Read full review
2016-07-15
3004 views
สำหรับวันนี้จะพาไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร Little Hong Kong ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เน้นขายอาหารจีนฮ่องกงนะคะ ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีทั้งหมดสามสาขาคือ พระรามสาม เดอะเบลลพระรามเก้าและที่นี่ค่ะ โดยวันนี้สาขาที่เราไปลองกินคือสาขา The Street รัชดานั่นเองหละค่ะ ซึ่งเฉพาะสาขานี้นะคะที่เปิด 24 ชั่วโมงฮับสำหรับใครที่เอารถไป ที่นี่ให้จอดฟรี 4 ชั่วโมงนะคะ โอเคมากๆ (แต่ก็ทำให้หาที่จอดรถยากพอควรเหมือนกันค่ะ แหะๆ) หลังจากสี่ชม.คิดชม.ละ 10 บาทนะคะกดลิฟท์ไปชั้น 1 กันค่ะ จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปด้านในยาวๆ นะฮับจนเจอร้านกาแฟตามภาพนี้ทางซ้ายมือ ให้เดินไปที่ซอยข้างๆ ร้านออกไปนอกอาคารแล้วเลี้ยวขวาค่ะ ก็จะเจอร้านอยู่เลยนะคะหน้าตาหน้า
สำหรับใครที่เอารถไป ที่นี่ให้จอดฟรี 4 ชั่วโมงนะคะ โอเคมากๆ (แต่ก็ทำให้หาที่จอดรถยากพอควรเหมือนกันค่ะ แหะๆ) หลังจากสี่ชม.คิดชม.ละ 10 บาทนะคะ กดลิฟท์ไปชั้น 1 กันค่ะ จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปด้านในยาวๆ นะฮับ
จนเจอร้านกาแฟตามภาพนี้ทางซ้ายมือ ให้เดินไปที่ซอยข้างๆ ร้านออกไปนอกอาคารแล้วเลี้ยวขวาค่ะ ก็จะเจอร้านอยู่เลยนะคะ หน้าตาหน้าร้านค่ะ ชอบการใช้สีของร้านนี้มากกกก สวยสดใสแต่เก๋ค่ะ ด้านหน้าร้านค่ะ เดินเข้าไปด้านในก็จะเป็นโถงต้อนรับนะคะ สีสันสวยงามน่าถ่ายรูปมากๆ
และลองสังเกตโต๊ะตัวกลางค่ะ มีอะไรอยู่น้อ อิอิ เดี๋ยวจะมาเฉลยกันนะคะ ร้านนี้กิมมิคเยอะค่ะ แฮ่...
กระทั่งตรงประตูก็ยังทำเป็นช้อนส้อมนะคะ เก๋ชิมิล่าาา แล้วก็มีการติดรูปของดาราฮ่องกงท่านหนึ่ง (เด็กรุ่นใหม่ทันกันมะคะ อิอิ) คือคุณหงจินเป่าซึ่งเป็นผู้มาเปิดร้านนี้ด้วยนะคะ และที่สำคัญเลยค่ะ ทุกท่านที่มาร้านนี้จะต้องรับทองแท่งนี้ไปนะคะ ซึ่งจะต้องใช้ตอนคิดเงินด้วยค่ะ อิอิ
หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่ รับแท่งทองแล้วเรียบร้อย ประตูก็จะเปิดให้เราได้เข้าไปในร้านค่ะ เก๋ซ้า.. ผู้ชายในรูปคือเจ้าของร้านนะคะ ตอนคุยกันตอนแรกนึกว่าคนไทย ปรากฏว่าเป็นคนจีนมาเลเซียค่ะ (แต่ขอบอกว่าพูดไทยชัดกว่าคนไทยหลายๆ คนซะอีกค่ะ) ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็มาอยู่ที่ไทย 8 ปีแล้วนะคะ เริ่มจากการแบ็คแพ็คมาเที่ยวที่ไทย แล้วชอบอาหาร ชอบกิน ชอบเมืองไทย ชอบคนไทย เลยมีความคิดอยากจะยอู่ที่นี่ แต่พูดไทยไม่ได้ เลยคิดจะทำร้านอาหารแต่ไม่มีทุน ก็เริ่มจากการส่งรูปไปสมัครโมเดลลิ่ง ถ่ายโฆษณา และฝึกภาษาจากกูเกิ้ลและเพื่อนคนไทยค่ะ
สำหรับการเลือกที่จะเปิดร้านอาหารฮ่องกง เพราะคุณแม่ชอบทำอาหารอยู่แล้ว ซึ่งตัวเองก็มองว่า พอเป็นร้านอาหารจีน วัยรุ่นไทยไม่ค่อยเข้า ยกเว้นอากงอาม่าอยากกิน ก็เลยอยากทำร้าน ตกแต่งร้านให้วัยรุ่นอยากเข้ามาค่ะ
ร้านค่ะ โซนทางขวาก็จะมีหลายที่นั่งด้วยกันนะคะ สีสันสวยสดมาก ถ่ายรูปน่าจะเก๋ใช้ได้เลยหละค่ะ ที่นี่มีที่นั่งทั้งหมดราวๆ 110-120 ที่นะคะ แต่วันนั้นเรามานั่งโซนด้านขวาค่ะ ซึ่งทางร้านทำเป็นโต๊ะยาวสำหรับทั้งคณะไว้นะคะ
เซ็ตอุปกรณ์บนโต๊ะค่ะ กระดิ่งนี่เอาไว้สั่นเรียกพนักงานนะคะ ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งน้ำชาและเก็กฮวยร้อนเย็นค่ะ วันนั้นกินเก็กฮวยเย็นนะคะ เบาๆ หน่อย ไม่หวานจัด มาดูเมนูของที่ร้านกันดีกว่าค่ะ ตอนแรกที่เห็นราคาตกใจเหมือนกันค่ะ เพราะคิดว่าจะแพงกว่านี้แหละ ราคาโอเคหลายเมนูมากๆ เลยค่ะ ส่วนสัญลักษณ์ในเมนูสามอย่าง ที่เป็นดอกกุหลาบจะเป็นเมนูที่ทางร้านแนะนำค่ะ ส่วนรูปหมวกเชฟจะเป็น Chef Signature และรูปผักจะเป็นเมนูมังสวิรัตินะคะ นอกจากเมนูอาหารจีนแล้วที่สาขานี้ก็มีเมนูชาบูด้วยนะคะ คือ ดูแล้วถูกกว่าสุกี้บางเจ้าอีกอะค่ะ เง่ออออออ เอาหละค่ะ มาไล่รีวิวเมนูที่ได้กินวันนั้นกันดีกว่านะคะ เมนูแรกกับก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้หมูแดงค่ะ แป้งบางแบบที่ควรเป็นค่ะ ให้หมูมาเยอะมาก และซอสรสชาติดี อร่อยค่ะ ต่อไปกับซาลาเปาไส้ไหลงาดำ 118 บาทค่ะ แป้งนุ่ม ไส้งาดำเข้มข้นมากกกกกก คนชอบงาดำน่าจะกรี๊ดค่ะ
ต่อไปเป็นบะหมี่เกี๊ยวนะคะ ถ่ายรูปมาให้ดูเฉยๆ เพราะไม่ได้ชิมค่ะ แต่คนที่กินบอกว่าเส้นนุ่ม ไส้เกี๊ยวอร่อยและน้ำซุปหวานอร่อยค่ะ ต่อไปเป็นฮะเก๋ากุ้ง 118 บาทค่ะ ขอบอกว่าใกล้เคียงกับฮ่องกงมาก ข้างในมีกุ้งสองถึงสามตัวทุกอันเลยค่ะ กรี๊ดมาก อร่อยหละ ชอบๆ ต่อไปเป็นขนมผักกาดผัดซอสเอกซ์โอราคา 118 บาทค่ะ เป็นอีกตัวที่ไม่ได้ชิมค่ะ 555 เอาหน้าตามาให้ดูแล้วกันนะคะ ต่อไปเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราชอบค่ะ กับซาลาเปาลาวา ไส้เข้มข้นด้วยไข่เค็มมากๆ แป้งก็อร่อยนุ่มเหนียวค่ะ เลิศอยู่ค่ะ ไม่ต้องไปกินถึงฮ่องกงก็ได้นะคะ ฮี่ๆ อร่อยเลยค่ะ โดยส่วนตัวเราชอบตัวนี้มากกว่างาดำนะคะ
เกี๊ยวราดซอสฮ่องกง 118 บาทค่ะ เป็นอีกเมนูที่ไม่ได้ชิมค่ะ ให้ดูหน้าตาเฉยๆ อีกแล้ว แฮ่... ต่อไปค่ะกับโจ๊กหมูสับไข่เยี่ยวม้า ถ้าเป็นชาม 58 บาท ถ้าเป็นโถแบบนี้จะ 129 บาทนะคะ ตัวเนื้อโจ๊กที่นี่จะไม่ได้ทำเนียนมากนะคะ มีเทกซเจอร์ของความเป็นข้าวอยู่ ซึ่งจะต้มอยู่ 6 ชม.ค่ะ ผสมกันระหว่างข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิและข้าวญี่ปุ่นนะคะ
ต่อไปเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดลิตเติ้ลฮ่องกงค่ะ ตัวนี้นี่ทั้งทางร้านแนะนำและเป็นเชฟซิกเนเจอร์เลยนะคะ ราคา 158 บาทค่ะ ตัวนี้จะมีซอสแยกมาต่างหากให้ราดนะคะ เทกซเจอร์ดีงามมาก มาทั้งความนุ่มของแป้งห่อ และความกรอบกับเด้งของไส้ในค่ะ แต่ซอสเค็มไปนิดหนึ่งสำหรับเรานะคะ แหะๆ
ต่อไปเป็นเมนูขนมจีบกุ้ง 98 บาทค่ะ ตัวนี้ตอนกินคำแรกเค็มนำ แต่พอเคี้ยวๆ ไปจะดีขึ้นค่ะ กลิ่นหอมจะค่อยๆ มาด้วยนะคะ
ต่อกันด้วยไข่หงส์ลาวากรอบ 118 บาทค่ะ เป็นเมนูร้านแนะนำ เชฟซิกเนเจอร์และมังสวิรัติค่ะ
ตัวเปลือกบางกรอบกำลังดีมาก เปลือกไม่หนาแบบบางที่นะคะ และไส้อร่อยเช่นกันค่ะ (ไส้มาตรฐานเดียวกับซาลาเปาลาวาค่ะ) อร่อยหละ ต่อไปเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทางร้านค่ะ กับห่านย่าง ของที่ร้านมี 4 ขนาด S (อก) M (สะโพก) L (ครึ่งตัว) และ XL (1ตัว) จานนี้เป็นขนาด XL ราคา 1,680 บาทค่ะ ขอบอกว่าอร่อยเทพมากๆ เหมือนร้าน Yung Kee ในสมัยก่อนเลยค่ะ (เราไปกินหยุ่งกี่มาเมื่อปีที่แล้ว รสดร็อปลงเยอะมากกกกกกกกกก) เปลือกกรอบ เนื้อแน่น และหอมแบบที่สมควรเป็น อร่อยค่ะ ชอบมาก
พอคุยกับคุณเวฟ - เจ้าของร้านถึงได้รู้ว่า เชฟที่ทำเรื่องห่านย่าง (ที่นี่เค้ามีเชฟแยกกันทำอาหารแต่ละอย่างนะคะ แต่จะมีครัวกลางที่เชฟใหญ่อยู่ ทำอาหารทุกจาน ส่วนที่สาขาต่างๆ ก็จะเป็นเชฟรองที่จะปรุงต่ออีกที ซึ่งร้านนี้ถ้ารสชาติเพี้ยนสามารถขอเปลี่ยนได้ด้วยนะคะ เจ๋งปะหละ) เป็นเชฟเก่าของหยุ่งกี่ค่ะ มิน่า อร่อยมากๆ ค่ะ ชอบๆ ติดใจห่านย่างร้านนี้มากค่ะ
แถมยังเล่าให้ฟังด้วยว่า ถ้าไปเซิร์ชหาด้วยคำว่า ห่านย่างอันดับหนึ่งกรุงเทพฯ (ภาษาอังกฤษนะคะ) ก็จะมีชื่อร้านนี้หละค่ะ เพราะทางร้านเคยถามชาวต่างชาติที่มากิน เค้าบอกว่าเค้าเซิร์ชหาจากในกูเกิ้ลค่ะ (แล้วอิชั้นทำไมไม่รู้มาก่อนฟระเนี่ย)
ต่อไปเป็นถั่วแขกผัดหมูสับค่ะ ไม่เหม็นเขียว รสชาติดีค่ะ เหมาะกับคนอยากกินผักที่ไม่ชอบความเหม็นเขียวของผักนะคะ เวลาจ่ายเงินจะต้องนำแท่งทองมาให้ที่โรงรับจำนำแห่งนี้นะคะ เพื่อให้ทางร้านคิดค่าใช้จ่ายให้ค่ะ น่ารักปะหละ
ขอบคุณคุณเวฟกับน้องชิ้งจาก Fashion on Food สำหรับการเป็นแบบด้วยนะคะ อิอิ ก่อนจะไปสรุปโปรฯ ของทางร้านและสรุปการกินมื้อนี้ ขอปิดข้อมูลท้ายพร้อมกับรูปน้องเวฟนะคะ
น้องเวฟให้ข้อมูลว่า ร้านนี้จะไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใช้ปลาเค็ม ไม่ใส่สีผสมอาหารและไม่ใช้สารกันบูดค่ะ เพราะคุณแม่ของน้องเวฟจะค่อนข้าง concern เรื่องสุขภาพมากๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นก็จะระวังเรื่องการใช้วัตถุดิบที่จะส่งผลต่อสุขภาพมากๆ นอกจากนั้นวัตถุดิบหลายตัวก็มีการนำเข้าจากฮ่องกงนะคะ เช่นพวกซอสต่างๆ ซีอิ๊ว ของแห้งเป็นต้นค่ะ
สำหรับโปรโมชั่นช่วงนี้ก็ตามภาพเลยนะคะ มีทั้งสั่ง 1 แถม 1 และเขย่าเซียมซีลุ้นส่วนลดด้วยค่ะ สนใจก็สอบถามโดยตรงไปที่ร้านได้เลยนะคะ
หรือเช็คโปรได้จากเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมของร้านได้เลยค่ะ
เฟซบุ๊คร้าน Little Hong Kong
อินสตาแกรม littlehongkong
เบอร์โทร.
สาขาพระรามสาม 0850883835
สาขาเดอะเบลพระรามเก้า 0929627899
สาขาเดอะสตรีท 021211998
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ
อาหารอร่อยมาก วัตถุดิบดี ราคาไม่แพง บรรยากาศดี บริการโอเคค่ะ คนเยอะๆ อาจจะมีช้าๆ ไปบ้าง เจ้าของน่ารัก (555 เก็บอาการหน่อยค่ะป้าคะ) แต่โดยรวมเป็นอีกร้านที่ใครที่คิดถึงอาหารฮ่องกงหรืออยากกินอาหารจีนฮ่องกงอร่อยๆ ก็ไม่ผิดหวังค่ะ เชียร์ให้ไปลองกินกันนะคะ
ป.ล.ทุกๆ ปีช่วงกลางๆ ปี ทางร้านจะมีงานฉลองครบรอบร้าน โดยมีเมนูลดราคา 40-80% นะคะ โดยจะมีที่สองสาขาคือ สาขาพระรามสามกับสาขาพระรามเก้าค่ะ ถ้าใครสนใจก็ลองไปส่องๆ เฟซบุ๊คหรือไอจีร้านดูแล้วกันเนาะ
Post