม่ พี่สาว และพี่เขยค่ะ ร้านพี่เล็ก 59 ตั้งอยู่บนถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ถ้ามาจากตลาดกิมหยงร้านจะอยู่ซ้ายมือ ที่แยกไฟแดงตรงข้ามโรงแรมซากุระค่ะ หน้าร้านจะมีชื่อร้านตัวใหญ่ๆเด่นตระหง่านเลยค่ะ รูปแรกสุดเป็นรูปหน้าร้าน ถ่ายตอนทานเสร็จออกจากร้านแล้วนะคะ บรรยากาศ ร้านพี่เล็ก 59 เป็นร้านอาหารไทย-จีน ร้านเป็นสีขาวๆ หลังคาร้านเป็นโครงเหล็กโค้งๆสูงๆซ้อนกัน 2 ชั้น หลังคาสูงๆทำให้ร้านอากาศถ่ายเทและโปร่งดีค่ะ ส่วนครัวเป็นแนวยาว ขนานไปกับโต๊ะลูกค้า ลูกค้าสามารถมองเห็นเวลาพ่อครัวทำอาหาร ภายในร้านเป็นโทนสีขาว เก้าอี้ผ้้าปูโต๊ะก็เป็นสีขาว โต๊ะนั่งมีทั้งแบบโต๊ะจีนกลมๆ และโต๊ะเหลี่ยม โต๊ะที่พวกเรานั่งวันนี้อยูริมราวเหล็กติดกับฟุตบาตร ลมเย็นสบายดีค่ะ

อุปกรณ์การทาน เป็นจานพลาสติกใบใหญ่ดีค่ะ ส่วนช้อนเค้ามีน้ำร้อนใส่แก้วมาให้ลวกช้อนด้วยค่ะ เครื่องดื่ม สามสาวทานเป๊ปซี่กันค่ะ ส่วนหนุ่มหล่อสั่งเบียร์ลีโอค่ะ เบียร์เป็นเนื้อวุ้นรินมาในแก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ที่ก้นแก้ว สำหรับราคาเบียร์ลีโอขวดละ 100 บาทค่ะ ส่วนเป๊ปซี่จำราคามิได้ค่ะโป๊ะแตก เมนูแรกเป็นโป๊ะแตกค่ะ เป็นแบบน้ำใส รสชาติจัดจ้านดีค่ะ เปรี้ยวปี๊ดเผ็ดดี โป๊ะแตกมีกุ้ง ปลาหมึก ปลากระพง ปู เนื้อสดและปริมาณเยอะดีค่ะ ราคาไม่เกิน 150 บาทค่ะทะเลผัดผงกะหรี่ เป็นกุ้ง ปลาหมึก ปลา ลูกชิ้นปลา เนื้อปู ผัดมากับไข่ ต้นหอมและเครื่องผงกะหรี่ รสชาติเข้มข้นมาก เค็มๆหวานๆ เมนูนี้จานใหญ่และปริมาณก็เยอะด้วยค่ะ ราคาประมาณ 100-150 บาทค่ะกุ้งอบวุ้นเส้น เป้นกุ้งลายเสือตัวใหญ่ๆ ราคาเค้าคิดเป้นน้ำหนักค่ะ มา 4 คน สั่งมา 4 ตัว กุ้งเนื้อสดมาก เค้าผ่ากลางหลังมาแล้วทำทานสะดวกดีค่ะ ส่วนวุ้นเส้นเป็นเส้นอ้วนๆไม่เหมือนกับวุ้นเส้นที่เราเห็นโดยทั่วๆไปเลยค่ะเหนียวนุ่มดี รสชาติของกุ้งอบวุ้นเส้นรวมๆแล้ว เค็มๆหวานๆ หอมซีอิ้วดำดีค่ะ ราคาประมาณ 450-500 บาทปลาสำลี ชื่อเต็มๆจำไม่ได้อ่ะค่ะ ปลาสำลีเค้าคิดตามน้ำหนักเหมือนกันนะคะ เสริฟมาตัวใหญ่มาก เป็นปลาทอดกรอบด้านบนราดด้วยน้ำยำหวานๆไม่เผ็ดมาก เสริมความเปรี้ยวด้วยมะม่วงเบาหั่นฝอย มะม่วงเบาเป็นมะม่วงพื้นเมืองของภาคใต้ค่ะ เป็นมะม่วงลูกเล็กๆ เอามาแช่อิ่มและทานกับน้ำปลาหวานอร่อยมากค่ะ ราคาของปลาสำลีจานนี้ 550 บาทค่ะสระลอยแก้ว น้ำเชื่อมเป็นน้ำแข็งเนื้อละเอียด หน้าตาคล้ายๆกับสระลอยแก้วร้านตาชั่งอีสานใต้สาขาสนามบินเลยค่ะ รสชาติก็คล้ายกัน คงจะรับมาจากร้านเดียวกันมั้งคะ รสชาติน้ำเชื่่อมที่เป็นน้ำแข็งหวานๆเปรี้ยวๆคล้ายน้ำบ๊วย ส่วนสระก็คว้านเมล็ดแล้ว รสชาติหวานเปรี้ยวไม่มากค่ะ สระลอยแก้วงาว่าร้านตาชั่งอีสานใต้ได้เนื้อเยอะกว่า แถมราคาถูกกว่าด้วยค่ะ ร้านพี่เล็กราคา 40 บาท ส่วนร้านตาชั่ง 30 บาทค่ะ

ค่าใช้จ่าย ลืมบอกไปว่า ข้าวเปล่าของที่นี่เค้าคิดเป็นคนนะคะ คนละ 20 บาท จะเติมหลายจานเค้าก็คิดแค่ 20 บาทไม่คิดเงินเพิ่มค่ะ ส่วนราคาอาหารและเครื่องดื่มมื้อนี้รวม 1500 บาทค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ อร่อยมากค่ะ ของทะเลสดมากๆ
บรรยากาศ ร้านโปร่งๆนั่งสบายดีค่ะ
บริการ ดีค่ะ อาหารได้เร็ว และแนะนำอาหารได้ดีค่ะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา มีทั้งถูกและแพงแล้วแต่ประเภทอาหารค่ะ ถ้าอาหารประเภทคิดตามน้ำหนักจะราคาสูงกว่าอาหารประเภทอื่นหน่อยค่ะ

วันนี้งากับแม่มาเที่ยวหาดใหญ่กันค่ะ จาก กทม. มาหาดใหญ่นั่งเครื่องบินมาใช้เวลา 1.30 ชม. มาถึงสนามบินหาดใหญ่ก็เที่ยงพอดีหิวมากเลยค่ะ วันนี้พ่อมารับเลยแวะทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารที่ใกล้สนามบินที่สุดคือร้านตาชั่งอีสานใต้ค่ะ ขับรถออกมาจากสนามบินไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงร้านแล้วค่ะ ร้านอยู่ซ้ายมือ ร้านตาฃั่งอีสานใต้ถ้างามาหาดใหญ่ก็จะต้องมาทานทุกครั้ง เพราะใกล้สนามบินที่สุดและอาหารก็อร่อยด้วยค่ะรูปที่1 เป็นรูปทางเข้าร้าน งาถ่ายจากในร้านค่ะ บรรยากาศรอบๆร้านมีต้นไม้เขียวๆร่มรื่นดีค่ะ

รูปที่2 ภายในอาณาเขตร้านจะมีที่จอดรถกว้างขวางมากค่ะ

รูปที่3 ร้านตาชั่งอีสานใต้นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้ว ยังมีห้องพักไว้คอยบริการ และรถรับส่งถึงสนามบินด้วยค่ะ รูปที่ 4 , 5 , 6 เป็นรูปบรรยากาศภายในร้านค่ะ บริเวณที่นั่งสำหรับลูกค่้ามีหลายซุ้มเลยค่ะ แต่ละซุ้มเน้นความเป็นธรรมชาติสบายๆ วันนี้งานั่งในซุ้มที่ใหญ่ที่สุดในร้าน หลังคาจะสูงๆเพื่อการถ่ายเทอากาศทำให้ภายในร้านไม่ร้อนเลยค่ะ แม้ภายนอกจะแดดร้อนเปรี้ยง แนวร้านรวมๆจะเป็นไสตล์ไทยๆแบบประยุกต์ค่ะรูปที่ 7 ยูนิฟอร์มของพนักงานเป็นเสื้อยืดสีชมพูโอโรส ค่ะ

รูปที่ 8 รายการการอาหารของร้านมีให้เลือกเยอะเหมือนกันค่ะ ราคากับข้าวหลักๆก็ 50 บาทชึ้นไปค่ะรูปที่ 9 ภาษาใต้เรียกว่าผักเหนาะ คือผักเคียงนั่นเอง ส่วนใหญ่คนใต้เวลาทานอาหารจะมีผักเหนาะไว้บนโต๊ะอาหารเสมอจะเป็นผักอะไรก็ได้ค่ะ ทานได้ทั้งกับอาหารเผ็ดและไม่เผ็ดนะคะ

รูปที่ 10 เครื่องดื่มวันนี้สั่งน้ำเปล่าค่ะ ที่รองแก้วเก๋มั้ยคะ เหมือนเค้าเอาพรมมาตัดเป็นที่รองแก้ว ซับน้ำได้ดีมากค่ะรูปที่ 11 มาถึงเมนูแรกกันเลยนะคะ เมนูนี้มาทุกทีก็จะสั่งทุกที คือแกงส้มปลากดค่ะ เป็นส่วนของหัวปลาเอามาแกงส้มกับยอดมะพร้าว งาทานไม่เป็นทานแต่น้ำแกง แต่พ่อกับแม่งาชอบทานมาก บอกว่าส่วนของหัวปลาจะมันๆอร่อยดี ส่วนรสชาติน้ำแกงยังอร่อยเหมือนเดิมค่ะ คือเปรี้ยวและเผ็ดน้ำ หอมกลิ่นมะนาว ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆอร่อยมากๆค่ะ

รูปที่ 12 เป็นปลาทรายทอดขมิ้น เป็นอีกเมนูที่มาแล้วชอบสั่งค่ะ เพราะปลาทอดจะทานเข้ากันมากกับแกงส้ม ปลาทรายทอดขมิ้นตัวจะไม่เล็กไม่ใหญ่ หมักมากับขมิ้น กระเทียม เกลือ พริกไทย แล้วเอามาทอด ที่นี่ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน เครื่องที่หมักมาเค็มๆอร่อยกำลังดี มีความหอมของกระเทียมพริกไทย อร่อยดีค่ะรูปที่ 13 เป็นผัดเผ็ดกุ้ง ดูในจานเหมือนน้อย แต่จริงๆไม่น้อยเลยนะคะ ทานแล้วได้เนื้อได้หนัง ที่นี่เค้าทำแบบใส่เครื่องสมุนไพรต่างๆแบบพอดี ไม่ใส่มาเยอะเพื่อให้ดูว่าจานใหญ่ เวลาทานไม่ต้องเขี่ยเครื่องสมุนไพรควานหากุ้งเลยค่ะ ส่วนรสชาติเผ็ดมากๆตามแบบฉบับของอาหารใต้ รสชาติของเครื่องแกงเข้มข้นและหอมใบราหรือภาษากลางคือใบยี่หร่ามากค่ะ

รูปที่ 14 คือสะตอกุ้งผัดกะปิ ปกติงาจะทานผัดสะตอแบบผัดเปรี้ยวหวาน วันนี้ลองทานแบบผัดกะปิดูบ้าง รสชาติก็อร่อยดีนะคะ เปรี้ยวๆ เค็มๆ กะปิก็หอม สะตอก็อ่อนไม่ฉุนมาก กุ้งก็สดดี จานนี้อร่อยลงตัวดีค่ะรูปที่ 15 , 16 x] คือปลาหมึกไข่ทอดกระเทียมค่ะ เป็นปลาหมีกไข่ และกระเทียมชิ้นใหญ่ๆมาชุบแป้งและงาแล้วทอด รสชาติเฉพาะตัวแป้งจะกรอบเค็มนิดอร่อยดีค่ะ ปลาหมึกข้างในเนื้อไม่เหนียวมาก เมนูนี้ทานคู่กับซอสมะเขือเทศค่ะ ราคา 90 บาทค่ะ

รูปที่ 17 ข้าวเปล่า สั่งมาเป็นโถค่ะ ในรุปคือตอนตักใส่จานแล้ว ข้าวสวยของที่นี้หุงออกมาเป็นเม็ดๆนุ่มอร่อยกำลังดีค่ะรูปที่ 18 ตบท้ายด้วยของหวาน เป็นสระลอยแก้วค่ะ น้ำเชื่อมมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งแบบละเอียด รสชาติหวานๆเปรี้ยวนิดๆคล้ายๆน้ำบ๊วยเลยค่ะ ส่วนสระคว้านเมล็ดมาแล้ว รสชาติของเนื้อสละหวานๆไม่เปรี้ยวมาก ราคาถ้วยละ 30 บาทค่ะ

ค่าเสียหาย ราคาอาหารแต่ละอย่างงาจำไม่ค่อยได้อ่ะค่ะ จำได้บางรายการเท่านั้น สรุปแล้วมื้อนี้ราคารวมทั้งหมดประมาณ 720 บาทค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ ปริมาณ คุณภาพ ดีเลิศค่ะ
บรรยากาศ อยู่ในเกณดีค่ะ ปลอดโปร่งเป็นธรรมชาติสบายๆ
การบริการ ก็ดีค่ะ อาหารก้ได้ไวดี
ความสะอาด ได้มาตรฐานดีค่ะ
ราคา ปานกลางค่ะ ไม่แพงไม่ถูก

ที่ตั้ง วันนี้กับแม่ซื้อดีลมาทานอาหารที่ร้าน Scoozi Pizzeria สาขา Seacon Square กันค่ะ ห้างซีคอนแสควอยู่บนถนนศรีนครินทร์ อยู่ไกล้กับพาราไดซ์พาร์คค่ะ ห้้างซีคอนแสควจัดได้ว่าเป็นห้างที่มีความยาวและพื้นที่เยอะมากเลยค่ะ มาทานอาหารถ้าไม่รู้พิกัดร้านสำหรับงาจะหายากนิดนึง แต่วันนี้งาเตรียมตัวมาดีเลยหาร้านได้ไม่ยากค่ะ อิอิ ร้าน Scoozi Pizzeria จะอยู่ที่ชั้น G ฝั่งโลตัส งาเข้ามาทางประตูที่มีซุ้มทางเข้าโค้งๆใหญ่ที่อยู่ทางด้านหน้าห้าง พอเข้ามาข้างในเดินไปทางขวามือเรื่อยๆก็จะเจอร้าน Scoozi Pizzeria อยู่สุดทางเลยค่ะ ร้านค้าใกล้ๆ มีร้านเทวิน แอนตี้แอ้น ศูนย์โนเกีย ซัมซุงค่ะบรรยากาศภายนอก ทางเข้าร้านเป็นไม้สีเข้มมีป้ายชื่อร้านตัวอักษรแวววาว พื้นที่ร้านเป็นวงเวียนกลมๆ โดยมีทางเดินของห้างอยู่รอบๆร้านโดยร้านจะอยู่ตรงกลาง ทำให้สามารถมองเห็นร้านได้ทุกมุมเลยค่ะ วันนี้งาได้ถ่ายรูปเมื่อเวลามองร้านจากมุมต่างๆค่ะ รูปที่ 1 หน้าร้านและทางเข้าร้าน มีอยู่ทางเดียวค่ะ รูปที่ 2 ด้านข้างร้าน ถ่ายจากทางเดินออกมาจากโลตัสค่ะ รูปที่ 3 มองจากหลังร้านค่ะ จะทึบๆหน่อย เพราะข้างในจะเป็นส่วนห้องเครื่องบรรยากาศภายใน
ร้าน Scoozi Pizzeria สกูซี่ พิซเซอเรีย เป็นร้านอาหารอิตตาเลี่ยน บรรยากาศร้านเป็นแบบฝรั่งๆ ร้านเป็นแบบกึ่งเปิดโล่ง หลังคาร้านส่วนใหญ่เป็นแบบโอเพ่น มองทะลุขึ้นไปจะเป็นหลังคาโดมของห้าง ทำให้ร้านเวลากลางวันจะดูสว่างปลอดโปร่งดีค่ะ มีหลังคาบางส่วนเป็นหลังคาผ้าใบเพื่อบังสายตาคนมองจากทางข้างบนค่ะ ร้านเป็นโทนไม้สีเข้มๆ จุดเด่นของร้านจะโชว์เตาอบฟืนและส่วนทำพิซซ่า ลูกค้าสามรถมองเห็นกรรมวิธีการทำได้ เพราะส่วนที่โชว์เป็นผนังกระจกใส บริเวณโต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้าความห่างระหว่างโต๊ะและเก้าอี้จะแคบไปซักนิดแต่ก็นั่งสบายดีค่ะอุปกรณ์ อุปกรณ์ส่วนตัวจะมีจานแบ่ง ซ่อมและมีดวางอยู่บนที่รองจานหนังสีน้ำตาลค่ะ บนโต๊ะจะมีเครื่องปรุงต่างๆเช่น พริกไทยมีทั้งแบบบดเองและที่เค้าบดมาเป็นผงให้แล้ว เกลือ พริกป่น ใบออริกาโน่ ส่วนซอสมะเขือเทศจะไม่มีวางบนโต๊ะ เค้าจะเสริฟมาในถ้วยน้ำจิ้มเล็กๆค่ะ

ค่าใช้จ่าย สำหรับดีลทานอาหารที่ซื้อมา ราคา 369 บาทสำหรับ 2 ท่าน ราคาเต็มอยูที่ 844 บาท อาหารในดีลมี ซุป 2 ที่ , จานหลัก 1 ที่ , พิซซ่า 1 ที่ค่ะ และเครื่องดื่ม อาหารมีให้เลือก 1 ใน 2 เซต งาเลือกเซตฮาวายเอี้ยน ประกอบไปด้วย พิซซ่าฮาวานเอี้ยน พาสต้าหอยลาย และซุปลอฟเตอร์ เครื่องดื่ม มีให้เลือกระหว่างเป๊บซี่หรือเลม่อนโซดา ตามรายละเอียดข้างล่างเลยค่ะเครื่องดื่ม เป็นเลมอนโซดา เสริฟมาแก้วใหญ่ตกแต่งได้น่าทานมากค่ะ รสชาติเปรี้ยวๆซ่าๆ ไม่หวาน หอมกลิ่นเลม่อนมากค่ะ ทานจิบไปได้เรื่อยๆ ลดความเลี่ยนของอาหารได้ดีมากค่ะVongole Pasta หรือพาสต้าหอยลาย มาเสริฟเป็นเมนูแรกค่ะ เป็นเส้นพาสต้าผัดมากับน้ำน้ำมันมะกอก กระเทียม พริกแห้ง หอยลายไม่มีเปลือก ด้านบนโรยด้วยชีส รสชาติรวมๆแล้วอร่อยมากเลยค่ะ เค็มกำลังดีและมีความเผ็ดร้อนที่ได้มาจากพริกไทยกับพริกแห้ง มีความหอมของใบโหระพาด้วยค่ะHawaiian Pizza ฮาวายเอี้ยนพิซซ่า ขนาด 13" แป้งบาง ตรงกลางนุ่มขอบกรอบ ด้านบนเป็นหน้าแฮม ซอสมะเขือเทศ มอสซาเรลลาชีส และสับปะรด รสชาติพิซซ่ามีความกลมกล่อมดีค่ะ มีความเปรี้ยวๆหวานๆจากสับปะรด และซอสมะเขือเทศ ความเค็ม มันๆ หอมๆ ยืดๆ จากชีส ไม่ต้องปรุงเพิ่มก็อร่อยแล้วค่ะLobster Soup ซุปล็อบสเตอร์ เมนูนี้รอนานมากๆ ตอนสั่งอาหารพนักงานบอกว่าเมนูนี้ต้องรอหน่อยเพราะ คนส่งกุ้งยังไม่มา สุดท้ายก็รอนานจริงๆอ่ค่ะ ทาน 2 เมนูแรกหมดไปแล้ว ต้องรอซุป 2 ถ้วยนี้อีกประมาณ 20 นาที สำหรับซุปเสริฟมากำลังอุ่นๆสีส้มน่าทานมากค่ะ รสชาติมีกลิ่นและรสชาติของกุ้งเข้มข้นมากค่ะ ในซุปมีเนื้อกุ้งชิ้นเล็กๆมาด้วย เนื้อกุ้งสดกรอบดึ๋งๆดีค่ะ สำหรับซุปงาว่าเค็มไปซักนิดค่ะ ทานคู่กับขนมปังปิ้งที่ให้มาด้วยช่วยกลบความเค็มได้นิดนึงค่ะ

สรุปนะค่ะ
รสชาติ รวมๆแล้วอร่อยดีค่ะ คุณภาพ ปริมาณ กำลังดี
บรรยากาศ เป็นร้านไสตล์อิตตาเลี่ยน บรรยากาศปลอดโปร่งนั่งสบายดีค่ะ
บริการ อยู่ในเกณดีค่ะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา งาซื้อดีลมาทานอาหารราคาคุ้มดีค่ะ แต่ราคาปกติอาจจะสูงอยู่ค่ะ งาดูจากราคาขนมหวานในเมนูบนโต๊ะอะค่ะ 100 บาทขึ้นไป

***** ถ้ามีโอกาสจะกลับมาทานอีกแน่นอนค่ะ *****

ที่ตั้ง สวัสดีค่ะ... วันนี้งากับแม่จะพาไปทานอาหารอิตาเลี่ยน ที่ร้าน Olivié Café โอลิวิเย่ คาเฟ่ต์ ที่ Paradise Park ชั้น 3 กันค่ะ ที่งาได้มีโอกาสมาทานเพราะได้ซื้อดีลทานอาหารมาน่ะค่ะ สำหรับร้านโอลิวิเย่ หาไม่ยากเลยค่ะ ขึ้นมาชั้น 3 มองหาร้านซิสเลอร์ ร้านโอลิวิเย่จะอยู่บริเวณโซนร้านอาหารคอร์ทกลาง ตรงข้ามร้านซิสเลอร์ จากร้านซิสเลอร์จะเจอร้าน ชาบูไต้หวันอิวาไอเมะก่อน ถัดไปก็เป็นร้านโอลิวิเย่เลยค่ะ มองจากภายนอก ร้านจะเป็นเป็นสีฟ้าๆขาวๆ ร้านออกแนวฝรั่งๆค่ะบรรยากาศ เข้ามาภายใน แจ้งพนักงานว่ามา 2 ที่ พนักงานก็พามานั่งที่โต๊ะเก้าอี้โซฟาสำหรับ 2 ท่านค่ะ ภายในร้านตกแต่งได้สวยงามดีค่ะ ผนังร้านเป็นผนังเตี้ย ทำให้ร้านมีบรรยากาศโปร่งสบาย โต๊ะเก้าอี้โซนด้านหน้า จะเป็นเก้าอี้โซฟาสีฟ้าขาวออกทะเลๆสบายๆ บางโต๊ะเพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยเก้าอี้นั่งเป็นเก้าอี้ชิงช้าหวายสีขาว ด้านในร้าน เป็นโต๊ะเก้าอี้โทนสีไม้ สีครีม ที่ผนังมีการเพ้นต์รูปทุ่งข้าวสาลีด้วยค่ะ โต๊ะนั่งของงาเป็นเก้าอี้โซฟาสีฟ้าบริเวณด้านข้างเคาน์เตอร์ นั่งแล้วนุ่มสบายดีค่ะอุปกรณ์ บนโต๊ะจะมีอุปกรณ์การทานส่วนตัวให้ค่ะ มีจานแบ่ง ช้อนสำหรับทานซุป ช้อนซ่อม และมีดค่ะ เครื่องปรุงมีซอสมะเขือเทศ เกลือ พริกไทย และไบออริกาโน่แห้งป่น ให้ค่ะ

เครื่องดื่ม เครื่องดื่มในดีลมีแต่ชากาแฟให้ งาเลยสั่งน้ำเปล่าเพิ่ม น้ำเปล่า 1 ขวด ไม่มีน้ำแข็ง รินได้ 2 แก้วพอดี ราคา 18 บาท +เซอร์วิสชาจ 10 % +แวท 7% รวมแล้วน้ำเปล่าราคา 22 บาทค่ะ

รายละเอียดดีล สำหรับรายการอาหารในดีล 1 ใบจะเป็นเซ็ทเมนูอาหาร 5 รายการ สำหรับ 1 ท่านค่ะ งามา 2 คนแม่ใช้ 2 ใบ ใบละ 199 บาทค่ะ เซ็ทเมนู 5 รายการประกอบด้วย ซุป สลัด อาหารจานหลัก(ให้เลือก) ของหวาน(ให้เลือก) ตบท้ายด้วยชาหรือกาแฟค่ะซุป รายการแรกเป็นซุปค่ะ ทางร้านจัดมาให้เป็นซุปฟักทองคนละ 1ที่ค่ะ ซุปฟักทองสีเหลืองน่าทาน เค็มนิดๆกลมกล่อมหอมฟักทอง ทานอุ่นๆอร่อยดีแท้

สลัดรายการที่ 2 เป็นสลัด ทางร้านจัดทาวซั่น ซีซ่าสลัดมาให้ คนละ 1 ที่ค่ะ เป็นผักกาดแก้วกรอบๆ แซมด้วยแครอทและหอมหัวใหญ่ ราดน้ำสลัดสีส้มรสเปรี้ยว อร่อยดี ปริมาณสลัดที่ให้กำลังดีเลยค่ะอาหารจานหลัก ทางร้านมีให้เลือกคนละที่ค่ะ มี Pastaแบบต่างๆ ,Pizza 11" หน้าต่างๆ และ แซนด์วิชอบร้อนสไตล์อิตาเลียนแบบต่างๆค่ะ อาหารจานหลักที่แม่งาเลือกคือ พาสต้ากุ้งรสจัดโรยผักร็อคเก็ต ส่วนงาเลือก Sausage with Mushroom & Black Olive ค่ะ

Spicy prawns with rocket salad หรือ พาสต้ากุ้งรสจัดโรยผักร็อคเก็ต นั่นเอง ด้านบนเป็นผักร็อคเกตสดๆโปะอยู่บนเส้นสปาร์เกตตี้เส้นที่เหนียวสุกกำลังดี ผัดมากับใบออริกาโน่กลิ่นหอม มีรสเผ็ดๆจากพริกทอด มีกุ้งขนาดกลางเนื้อกรุบๆ รสชาติรวมๆเผ็ดและเค็มอร่อยดีค่ะ โดยเฉพาะก้นๆจาน เส้นสปาเกตตี้จะชุ่มๆเครื่องปรุงรสชาติเข้มข้นมากค่ะSausage with Mushroom & Black Olive เป็นพิซซ่า ซอสเชจคราคร่ำไปด้วยเห็ดฟางและมะกอกดำ ขนาด 11" ค่ะ แฟ้งพิซซ่าบางๆ ตรงขอบจะกรอบๆ พิซซ่าชุ่มฉ่ำไปด้วยชีส มาเสริฟกำลังร้อนชีสกำลังยืดๆ รสชาติเค็มๆมันๆจากชีส และเปรี้ยวนิดๆจากมะกอกดำอร่อยมากค่ะ ของหวาน รายการที่ 4 เป็นของหวานเลือกได้คนละที่ จาก Crème Brulee, Panna cotta, Tiramisu, Mini crepe suzette with ice cream ซึ่งงาไม่รู้จักซักอย่างค่ะ ที่เลือกไปเป็น Mini crepe suzette with ice cream เพราะเห็นเป็นเครปกับไอสครีมพอเดาหน้าตาอาหารออกได้ ส่วนอีก 1 เมนูเลือกมั่วๆไปคือ Crème Brulee ค่ะ

Crème Brulee ด้านบนเป็นน้ำตาลกรอบบางๆเคลือบอยู่ ด้านล่างคล้ายเนื้อพุดดิ้งนุ่มๆ รสชาติหวานเจี้ยบมันๆอร่อยมาก งาว่ารสชาติคล้ายๆสังขยาเลยค่ะ

Mini crepe suzette with ice cream เป็นแป้งเครปนุ่มๆราดมาด้วยซอสส้มรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆอุ่นๆ ทานคู่กับไอกรีมเย็นๆรสนมที่หวานมัน อร่อยมากค่ะชากาแฟตบท้ายด้วยชากาแฟค่ะ เสริฟมาพร้อมกับนมและน้ำตาลสำหรับเพิ่มรสชาติ น้ำชาร้อนของแม่งาหอมดีค่ะ ส่วนกาแฟร้อนของงาขมปี๋เลยค่ะ ปกติเวลางาทานกาแฟจะชอบแบบกาแฟดำเพียวๆซึ่งจะขมๆไม่หวาน แต่ของที่นี่ขมปี๋และมีกลิ่นของกาแฟงาไม่ค่อยคุ้นเลยค่ะ สงสัยจะเป็นกาแฟอย่างดี รสชาติเลยไม่เหมือนกาแฟที่ได้ทานทั่วๆไปมั้งคะ

สรุปนะคะ
รสชาติ ดีเยี่ยมค่ะ วัตถุดิบก้ดี ปริมาณกำลังดีค่ะ
บรรยากาศ ตกแต่งได้สวยงามดีค่ะ นั่งทานแล้วรู้สึกสบายๆดีค่ะ
บริการ เยี่ยม กดไลค์ให้ค่ะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะพนักงานหมั่นมาเคลียจานบ่อยๆค่ะ
ราคา เนื่องจากงาซื้อดีลมาทานอาหาร ตกคนละ 200 บาท งาว่าคุ้มดีค่ะ แต่เห็นบนโต๊ะมีเมนูแนะนำเป็นเสต็คราคา 189 บาท งาว่าไม่แพงนะคะ อาหารรายการอื่นคงไม่แพงเหมือนกันมั้งค่ะเดาเอานะคะ ที่ร้านมี+แวท 7% +10%ค่าบริการด้วยค่ะ

ที่ตั้ง งากับแม่มาทานร้าน Orchard สาขาพาราไดซ์ปาร์ค นับว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วนะคะที่ได้มาทานสาขานี้ ร้านชั้น 3 อยู่ไกล้กับบันไดเลื่อนตัวที่อยู่หน้าร้านซิสเลอร์ชั้น 3 ร้านจะอยู่คอร์ดกลางตรงข้ามซิสเลอร์เลยค่ะ ร้านไกล้ๆกันมีร้าน ชาบูไต้หวันอิวาไอเมะ และร้านอาหารอิตตาเลี่ยโอลิเวียร์ค่ะบรรยากาศร้าน ออกแนวมืดๆ ดำๆของ สีไม้โอ๊ค ร้านจะออกแนวพื้นเมืองแต่หรูหราค่ะ มุมด้านข้างตรงห้องปรุงอาหารที่งานั่ง มีการประดับรูปภาพการใช้ชีวิตของชาวสิงคโปร์สมัยก่อนด้วยค่ะ ตรงส่วนห้องเครื่องมีหลังคาแหลมดู รวมๆแล้ว เหมือนเรือเหมือนกันนะคะ ร้านนี้ที่งาชอบมากอย่างหนึ่งคือ โต๊ะนั่งเค้าจะจัดเป็นโต๊ะละ 4 ที่ทั้งหมด ถ้านั่ง 2 คน โต๊ะจะกว้างขวางนั่งสบายดี วางอาหารหลายอย่างไม่ล้นโต๊ะค่ะเครื่องดื่ม วันนี้สังน้ำเก๊กฮวยกันค่ะ รสชาติหวานหอมอร่อยดี แก้วใหญ่น้ำแข็งเยอะ ดูดแป๊บเดียวหมดไวมาก ราคาแก้วละ 30 บาท ค่ะ งาว่าแพงนะข้าวมันไก่สิงคโปร์ มาทานร้านออร์ชาร์ตแล้วไม่ทานข้าวมันไก่ก็กระไรอยู่ สั่งมา 1 เซตค่ะ ส่วนเนื้อไก่เราสามารถสั่งกับพนักงานได้ว่าจะเอาเนื้อไก่ตรงส่วนไหน เช่นแม่งาไม่ชอบตรงอกไก่ ก็สั่งเป็นสะโพกไก่แทน ไม่เอาหนังก็สั่งเค้าได้ค่ะ ข้าวมันร่วนและมันกำลังดี ไก่นุ่มหอมและเค็มซีอิ้วขาวนิดๆรสชาติไม่เข้มข้นอร่อยแบบจืดๆ น้ำซุปรสชาติเหมือนน้ำซุปคะนอร์ก้อน ไม่เหมือนที่เคยมาทานก่อนหน้านี้ที่เป็นน้ำซุปฟักรสชาติจะมีหวานตามธรรมชาติจากฟัก น้ำซุปทั้ง 2 ครั้งรวมๆแล้วอร่อยคนละแบบค่ะ น้ำจิ้มมี 4 ชนิด คือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ซีอิ้วหวาน พริกน้ำส้ม และน้ำจิ้มขิงค่ะ ราคาเซตนี้ 125 บาท ค่ะเซตบัคกุเต๋ สั่งเป็นเซ็ตมาค่ะ ในเซตมีบัคกุเต๋ ผัดผักกาดเขียว และข้าวเปล่า ราคาเซตละ 125 บาท ผักผักกาดเขียวผัดน้ำมันมาจืดๆ ราดด้วยน้ำมันกระเทียมเจียวหอมๆค่ะบุัคกุตเต๋ เป็นโครงหมูตุ๋นมากับเครื่องยาจีน รสชาติเข้มข้นมาก คือเค็มกลมกล่อมและหอมยาจีนมากๆ เป็นเมนูที่รสชาติเข้มข้นที่สุดที่เท่าเคยทานอาหารร้านนี้มาค่ะ เพราะอาหารของร้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรสชาติอ่อนๆจืดๆค่ะ โครงหมูเปื่อยดี นอกจากนั้นก็มีเห็ดหอม และเห็ดเข็มทองด้วยค่ะ สำหรับข้าวเปล่าในเซตเป็นข้าวมันไม่ใช่ข้าวสวยค่ะ หมูย่าง ตอนแรกสั่งเป็ดย่างไปแต่หมด เลยเปลี่ยนเป็นหมูย่างแทนค่ะ เป็นหมูชิ้นบางๆ ติดมันนิดหน่อย เนื้อหมูรสชาติหวานๆ ราดด้วยน้ำรสชาติเค็มๆ ทานรวมกันแล้วอร่อยดีค่ะ มีน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วเปรี้ยวๆมาให้จิ้มด้วย ราคา 145 บาทค่ะสลัดออร์ชาร์ต ชามใหญ่มาเลยค่ะ เสริฟมาพร้อมน้ำสลัดรสชาติเปรี้ยวๆ ผักมีแครอท แตงกวาหั่นฝอย และผักกาดหอม ผักสดกรอบดีมากค่ะ เนื้อสัตว์เป็นไก่ฉีกเนื้อนุ่มดี ทานรวมๆกันแล้วก็อร่อยดีค่ะ ราคา 89 บาทค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ รวมๆแล้วอร่อยดีค่ะ คุณภาพอาหารก็ดีด้วยค่ะ
บรรยากาศ ดีค่ะ ชอบความกว้างของโต๊ะค่ะ
บริการ ช่วงที่งาไปทานคือตอนเที่ยงๆ ลูกค้าจะเยอะ บริการของพนักงานจะรวนๆไปนิดค่ะ รอเช็คบิลล์นานมาก พนักงานคิดเงินผิด ต้องให้เค้าแก้ไขบิลล์ใหม่ค่ะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา สูงไปนิดค่ะ มี + VAT 7%ด้วยค่ะ