นักรีวิวร้านอาหาร

พอดีงาจะหาร้านเขียนรีวิวร้านอาหารในหาดใหญ่ที่ได้งาไปทานมา ค้นหาในระบบของเวป openrice แล้วเจอร้านแมน เป็นร้านขายของฝาก งาเห็นว่ายังไม่มีใครรีวิวเลย งาเลยเอาข้อมูลมาลงไว้ เผื่อข้อมูลในรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะมาหาดใหญ่งาได้แวะซื้อของฝากที่ตลาดกิมหยงค่ะ ตลาดกิมหยงตั้งอยู่ในย่านการค้า ไกล้ลีการ์เด้นพลาซ่า และห้างเซ็นทรัลค่ะ ใครมาหาดใหญ่แล้วต้องค้างคืน มาพักแถวตลาดกิมหยงก็ได้นะคะ แถวนี้โรงแรมเยอะมาก ของกินอร่อยๆก็เยอะด้วยค่ะ

การเดินทางมีรถตุ๊กๆและสองแถววิ่งผ่านค่ะ เวลามาหาดใหญ่งาได้ใช้บริการรถสองแถวบ่อยเลยค่ะ รถสองแถวเท่าที่งารู้มีอยู่ 2 สาย มีคันสีขาว และคันสีฟ้าทั้งสองสีผ่านกิมหยงเหมือนกันค่ะ ถ้าจะไปสวนสาธารณะหาดใหญ่ ขนส่ง ก็ขึ้นคันสีขาว ถ้าไปสนามบินหาดใหญ่ก็ต้องขึ้นคันสีฟ้า จากสนามบินหาดใหญ่เข้าเมืองมากิมหยงค่าโดยสาร 20 บาทเองค่ะ ระยะเวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีค่ะ แต่ถ้าเดินทางภายในเมืองค่ารถแค่ 11 บาทค่ะ ใครอยากนั่งรถสองแถวแล้วกลัวจะไปไม่ถูกถามเค้าก็ได้ค่ะ คนหาดใหญ่ใจดีทุกคนตลาดกิมหยงมีสินค้าหลากหลายมากค่ะ ตลาดมี 2 ชั้น ชั้นล่างจะขายผลไม้ ของขบเคี้ยวราคาถูก เสื้อผ้า รองเท้า ของพื้นเมือง ชั้นบนขายเครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิิกา ที่ราคาถูกเพราะปลอดภาษี ของขบเคี้ยวงาซื้อเป็นของฝากทุกครั้งที่มาหาดใหญ่ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกถั่ว และช้อคเกอร์แลต เพราะราคาถูก รองเท้าหนังที่เคยซื้อก็ใช้ทนมากเลยค่ะ แต่ราคาไม่ค่อยถูกซักเท่าไร คิคิ วันนี้งามาถึงที่ตลาดยังไม่ 10 โมงเช้าเลยค่ะ ร้านค้าบางร้านเลยยังไม่เปิดร้านแมน ทุกครั้งที่มาซื้อของขบเคี้ยวที่กิมหยง งาไม่มีร้านประจำค่ะ เห็นร้านไหนของดูน่าทานก็ซื้อ ส่วนคราวนี้ที่ตั้งใจมาซื้อร้านแมน เพราะมีคนแนะนำให้มาซื้อค่ะ เค้าบอกว่า ของร้านนี้สดใหม่ และมีคุณภาพ ส่วนพิกัดร้านแมน ตอนแรกงาไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กะเดินดุ่มๆเข้าไปแล้วอ่านป้ายชื่อร้านเอา งาเข้าตลาดมาทางด้านถนนนิพัทอุทิศค่ะ เดินเข้ามาเริ่มที่ซอยแรก พอสุดซอยแรกเลี้ยวเข้าซอยที่ 2 เห็นมีอยู่ร้านนึงมีคนมุงซื้อของอยู่ พอเงยขึ้นไปอ่านป้ายปรากฎว่าเป็นร้านแมนค่ะ สงสัยของเค้าจะดีจริงๆ เพราะลูกค้าเยอะแต่เช้าเลยร้านแมนส่วนใหญ่จะขายพวกถั่วค่ะ เค้าไม่ได้แพคใส่ถุงไว้ ใครจะเอากี่ขีด กี่กิโล ก็บอกเค้า แล้วเค้าจะตักใส่ถุงชั่งให้ใหม่ๆเลยค่ะ ส่วนราคา กลางๆ ไม่แพงไม่ถูกค่ะ แต่ถูกกว่าซื้อที่กทม. แน่นอนค่ะ นอกจากถั่วก็มีพวกปลากระป๋องคุณภาพดี ลูกพรุน บ๊วย ต่างๆด้วยค่ะ ส่วนคนขายอัธยาศัยดีค่ะวันนี้งาซื้อถั่วมา 2 แบบค่ะ เป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ครึ่งกิโล 140 บาท และถั่วพิสตาชิโอครึ่งกิโล 190 บาทค่ะ
ตอนกลับมาที่โรงแรม เอาถั่วออกมาถ่ายรูปรู้สึกว่าถั่วยังอุ่นๆอยู่เลยค่ะร้านน้องน้ำ เป็นอีกร้านที่งาได้แวะซื้อของฝากค่ะ ร้านอยู่ตรงข้ามกับร้านแมนนั่นแหล่ะค่ะ สินค้าของร้านนี้มีหลากหลายกว่า ที่งาแวะซื้อของร้านนี้เพราะร้านแมนไม่มีขายค่ะ คนขายก็ยิ้มแย้มต้อนรับดีค่ะของที่งาซื้อจากร้านน้องน้ำคือ สาหร่ายเกาหลีค่ะ เคยซื้อมาฝากที่ทำงานแล้วเค้าถูกใจกันใหญ่ คราวนี้เลยซื้อกลับมาอีกค่ะ ราคาห่อละ 40 บาท ส่วนปลาทุบซื้อฝากแมวที่บ้านค่ะ เป็นปลาทรายแบบปรุงรสแล้ว ลองชิมดูรสชาติเค็มๆหวานๆนิดๆท่าทางแมวน่าจะชอบ ซื้อมาครึ่งกิโล 190 บาทค่ะ

สรุปนะคะ ของที่ซื้อจากร้านแมนคุณภาพดีสมคำร่ำลือ ราคาก็จัดว่าถูก คนขายก็อัธยาศัยดีค่ะ มาคราวหน้าคงมีโอกาสได้กลับมาซื้อใหม่ค่ะ

ที่ตั้ง มาหาดใหญ่งาพักโรงแรม TUNE หาดใหญ่ ที่ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 แถวๆตลาดกิมหยง จากโรงแรมที่งาพัก เมื่อมองผ่านหน้าต่างออกไปยังถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ไกล้ๆวัดจีนและแยกไฟแดง จะเห็นร้านขายติ่มซำอยู่ร้านนึงค่ะ วันนี้พอเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้ว ก่อนกลับกทม. งาเลยชวนแม่ทานร้านนี้ก่อนเพราะไกล้โรงแรมดี พอเดินไปไกล้ปรากฎว่าเป็นร้านคอหนังแต้เตี้ยม ร้านติ่มซำชื่อดังอีกร้านหนึ่งที่งาเคยได้ยินชื่อมา โชคดีมากเลยค่ะ เพราะจะได้ทานของอร่อยก่อนกลับ กทม. แต่ไม่รู้ว่าจะอร่อยเหมือนร้านโชคดีแต่เตี้ยมที่เพิ่งทานมาเมื่อวานรึป่าว บรรยากาศ เริ่มจากหน้าร้าน จะเห็นตู้กระจกและเข่งติ่มซำวางเรียงรายอยู่ด้านหน้า ร้านเป็นห้องแถว 2 ห้องเจาะทะลุถึงกัน ร้านดูไม่เก่าไม่ใหม่ เป็นร้านธรรมดาๆไม่เน้นตกแต่ง ดูแล้วสะอาดถูกสุขอนามัยดีค่ะ งารู้สึกว่าลูกค้าร้านนี้ไม่ค่อยคึกคักเท่าร้านโชคดีแต้เตี้ยม อาจจะเป็นเพราะพื้นที่ร้านของคอหนังแต้เตี้ยมกว้างขวางกว่า เลยทำให้มีโต๊ะว่างอยู่หลายโต๊ะมั้งคะ ร้านคอหนังแต้เตี้ยมนอกจากจะขายติ่มซำแล้ว ยังมีบัคกุเต๋ ขนมปังปิ้ง และน้ำชาด้วยค่ะ อุปกรณ์ อุปกรณ์การทานต่างๆเค้าเก็บไว้ในกล่องมีฝาปิดมิดชิด ดูสะอาดสะอ้านดีค่ะ ตะเกียบเป็นพลาสติกคีบอาหารยากไปหน่อยค่ะ ส่วนเคร่ืองปรุง มีซีอิ้วขาว จิ๊กโฉ่ว พริกน้ำส้ม และซอสสำหรับทานติ่มซำค่ะเครื่องดื่ม แม่งาสั่งชาร้อน รสชาติไม่หวานมากถูกใจแม่งาค่ะ ส่วนของงาสั่งเป็นเก๊กฮวยร้อน เค้าเสริฟมาทั้งกาเลยค่ะ น้ำเก๊กฮวยร้อนพอรินใส่แก้วน้ำเป็นสีเหลืองอ่อนๆไม่เหมือนน้ำเก๊กฮวยเลยค่ะ น้ำเก๊กฮวยกานี้เป็นน้ำเก๊กฮวยแท้เพราะงาลองเปิดฝากาดู ในน้ำจะมีดอกชาเก๊กฮวยลอยอยู่ รสชาติของน้ำเก๊กหวานนิดๆหอมดอกเก๊กฮวยมากเลยค่ะวิธีสั่งติ่มซำก็คือไปยืนชี้ๆหน้าร้านแล้วกลับมานั่งรอที่โต๊ะ เค้าจะเอาติ่มซำที่เราเลือกไปนึ่งให้ ร้านนี้ไม่ต้องจดเบอร์โต๊ะให้เค้าเลยค่ะเพราะเค้าจำได้ หลังจากสั่งไปไม่นานติ่มซำก็มาเสริฟ ติ่มซำ ร้านนี้ติ่มซำเข่งละ 14 บาทเองค่ะ แม้ร้านคอหนังแต้เตี้ยม กับร้านโชคดีติ่มซำ จะขายติ่มซำเหมือนกัน แต่หน้าตาของติ่มซำไม่เหมือนกันนะคะ วันนี้งาสั่งติ่มซำไปทั้งหมด 9 เข่ง ค่ะฮะเก๋าลูกใหญ่ ในเข่งมี 2 ลูก ขนาดพอดีคำใหญ่ๆ ด้านในเป็นใส้กุ้ง 2 ตัวผสมกับหมูสับ รสชาติเค็มนิดๆ มีความหอมของซีอิ้วขาว

ฮะเก๋าลุกเล็ก ในเข่งมี 4 ลูก แป้งข้างนอกใสๆนุ่ม พับมาเป็นจีบสวยงามเหมือนฮะเก๋าแบบลูกใหญ่ ฮะเก๋าแบบเล็กขนาดจะพอดีคำกว่าแบบลูกใหญ่ ใส้ข้างในเป็นกุ้ง 1 ตัวเพียวๆกุ้งข้างในสดเด้งดีค่ะ

กุ้งหวานสามสี ไม่รูเรียกถูกป่าว เป็นแป้งห่อคล้ายๆฮะเก๋า ด้านบนประดับด้วยถั่วลัเตา แครอท ข้าวโพดอ่อน ข้างในเป็นใส้กุ้งจืดๆค่ะ

ติ่มซำไข่แดง เป็นติ่มซำหมูผสมกุ้ง ด้านบนมีไข่แดงโปะ รสชาติเค็มนิดๆค่ะติ่มซำปลาหมึก เป็นติ่มซำหมูผสมกุ้งเหมือนติ่มซำไข่แดงค่ะ ด้านบนโปะด้วยหัวปลาหมึก ด้านล่างรองด้วยกระหล่ำม่วงซอยค่ะ

ติ่มซำเต้าหู้ เป็นติ่มซำหมูผสมกุ้งวางบนเต้าหู้นุ่มๆจืดๆแต่อร่อยค่ะ

ติ่มซำเต้ากุ้ง เป็นติ่มซำหมูผสมกุ้งพันไปบนตัวกุ้งเหลือแต่ส่วนหาง เมนูนี้ต่างจากเมนูอื่นตรงที่จะมีความหอมของใบขึ้นช่าย และจะเค็มเข้มข้นกว่าค่ะ

ติ่มซำบ๊ะจ่าง เมนูนี้งาชอบกว่าของร้านโชคดีแต่เตี้ยมค่ะ เพราะรสชาติเค็มหวานเข้มข้นกว่า ข้าวเม็ดรวนนุ่ม ด้านโปะด้วยไข่แดง เห็ดหอม กุญเชียงค่ะซาลเปาใส้ครีม ของร้านนี้เป็นรูปกลมๆเกลี้ยงๆหัวไม่แตก ตัวแป้งนุ่มๆใส้ด้านในหวานหอมอร่อยมากค่ะ

ซอสติ่มซำ อร่อยดีค่ะ ข้นกำลังดี รสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ คล้ายๆซอสมะเขือเทศ เวลาทานราดซอสไปบนติ่มซำแบบชุ่มๆแล้วทานอร่อยมากๆค่ะ

ค่าใช้จ่าย ติ่มซำ 9 แข่ง + น้ำชา 1 แก้ว + เก๊กฮวยร้อน 1 กา มื้อนี้ราคารวม 150 บาทค่ะ

สรุปนะคะ งาขอสรุปแบบเปรียบเทียบระหว่างร้านคอหนังแต้เตี้ยมที่งามาทานวันนี้ กับร้านโชคดีแต่เตี้ยมที่งาไปทานมาเมื่อวานนะคะ

รสชาติ ทั้งสองร้านอร่อยดีค่ะ ติ่มซำของทั้งสองร้านมีความต่างกันตรงที่ ร้านคอหนังจะมีส่วนผสมเป็นหมูกับกุ้ง ส่วนร้านโชคดีเป็นหมูเพียวๆ เรื่องรสชาติร้านคอหนังถูกปากงามากกว่าค่ะ

บรรยากาศและความสะอาด เป็นร้านธรรมดาไม่เน้นตกแต่งแต่และสะอาดสะอ้านทั้งสองร้านค่ะ

ราคา ดูจากความอร่อย และปริมาณ ไม่แพงทั้ง 2 ร้านค่ะ ของร้านคอหนังเข่งละ 14 บาท ของร้านโชคดีแต่เตี้ยม 16 บาทค่ะ

ที่ตั้ง มื้อเที่ยงวันที่ 2 ที่อยู่หาดใหญ่ งา แม่ พี่สาว มาทานที่ร้านฮาจิบังกัน เพราะเจ้าบ้าน(พี่สาว)เค้าอยากทานน่ะค่ะ ที่จริงร้านฮาจิบังเป็นที่รู้จักของหลายๆคนอยู่แล้ว วันนี้มาลองดูสาขาที่ต่างจังหวัดดูบ้างว่าจะเหมือนที่เราทานใน กทม.รึป่าว ร้านฮาจิบังที่มาทานวันนี้ คือสาขาลีการ์เด้นพลาซ่าหาดใหญ่ค่ะ ห้างลีการ์เด้นอยู่ไกล้กับห้างเซ็นทรัลและตลาดกิมหยงย่านการค้าค่ะ ร้านจะอยูชั้น 1 ของลีการ์เด้นพลาซ่า อยู่ไกล้ๆร้านมิสเตอร์โดนัท แถวๆบันไดเลื่อนน่ะค่ะบรรยากาศ บรรยากาศร้านทั้งภายนอกและภายในถอดแบบมาจากร้านฮาจิบังที่เราเห็นทั่วๆไปในกทม.เลยค่ะ ร้านเป็นไสตล์ญี่ปุ่น โทนสีไม้ครีมๆ เรียบง่าย สะอาดตา พื้นที่ร้านสาขานี้ไม่กว้างขวางมากนักแต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดค่ะ พนักงานก็อัธยาศัยดีได้มาตรฐานฮาจิบังค่ะเครื่องดื่ม แม่งาสั่งน้ำพั้นสีส้ม รสชาติเปรี้ยวๆหอมๆ ราคาประมาณ 30 บาทค่ะ พี่งาสั่งชาเขียวเย็น รสชาติขมนิดๆไม่หวาน ราคา 20 บาทค่ะ ส่วนงาสั่งน้ำเปล่า+น้ำแข็ง ราคาประมาณ 15 บาทค่ะ

เมนู เมนูอาหารและราคาก็เหมือนใน กทม.ค่ะ ของทานเล่น เริ่มต้นที่ของทานเล่นกันก่อนนะคะ สั่งมา 3 อย่าง งารู้สึกว่าของทานเล่นที่สาขานี้คุณภาพของอาหารจะสดใหม่กว่าสาขาที่ทานประจำที่กทม.ค่ะ อย่างเช่น

เอบิโรล เป็นแผ่นแป้งม้วนเป็นแท่งกลมๆข้างในเป็นใส้กุ้ง เสริฟมาร้อนๆ แผ่นแป้งกรอบกร้วบๆ ไส้กุ้งด้านในมีความหวานตามธรรมชาติ เนื้อหนึบๆดี เมนูนี้เน้นรสชาติธรรมชาติของวัตถุดิบค่ะ ทานจิ้มกับมายองเนส และกะหล่ำฝอยค่ะ ราคาแพงเหมือนกันนะคะ 4 แท่ง 63 บาทค่ะ

เกี้ยวซ่า ก็ดูสดใหม่ดีค่ะ ทอดมาพอเหลืองๆ แป้งห่อนุ่มๆ ใส้หมูเค็มนิดๆ หอมกระเทียมและขิงดีค่ะ มี 6 ชิ้น ราคา 58 บาท

ทาโกะยากิ เสริฟมาร้อนๆยังมีควันระอุอยู่เลยค่ะ ทาโกะยากิลูกกลมๆขนาดพอคำราดซอสสีน้ำตาลรสชาติเปรี้ยวๆเค็มๆ ตัวทาโกะยากิแป้งข้างนอกแห้งไม่ถึงกับกรอบส่วนแป้งข้างในเละๆ ตรงกลางรู้สึกว่าเป็นหนวดปลาหมึกเนื้อกรุบๆ เมนูนี้ทานแล้วได้รสสัมผัสแปลกๆดีค่ะ มี 5 ลูก ราคา 73 บาทค่ะโกโมะคึ ราเมน หรือราดหน้าแบบญี่ปุ่นนั่นเอง ของแม่งาค่ะ เส้นในราดหน้าเป็นเส้นบะหมี่ญี่ปุ่นแบนๆ เส้นจะใหญ่กว่าเส้นบะหมี่ทั่วไป เส้นเหนียวนุ่มดีค่ะ น้ำราดหน้าเค็มนิดๆมีความหอมของ โชยุ ต้นหอมญี่ปุ่น น้ำข้นกำลังดีค่ะ ผักเป็นกะหล่ำปลี เนื้อสัตว์มี กุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา และไข่ต้มค่ะ ราคา 98 บาทค่ะทงโค๊ะสึ ทันตัมเมน เมนูนี้ของเพื่อนพี่สาวงาค่ะ ตามมาทีหลัง แม่ใช้ให้พี่สาวงาโทรไปชวนเพราะไม่ได้เจอกันนาน เมนูนี้เป็นเส้นบะหมี่ญี่ปุ่นเส้นเล็ก น้ำซุบหอมกระดูกหมูและต้นหอมญี่ปุ่นรสชาติเค็มนิดๆ ด้านบนโปะด้วยหมูสับที่ผัดมาแบบเค็มๆหวานๆ ที่เป็นฝอยๆคือต้นหอมญี่ปุ่นค่ะ เมนูนี้อร่อยดี แต่ทานไปก็เลี่ยนๆเหมือนกันค่ะ ราคา 78 บาท ค่ะต้มยำชาชู ราเมน เมนูนี้ของพี่สาวงา เป็นเส้นบะหมี่ญี่ปุ่น เส้นกลมๆหยิกๆเหมือนเส้นมาม่าญี่ปุ่นค่ะ สีน้ำต้มยำดูเหมือนจะเผ็ด แต่ไม่เผ็ดเลยค่ะ รสชาติเปรี้ยวๆเหมือนมาม่าต้มยำน่ะค่ะ ด้านบนเป็นหมูอบแบบญี่ปุ่นรสชาติหวานๆหั่นมาบางๆ ราคา 80 บาทค่ะคาโมนิ เมนูนี้ของงาเองค่ะ เมนุนี้น่าจะเป็นอาหารจีนมากกว่าอาหารญี่ปุ่นนะคะ เป็นเป็ดพะโล้เนื้อนุ่มๆหั่นมาบางๆ ราดน้ำพะโล้มาชุ่มๆ รสชาติเค็ม หวานนิดหน่อย ทานจิ้มกับพริกน้ำส้มรสชาติเปรี้ยวๆแต่ไม่เผ็ด งาสั่งข้าวเปล่ามาทานคู่กันค่ะ เป็นข้าวหอมมะลิค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเสริฟมาเป็นข้าวญี่ปุ่นซะอีก สงสัยงาสั่งผิดเองค่ะ บอกเค้าว่าเอาข้าวเปล่า ไม่ได้บอกว่าเอาข้าวสวยญี่ปุ่น ข้าวเปล่าราคา 18 บาท ส่วนเป้ดพะโล้ราคา 83 บาทค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ อร่อยได้มาตรฐาน แต่ที่ขอชมคืองาว่าคุณภาพอาหารจะสดใหม่กว่าที่เคยทานน่ะค่ะ
บรรยากาศ นั่งสบายไม่อึดอัดค่ะ
บริการ ดีมากได้มาตรฐานค่ะ
ความสะอาดได้มาตรฐานค่ะ แต่เรื่องเคลียจาน ไม่ค่อยมาเก็บไปเลยค่ะ ทำให้โต๊ะรกๆ
ราคา เป็นราคามตรฐานของฮาจิบังค่ะ งาว่าของทานเล่นราคาจะสูงไปซักหน่อย

ที่ตั้ง รีวิวนี้ยังอยู่ที่หาดใหญ่นะคะ มาหาดใหญ่มื้อเช้าต้องทานติ่มซำค่ะ ได้ยินเสียงล่ำลือว่าทานติ่มซำที่หาดใหญ่ต้องมาทานร้านโชคดีแต่เตี้ยม วันนี้งากับแม่เลยลองมาทานดูค่ะ อยากรู้ว่าอร่อยจริงป่าว ร้านโชคดีแต่เตี้ยม อยู่ที่ซอยละม้ายสงเคราะห์ ไม่ไกลมากจากตลาดกิมหยง วันนี้งากับแม่เดินมาจากตลาดกิมหยงค่ะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ขามาเดินถามคนมาตลอดเลยใช้เวลานานหน่อย จุดแลนด์มาร์คของย่านนี้คือโรงเรียนศรีนคร ทางเข้าโรงเรียนสวยมากเลยค่ะออกแนวจีนๆ พอมาถึงโรงเรียนศรีนคร ก็ให้เดินเข้ามาในซอยละม้ายสงเคราะห์ จะถึงร้านร้านข้าวมันไก่คลองเตยก่อน เดินเลยมาหน่อยก็ถึงร้านโชคดีแต่เตี้ยมค่ะ จากโรงเรียนศรีนครร้านโชคดีแต่เตี้ยมจะอยู่ซ้ายมือค่ะ ร้านสังเกตง่ายเพราะหน้าร้านจะคึกคัก มีคนเยอะๆ กว่าร้านอื่นๆค่ะ เวลาเปืดร้านจะเปืด 2 ช่วงคือ 6โมงเช้าถึงเที่ยง และ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มนะคะบรรยากาศ ร้านโชคดีแต่เตี้ยมเป็นห้องแถว 2 ห้องติดกัน แต่ไม่ได้เจาะทะลุถึงกันนะคะ หน้าร้านมีเข่งติ่มซำวางเรียงรายอยู่ ภายในร้านเป็นร้านธรรมดาๆ ไม่เก่าไม่ใหม่ ดูสะอาดสะอ้านดีค่ะ ลูกค้าที่มาทานมีทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวมาเลย์ค่ะ พอมาถึงหน้าร้านจะมีอาเฮียสงสัยเป็นเจ้าของร้านจะถามว่ามากี่คน แล้วเค้าก็จดเบอร์โต๊ะใส่กระดาษมาให้ ไว้สำหรับให้เราเอากระดาษใบนั้นไปยื่นให้คนนึ่งติ่มซำ เค้าจะได้มาเสริฟถูกโต๊ะค่ะ อุปกรณ์การทาน บนโต๊ะมีเครื่องปรุง คือ พริกน้ำส้มไว้ทานกับบัคกุเต๋ ซอสสีแดงใสๆรสชาติหวานๆเปรี้ยวนิดๆไว้ทานกับติ่มซำ จิ๊กโฉ่วและซีอิ้วขาวค่ะ ข้างๆโต๊ะจะมีอุปกรณ์การทานไว้สำหรับบริการตัวเองคือแก้วน้ำชา ช้อนกลาง จานแบ่ง ตะเกียบ ถ้วยน้ำจิ้มค่ะ นอกจากนั้นทางร้านก็มีผักชีต้นอ้วนๆ ไว้ทานเคียงกับอาหารด้วยค่ะเครื่องดื่ม งากับแม่สั่งเป็นชาร้อนค่ะ ชาร้อนของที่นี่สีจะอ่อนๆสีไม่แจ๊ดเหมือนที่กรุงเทพ ชาของที่นี่จะกลิ่นหอมกว่าด้วยค่ะ เค้าชงมาแบบไม่หวานมาก ราคาประมาณแก้วละ 15 บาท สั่งชาร้อนได้น้ำชามาฟรี 1 กาด้วยค่ะ หลังจากไปยืนเลือกติ่มซำที่หน้าร้านและยื่นกระดาษเบอร์โต๊ะให้คนนึ่งซักพักเล็กๆ ทาวเวอร์ติ่มซำก็มาเสริฟค่ะ สั่งไป 7 เข่ง เสริฟมากำลังร้อนละอุเลยค่ะ เค้ามีที่คีบเข่งมาให้ด้วยอยู่บนเข่งติ่มซำชั้นบนสุดน่ะค่ะราคาเข่งละ 16 บาทค่ะติ่มซำที่สั่งทั้งหมดค่ะ ติ่มซำที่เป็นข้าวเหนียว รสชาติหวานๆเค็มๆข้าวสุกนุ่มกำลังดีค่ะ
ติ่มซำกุ้งโปะมาบนใส้หมู ก่อนนึ่งกุ้งตัวใหญ่ดีค่ะ แต่พอนึ่งเสร็จแล้วกุ้งหดสงไปเยอะเลยค่ะ
ฮะเก่า ชิ้นขนาดพอคำใส้กุ้งขนาดกลางๆ รสชาติจืดๆอร่อยดีค่ะ
ติ่มซำปลาหมึกใส้หมูเหมือนติ่มซำกุ่งเลยค่ะ ตัวใส้หมูจะเค็มนิดคล้ายๆใส้ในขนมจีบน่ะค่ะติ่มซำปลาทอด อร่อยดีค่ะ เป้นปลาชุบแป้งทอดราดด้วยน้ำแดงแบบจีน รสชาติเค็มนิดๆกำลังอร่อยเลยค่ะ เสียดายมดายมีก้างด้วยอ่ะค่ะ

โครงหมูราดซอส หมูเปื่อยกำลังดีราดด้วยซอสเค็มๆหวานๆคล้ายแกงมัสมั่นน่ะค่ะ

ซาลาเปาใส้ครีม ลูกเล็กๆน่ารัก ใส้ครีมสีเหลืองสวยและหอมหวานมากเลยค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ
บรรยากาศร้าน ดูสะอาดสะอ้านถูกสุขลักษณะดีค่ะ
บริการ ความสะอาดด ปกติค่ะ
ราคา ไม่แพงค่ะ มื้อนี้งากับทานไปรวม 120 บาทเองค่ะ

ที่ตั้ง รีวิวนี้เป็นมื้อค่ำของวันที่มาเที่ยวหาดใหญ่วันแรกค่ะ พวกเรามาทานที่ ร้านพี่เล็ก 59 กันค่ะ มีสมาชิกที่มาทานมี 4 คน คือ งา แม่ พี่สาว และพี่เขยค่ะ ร้านพี่เล็ก 59 ตั้งอยู่บนถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ถ้ามาจากตลาดกิมหยงร้านจะอยู่ซ้ายมือ ที่แยกไฟแดงตรงข้ามโรงแรมซากุระค่ะ หน้าร้านจะมีชื่อร้านตัวใหญ่ๆเด่นตระหง่านเลยค่ะ รูปแรกสุดเป็นรูปหน้าร้าน ถ่ายตอนทานเสร็จออกจากร้านแล้วนะคะ บรรยากาศ ร้านพี่เล็ก 59 เป็นร้านอาหารไทย-จีน ร้านเป็นสีขาวๆ หลังคาร้านเป็นโครงเหล็กโค้งๆสูงๆซ้อนกัน 2 ชั้น หลังคาสูงๆทำให้ร้านอากาศถ่ายเทและโปร่งดีค่ะ ส่วนครัวเป็นแนวยาว ขนานไปกับโต๊ะลูกค้า ลูกค้าสามารถมองเห็นเวลาพ่อครัวทำอาหาร ภายในร้านเป็นโทนสีขาว เก้าอี้ผ้้าปูโต๊ะก็เป็นสีขาว โต๊ะนั่งมีทั้งแบบโต๊ะจีนกลมๆ และโต๊ะเหลี่ยม โต๊ะที่พวกเรานั่งวันนี้อยูริมราวเหล็กติดกับฟุตบาตร ลมเย็นสบายดีค่ะ

อุปกรณ์การทาน เป็นจานพลาสติกใบใหญ่ดีค่ะ ส่วนช้อนเค้ามีน้ำร้อนใส่แก้วมาให้ลวกช้อนด้วยค่ะ เครื่องดื่ม สามสาวทานเป๊ปซี่กันค่ะ ส่วนหนุ่มหล่อสั่งเบียร์ลีโอค่ะ เบียร์เป็นเนื้อวุ้นรินมาในแก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ที่ก้นแก้ว สำหรับราคาเบียร์ลีโอขวดละ 100 บาทค่ะ ส่วนเป๊ปซี่จำราคามิได้ค่ะโป๊ะแตก เมนูแรกเป็นโป๊ะแตกค่ะ เป็นแบบน้ำใส รสชาติจัดจ้านดีค่ะ เปรี้ยวปี๊ดเผ็ดดี โป๊ะแตกมีกุ้ง ปลาหมึก ปลากระพง ปู เนื้อสดและปริมาณเยอะดีค่ะ ราคาไม่เกิน 150 บาทค่ะทะเลผัดผงกะหรี่ เป็นกุ้ง ปลาหมึก ปลา ลูกชิ้นปลา เนื้อปู ผัดมากับไข่ ต้นหอมและเครื่องผงกะหรี่ รสชาติเข้มข้นมาก เค็มๆหวานๆ เมนูนี้จานใหญ่และปริมาณก็เยอะด้วยค่ะ ราคาประมาณ 100-150 บาทค่ะกุ้งอบวุ้นเส้น เป้นกุ้งลายเสือตัวใหญ่ๆ ราคาเค้าคิดเป้นน้ำหนักค่ะ มา 4 คน สั่งมา 4 ตัว กุ้งเนื้อสดมาก เค้าผ่ากลางหลังมาแล้วทำทานสะดวกดีค่ะ ส่วนวุ้นเส้นเป็นเส้นอ้วนๆไม่เหมือนกับวุ้นเส้นที่เราเห็นโดยทั่วๆไปเลยค่ะเหนียวนุ่มดี รสชาติของกุ้งอบวุ้นเส้นรวมๆแล้ว เค็มๆหวานๆ หอมซีอิ้วดำดีค่ะ ราคาประมาณ 450-500 บาทปลาสำลี ชื่อเต็มๆจำไม่ได้อ่ะค่ะ ปลาสำลีเค้าคิดตามน้ำหนักเหมือนกันนะคะ เสริฟมาตัวใหญ่มาก เป็นปลาทอดกรอบด้านบนราดด้วยน้ำยำหวานๆไม่เผ็ดมาก เสริมความเปรี้ยวด้วยมะม่วงเบาหั่นฝอย มะม่วงเบาเป็นมะม่วงพื้นเมืองของภาคใต้ค่ะ เป็นมะม่วงลูกเล็กๆ เอามาแช่อิ่มและทานกับน้ำปลาหวานอร่อยมากค่ะ ราคาของปลาสำลีจานนี้ 550 บาทค่ะสระลอยแก้ว น้ำเชื่อมเป็นน้ำแข็งเนื้อละเอียด หน้าตาคล้ายๆกับสระลอยแก้วร้านตาชั่งอีสานใต้สาขาสนามบินเลยค่ะ รสชาติก็คล้ายกัน คงจะรับมาจากร้านเดียวกันมั้งคะ รสชาติน้ำเชื่่อมที่เป็นน้ำแข็งหวานๆเปรี้ยวๆคล้ายน้ำบ๊วย ส่วนสระก็คว้านเมล็ดแล้ว รสชาติหวานเปรี้ยวไม่มากค่ะ สระลอยแก้วงาว่าร้านตาชั่งอีสานใต้ได้เนื้อเยอะกว่า แถมราคาถูกกว่าด้วยค่ะ ร้านพี่เล็กราคา 40 บาท ส่วนร้านตาชั่ง 30 บาทค่ะ

ค่าใช้จ่าย ลืมบอกไปว่า ข้าวเปล่าของที่นี่เค้าคิดเป็นคนนะคะ คนละ 20 บาท จะเติมหลายจานเค้าก็คิดแค่ 20 บาทไม่คิดเงินเพิ่มค่ะ ส่วนราคาอาหารและเครื่องดื่มมื้อนี้รวม 1500 บาทค่ะ

สรุปนะคะ
รสชาติ อร่อยมากค่ะ ของทะเลสดมากๆ
บรรยากาศ ร้านโปร่งๆนั่งสบายดีค่ะ
บริการ ดีค่ะ อาหารได้เร็ว และแนะนำอาหารได้ดีค่ะ
ความสะอาด ได้มาตรฐานค่ะ
ราคา มีทั้งถูกและแพงแล้วแต่ประเภทอาหารค่ะ ถ้าอาหารประเภทคิดตามน้ำหนักจะราคาสูงกว่าอาหารประเภทอื่นหน่อยค่ะ