นักรีวิวร้านอาหาร

ที่ตั้ง วันนี้วันหยุดชดเชยวันแม่ งากับแม่มาทานเที่ยงที่ร้าน Kobune Japanese Restaurant (โคบุเนะ) สาขาเดอะมอลล์บางกะปิค่ะ ร้านอยู่ชั้น 1 ถ้านับชั้น G ด้วย คือชั้น 2 ค่ะ ร้านอยู่โซนฝั่งหลังน้ำตก ถ้ามาจากหน้าห้างให้ขึ้นบันไดเลื่อนตัวขวาสุดขึ้นมาปุ๊บก็ถึงร้านเลยค่ะ หรือจะเข้ามาจากสะพานลอยตัวที่อยู่ใกล้กับฝั่งตะวันนาร้านจะอยู่ถัดจากร้านโดนัทคริสปี้ครีมค่ะ
บรรยากาศ หน้าร้านเป็นโทนไม้สีโอ๊ค ดูอบอุ่นนิ่งๆ ตัวหนังสือชื่อร้านและโลโก้ร้านเป็นสีฟ้าครามเด่นสดใส ภายในร้านเป็นตีมเดียวกันกับข้างนอก คือผนัง โต๊ะเก้าอี้ พาทิชั่น เป็นโทนไม้สีโอ๊ค ผนังมีลายภาพวาดแบบญี่ปุ่นสวยและเข้ากับบรรยากาศร้านดีค่ะ ที่นั่งภายในมี 2 โซน คือโซนเคาน์เตอร์หน้าสายพาน และโซนโต๊ะนั่ง งากับแม่เลือกโซนที่เป็นโต๊ะนั่งค่ะเพราะโต๊ะกว้างดี วางอาหารจะได้ไม่เกะกะ บนโต๊ะมีอุปกรณ์การทาน คือจานแบ่ง ตะเกียบ และทิชชู ทิชชูที่วางอยู่บนจาน มีรอยกลมๆเหมือนก้นจาน เหมือนเค้าวางจานซ้อนทับบนกระดาษทิชชูอีกที ดูไม่ดีเลยค่ะ สภาพยับเหมือนทิชชูใช้แล้วเลยค่ะเครื่องดื่ม งากับแม่สั่งน้ำเปล่า(ตลอด)ค่ะ เป็นน้ำดื่มของทานร้าน ขวดเล็ก 20 บาท สั่งมาขวดเดียวก็พอค่ะ งากับแม่ทานน้ำระหว่างทานอาหารไม่เยอะ ส่วนน้ำแข็งเปล่า 2 แก้วฟรีค่ะอุด้งผัดซอส จำชื่อเต็มไม่ได้อ่ะค่ะ เสริฟมาน่าทานมากเลยค่ะ เป็นเส้นอุด้งผัดซอส ด้านบนมีหอยแมลงถู่นิวซีแลนตัวใหญ่ๆ 2 ตัวเนื้อนุ่มสดใช้ได้ มีปลาหมึก 2 ชิ้นใหญ่ๆ เนื้อเหนียวนิดหน่อย และเนื้อปลา 2 ชิ้นเหมือนเค้าทอดมาก่อนค่ะ เมนูนี้เป็นเส้นอุด้งและของทะเลต่างๆผัดมากับซอสพริกชุ่มๆ ความเปรี้ยวจากซอสพริกเข้มข้นมากแต่ไม่เผ็ดนะคะ เสียดายเส้นอุด้งลื่นๆติดกัน ใช้ตะเกียบทานยากไปหน่อยอ่ะค่ะ รวมๆแล้วเมนูนี้อร่อยมากค่ะ ราคา 150 บาทโซบะเนื้อ เสริฟมาเป็นหม้อดินเผาใบใหญ่มากค่ะ เค้ามีถ้วยแบ่งมาให้ด้วย สำหรับทาน 2 คน รสชาติน้ำซุบอร่อยมากเลยค่ะ หอมกลิ่นเนื้อและต้นห้อมซอยมาก น้ำซุปเค็มเบาๆ เนื้อก็เปื่อยสุกดี มีผักเป็นกะหล่ำปลี แครอท ผักกาดหอม มีเต้าหู้ญี่ปุ่นด้วยค่ะ ส่วนเส้นโซบะเหนี่ยวนุ่มดี เมนูนี้เสริฟมาเป็นหม้อดินเผาเพื่อรักษาอุณหภูมิอาหาร ขนาดทานจะหมดแล้วน้ำซุบยังอุ่นๆอยู่เลยค่ะ ราคา 200 บาทค่ะ เมนูสายพาน ทานอาหารหลักแล้ว ลองมาสั่งอาหารสายพานมาทานดูบ้าง ตอนนี้อาหารบนสายพานไม่ใช่ทุกอย่าง 25 บาท เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ ตอนนี้มีราคา 30 ,40 , และ 50 บาทค่ะ งาลองสั่งมาทาน 3 รายการค่ะอาหารบนสายพาน หลังจากสั่งอาหารจากสายพานไปรอนานเหมือนนะคะ ลูกค้าก็ยังไม่เยอะ แต่ดีหน่อยที่เค้าทำมาให้ใหม่ๆค่ะ
ลูกชิ้นปลาหมึก เป็นลูกกลมๆขนาดเท่าลูกชิ้นในก๋วยเตี๋ยว เสริฟมา 6 ลูก ทอดมาใหม่ๆร้อนๆ ตัวลูกชิ้นเค็มนิดๆ ด้านนอกเค้าราดซอสมะเขือเทศมาชุ่มๆรสชาติเปรี้ยวๆอร่อยดีค่ะ มีเครื่องเคียงเป็นกะหล่ำปลีแตงกวาราดมัสตาร์ดเปรี้ยวๆ ราคา 30 บาท
หอยเชลชุบแป้งทอด เป็นหอยเชลตัวใหญ่ๆชุบแป้งทอด 3 ตัว แป้งด้านนอกกรอบบาง หอยสดดี ทานคู่กับน้ำจิ้มอะไรก็ไม่รู้สีม่วงๆเปรี้ยวมาก คล้ายบลูเบอร์รี่ มีเครื่องเคียงเหมือนลูกชิ้นปลาหมึกค่ะ ราคา 30 บาท
ปลาหมึกย่าง ปลาหมึกตัวใหญ่เหมือนกันนะคะ ขนาดย่างมาตัวปลาหมึกก็หดลงแล้วยังดูว่าตัวใหญ่เลยค่ะ รสชาติเค็มๆนิดๆ หอมกลิ่นย่าง เนื้อเหนียวนิดหน่อยและสดดีค่ะ ราคา 30 บาทถั่วแดงโมจิ มาจบด้วยของหวานของแม่งากันค่ะ ไปทานที่ไหนถ้ามีเมนูนี้จะรีบสั่งทันทีค่ะ เสริฟมาร้อนๆ ถั่วแดงรสชาติหวานสะใจดีค่ะ ถั่วแดงแม้จะต้มมาเปื่อยแล้วแต่ก็ยังมีความหอมของถั่วแดงอยู่ ส่วนโมจิลูกกลมๆรสชาติจืดๆให้มา 5 ลูก รสสัมผัสคล้ายบัวลอยเลยค่ะ ราคา 50 บาท

สรุปนะคะ
อาหาร งาว่าอร่อยดีนะคะ คุณภาพอาหารก็ดีด้วย ปริมาณก็เยอะดีค่ะ
บรรยากาศร้าน อยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ ร้านมีเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่น
บริการ บริการดีปกติค่ะ อาหารสายพาน รอนานนิดนึงค่ะ ไม่มีขนมหวานฟรีตอนทานเสร็จให้เหมือนเมื่อก่อนนะคะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา งาว่าอยู่ในระดับพอๆกับร้านฟูจิเลยนะคะ แต่ก็โอเคค่ะ ถือว่าเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง เผื่อใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มีเซอร์วิสชาจน์ 10% ด้วยค่ะ

คำนำ ร้าน Orchard เป็นร้านอาหารสิงคโปร์ มีหลายสาขาด้วยกันค่ะ เท่าที่งารู้คือ สาขา CTW ชั้น 7 , สาขาพาราไดซ์พาร์ค ชั้น 3 และสาขา Esplanade รัชดา ชั้น B ค่ะ ก่อนหน้านี้งาเคยรีวิวร้านออร์ชาร์ดสาขาพาราไดซ์พาร์คไปแล้ว และประทับใจมาก วันนี้งากับแม่มาธุระที่ Esplanade รัชดา และได้มีโอกาสมาทาน ร้านนี้อีกครั้ง แต่คนละสาขา มาดูกันว่าสาขานี้จะสร้างความประทับใจเหมือนสาขาพาราไดซ์พาร์คที่เคยทานรึป่าว อิอิ


ที่ตั้งและการเดินทาง ร้าน Orchard ที่มาทาน คือสาขา The Esplanade Ratchada ค่ะ ห้างเอสพลานาร์ด ตั้งอยู่บนถนนรัชดา อยู่ตรงกลางระหว่างตึก RS และสถานฑูตจีน ถ้ามาด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT ห้างจะอยู่ตรงสถานีศูนย์วัฒนธรรม ฝั่งทางออก 3 พอดีเลยค่ะ สำหรับวันนี้งากับแม่นั่งรถเมล์มาค่ะ จากเดอะมอลล์บางกะปิ จะมีรถเมล์สาย 73ก. , 514 และสาย 137 ที่ผ่าน เอสพลานาร์ด แบบต่อเดียวถึงนะคะ นั่งรถเมล์มาลงที่ป้าย MRT สถานีศูนย์วัฒนะธรรม รถยูโรสีส้ม ราคาคนละ 17 บาท ใช้เวลาเดินทางแบบรถไม่ติดมากไม่เกิน 1 ชม. ค่ะที่ตั้งร้าน ร้าน Orchard สาขา เอสพลานาร์ด รัชดา อยู่ ชั้น B เป็นชั้นใต้ดินค่ะ เข้ามาจากทางลงบันไดหน้าห้างได้เลย ร้านจะอยู่ลึกเหมือนกันค่ะ อยู่แถวๆท็อบ ซุปเปอร์มาร์เกต ร้านออตโตยะ ร้านจะอยู่ติดกัน วาราภรณ์ซาลาเปา และตรงข้ามร้านขายทุกอย่าง 60 บาทค่ะบรรยากาศ ร้าน Orchard สาขา เอสพลานาร์ด รัชดา เป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งทั้งข้างนอกข้างในร้าน เข้ามาภายในร้าน การตกแต่งและบรรยากาศให้ความรู้สึกเหมือนเป็นร้านอาหารแบบด่วนๆ ต่างจากสาขาพาราไดซ์ค่ะ โต๊ะเก้าอี้เป็นแบบโครงๆเล็กๆ ดูเบาๆ บรรยากาศโดยรวมออกแนวเรียบง่าย แต่ดูดีค่ะ เข้ามาในร้านปุ๊บพนักงานรีบออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีค่ะรายการอาหาร วันนี้งามาทานโดยได้ซื้อดีลมาจากเวปไซต์หนึ่งค่ะ มีอาหารให้เลือก 4 เซต งาเลือกเซต ข้าวมันไก่ซีอิ้ว+ขนมผักกาดผัดซอส XO+ไอซ์คาซัง หรือ น้ำเก๊กฮวย งาเลือกน้ำเก๊กฮวยค่ะ ราคาจริงรวมทั้งหมด 314 บาท ราคาดีลที่ซื้อมา 157 บาทค่ะ

เครื่องดื่ม น้ำเก๊กฮวยหวาน หอมเก๊กฮวย อร่อยดีค่ะ แก้วใหญ่ดี ส่วนน้ำเปล่า ขวดน้ำเป็นทรงตึกใบหยกเก๋ดีค่ะ ราคาน้ำเปล่า 1 ขวด +น้ำแข็ง 1 แก้ว ประมาณ 25 บาท ส่วนน้ำเก๊กฮวย ราคาคิดรวมกับเซตอาหารที่ซื้อดีลมาค่ะข้าวมันไก่ซีอิ้ว เพื่อนๆอาจจะเคยอ่านรีวิวข้าวมันไก่ของร้าน ออร์ชาร์ท ที่เป็นสูตรออริจินอลมาแล้ว แต่ข้าวมันไก่ที่งากับแม่มาทานวันนี้เป็นแบบข้าวมันไก่ซีอิ้วนะคะ ข้าวมันไก่เสริฟมาเป็นเซต มีข้าวมัน เม็ดเล็กร่วนๆ หุงมาแบบเม็ดข้าวมันๆนิดๆ ทานแล้วอร่อยลิ้นดี มีน้ำซุปร้อนๆ ชามใหญ่ รสชาติหวานจางๆจากฟัก มีไก่ซีอิ้วที่เนื้อนุ่มชุ่มซีอิ้ว รสชาติไมเค็มมากออกไปทางจืดๆแต่หอมซีอิ้วดี รสชาติแบบนี้อร่อยไปอีกแบบค่ะ ทานคู่กับน้ำจิ้มที่ให้มาจะอร่อย ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะชุดน้ำจิ้ม มี 5 แบบค่ะ มี น้ำจิ้มสีดำเป็นซีอิ้วหวาน สีส้มๆเป็นน้ำจิ้มพริก ใส่น้ำส้มสายชู รสชาติเปรี้ยวๆไม่เผ็ดค่ะ สีน้ำตาลเป็นน้ำจิ้มเต้าจี้ยว รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน และมีรสชาติของขิงด้วยค่ะ น้ำจิ้มสีน้ำตาลอ่อนๆเป็นน้ำจิ้มขิง รสชาติจะจืดๆและหอมขิงทานแล้วอร่อยดีเหมือนกันค่ะ และมีน้ำจิ้มสีเขียว เป็นน้ำจิ้มขิงผสมวาซาบิ พอทานแล้วรสชาติจากขิงจะแรงกว่าวาซาบิค่ะ มีรสจี๊ดๆจากวาซาบินิดๆ อร่อยดี ตอนทานเอาน้ำจิ้มแต่ละอย่าง หลายอย่าง หรือทั้งหมดก็ได้ค่ะ มาคลุกข้าวมันร้อนๆ อร่อยมากค่ะ ไม่ว่าจะใส่น้ำจิ้มแบบไหน มื้อนี้งาสั่งข้าวมันเพิ่มมาอีก 1 ถ้วย ราคาถ้วยละประมาณ 25-30 บาทค่ะ
ขนมผักกาดผัดซอส XO เสริฟมาปริมาณไม่มากค่ะ สงสัยเพราะเป้นรายการอาหารรวมอยู่ในเซตที่ซื้อดีลมา ไว้สำหรับทานเล่น ไม่ได้ทานหลัก เค้าเลยให้มาน้อย หน้าตาน่าทานดีนะคะ ขนมผักกาดผัดซอส XO เป็นแป้งแบบนุ่มๆไม่เหนียวขนาดพอดีคำ ผัดมากับ ไข่ ถั่วงอกกรอบๆ กุ้งขนาดกลางเนื้อดึ๋งๆ และซอส XO ผัดมาแบบน้ำซอสฉ่ำๆ รสชาติเค็มหวานเข้มข้น อร่อยมากๆเลยค่ะ
มะตาบะใส้ไก่ สั่งมาทานเพิ่มค่ะ มีน้ำจิ้มมาให้ด้วย ตอนเอามะตาบะเข้าปากด้านนอกจะเจอแป้งรสชาติเหมือนแป้งโรตีกรอบๆหอมๆ ใส้ตรงกลาง นุ่มๆ เป็นใส้ไก่กับมันฝรั่ง รสชาติหอมเครื่องกะหรี่เบาๆเค็มๆหวานๆนิดๆ ส่วนน้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มอาจาด ที่ทานกับทอดมันค่ะ ในน้ำจิ้มมีแตงกวา หอมแดง พริกชีฟ้า รสชาติจะเปรี้ยว หวาน ทานคู่กับมะตาบะเข้ากันดีมากเลยค่ะ แต่มะตาบะถ้าไม่จิ้มอะไรก็อร่อยอยู่แล้วค่ะ ถ้าทานไปรู้สึกเลี่ยนก็ราดน้ำจิ้มเสริมได้ ราคา 50 บาทค่ะสรุปนะคะ
รสชาติ โดยรวมแล้วอาหารรสชาติจะออกจืดๆ จางๆ แต่ไม่หวาน งาว่าอร่อยไปอีกแบบนะคะ คุณภาพอาหารก็ดีมากค่ะ
บรรยากาศ รู้สึกว่าธรรมดาๆค่ะ สาขาพาราไดซ์พาร์คที่เคยไปทานมาบรรยากาศดีกว่าค่ะ
การบริการ ดีมากค่ะ พนักงานขยันขันแข็ง อัธยาศัยดีค่ะ
ความสะอาด ได้มารตรฐานค่ะ
ราคา มาทานข้าวมันไก่แม้จะเป็นแบบสิงคโปร์ แต่ก็อดเอามาคิดเปรียบเทียบกับข้าวมันไก่เจ้าอร่อยทั่วไปไม่ได้ค่ะ ราคาข้าวมันไก่สิงคโปร์สูงกว่ามาก แต่รสชาติจะอร่อยไปคนละแบบ ส่วนราคาอาหารรายการอื่นๆอยู่ในระดับปานกลางค่ะ มีโอกาสจะกลับมาทานอีกนะคะ

ที่ตั้ง วันนี้งากับแม่มาทานมื้อเที่ยงที่ร้าน Santa Fé Steak (ซานตาเฟ่ เสต็ก) ที่สาขาเดอะมอลล์บางกะปิกันค่ะ ร้านอยู่ชั้น 4 เป็นชั้นโรงหนังหรือชั้นสวนน้ำนั่นเอง ร้านจะอยู่ตรงกลางระหว่าง SF ทั้งสองฝั่งค่ะ ถ้าไม่ได้มาธุระที่ชั้นอื่นๆ งาแนะนำให้ขึ้นลิฟท์มาจะดีกว่าค่ะ เพราะเร็วกว่า ลิฟท์จะอยู่เกือบด้านหลังของห้างค่ะบรรยากาศหน้าร้าน ร้าน ซานตาเฟ่ เสต็ก มองจากภายนอกดูหรูหราดีค่ะ ผนังร้านเป็นกระจกใสยาวสูง ตัดด้วยเส้นสายสีดำของวงกบ ป้ายชื่อร้าน ตัวอักษรเป็นสีทองฟร้อนตัวหนังสือดูสบายๆ สัญลักษ์หรือโลโก้ร้านเป็นรถไฟค่ะบรรยากาศภายใน ภายในร้านกว้างขวางและโปร่งดีค่ะ หลังคาเป็นโครงเหล็กเปิดโล่ง ร้านเป็นโทนสีดำเหมือนข้างนอก สไตล์ร้านเป็นแบบครันทรี่ ตรงโซนโต๊ะเก้าอี้นั่งสำหรับ 2 คน จะมีกลิ่นอายของโต๊ะเก้าอี้บนรถไฟจริงๆ ตามคอนเซ็บของร้านค่ะ ทางเดินตรงช่องว่างระหว่างโตะเค้าเว้นได้กว้างดีค่ะ วันนี้งามาทานยังไม่เที่ยงเลยค่ะ ลูกค้าเต็มร้านแล้วค่ะรายการอาหาร วันนี้งามากับแม่ พนักงานพามานั่งที่โต๊ะสำหรับ 2 คนค่ะ พอนั่งปุ๊บพนักงานก็เอาเมนูมาให้ พร้อมทั้งแจ้งเมนูโปโมชั่นของร้านค่ะ เมนูอาหารมีรูปภาพอาหารประกอบดูน่าทานทุกเมนูเลย รายการหารหลักๆแล้วจะเป็นเสต็ก แบบต่างๆหลากหลายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเ สต็กหมู ไก่ เนื้อ ปลา กุ้ง แกะ นอกจากนั้นยังมี ซุป สปาเกตตี้ แบบต่างๆให้เลือกทานด้วยค่ะ สำหรับบนโตะจะมีอุปกรณืการทานวางไว้ให้ เป็นซ่อมกับมีด เครื่องปรุงรสจะมี พริกไท เกลือ ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ค่ะ

เครื่องดื่ม งากับเม่สั่งน้ำเปล่า 1 ขวด กับน้ำแข็งเปล่า 2 แก้ว ค่ะ น้ำเปล่าขวดใหญ่ ส่วนน้ำแข็งเปล่าเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ ใส่มาแก้วละประมาณ 3 ก้อนค่ะ ราคารวม 24 บาทค่ะ ถือว่าอยู่ในระดับราคาตามมาตรฐานร้านอาหารในห้างค่ะสปาเก็ตตี้ผัดหอยนิวซีแลนด์ สั่งอาหารไปไม่นานเมนูแรกก็มาเสริฟค่ะ เมนูนี้ เส้นสปาเกตตี้สุก เหนียวนุ่มในระดับกำลังดีเลยค่ะ สำหรับรสชาติสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือจะหอมใบโหระพามากค่ะ เค้าผัดมาแบบจืดๆแต่จะได้ความเค็มจากเบคอนที่ผัดรวมมาด้วย ในผัดมีพริกทอดและพริกหวานทานแล้วตัดเลี่ยนได้ดีเลยค่ะ หอยนิวซีแลนมี 3 ตัว ตัวใหญ่ๆทานได้เต็มปากเต็มคำอร่อยมากค่ะ ราคา 89 บาทปลาทอดกุ้งทอด เมนูนี้นอกจากจะมี มีปลาทอดชิ้นใหญ่ กับกุ้งทอด 3 ตัวแล้ว ยังมีสลัดผักที่ราดน้ำสลัดแบบธรรมดาเปรี้ยวนิดๆ มีเฟร้นฟรายกรอบนอกนุ่มใน มีขนมปังทาเนยหนาๆชุ่มๆหอมๆด้วยค่ะ สำหรับปลาทอดและกุ้งทอดจะอมน้ำมันนิดนึง ปลาทอดตรงกลางเนื้อยังไม่ค่อยสุกเท่าไรค่ะ กุ้งทอดเหมือนเป็นเนื้อกุ้งแล้วเค้าเอาหางกุ้งไปเสียบที่เนื้อกุ้งชุบแป้งอีกทีค่ะ เมนูนี้ทานเปล่าๆจะเลี่ยนมากค่ะ แต่พอเพิ่มความเปรี้ยวและเผ็ดด้วยซอสพริก และซอสมะเขื้อเทศแล้วอร่อยดีค่ะ เมนูนี้ราคา 99 บาทค่ะ ฟิเลมิยองหมู พอร์คช็อบ เมนูนี้ของแม่งาค่ะ เสริฟมาปริมาณเยอะมาก มีเครื่องเคียงเหมือนเมนูกุ้งทอดปลาทอดค่ะ คือสลัดมีผักเป็นผักกาดแก้วกรอบๆ แครอทฝอยและมะเขือเทศ เครื่องเคียงอื่นๆก็มีเฟร้นฟราย และ ขนมปังทาเนยค่ะ ตัวเนื้อเสต็กสุกนุมดี เนื้อไม่แห้ง รสชาติที่ฉาบเนื้อหมูด้านนอกจะเค็มนิดๆและหอมพริกไทยมาก ทานคู่กับน้ำราดสีน้ำตาลรสชาติเค็มแบบกลมกล่อมอร่อยมากค่ะ เมนูนี้ราคา 175 บาทค่ะเครปกล้วยหอม เป็นเครปมีใส้เป็นกล้วยหอม ราดด้วยช็อคเกอร์แลตเหลว มาเสริฟกำลังร้อนๆ เวลาทานเอาช็อคเกอร์แลตเหลวมาราดบนเครปให้ฉ่ำๆ อร่อยมากค่ะหวานและหอมช็อคเกอร์แลตมากๆ แป้งเครปก็บางนุ่ม กล้วยข้างในก็สุกดีค่ะ เมนูนี้ราคา 72 บาทค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ อร่อยมากค่ะ วัตถุดิบของอาหารก็ดูมีคุณภาพดี แถมเสริฟมาในปริมาณที่มากด้วยค่ะ
บรรยากาศร้าน โปร่งดีและดูหรูหราดีค่ะ
บริการ อาหารได้ไวดีค่ะ พนักงานเรียกไม่ยากค่ะ อัธยาศัยดี แต่ตอนเช็คบิลรอนานไปหน่อยค่ะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา อยู่ในระดับที่กำลังดีค่ะ ราคาอาหารยังไม่รวมแวต 7% นะคะ มื้อนี้ราคาอาหารเครื่องดื่ม 528 บาท + VAT 7% 30บาท รวมทั้งหมด 558 บาทค่ะ

คำนำ ร้าน After You เป็นร้านที่หลายๆคนรู้จักกันดี และเคยมาทานกันแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่เคยมาทานเลย รวมทั้งงาด้วย รีวิวนี้จึงเขียนตามประสาคนไม่เคยมาทานนะคะ ส่วนสาเหตที่อยากมาทานร้านนี้ เพราะเคยร่วมสนุกกับ Openrice ได้คูปอง 100 บาท มา 1 ใบ วันนี้สะดวกเลยชวนแม่มาทานกันค่ะที่ตั้ง ร้าน After You สาขาที่งากับแม่มาทานวันนี้คือสาขา เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าวค่ะ ที่ตั้งร้านอยู่บริเวณชั้น 1 บริณบันไดเลื่อน ร้านอยู่คอร์ทกลาง รายล้อมด้วยร้าน เซน , ซูชิ เดน , เอ็มเค สุกกี้ , คาเฟ่ชิลลี่ ค่ะ ถ้าเข้ามาทางประตูหน้าห้าง ให้เดินเลี้ยวซ้าย แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอร้านค่ะบรรยากาศ ร้าน After You สาขาเซ้นทรัล ลาดพร้าว อยู่บริเวณคอร์ทกลาง เป็นร้านกึ่งเปิดโล่ง มีราวระเบียงไม้กั้นอาณาเขตของร้าน ถ้ามองร้านจากภายนอก ร้านจะเป็นโทนสีดำ มีโลโก้ร้านเป็นรูปแกะค่ะ บริเวณที่นั่งสำหรับลูกค้า จะมี 2 โซนคือ โซนภายในร้าน ที่จะอยู่ภายในขอบเขตของราวระเบียง และที่นั่งนอกร้าน แม้แม้โซนนี้จะอยู่นอกขอบเขตของราวระเบียง แต่ก็ยังอยู่ในอาณาเขตร้าน เพราะพื้นของที่นั่งโซนนี้ จะใช้วัสดุแตกต่างจากพื้นห้าง เพื่อแสดงอาณาเขตของร้านค่ะ ภายในร้าน ระดับพื้นร้านจะยกสูง จากพื้นทั่วๆไปของห้าง ความสูงที่ยกประมาณ 1 ขั้นบันไดค่ะ เวลาก้าวเข้าไปยังร้านทำให้ได้ความรู้สึกว่า กำลังขึ้นไปยังระเบียงบ้าน บรรยากาศภายใน มีโต๊ะนั่งเยอะเลยค่ะ โต๊ะเก้าอี้เป็นไม้สีอ่อน บริเวณโซนเซอร์วิสหรือพื้นที่เฉพาะพนักงาน มีการใช้วัสดุคล้ายอิฐ มีหน้าต่าง ได้บรรยากาศเหมือนบ้านและเหมือนเรากำลังทานอาหารอยู่ที่ระเบียงบ้านค่ะ งามาถึงร้านประมาณ 11 โมงกว่าๆ คนเริ่มเยอะแล้ว แต่ด้านในๆร้านยังพอมีที่นั่งอยู่ค่ะรายการอาหาร วันนี้ พอมาที่โต๊ะ จะมีเมนูอาหาร ตอนจะสั่งอาหาร ให้เดินไปสั่งที่เคาน์เตอร์ และจ่ายตังค์เลย อย่าลืมจำเบอร์โต๊ะนะคะ เดี๋ยวเค้าจะเอามาเสริฟเราเอง สำหรับรายการอาหาร ที่ขึ้นชื่อคือ ชิบูย่าแบบต่างๆ ราคา 165+ เครื่องดื่ม เช่นกาแฟ และน้ำผลไม้แบบต่างๆ ราคา 60+ อาหารหมวด BREAKFAST ราคา 145+ ค่ะเครื่องดื่ม งากับแม่ทานน้ำฟรีของทางร้านค่ะ เดินไปกดน้ำเอง ที่ตู้ แก้วเป็นกระดาษ งารู้สึกว่า น้ำชาที่ตู้กด 2 ฝั่งจะแตกต่างกัน สีที่เข้มกว่าจะมีรสฝาดๆนิดนึง ส่วนสีอ่อนจะจืดๆ แต่ทั้งสองสีจะมีกลิ่นหอมเบาๆคล้ายๆกลิ่นของดอกไม้เลยค่ะ หลังจากสั่งอาหารไปไม่นาน เค้าก็จะเอาน้ำผึ้งและอุปกรณ์สำหรับทาน เป็นซ่อมและมีด มาให้ตามจำนวนคนค่ะชิบูย่า ฮันนี่โทส อ่านรีวิวของเพื่อนๆ ใครๆก็สั่งเมนูนี้ งาเลยสั่งมาลองชิมดู สั่งแบบธรรมดาค่ะ มาเสริฟจานใหญ่ เหมาะกับการแบ่งกันทาน ชิบูย่า ฮันนี่โทส เป็นขนมปังก้อนใหญ่ๆ โปะด้วย ไอศกรีมวานิลา และมีวิฟครีม ตอนจะทานราดด้วยน้ำผึ้ง รสชาติของขนมปังอร่อยแบบชุ่มๆ ด้วยเนยและน้ำผึ้ง หวานและหอมเนยมาก ขนมปังด้านบนจะกรอบนิดๆ ด้านล่างขนมปังนุ่มดี เนื่องจากส่วนของขนมปังหวานมากพอมาทานไอศกรีมวานิลา ทำให้ตัวไอศกรีมจืดไปเลย แต่หอมวานิลามากๆ รวมๆแล้วอร่อยมากค่ะ ราคา 165 บาทบานาน่า แพนเค๊ก อยู่ในหมวดอาหารเช้าค่ะ ตอนสั่งจินตนาการว่า จะต้องเป็นแพนเค๊ก รายล้อมไปด้วยกล้วยหอมเต็มจาน แต่พอเห็นของจริงแล้วผิดหวังนิดหน่อยค่ะ ของจริงเป็นแพนเค๊ก ด้านบนมีกล้วยหอม 3 แว่น ที่เป็นก้อนกลมๆสีเหลืองคือเนยเค็ม ตอนทานให้ราดน้ำที่เค้ามีมาให้ไปบนแพนเค๊ก เป็นน้ำสีน้ำตาลรสชาติหวานนิดๆ เนื้อแป้งแพนเค๊กอุ่นๆชุ่มๆไปด้วยน้ำราดรสชาติหวานจางๆ ทานคู่กับเนยเค็ม ก็อร่อยดีค่ะ เนื่องจากเมนูแรกอร่อยและอลังค์การมาก ทำให้เมนูนี้ดูธรรมดาไปเลยค่ะ ราคา 145 บาทค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ อร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะชิบูย่าฮันนี่โทส
บรรยากาศ ดีมากค่ะ ขนาดคนเยอะ ยังไม่รู้สึกอึดอัด บรรยากาศร้านทำให้รู้สึกสบายๆเหมือนนั่งทานอาหารที่ระเบียงบ้าน
บริการ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส และอัธยาศัยดีทุกคนค่ะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา แพงอยู่ค่ะ ถ้าออกเงินเองทั้งหมด คงมาทานอีกเป็นบางโอกาสอ่ะค่ะ

คำนำตอนแรกงากับแม่กะจะมาทานร้าน โออิชิ ราเมน ที่เดอะมอลล์บางกะปิกัน แต่พอไปถึงร้าน ร้านไม่มีแล้วค่ะแต่ติดป้ายว่าร้านย้ายไปอยู่ชั้น 3 พองากับแม่ตามไปที่ชั้น 3 ร้านที่ตั้งร้านโออิชิราเมน เค้าติดป้ายว่าร้านอยู่ระหว่างการปรับปรุงยังไม่เปิดให้บริการ งากับแม่เลยเดินหาร้านอื่นทานกันค่ะ พอดีเดินผ่านร้าน Mr.Meng ที่เพิ่งมาเปิดสาขาใหม่ที่เดอะมอลล์บางกะปิ เห็นรูปอาหารหน้าร้าน น่าทาน เลยลองเข้ามาทานกันค่ะ

ที่ตั้ง ร้าน Mr.Meng สาขา เดอะมอลล์บางกะปิ จะอยู่ฝั่งหลังน้ำตก ที่ชั้น 3 ร้าน Mr.Meng เป็นร้านเล็กๆ 1 ห้อง แทรกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างร้านฟูจิและร้านซิสเลอร์ที่เพิ่งย้ายขึ้นมายังชั้น 3 เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ
บรรยากาศ หน้าร้านตกแต่งเป็นโทนสีดำๆ มีตุ๊กตา Mr.Meng ตัวใหญ่ๆยืนอยู่ บรรยากาศภายในเป็นตีมเดียวกับข้างนอกคือเป็นโทนสีดำและแดงทึมๆแต่ดูดี โต๊ะเป็นหินอ่อน ที่สามารถทำความสะอาดง่าย โต๊ะหินอ่อนสีดำเข้ากันเก้าอี้เป็นไม้และภายในร้าน คอกกั้นระหว่างโต๊ะเป็นซี่ลูกกรงไม้ ทำให้ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ รวมๆแล้วร้านบรรยากาศร้านได้กลิ่นไอของบรรยากาศแบบจีนๆ ประมาณโรงเตี๊ยมว่างั้น ภายในร้านพนักงานเยอะเหมือนกันค่ะ คนที่ว่างๆจะคอยยืนกวาดตาหันไปมองโต๊ะลูกค้าภายในร้าน เผื่อลูกค้าจะเรียกใช้บริการ งากับแม่ได้โต๊ะนั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ไกล้ๆกับตรงที่พนักงานยืนอยู่ค่ะ งาเลยไม่กล้าถ่ายรูปเก็บบรรยากาศมามากค่ะ และอีกอย่างก็เกรงใจลูกค้าท่านอื่นด้วย ลูกค้าที่เข้ามาทาน เข้าๆออกๆเรื่อยๆ คึกคักเชียวค่ะ

รายการอาหาร ร้าน Mr.Meng เป็นร้านอาหารจีน แบบฟิวชั่น มีทั้งอาหารจีนแท้ๆเช่น อาหารประเภทติ่มซำ กระเพาะปลา บะหมี่ 9ล9 นอกจากนั้น ก็มีอาหารแบบไทยๆ ที่รสชาติไม่จัด อาหารในร้าน มีทั้งอาหารสั่งเป็นกับข้าว เซตอาหาร ราคาเท่าที่ดูๆก็ไม่แพงนะคะ ส่วนใหญ่แล้วราคาประมาณ 60 บาทขึ้นไป ส่วนติ่มซำเข่งละประมาณ 17 บาท ค่ะ
อาหารที่สั่ง พอมานั่งที่โต๊ะปุ๊บ พนักงานก็เอาเมนูมาให้ และแนะนำอาหารโปรโมชั่นค่ะ ตอนเปิดเมนูพนักงานก็มายืนรอจดรายการอาหาร รู้สึกเหมือนโดนกดดัน งากับแม่เลยไม่ได้ดูเมนูอาหารนานๆเพราะไม่มีสมาธิอ่ะค่ะ งากับแม่เลยสั่งเป็นเซตอาหารสำหรับ 2 คน ที่กำลังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นกันค่ะ อาหารในเซตมี ออส่วนเขียวหวานปลา กุ้งอบวุ้นเส้น ยำหมู และมีข้าวเปล่า อีก 2 ที่ อาหารเซตนี้ราคา 179 บาทค่ะ
ยำหมู เมนูแรกเป็นยำหมู หมูที่ใช้เป็นหมูแผ่นบางๆ นุ่มๆ ชิ้นใหญ่ มีทั้งหมูลวกธรรมดาและหมูแดดเดียว รสชาติของยำหมู มีรสเปรี้ยวนำ มีความหอมหวานจากน้ำพริกเผา ไม่มีความเผ็ด แต่เค้าก็มีพริกทอดโรยมาให้ด้วย ใครอยากเผ็ดก็เคี้ยวพริกทอดเอา แต่งาว่าพริกทอดก็ไม่ค่อยเผ็ดเท่าไรนะคะ เพราะพริกที่เค้าเอามาทอด เป็นพริกดอกใหญ่ๆที่รสชาติไม่ค่อยเผ็ดอ่ะค่ะแต่ก้พอแก้ขัดได้อยู่ ตอนทานจะมีรสสัมผัสเคี้ยวกรุบๆกรอบ จากเห็ดออริงจิที่หั่นมาเป็นแผ่นบางๆ เห็ดหอม และหน่อไม้ฝรั่ง ยำของที่นี่เค้าใส่ขิงซอยด้วย ทำให้มีกลิ่นหอมของขิงจางๆ ค่ะ
กุ้งอบวุ่นเส้น มาเสริฟเป็นหม้ออบโลหะ พอเปิดฝา จะเห็นกุ้งตัวใหญ่เด่นออกมาเลยค่ะ เค้าใช้กุ้งสำเร็จเคี้ยวแล้วดึ๋งๆดี วุ้นเส้นของเค้าจะเหนียวนุ่มไม่เละ รสชาติรวมๆจะออกนุ่มๆ มีความหอมจากซีอิ้ว และขิงซอย เค็มจางๆ เห็ดหอมในกุ้งอบวุ้นเส้นเค้าใส่มาทั้งดอกเลยค่ะ ส่วนเห็ดออริงจิจะหั่นมาบางๆแบบเดียวกับที่ใส่ในยำค่ะ นอกจากนั้นเค้ายังใส่เบคอนติดมันหน่อยๆ รสชาติเค็มๆมันๆ พอทานคู่กับวุ้นเส้นแล้วเข้ากันดีเลยค่ะ
ออส่วนเขียวหวานปลา เป็นออส่วนผัดมาร้อนๆแล้วใส่มาในตระกร้าเผือกที่ทอดมากรอบๆ งากับแม่ทานทั้งออส่วนและตระกร้าเลยค่ะ เมนูนี้เป็นเนื้อปลาชุบแป้งทอด เคี้ยวแล้วเด้งๆ ผัดมากับไข่ เห็ดออริงจิที่หั่นมาบางๆ และเครื่องแกงเขียวหวาน รสชาติหวานนำและมีความหอมของเครื่องแกงเขียวหวาน แต่ไม่มีความเผ็ดนะคะ รวมๆแล้วอร่อยดีค่ะ
ข้าวเปล่า ในเซตนี้เค้าจะให้ข้าวเปล่ามา 2 ที่ค่ะ เป็นข้าวหอมมะลิ หุงมาเหนียวนุ่มกำลังดี เค้าให้มาเหมือนจะน้อย แต่งากับแม่ทานไม่หมดอ่ะค่ะ สงสัยคงเพราะอิ่มจากการทานกับข้าว ที่เค้าให้มาในปริมาณที่เยอะแถมอร่อยด้วย ทานแล้วเพลินๆลืมข้าวเปล่าเลยค่ะ
เครื่องดื่ม เครื่องดื่มต้องสั่งเพิ่ม เพราะไม่มีในเซตอาหาร งากับแม่เลยสั่งเป็นน้ำเปล่า 1 ขวด และน้ำแข็งเปล่า 2 แก้ว ราคารวม 25 บาทค่ะ น้ำเปล่าที่ได้ เป้นขวดขนาดกลางๆ ส่วนน้ำแข็งเปล่า ได้มาแก้วอ้วนๆ น้ำแข็งพูนๆแก้วค่ะ

สรุปนะคะ
เรื่องรสชาติ งาว่าเป็นรสชาติกลางๆรวมๆแล้วถือว่าเข้มข้นดีแต่ไม่เผ็ด คนไม่ทานเผ็ดเลยทานได้สบาย ส่วนคนทานเผ็ดอย่างงาก็ทานได้อร่อยดีค่ะ
บรรยากาศ เป็นร้านเล็กๆ คนเข้าๆออกๆคึกคักดี ตีมร้านเข้ากันดีกับประเภทอาหารที่ขายค่ะ
การบริการ โอเคเลยค่ะ อาหารได้ไว พนักงานจะคอยยืนกวาดสายตารอบๆร้าน เวลาที่ตัวเองไม่มีงาน เผื่อลูกค้าจะเรียกหา ตอนที่งาเรียกเช็คบิล ระหว่างรอเงินทอน มีพนักงานมาเก็บจานที่ทานแล้ว พอพนักงานคนนั้นจะเอาไปเก็บหลังร้าน ก็มีพนักงานที่ดูสูงวัยกว่าสอนเบาๆ ว่าให้ลูกค้าลุกไปก่อนค่อยเก็บ งาว่าดีนะคะ คนนึงทำผิดจะมีรุ่นพี่คอยสอน ไม่ปล่อยปละละเลย
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา งาว่าไม่แพงเลยค่ะ ค่าอาหารที่สั่งเป็นเซต+เครื่องดื่ม+เซอร์วิสชาจน์ 7% มื้อนี้หมดไป 204 บาท งา 2 คนแม่ หารออกมาแค่คนละ 102 บาทเองค่ะ อาหารอร่อย ปริมาณก็เยอะ คุ้มดีค่ะ เป็นร้านที่งากับแม่คงมีโอกาสได้กลับมาทานอีกแน่นอนค่ะ