Video
Read full review
2015-12-15
126 views
Sankyodai ร้านอาหารญี่ปุ่นภายในโครงการ 24 Avenue ... เดินทางไปไม่ยากเพราะเข้าได้ทั้งทางถนนพระราม 4 เลยแยกตลาดคลองเตยขึ้นไปทางจะไปกล้วยน้ำไท ซ้ายมือจะมีโชว์รูมรถบีเอ็มดับเบิลยู เข้าซอยข้างโชว์รูมเลยค่ะ โครงการจะอยู่ทางขวามือ หรือถ้าใครสะดวกมาทางรถไฟฟ้า ลงสถานีพร้อมพงษ์ตรงเอ็มโพเรียม แล้วโบกพี่วินเข้าซอยสุขุมวิท 24 มาเลยค่ะ ถ้ามาจากทางสุขุมวิท โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือนะคะ (คนที่ขับรถมาจอดรถด้านหน้าโครงการได้เลยค่ะ) .. พอเดินเข้ามาจากด้านหน้า เล็งด้านซ้ายไว้ เจอร้านประตูไม้ๆเลยค่ะ (ติดกับร้านไก่ทอด mono-mono) ร้านอาหารที่ให้บรรยากาศญี่ปุ่นด้วยการใช้ไม้ในการตกแต่งร้าน มีบาร์ที่เชฟปั้นข้าวปั้นกันสดๆ มีตู้
Sankyodai ร้านอาหารญี่ปุ่นภายในโครงการ 24 Avenue ... เดินทางไปไม่ยากเพราะเข้าได้ทั้งทางถนนพระราม 4 เลยแยกตลาดคลองเตยขึ้นไปทางจะไปกล้วยน้ำไท ซ้ายมือจะมีโชว์รูมรถบีเอ็มดับเบิลยู เข้าซอยข้างโชว์รูมเลยค่ะ โครงการจะอยู่ทางขวามือ หรือถ้าใครสะดวกมาทางรถไฟฟ้า ลงสถานีพร้อมพงษ์ตรงเอ็มโพเรียม แล้วโบกพี่วินเข้าซอยสุขุมวิท 24 มาเลยค่ะ ถ้ามาจากทางสุขุมวิท โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือนะคะ (คนที่ขับรถมาจอดรถด้านหน้าโครงการได้เลยค่ะ) .. พอเดินเข้ามาจากด้านหน้า เล็งด้านซ้ายไว้ เจอร้านประตูไม้ๆเลยค่ะ (ติดกับร้านไก่ทอด mono-mono)
ร้านอาหารที่ให้บรรยากาศญี่ปุ่นด้วยการใช้ไม้ในการตกแต่งร้าน มีบาร์ที่เชฟปั้นข้าวปั้นกันสดๆ มีตู้แชร์ใสให้เห็นวัตถุดิบได้ชัดเจน .. เราว่าเป็นอะไรที่ดึงดูดคนได้ดีมากๆนะคะ
ร้านนี้เน้นคุณภาพของวัตถุดิบค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวราคาจะควบคุมไม่ได้นะคะ เพราะเค้ามีจัดโปรโมชั่นเสมอ สำหรับช่วงที่ได้ไปจัด Party Set สำหรับก๊วน 3-4 คนไปร่วมหม่ำซูชิอร่อยๆ กัน .... มีให้เลือกถึง 3 เซ็ท 3 ราคาเริ่ทตั้งแต่ 2,999 บาท - 4,999 บาท โดยจะมีทั้งซูชิ โรลที่สามารถเลือกได้ถึง 2 จาน (แต่สำหรับ Matsu Passion Roll สามารถเลือกได้เฉพาะเซ็ท c นะคะ) ไข่ตุ๋น และของหวาน ที่อิ่มกำลังพอดีสำหรับทุกคน
สำหรับเราและก๊วนร่วมแก๊งค์ที่ไม่เคยเกรงกลัวอาหารญี่ปุ่นกันเลย ขอจัดแบบเต็มที่ ด้วย Set C (ราคาเซ็ทนี้ 4,999 บาท - หารกันออกมาก็คนละพันกว่าบาท ซึ่งเป็นราคาที่เรารับได้อยู่นะคะ ถึงจะทานบ่อยไม่ไหวก็ตาม)
เริ่มต้นอุ่นท้องด้วยซุปใส ที่ใส่มาทั้งสาหร่ายวากาเมะ เห็ดหอม โรยหน้าสวยงามด้วยต้นหอมซอย รสชาติเค็มนิดๆๆๆๆ จริงๆค่ะ เอาไว้ให้เราได้อุ่นท้อง และคล่องคอเวลาซูชิเริ่มมา
ต่อกันด้วยไข่ตุ๋นเนื้อเนียน รสจะออกจืดได้กลิ่นไข่ชัดค่ะ ถ้าอยากได้รสชาติที่จัดขึ้นแตะโชยุเบาๆที่ช้อนแล้วไปตักไข่ตุ๋น เค็มนิดๆหอมซอสโชยุ อร่อยลิ้นสุดๆ
ผ่านของเบ๊าเบากันไปแล้ว ก็ต้องเริ่มเพิ่มดีกรีความหนักด้วย Legacy Salad ซึ่งก็เป็นสลัดปลาดิบรวมสูตรของทางร้าน เพราะมีเนื้อเจลลี่บ๊วยและเจลลี่โชยุ ผสมไว้ในสลัดด้วย ทานคู่กับผักสดกรอบและปลาดิบหลากหลายทั้งทูน่า แซลมอน น้ำสลัดรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆเค็มๆ จานนี้ปลาบปลื้มแบบไม่ต้องกลัวอ้วนเลยค่ะ
ต่อกันมาด้วย Salmon Rolls ที่ทางร้านใช้ซอสถึง 3 ชนิดราดอยู่บนโรลข้าวที่มีไส้เป็นแซลมอนสดๆ โรยทับด้วยเกล็ดแป้งเทมปุระ ให้ได้เคี้ยวกรุบๆพร้อมกับทานโรลไปด้วย
ตามติดมาด้วยจานพี่บิ๊กเบิ้มที่กินพื้นที่โต๊ะไปเยอะที่สุด นั่นคือซูชิ ที่มารวมทั่งหมด 20 คำ ได้แก่
- Otoro Sushi (4 คำ)
- Shima Aji Sushi (4 คำ)
- Agami Sushi (4 คำ)
- Kanpachi Sushi (4 คำ)
- Foie Gras Sushi (4 คำ)
ปลาสด ตับห่านกริลมาสุกกำลังดี ไม่เละและไม่แข็งเกินไปค่ะ แต่เรามัวแต่ถ่ายรูปกัน กว่าจะได้มาทานเลยแห้งไปนิดนึงแล้ว
จานสุดท้ายสำหรับของคาว แต่ไม่ท้ายสุดสำหรับมื้อนี้ เป็นอีกหนึ่งโรลที่จะได้เฉพาะก๊วนที่สั่ง set C เท่านั้นนะคะ นั่นคือ Matsu Passion Rolls โรลที่ด้านในสอดไส้ตับห่านไว้ และพันด้านนอกด้วยเนื้อมัตซึสากะนุ่มๆ กับซอสของทางร้าน โรยด้วยไข่ปลาสีส้มสวย ขนาดปกติเราไม่ทานเนื้อยังอดใจไม่ไหวขอชิมไปด้วยเลย เนื้อนุ่ม ซอสอร่อย คนชอบทานเนื้อไม่น่าพลาดค่ะ
มาถึงท้ายสุดของมื้อจริงๆแล้วค่ะ เป็นของหวานประจำวัน (แต่ละวันอาจจะได้ไม่เหมือนกันนะคะ) วันที่เราไปได้เป็นไอศครีมนมฮอกไกโด ที่เราสามารถเลือกได้ทั้งรสนมและชาเขียว (คนละ 1 ถ้วยนะคะ) แบบรสนม กลิ่นนมชัดเจน รสชาติมันดีค่ะ แต่หวานไปหน่อย ส่วนชาเขียวก็ได้กลิ่นชาเขียวชัด หวานน้อยกว่า แต่เป็นชาเขียวแบบมีกลิ่นมะลิผสม เราเลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
การต้อนรับและการบริการดีมากค่ะ น้ำชาเขียวเติมให้ไม่เคยขาดเลย เรียกว่าไม่ต้องเรียกเลย พนักงานทุกคนรวมถึงเชฟยิ้มแย้ม ทำให้เรารู้สึกเป็นกันเองในการทานอาหารมื้อนั้น
ร้านเปิดให้บริการเป็น 2 ช่วงเวลานะคะ ... 11:00 - 14:30 น. และ 17:00 - 22:00 น. ใครได้มาลองแวะมาชิมและติดตามร้านกันได้นะคะ เพราะว่าทางร้านก็จะจัดโปรโมชั่นเรื่อยๆ จะได้ไม่พลาดโปรดีๆกันนะคะ
Post
