Read full review
2013-01-26
137 views
สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนานมาก ต้องรื้อฟื้นอะไรหลายอย่างเลยค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยนะคะ ฮ่าๆ เนื่องจากได้รับการเชิญชวนจากเพื่อนสาวคนสนิทไปทานอาหารจีนเพื่อทำการให้คะแนนหัวข้อ Best Restaurant ของนิตยสารเล่มหนึ่ง และร้านที่เป็นจุดหมายของเราในวันนี้ก็คือ Mei Jiang (เหม่ยเจียง) ค่ะห้องอาหารเหม่ยเจียงอยู่ที่โรงแรมเพนินซูลา ถนนเจริญนครค่ะ (ไม่ใช่เจริญกรุงนะคะ) จากล็อบบี้ต้องเดินลงไปชั้นล่างก็จะพบห้องอาหารเลยค่ะ ภายในตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นอย่างสีขาวและน้ำตาล มีโต๊ะอาหารพอสมควรค่ะ มีตั้งแต่สี่ท่าน หกท่าน หรือต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีห้องไพรเวทให้ค่ะภาพด้านบนซ้ายเป็นชารสชาติพิเศษหลายชนิดให้เลือกค่
สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนานมาก ต้องรื้อฟื้นอะไรหลายอย่างเลยค่ะ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยนะคะ ฮ่าๆ เนื่องจากได้รับการเชิญชวนจากเพื่อนสาวคนสนิทไปทานอาหารจีนเพื่อทำการให้คะแนนหัวข้อ Best Restaurant ของนิตยสารเล่มหนึ่ง และร้านที่เป็นจุดหมายของเราในวันนี้ก็คือ Mei Jiang (เหม่ยเจียง) ค่ะ
ห้องอาหารเหม่ยเจียงอยู่ที่โรงแรมเพนินซูลา ถนนเจริญนครค่ะ (ไม่ใช่เจริญกรุงนะคะ) จากล็อบบี้ต้องเดินลงไปชั้นล่างก็จะพบห้องอาหารเลยค่ะ ภายในตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นอย่างสีขาวและน้ำตาล มีโต๊ะอาหารพอสมควรค่ะ มีตั้งแต่สี่ท่าน หกท่าน หรือต้องการความเป็นส่วนตัวก็มีห้องไพรเวทให้ค่ะ ภาพด้านบนซ้ายเป็นชารสชาติพิเศษหลายชนิดให้เลือกค่ะ พนักงานจะนำใบชามาใส่ถ้วยใบเล็กที่มีฝาปิด เติมน้ำร้อนก่อนจะเทน้ำชาใส่ถ้วยดื่มให้ ภาพด้านบนขวาเป็นป้ายหน้าร้านค่ะ ส่วนภาพล่างเป็นบรรยากาศภายในร้าน ภาพด้านบนซ้ายเป็นชาพิเศษกลิ่นลิ้นจี่ค่ะ ชาร้อนหอมกรุ่นกลิ่นลิ้นจี่บางๆ รสชาติก็ไม่จัดจ้านแต่กลมกล่อมกำลังดี ภาพด้านบนขวาเป็นชาร้อนธรรมดา แต่ก็หอมเอาเรื่องนะคะ จิบเพลินๆ เหมือนกัน ภาพด้านล่างเป็นอาหารทานเล่นทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์เคลือบงา รสหวาน กรอบ หยิบเคี้ยวเพลินเผลอแป๊บเดียวหมดจานค่ะ ภาพบนเป็นโต๊ะอาหารของเราค่ะ อุปกรณ์เตรียมพร้อมมีทั้งช้อนส้อม ตะเกียบ ภาพด้านล่างซ้ายเป็นน้ำจิ้ม หลุมด้านซ้ายจะออกเค็มแต่ไม่มาก หลุมด้านขวาคล้ายๆน้ำพริกเผาไทยค่ะ แต่รสชาติเผ็ดนำเลย ทานไม่ไหว ส่วนภาพด้านล่างขวาเป็น Complimentary จากเชฟค่ะ ประมาณว่า "อ่ะ ลองชิมดูหน่อยอร่อยมั๊ย" ฮ่าๆๆ พนักงานบอกว่าเป็นเนื้อกุ้งผสมเนื้อหอยเชลล์ประกบด้วยสาหร่ายแล้วทอด รสสัมผัสของจานนี้ข้างนอกจะกรอบนิดๆ คือไ่ม่ถึงกับกัดแล้วเสียงดัง "กร๊อบ!" นะคะ แต่คือจะหนา เนื้อภายในจะหยุ่นๆ ดึ๋งๆ ในปาก ซอสที่ราดมาออกรสเปรี้ยวกำลังดี อร่อยค่ะ ภาพด้านบนเป็นออร์เดิร์ฟค่ะ เรียกว่า เมี่ยงทะเลห่อผักกาดแก้ว ผักกาดแก้วสดกรอบทานแล้วสดชื่นมาก ส่วนอีกชามด้านข้างเป็นการผัดรวมกันของเนื้อกุ้ง หอยเชลล์ ปลาหมึก โรยงาและต้นหอม เวลาทานก็ตักใส่ผักกาด ราดซอสซึ่งเป็นซอสเดียวกันกับที่ใช้ทานคู่กับเป็ดปักกิ่งค่ะ รสออกหวาน ห่อเป็นคำแล้วทานได้เลย ความสดของผักรวมกันกับซีฟู้ดที่ผัดเข้ากันได้อย่างลงตัวมาก อร่อยจริงๆค่ะ ส่วนภาพด้านล่างเป็นซุปค่ะ ขนาดแบ่งครึ่งจากเมนู เรียกว่า "ซุปกังป๋วยกับกระเพาะปลาสด" อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ว่าตรงไหนคือกังป๋วย ตรงไหนคือกระเพาะปลา ฮ่าๆๆ แต่เดาว่าเส้นๆ นี่น่าจะเป็นกระเพาะปลาค่ะ โดยปกติแล้วเราจะไม่กินกระเพาะปลาเลย ตอนยังไม่เห็นจานนี่นึกภาพไว้แล้วว่าต้องมาเป็นก้อนๆ แบบทั่วไปแน่ แต่พอเสิร์ฟก็ โอ้ ประหลาดใจ ทานได้สะดวกมาก ไม่คาวเลยค่ะ แต่ซุปออกเค็มไปหน่อย ต้องโรยพริกไทยตัดเลี่ยน จานนี้ก็ล้ำเลิศมากค่ะ เป็ดปักกิ่งเสิร์ฟแบบครึ่งตัวสำหรับสองคน หนังเป็ดที่หอมกลิ่นรมควันแล่บางๆ มีเนื้อเป็ดนุ่มๆ ที่แล่มาไม่หนาไม่บางเกินไปวางประกบอยู่ นำแผ่นแป้งที่บางกำลังดีมาวางตามด้วยหนังและเนื้อเป็ด แตงกวา ต้นหอม ก่อนจะราดซอสรสหวานแล้วห่อนำเข้าปาก อืมมมมม มันช่างกลมกล่อมอะไรเช่นนี้ อร่อยมากเลยค่ะ สามจานนี้เป็นจานหลักค่ะ จานแรกเรียกว่า "ข้าวผัดสไตล์เหม่ยเจียง" ข้าวผัดกับเนื้อกุ้ง หอยเชลล์ เนื้อเป็ด เพิ่มความแปลกด้วยการผัดไข่เค็มซึ่งใช้เฉพาะไข่แดงลงไปด้วย แต่โดยรวมรสชาติออกจืดค่ะ คงเป็นข้าวผัดสไตล์อาหารจีนที่รสชาติจะไม่จัดจ้านเท่าไร จานด้านข้างเรียกว่า "กุ้งผัดซอสพอร์ตไวน์" (ไม่แน่ใจชื่อนะคะ ลืมถ่ายเมนูหน้านี้มา แฮะๆ) เนื้อกุ้งด้านนอกจะกรอบนิดๆ เนื้อในจะหยุ่นๆ หวานๆ ซอสที่ผัดจะหอมกลิ่นไวน์และรสชาติออกหวานเช่นกัน กุ้งขนาดใหญ่เหมือนกันค่ะ ส่วนจานล่างอันนี้เด็ดจริงๆ เป็นเหตุผลที่ทำให้อยากกลับไปทานอีก เรียกว่า "เนื้อสันในผัดซอสพริกไทยดำ" เนื้อวัวส่วนสันในนิ่มมากๆๆ กัดปุ๊บฟันกระทบกันปั๊บ ไม่เหนียวหนืด ไม่สาบเนื้อ และซอสพริกไทยดำที่ผัดก็เข้มข้นและเผ็ดร้อนเล็กๆ ซัดเรียบเลยค่ะจานนี้ อร่อยลืมไม่ลงจริงๆ ส่วนเมนูของหวานนะคะ จานบนอันนี้ก็แนะนำมากๆ ค่ะ "สาคูและส้มโอเย็นในครีมมะม่วง" ครีมมะม่วงหอมหวานกำลังดี เม็ดสาคูนิ่มๆ มีเนื้อส้มโอและเนื้อมะม่วงสุกหั่นเป็นลูกเต๋า ซดเพลินเลยค่ะ อร่อยติดใจมากเพราะไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน และน่าจะมีที่ห้องอาหารนี้ที่เดียว ต่อมาขอเป็นภาพด้านล่างขวาก่อนนะคะ เรียกว่า "อัลมอนด์ครีมไข่ขาว" เห็นแล้วนึกถึงบัวลอยไข่หวานยังไงยังงั้น ครีมออกหวานแทรกไข่ขาวสุกอยู่ภายใน มีอัลมอนด์ลวกแผ่นบางๆ ลอยอยู่ในถ้วย ก็เป็นเมนูที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเช่นกันค่ะ ส่วนภาพด้านซ้ายเป็น Complimentary จากเชฟค่ะ แป้งทอดโรยงาภายในเป็นไส้ลูกบัว เนื้อแป้งหยุ่นๆ นิ่มๆ ไส้ลูกบัวหวานกำลังดีค่ะ ส่วนอีกอันเป็นคุ๊กกี้แบบจีน หวานน้อย ตัวแป้งไม่ร่อน เนื้อแน่นดีค่ะ
จบพาร์ทอาหารไปแล้วนะคะ จะขอรีวิวถึงการบริการบ้าง พนักงานทุกคนที่นี่บริการดีมากค่ะ เป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใสเอาใจใส่ ตั้งแต่พนักงานรับออเดอร์ที่สามารถแนะนำได้ดี คำนวณปริมาณและเตือนเราได้ด้วยเพราะเห็นว่าจะสั่งเยอะเกินไป ฮ่าๆๆ พนักงานเสิร์ฟที่จะคอยรินน้ำชาให้ตลอด และถามไถ่ถึงรสชาติอาหาร ประทับใจการบริการมากค่ะ ส่วนการเสิร์ฟจานแรกๆ จะเร็ว แต่ช่วงจานหลักแอบช้านิดนึง แต่โดยรวมก็ยังถือว่าบริการดีค่ะ
ราคาค่าอาหารทั้งหมดอยู่ในประมาณ 4400 บาทค่ะ แต่เพื่อนมีเวาเชอร์จึงไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไทยแลนด์เบสท์เรสเตอรองต์ เพราะฉะนั้นเรามารอดูกันนะคะว่า เหม่ยเจียงจะได้รับรางวัลไทยแลนด์เบสท์เรสเตอรองต์ปีนี้ได้อีกปีหรือไม่
ขอบคุณที่รับชมรีวิวนะคะ สวัสดีค่ะ
Post