ในช่วงเวลาที่ชีวิตเต็มไปด้วยความวุ่นวายนานาสารพัน คนเราอาจต้องการแค่พื้นที่เล็กๆ เงียบๆ ไว้นั่งพักใจ ให้ได้รู้สึกว่านาฬิกาชีวิตอันรีบเร่งเดินช้าลงสักนิด OpenRice ขอชวนเปิดประตูสู่โลกอีกใบที่แสนสงบและผ่อนคลายในย่านเมืองเก่าอย่าง ท่าพระอาทิตย์ ด้วยการไปลองจิบชา หยุดเวลา ที่ โรงน้ำชามิตรามิตร

ไม่ใช่แค่โรงน้ำชา แต่เป็น Art Space

จุดเริ่มต้นของ โรงน้ำชามิตรามิตร คือการรวมตัวกันของ ทีมงานโรงละครมายาฤทธิ์ ผู้มีใจรักในการดื่มชาจีน โรงละครมายาฤทธิ์คือโรงละครสำหรับเด็กและครอบครัว ก่อตั้งโดยสถาบันศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนา ดังนั้น โรงน้ำชามิตรามิตร จึงไม่ใช่แค่โรงน้ำชาหรือคาเฟ่ขายเครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็น Art space หรือพื้นที่แลกเปลี่ยนทางศิลปะที่ให้คนได้มานั่งผ่อนคลายและพูดคุยกัน ผู้ดูแลร้านแต่ละคนก็คือทีมงานของโรงละครซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมานั่นเอง และรายได้ของที่นี่ก็จะนำไปสนับสนุนโรงละครเพื่อพัฒนาสังคมด้วย

ร้านที่คงความเก่าแก่ที่สุดในท่าพระอาทิตย์

โรงน้ำชามิตรามิตร อาจเพิ่งเปิดกิจการได้เพียง 2 ปีครึ่ง แต่ลักษณะการตกแต่งภายในร้านนั้นเป็นของเก่าแท้ๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ตั้งแต่ผนังไม้ซึ่งเดิมเป็นประตูเชื่อมต่อกับร้านข้างๆ ไปจนถึงบัวผนังขอบเพดาน ด้านหลังร้านยังมีบันไดหินซึ่งร้านอื่นในละแวกใกล้เคียงทุบทิ้งหมดแล้ว นับเป็นร้านที่มีองค์ประกอบเก่าแก่แบบดั้งเดิมอยู่มากที่สุด เวลาก้าวเข้าร้านมาจึงเหมือนได้หยุดเวลาไว้ในยุคเก่าที่ชีวิตยังไม่รีบเร่งเท่าปัจจุบันนี้

เปลี่ยนมุมมองของการจิบชา

การดื่มชาชั้นดีก็เหมือนการเปิดมุมมองใหม่ๆ ปกติแล้วภาพจำของชาจีนสำหรับคนไทยคือน้ำชาในกาตามร้านข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ หรือใบชาตราสามม้าที่ชงเข้มๆ ไว้ใช้ไหว้เจ้า แต่ชาจีนของที่ โรงน้ำชามิตรามิตร เป็นใบชาคุณภาพเยี่ยมหลากหลายชนิด ผ่านการคัดสรรอย่างดีจากเหล่าผู้ดูแลร้านซึ่งบินไปถึงงาน Tea expo ที่ประเทศจีน เยือนไร่ชาในหุบเขา เพื่อให้ได้ใบชาคุณภาพ

ชาของที่นี่แบ่งออกเป็น 6 ประเภทด้วยกัน คือ ชาขาว ชาเขียว ชาอูหลง ชาแดง ชาพูเอ่อร์ และชาสมุนไพร ถ้าใครเลือกไม่ถูกก็ขอให้ผู้ดูแลร้านแนะนำได้

ใบชาดีๆ ย่อมต้องมาคู่กับ เคล็ดลับในการชงชา ซึ่งอยู่ที่ อุณหภูมิ และ ภาชนะ เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำร้อนที่ใช้ชงชาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ชาขาวหรือชาเขียวจะใช้น้ำร้อนประมาณ 85 องศา ชาอูหลงประมาณ 90 องศา ชาแดงและชาพูเอ่อร์ประมาณ 100 องศา ดังนั้นการชงชาที่ดีจึงต้องอุ่นอุปกรณ์ชงชาก่อนทุกครั้ง เพราะถ้าหากกาเย็น อุณหภูมิของน้ำร้อนที่เติมลงไปจะลดลง ทำให้ดึงรสชาติของชาออกมาได้ไม่เต็มที่

เมนูชาที่ โรงน้ำชามิตรามิตร จะจัดเสิร์ฟเป็นกาเท่านั้น ไม่มีให้ซื้อกลับไปชงเองที่บ้าน เนื่องจากเป็นใบชาคุณภาพดีจึงราคาสูงเกินกว่าจะขายแยกเพียงอย่างเดียว ชาทุกชนิดของที่นี่เป็นชาเต็มใบ ไม่ใช่ชาผง จึงสามารถเติมน้ำร้อนซ้ำได้หลายครั้งโดยที่รสชาติไม่เสีย

ชาทุกชุดจะจัดเสิร์ฟพร้อมขนมไทยจากละแวกใกล้เคียงอย่างบางลำพู เช่น ขนมฟักทอง ขนมชั้น ขนมกล้วย ขนมมันสำปะหลัง และขนมต้ม รสหวานอ่อนๆ นุ่มนวล เข้ากับชาได้เป็นอย่างดี ขนมเหล่านี้มาจากการอุดหนุนคนในพื้นที่ซึ่งทำสดใหม่วันต่อวัน ไม่ใส่สารกันบูด ไม่เก็บค้างคืน และเปลี่ยนชนิดขนมไปเรื่อยๆ

1 ในเมนูชาที่ลูกค้านิยมสั่งมากที่สุดคือ ชามิลค์อูหลง ซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัวตรงกลิ่นหอมละมุนละไมคล้ายกลิ่นนมอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งที่เป็นชาใสๆ ไม่ได้ใส่นมแม้แต่น้อย เมื่อดื่มเข้าไปจะได้กลิ่นคล้ายดอกไม้ติดอยู่ที่ปลายจมูก

สำหรับนักดื่มชามือใหม่ผู้หลงใหลในชาหอมๆ ชาเขียวมะลิมุก (มั่วลี่จู) ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยกลิ่นมะลิที่อบร่ำมากับใบชาเต็มใบชั้นดี ไม่ใช่ชาผงบรรจุซองที่พ่นกลิ่นเข้าไปทีหลัง ทำให้ไม่ว่าจะเติมน้ำร้อนใหม่กี่ครั้งก็ยังหอมติดใจ

สนับสนุนให้คนนั่งนาน

สิ่งแรกที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อเข้าร้านมาไม่ใช่ใบเมนู แต่เป็นรหัสไวไฟ เพื่อให้ได้นั่งเล่นอินเทอร์เน็ตสบายๆ รอระหว่างที่ทางร้านจัดเตรียมชาจีนรสเยี่ยมกับขนมไทยอุ่นท้องไว้ให้ โรงน้ำชามิตรามิตร สนับสนุนให้คนนั่งจิบชาผ่อนคลายนานๆ บางคนมาตั้งแต่เช้าจรดเย็นทางร้านก็ยินดี เพราะจุดประสงค์ที่ก่อตั้งร้านนี้ก็เพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้คนได้มาพบปะพูดคุยกันอย่างสุนทรีย์ เป็นแหล่งรวมตัวของ “มิตร” ที่รู้จักสนิทสนมกัน และ “อมิตร” หรือคนที่ไม่ได้รู้จักคุ้นเคยมาก่อน จึงเป็นที่มาของคำว่า “มิตรามิตร” อันเป็นชื่อร้านนั่นเอง

ไม่ใช่ลูกค้า แต่เป็นกัลยาณมิตร

อ. สมศักดิ์ กัณหา ผู้ดูแล โรงน้ำชามิตรามิตร ไม่ได้คิดว่าลูกค้าของที่นี่เป็นแค่ลูกค้า แต่เป็นเหมือนเพื่อนฝูงที่มานั่งพูดคุย เป็นกัลยาณมิตรที่ช่วยเหลือกัน ร้านนี้มีเพียงแค่ 5 โต๊ะ แต่ลูกค้าก็พร้อมจะขยับที่นั่งแบ่งปันกันและช่วยเหลือลูกค้าคนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าชาวต่างชาติซึ่งหลงใหลในความสงบและชาคุณภาพเยี่ยมของที่นี่ ในบางครั้งทางร้านเคยเลื่อนเวลาปิดจาก 3 ทุ่มไปเป็นตี 2 เพื่อให้ลูกค้าที่ไฟลต์บินดีเลย์ได้พักรอมาแล้ว 

ความสำเร็จที่ไม่ได้วัดด้วยผลกำไร

ร้านอาหารอื่นๆ อาจวัดความสำเร็จผ่านทางยอดขายหรือผลกำไรที่จับต้องได้ แต่ โรงน้ำชามิตรามิตร วัดด้วยความสงบสุขและสุนทรีย์ในจิตใจของลูกค้า

การปรุงอาหารและเครื่องดื่มถือเป็นศิลปะประเภทหนึ่ง ที่นี่จึงเป็น Art space ที่ได้ส่งเสริมรสนิยมด้านศิลปะผ่านทางการดื่มชาชั้นดี และยังนำรายได้ไปสนับสนุนโรงละครสำหรับเด็กด้วย เพราะศิลปะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคม และรสนิยมก็เป็นปัญญาแบบหนึ่งที่จะช่วยสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ต่อไป

สำหรับใครที่อยากจะไปลิ้มรสชาดีๆ ที่ โรงน้ำชามิตรามิตร บ้าง ก็อย่าลืมเช็กวันเปิดทำการของร้านทางเฟซบุ๊ก facebook.com/mitramitteahouse ดูก่อน เพราะในบางช่วงผู้ดูแลร้านอาจติดภารกิจที่โรงละครจนมาเปิดร้านไม่ได้ ลองเช็กให้ดีจะได้ไม่ไปเก้อ OpenRice เตือนไว้เพราะอยากให้ทุกคนได้ลองไปจิบชา หยุดเวลา ในโรงน้ำชาแสนสงบย่านท่าพระอาทิตย์ร้านนี้ดูสักครั้งจริงๆ

เช็กพิกัดร้าน โรงน้ำชามิตรามิตร ได้ที่นี่

อ่านบทความ Food Specialists อื่นๆ ที่นี่