หากพูดถึงการไปอิ่มอร่อยในร้านอาหารฝรั่งสักมื้อ สิ่งแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงอาจเป็นการเตรียมสูทหรือเดรสสุดหรู มารยาทบนโต๊ะอาหารฝรั่งอันยุ่งยาก และบรรยากาศการกินที่เป็นไปอย่างมีพิธีรีตรอง แต่วันนี้...ลืมกฎเกณฑ์ยุ่งยากเหล่านั้นทิ้งไป แล้วชวนเพื่อนฝูงญาติมิตรมาสนุกกับการทานอาหารอิตาเลี่ยนรสเยี่ยมในบรรยากาศคึกคักแบบต้นตำรับแท้กันที่ Bacco Restaurant & Wine Bar กันดีกว่า การเดินทางก็สะดวกสบาย เพราะร้านอาหารอิตาเลี่ยนขนาด 400 ที่นั่งแห่งนี้ อยู่ไม่ไกลจาก BTS สถานีทองหล่อ เข้าซอยสุขุมวิท 53 มาเพียง 150 เมตรก็จะพบกับอาคารโทนสีน้ำตาลครีมดูอบอุ่นร่มรื่นอยู่ด้านซ้ายมือของถนน พร้อมบริการที่จอดรถสะดวกสบายบนฝั่งตรงข้ามร้าน และในบริเวณถัดไปอีกไม่ไกลนัก

ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสเมื่อมาถึงร้านนี้คือความใส่ใจลูกค้าของ เชฟ Sergio Forte เชฟชาวอิตาลีผู้ก่อตั้งและเจ้าของร้าน Bacco ซึ่งตั้งใจทำให้ร้านอาหารอิตาลีแห่งนี้มีบรรยากาศที่อบอุ่น สนุกสนาน ภายในอาคารชั้นเดียว ที่ดูสบายๆ ไปกับโต๊ะเก้าอี้ไม้ในโทนสีน้ำตาลโอ๊คและผ้าปูโต๊ะหนังสีครีม ที่ทำให้บรรยากาศการรับประทานอาหารภายในร้านดูเป็นกันเองขึ้นอีกมาก แม้เฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งภายในร้านส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องไม้เพื่อคงความรู้สึกแบบร้านอาหารอิตาเลี่ยนแบบดั้งเดิมหรือที่เรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า Osteria เอาไว้ แต่ภาพวาดสไตล์โมเดิร์นสีสันฉูดฉาดที่แขวนไว้โดยรอบก็ช่วยให้เราสัมผัสได้ถึงความทันสมัยและสนุกสนาน เพื่อรองรับลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ที่เข้ามาลองลิ้มชิมความอร่อยของอาหารอิตาเลี่ยนแบบดั้งเดิม ซึ่งเชฟ Sergio ผู้เติบโตมาในครอบครัวกุ๊กแท้ๆ และคร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารมากว่า 35 ปีผู้นี้ เป็นผู้คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากอาหารจานเด็ดทั่วทุกภูมิภาคของอิตาลี

ไม่ว่าจะเป็นคู่รักที่จะมาดินเนอร์มื้อค่ำแสนหวานกันแบบสองต่อสอง หรือครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งเจ้าตัวน้อยและคุณตาคุณยาย ก็สามารถมีความสุขกับมื้ออาหารที่ Bacco ได้ เนื่องจากภายในร้านแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ หลากหลาย ทั้งโถงกลางสำหรับครอบครัว ซึ่งมี Wine Bar ที่อัดแน่นไปด้วยไวน์หลากชนิดสำหรับอาหารในแต่ละประเภทตั้งตระหง่านอยู่ โซนริมผนังสำหรับคู่รักที่ต้องการมุมส่วนตัว Quiet Zone สำหรับผู้ที่ไม่ชอบความจอแจนัก Smoking Zone ที่มี Cigar Lounge เล็กๆ เอาใจหนุ่มๆ กันอย่างเต็มที่ และห้องส่วนตัวอีก 3 ห้อง สำหรับกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ ซึ่งแต่ละห้องถูกตกแต่งไว้ในธีมที่แตกต่างกันพร้อมการจัดไฟที่สวยงามในทุกห้อง และที่สำคัญ พื้นที่สำหรับจัดเลี้ยงกลุ่มใหญ่สำหรับ 100 คนก็มีเช่นกัน

ชมบรรยากาศโดยรอบกันจนหนำใจแล้ว ท้องก็เริ่มร้อง ขอเรียกน้ำย่อยด้วย Starter ยอดนิยมของร้านอย่าง Fiore Salad (280 บาท) สลัดยอดผักโขมอ่อน ปาร์ม่าแฮม และชีสเฟตต้า หั่นเป็นลูกเต๋า ผสานความหวานอมเปรี้ยวด้วย เนื้อส้มสดและมะเขือเทศเชอร์รี่ เติมความกรุบกรอบอีกนิดด้วยไพน์นัท เสิร์ฟมาในถ้วยแป้งพิเอด้าเก๋ไก๋ที่สามารถกินแกล้มกับสลัดได้ด้วย รสชาติที่หลากหลายของจานนี้เข้ากันได้อย่างน่าทึ่ง จนไม่น่าแปลกใจที่คุณ Andrea ผู้จัดการร้านใจดีบอกกับเราว่าเป็นจานที่ขายดีที่สุดจานหนึ่งของร้าน ตามมาติดๆ ด้วย Mix Piada (300 บาท) แป้งพิเอด้าอบสอดไส้ 3 สไตล์ มีทั้ง Cold Cuts, แฮม ชีส และผักโขม ซึ่งดิฉันแอบเทใจให้กับไส้ผักโขมชีสที่อร่อยกลมกล่อมแถมยังหอมกลิ่นเตาฟืนแบบดั้งเดิมด้วย

เรียกน้ำย่อยเต็มที่แล้วก็ถึงเวลาของพาสต้า เราเริ่มต้นจานแป้งกันด้วย Risotto Alla Contadina (320 บาท) ข้าวรีซอตโต้ผัดกับเห็ด เบค่อน และไส้กรอกรสเผ็ดแบบอิตาเลี่ยน รสชาติเข้มข้นถึงใจ ข้าวของที่นี่น่าจะถูกใจหลายคนที่ไม่ชอบข้าวแบบเละๆ เพราะเมล็ดข้าวในจานนี้มีความกรุบ เคี้ยวสนุกทีเดียว ต่อมาเป็น Ravioli Di Tertufo Rucola E Porcini (450 บาท) ราวิโอลี หรือที่หลายคนเรียกกันเล่นๆ ว่าเกี๊ยวอิตาลี ราดซอสเห็ดทรัฟเฟิล ครีมซอสรสนุ่มกลมกล่อมผสานกันอย่างลงตัวกับราวิโอลีแป้งโฮมเมดเหนียวนุ่มสอดไส้ผักโขม พร้อมความหอมของผักร็อกเก็ต กินแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ ค่ะจานนี้

และแล้วก็ถึงเวลาสำหรับพระเอกของทางร้าน Diabla (Flembé) Pizza (400 บาท) เมนูพิซซ่าไฟลุก เอกลักษณ์ของ Bacco ซึ่งคุณ Andrea บอกเราอย่างภูมิใจว่าหาได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ความร้อนแรงของจานนี้มิได้หยุดอยู่เพียงไฟที่โชติช่วงอยู่บนหน้าพิซซ่าเท่านั้น เพราะรสชาติของพิซซ่าจานนี้ก็เผ็ดร้อนไม่แพ้กัน ด้วยท้อปปิ้งอย่างพริกขี้หนู ซาลามี่แบบเผ็ด ไส้กรอกอิตาเลี่ยน มะกอกดำ และชีส โรยมาบนแป้งพิซซ่าแบบบางเหนียวนุ่ม เพราะเป็นแป้งนวดมือ พร้อมความหอมของเตาแบบออริจินอลแท้ๆ ซึ่งเค้าอบโชว์กันอยู่ด้านหลังไวน์บาร์

หากวันไหนเบื่อหน่ายกับความจำเจของอาหารขึ้นห้างทั้งหลาย ก็ลองมาสัมผัสอาหารอิตาเลี่ยนแบบดั้งเดิมในบรรยากาศที่เป็นกันเองสนุกสนานที่ร้าน Bacco กันได้ ด้วยราคาเอื้อมถึงได้ไม่ยาก เทียบกับวัตถุดิบที่นำเข้ามาเกือบทั้งหมด การบริการอย่างกระตือรือร้นของน้องๆ พนักงาน และความรักความใส่ใจของเชฟ Sergio ที่ยืนยันว่าทุกคนจะได้รับอาหารและการบริการที่มีคุณภาพเฉกเช่นเดียวกับวันแรกของการเปิดร้านอยู่เสมอ ก็ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มจริงๆ ค่ะ

รายละเอียดเพิ่มเติม: Bacco Restaurant and Wine Bar

Location: คลิกเพื่อดูแผนที่

Telephone: 02-662-4538