Ramen Misawa ราเม็งอันดับ 1 แห่งย่านชินไซบาชิ รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ
2013-10-18

ญี่ปุ่นนี่เขาขึ้นชื่อเรื่อง มีเส้นมีสาย!!! ก็แหมไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร เพราะเรากำลังพูดถึงเส้นอร่อยๆ อย่างราเม็งยังไงล่ะ ว่ากันว่าหากใครมีโอกาสได้บินไปทานราเม็งถึงแดนอาทิตย์อุทัยแล้วล่ะก็ ไม่ว่ากินเจ้าไหนก็อร่อย >m<

 

แต่ถ้าจะให้เลิศสุดๆ ก็ต้องเป็นร้านที่มีรางวัลการันตี! ซึ่งเป็นความโชคดีของคนไทยค่ะ เพราะเราไม่ต้องขอวีซ่าไปญี่ปุ่นแล้ว เอ๊ย!!! ไม่ใช่ เพราะร้าน “Ramen Misawa (ราเม็ง มิซาว่ะ)” ราเม็งเจ้าดังอันดับ 1 ในเขตชินไซบาชิ ประเทศญี่ปุ่น ได้มาเปิดตัวในเมืองไทยแล้วต่างหาก

 

 

ด้วยความนิยมอันล้นหลามของคนญี่ปุ่นที่มีต่อร้านมิซาว่ะ มาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เริ่มเปิดสาขาที่โอซาก้าในปี 2552  จนขึ้นแท่นเป็นร้านอันดับ 1 ในเขตชินไซบาชิ ซึ่งเป็นย่านที่ร้านราเม็งแข่งขันกันสูงมากๆ ฮอตฮิตจนร้านมิซาว่ะต้องขยายร้านออกไปถึง 5 สาขาในประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะมาเปิดตลาดในเมืองไทยในราคาที่คนไทยกินกันได้อย่างสบายท้อง ไม่ลำบากกระเป๋าด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาทเท่านั้น

 

 

อยากรู้ว่า Ramen Misawa ดังขนาดไหน ให้สังเกตได้จากลูกค้าชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่เข้าคิวรอชิมรสชาติ ขอบอกเลยว่าแถวยาวมากจนเก็บภาพได้ไม่หมด

 

 

มาถึงเมืองไทยทั้งทีร้านราเม็ง มิซาว่ะ ก็ขอเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นร้านราเม็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยความจุ 200 ที่นั่ง และยังเลือกทำเลเดินทางสะดวกอย่างรัชดา ซอย 8 MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม แต่หากใครมีรถยนต์ที่นี่ก็มีที่จอดรถอย่างกว้างขวาง

 

 

ภายในโอ่อ่ามีถึง 2 ชั้น อยากนั่งตรงไหนเลือกได้ตามสบาย

 

 

มีที่นั่งรองรับคนได้ถึง 200 คน

 

 

การตกแต่งภายในร้าน ทำให้เราคิดว่ากำลังนั่งทานราเม็งอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

 

 

หากอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ลองขึ้นมานั่งชั้น 2 ระหว่างรออาหารมีที่นั่งเล่นเพลินๆ ด้วยนะ

 

 

ห้องนี้เหมาะกับการคุยธุรกิจ หรือต้อนรับแขกผู้ใหญ่

 

 

ขอแนะนำที่นั่งสุดพิเศษ!!! รู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนหอคอยเลยเชียว

 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการกินราเม็งรับรองไม่ผิดหวัง เพราะที่มิซาว่ะ มีความพิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี จากแหล่งชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น มาปรุงจนได้รสชาติล้ำลึกยากจะลอกเลียนแบบ ทั้งเส้นเหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบ น้ำซุปเข้มข้น และหมูชาชูที่ต้มนาน 2 วันเต็มๆ จนรสชาติแทรกเข้าไปถึงเนื้อใน เป็นรสชาติแห่งความภาคภูมิใจที่บินตรงมาจากโอซาก้าเพื่อเสิร์ฟให้กับเหล่านักชิมชาวไทยอย่างแท้จริง

 

นอกจากราเม็งอร่อยๆ ที่นี่ยังมีข้าวแกงกะหรี่และ Side Dish ต่างๆ มาช่วยเรียกน้ำย่อยกันด้วย

 

ชอบสุดๆ ตรงที่ราเม็งทุกเมนูสามารถจับคู่กับชุดเกี๊ยวซ่า ชุดคาราอาเกะ ชุดข้าวแกะกะหรี่ และชุดข้าวและราเม็ง มาในราคาสบายกระเป๋า ส่วน Topping ของร้านนี้มีให้เลือกเยอะเวอร์ ที่เห็นจะพิเศษกว่าที่อื่นเสียหน่อยก็เช่น หมูต้มเค็ม สาหร่ายวากาเมะ ข้าวโพด ผักชี และเนย ใครอยากเสริมเติมรสชาติราเม็งสไตล์ไหน จัดไปค่ะ!

 

ก่อนจะไปถึงราเม็ง ขอเริ่มต้นด้วยเมนูพิเศษที่หาทานที่ไหนไม่ได้ โซบะคลุกน้ำมัน Abura Soba (120 บาท/ 160 บาท) เส้นโซบะที่ลวกมาอย่างพอดี รสสัมผัสหนุบหนับ คลุกเคล้าด้วยซอสสูตรลับพิเศษทั่วถึงตลอดเส้น เพิ่มรสชาติกลมกล่อมหอมกรุ่นไม่ธรรมดา จานนี้จะเป็นบะหมี่แห้งก็ไม่ใช่ ยากิโซบะก็ไม่เชิง แต่ก็เคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ

 

 

ด้วยรสเข้มข้นของทั้งเนื้อหมูชาชู ไข่ต้มยางมะตูม และเส้นโซบะที่เด้งดึ๋ง ทำให้เคี้ยวกันอย่างเพลิดเพลินจนหมดชาม

 

มาถึงราเม็งกันบ้าง ขอยกให้ชามนี้เป็นพระเอกของงาน พรีเมี่ยม โชยุน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้น Premium Pork Bone Broth & Shouyu Ramen (195 บาท/ 235 บาท) เคล็ดลับความเข้มข้นของชามนี้ คือการใช้น้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นเพิ่มความหอมด้วยโกะโคโชยุ พร้อมเสริมความเข้มข้นถึงใจด้วยซอสทาเระชนิดหวาน  ผสมลงในซุปกระดูกหมูเพื่อเพิ่มความเข้มข้นถึงใจของน้ำซุป

 

 

ซู้ดเส้นเหนียวนุ่ม พร้อมกับซดซุปข้น ให้รสหวานเค็มเข้มข้นเข้ากันสุดๆ สมกับที่เป็นราเม็งจากโอซาก้าจริงๆ

 

 

มาดูหน้าตาหมูชาชูที่ต้มนานถึง 2 วัน จนได้ความนุ่มและอัดแน่นไปด้วยรสชาติเต็มคำ

 

 

อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ไข่ต้มปรุงรส หรือไข่ออนเซ็น ที่สุกฉ่ำพอดีและรสชาติของเครื่องปรุงซึมเข้าไปอย่างทั่วถึง

 

เมนูต่อไปที่อยากแนะนำให้ลอง ราเม็งน้ำซุปเกลือ Shio Ramen (99 บาท/ 139 บาท) รสชาติซุปสต็อคไก่ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนจากการเคี่ยวนานนับชั่วโมง พร้อมเสริมรสด้วยเกลือชั้นดี Shimama-su จากโอกินาว่า

 

 

แม้สีสันจะไม่จัดจ้าน แต่รสเบาๆ ของชามนี้กลับโดดเด่นด้วยความหวานสดชื่นซดคล่องคอ

 

แม้แต่ ราเม็งน้ำซุปโชยุ Shouyu Ramen (99 บาท/ 139 บาท) ของที่นี่รสชาติยังไม่ธรรมดา นั่นก็เพราะใช้ซอสที่ได้มาจากการหมัก 2 ครั้ง ระหว่าง Kaikuchi Shoyu หรือโชยุแบบเข้มข้นของจังหวัดมิเอะ และ Gokou Shoyu โชยุของเมืองเกียวโต

 

 

น้ำซุปโชยุที่เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานกันของ 2 สุดยอดโชยุแห่งญี่ปุ่น

 

 

สัมผัสเส้นเหนียวนุ่มในน้ำซุปโชยุสูตรเฉพาะของมิซาว่ะ

 

ไม่ได้มีแค่ราเม็งน้ำซุปร้อนๆ ให้ซดเท่านั้นนะ ยังมีราเม็งที่เหมาะเหม็งกับอากาศบ้านเราอย่าง บะหมี่เย็น Reimen (140 บาท/180 บาท) โดดเด่นด้วยเส้นที่นุ่มนอกแต่หนึบใน

 

 

ซอสพิเศษให้รสเปรี้ยวหวาน สร้างสัมผัสสดชื่นภายในปากเมื่อได้รับประทาน

 

จบกับราเม็งก็มาต่อกันที่ ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดคาราอาเกะ Deep Fried Chicken Curry Rice (95 บาท) ด้วยรสเด่นของข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ ที่มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ จึงเข้ากันได้ดีกับรสกลมกล่อมของแกงกะหรี่ แล้วยังมีไก่ทอดคาราอาเกะ มาเพิ่มรสสัมผัสในปาก

 

 

ข้าวญี่ปุ่นของร้านมิซาว่ะ เลือกใช้พันธุ์ข้าวซาซานิชิคิ จากจังหวัดมิยางิ ที่ให้ทั้งความนุ่มและร่วนกำลังดี ทานกับแกงกะหรี่ก็อร่อย ทานกับราเม็งก็เด็ดสุดๆ

 

สำหรับ Side Dish ของที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อยอย่าง เกี๊ยวซ่า มาในราคาที่น่าตกใจ เพียง 58 บาทเท่านั้น แต่รสชาติอร่อยเกินราคาไปมากๆ

 

 

แป้งเกี๊ยวซ่าแผ่นบาง แค่กัดเข้าไปคำเดียวก็จะเจอกับความชุ่มฉ่ำของน้ำซุปที่แทรกอยู่ในเนื้อหมู

 

อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่อยากแนะนำให้สั่งมาทานก่อนทานราเม็งคือ หมูชุบเกล็ดขนมปังทอด (120 บาท) รับรสกรุบกรอบด้านนอก และสัมผัสเนื้อหมูสุดนุ่มลิ้นด้านใน

 

 

เมนูที่คิดจะทานเล่นๆ แต่ก็เล่นเอาอิ่มเหมือนกัน ด้วยเนื้อหมูที่อัดแน่นชิ้นโตมาเต็มคำ

 

Ramen Misawa ร้านราเม็งอร่อยที่สุดจากโอซาก้ามาถึงประเทศไทยแล้ว พร้อมกับฉลองเปิดร้านใหม่ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อสั่งราเม็ง 1 ชาม รับทันทีเกี๊ยวซ่า 1 ที่ วันนี้จนถึง 31 ตุลาคมนี้เท่านั้นนะ ย้ำสถานที่กันอีกทีร้านราเม็งมิซาว่ะ รัชดา ซอย 8 สังเกตง่ายๆ ซอยอยู่ตรงข้ามกับห้างเอสพรานาด รัชดา

 

 

อิ่มอร่อยกับราเม็งรสชาติต้นตำรับโอซาก้าในราคาเบาๆ ได้แล้ววันนี้ Ramen Lover ห้ามพลาด

คีย์เวิร์ด
ราเม็ง มิซาว่ะ
Ramen Misawa
Misawa รัชดาซอย 8
ราเม็ง มิซาว่ะ
ราเม็ง รัชดา 8
OpenRice TH Editor
ข้อมูลร้านอาหาร