Read full review
2013-09-27
15 views
กิจกรรมดีๆจาก Openrice “ก๊วนชวนกิน” ครั้งที่ 18 อ๊ะๆ ใครที่แวะมาอ่านอาจยังงงๆ Openrice เป็นเว็บไซด์รวบรวมข้อมูลและแนะนำร้านอาหารค่ะ ซึ่งก็มีกิจกรรมชวนเพื่อนๆนักรีวิวมาเจอะเจอและเฮฮาปาร์ตี้กันเป็นระยะๆ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 18 แล้ว พวกเรามากันที่ร้าน “ชาบู ชาบู นางใน” สาขา เอกมัย 12 ค่ะผึ้งน้อยเดินทางโดย BTS มาลงที่สถานีเอกมัย ออกทางออกที่ 1 จากนั้นต้องต่อแท๊กซี่อีกทีค่ะเพราะร้านเป้าหมายอยู่ในซอย 12 ซึ่งค่อนข้างไกลจากปากทางพอสมควร เดินไม่ไหวค่ะเลี้ยวขวาเข้าซอย 12 มาเรื่อยๆ (จุดสังเกตุคือ ซอย 12 จะอยู่ตรงแยกไฟแดงพอดีค่ะ) เข้าซอยมาช่วงแรกๆอาจยังไม่ค่อยเห็นร้านอะไรเท่าไหร่ จนมาผ่านร้าน Coffee Bean ตามด้วย V
ผึ้งน้อยเดินทางโดย BTS มาลงที่สถานีเอกมัย ออกทางออกที่ 1 จากนั้นต้องต่อแท๊กซี่อีกทีค่ะเพราะร้านเป้าหมายอยู่ในซอย 12 ซึ่งค่อนข้างไกลจากปากทางพอสมควร เดินไม่ไหวค่ะ
เลี้ยวขวาเข้าซอย 12 มาเรื่อยๆ (จุดสังเกตุคือ ซอย 12 จะอยู่ตรงแยกไฟแดงพอดีค่ะ) เข้าซอยมาช่วงแรกๆอาจยังไม่ค่อยเห็นร้านอะไรเท่าไหร่ จนมาผ่านร้าน Coffee Bean ตามด้วย Vanilla Garden ที่อยู่ทางซ้ายมือแล้วให้มองทางขวาเลยค่ะ จะเห็นป้ายไฟของร้าน “ชาบู ชาบู นางใน” บอกทางอยู่หน้าซอยเล็กๆลักษณะเป็นบ้านที่ดัดแปลงมาเป็นร้าน ดูเหมือนจะมี 2 ชั้น แต่ผึ้งน้อยและชาวก๊วนทานกันที่ชั้นล่างไม่ได้ขึ้นไปดูค่ะ
วันนี้มากันกลุ่มสิบกว่าคน พาลเอาร้านเค้าแออัดไปเลย หม้อชาบู....พร้อม 4 คนต่อ 1 หม้อ ลงตัว
วันนี้ทานกันแบบบุฟเฟต์ หัวละ 349 บาท (ไม่รวมของหวานและเครื่องดื่ม) ค่ะ
มีซุปแบบเดียวนะคะ เป็นน้ำซุปใสๆ น้ำจิ้ม....พร้อม เห็นมีน้ำจิ้มและเครื่องเติมมากมายหลายอย่างเลยค่ะ แต่ผึ้งน้อยขอแบบง่ายๆก็พอ
เติมกระเทียมกับต้นหอมซอย แค่นี้ก็ฟินแล้วสำหรับผึ้งน้อยโอมจงลง ...อาหารมาลงแล้วค่ะ
เริ่มจากผักๆๆๆ เพื่อสุขภาพ
แต่ดูเหมือนไปๆมาๆพวกเราจะเน้นเนื้อๆกันซะมากกว่าตามมาด้วย
เนื้อหมูสันนอก
เนื้อหมูสันคอ
เนื้อหมูสามชั้น จากบนลงล่างตามลำดับเลยแต่ละอย่างจุ่มมาแล้วนุ่มไม่แพ้กัน
แต่ถ้าจะเอาแบบที่ทานแล้วรู้สึกว่าลงตัวที่สุดก็ขอยกให้ เนื้อหมูสันคอ ชนะเลิศ
เพราะปริมาณมันและเนื้อใน 1 คำสมดุลที่สุดค่ะ
ถัดมาที่เนื้อ (ผึ้งน้อยชอบเนื้อมากกว่าหมู แต่เนื้อมีแบบเดียวค่ะ)
เนื้อวัว
เป็นเนื้อล้วนๆที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีมันเลย
ดูเผินๆเหมือนน่าจะเหนียว แต่แท้จริงแล้ว....นุ่มซะจนทานเพลินเลย ตับหมู
ผึ้งน้อยชอบตรงที่เค้าหั่นมาเป็นชิ้นหนาๆ ลวกแล้วอยู่ในความสุกระดับกลางๆ
ได้เนื้อสัมผัสนุ่มๆ และคงรสหวานไว้ได้อย่างครบถ้วน กุ้ง
จากหน้าตาแล้ว ไม่ใช่กุ้งเด้งๆกรอบๆ แต่เป็นกุ้งสดที่ดูดีที่เดียวเชียวค่ะ
เสียดายที่โยนลงน้ำนานไปหน่อยเลยสุกเกิน แหะๆๆเกี๊ยวกุ้ง และสารพัดลูกชิ้น
จานนี้ยกให้เกี๊ยวกุ้งกับลูกชิ้นกุ้งเป็นพระเอกค่ะ อร่อยมากๆ จัดเป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดหากมาเยือนค่ะเกี๊ยวกุ้งมาตัวใหญ่ๆเลย ข้างในเป็นกุ้งสับ ใส้เยอะสะใจ
ลูกชิ้นกุ้ง ไม่แป้ง หนึบๆได้รสชาด
ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา และอื่นๆ...ว่ากันตามตรงคือสู้เกี๊ยวกุ้งกับลูกชิ้นกุ้งไม่ได้ เลยแอบเฉยๆค่ะ
แอบเบนเข็มไปทานของหวานซักหน่อย (ไม่รวมในบุฟเฟต์)
เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน
สละลอยแก้ว
ไอศครีมเชอร์เบทในลูกสับปะรดเต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน
จัดใส่ถ้วยมาได้อย่างสวยน่ารักน่าทาน
โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าแช่มาเย็นๆจะอร่อยมากเลย ^^
สละลอยแก้ว
หวานๆเย็นๆ ถ้วยนี้ทานแล้วชื่นใจ มีแรงกลับไปทานชาบูต่อได้อีก ^^
ไอศครีมเชอร์เบทในลูกสับปะรด
ใส่มาในลูกสับปะรดจริงๆ ดูทรอปิคอลมากๆ
มีเนื้อสับปะรดในเนื้อไอศครีมด้วย แอบเสียดายเชอร์เบทละลายเร็วไปนิด
โดยรวมแล้วก็เป็นของหวานที่เวิร์คทั้ง 3 อย่างค่ะ
ว่ากันที่บทสรุปซักเล็กน้อย
บรรยากาศ – ด้วยเป็นร้านเล็กๆ แง่ดีคือดูอบอุ่นเหมือนบ้าน แต่ถ้าลูกค้าเยอะก็จะกลายเป็นแออัดไปได้เหมือนกัน ในร้านดูโล่งๆ ไฟสว่าง เหมาะนั่งทานกันเป็นครอบครัว ที่สำคัญคือเป็นบุฟเฟต์แบบไม่จำกัดเวลา ดังนั้นก็นั่งทานนั่งคุยได้อย่างสบายๆ
การบริการ – เรื่องเติมน้ำดื่มเติมน้ำซุปนี่ไม่มีขาดตกบกพร่อง อาหารก็รวดเร็ว เสียดายลูกชิ้นกุ้งหมดเร็วไปหน่อย (เหมือนจะไม่เกี่ยวกับประเด็นการบริการ) เจ้าของร้านก็มาดูแลลูกค้าเอง ดูเป็นกันเองดีค่ะ
รสชาดอาหารและความคุ้มค่า – แม้เนื้อสัตว์จะไม่หลายหลายเท่าหลายๆร้าน แต่ก็นุ่มนวลทั้งเนื้อหมูและเนื้อว้ว วัตถุดิบสดใหม่ มีน้ำจิ้มและเครื่องให้เลือกหลากหลายตามชอบ และด้วยจุดเด่นของทางร้านคือการทานไม่จำกัดเวลานั้น ก็เป็นอะไรที่ดึงดูดมากจริงๆ
Post