Read full review
2013-11-20
198 views
หลังจากไปดินเนอร์กับสาวน้อยคนรู้ใจ ณ Central ลาดพร้าว หมียักษ์ได้พาสวยน้อยมาหาขอหวานล้างปาก ตอบสนองความต้องการขนมหวานของเธอ ผมจึงขอเลือก FLOUR SHOPPE ที่เพื่อนพ้องเพิ่งพามากินไม่กี่วันก่อน ทำไมต้อง FLOUR SHOPPE ??? ผมสรุปเหตุผลส่วนตัวคร่าวๆมาดังนี้1. ไม่ต้องต่อคิวเหมือน After u2. สาวน้อยยังไม่เคยกิน3. อยากมาซ้ำ!!!ด้วยสถานที่ตั้งของร้านนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ใน ส่วนที่เป็นแหล่งของกินของห้าง แต่กลับมาตั้งอยู่ในส่วนของปากทาง Department store ชั้น2 คือเดินหันหลังให้กลับส่วนที่มีร้านอาหารเยอะๆของ Central แล้วเดินตรงๆมาร้านนี้ได้เลย ลักษณะของร้านนั้นจัดร้านโล่งๆ น่ารักๆ ตอนที่ผมไปคนไม่ค่อยมากเท่าไรเมนูยอดฮิตของวัยรุ่นผู้ห
ทำไมต้อง FLOUR SHOPPE ??? ผมสรุปเหตุผลส่วนตัวคร่าวๆมาดังนี้
1. ไม่ต้องต่อคิวเหมือน After u
2. สาวน้อยยังไม่เคยกิน
3. อยากมาซ้ำ!!!
ด้วยสถานที่ตั้งของร้านนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ใน ส่วนที่เป็นแหล่งของกินของห้าง แต่กลับมาตั้งอยู่ในส่วนของปากทาง Department store ชั้น2 คือเดินหันหลังให้กลับส่วนที่มีร้านอาหารเยอะๆของ Central แล้วเดินตรงๆมาร้านนี้ได้เลย ลักษณะของร้านนั้นจัดร้านโล่งๆ น่ารักๆ ตอนที่ผมไปคนไม่ค่อยมากเท่าไร เมนูยอดฮิตของวัยรุ่นผู้หลงใหลขนมหวานในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น Honey Toast ซึ่งในเมนูร้านนี้ให้ชื่อว่า Tokyo Toast ไม่รู้ว่าต่างกับ Shibuya อันเป็นแหล่งช๊อปปิ้งเลื่องชื่อใน Tokyo ยังไง แต่ทางร้านแนะนำมาว่า ทางร้านทำขนมปังเองด้วยสูตรของทางร้าน จริงๆผมก็อยากรู้นะครับว่าต่างกันอย่างไร แต่ขอเป็นงวดหน้าดีกว่า เพราะถ้ากินไปวันนี้คงต้องไปลำบากตอน ลด นน. อีกแน่ๆ อีกอย่างนึงคือวันนี้ผมมีเมนูในดวงใจอยู่แล้วด้วย เมนูที่ผมกล่าวถึงคือ Crepe Suzette Roll up ชื่อยาวเชียววววว.... Crepe Suzette นั้นเป็นขนนหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่มักจะเสริฟพร้อมเนยและซอสส้ม (Tangerine บางคนเรียกว่าส้มจีน)
ลักษณะเป็น เครปโรลสามชิ้นแล้วมีไอติมแปะข้างบนสองลูก ราดด้วยซอสส้ม ไส้ของเครปเป็น วนิลา ครับส่วนตัวเครปนั้นเคลือบไวท์ช๊อค และ ไอติมเป็นวนิลา พูดเท่านี้คงเลี่ยนน่าดูมีแต่อะไรหวานๆๆๆ เต็มไปหมด แต่..... "ซอสส้ม" นี่แหละครับผู้เล่นสำคัญของจานนี้ ผู้ทำการเชื่อมทุกอย่างเข้าหากันได้ลงตัว คราวที่แล้วก็มาติดใจเอาเมนูนี้แหละครับ ความเลี่ยนหายไปหมดเลย ผมสุดท้ายคือซัดเรียบครับ จานนี้สนนราคาที่ 145 บาทไทยครับ ส่วนเมนูอื่นๆที่ผมเคยรับประทานที่ร้านนี้แล้วติดใจก็มี Osaka cheese cake ที่ชิ้นเล็กแต่รสชาติหนักแน่นแต่แป้งน้อยเบาบาง เหมาะกับการสั่งชามากินคู่กัน รวมไปถึง chocolate mousse cake ที่เป็น Dark Chocolate เสริฟพร้อมมะม่วงสุก ทั้งสองเมนูนี้ก็เป็นเมนูที่ลูกค้านิยมสั่งกันนะครับ
แต่สิ่งที่หมียักษ์ขอแนะนำอีกอย่างคือ Maple Bundt Cake นี่แหละครับ ซอสเมเปิ้ลหอมๆ กับเนื้อเค้กนุ่มๆ ชวนให้ผมติดใจไม่น้อยทางร้านมีบริการทั้งชิ้นเล็กและใหญ่เลยนะครับ โดยชิ้นเล็กราคา 125 บาทไทย และชิ้นใหญ่ 400 บาทไทย ถ้าจะสั่งก็รบกวนดูปริมาณที่ว่างในท้องของท่านและสมาชิกด้วยนะครับ เพราะชิ้นใหญ่นั้นใหญ่จริงๆ แม้วันนี้ไม่ได้กินอันนี้แต่อยากเอารูปมาฝากไว้จริงๆ ไว้คราวหน้าจะเอารูปของจริงมาฝากนะครับ
V-Bear Eating hunter
Post