Chikalicious Dessert Bar (Closed)

ช่วงนี้วุ่นๆ ไม่ค่อยมีเวลาเปิดคอมเลยห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนานก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทีมงานจาก OpenRice ส่งที่ร่อนบัตรเชิญไปร่วมก๊วนชวนกินซึ่งบอกเลย ว่าไม่ผิดหวังกับกิจกรรมนี้จริงๆเพราะนอกจากจะได้มาชิมขนมอร่อยๆแล้วยังมี Workshop แต่งหน้าโดซองด้วยสำหรับก๊วนครั้งนี้ จัดขึ้นที่ร้าน Chikalicious Dessert Barที่ CENTRAL EMBASSY สามารถเดินทางได้สะดวกอยู่ใกล้ๆกับ BTS สถานีชิดลม ประมาณนั้นที่นี่ส่วนมีทีเด็ด มีความน่าสนใจอยู่ที่ขนมจะเสริฟ์เป็นคอร์ส ซึ่งจะประกอบด้วย 3 อย่าง ด้วยราคาเพียง 400 บาทส่วนบรรยากาศของร้าน เป็นเหมือนร้านเบเกอรี่ในสไตล์ Dessert Bar การตกแต่งน่ารัก ในขณะเดียวกัน เราสามารถพูดคุยกับเชฟระหว่างรออาหารหรือสอบถามข้อมูลหรือคำแนะนำต่างๆได้อย่างอบอุ่นเลยทีเดียวมาๆมาดูกิจกรรมครั้งนี้กันเลยมาถึงทีมงานและเจ้าหน้าที่ก็รีบจัดแจงเมนูมาให้เลือกเลยจ้าหลังจากดูเมนู อย่างแรกที่เลือกขอเลือกเป็นชาคาโมมายเพราะวันนี้รถติดมาก เลยอยากได้ความหอม สดชื่นมาดับกระหายก่อน(ฟังแล้ว ไม่น่าจะเกี่ยวสินะ 5555)จากนั้นก็เริ่มเข้ากิจกรรม โดยทีมงานได้แนะนำเชฟของร้านและจุดประสงค์ ประวัติต่างๆของทางร้านซึ่งบอกเลยว่า เชฟที่นี่ สวยมากกกกกกกกกสวยพอๆกับอาหารที่ประดิษฐ์ออกมาเลยอ่ะเชฟพูดจบก็ลงมือตกแต่งขนมให้เหล่าสมาชิก OpenRice ได้ชิมกันถ้วยแรก เป็นไอศครีมเรียกน้ำย่อยจ้าเป็นไอติมมะพร้าวหอมมมากกกก บวกกะคาราเมลหวานๆราดด้วยคาไทฟี่กรอบๆ สุดติ่งกระดิ่งแมวมากจริงๆ ช๊อบบบชอบบบบบจากนั้นไม่นาน ขนมจานใหญ่ก็ยกมาเสริฟ์วันนี้ เราสั่งเป็น BANANA TARTARE ON CRISPY KATAIFIให้ตายเถอะ จานนี้เป็นเมนูที่รวมกันกันที่รสชาติลงตัวมากกกกกด้านล่างเป็นคาไทฟี่กรอบๆอัดกันแน่นๆ รสชาติหวานๆโรยหน้าด้วยกล้วยหอมหั่นเป็นสี่เหลี่ยม หอมๆส่วนไอศครีมสีขาวที่เห็นเป็น...กาแฟนะนั่นและสีดำเป็น ดาร์กช็อคโกแลตพุดดิ้ง โอ้ยยยยยยยย ไม่รู้จะโอดโอยยเป็นภาษาไหนดีรู้แค่ว่า.....เลิฟมากกก ไม่นอกใจด้วยยยยเอาจริงๆ เราควรจบตั้งแต่จานนี้นะแต่อดไม่ได้จริงๆที่จะขอชิมของเพื่อนข้างๆบ้าง หุหุจานนี้เป็นทาร์ตช๊อคโกแลตซึ่งหากใครเป็นสายนี้ บอกเลยว่า ห้ามพลาดนะแจ๊ะจานนี้เสริฟพร้อมไอติมพริกไทย มันมีกลิ่นหอมของพริกไทยที่เด่นมากแต่รสไม่เผ็ดนะ ส่วนซอสออกรสเปรี้ยวอมหวานต่อมาๆมันคือภาพที่เราเห็นบ่อยๆในช่วงนี้แต่เราก็ไม่รู้ว่าคืออะไรจนมาอ๋อวันนี้นี่เองมันคือ ชีสเค้กเสริฟ์มาพร้อมน้ำแข็งให้อารมณ์เหน็บหนาวเหมือนอยู่ในวังน้ำแข็งของเอลซ่าลองทานดูรสสัมผัสนุ่มมากกกกเหมือนทานก้อนเมฆเลยจริงๆแต่จานนี้ เราไม่ค่อยตาค้างมากเพราะเราชอบรสหวานๆมากกว่า จานนี้จะออกแนวรสเรียบๆ แต่ตาค้างเพราะความนุ่มมากกว่าจานนี้ก็เด็ดนะ มันคือ WHITE CHOCOLATE MOUSSE ON CANTALOUPE WITH LANCE TUILE AND FREASH MINT ICE CREAMยาวอ่ะดิ อื้มมม ยาวมากกกก นี่ก็ก๊อบมาชื่อมาจากเมนูเลยเอาเข้าจริง จานนี้คือ ไวท์ช็อคโกแลตมูส ส่วนด้านล่างเป็นแคนตาลูปเสริฟ์กับไอศกรีมมินท์ ด้วยความที่ชอบรสมินท์อยู่แล้ว เลยชอบเป็นพิเศษจ้ะหลังจากชิมของเพื่อนข้างๆจนออกแนวเกรงใจสักพักทางร้าน ก็ยกจานสุดท้ายมาให้อีกจานนี้ดูธรรมดามาก เหมือนขนมหวานทั่วไปแต่ให้ขอตายอีกรอบ มันอร่อยมากอ่ะแกรรรรรชิ้นที่ 1 มาร์ชเมลโลมะพร้าว ชิ้นที่ 2 คล้ายๆคุ๊กกี้ช็อกโกแลต (เรียกไม่ถูก จำชื่อไม่ได้จริงๆง่ะ)ชิ้นที่ 3 เค้กกล้วย (บอกเลยนะว่า ปกติไม่กินเค้กกล้วยหอม แต่ของที่นี่ดีมาก อยากกินอีก 7-8 ชิ้น)โอ้ยยยยย ฟินนนนนนแค่นี้ยังไม่พอทางร้านยังมี workshop แต่งหน้าขนม โดซองต์ อีกนะอันนี้ฝีมือเราเองอ่ะ เป็นรสช๊อคโกแลตทั้งตัวเนื้อโดซองต์และครีมเลยทางร้านมีโดซองต์จำหน่ายด้วยนะ ราคาชิ้นละ 95 บาทมีให้เลือก 6 รส โดยมีรสประจำ 5 รส ส่วนอีก 1 รสจะเปลี่ยนไปทุกเดือนจ้า(อันนี้น่ากินกว่าเราแต่งหน้าเองเยอะหลายขุมอ่ะพูดเลย 55555)สำหรับคอขนมหวาน ลองไปกันดูจ้าแต่แนะนำก่อนนะว่าร้านนี้ไม่เน้นอิ่ม เน้นฟินกับรสชาติหวานถูกปากเท่านั้นจ้าาาาา…Read More

ขนมหวาน 3 คอร์สของร้าน Chikalicious ถือเป็นไฮไลท์เลยค่ะ โดยจะเริ่มจาก Amuse ขนมหวานเรียกน้ำย่อย ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟมาเองค่ะเป็นเซอร์ไพรส์, Choice of dessert ขนมหวานจานหลัก มีให้เลือก 1 อย่าง จาก 5 เมนู และสุดท้าย Petits Fours เป็นขนมหวานของขนมหวานค่ะเก๋มาก จะเป็นขนมชิ้นเล็กๆ3 อย่างที่ทางร้านจัดมาให้ เป็นการปิดท้ายมื้อขนมหวาน รวม 1 คอร์ส 400 บาทค่ะ ถือว่าราคาสูงอยู่เหมือนกันแต่ถ้านึกถึงว่าเราได้นั่งดูการทำขนมสดๆบนบาร์แล้วล่ะก็ ถือว่าคุ้มมากค่ะ เชฟค่อยๆทำทีละจาน ได้เห็นวิธีการตัก การตกแต่งจาน ความพิถีพิถันแล้วประทับใจมากเลย แนะนำว่าให้นั่งตรงบาร์กลางร้าน จะได้เห็นบรรยากาศร้านทั้งหมด เห็นเชฟด้วยมาดูขนมหวานที่เรากินในวันนี้กันค่ะ เริ่มต้นด้วย Amuse เชฟเสิร์ฟให้เราเป็นถ้วยแรก ข้างในคือ พันนาคอตต้ามะพร้าวกับไอศครีมน้อยหน่า เนื้อพันนาคอตต้าทั้งหอมทั้งเนียน อร่อยมาก ส่วนตัวชอบกินพันนาคอตต้าอยู่แล้ว ส่วนไอศครีมน้อยหน่าแปลกและดีมากค่ะ มีเนื้อน้อยหน่าและเข้ากันกับพันนาคอตต้ามาก เปิดตัวขนมเรียกน้ำย่อยด้วยความประทับใจเมนูขนมหวานจานหลักในเมนูมีให้เลือกตั้ง 5 อย่าง ให้เลือกแค่อย่างเดียว แอบเลือกไม่ถูก อยากกินทั้งหมดเลย ซึ่งจริงๆแล้วเราก็สั่งเพิ่มเมนูอื่นๆได้นะคะถ้าอยากกินทุกจาน โดย 2 เมนูแรกเป็นเมนูเด็ดของร้าน ส่วนอีก 3 เมนูทางร้านจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งทั้ง 5 อย่างนี้ ได้แก่Fromage Blanc Island "Cheese Cake" ชีสเค้กสีขาวเนื้อฟูเบา ราดด้วยครีมซอสสีขาวของร้าน รสชาติไม่หวานมาก ได้รสชาติของชีสเต็มๆ เสิร์ฟมาเย็นๆ บนชามน้ำแข็ง จานนี้ถือเป็นจานแนะนำ ซึ่งมาแล้วต้องชิม เราเลยไม่พลาดค่ะWarm Chocolate Tart ทาร์ตช็อกโกแลตอุ่นๆ เสิร์ฟกับไอศครีมพริกไทยสีชมพู และซอสไวน์แดง นี่ก็เป็นอีกเมนูที่เป็นจานแนะนำค่ะ ทาร์ตช็อกโกแลตเค้าจะอบมาให้ก่อนเสิร์ฟ ดังนั้นจึงเยิ้มมากๆ ไอติมที่ทำจากพริกไทยสีชมพูอันนี้อร่อยและเราชอบที่สุดเลยค่ะ มันมีกลิ่นหอมของพริกไทยที่เด่นมากแต่มีรสหวาน กินกับทาร์ตและซอสไวน์แดงแล้วเข้ากันมากเลย ซอสเป็นรสเปรี้ยวอมหวานค่ะเซอร์เบท์รสเบซิล(โหระพา) เสิร์ฟมาในซุปมะพร้าว และวุ้นแมงลัก จานนี้รสอ่อนๆค่ะ ไม่หวาน กลิ่นเบซิลจางๆ ตัวซุปคล้ายๆกะทิเพราะทำจากมะพร้าวแต่ใสกว่า ไม่เลี่ยนค่ะ เพิ่มความสดชื่นได้ไม่น้อย แต่สำหรับเรายังไม่โดดเด่นโดนใจเท่าไหร่พันนาคอตต้าน้ำตาลทรายแดง เสิร์ฟกับเซอร์เบท์ แอปเปิ้ล โรยด้วยถั่วพิสตาชิโอ จานนี้เชฟให้กินทั้ง 3 อย่างรวมกันในคำเดียวค่ะ เข้ากันมากๆ จากนั้นเราก็ลองชิมรสชาติทีละอย่างดู พันนาคอตต้าหวานอ่อนๆ เนื้อเนียน ซอร์เบท์แอปเปิ้ลหวานเปรี้ยวและหอมค่ะ ส่วนถั่วเนี่ยกรุบกรอบ จานนี้กินแล้วก็สนุกไม่เบาค่ะขนมหวานทั้งหมดทั้งมวลในวันนี้เรากินกับชาร้อน เราเลือกเป็นชา Gold Moscato 160 บาท เสิร์ฟมาเป็นกาและแก้ว แก้วที่นี่น่ารักมากๆเลย ชอบๆลูกแพร์ตุ๋นราดซอสชาบายอนกลิ่นเหล้าลูกแพร์ เสิร์ฟกับไอศครีมน้ำผึ้ง-ใบไทม์ ข้างล่างลูกแพร์รองด้วยคาไทฟี่กรอบๆ จานนี้เป็นเมนูใหม่ และเป็นอีกจานที่เราว่ากินสนุก ลูกแพร์ตุ๋นไม่หวานมาก กินกับซอสซึ่งส่วนนี้จะอุ่นๆ กินกับไอติมเย็นๆที่หอมมาก และคาไทฟี่กรอบๆยิ่งเข้ากันสุดๆ จานนี้ก็ชอบและประทับใจมากเช่นกันสุดท้ายคือขนมหวานของขนมหวาน Petits Fours ขนม 3 ชิ้นเล็กๆเสิร์ฟมาพร้อมกันชิ้นที่ 1 มาร์ชเมลโลมะพร้าว เป็นมาร์ชเมลโลที่นุ่มมากเลยค่ะ ไม่หวานมาก ด้านนอกเป็นเกล็ดมะพร้าวชิ้นที่ 2 เป็นแมคคาเดเมียช็อกโกแลต อันนี้อร่อยค่ะ เพราะเป็นการรวมตัวของความอร่อย 2 อย่าง ดาร์คช็อกโกแลต และถั่วแมคคาเดเมียชิ้นที่ 3 เค้กกล้วยท็อปด้วยวิปครีมและถั่ววอลนัท รสชาติที่คุ้นเคยของค้กกล้วยหอม แต่พอวิปด้วยครีมและวอลนัทก็อร่อยเข้ากันไปอีกแบบหนึ่งนอกจากนี้ในเมนูยังมีขนมอย่างหนึ่งที่น่าลองมากๆๆๆๆค่ะ เรียกชื่อว่า Jack Daniel’s Bread Pudding 145 บาท เสิร์ฟอุ่นๆทานกับไอศครีมวานิลลาโฮมเมดของทางร้าน เป็นเบรดพุดดิ้งที่อร่อย ไม่แฉะหรือแห้งเกินไปค่ะ ด้านบนโรยดวยอะไรสักอย่างที่กรุบกรอบ กินแล้วได้หลากหลายสัมผัส แถมไม่เน้นรสหวานเกินไปด้วยค่ะ ก่อนทานก็ราดซอสสีขาวๆลงไปก่อน ทุกอย่างลงตัวมาก เห็นว่าเป็นเมนูที่ลูกค้าหลายคนติดใจด้วยล่ะค่ะ ไม่ผิดหวังเลยอีกเมนูขนมที่ร้านบอกว่าเป็นต้นตำรับ คือ โดซองต์ (Doughssant) ชิ้นละ 95 บาท ที่ร้านมีให้เลือก 6 รสค่ะ โดยมีรสประจำ 5 รส ส่วนอีก 1 รสจะเปลี่ยนไปทุกเดือน ที่เรากินที่ร้านเป็น โดซองต์บรูเล่ โดซองต์ไส้ครีมหวานๆหอมๆ โรยน้ำตาลแล้วก็เบิร์นค่ะ เชฟทำให้ดูต่อหน้าเลย น่ากินสุดๆ ยังมีรสชาติอื่นๆที่นำกลับมาชิม ได้แก่ ชาเขียว โอรีโอ นูเทลล่า และรสชาติใหม่ของเดือนนี้คือ รสมันหวานค่ะ เราชื่นชอบในความกรอบนอกนุ่มในของโดซองต์ที่นี่ค่ะ ทุกชิ้นมีไส้ด้านในและไส้ค่อนข้างเยอะด้วยค่ะ เราชอบ…Read More