1
0
0
Telephone
02-237-8889
Awards and Titles
Michelin’s Plate restaurant (2019-2021)
Good For
Casaul Dining
Family Style Dining
Special Occasion Dining / Party
Opening Hours
Today
10:00 - 22:00
Mon - Sun
10:00 - 22:00
Payment Methods
Visa Master Cash Others
Other Info
Michelin Guide
Parking
VIP Room
Reservation
Air-conditioned
Restaurant Website
http://web.facebook.com/BaanSuriyasai
Above information is for reference only. Please check details with the restaurant.
Review (1)
วันนี้ก็ได้ฤกษ์มารีวิวร้านบ้านสุริยศัยกันนะคะ โดยเป็นการไปกินแบบซื้อดีลค่ะ ไม่แน่ใจว่าถ้าไปเอง จะมีเซตนี้ขายหรือเปล่านะคะสำหรับพิกัด อยู่แถวสุรวงศ์นะคะ ใช้กูเกิ้ลแมพได้เลยค่ะ พิกัดตรงอยู่หละ ลักษณะของร้าน จะมีอาคารที่มีสถาปัตยกรรมในแบบเดียวกัน (วิคตอเรียน+โคโลเนียล) อยู่ล้อมด้วยนะคะ ไม่แน่ใจว่าเป็นร้านค้าหรือแกลอรี่ค่ะ ส่วนตัวร้านจะเป็นอาคารตรงกลางเลย มีลานจอดรถอยู่ที่ข้างๆ ร้านค่ะ ร้านนี้แต่เดิมเป็นบ้านเรือนไทยของต้นตระกูลบุนนาค ซึ่งก็มีอายุยาวนานเกือบ 100 ปีมาแล้วค่ะ นับตั้งแต่ต้นสมัยรัชกาลที่ 6 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนนะคะตัวร้านมีกระจกกรุรอบเลยนะคะ เพราะฉะนั้นติดแอร์ทั้งหลังเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวร้อนกลัวฝนเลยนะฮับ เข้าไปในตัวอาคาร จะมีเคาน์เตอร์ทางขวามือนะคะ แจ้งชื่อที่จองพร้อมเวลา จากนั้นก็มีน้องพนักงานพาขึ้นไปที่ชั้นสองค่ะ ตรงโซนล็อบบี้ก่อนที่จะขึ้นบันไดไป ก็จะมีรูปถ่ายของคนในตระกูลนี้ติดอยู่ด้วยนะคะชุดพนักงานน่ารักมากเลยค่ะ เลยขอน้องถ่ายรูปหน่อย แฮร่...บริเวณชั้นสองค่ะ ตอนเราไปมีแขกท่านอื่นๆ อยู่บ้างแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายเจาะละเอียดแบบที่ปกติเราจะทำนะคะอุปกรณ์ค่ะ สวยงามสมกับไฟน์ไดนิ่งนะคะ ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รับมิชลินไกด์ 2019 ด้วยค่ะมาดูเมนูของทางร้านกันค่าา แยกเป็นสองเล่มระหว่างเครื่องดื่มกับอาหารนะคะตัวแรกนี่เป็นเมนูเครื่องดื่มนะคะ แต่ดีลที่ซื้อมารวมเครื่องดื่มไปก่อนอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้สั่งค่ะ ขอมาถ่ายรูปให้ดูราคากันเฉยๆแต่ถ้าใครสายดื่ม ที่นี่เค้ามีบาร์ด้วยนะคะ มีเมนูเก๋ๆ น่าลองเพียบเลยแหละต่อไปมาดูเมนูอาหารกันบ้างค่ะ มีรูปประกอบบ้างในบางเมนูนะคะ ทำได้สวยงามน่าชมค่ะ เนื่องจากเราไปถึงเร็ว ระหว่างนั่งรอ น้องก็นำเวลคัมดริ๊งค์มาให้ค่ะ เป็นแก้วเล็กๆ น่ารัก เป็นน้ำที่ผสมจากน้ำส้ม ส้มโอและแอปเปิ้ล ไม่มีแอลกอฮอล์ โดยแขกทุกคนจะได้รับเครื่องดื่มตัวนี้บริการให้ฟรีค่ะ (น้องคนนี้หละค่ะที่ให้ข้อมูลดี เสียดายว่าไม่ได้มาเป็นคนเสิร์ฟโต๊ะเราตลอดอ้ะ แต่ก็ได้แอบฟังข้อมูลบางตัวตอนน้องไปเสิร์ฟที่อีกโต๊ะนะคะ 555)พอเพื่อนมาก็เริ่มเสิร์ฟเมนุแรกค่ะ ปลาแห้งแตงอุลิตในกระทงนิลนะคะ โดยทางพนักงานแนะนำให้กินพร้อมกันทั้งหมดรวมทั้งกลีบบัวด้วย เพราะที่นี่ใช้กลีบบัวออร์แกนิคค่ะ กินได้อย่างปลอดภัยนะคะเครื่องดื่มในดีลค่ะจิงเจอร์รัล กับ ไทยฮิโต้ (เรากับเพื่อนเลือกให้ไม่เหมือนกันค่ะ จะได้ชิมกันทั้งสองอย่าง)เราเป็นจิงเจอร์รัล ซึ่งมันก็คือน้ำขิงเย็นนั่นเองค่ะ 5555 รสชาติแปลกดีค่ะ ปกติจะชินกับน้ำขิงร้อนมากกว่าส่วนไทยฮิโต้ของเพื่อน ออกแนวเหมือนต้มยำน้ำใสแต่มาเป็นเครื่องดื่ม (เพียงแต่ไม่เผ็ด) มีทั้งข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดกันเลย แปลกอีกเช่นกันค่ะจากนั้นเมนูแรกก็มา แต่ไม่ได้อยู่ในดีลนะคะ 5555555555555 อันนี้สั่งเพิ่มเพราะอยากกินค่ะ มื้อนี้เราชวนเพื่อนที่กินเก่งมากคนหนึ่งไป และไม่เคยยั่นกับการสั่งอาหารใดๆ เพิ่ม นางกินได้หมดจริงๆ เลยสั่งเพิ่มกันรัวๆ ค่ะขนมเบื้องแย้มโอษฐ์ 390++เมนูนี้เดิมเป็นเครื่องว่างชื่อ "ขนมเบื้องอ้าปาก" ตำรับสายสกุลพนมวันค่ะ แป้งขนมเบื้องบางกรอบมาก ตัวไส้ทำจากเนื้อกุ้งสับ มันกุ้ง และเนื้อปูทะเลนึ่ง หอมกลิ่นถั่ว มะพร้าว ผักชี และใบมะกรูด กินเปล่าๆ ก็อร่อย แต่พอกินกับน้ำจิ้มอาจาดรสเปรี้ยวหวานก็ช่วยเพิ่มรสชาติไปอีกแบบค่ะ เมนูนี้อร่อยหละจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ดีลอีกครั้งค่ะ กับเซ็ตเมนูบ้านสุริยาศัย มาในแพ็คเก็จตามนี้เลยค่ะเซ็ตเมนูบ้านสุริยาศัยตามในดีล มีดังนี้นะคะ- น้ำพริกขยำปูทะเล- ไข่พะโล้ตานี- แกงส้มปักษ์ใต้ หมูกรอบหรือกุ้ง- หมี่กรอบ- ข้าวสองสีมาไล่กันทีละเมนูเลยนะคะแกงส้มปักษ์ใต้ หมูกรอบหรือกุ้ง เรากับเพื่อนสั่งอย่างละหนึ่งเลยค่ะตัวนี้ในเมนูบอกว่าเป็น แกงส้มปักษ์ใต้คุณชายถนัดศรี ซึ่งการใส่หมูกรอบนี่ มาจากความบังเอิญที่พนักงานทำหมูกรอบตกลงไปในชามแกงส้มของหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ พอได้กินแล้วก็เข้ากัน ก็เลยเอามาทำค่ะ ซึ่งขอบอกว่า แกงส้มดุเด็ดเผ็ดจี๊ดมากกกกก (ดูสีน้ำแกงก็น่าจะรู้นะคะนี่) ราวกับกินที่ใต้เลยค่ะ สุดมากกกกก เพื่อนเราที่กินเผ็ดไม่เก่ง นางถึงกับไม่ไหว 5555 แล้วของเราที่เป็นกุ้ง ก็มีน้ำแกงอุ้มอยู่ในตัวกุ้งนะคะ รสจัดจ้านกว่าของหมูกรอบอีก แถมเนื้อกุ้งก็ไม่แข็ง ดี๊ดี ชอบมาก โดนมากค่ะ อร่อยยยยยย ต่อไปค่ะกับ หมี่กรอบชาววัง หมี่กรอบตำรับการทอดของหม่อมหลวงเนื่อง มีวัตถุดิบที่สำคัญคือ มะขามเปียก น้ำมะนาว น้ำตาลปีบ และโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของส้มซ่าเป็นหลัก ใช้เครื่องสดแบบจานต่อจาน ตัวนี้มีมะนาวแยกออกมาต่างหากด้วยนะคะ เพิ่มรสชาติเปรี้ยว เราชอบเทกซเจอร์ที่ซอฟท์กว่านี้อีกนิดค่ะ (ไม่ใช่นิ่มนะ แต่เวลาเคี้ยวชอบให้ไม่แข็งง่ะ บอกไงดี นุ่มๆ อะค่ะ) แต่รสชาติดีอยู่ค่ะ ต่อด้วยน้ำพริกขยำปูทะเลค่ะมันก็คือน้ำชุบหยำของใต้นะคะ แต่เปลี่ยนจากกุ้งเป็นเนื้อปูและไข่ปูค่ะ ในเมนูบอกว่าแนมกับเนื้อทอดและผักสด แต่ในเซ็ตดีลเป็นหมูแทนเนื้อนะคะ ตัวรสชาติ ไม่ได้จัดจ้านมากค่ะ ตอนกินแกงส้มมันจัดมาก เลยคาดหวังว่าเมนูนี้จะจัดจ้านด้วย แต่กลับไม่แฮะ ตัวหมูแดดเดียวอร่อยดีค่ะ ตัวเนื้อหมูน่าจะเป็นส่วนที่ค่อนข้างแข็งไปหน่อยค่ะ ถ้าได้ส่วนนิ่มกว่านี้อีกนิดจะฟินยิ่งกว่านี้ (ป้าฟันฟางไม่ค่อยดีแล้วน่ะนะป้านะ)ต่อไปค่ะ ไข่พะโล้ตานี รสน้ำของไข่พะโล้ดีนะคะ เป็นไข่พะโล้แบบไทยที่ใช้การเคี่ยวน้ำตาลโดยไม่ใส่เครื่องยาจีนค่ะ ซึ่งเราชอบไข่พะโล้แบบนี้หละ มันจะหวานหอมๆ อ่อนๆ แบบที่เราชอบเลยยยยแต่เราเคยกินเจ้าไหนหว่า เขาเคี่ยวไข่ให้ตัวข้างนอกหนึบๆ ด้วยค่ะ แล้วข้างในยังมีความเป็นตานีเยิ้มๆ ได้ด้วยหละ อันนั้นสุดมากหลังจากเซ็ตอาหารแล้ว พอกินอิ่ม ทางพนักงานก็มาบริการเครื่องดื่มคั่นค่ะ จำส่วนผสมไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าดื่มแล้วสดชื่นดีค่ะต่อไปเป็นเครื่องหวานในเซ็ตค่ะ เป็นกัทลีจำศีลกัทลีจำศีลเป็นกล้วยน้ำว้าตุ๋นที่ได้ตำรับจากห้องพระเครื่องต้นในรัชกาลที่ 7 ราดด้วยครีมสด ตัดรสด้วยน้ำหวานดอกกระเจี๊ยบแดงตัวกล้วยมีรสเฝื่อนๆ ค่ะ แล้วเราไม่คุ้นกับน้ำหวานดอกกระเจี๊ยบแดงเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าไม่คุ้นลิ้นเท่าไหร่ แต่พรีเซนต์เตชั่นชนะเลิศมาก งดงามมาก ตอนเอามาวางนี่กรี๊ดกันกับเพื่อนสองคน งามมมมมม แต่ที่เด็ดมากก็คือตัวกลีบลำดวนที่วางแนมมาข้างๆ นี่แหละค่ะ ไม่ได้กินกลีบลำดวนแบบนี้มานานมากกกกกกแล้ว เทกซเจอร์ดี (ไม่ร่วนเกิน ไม่แข็ง ไม่ยวบนิ่ม) หอมกรุ่นกลิ่น รสชาติก็กำลังดีมาก อร่อยสุดๆ ค่ะ เลยกลายเป็นตัวประกอบแย่งซีนตัวเอกไปค่ะเมนูนี้ 55555ต่อไปเป็นขนมที่สั่งเพิ่มนอกเหนือจากดีลแล้วนะคะเมฆาสุริยาศัย 250++เป็นไอศกรีมกะทิสด มะม่วงพระมหาชนกที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน รังนกนางแอ่น ลูกชิ้นไพลิน และมะตูมเชื่อม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตำรับของบ้านสุริยาศัยนะคะรสชาติ...อืมม์..ก็โอเคค่ะ แต่ไม่ได้ว้าวมาก ไอศกรีมอร่อย รสของเครื่องเคียงก็หลากหลายดี แต่ไม่ถึงกับว้าวอะค่ะขนมหวานอย่างสุดท้ายที่สั่งมาเพิ่มค่ะมัทนาลงสรง 190++ เมนูนี้ทำจากวัตถุดิบสามชนิดค่ะ ได้แก่ ลิ้นจี่สอดไส้ราสพ์เบอร์รี่ และน้ำกุหลาบเปอร์เซีย โดยในเมนูบอกว่าราวมนต์เสน่ห์ของนางมัทนาที่มีกลิ่นกายราวกลิ่นกุหลาบในเรื่องมัทนะพาธา (พระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖) นะคะ บางคนน่าจะเคยได้ยินบทกลอน "โอ้โอ๋กระไรเลย บ่มิเคย ณ ก่อนกาล พอเห็นก็ซาบซ่าน ฤดีรักบ่หักหาย" นั่นแหละค่ะตัวนี้จะเน้นความหอมหวานจริงๆ ค่ะ กินแล้วสดชื่นดี แต่ก็ยังไม่ว้าวอีกหละค่ะเราว่าร้านนี้เด่นเรื่องของคาว ของหวานนี่พรีเซนต์สวยงาม แต่รสชาติยังไม่ค่อยโดนนะคะ นี่เพื่อนยังบอกว่า รู้งี้เอาโควต้าแคลอรี่ไปสั่งหมูกรอบดีกว่า 555ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่สั่งกันไปเพิ่มกับคาว 1 หวาน 2 และน้ำเปล่า 1 ค่ะ ราคาเท่ากับทั้งดีลที่ซื้อมาหนึ่งดีลกันเลยทีเดียว ถึงบอกว่าดีลนี้คุ้มมากจริงๆก่อนกลับก็ไปสำรวจห้องน้ำค่ะ สะอาดเรียบร้อยดีนะคะสรุปสำหรับร้านนี้นะคะ เราชอบการบริการ บรรยากาศ และอาหารคาวของเขามาก มันมีสตอรี่ แล้วรสชาติก็ดีมากค่ะ โดยรวมแล้วดีหมดเลย ยกเว้นของหวาน 55555 ซึ่งเสียดายเหมือนกัน เพราะถ้าของหวานดีอีกอย่าง ร้านนี้จะเป็นร้านที่เพอร์เฝคมากสำหรับเราหละค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม รอบตุลานี้ถ้ามีขาย แล้วมีเมนูน่าสนใจ (ที่ไม่ซ้ำเดิม อยากให้ทำมาหลายๆ เซ็ตหน่อย ไปกับเพื่อนจะได้กินไม่ต้องเหมือนกันง่ะ) และไม่หมดงบไปกับร้านอื่นซะก่อน 5555 ก็จะเป็นอีกร้านที่จะสอยหละค่ะ continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)