นักรีวิวร้านอาหาร

ร้านอยู่ส่วนหน้าของ Vanilla Garden เลยค่ะ
บรรยากาศร้านภายนอกเหมือนบ้าน ร่มรื่น สบายๆ ด้านในตกแต่ง
สไตล์ Industry เหมือนเราเข้ามาอยู่ในโรงงานขนมอบ  เก๋สุดเลยค่ะ
เบเกอรี่ในตู้ทุกสิ่งอย่าง น่าทานไปหมด
มีมุมจำหน่ายสินค้า Gift Set และสินค้าอื่นๆ เช่น Hand Cream , Hand Wash , สมุด, ของแต่หน้าเค้ก , ฯลฯ

วันนี้ได้มาชิมเมนูพิเศษค่ะ ช่วงฉลองเทศกาลปีใหม่ ราคาสุดคุ้ม Christmas Party Menu
สำหรับทานได้ 4-5 ท่าน ในเซ็ตมีเครื่องดื่ม ของทานเล่น สลัด พาสต้า จานหลัก และขนมหวาน แบบครบๆ ราคา 2,000 บาท รายการตามนี้เลยค่ะ
มาเริ่มกันที่เครื่องดื่ม Christmas Cocktail มีให้เลือก 2 อย่าง
Christmas Carol หรือ Blueberry Night เลือกมาอย่างละ 2 แก้วค่ะ
คริสต์มาสแครอล แก้วสีส้มก็จะออกแนวพันช์ผสมน้ำส้ม ส่วนแก้วสีม่วง บลูเบอรี่ไนท์ก็จะออกเปรี้ยวบลูเบอรี่ค่ะ รสชาติแนวผลไม้ดื่มง่าย สาวๆต้องชอบแน่นอนค่ะมาพร้อมกับ Appetizer
Parmesan Garlic Popcorn
ป๊อปคอร์นพาเมซานการ์ลิคแบบมีรสชาติ ไม่จืดชืดทานเพลินกันไปเลย
ต่อด้วยBig Bread & Spreads
บิ๊กเบรดแอนด์สเปรต  ขนมปังบาแก็ต แบบกรอบๆ มาพร้อมสเปรดให้เลือกทาน 4 รส  ปาเต้ตับเป็ด (ซ้าย), ครีมชีสแซลมอนเคเปอร์ (บน) , ครีมชีสแอนโชวี่เลมอน (ล่าง) และ ครีมชีสเบคอน (ขวา) ชอบทุกรสชาติเลยค่ะ แต่ถูกใจที่สุดเป็น ครีมชีสแซลมอนเคเปอร์เพราะมีรสชาติเข้มข้นดี
Salad เลือกเป็น สลัดแซลมอนกราฟแล็กซ์  รสชาติตัดกันดีระหว่างเนื้อแซลมอนและน้ำสลัด  มีไข่ขาวและไข่แดงที่ทางร้านมีกรรมวิธีผลิตพิเศษทำให้เป็นอนูเล็กๆ ทานแล้ว มีสัมผัสเหมือนวุ้นเล็กๆ ทำให้รสชาติสลัดกลมกล่อมขึ้นได้ด้วยค่ะ
พาสต้าเลือกได้ระหว่าง Baked Pasta Garlic Butter Clams เบคพาสต้าหอยลายเนยกระเทียม  รสชาติอร่อย กลมกล่อม หอมกระเทียม ตัวแป้งพาสต้าหน้าตาไม่เหมือนใคร ขดเหมือนหนอน ผิวสัมผัสหนึบอร่อยค่ะ
หรือ จะเลือกเป็น Mexican Pork Lasagna เม็กซิกันพอร์คลาซานญ่าโดยเนื้อหมูด้านในชุ่มฉ่ำ ด้านบนชีสจัดเต็ม มีผักโขมอบแทรกด้วย ทานอุ่นๆ สุดยอดเลยค่ะเมนูนี้
Main Dish เลือกเป็น Pork Loin Steak with Spicy Herbs Dipping Sauce and Honey Mustard สเต็กหมูพอร์คลอยน์ – ซอสครีมสมุนไพรรสจัดและฮันนี่มัสตาร์ด  หมูชิ้นใหญ่หนา มาพร้อมซอสสมุนไพรอารมณ์คล้ายซอสครีมซีฟู้ด เปรี้ยวเผ็ด ทานเพลินไม่เลี่ยนแน่นอนค่ะจานนี้
ปิดท้ายด้วย Special Dessert
Orange Candied Christmas Ring
ออเรนจ์แคนดี้คริสต์มาสริงค์  ส่วนผสมจากล่างสุดเป็น ดาร์คช็อคโกแลตกับวิสกี้ซอส โรยด้วยมาร์ชเมลโล่ ตรงกลางเป็นครัวซองโดนัทสูตรของทางร้านผิวนอกกรอบ ด้านในนุ่มหอมสุดๆ ด้านบนเป็นไอศกรีมวนิลา ท้อปปิ้งด้วยผิวส้มราดคาราเมลเมื่อเจอความเย็นของไอศกรีมก็แข็งตัวเป็นเกร็ดลาวากรอบ สุดยอดเลยค่ะ ทานแล้วมันฟินมากจริงๆ

เมื่อถูกใจใช่เลย ขอสั่งเมนูนี้แบบ Signature ของร้านอีก 1 จานทันทีค่ะ จะต่างกันตรงที่ด้านล่างเป็นซอสคัสตาร์ด ด้านบนเป็นคาราเมลเฉยๆไม่มีผิวส้ม อันนี้ก็ออกแนว หวาน หอม นวลๆ อบอวลวนิลามากๆค่ะ ส่วนตัวชอบเมนูพิเศษเพราะซอสช็อคโกแลตด้านล่างค่ะ พอดีเป็นคนชอบทานช็อคโกแลต แอบลุ้นให้เมนูนี้เป็นเมนูประจำร้านด้วยอ่ะ
ลองเครื่องดื่มเพิ่มเป็น Chocolate Macaron Frosty 175 บาท สุดยอดของเครื่องดื่มช็อคโกแลต ชุ่มฉ่ำ เข้มข้น เหมือนมิลค์เชคข้นๆกับไอศกรีมผสมกัน คนรักช็อคโกแลตต้องลองนะคะ  Shandy Beer 260 บาท รส Lemonade Soda เหยือกใหญ่อยู่นะ แต่ซ่าโซดา เลยดื่มเพลิน ดื่มง่าย ค่ะ Beer Punch 260 บาท รส Bubble Gum ดื่มง่าย เหมือนน้ำส้มค่ะ สองเหยือกนี้ดื่มง่าย ไม่ขม รับประกันสาวๆต้องชอบค่ะ

มานานแล้วนะคะ ตอนมีโปรโมชั่นกุ้งมังกรค่ะ
“Iwai” แปลว่า การเฉลิมฉลอง  ไฮไลท์ของคอร์สไคเซกิ อิวาอิ คือ กุ้งมังกรอิเสะเอบิ หรือ กุ้งมังกรญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นราชันย์กุ้งของทะเลญี่ปุ่น  ซึ่งมีราคาสูงที่สุดในบรรดากุ้งทั้งหมด เนื่องจากหาทานยากมาก มีการจำกัดจำนวนในการจับ  โดยชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าทานแล้วจะอายุยืนยาว เนื่องจากเปลือกกุ้งสีแดงเข้มคล้ายเกราะซามูไร ตัวกุ้งงอเหมือนผู้อาวุโสที่มีอายุยืนยาว ทั้งนี้มีรสชาติเฉพาะตัวที่หวาน มัน อร่อย  ซึ่งทางร้านได้สั่งกุ้งมังกรอิเสะเอบิ  โดยตรงจากจังหวัดโทคุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น มาจัดเป็นเมนูพิเศษให้ได้ทานกันค่ะ 
คอร์สไคเซกิ อิวาอิ ประกอบด้วย 11 รายการดังนี้
1.เต้าหู้มิเนโอกะ กับ ไข่หอยเม่น  เต้าหู้เนียน หนึบนิดๆ ทานกับไข่หอยเม่นสดๆ ค่ะ
2.เนื้อปูทาราบะพร้อมพอนสึเยลลี่ เสิร์ฟในกระดองปู  มีเนื้อปูหวาน เข้ากับซอสพอนสึทำเป็นเยลลี่ มีรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ข้างใต้มีผักด้วย  เมนูนี้อร่อยถูกใจค่ะ
3.ซาชิมิ โอโทโร่ มาได (เนื้อท้องปลาทูน่า และ เนื้อปลากระพงแดง)  โอโทโร่ หวานนุ่ม ละลายในปาก ส่วนปลากระพงแดงก็สดอร่อยสุดๆ
4.สลัดเต้าหู้ญี่ปุ่นในน้ำมันมะกอก เสิร์ฟพร้อมเกลือหิมาลายา  เต้าหู้อันนี้ก็เนื้อเนียน แต่เนื้ออ่อนแบบไม่หนึบค่ะ ฝนเกลือหิมาลายาลงไปตามชอบเลย ถือเป็นเมนูสุขภาพที่ดีเลยค่ะ
5.ซูชิอิคุระนึ่งกับเปลือกส้มยูซึ  ข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอน มีไข่หวานเป็นแผ่นและหอมส้มยูซึค่ะ
6.สุกี้ยากี้เนื้อวากิวในหม้อดิน  อันนี้หอมเนื้อวากิวสุดๆ ทานร้อนๆ จะเอาเนื้อมาจิ้มกับไข่ดิบก็ได้ตามชอบ รสชาติซุปเข้มข้นถูกใจมากๆค่ะ เป็นคนชอบทานสุกี้สไตล์ญี่ปุ่นอยู่แล้ว พอได้ชิมอยากจะสั่งเพิ่มทันทีเลยค่ะ
7.ปูสึวาอิพันฟองเต้าหู้ทอดสไตล์อิโซเบะ  คล้ายๆ ปูเทมปุระค่ะ ทานเล่นเพลินๆค่ะ
8.ชิราชิซูชิ ข้าวหน้าต่างๆ มีปลาดิบ 3 อย่าง กุ้งหวาน  ไข่ปลาแซลมอน และผัก ค่ะ
9.ซุปมิโสะฟองเต้าหู้  รสเข้มอร่อย พร้อมฟองเต้าหู้เป็นแผ่นใหญ่ชอบค่ะ
10.กุ้งมังกรอิเสะเอบิ นึ่ง หรือ ย่างเตาถ่าน  1 ตัว  ขอเลือกเป็นแบบนึ่งค่ะ  Highlight มาเสิร์ฟแล้ว กุ้งมังกรญี่ปุ่น ตัวใหญ่ เต็มถาดนึ่งแบบนี้เลย  ใช้เวลานึ่งประมาณ 3-4 นาที ค่ะ สุกแล้วเปิดฝามาหอมสุดๆ เนื้อฟูขึ้นมาไม่แฟ่บ รสชาติหวาน สด แน่น อร่อยสุดๆ ค่ะ  ที่ชาวญี่ปุ่นบอกว่ากินแล้วอายุยืน คือ เชื่อเลย เพราะกินแล้วมันฟิน มีความสุขกับความอร่อยของเนื้อกุ้งนี่เอง  อันนี้คิดเอง หุหุ  ส่วนใครต้องการเพิ่มรสชาติเค้ามีน้ำจิ้มเสิร์ฟมาด้วยค่ะ รสชาติออกเค็มนิดๆ หอมเนย มันๆ ก็ได้รสชาติไปอีกแบบนะคะ

ห้องอาหาร เอสเพรสโซ่ บรรยากาศ คลาสสิก หรูหรา ที่นั่งมีเยอะอยู่ แต่ขอโทษค่ะ ถ้าไม่จองล่วงหน้าเต็มนะคะ อืมม คนที่มาย่านนี้เค้ากำลังซื้อไม่จำกัดจริงๆ  อ่ะมาดูไลน์อาหารกันเลยค่ะ เริ่มจากทางเข้าไปเลยค่ะ ชีส สลัดบาร์ ต่อด้วย ถ้วยเล็กถ้วยน้อยในตู้ จัดได้อย่างสวยงาม สีสันชวนทาน เป็นพวกสลัด ยำ ต่างๆ และโคลคัทค่ะ เช่น สลัดปูอัด สลัดกุ้ง ยำหอยเชลล์ ตับห่านราดซอส อกเป็ดรมควัน ชีส พาร์ม่าแฮม แซลมอนรมควัน
ต่อด้วย ซีฟู้ด ออนไอซ์ อลังการ สด ใหญ่ มี กั้ง กุ้งแชบ๊วย กุ้งแม่น้ำ ปูอะลาสก้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มแบบอินเตอร์ค่ะ จุดนี้ก็ถือเป็น Highlight หนึ่งของที่นี่ด้วยค่ะ
ต่อด้วยตู้ซูชิ มีซูชิ และ ซาชิมิ สดๆ ค่ะ ตามรูปเลย สำหรับวันอาทิตย์พิเศษมีปลาหมึกคลุกซอสอันนี้ด้วยค่ะ
ต่อไปเป็นไลน์อาหารจีนและอินเตอร์ค่ะ มีห่อหมก ข้าวผัดปลาแซลมอน กุ้งนึ่ง ปูจ๋า ผักอบ ผัดผัก ซีฟู้ดอบชีส และ Highlight ของไลน์นี้ ส่วนตัวคิดว่าเป็นอันนี้ค่ะ สตูว์เนื้อตุ๋นแบบนุ่มละลายในปาก ชอบมาก และ ปลาหิมะในซอสอร่อยๆ เนื้อขาวจั๊ว หวาน อร่อย ยังไม่หมดต่อด้วยสเตชั่นพาสต้า อยากได้อะไรสั่งได้ค่ะ และตรงนี้สั่งตับห่านราดซอสได้ด้วยค่ะ
ส่วนด้านหลังตรงนี้ก็เป็น Highlight อีกเช่นกัน Boston Lobster ค่ะ เค้ากำลังเตรียมใส่จานพร้อมเสิร์ฟทุกโต๊ะ โดยเสิร์ฟให้ท่านละครึ่งตัวค่ะ
ต่อกันที่อาหารจีนค่ะ ตรงนี้มีขนมจีบ ซาลาเปา หมูแดง เป็ดย่าง ข้าวมันไก่ หมูกรอบ ครบเลยค่ะ
ต่อด้วย Station Grilled สั่งให้กริลล์ได้เลยค่ะ มีกุ้งแชบ๊วย เนื้อปลา ขาแกะออสเตรเลีย และเนื้อวากิว ขอบอกว่า คนรักเนื้อห้ามพลาดเนื้อวากิวของจุดนี้เด็ดขาดค่ะ

ปิดท้ายของคาวด้วย หอยนางรมฟินเดอแคลร์ พร้อมไข่ปลาคาร์เวียร์เกรดเอจากญี่ปุ่น มีให้ตักกันตรงนี้ค่ะ
น้ำผลไม้ต่างๆ

แน่นอนว่ามาแล้วต้องชิมพร้อม package สำหรับคนชอบดื่มค่ะ
แพ็คเกจ Veuve Clicquot เพิ่มเพียง  4,599++ บาท (ขวดขวา)
แพ็คเกจ Chandonเพิ่มเพียง  1,499++ บาท (ขวดกลาง)
แพ็คเกจ Prosecco          เพิ่มเพียง  1,299++ บาท (ขวดซ้าย)
ชิมแล้วส่วนตัวชอบขวดขวาที่สุด รสดีไม่บาดคอ มิน่าล่ะแพงสุด รองลงมาก็เป็นขวดซ้ายค่ะ ส่วนขวดกลางออกขมแรงบาดคอไปนิดค่ะ

บรรยากาศมีวงดนตรีแจ๊ซ สร้างเสียงเพลงสบายๆกัน มีจับฉลากรับรางวัล Voucher ทานฟรีครั้งต่อไปด้วยแน่ะ

อิ่มของคาวแบบให้มีที่เหลือ แล้วไปดูของหวานกันค่ะ มีไวท์ช็อค ดาร์คช็อค เค้กช็อคโกแลต มูสช็อคโกแลต มะม่วงชีสเค้ก เค้กแครอท มูสสตอเบอรี่ โดนัททีรามิสุ เมอแรงค์ คัสตาร์ด ทาร์ตผลไม้ ข้าวเหนียวมะม่วง พายผลไม้ และไอศกรีมรสเข้มข้นค่ะ ปิดท้ายด้วยผลไม้สด ชา หรือ กาแฟ ตบท้ายค่ะ

ก็เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ราคาคุ้มค่า ในบรรยากาศสวยหรู คุณภาพอาหารดี ความหลากหลายเป็นเลิศ ไม่ผิดหวังในราคา 1,999 ++ บาท/ท่าน แนะนำให้มาทานกันค่ะ โดยเฉพาะคนรักซีฟู้ด

บุฟเฟ่ต์มื้อเย็น ไปมานานแล้วนะคะ ตอนมีโปรโมชั่น ชั้น 9 โรงแรม Bangkok Hotel Lotus Sukhumvit
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า บีทีเอส ลงสถานี พร้อมพงษ์ ทางออกฝั่งตรงข้ามเอ็มโพเรียมแล้วเดินย้อนกลับไปทางอโศก ระยะประมาณ 300 เมตร เจอปากซอยสุขุมวิท 33 ก็เดินเข้าซอยไปเลยค่ะ จะเห็นตึกโรงแรมอยู่ซ้ายมือ เดินเข้ามาเจอล็อบบี้ดอกบัวสบายๆ ขึ้นไปที่ห้องอาหารกันค่ะ บรรยากาศห้องอาหารสีขาว สบายๆ บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นเป็นอาหารนานาชาติ และมีอาหารอินเดียประมาณ 40% ค่ะ โดยทางโรงแรมแจ้งว่าตั้งแต่เดือนธันวาคมจะปรับอาหารอินเตอร์และอาหารไทยให้มีสัดส่วนมากขึ้นจากการขาย Deal ไปหลายแห่ง  มาดูกันเลย อาหารไทยแบบกับข้าวมี กุ้งห่อเกี๊ยวทอด ปลาแซลมอนซอสแกงเขียวหวานรสเข้มอร่อยดี ลาบไก่ ยำสามกรอบ อาหารจีนมีหมี่ซั่ว  อันนี้เป็นผักบดราดซอส ซุปเสฉวน อาหารอินเตอร์มีหอยแมลงภู่อบชีส สลัดบาร์ สลัดพร้อมทาน สเตชั่นกริลล์เลือกไปให้พนักงานกริลล์ให้ได้เลยค่ะ เชฟกริลล์จัดจานมาให้ซะสวยเชียว มีทั้งปลาดอลลี่ ปลาแซลมอน กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่ พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำจิ้มแจ่วค่ะ สเตชั่นพาสต้าสั่งได้ ลองคาโบนาร่า ข้นดี แต่เส้นนิ่มไปหน่อยค่ะ ซูชิกับซาชิมิก็มีค่ะ สเตชั่นอาหารอินเดียทานเล่น เชฟทำมาให้ค่ะ สเตชั่นอาหารอินเดียเป็นไก่ติ๊กก้าสูตรต่างๆ และชีสนมแพะย่างค่ะ ลองกันได้ทานไม่ยาก มีแกงอินเดียเป็นเนื้อแกะทานกับแป้งนานสูตรกระเทียม ก็โอเคอยู่ค่ะ อาหารอินเดียอื่นก็มีแกงกับข้าวประมาณนี้  ไลน์ขนมหวานค่ะ มีช็อคโกแลตมูส บลูเบอรี่ชีสเค้ก มาการอง โอเปร่าเค้ก โดนัทอร่อยๆ ไส้ครีมมะนาวและช็อคโกแลต  และขนมหวานสไตล์อินเดีย กุหลาบจามุนค่ะ ลองกันไปให้ครบ เห็นมีไวน์แก้วละ 150 บาท ของออสเตรเลีย ลองเลย รสชาติโอเคอยู่  ปิดท้ายด้วยผลไม้สด  ชา หรือ กาแฟ ตบท้ายสั่งได้ค่ะ พอสองทุ่มก็มีนักร้องอินเดียมาขับกล่อมเพลงให้ฟังด้วยค่ะ
บุฟเฟ่ต์ราคา 890 บาท เน็ต ต่อท่าน รวมน้ำเปล่าและชา กาแฟ ขณะนี้ลด 25% ยังไม่มีกำหนด และมีการขาย Deal ที่ Ensogo ราคา 399 บาท เน็ต

La Vue (ลา วู) ห้องอาหารฝรั่งเศสแบบสุดหรู กับวิว 180 องศา ชั้น 25 โรงแรม Siam@Siam Design Hotel and Spa Bangkok มองตรงไปเห็นสนามกีฬาแห่งชาติกว้างใหญ่ หันไปทางขวา เห็นถนนมหานาคและทางด่วน ชอบวิวสวยๆ แบบนี้จัง ยิ่งมืดแสงสีไฟก็สวยงาม มองไปเห็นแสงไฟชมวิวกรุงเทพเพลินไปเลย เหมาะกับทุกโอกาสพิเศษ

มาเริ่มด้วย ขนมปัง กับเนย เลือก มิลาโน่ มีส่วนผสมของพริกด้วยค่ะได้กลิ่นหอมเลย

จานสลัดเป็น Landaise Salad 380 บาท สลัดจานนี้ตรงกลางมี Foie Gras ย่างผิวเกรียม ชั้นกลางเป็นเนื้อเป็ดและเครื่องในเป็ดบด และล่างสุดเป็นเนื้อเป็ดรมควัน โดยมีกึ๋นเป็ดเป็นชิ้นวางตกแต่งอยู่ข้างๆ และไข่นกกระทาแบบยางมะตูม รายล้อมด้วยสลัดผักราดซอส honey lemon คือ ทานแล้วอร่อย สดชื่น เข้ากัน ลงตัว และ ประหลาดใจมากกับกึ๋นเป็ดที่คิดว่าจะต้องเหนียวหนึบ แต่กลับนุ่มเหมือนทานไส้กรอก เชฟต้องมีสูตรลับเฉพาะแน่ๆ รสชาติถูกใจเกินคาดหมายเลยค่ะ

ซุปเลือกเป็นBeef Cheese Ravioli Consomme Soup 510 บาท เป็นซุปเนื้อหอมๆ เสิร์ฟ มาแบบต้องเทลงไปแบบนี้ ชิมราวิโอลี่ ด้านในเป็นเนื้อสับ นุ่มๆ ค่ะ

Appetizers ลองไป 2 เมนู
Marrow Beef Bones 410 บาท เป็นไขกระดูกวัวนำไปปรุงสูตรพิเศษ แล้วเสิร์ฟมาในกระดูกวัวท่อนยาวเลย หน้าตาแปลกมาก เวลาทานก็ใช้ปลายมีดตักมาวางบนขนมปังกรอบ และสลัดผักแบบนี้ อารมณ์เหมือนขนมปังทาเนย แต่รสชาติออกมันๆ และมีกลิ่นหอมแบบเอกลักษณ์ของไขกระดูกแบบเนื้อวัว มันสุดคลาสสิคมากๆค่ะ

Deep Fry Scallop Cromesqui 790 บาท หอยเชลล์ตัวใหญ่ที่สุดในสามโลกที่เคยพบเจอ ชุปเกล็ดขนมปังทอด ราดซอสฮอลแลนเดซซึ่งมีส่วนผสมของ truffle และ foie gras จานนี้แค่ตัวหอยเชลล์สด หวาน ไซด์ยักษ์ก็ฟินสุดๆ แล้ว ทานกันซอสข้นๆ รสชาติดีก็เพิ่มมิติของรสชาติได้อีกอ่ะ

Main course ลองไป 2 จานค่ะ
Sablefish Bake in Salty Crust 990 บาท ปลาค็อค หรือ บางคนเรียกปลาหิมะ ชื้นใหญ่ หนา มาก  อบมาในแท่งเกลือ แบบนี้ แล้วเชฟก็มาโชว์ทำซอสเห็ดร้อนๆ ราด ลงไป ชอบสุดๆกับเมนูปลา สด หวาน เนื้อๆ เน้นๆ แบบนี้ ซอสข้นคล้ายคาโนาร่าก็อร่อยถูกใจค่ะ

Lamb Neck Stew 790 บาท สตูแกะตุ๋นมาได้เปื้อย นุ่มสุดๆ ซอสก็อร่อยเข้มข้นถูกปาก

อิ่มแล้วปิดท้ายด้วยขนมหวาน
Paris Brest เหมือนโครนัทไส้ผสมผสานระหว่างช็อคโกแลตและคาราเมล หวานกำลังดีค่ะ
Macarons มีไส้ราสเบอรี่และบลูเบอรี่สด ตัดกับความหวานของตัวแป้งได้ลงตัว สดชื่นดีค่ะ

Mille Feuille แป้งมิลเฟยกรอบและครีมหอมอร่อยลงตัวตัดกับสตรอเบอรี่สด  สดชื่นดีเช่นกันค่ะ
ใครชอบ หรือ อยากลองทานอาหารฝรั่งเศสอร่อยๆ ในบรรยากาศ exclusive ชมวิวสวยๆ ก็มาทานกันได้ค่ะ