3
0
0
Telephone
02-650-4769
Opening Hours
Today
11:30 - 14:00
17:30 - 22:00
Mon - Thu
11:30 - 14:00
17:30 - 22:00
Fri - Sat
11:30 - 01:00
Sun
11:30 - 22:00
Payment Methods
Visa Master AMEX Cash
Other Info
Parking
Restaurant Website
http://www.facebook.com/moesushibar
Above information is for reference only. Please check details with the restaurant.
Signature Dishes
Spicy Salmon Sushi Nigiri Lunch Set
Review (3)
MOE Sushi & Bar ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมในโรงแรม LUXX Hotel หลังสวน ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบโมเดิร์นแต่วัตถุดิบทุกอย่างรวมถึงเมนูต่างๆนั้นเป็น authentic ขนานแท้ครับ ทุกเมนูนั้นผ่านการคัดกรองมาอย่างดีพร้อมด้วยเชฟมากฝีมือ ทุกอย่างจึงออกมาลงตัวทั้งในเรื่องของหน้าตาอาหารแล้วก็รูปลักษณ์เลยครับก่อนมาทานก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากสักเท่าไร แต่หลังทานเสร็จต้องบอกเลยครับว่าร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีงามที่ไม่ควรมองข้ามอีกร้านนึงเลย แม้ว่าจะเพิ่งเปิดใหม่ แต่คุณภาพและความอร่อยของอาหารนั้นไม่ได้ใหม่ตามไปด้วยเลยครับ ทุกเมนูที่ผมสั่งมาวันนี้อร่อยมากๆ ประทับใจตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้ายที่ทานจนอยากจะมาบอกต่อเลยครับร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในโรงแรม LUXX ในย่านหลังสวนครับ โรงแรมนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Wine Bridge พอดีเลย เข้ามาในโรงแรมแล้วเดินผ่าน Reception เข้ามาด้านซ้ายมือก็จะเจอร้านนี้ทันทีครับ จุดที่จะงงผมว่าเป็นจุดที่จะเข้ามายังโรงแรมมากว่า ฮ่าๆ โรงแรมนี้วิธีการเดินทางมาได้หลายวิธีครับ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีชิดลมแล้วนั่ง taxi หรือพี่วินต่อเข้ามา หรือว่าจะขับรถเข้ามาเลยก็ได้ครับ ในโรงแรมเป็นซอยเล็กๆแต่มีที่จอดรถให้อยู่หน้าโรงแรมเลยครับร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆริมสระว่ายน้ำของโรงแรม บรรยากาศในร้านสวยงามมากครับ ที่นั่งในร้านบางโซนนี่ตกแต่งได้เหมือนที่นั่งกลางสวนสวยๆสักแห่งนึงเลยครับ ด้านในร้านไม่ค่อยกว้างใหญ่มากเท่าไร จุลูกค้าได้ประมาณสิบโต๊ะเท่านั้น ดังนั้นถ้าใครจะมาทานเป็นกลุ่มใหญ่ๆหรือจะมาทานในช่วงค่ำๆ โทรมาจองก่อนสักหน่อยก็ดีครับ ทางร้านจะได้จัดเตรียมโต๊ะไว้ให้ถูกครับการบริการของพนักงานนั้นดีงามที่สุดในสามโลกครับ วันที่ผมไปทานมีผมและเพื่อนเป็นลูกค้าอยู่เพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น ดังนั้นการดูแลของพนักงานเลยเรียกได้ว่ายิ่งกว่าทั่วถึงครับ พนักงานแนะนำเมนูต่างๆได้อย่างรู้ใจคนทานมาก อาหารของทางร้านนั้นก็มาเสิร์ฟแบบไม่เร็วไม่ช้าเกินไปครับเมนูอาหารของทางร้านนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นซูชิแล้วก็เมนูปลาดิบต่างๆ พร้อมกับโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย (สามารถติดตามได้จาก IG ของทางร้านนะครับ ผมก็ใช้ดูตรงนี้ก่อนไป)Appetizers- หลังจากผมออเดอร์อาหารทั้งหมดไป พนักงานในร้านก็จะมาเสิร์ฟเมนู Appetizer ให้เราทานก่อนครับ บอกเลยว่าผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับเมนู Appetizer ของทางร้านมากครับ เพราะตั้งแต่ผมทานอาหารญี่ปุ่นมา ผมไม่เคยเจอร้านไหนเสิร์ฟ Appetizer มาเป็นปลาแซลมอนย่างเลย แม้จะมาเป็นชิ้นเล็กๆ แต่ทางร้านก็ให้มาหลายชิ้นมากครับ แถมยังย่างมาได้หอมมัน ละลายในปาก อร่อยประทับใจมากครับ (4/5)Salmon Jelapeno (159 บาท)- เมนูนี้เป็นเมนูโปรโมชั่นของทางร้านในช่วงวันที่ผมไปทานครับ ทางร้านบอกว่าเป็นเมนูยำแซลมอนแต่ผมได้ลองทานดูแล้วมันออกแนวแซลมอนแช่น้ำปลามากกว่า รสชาติน้ำยำของทางร้านนั้นมันอร่อยมากครับ เค็มๆ ส่วนด้านบนปลาแซลมอนแต่ละชิ้นนั้นก็มีพริกสดวางไว้อยู่ด้านบนพร้อมกับกระเทียมสด ทานพร้อมกันทั้งหมดนี่แหละแซ่บถูกใจคนชอบอาหารแซ่บๆอย่างผมมากๆครับ (5/5)Uni Kara (600 บาท)- เมนูนี้พนักงานมาขายของถึงโต๊ะผมเองด้วยหอยเม่นแบบเป็นๆที่ยังขยับอยู่เลย ผมเห็นเช่นนี้แล้วไม่เคยลองแบบนี้ด้วยเลยสั่งมาลองทานดูครับ ทางร้านจะนำหอยเม่นไปผ่ากลางให้เรียบร้อยพร้อมตักทานได้เลย เมนูนี้จะเสิร์ฟมาพร้อมกับสาหร่ายญี่ปุ่นให้ตักไข่หอยเม่นขึ้นมาทานคู่กัน ความสดของเมนูนี้คงไม่ต้องบรรยายให้มากความครับเพราะเมื่อกี้ยังเห็นมันขยับตัวอยู่เลย ฮ่าๆ ไข่หอยเม่นของทางร้านหวานมันอร่อย ไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อยครับ อร่อยฟินมากครับ (5/5)Engawa Don (450 บาท)- เมนูนี้เป็นข้าวหน้าเอ็นกาวะหรือครีบปลาตัวเดียวลนไฟมาแบบหอมๆ ทางร้านให้เอ็นกาวะมาเยอะมากครับ ชิ้นหนาและชิ้นใหญ่ ที่สำคัญยังสดมากอีกด้วยครับไม่เหนียว ซอสพอนซึที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้จิ้มทานคู่กันก็อร่อยมาก ทำให้เอ็นกาวะนั้นอร่อยเพิ่มขึ้นมากอีกด้วยครับ (5/5)Foie Gras Don (850 บาท)- เมนูนี้ตอนสั่งก็ลังเลว่าจะสั่งดีไหมเพราะกลัวคลอเรสเตอรอลพุ่ง แต่สุดท้ายก็สั่งมาทาน ฮ่าๆ ฟัวกราของทางร้านนั้นใหญ่ที่สุดตั้งแต่ผมเคยทานมาเลยครับ ใหญ่โตอลังการงานสร้าง ลนไฟมาได้อร่อยมาก เนื้อด้านนอกเกรียมนิดๆ ส่วนด้านในนั้นเยิ้มละลายในปาก ซอสหวานที่ทามาก็อร่อยมาก ข้าวของทางร้านก็อร่อย มันลงตัวไปหมดทุกอย่างจริงๆครับ (5/5)โดยรวมแล้วผมไม่รู้จะติอะไรเลยสำหรับร้านนี้ครับ ทุกอย่างมันโอเคไปซะหมดทุกอย่าง ทั้งในเรื่องของคุณภาพอาหาร รสชาติแล้วก็บรรยากาศร้านที่ชวนหลงใหลให้น่ามาออกเดทอีกด้วย ไม่ลองด้วยตัวเองคงตอบไม่ได้ครับว่ามันอร่อยและประทับใจแค่ไหน เป็นอีกร้านที่ผมกล้าการันตีเลยว่าเด็ดและต้องโดนครับ  continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
ได้รับรู้ว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนี้ไม่ไกลจากออฟฟิตเท่าไหร่ ก็เลยค้นหาข้อมูลของทางร้าน ว่าอยู่ที่ไหน มีเมนูอะไรบ้างที่น่าสนใจ ได้เวลาว่างตรงกับความอยากพอดี ก็มาจัดทันทีค่ะการเดินทาง ให้มาทางซอยหลังสวนค่ะ ร้านนี้จะอยู่ตรงข้ามซอยหลังสวน 7 อยู่ถึงก่อน ร้านครัวในบ้าน มองจากฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้าน EAT MEAT SWEET ค่ะ ร้านนี้อยู่ในโรงแรม LUXX ค่ะ จะเห็นป้ายโรงแรมกำแพงสีขาวอยู่หัวมุมถนนเลยค่ะ ก็เดินเข้าตรอกนั้นไปเลยค่ะ เดินตรงไปนิดเดียวค่ะ ก็จะเจอโรงแรมค่ะ ด้านซ้ายเป็นทางเข้า ด้านขวาเป็นที่จอดรถค่ะ ส่วนประตูทางเข้า จะเป็นประตูไม้สีน้ำตาลบานใหญ่ๆ ก็ผลักเข้าไปได้เลยค่ะ (ตอนแรกแอบงง เปิดได้มั้ย 55) พอเปิดเข้ามา ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ ส่วนใครมารถส่วนตัว มีที่จอดรถให้บริการเช่นกันค่ะ สามารถเข้าซอยนี้มาจอดได้เลยค่ะหรือใครที่ทำงานละแวกนั้น น่าจะพอรู้จักตลาดสินธร (ซอยเล็กๆ หลังอาคารสินธร ถนนวิทยุ ซอยเดียวกับก๋วยเตี๋ยวหมูเด้ง) สามารถเดินเข้าซอยนี้มาจนสุดซอย แล้วก็เดินข้ามถนน แล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปอีกหน่อย ก็จะเจอป้ายกำแพงสีขาว ชื่อโรงแรม LUXX ที่หัวมุมถนนเช่นกันค่ะ ใครสะดวกมาทางไหนก็เลือกได้เลยค่ะร้านนี้จะมีจัดโปรโมชั่นรายเดือนหมุนเวียนกันไปค่ะ ซึ่งจะเน้นเมนูแนวปลาดิบสดๆ ชิ้นโตๆ น่าลองทุกเมนูเลยค่ะ แต่ว่าต้องนึกถึงเงินในกระเป๋าด้วยเนอะ >.<- Bara Chirashi Donburi 450 บาท เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวม ซึ่งนอกจากจะเต็มไปด้วยปลาดิบชนิดต่างๆหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ยังมี ไข่ปลา ไข่หวาน และอโวคาโดด้วยค่ะ เสริฟพร้อมวาซาบิ และขิงดองแก้เลี่ยนค่ะ จานนี้จัดเต็มเครื่องมากๆค่ะ แบบว่าล้นเครื่องมากกว่าข้าว ไม่เหมือนบางร้านที่ข้าวเยอะกว่า ปลาดิบสดมาก อร่อยๆ ทานไปฟินไป ส่วนข้าวออกเหนียวหนุบๆใช้ได้ แต่ว่าแข็งไปหน่อยสำหรับเรา ได้บอกเจ้าของร้านไปเหมือนกันค่ะ (ส่วนตัวเป็นคนชอบทานข้าวออกเหนียวๆนิ่มๆอ่า) แต่ว่าเรื่องข้าวไม่ใช่ประเด็นใหญ่เลย เพราะว่าพอราดซอสโชยุลงไปทานคลุกกะข้าว รสชาติทุกอย่างกลมกลืนค่ะ และความสดของปลาช่วยดับความด้อยทุกอย่างค่ะ จานนี้ปลื้ม อร่อยจัง- ซุปมิโสะ เสริฟพร้อม ข้าวหน้าปลาดิบรวมค่ะ เป็นซุปเต้าหู้สาหร่าย รสชาติใช้ได้ค่ะ ไม่เค็มเกินไป ทานอุ่นๆก็คล่องคอดีค่ะ- Salmon Sashimi 380 บาท ลด 40% เหลือ 228บาท (โปรโมชั่นพิเศษเดือนที่เราไปทาน) ใครชอบทานแซลมอนดิบ บอกเลยค่ะ อย่าพลาดเมนูนี้จ้า ยิ่งลดราคาแบบนี้คุ้มจริงๆค่ะ ได้มา 5 ชิ้นค่ะ คือแบบว่าชิ้นหนา สด ลายสวย ถ่ายรูปไปกลืนน้ำลายไปค่ะ แชะเสร็จแล้ว เราก็ปฏิบัติการณ์ "คีบ จุ่ม อ้ำ เคี้ยว หลับตาพริ้ม ฟินสุดๆ" ได้รสเต็มปากเต็มคำ อร่อยมากๆๆๆๆ ทานไป 5 ชิ้นนี่อิ่มได้เลยค่ะ เพราะว่ามาแบบชิ้นใหญ่หนาและสด ปลื้มสุดๆค่ะเมนูนี้ แนะนำเลยค่ะต้องลอง- ชาเขียวเย็น 60 บาท (ในเมนูไม่บอกรีฟิล แต่พนักงานมาถามว่าจะเติมน้ำให้ รับเพิ่มมั้ย ก็เลยรับ ซึ่งสรุปเติมให้ฟรีค่ะ) ตอนที่เราสั่ง พนักงานทำสดให้ดูเลยค่ะ ใส่ผงชา เติมน้ำ และคนๆ ทำมาให้เราเป็นหนูทดลอง เอ๊ย! เป็นลูกค้ารายแรกเลยจ้า (ก็เราเล่นมาซะตอนเค้าเพิ่งเปิดร้านไม่กี่นาทีนี่นะ 55) ชาเขียวขมนิดๆใช้ได้ แต่ไม่ได้หอมเท่าไหร่ เหมือนชาเขียวรีฟิลร้านอื่นๆค่ะ รสชาติปกติทั่วไปใช้ได้ค่ะ ทานแล้วสดชื่นดีตอนเช็คบิล พนักงานมาถามว่า ชอบทานของหวานมั้ย (หน้าออกจะหวาน ไม่ทานได้ไง คริคริ หลงตัวเอง ) ก็เลยพยักหน้า พนักงานเลยว่าสนใจไอศกรีมมั้ย อยากให้ชิมฟรี แล้วก็เอาเมนูมาให้เลือกรส ซึ่งพอเราดูจะมี 5 รสค่ะ มีรส ช็อคโกแลตชอร์เบท (แปลกไปนิด เลยไม่กล้าสั่ง), ชาเขียวชาร์โคล, ชาร์โคล, โยเกิร์ตเยลลี่ และรส Umeshu ซึ่งมีแอลกอฮอล์ผสม 17% ค่ะ- ไอศกรีมรส Green tea Chacoal 80 บาท ไอศกรีมเนื้อไม่ได้เหนียวหนุบแบบไอศกรีมราคาแพงๆเท่าไหร่ จะกึ่งๆเกล็ดหิมะกึ่งๆไอศกรีม แต่ว่าไม่ได้แย่นะคะ ถือว่าโอเคได้อยู่ค่ะ ส่วนรสชาติ ชอบมากๆๆค่ะ คือเลิฟเลย แบบว่าไม่หวานมาก ไม่ขมไป ได้รสชาเขียวได้รสชาร์โคล เป็นส่วนผสม 2อย่างที่ลงตัวมากๆ คือมีรสขมเบาๆของชาเขียวรสหอมๆถ่านของชาร์โคล คือชอบค่ะ สาวกคนรักไอศกรีม แนะนำให้สั่งอีกเมนูเลยจ้าเจ้าของร้านน่ารักมากๆ เข้ามาสอบถามว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมมั้ย (อยากถามว่ามีอะไรฟรีเปล่าคะ เสริฟได้เลย มุขค่ะมุขไม่ได้คิดจริงจัง แต่ได้ก็เอา 55 ) มีสอบถามว่ารสชาติเป็นอย่างไร ก็เลยแนะนำติชมไปบ้าง และใส่ใจมาเติมน้ำชาเพิ่มให้เราด้วยตัวเองค่ะร้านที่นี่จะมีที่นั่งทั้งโซนในร้าน และนอกร้านด้วยค่ะ ตอนที่เรานั่งรออาหาร ก็ขอทางร้านเดินออกไปดูบรรยากาศด้านนอก เจ้าของร้านเลยเดินตามมาและมีแนะนำด้วย น่ารักมากเลยค่ะ ซึ่งด้านนอกจะเป็นบรรยากาศริมสระน้ำของโรงแรม ซึ่งเจ้าของบอกว่ามีดนตรีตอนประมาณทุ่มสองทุ่มด้วยค่ะ ประมาณว่าทานอาหารไป ฟังเพลงไป ดูบรรยากาศดี๊ดี น่ามาตอนเย็นมากค่ะ หรือใครจะมาแบบสังสรรค์ปาร์ตี้เล็กๆก็ดูน่าสนใจค่ะ และยังมีโซนบาร์ด้วย ตามชื่อของร้านเลยค่ะใครไม่สะดวกทานที่ร้าน ที่นี่ยังมีบริการ เบนโตะเซ็ท ส่งด้วยค่ะ ถ้าไม่ไกลจากทางร้าน จะส่งฟรีด้วยนะคะ เป็นแนว หมู ไก่ ปลา กุ้ง ราคาเริ่มต้นที่ 150 200 250 บาทค่ะ เจ้าของร้านเปิดภาพให้ดู ซึ่งในเซท ยังให้สลัดและซุปมิโสะด้วยค่ะ ดูคุ้ม น่าสนใจดีค่ะ สามารถโทรสั่งได้ที่ 02-650-4769 / 097-230-0375 หรือเข้าไปที่ Instagram หรือ Facebook #moesushibar (เจ้าของร้านน่ารักมากๆ เลยขอลงบอกรายละเอียดให้เพื่อนๆทราบนะคะ)แนะนำเลย ปลาดิบที่นี่สด ชิ้นโต ทานแล้วได้รสเต็มปากเต็มคำ แถมจัดโปรโมชั่นด้วย ทำให้ไม่แพงเกินไป เลยรู้สึกปลื้มโดยส่วนตัวค่ะ ทานแล้วฟิน บินไม่ขึ้น แต่ครีบออก ร้านนี้ปิดทุกวันจันทร์นะคะ ส่วนวันอื่นๆเปิดบริการ รอบกลางวัน 11.30 - 14.00 น. และรอบเย็น 17.30 - 22.00 น. แต่ถ้าเป็นวันศุกร์และเสาร์ ปิดเที่ยงคืนค่ะ ใครอยู่แถวนี้ อย่าลืมแวะมาลองนะจ้า continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
Moe Sushi & Bar – ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ที่ชั้น G ของโรงแรม LUXX XL บนถนนหลังสวนนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานนัก แต่ก็ออกสื่อเยอะทีเดียวค่ะ อย่างวันที่แวะไปล่าสุดนี้ก็เจอกำลังถ่ายทำรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งอยู่ เราเลยรู้สึกอินเทรนด์ขึ้นมาทันที...(เสียดายไม่ได้เดินผ่านกล้อง..555+) ร้านนี้นอกจากจะเน้นขายพวกซูชิ ซาชิมิ ต่างๆแล้วตอนกลางวันยังมี lunch set และ bento ให้เลือกสั่งด้วย แถมยังมีส่วนของ bar ที่ว่ากันว่าเสิร์ฟ cocktail หลากหลายสูตรพิเศษของทางร้านที่ปรุงขึ้นให้เหมาะกับการจิบร่วมกับซูชิ เผื่อใครจะเบื่อชาเขียวร้อนหรือสาเกแบบเดิมๆ ...แต่กับครั้งนี้จุดมุ่งหมายของเราคือการมาลอง seasonal menu ของช่วงนี้.. ได้แก่เมนูปูๆทั้งหลายที่ร้านนี้ดูจะทำออกมาได้เร้าใจน่าลิ้มลองสุดๆค่ะ**-เมนูที่ได้ลอง-**พอได้ที่นั่งปุ๊บทางร้านจะมีของว่างจานจิ๋วๆมาเสิร์ฟให้ก่อน 1 ที่เป็น complimentary ค่ะ ซึ่งคงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตายตัวว่าจะเป็นอะไร อย่างของเราครั้งแรกไปตอนกลางวัน ได้มาเป็นสลัดเต้าหู้รสชาติแบบน้ำสลัดญี่ปุ่นสดชื่น ส่วนอีกครั้งที่ไปช่วงมื้อเย็นได้เป็นคล้ายๆ okonomiyaki หั่นเป็นคำเล็กๆเสิร์ฟมาร้อนๆอร่อยดีค่ะ● ขาปูทาราบะ (ราคาปรับตามท้องตลาด) – เมนูนี้แม้ว่าจะเขียนไว้ในเมนูเล่มหลักด้วย แต่ก็ไม่ได้มีของตลอด มีเป็นบางช่วงฤดูเท่านั้น ซึ่งต้องติดตาม facebook ของทางร้าน หรือโทร.ถามดูน่ะค่ะ สำหรับเดือนสิงหาคมนี้มีโปรโมชั่นที่ราคาขาละ 900 บาทขาดตัว ซึ่งหลังจากวันที่ 31 สิงหาคมไปก็อาจจะยังมีให้สั่งอยู่ (ถ้าทางร้านได้ปูมา) แต่ราคาอาจจะขยับขึ้นเป็น 1,200 บาทตามที่ลงไว้ในเมนูอีกแผ่นนึงน่ะค่ะสำหรับขาปูทาราบะนี้เราสามารถเลือกวิธีปรุงได้ 3 แบบค่ะ คือ ทำเป็นซูชิ ทำเป็นซาชิมิ (หรือจะให้ทำมาทั้ง 2 อย่างในจานเดียวก็ได้) หรือนำไปย่างสุก ซึ่งของเราสั่งไปเป็นซาชิมิ เสิร์ฟมาบนน้ำแข็งเย็นเชี้ยบ ชิ้นปูมีการลวกให้สุกเฉพาะด้านนอกและ sear มาเพียงเล็กน้อยเพื่อคงความสดหวานของเนื้อปูไว้ ด้านบนราดด้วยมันปูและ ikura ...ฟินเฟร่ออออ...!● ข้าวผัดมันปู (ราคา 450 บาท) – เป็นข้าวผัดคลุกกับมันปูที่ทางร้านใช้ spider crab ที่นำเข้าจากฝรั่งเศส แถมเคลมว่าเป็นร้านเดียวในไทยแลนด์ที่มีเมนูนี้ขายนะจ๊ะ ข้าวญี่ปุ่นนุ่มหนึบกำลังดีผัดคลุกมันปูร้อนๆหอมๆเสิร์ฟมาในกระดองปู ท็อปด้วยเนื้อปูแบบจัดเต็ม ไข่กุ้งพูนๆ และ ikura เต่งๆ แถมโปะมันปูมาให้เห็นกันจะๆอีก 1 กองใหญ่ ..เป็น “ข้าวผัดปู” ที่ไฮโซที่สุดที่เคยเห็นมาเลยล่ะ เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึงค่ะ ..วัตถุดิบจัดเต็มมาขนาดนี้จะไม่อร่อยก็ให้มันรู้ไป! ..เป็นอีกจานที่ฟินมากกก.. ถ้าใครตั้งใจจะไปทานแนะนำว่าควรโทรเช็คกับทางร้านก่อนแล้วจองปูไว้เลย เพราะเป็นอีกเมนูนึงที่มีของเฉพาะบางช่วงบางฤดู ไม่ได้มีประจำตลอด แถมนำเข้าจำนวนจำกัดในแต่ละอาทิตย์ แต่ถ้าไม่ซีเรียสจะลอง walk in เข้าไปเลยก็ได้ ถ้าเค้ามีของอยู่ก็สั่งได้น่ะค่ะ● Full-On Botan Ebi (ราคา 380 บาท) – ตัวนี้เค้าว่าเป็น signature menu ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ซูชิกุ้งหวานที่เคียงมาด้วยเนื้อในหัวกุ้งที่เอาไปทอด บนตัวกุ้งท็อปด้วย ikura และไข่ปลาคาเวียร์ ..อันที่จริงก็อร่อยดีใช้ได้ เนื้อกุ้งไม่มีคาวเลย แต่ก็แอบรู้สึกว่าความเด้งกับความหวานมันยังไม่ถึงจุดพีค (แบบว่าอีกนิดดด...น่ะค่ะ) เดาเอาว่าเราอาจจะไปไม่ตรงกับวันที่ของเข้าล่ะมั้งนะ● Volcano Eruption (ราคา 350 บาท) – สารพัดปลาดิบหั่นชิ้นเท่าลูกเต๋า คลุกเคล้าด้วย spicy sauce ของเค้าซึ่งเราก็ว่าไม่เห็นจะเผ็ด แต่เป็นซอสครีมที่มีรสมีชาติเข้มข้น อร่อยใช้ได้ทีเดียวค่ะ ปลาดิบที่ใช้นุ่ม สด ไม่มีคาวเลย มีบางชิ้นเราแอบเคืองที่หั่นติดเอ็นเหนียวๆด้วย แต่ก็แค่ 2-3 ชิ้นเท่านั้น จานนี้โรยมาด้วยเศษแป้งเทมปุระทอดกรุบกรอบ ทานเพลินใช้ได้ค่ะ แต่ทานมากไปก็มีเลี่ยนบ้างเหมือนกันนะมีให้เลือกสั่งอยู่ 2 เมนูค่ะ● Miso soup (ราคา 60 บาท) – เข้มข้นใช้ได้ มีเต้าหู้กับสาหร่ายลอยมาครบเครื่องสมราคาค่ะ● Osuimono (ราคา 80 บาท) – เป็นซุปปลาที่อร่อยมากกก... ทั้งๆที่เป็นแค่ซุป ไม่ได้เป็นเมนูหลักอะไร แต่ทำออกมาได้รสดี ชุ่มคอ ชิ้นปลาที่ใส่มาก็โตพอใช้ เนื้อนุ่มอร่อยไม่มีคาวและไม่แห้งสากกระด้างเหมือนของเจ้าอื่นหลายๆเจ้า ..ปลื้มมากค่ะสำหรับเมนูของหวาน ทางร้านจะมีเป็นพวกไอศครีมซึ่งมีรสให้เลือกพอสมควร กับเค้ก Tokyo Cream Roll แต่พอดีว่าอิ่มจนจุกแล้วก็เลยไม่ได้ลองล่ะค่ะ**-ทำเลที่ตั้ง / บรรยากาศ-**โรงแรม LUXX XL Boutique Hotel นี้ตั้งอยู่บนถนนหลังสวนฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับซอยหลังสวน 7 ค่ะ ความที่ด้านหน้าถนนจะมีร้านอาหารเวียดนามตั้งบังอยู่ ทางเข้าโรงแรมก็เลยมีลักษณะเป็นซอยเล็กๆ เดินเข้าไปจะเจอประตูไม้สักทึบๆบานเบ้อเริ่มอยู่ซ้ายมือ นั่นล่ะค่ะประตูโรงแรม ผลักเข้าไปได้เลย ทางเข้าตัวร้านจะอยู่ด้านหลัง reception นะคะร้านนี้มีขนาดกลางๆ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ มีทั้งที่นั่ง indoor และ outdoor ให้เลือกนั่งตามใจชอบ โต๊ะที่นั่งก็มีทั้งแบบโซฟา แบบโต๊ะ-เก้าอี้ธรรมดา และที่นั่งติดบาร์ไว้ดูพ่อครัวทำซูชิ ร้านตกแต่งแนวร่วมสมัยเก๋ไก๋น่ารักทีเดียวค่ะโดยรวมแล้วก็เป็นอีกร้านที่น่าสนใจ นอกจากจะมี seasonal menu เด็ดๆเร้าใจให้ต้องมาลองแล้ว ในแต่ละเดือนก็ยังมีโปรโมชั่นต่างๆให้ติดตาม ทำให้ราคาเต็มที่จัดว่าแรงนี้ดูซอฟท์ลงได้เหมือนกัน แถมยังมีส่วนลดตามสื่อต่างๆเอย ชิงโชคเอย.. ถ้าใครชอบอาหารแนวๆนี้ก็น่าแวะมาลองดูค่ะ continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)