The Ambience
ตัวเรือนแบ่งเป็น 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นส่วนของห้องปรับอากาศ ในบรรยากาศการตกแต่งแบบไทยผสมบาหลี พร้อมเครื่องเรือนไม้โบราณที่นำมาตั้งวางไว้ใช้สอยได้อย่างลงตัว เก้าอี้ไม้บุนวมเข้ากันได้ดีกับแผ่นรองจานหวายสาน และดอกบัวประดับโต๊ะ เคล้าคลอด้วยเสียงเพลงแนว Asian Lounge Music เพิ่มอรรถรสในการกิน สำหรับตัวเรือนชั้นบนใช้เป็นที่นั่งสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในห้องหลังคาสูงที่อากาศถ่ายเทสบาย รวมถึงผู้ที่ต้องการซึบซับบรรยากาศความเป็นธรรมชาติบนระเบียงกว้างเคียงคู่กับต้นข่อยอายุกว่า 100 ปีที่แผ่กิ่งก้านสร้างความร่มรื่น พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตไทยได้จากเครื่องใช้ไม้สอยที่ตกแต่งอยู่โดยรอบตัวเรือน

The Food
เริ่มมื้อด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง ออเดิฟล้านนา (250 บาท) อาหารเหนือที่ทุกคนติดใจ ทั้งน้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว แคบหมู และผักสด จัดเสิร์ฟในจานดีไซน์เก๋ที่แบ่งอาหารไว้เป็นสัดส่วนสะดวกแก่การรับประทาน จานถัดมา แสร้งว่ากระทงทอง (220 บาท) กุ้งสับยำสมุนไพรใส่มาในกระทงกรอบสีเหลืองทอง ขอยกให้เป็นจานแนะนำระดับ 5 ดาวของร้าน เพราะอร่อยครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ขม เหมือนเป็นการย่อโลกอาหารไทยไว้ในคำเดียว ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยจานเด่นอีกจาน สะเต๊ะปลาซาลมอน (250 บาท) เอาใจคนรักสุขภาพด้วย ปลาซาลมอนสดๆ เนื้อนุ่ม หมักเครื่องเทศแล้วนำไปย่าง ราดด้วยน้ำจิ้มถั่วลิสงรสกลมกล่อม ทานคู่กับผักเครื่องเคียง

สำหรับจานหลักก็มีให้เลือกอร่อยได้หลากหลาย เนื่องจากอาหารไทยที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจากทุกภูมิภาคของประเทศ เริ่มต้นความแซ่บแบบอีสานกันที่ กุ้งแม่น้ำย่างน้ำตก (350 บาท) กุ้งแม่น้ำตัวโตผ่าซีกราดด้วยน้ำยำน้ำตกหอมข้าวคั่ว ต่อด้วยความอร่อยภาคกลางของ แกงพะแนงเป็ด (250 บาท) เนื้อเป็ดย่างหนานุ่มชิ้นโตราดด้วยเครื่องแกงพะแนงเข้มข้น และ ต้มยำกุ้งแม่น้ำมะพร้าวอ่อน (350 บาท) กุ้งแม่น้ำต้มยำรสชาติเปรี้ยวเผ็ด เพิ่มความหวานมันด้วยชิ้นมะพร้าวอ่อน สัมผัสอาหารใต้กันบ้างด้วย แกงกอแหละไก่ (250 บาท) ไก่ชิ้นพอดีคำผัดพริกแกงและขมิ้นรสเผ็ดร้อน สร้างความกลมกล่อมด้วยอาจาดแตงกวาและหอมแดง ปิดท้ายมื้อด้วยอาหารลูกครึ่งไทย-จีน ปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วย (400 บาท) ปลาจาระเม็ดเนื้อนุ่มหวานไร้กลิ่นคาวนึ่งบ๊วยรสเปรี้ยวเค็ม

ตามธรรมเนียมไทย รับประทานของคาวจบก็ต้องล้างปากด้วยของหวาน เริ่มต้นที่ ทับทิมกรอบ (80 บาท) เมล็ดทับทิมสีแดงสดสอดไส้แห้วกรอบ เสิร์ฟในน้ำกะทิหอมหวาน ตามด้วย ข้าวเหนียวมะม่วง (150 บาท) ขนมหวานจานโปรดของใครหลายคนที่ติดใจในรสหวานของมะม่วง และความหอมมันของข้าวเหนียวมูลเนื้อนุ่มทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำ ที่มีความพิเศษอยู่ตรงทองคำเปลวบริสุทธิ์ที่ปิดมาบนข้าวเหนียว เพื่อให้สมกับเป็นขนมที่เสิร์ฟในเรือนแห่งทองแห่งนี้นั่นเอง

The Location
เรือนอุไรอยู่ในบริเวณสวนของโรงแรมโรส ในซอยหน้าวัดหัวลำโพง อยู่ระหว่างโรงแรมตะวันนารามาดาและโรงแรมมณเฑียรกรุงเทพฯ ฝั่งตรงข้ามพัฒน์พงษ์