20
1
0
6-min walk from Exit 2, Nana BTS Station continue reading
Telephone
02-254-0404
Good For
Business Dining
Family Style Dining
Opening Hours
Today
11:45 - 15:00
18:00 - 22:00
Mon - Sun
11:45 - 15:00
18:00 - 22:00
Payment Methods
Visa Master AMEX Cash Others
Number of Seats
150
Other Info
Online Reservation
Parking
Service Charge
Serves Liquors
Air-conditioned
Restaurant Website
http://www.landmarkbangkok.com
Above information is for reference only. Please check details with the restaurant.
About Reward Scheme
Review (30)
ฟินๆไปกับบุฟเฟ่ต์กุ้งและปูตลอด 4 ชั่วโมง ช่วงนี้มีเทศกาลปูไข่ด้วยยิ่งเหมาะกับคนชอบทานปูไข่มากอาหารอื่นๆก็มีอีกเยอะเช่น ปลาดิบ แซลมอล ข้าวปั้น ปูอลาสก้า กุ้งแชบ๊วย พาสต้าแบบต่าง อาหารไทยอย่างยำปลาดุกฟูก็มีเบอเกอรี่ เค้ก ขนมไทย ไอติมก็มา บอกเลยว่าเหมาะกับสายกินมาก...ตอนนี้มีโปรมา 4 จ่าย 2 ด้วยนะ continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ต.ต. 60 คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะทานปูไข่คลองโคนเทศกาลปูไข่คลองโคนจึงถูกจัดขึ้นเพื่อเอาใจสาวกปูโดยเฉพาะกับปูที่ส่งมาใหม่ๆทุกวันไม่ว่าจะปูไข่ตู้มๆหรือจะปูเนื้อแน่นๆทานเปล่าๆก็อร่อยหรือจะจิ้มน้ำจิ้มแซ่บๆก็เลิศนอกจากนี้ยังมีหลากหลายเมนูซีฟู้ดและอย่างอื่นอีกเพียบ แต่บอกเลยว่าวางมือจากปูยากมากๆพร้อมมีส่วนลดพิเศษต่างๆสูงสุดถึง 50% แบบชิวๆ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/the-landmark-bangkok-atrium-klong-klone-crab-promotion-2017/ชมคลิป : continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
Level4 2016-05-05
985 views
วันนี้เรามาฉลองวันเกิดกับ Buffet Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร Atrium โรงแรม Landmark กันค่ะ วันอาทิตย์ห้องอาหารเปิดบริการ 11.45 - 15.00 น. ตอนนี้มีโปรโมชั่นมาเกิน 4 ท่านลด 50% จากหัวละ 2,400 บาท Net เหลือเพียงหัวละ 1,200 บาท ซึ่งราคานี้รวมเครื่องดื่มอย่าง Soft Drink ชาเย็น กาแฟเย็น ชามะนาว น้ำผลไม้ น้ำพันช์ น้ำแตงโม น้ำส้ม น้ำฝรั่งไว้แล้วค่ะวิธีการเดินทางมาโรงแรม ถ้ามาบีทีเอสลงสถานีนานา หรือถ้าขับรถมาโรงแรมอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 4 และ 6 ห้องอาหาร Atrium อยู่ชั้นล่างของโรงแรมเลยค่ะบุฟเฟต์เป็นอาหารนานาชาติ แบ่งเป็นโซน ๆ ตั้งแต่โซนขนมปัง และผักสลัดแบบต่าง ๆ น้ำสลัดทั้งแบบเฟรนซ์ เทาซันส์ พวก cold cut แบบต่าง ๆโซน Seafood on Ice ทั้งกุ้ง ปู หอยนิวซีแลนด์ตัวโต กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บย้ายมาโซนอาหารไทย มีทั้งยำปลาดุกฟูน้ำยำรสออกหวานไปสักนิด เกี๊ยวกุ้งทอดกรอบ ไส้กรอกอีสาน สาคู-ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมจีนน้ำพริก ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ น้ำพริก ผักสด ผักชุบแป้งทอด ไข่ต้มโซนบาร์บีคิว A la minute ทั้งกุ้ง ปลาหมึก เสต็กหมู ไก่สะเต๊ะ กั้งนึ่งนมสด ปลาแซลมอน มีน้ำจิ้มให้เลือกทั้ง น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บ น้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มอาจาด น้ำจิ้มสะเต๊ะ โซนนี้สามารถเลือกเนื้อสัตว์แบบต่าง ๆ ให้พ่อครัวปรุง แจ้งหมายเลขโต๊ะ ให้มาเสิร์ฟได้ค่ะโซนอาหารจีน เป็ดย่าง หมูกรอบ ติ่มซำ เป็ดปักกิ่ง เป็ดย่างเนื้อนุ่ม หมูกรอบไม่มีมันเลย กรอบอร่อย โซนส้มตำโซนอาหารญี่ปุ่น มีทั้งซูชิ ซาซิมิ กุ้งเทมปุระทอดกรอบไม่อมน้ำมัน มิโซะซุปโซน Noodle ให้พ่อครัวลวก และใส่น้ำพริกเผามา ทีเหลือแล้วแต่เราปรุงรสชาติ มีน้ำมะนาวสดให้ปรุงแบบต้มยำมะนาวได้ด้วย เกี๊ยวกุ้งหอมอร่อยค่ะ นอกจากนี้ยังมีโซน Variety of Pasta Sauce สปาเกตตี้ผัดซอสแบบต่าง ๆ ให้เลือกด้วย เราเลือกสั่งเมนูโปรดค่ะ สปาเกตตี้ผัดพริกแห้งกระเทียมเบค่อน อร่อยใช้ได้ค่ะถัดมาที่โซนของหวาน มีทั้งผลไม้ ของหวานแบบไทย ๆ ทั้งฝอยทอง เม็ดขนุน ขนนมัน ตะโก้ ซาหริ่ม ขนมเปียกปูน ลอดช่อง ทับทิมกรอบ ข้าวเหนียวหน้าต่าง ๆ ทั้งสังขยา ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวหน้าปลา หน้ากุ้ง สาคูแคนตาลูปของหวานทั้งเค้ก คัสตารด์ ทีรามิสุ เครมบูเล่ เครปทั้งแบบนิ่มและกรอบเลือกสั่งได้โรยทอปปิ้งอย่างแอลมอนต์ ชอคโกแลต ฟองดูผลไม้ ฟองดูชอคโกแลต ไอศกรีมทั้งเชอร์เบตชอคโกแลต คลาสสิคมิกซ์เบอร์รี่ ไอศกรีมรสกล้วยเครื่องดื่มเติมไม่อั้นทั้ง Soft Drink ชาเย็น กาแฟเย็น ชามะนาว น้ำผลไม้ น้ำพันช์ น้ำแตงโม น้ำส้ม น้ำฝรั่งไว้แล้วค่ะโดยรวมอาหารอร่อยคุณภาพดีค่ะ พนักงานให้บริการดีมากค่ะ ยิ่งโปรโมชั่นดี ๆ แบบนี้เหมาะสำหรับมาฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษค่ะ continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
ได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรม OpenRice Party “ก๊วนชวนกิน” ครั้งที่ 41 ซึ่งครั้งนี้ได้พาเรามาลิ้มลอง International Buffet ของมื้อค่ำวันพฤหัสที่ห้องอาหาร Atrium โรงแรม Landmark กันค่ะ โดย Mr. Johannes Kern (Assistant Food & Beverage Manager) และคุณเกด (F&B Marketing Manager) ได้เป็นผู้มาต้อนรับและดูแลพวกเราเป็นอย่างดีตลอดค่ำวันนั้น ต้องขอขอบคุณทางโรงแรมและทาง OpenRice ไว้ ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ **-ทำเลที่ตั้ง/บรรยากาศ-**ห้องอาหาร Atrium นี้ตั้งอยู่ที่ชั้น Lobby ของโรงแรม Landmark ค่ะ ตัวโรงแรมอยู่ริมถนนสุขุมวิท ช่วงระหว่างซอยสุขุมวิท 4 และสุขุมวิท 6 ถ้ามาทางรถไฟฟ้า BTS ให้ลงที่สถานีนานา ออก Exit 2 เดินตรงมาอีกประมาณ 100 เมตรก็ถึงค่ะสำหรับวันที่ไปเป็นช่วงก่อนคริสต์มาส ด้านหน้าบริเวณ Lobby ก็เลยตกแต่งเป็น Christmas Theme สวยงาม มีน้องหมีตัวโตนั่งเป็นพระเอกอยู่กับต้นคริสต์มาสสีฟ้า น่ารักสุดๆค่ะ**- ข้อมูลพื้นฐาน -**สำหรับ International Buffet ที่นี่นั้นจะแบ่งช่วงการเปิดบริการเป็นตามนี้ค่ะ ราคาที่ลงไว้นี้เป็นราคาสุทธิแล้ว แต่ถ้ามีช่วงไหนที่มีการจัดเทศกาลหรือโอกาสพิเศษก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ถ้ายังไงก็โทร.สอบถามและสำรองที่นั่งกับทางโรงแรมดูก่อนที่เบอร์โทร. 02-254-0404 นะคะLunch วันจันทร์-ศุกร์ : 11.30 – 14.30 น. : ราคา 1,500 บาทDinner วันอาทิตย์ – พฤหัส : 18.00 – 22.30 : ราคา 2,000 บาทDinner วันศุกร์ – เสาร์ : 18.00 – 22.30 : ราคา 2,400 บาทBrunch วันเสาร์ – อาทิตย์ : 11.45 – 15.00 : ราคา 2,400 บาท สำหรับมื้อ Dinner (ศุกร์-เสาร์) และ Brunch (เสาร์-อาทิตย์) นั้นนอกจากจะมีไลน์ seafood สุดอลังการแล้ว ยังมี Foie gras เพิ่มมาให้กินได้ไม่อั้นอีกด้วย งานนี้คนเลิฟ Foie gras มีเฮค่ะ แต่สำหรับครั้งนี้ที่เรามาลองเป็น Dinner ของคืนวันพฤหัส ก็เลยไม่มี Foie gras ให้นะคะ..และถ้าใครอยากจิบ cocktails - ชิมไวน์ - กระดกแก้วเบียร์แกล้มไปกับอาหารด้วยล่ะก็ ทางโรงแรมมีอ็อปชั่นเสริมเป็น All You can Drink ให้ในราคา 890 บาท โดยสามารถเลือกสั่งได้ตั้งแต่ classic cocktails หลากชนิด, เบียร์, red wine, white wine, sparkling wine ไปจนถึงน้ำอัดลมค่ะ**- โปรโมชั่น -**● สำหรับช่วงนี้ (ม.ค. 2559) ทางโรงแรมกำลังมีโปรโมชั่น มา 4 จ่าย 2 สำหรับ international buffet ทั้งหมดค่ะ ยังไม่มีกำหนดสิ้นสุดโปรโมชั่นนะคะ● ดีล Ensogo ลด 50 % เฉพาะมื้อกลางวัน และมื้อเย็นวันอาทิตย์ – พฤหัส ไม่ทราบว่าดีลจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ลองติดตามดูนะคะ● Eatigo - มีส่วนตั้งแต่ 10-50% ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เลือกจองค่ะ**-ไลน์อาหาร-**ไลน์นี้จะไม่พูดถึงเห็นจะไม่ได้ เพราะเรียงรายมาละลานตาทั้งปูอลาสก้า ปลาหมึก กุ้ง หอยนางรม หอยหวาน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และที่เราชอบเป็นพิเศษคือ Black Mussels เนื้อหวานนุ่มหนึบ น้ำจิ้มซีฟู้ดที่นี่แซ่บได้ใจ มีมะนาวฝานไว้ให้สำหรับคนชอบเปรี้ยว ความสดโอเคทุกอย่างค่ะ สำหรับกุ้งที่นี่เป็นกุ้งแชบ๊วยตัวค่อนข้างโต แต่ความที่ไม่ได้แกะเปลือกมาให้เลยกินลำบากนิดหน่อยนะมีทั้งซูชิ ซาชิมิ กุ้งเทมปุระ หัวปลาแซลมอนนึ่งซีอิ๊ว และไม่ลืมมีซุปมิโซะไว้ให้ซดคล่องๆคอด้วยค่ะ เท่าที่ลองดูซาชิมิและซูชิคุณภาพจัดว่าพอใช้ได้ในระดับบุฟเฟต์ กุ้งเทมปุระทอดมากรอบดีไม่อมน้ำมัน ถือว่าโอเคอยู่ ส่วนหัวปลาแซลมอนนึ่งซีอิ๊วนั้นเราชอบให้เคี่ยวเข้มข้นกว่านี้อีกนิดนะคะ โดยรวมกับไลน์นี้คุณภาพจะกลางๆ คือคนที่ชอบก็จัดได้ แต่ถ้าไม่ได้ลองก็ไม่ถือว่าพลาดอะไรนะ..สำหรับมุมนี้ขอบอกเลยว่ามันสุดยอดมากกก... เพราะอาหารปิ้งย่างที่นี่เค้าอร่อยล้ำเลิศทุกอย่างค่ะ ในไลน์จะมีทั้งกุ้ง แซลมอน หมูปิ้ง หมูสะเต๊ะ หอยเชลล์ ปลาหมึก ปลากะพงแดง สั่งปิ้งกันได้สดๆให้ได้กินร้อนๆ มาส่งให้ถึงโต๊ะค่ะ เท่าที่ลองดูทั้งกุ้ง แซลมอน หอยเชลล์ ก็ว่าย่างมาดี๊ดีแล้ว แต่แชมเปี้ยนของมุมนี้เรายกให้หมูสะเต๊ะค่ะ หมักมานุ๊มมม....นุ่ม รสเข้มข้นกำลังดี ไม่ติดมันเยอะ ฟินระเบิดระเบ้อ!เป็นมุมเล็กๆที่มีชีสให้แค่ 4 ชนิด กับเครื่องแกล้มพวกผลไม้แห้งและขนมปังกรอบ อาจจะดูไม่อลังการเท่าไหร่ แต่เท่าที่มีอยู่ก็เป็นชีสเกรดดีทีเดียวค่ะ คนรักชีสมาแวะจัดได้มีทั้งแฮมต่างๆและแซลมอนรมควันค่ะ อันที่จริงที่ชิมดูแฮมเค้าก็นุ่มอร่อยดีงามอยู่ แต่จากการส่งสายสืบไปคุยกับคุณ Johannes Kern (สุดหล่อขวัญใจสาวๆในงานนี้ล่ะ) ได้ความว่า Smoked Salmon ในไลน์นั้นเป็นฝีมือเชฟที่นี่ทำเองแบบโฮมเมด ภูมิใจนำเสนอสุดๆ งานนี้เราก็เลยไม่ยอมพลาดต้องตักมาลองแบบรัวๆ ...คือมันเลิศมากค่ะ บอกเลย เนื้อแซลมอนนุ่มแน่น รมควันมาผิวแห้งกำลังดี อร่อยมากกก..(กอไก่ล้านตัว) ไม่มีกลิ่นคาวใดๆเลย รสชาติและความเค็มก็อยู่ในระดับกำลังดีแบบเป๊ะเว่อร์ สำหรับเราแล้วพอเจอมุมนี้เข้าไปนี่เล่นเอาลืมพวกซูชิ-ซาชิมิที่กินก่อนหน้านี้หมดไปจากใจเลยล่ะ...5555+สำหรับมุมนี้จะมีทั้งผักสลัดให้เลือกทานกับ salad dressings ต่างๆ และสลัดแบบที่ปรุงมาเสร็จใส่ถ้วยจิ๋วๆไว้ ซึ่งเราเลือกลองเป็นสลัดอกเป็ดรมควัน และสลัดปูอัด รสชาติกลางๆค่ะ นอกจากนั้นยังมีพวก Apple Salad, Sausage Salad, Marinated Octopus….ฯลฯ ดูน่าทานทีเดียวค่ะมุมของคนรักเนื้อที่มีให้เลือกทั้ง Roasted Beef, Roasted Chicken และ Gammon Ham (เนื้อหมู) งานนี้สายสืบคนเดิมกลับมารายงานว่าคุณ Johannes แกกระซิบมาว่า You should try the pork นะจ๊ะ คุณสายสืบเลยแซวไปว่าก็ยูเป็นชาวเยอรมันก็เลยชอบหมูล่ะสิ 555+ ..แต่ยังไงเค้าแนะนำมาแบบนี้ก็ต้องจัดล่ะค่ะ เชฟที่นี่มือเติบสุดๆ สั่งทีแล่มาให้ซะเต็มจาน เจ้า Gammon Ham ของเค้าก็นุ่มอร่อยดีงามสมราคาคุยซะด้วยสิ ชอบใจว่าที่นี่มี pommery mustard ที่ยังเห็นมัสตาร์ดเป็นเม็ดๆกรุบๆให้ทานแกล้มด้วย ถ้ายังไงก็เผื่อกระเพาะไว้ลองกันดูนะคะมีทั้งเส้น Fettuccine, เส้น Spaghetti ธรรมดาและเส้นหมึกดำ สามารถเลือกได้ว่าจะผัดน้ำมันมะกอก ราดซอสครีม Bolognese หรือ Neapolitan ก็ได้ ทำกันสดๆจานต่อจานส่งให้ถึงโต๊ะค่ะน่าจะเปลี่ยนไปในแต่ละวันนะคะ อย่างวันที่ไปก็มีต้มยำแบบไทยๆ และ pumpkin soup แบบฝรั่งที่จะทานกับขนมปังหลากหลายชนิดที่วางไว้ให้ใกล้ๆก็เข้ากันดีค่ะ● Black Mussels – อบมาในหม้อแบบ Belgian Style ไม่ต้องไปไกลถึงเบลเยี่ยมก็มาลองดูได้ค่ะ● Pork – หมูอบราดน้ำเกรวี่ใส่ถาดอุ่นมา ความที่เห็นที่นี่เค้ามีฝีมือในการปรุงอาหารจากเนื้อหมู ไล่มาตั้งแต่หมูสะเต๊ะยัน Gammon Ham เราเลยต้องลองหมูอบเค้าดูซะหน่อย ..เนื้อหมูหมักมานุ่มดี น้ำเกรวี่ก็รสดีเคี่ยวมาซึมซาบเข้าเนื้อหมูกำลังอร่อย เป็นอีกจานที่ปลื้มปริ่มค่ะ● Chicken – ไก่อบกับพริกฝรั่งและมะเขือเทศ ดูแล้วรู้สึกว่าความน่าทานไม่เท่าหมูจานที่แล้ว ก็เลยไม่ได้ตักมาลองค่ะ (คือจริงๆมันอาจจะอร่อยก็ได้นะ)เมนูน่าจะเปลี่ยนไปในแต่ละวันนะคะ เท่าที่เห็นจะมียำต่างๆ ลาบ ทอดมันกุ้ง แกงเขียวหวาน แกงมัสมั่น ขนมจีน.. ฯลฯ ..และมี noodle station ทำก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาตามสั่งร้อนๆ เป็นมุมที่เหมาะกับเวลาเลี่ยนอาหารฝรั่งแล้วอยากมารีเซ็ทลิ้นกับอาหารไทยๆที่คุ้นเคยบ้างนั่นเองค่ะไลน์ของหวานที่นี่เว่อร์วังอลังการสุดๆแบบที่เห็นแล้วอยากจะกรีดร้อง! กับมื้อนี้เลยตั้งใจไว้เลยว่าจะต้องมาให้ถึงจุดนี้ให้ได้ (โดยไม่อิ่มซะก่อน)...555+ ไลน์นี้มีทั้งขนมไทยๆแบบทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบ ทำเป็นชิ้นเล็กๆพอคำแบบชาววัง ขนมตักใส่ถ้วยแบบทับทิมกรอบ ลอดช่อง บัวลอย เสริมทัพด้วยข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ส่วนขนมของฝั่งตะวันตกก็มีเป็นเค้กนานาชนิดสุดแสนจะละลานตา และไอศครีมโฮมเมดที่มีทั้งรสกล้วย มะม่วง และกาแฟ ...เราก็เลยลองไปตามนี้เลยค่ะ● White Chocolate Mousse – เมนูนี้จัดวางมาเป็นเค้กทั้งก้อนน่าทานที่สุด ตัวมูสหอมกลิ่น White Chocolate แบบชัดเจนจัดเต็ม เป็นตัวที่ชอบมากที่สุดในไลน์เค้กเลยล่ะ● Chocolate pie – พายชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆที่ข้างในเป็นครีมช็อคโกแลต โรยหน้าด้วยเม็ดช็อคโกแลตกรุบกรอบ ที่จริงก็อร่อยใช้ได้ เหมาะกับคนที่ชอบช็อกโกแล็ตแบบเข้มข้น แต่เราติดใจกลิ่นรสหอมหวานของ White Chocolate และเนื้อมูสเบาๆของเมนูที่แล้วมากกว่าน่ะค่ะ● Chocolate Tissimo – เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มรสเข้ม กับหน้าครีมช็อคโกแลตเข้มข้นจัดเต็ม อร่อยมากๆค่ะ● Tiramisu – ตัวมูสเนื้อเบาไม่หวานมาก เป็นอีกตัวที่อร่อยทานเพลิน แม้ว่าจะยังไม่ใช่ Tiramisu ในอุดมคติของเราที่ชอบแบบหอมแรงทั้งกลิ่นกาแฟและรสเหล้าก็เถอะ (ของที่นี่ไม่ใส่เหล้าค่ะ)● Panna Cotta – รสชาติชวนให้สดชื่นดีตามมาตรฐาน ชอบที่เค้าให้ซอสด้านบนเยอะดี เปรี้ยวๆหวานๆ ช่วยบาลานซ์กับความหวานมันหนักหน่วงของเค้กตัวอื่นๆได้น่ะค่ะ● Hazelnut Cake – ตัวนี้เนื้อเค้กนุ่มดี หอมกลิ่น Hazelnut อ่อนๆ รสชาติจัดว่าใช้ได้ค่ะ● Strawberry Cheesecake – ตัวนี้ค่อนข้างธรรมดา ทานได้เพลินๆค่ะ● Homemade Ice cream – เราเลือกเป็นรสกาแฟซึ่งมันตักยากสุดๆเลยได้มาก้อนกระติ๊ดเดียว กับรสมะม่วงที่ตักง่ายขึ้นมาหน่อย หลังจากชิมแล้วเราติดใจรสกาแฟเอามากๆ เพราะแค่ตักเข้าปากก็หอมกลิ่นกาแฟอบอวลรวมกับรสนมเข้มข้น อร่อยล้ำเลิศจริงๆค่ะเท่าที่เห็นมีชมพู่ สับปะรด แก้วมังกร และแตงโม ดูไม่หลากหลายเท่าไหร่นะคะในบุฟเฟต์มีชา-กาแฟหลังอาหารให้ด้วย เราเลือกสั่งเป็น Hot Cappuccino ไป พนักงานจะมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะค่ะ กาแฟที่นี่หอมกลมกล่อมใช้ได้เลยทีเดียวนะกับบุฟเฟต์มื้อที่อิ่มอร่อยหนักมากประมาณนี้นี่เทียบกับราคาที่ลด 50 % เหลือคนละ 1,000 บาทถ้วนแล้วถือว่าคุ้มเลยล่ะค่ะ ในแง่รสมือนั้นที่นี่ก็จัดว่ามีฝีมือดีงามทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมุมบาร์บีคิวและอาหารตะวันตกรวมไปถึงของหวาน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่หมดโปรโมชั่น กลับไปเป็นราคาเต็มที่คนละ 2,000 บาท ก็อยากจะให้มีความหลากหลายของวัตถุดิบมากกว่านี้ เช่นว่าน่าจะเห็น lamb ในไลน์บุฟเฟต์บ้าง อะไรทำนองนี้นะคะและแล้วมื้อนี้ก็เป็นปาร์ตี้ส่งท้ายปี 2015 ได้อย่างอิ่มอร่อย สนุกสนาน และอบอุ่นน่าประทับใจมากๆ ถ้าใครอยากมาลองบุฟเฟต์มื้อใหญ่ที่นี่ดูบ้างก็หาวันว่างๆมาลองจัดกันดูเลยค่ะ  continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
กิจกรรมดี ๆ ส่งท้ายปีเก่าที่จัดโดย Openrice Thailand กับงานปาร์ตี้ครั้งที่ 41โดยครั้งนี้นั้น ผมได้รับเชิญไปในฐานะของ Blogger ครับทางทีมงานแสนน่ารักของ Openrice Thailand ได้จับมือกับ The Landmark Bangkok Hotel ให้ทางเพื่อนสมาชิกผู้โชคดีและ Blogger พาไป dinner ห้องอาหาร Atrium ในธีมอาหารทะเลและอาหารญี่ปุ่น กันอย่างสนุกสนาน อิ่มหนำสำราญกันอีกด้วย เป็นการปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทางOpenrice Thailand ที่แสนประทับใจให้กับสมาชิกอีกด้วยครับบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมก็ อลังการด้วยการประดับประดาไฟอย่างสวยงามเช่นกันก้าวเข้าสู่ห้องหาร Atrium อาหารมุมแรกที่จะพบก็คือไฮไลท์ของวันเลยครับโดยที่วันนั้นจะเป็น ธีม อาหารทะเล จัดเต็มกันตั้งแต่ ปูอลาสก้า ปูม้าหอยนางรมสด ปลาหมีก กุ้ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยแมลงภู่ดำน้ำจิ้มซีฟู๊ดและเครื่องปรุงก็ครบครันถ้านับซีฟู๊ดเป็นพระเอกของงานแล้วล่ะก็ ถัดมาก็เป็นนางเอกของงานครับกับมุมอาหารญี่ปุ่น ไลน์อาหารมีทั้งปลาดิบชิ้นโต โดยเฉพาะแซลมอนที่ลายสวยซูชิหน้าต่าง ๆ เทมปุระ หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊วและมิโซะซุป ของดีมีคุณภาพมุมนี้ก็มีไวน์ไว้บริการ (ค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากบุฟเฟ่ต์)ถัดมาเป็นมุมบาร์บีคิวสเตชั่น มีสะเต๊ะหมู ไก่ แล้วก็ท้องปลาแซลมอนกุ้งและหอยเชลล์รอให้เลือกทำบาร์บีคิวตามชอบครับมุมพาสต้า มีซอส 3 แบบ โบโลญเนส มะเขือเทศและคาโบนาร่าเส้นก็มี 3 แบบ เฟตตูชินี่ สปาเกตตี้ และสปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำแต่จะสั่งแบบผัดพริกกระเทียมก็ยังได้ด้วยครับมุม Carving มีทั้งเนื้ออบ ไก่อบ(ย่าง) และขาหมู(แฮมอบน้ำผึ้ง)เด็ดไม่แพ้มุมอื่นเหมือนกันครับหอยแมลงภู่ดำอบ และมุมก๋วยเตี๋ยวอาหารไทยห้องอาหาร Atrium ก็ขึ้นชื่อครับ ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำยาข้าวกับแกงเขียวหวานลาบ แกง สาระพัดยำ มากันให้ครบ แบบรสชาติดีซะด้วยมุมชีส แครกเกอร์และผลไม้อบแห้งมุม Cold Cut ทั้งแซลมอนรมควัน และแฮมนานาชนิด กับเครื่องเคียงเพียบอาหารฝรั่งปรุงสำเร็จเบา ๆ ก็มีให้เลือกครับแซลมอนรมควัน ยังไม่ทิ้งลาย ยังเก็บลายที่สวยงามไว้อีกด้วยมุมสลัดผักสด ๆแกงหมู ใช้ส่วนน่อง/ขา นุ่ม ๆ ส่วนไก่ย่างนั้นผัดกับพริกระฆังสาระพัดสีซุปแบบไทยกับต้มแซ่บ และซุปแบบฝรั่งกับซุปฟักทองใครที่ชอบคาร์โบไฮเดรต ขนมปังก็มีเพียบมาถึงไลน์ผลไม้ไลน์ของหวานทั้งไทยและเทศสารพัดเค้กและขนมฝรั่ง ให้เลือกมากมาย เป็นอันจบไลน์อาหารครับแล้วจะลองชิมกันแล้วครับ และเนื่องจากผมเคยมาทานครั้งนึงตอนวันอาทิตย์ เป็นมื้อซันเดย์บรั้นช์ อาหารบางอย่างจึงเคยลองแล้วและรอบนี้จะได้เปรียบเทียบกันดู สำหรับคุณภาพ รสชาติ ว่าเป็นยังไงดูได้ในลิงค์นี้ครับ สำหรับ Sunday Brunch ชุดแรกกับอาหารญี่ปุ่น มาตรฐานดี ไม่ตกหล่น คุณภาพดีสมกับทีทำเป็นธีมซีฟู๊ดก็อร่อย สดไม่มีที่ติ เช่นกัน น้ำจิ้มก็รสชาติกำลังกลมกล่อมไม่เผ็ดโดดไม่หวานเจี๊ยว ไม่เปรี้ยวปรี๊ดแต่อย่างใด คุณภาพ รสชาติสมทำเป็นธีมครับเนื้ออบ ผมขอให้เชฟไปนาบกระทะเล็กน้อย เพื่อเพิ่มสัมผัสและความหอมของเนื้อให้มากยิ่งขึ้น กินกับซอสเห็ดและพริกไทยดำ ยิ่งเด่นทั้งรสและกลิ่นโดยที่เนื้อนั้นก็ยังนุ่มชุ่มฉ่ำอยู่ครับบาร์บีคิวแซลมอน กุ้งและหอยเชลล์ ของสดได้มาตรฐานและ สะเต๊ะ รสชาติดี หมูและไก่นุ่มหอมก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ต้องลองจะติดใจแฮมอบน้ำผึ้งหอมหวานอร่อย ไก่อบ(่ย่าง)ก็หอมสมุนไพรเนื้อไก่นุ่มในส่วนของอาหารไทยนั้น เชื่อมือครับ เคยลองตอน ซันเดย์บรั้นช์แล้วเด็ดจริง ๆวันนี้เลยไม่ได้ตักมาลองครับ เลยไปเข้าของหวานเลยครับของหวานผมตักมากิน 4 อย่าง ที่อยากกินมี ทีรามิสุ ช็อกโกแล็ตทรัฟเฟิลเค้ก เอแครล์ และสตอเบอร์รี่พานาค็อตต้าอร่อยทุกอย่าง ให้ผ่านทุกชิ้นครับปิดท้ายด้วยเอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตดี ๆ สักแก้ว เป็นมื้ออร่อยและมีความสุขกับ Openrice Party ครั้งที่ 41 ส่งท้ายปลายปีจริง ๆ ครับสำหรับห้องอาหาร Atrium ให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ รองรับลูกค้าได้ 150 คน แนะนำให้โทรจองก่อนครับ· มื้อกลางวันวันจันทร์–วันศุกร์ 11.30-14.00​ในราคาสุทธิท่านละ 1,500 · มื้อค่ำวันอาทิตย์–วันพฤหัสบดี 18.00-22.00​ในราคาสุทธิท่านละ 2,000 ​· มื้อค่ำวั​นศุกร์–วันเสาร์ 18.00-22.00​ ในราคาสุทธิท่านละ 2,​4​00 · มื้อสายวันเสาร์​ ​– ​วันอาทิตย์ 11.45 - 15.00​​ในราคาสุทธิท่านละ 2,400​โปรโมชั่นพิเศษมา 4 ท่านขึ้นไปลด 50% ทุกมื้อกลางวันและค่ำสนใจติดต่อสอบถามและจองที่นั่งได้ที่Tel : 0-2252-4222http://www.landmarkbangkok.com/atriumhttp://www.facebook.com/TheLandmarkBangkokE-mail : fb@landmarkbangkok.comสวัสดีปีลิง 2559 ครับ continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)