1
3
0
เดิน 6-นาที จาก สถานี BTS ช่องนนทรี ทางออก 2
อ่านต่อ
เบอร์โทร.
02-679-0799
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:00 - 22:00
จันทร์ - เสาร์
11:00 - 22:00
อาทิตย์
ปิด
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
มื้อนี้เปลี่ยนอารมณ์ไปทานอาหารอิตาเลียนกันค่ะ นานๆทีจะเปลี่ยนแนว เลยขอเลือกสรรค์ร้านเด็ดๆหน่อย บรรยากาศนั้นจะเน้นตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ประกอบกับบริการที่ดูอบอุ่น ทำให้เราสามารถนั่งอยู่ในร้านได้อย่างสบายอารมณ์และเพลิดเพลินมาก ส่วนเมนูอาหารก็มีทั้งสลัดปูนิ่ม รากบัวทอดราดซอสวาซาบิ สปาเก็ตตี้เส้นไวน์แดง และสลัดปูนิ่ม รากบัวทอดราดซอสวาซาบิ สองอย่างนี้รสอร่อยตั้งแต่คำแรกเลยค่ะ โดยเฉพาะสลัดปูนิ่มนี่ทำให้ติดใจจนทานเกลี้ยงไม่เหลือให้ใครได้ชิมเลย
อ่านต่อ
มีร้านที่แทรกตัวอยู่ตรงช่วงแยกช่องนนทรีติดกับตลาดฮ่องกง ถ้าสังเกตุดีๆ ก็จะเจอร้านสีขาว สวยๆ หรูๆ ดูโดดเด่นสะดุดสายตาอย่างมากๆ เป็นร้านอาหารแบบฟิวชั่น ด้านล่างเป็นเคาเตอร์กาแฟ ด้านบนชั้นสองเป็นสถานที่สำหรับรับประทานอาหาร ครั้งนี้มีโอกาสได้เดินเข้ามารับประทาน ต้องขอบอกว่าต้องเก็บเสียง เป็นคนเงียบเรียบร้อยขึ้นมาทันที สาเหตุเพราะอะไรไปดูกัน ทำตัวเป็นคนมีสกุลรุนชาติขึ้นมาทันที แม้ว่าชาติตระกูลจะมาจากลูกชาวนาก็ตามที กลัวว่าจะเป็นส่วนเกินของร้านไม่เหมาะกับสถานที่ ก็เลยเป็นสาเหตุของความเรียบร้อยของการมาใช้บริการในครั้งนี้ ก็ดูเอาสิครับ สถานที่สวยงาม ตกแต่งอลังการ บรรยากาศชวนหลงใหล จะให้ตลกเฮฮาเหมือนเดิมได้ไง นั่งรออาหารไป ดูบรรยากาศในร้านเพลินๆ เคลิ้มเคลิมกับเสียงดนตรีบรรเลง ทำให้ฝันกลางวันว่าอยากมีบ้านแบบนี้บ้าง ซึ่งก็คงฝันกลางวันจริงๆ นะแหละ แค่ค่ากระจกบานเดียวแบบที่ร้านจะหาซื้อไปติดบ้านก็ร้องแล้วมั้งสำหรับผม เพลินๆ กับบรรยากาศแล้ว เรามาดูอาหารกันบ้างดีกว่า รายการอาหารโดยรวมนั้น การจัดตกแต่งสวยงามเหมาะสมกับสถานที่มาก ส่วนรสชาติผมว่าออกรสเค็มไปนิดในทุกทุ เมนู โชคดิไม่พลาดใส่น้ำปลาพริกไปซะก่อน เนื่องจากอาหารของทางร้านเป็นฟิวชั่น ดังนั้นวัตถุดิบที่นำมาใช้กับแต่ละเมนูก็จะเป็นความพิเศษที่นอกเหนือไปจากรายการอาหารของร้านทั่วๆ ไป เช่น นำไก่อบ(จากเดิมที่ควรเป็นแค่ข้าวไก่อบ) นำมาผัดกระเพราะอีกครั้งเพื่อให้เกิดความแตกต่าง หรือแกงเผ็ดเป็ดย่าง ก็จะใส่แอปเปิ้ลเขียวแทนสัปปะรด หรือลิ้นจี่จากที่เคยได้กินมา แต่รู้สึกว่าความข้นของน้ำแกงจะไม่ค่อยเป็นไปเท่าที่ควรหากเทียบกับแกงเผ็ดเป็ดอย่างแบบของจริง รสชาติอาหาร ก็จัดอยุ่ว่าใช้ได้ไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่ได้ถึงกับโดดเด่นเท่าไหร่นัก การบริการ พนักงานสุภาพ บริการดี พูดจาไพเราะ ให้คำแนะนำรายการอาหารดี ความสะอาด มาก ๆ ครับ กระจกใสทุกบาน โต๊ะทุกตัวเงาวับ โซฟาทุกตัวนุ่ม นั่งไม่มีฝุ่น เก็บรายละเอียดความสะอาดได้เนี้ยบจริงๆ ยกนิ้วให้เลย ชอบมากๆ บรรยากาศ อย่าให้พูดอีกเลยครับ มันเริ่ด หรู ดูโฮโซแบบที่คุณสัมผัสได้ ไม่เกินเอื้อม
อ่านต่อ
ในซอยเล็กๆของย่านธุรกิจที่สับสนวุ่นวายใจลางเมืองกรุงเทพมหานคร ไม่ไกลไปจากแยกนราธิวาส ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนที่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแหล่งที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศไทย คือถนนสาทรและถนนนราธิวาส ใครจะสามารถจินตนาการได้ ว่าจะมีร้านอาหาร ที่ตกแต่งด้วยไสตล์ยุโรปตอนกลาง ในบรรยากาศของชนบทยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า รายล้อมไปด้วยนักธุรกิจและพนักงานบริษัททั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตัวอาคารเป็นตึกที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ให้ขับกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกออกมาได้อย่างเต็มที่ การใช้กระจกแทนผนัง และการปรับโครงเพดานให้สูง สร้างความรู้สึกโปร่ง พร้อมกับความใส่ใจในรายละเอียดของการประดับตกแต่งอย่างมีรสนิยม และเพลงประกอบในไสตล์ classical jazz ทำให้ร้าน Colonial Bistro เป็นร้านอาหารที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่นออกมาจากอาคารและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบได้อย่างชัดเจนภายในร้าน หลังบานประตูกระจก ที่เปิดเข้าไป เป็นเคาน์เตอร์ พร้อมกับเครื่องทำกาแฟ พร้อมมุมนั่งสบายๆ ที่มีคาแรกเตอร์แตกต่างกันออกไป แต่ก็เข้ากันได้อย่างประหลาด ชวนให้รู้สึกน่านั่งจิบชาหรือกาแฟ เพื่อหลบหนีจากความวุ่นวาย และคลายความเครียดจากการทำงานลงไปได้อย่างดีบนชั้นสอง เป็นโซนที่จัดเอาไว้เพื่อบริการลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหาร ถูกตกแต่งไว้อย่างขาวสะอาด ด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นโทนสีขาวสไตล์วินเทจ พร้อมโซนเก้าอี้หวายริมหน้าต่าง และโซนโซฟาในช่วงกลางร้านความใส่ใจในรายละเอียดของร้าน ยังครอบคลุมไปถึงระดับของการบริการ ที่เน้นความสุภาพ เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายหรือกระทั่งการพูดจาสำหรับอาหาร ร้าน Colonial Bistro ก็ได้เตรียมรายการเอาไว้เพื่อรองรับความหลากหลายทางด้านรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อิตาลี หรือแม้แต่อาหารสไตล์ฟิวชั่น ที่เป็นการผสมผสานวัตถุดิบปนแบบไทย นำมาปรุงด้วยวิธีการแบบตะวันตก เพื่อสร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ให้กับแมนูของร้านได้อย่างมีศิลปะเมนูที่เสิร์ฟมาในวันนี้ แบ่งเป็น main course คือ ลาวิโอลีครีมต้มยำ และเฟตตูชินีครีมเพสโต แซลมอน พิทาชิโอ พร้อมกับ side dish อันประกอบด้วยปลาหมึกชุบแป้งทอดเคลือบชีสสำหรับเรื่องรสชาติ ทางร้านเน้นทำโดยเน้นรสชาติที่ละมุน ไม่เน้นไปทางเค็ม หวาน หรือเผ็ด แต่ค่อนข้างบกพร่องไปในทางรสสัมผัส และวิธีการปรุง โดยลาวิโอลีครีมต้มยำ มีการใช้ครีมค่อนข้างเยอะ ทำให้กลบกลิ่นและสัมผัสของเครื่องต้มยำ และการต้มลาวิโอลี ทำได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้บางชิ้นแข็ง ในขณะที่บางชิ้นก็นิ่มเกินไปสำหรับเฟตตูชินีครีมเพสโต แซลมอน พิทาชิโอ เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่นำเสนอออกมาได้อย่างเข้าท่า หากแต่ความเข้มข้นของเนื้อพิทาชิโอ ที่ปรุงเข้ากับเนื้อครีม โดยทานคู่กับเส้นเฟตตูชินี มีรสสัมผัสที่หนักไปทางแป้ง แ่ต่ก็ไม่ได้หนักจนเกินไป และความโดดเด่นด้วยรสชาติและกลิ่น ที่ทำให้จานนี้ กลายเป็นจานแนะนำประจำร้านได้และสำหรับ side dish ปลาหมึกชุบแป้งทอดเคลือบชีส ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับครีมซอส เป็นจานที่ทำออกมาได้่ค่อนข้างดี เนื้อปลาหมึกไม่เหนียว และทอดออกมาไม่ชุ่มน้ำมัน ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยนเมื่อจิ้มครีมซอสที่เสิรฟมาพร้อมกันส่วนเรื่องราคาอาหาร มื้อนี้จบลงด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 600 บาท ซึ่งประกอบด้วยน้ำเปล่า อาหารจานหลักสองจาน เครื่องเคียงหนึ่งจาน และ service charge อีก 10% เรียกว่าเป็นมื้อที่ไม่แพงจนเกินไปสำหรับคุยธุรกิจ หรือแม้กระทั่งพาคนรักมาเปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหาร
อ่านต่อ
อากาศตอนเที่ยง ณ จุดนี้ ไม่ต้องบรรยายว่าร้อนนนนขนาดไหน .. แทบละลายเลยหล่ะ มื้อกลางวันของชาวออฟฟิศมื้อนี้ ขอชิลๆ สบายๆ หน่อยเหอะวันนี้จะพาไปทานร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่มาได้ 6 เดือนเองค่ะ ดูภายนอกน่าจะเก๋ไม่เบา ไปชิมกันเล้ย @ ร้าน Colonial Bistro ร้านหาไม่ยาก ถ้ามาด้วย BTS ลงสถานีช่องนนทรี เดินต่อมาทางเชื่อมที่จะไปต่อ BRT เดินข้ามแยกสาทรมาแล้ว ลงสะพานลอยทางด้านซ้าย ทางอาคารสาทรซิตี้ทาวเวอร์ เดินไปหลังอาคาร เข้าซ.นราธิวาสราชนครินทร์ ซอย5 เดินไปไม่เกิน 500ม. จะเห็นตึกสีขาว เด่น ดูดีเลยจ้า... ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยและตะวันตก นอกจากนั้นยังเมนูของหวานเครป เบเกอรี่ กาแฟ และไวน์ ให้เลือกทาน เปิดบริการวันจันทร์ถึงวันเสาร์ 11โมงเช้าถึง 4 ทุ่มนะจ๊ะ จะชิลมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็นหลังเลิกงาน เลือกได้เลยบรรยากาศร้านตกแต่งหรูหรา ร้านไม่ใหญ่มากแต่ไม่อึดอัดนะคะ เข้าไปแล้วรู้สึกผ่อนคลายด้วยเก้าอี้โซฟาหลากหลายสไตล์ให้เลือกนั่ง ชิลดีค่ะ มุุมเก๋ๆ ถ่ายรูป ก็มีพอสมควร ^^วันนี้เราไปกันหลายคน พนักงานร้านเลยพาไปที่ชั้น 2 ชั้น 2 มีโต๊ะที่นั่งรองรับแขกได้มากกว่าด้านล่าง ที่นั่งจัดสรรไว้ลงตัว แบ่งสัดส่วนคนมาทานได้อย่างดี เก้าอี้โซฟานั่งสบายค่ะ .. อิอิ .. ร้านเปิดเพลงเบาๆ บรรยากาศร้านยิ่งทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้จริงๆมื้อนี้พนักงานแนะนำ เฟตตูชินีครีมเพสโต แซลมอน พิทาชิโอ เมนูแนะนำของร้านนี้ จานนี้สนนราคา 270 บาท .. เส้นเฟตตูชินีเหนียวหนึบ ซอสเข้มข้นกรุบนิดๆ ด้วยพิทาชิโอป่น แซลมอนก็หอมอร่อยใช้ได้ค่ะ .. จัด ปีกไก่ทอดแบบอเมริกัน และ ปลาหมึกทอดเคลือบรสชีส มาทานเป็นของว่าง ปีกไก่เราว่าเนื้อแน่นเหนียวหนึบดีนะ ถ้าใครชอบไก่เนื้อหนึบๆ ก็แนะนำค่ะ แต่ว่ารสชาติก็ไม่ได้โดดเด่นมากปลาหมึกทอดเคลือบรสชีส เสริฟ์พร้อมซอสครีม เพื่อนบอกว่าเนื้อปลาหมึกไม่เหนียวดีนะ แต่โดยส่วนตัวเราเฉยๆ อีกเช่นกัน เมนูถัดไปเพื่อนสั่ง ข้าวผัดมันกุ้ง กุ้งทอด สนนราคา165 บาทค่ะ กุ้งทอดหอมอร่อยน่่าทาน เพื่อนก็ว่ารสชาติโอค่ะ.. ตบท้ายด้วยของหวาน เยลลี่สตอร์เบอรี่ใส่ลิ้นจี่ ... ของเพื่อนอีกเช่นกัน ทานเสร็จก็ลงมาถ่ายรูปต่อ ... ระหว่างสั่งกาแฟกลับไปทานที่ออฟฟิศ กาแฟสดหอมหร่อยดีค่ะ คอกาแฟอย่างเราให้ผ่านเลย ^^ได้เวลากลับไปทำงานต่อซะละ .. ยังรู้สึกสบาย ชิล มากมายอยู่เลยอ่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปทานอีกในมื้อเย็นค่ะ เพราะอยากมีเวลาชิล สบายๆ ผ่อนคลายหลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน สรุปแล้ว ร้านนี้สวยสะอาด บรรยากาศเริ่ด พนักงานบริการดีม๊ากกก อาหารรสชาติไม่โดดเด่นเท่าไหร่ การเดินทางไปร้านสะดวกสบายราคาอาหารค่อนข้างสูงนิดนึง ยังมี +service charge อีก10%
อ่านต่อ